Vampire Heart

9.3

เขียนโดย BlueberuS

วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 00.33 น.

  6 บท
  11 วิจารณ์
  15.31K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2560 16.15 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ข้อตกลง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 4
ข้อตกลง

 

“ในเมื่อเธอยืนยันคำเดิม ฉันก็จะช่วย…แต่ถ้าฉันช่วยเธอไว้คราวนี้ฉันคงปล่อยเธอไปไม่ได้” เบลนด์เนสอธิบายบางอย่างที่ทำให้เมลโล่ว์ข้องใจ
“...หมายความว่ายังไง?” เธอถามกลับด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“มีหลายเหตุผลที่ฉันจะปล่อยเธอกลับบ้านไม่ได้ เอาเป็นว่าเธอรู้แค่ตัวเองติดหนี้บุญคุณฉันก็พอ...และเธอจะต้องตอบแทนฉัน”
“ตอบแทน? ...ก็เห็นอยู่นี่นาว่าฉันไม่มีอะไรจะตอบแทนนายได้” เมลโล่ว์ขมวดคิ้วเล็กน้อยและจ้องมองเขาไม่วางตา
“หึๆ ...มีสิ ในตัวเธอมีสิ่งที่จะตอบแทนฉันได้อยู่แล้ว” เขาแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อยหลังพูดจบ
“อึก...” เมลโล่ว์ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อรู้ความหมายของคำพูดนั้น เขาต้องการเลือดของเธอ...มันยิ่งกระตุ้นโทสะมากยิ่งขึ้น
“ไม่มีทาง!!! ฉันไม่ยอมเด็ดขาด...พวกแวมไพร์อย่างแกนั่นแหละที่ช่วงชิงมันไป และที่ทำให้ฉันต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้ก็เพราะพวกแก อย่าหวังว่าฉันจะยอมให้ได้มันไปอีกเลย” เมลโล่ว์ตะหวาดใส่เขาพลางกัดฟังแน่นด้วยความโกรธแค้น
“.....” เบลนด์เนสไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาจ้องมองเธอด้วยสายชาเย็นชาเช่นเดิมก่อนที่จะลุกจากโซฟาแล้วเดินตรงมายังเตียงนอนที่เมลโล่ว์ถูกล่ามโซ่เอาไว้
“เธออาจจะลืมไปว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะต่อรองได้...”

หมับ!

