Darksiders :The Chaos Word
เขียนโดย ไีรโฮ
วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.44 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.49 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) Day 2 Mission 10
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความวายุและโซม่ายืนประจันหน้ากันท่ามกลางสถานที่ในบริเวณโดยรอบที่ถูกพลังโครนอสสองพลังหยุดเวลาไว้ เนื่องจากเวลาถูกหยุดไว้ทำให้บริเวณนั้นมีใบไม้ที่ค้างอยู่กลางอากาศ ใบไม้ที่กำลังจะปลิวไปตามสายลม
“ถ้าต้องการจะสู้ ฉันก็จะจัดให้ถือว่าทำตามสิ่งที่คนรักฉันต้องการ”โซม่ายกมือข้างซ้ายขึ้นแล้วมีออร่าสีม่วงมารวมกันที่มือ
‘พลังของซิลิธานเป็นพลังที่ค่อนข้างจะมากเลยทีเดียว วอร์ในตอนสงครามวันสิ้นโลกคราก่อนที่โดนสภาแห่งเพลิงยึดพลังไป ยังสู้ด้วยลำบากมาก เราที่ดึงพลังออกมาได้แค่ครึ่งหนึ่ง ซึ่งมันก็เท่าของวอร์ในตอนนั้น ถ้าทางจะยากละงานนี้’วายุเหงื่อตกออกมาเล็กน้อย
วายุจับอมาเกดอนเบลดมั่นแล้ววิ่งเข้าหาโซม่าอย่างรวดเร็ว ทันทีที่วายุก้าวเท้าพลังสีม่วงที่อยู่ในมือของโซม่าถูกฟาดมาทันที เป้ง!! วายุใช้อมาเกดอนเบลดรับพลังนั้นไว้ ทันทีที่ตัวพลังสัมผัสกับตัวของอมาเกดอนเบลด ขาของวายุเริ่มอ่อนแรงทันที
‘อึก!! พลังมันรุนแรงจริงๆ!!!”
‘ฉันจะใช้พลังเบาๆกับเธอละกันน่ะ วายุ’
วายุสร้างคาออสกันแล้วใช้มือซ้ายกระหน่ำยิงคาออสกันใส่โซม่าทันที แต่ทันทีที่กระสุนกำลังจะพุ่งเข้าถึงตัวโซม่า ร่างของโซม่าก็วาปหลบได้ในระยะสั้นๆตลอดทุกนัดที่ถูกยิงออกไป
‘บ้าน่า!!!!! นี้นะเหรอพลังที่ทำให้วอร์เมื่อคราวก่อนสู้กับซิลิธานได้ลำบาก!!’
‘กระสุนมันเร็วมาก!! เกือบวาปหลบได้ไม่ทัน!’
ทันใดนั้นโซม่าก็วาปเข้ามาใกล้ตัววายุ แล้วสร้างแขนแมงมุมทั้ง 8 แขนด้วยพลังวิญญาญสีม่วงออกจากตัวแล้วแขนทั้ง 8 แขนก็กระหน่ำแทงใส่วายุ เป้ง! วายุใส่อมาเกดอนเบลดรับแขนทั้งแปดแขนที่ถูกแทงมาอย่างรวดเร็ว
‘บ้าน่า!!! แรงมันเยอะไม่พอยังรวดเร็วชะมัด!!’วายุคิดพลางใช้อมาเกดอนเบลดรับแขนทีถูกกระหน่ำแทงมา
‘จะไหวไหมน่ะ เราว่าเราใช้ความเร็วของพลังต่ำสุดแล้วน่ะ’
ทันใดนั้นวายุก็อาศัยจังหวะที่แขนทั้งแปดแขนง้างกลับแม้จะเป็นเวลาเพียงเสี้ยววินาทีแต่ก็มากพอ วายุเสยอมาเกดอนเบลดตัดแขน 4 แขนทางด้านขวาไปอย่างรวดเร็ว
“อึก!!!!! อะไรกัน!?”โซม่าตกใจจนลืมโจมตีวายุไปชั่วขณะ
“ตอนนี้ล่ะ!!!! แกพลาดแล้ว!!!!!”
วายุฟาดอมาเกดอนเบลดไปตัดแขน 4 แขนทางซ้ายมืออีกข้างอย่างรวดเร็ แล้วใช้อมาเกดอนเบลดฟันเสยร่างของโซม่ากระเด็นขึ้นท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
“อึก!! อมาเกดอนเบลดมันสร้างบาดแผลให้เราได้ด้วยงั้นเหรอ!!?”โซม่าตกใจขณะรู้สึกเจ็บที่รอยฟันบริเวณลำตัว
“อย่าหาว่ารังแกผู้หญิงละกันน่ะ!!!!!”วายุปล่อยพลังวิญญาญออกมาสร้างโซ่ที่แขนข้างซ้าย
วายุยิงโซ่ออกไปเกาะตัวโซม่าไว้แล้วดึงตัวเองพุ่งขึ้นไปหาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะสลายดาบอมาเกดอนเบลดไปแล้วก่อเป็นคาออสนัคเคิลแทน
“คาออสนัคเคิลนั้น!!!!!”โซม่าตกใจพลางสร้าใยห่อหุ