ร่างสูงคว้าใบหน้าของเธอด้วยมือข้างเดียวพร้อมทั้งออกแรงบีบให้เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตาก่อนที่จะพูดต่อ
“เธออยู่ในเขตแดนของฉัน และอย่าลืมว่าเธอเป็นคนขอให้ฉันช่วยเอง ในเมื่อไม่ตกลงตามเงื่อนไขของฉันก็อย่าหวังว่าฉันจะช่วยอะไรอีก...” สัมผัสเย็นชืดจากฝ่ามือแกร่งและนัยน์ตาที่แฝงไปด้วยความดุดันจากเขาข่มขวัญของเธอได้ไม่น้อย และเขายังคงกระซิบต่อไปเรื่อยๆกระทั่งเธอฝืนทนที่จะฟัง
“ฉันจะปล่อยเธอเอาไว้แบบนี้ ให้ค่อยๆกลางร่างและเมื่อเธอกลายเป็นแวมไพร์เลือดผสมเธอจะไม่ต่างอะไรจากพวกปีศาจชั้นต่ำ ไม่มีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตัวเอง และฉันจะส่งเธอลงไปใต้ดิน ให้อยู่ที่นั่นวันแล้ววันเล่าคืนแล้วคืนเล่ากระทั่งหลงลืมว่าตนเคยเป็นมนุษย์ คอยกินเศษเลือดและเนื้อที่พวกเราโยนลงไปให้อย่างน่าอนาถ เธอคงไม่ต้องการแบบนั้นหรอกจริงไหม?”
“ฮึก...” ร่างบางในเงื้อมือของเขาได้แต่นั่งสั่นเทาและหลับตาแน่น เขาทำให้เธอตกอยู่ในภวังค์ของความกลัวได้อย่างง่ายดาย เมื่อไร้การต่อต้านใดๆแล้วเขาจึงผ่อนแรงที่มือลง
“ฉันมีทางเลือกให้แค่ทางเดียว ยอมตกลงซะ แล้วฉันจะช่วยเธอ”
“............” เมลโล่ว์ไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีก เธอพยักหน้ารับรู้หนึ่งครั้งมือแกร่งของเขาจึงคลายลง
“ทุกๆแปดชั่วโมงเธอต้องได้รับยาต้านการกลายสภาพ ฉันจะเป็นคนให้ยากับเธอเอง และระหว่างที่อยู่ที่นี่เธอมีหน้าที่มอบเลือดให้กับฉันทุกๆวัน สิ่งของเครื่องใช้รวมทั้งอาหารฉันจะจัดการให้ และอย่าคิดที่จะหนี...ที่นี่คือใจกลางของอาณาจักรแวมไพร์ ต่อให้หนีออกจากที่นี่ไปได้เธอก็ไปไม่รอดอยู่ดี” เบลนด์เนสกำชับให้เธอรู้แล้วเดินกลับมาหยิบเข็มฉีดยาที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ฉันคงเข้าใจผิดที่คิดว่านายเป็นคนดีมาตลอด” แววตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังนั้นไม่ได้ทำให้แวมไพร์หนุ่มรู้สึกผิดอะไร มีแต่จะทำให้เขาชอบใจมากขึ้นไปอีก
“เธอยังมีเวลาทำความเข้าใจใหม่อีกนาน จากนี้ไปเธอจะต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เพื่อเป็นอาหารให้กับฉันแลกกับการที่ฉันจะหาเมิร์กวูดสกัดมาให้เธอ...เงื่อนไขตกลงตามนี้” เพียงบทสนทนาสั้นๆง่ายๆ ข้อตกลงก็เป็นอันเสร็จสิ้นโดยไม่ต้องมีความเต็มใจเพราะเมลโล่ว์ไม่มีสิทธิ์จะโต้แย้งอะไรทั้งสิ้น เวลานี้ทำได้แค่ปล่อยให้เป็นไปตามความตั้งใจของอีกฝ่าย เมื่อเธอได้สิ่งที่ต้องการแล้ว
[ฉันมีโอกาสที่จะได้แก้แค้นมากขึ้น เป็นแบบนี้ก็คุ้มค่าพอที่จะยอมเสีย แต่ถ้าเป็นอย่างที่เขาบอกจริงๆ เราจะทนพิษของมันได้นานแค่ไหนกัน?...] เมลโล่ว์นึกหวั่นอยู่ในใจเมื่อเห็นว่าเบลนด์เนสกำลังไล่อากาศออกจากเข็มฉีดยา
“ทำไมตอนนั้นนายถึงช่วยฉันเอาไว้ล่ะ ทำไมไม่ฆ่าฉันหรือว่าจับกินเป็นอาหารเหมือนกับพวกปีศาจนั่น” เมลโล่ว์ถามย้อนถึงเหตุการณ์ในอดีตเพื่อกลบเกลื่อนความกังวลใจออกไป
“ฉันแปลกใจที่เธอยังจำฉันได้ มันเหมือนจะผ่านมานานมากถ้าเทียบกับช่วงเวลาของมนุษย์” เบลนด์เนสกล่าวแทนคำตอบ “แวมไพร์ก็มีกฎอยู่หลายอย่าง พวกเราใช่ว่าจะต้องฆ่ามนุษย์ทุกๆคน...ถ้าทำแบบนั้นโลกจะเสียสมดุล” เขาอธิบายพร้อมกับเดินตรงมาที่เมลโล่ว์อีกครั้งแล้วนั่งลงบนเตียงข้างๆเธอและถามกลับ “บอกฉันซิ คืนนั้นเธอจำอะไรเกี่ยวกับฉันได้บ้าง?” คำถามของเขาทำให้เมลโล่วนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เธอพยายามนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตคืนนั้นและประติดประต่อมันอยู่ในความคิดและมันทำให้เธอหงุดหงิดอยู่นิดหน่อยเพราะตัวเธอเองจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้น้อยเหลือเกิน เธอค่อยๆตอบทั้งที่ยังคิดไม่ตก
“ฉันจำได้ว่านายช่วยฉันจากปีศาจพวกนั้น แต่หลังจากคืนนั้นฉันก็ลืมไปหมดทุกอย่างแม้แต่ใบหน้าศพของแม่ฉันก็ยังลืม น่าแปลกอย่างที่นายว่า ฉันจำเรื่องราวในวันที่แม่ของฉันตายไม่ได้เลย แต่กลับจำเรื่องของนายได้ดี คงเป็นเพราะว่ามันเป็นวันที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตจนตัวฉันลบมันออกไปจากความทรงจำเองก็เป็นได้” เธอตอบด้วยสายตาเลื่อนลอย เบลนด์เนสได้ฟังสิ่งที่เธอเล่าแม้มันจะดูเศร้าแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกไปกับเธอด้วยเท่าไหร่ เขาเพียงแค่ถามเธอเพื่ออะไรบางอย่าง ก่อนที่จะหันมาให้ความสนใจกับเข็มฉีดยาในมือของตน
“ฉันจะฉีดเมิร์กวูดสกัดให้เธอ มันคงจะเจ็บอยู่พักใหญ่ อดทนหน่อยก็แล้วกัน” พูดจบเขาก็ปลดกระดุมที่คอสื้อของเธอออกแล้วเปิดคอเสื้อให้กว้างขึ้น หลอดเข็มฉีดยาถูกหยิบขึ้นมาไว้ในมืออีกข้างแล้วแตะปลายเข็มลงใกล้ๆกับรอยแผล “ว่าแต่ฉันยังไม่รู้จักชื่อเธอเลยเด็กน้อย?”
“ฉันชื่อเมลโล่ว์ อย่าเรียกฉันว่าเด็กน้อย...ฉันอายุ 19 แล้ว”
“หึๆ ...เธอคงรู้จักชื่อของฉันแล้วนะ” เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ สิ้นเสียงหัวเราะนั้นร่างบางก็สัมผัสได้ถึงปลายเข็มแหลมที่กำลังแทงเข้ามาในผิวหนังของเธอลึกลงไปอย่างช้าๆ
“อ๊ะ!” เธอเผลอร้องเพราะความเจ็บที่เกิดจากของเหลวสีม่วงในหลอดเข็มฉีดยาที่กำลังไหลเข้าสู่ร่างกายของเธอความรู้สึกจากเมิร์กวูดราวกับถูกน้ำกรดร้อนแผดเผาอยู่ภายใน เธอจิกเล็บลงกับพื้นที่นอนบนเตียงแล้วบีบเอาไว้แน่นจนผ้าปูที่นอนยับเป็นริ้ว
“อะไรกัน แค่นี้ก็ทนเจ็บไม่ได้แล้วหรอ นี่แค่เริ่มต้นเองนะ” เขาดึงเข็มออกทันทีที่ฉีดเมิร์กวูดเข้าไปจนหมดแล้ว
“...อะไรนะ?”
“ฉันลืมบอกไป...ร่างกายของเธอกลายสภาพไปส่วนหนึ่งแล้ว ฉีดเมิร์กวูดเข้าไปแบบนี้ก็เท่ากับเป็นการยับยั้งเฉียบพลัน จะเจ็บกว่าเดิมเป็นเท่าตัวเลยล่ะ” เขาตอบพร้อมกับรอยยิ้มราวกับชอบใจเมื่อเห็นเธอร้อนรน หลังจากได้ยินคำตอบนั้นไม่นานพิษของเมิร์กวูดที่อยู่ในร่างกายของเธอก็เริ่มออกฤทธิ์มากขึ้น ความรู้สึกเจ็บปวดนั้นแทรกซึมไปทุกอณูในร่างกาย
“อึก! ฉันรู้สึกเหมือนในตัวกำลังจะระเบิด...” ร่างบางเอนล้มตัวลงไปกับเตียงก่อนที่จะกรีดร้องออกมาจนสุดเสียง
“กรี๊ดดดดด!!!” เมื่อความเจ็บปวดเพิ่มมากยิ่งขึ้นเธอก็เริ่มดิ้นทุรนทุราย ข้อมือทั้งสองข้างออกแรงขืนทำให้ขรูดกับปลอกแขนที่ทำจากเหล็กเชื่อมกับโซ่เอาไว้จนเกิดแผลช้ำ กลิ่นเลือดจางๆกระตุ้นให้ฝ่ายตรงข้ามต้องอดกลั้น เขาจำต้องกดร่างของเธอไว้กับเตียงเพื่อไม่ให้เกิดแผลไปมากกว่า แต่ไม่นานเลือดส่วนหนึ่งในร่างกายของเธอที่กลายสภาพไปแล้วก็ได้ถูกขับออกมาจากทางปากเป็นจำนวนมาก
“เฮือก!!! แค่กๆๆ ...อีกนานแค่ไหน..” เมลโล่ว์พูดติดๆขัดๆสลับกับสำลักออกมาเป็นเลือด
“ใจเย็นๆน่า เลือดส่วนที่มันกลายสภาพไปแล้วกำลังถูกขับออก มันแค่ทำให้เธอเจ็บ...ไม่ตายหรอก” เขาพูดอย่างใจเย็นพลางจ้องมองร่างที่กำลังดิ้นพล่านและฟังเสียงกรีดร้องของเธอต่อไป แต่ภายในนั้นเขาเองก็ต้องอดกลั้นกับแรงกระหายในตัวด้วยเช่นกัน โลหิตสีแดงฉานที่ประดับอยู่บนใบหน้าของร่างบางค่อยๆไหลซึมลงไปบนพื้นเตียงส่งกลิ่นอันหอมหวานยั่วยวนอยู่ตลอดเวลา
“กรี๊ดดดดดด!!! แค่ก! แค่กๆ” เสียงกรีดร้องสลับกับเสียงไอสำลักเป็นระยะๆ เป็นเพราะเลือดในร่างกายถูกขับออกมาอยู่เรื่อยๆ ความเจ็บปวดภายในร่างกายราวกับถูกแผดเผายังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงง่ายๆ เพียงแต่ร่างกายของเธอเริ่มหมดแรงที่จะดิ้นรนลงทุกที
“ฉันทนต่ออีกไม่ไหวแล้ว ทำอะไรซักอย่างสิ!!!”
“มนุษย์ทั่วๆไปคงทนไม่ได้ตั้งแต่แรกที่ได้สัมผัสกับฤทธิ์ของมัน ฉันตั้งใจจะทำให้เธอหมดสติตั้งแต่ที่ฉีดมันเข้าไปแล้วล่ะ แต่อีกใจก็อยากรู้ว่าเธอจะทนได้นานแค่ไหน หึๆ”
“อะไรนะ...เห็นเป็นเรื่องสนุกหรอ?”
“หึๆๆ พรุ่งนี้เช้าเธอจะหายเป็นปกติ หลับให้เต็มที่ซะ...แค่คืนนี้เท่านั้นที่เธอจะได้ฝันดี” เขาพูดทิ้งท้ายก่อนจะใช้พลังบางอย่างในการกล่อมเกลาสติของเธอแล้วทำให้ดับลงได้ในเวลาสั้นๆเหมือนกับที่โรบัสเตียนเคยทำ
“...ขอต้อนรับสู่โลกของเรา” สิ้นเสียงของเขาไม่นานเมลโล่ว์ก็หลับไปโดยไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดจากฤทธิ์ของเมิร์กวูดอีกเลย เขาจดจ้องมองใบหน้ายามหลับใหลของเธออยู่พักใหญ่พลางไตร่ตรองสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
[ภาพลวงตาจากกำแพงเวทย์ของดินแดนเราทำอะไรเธอไม่ได้เลย...นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว ถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาคงหลงทางตั้งแต่ก้าวเข้ามาในป่าแล้วแท้ๆ แล้วก็ความทรงจำที่กลับมานั่น...คงจะปล่อยไปอีกไม่ได้แล้วล่ะสิ]
..............

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา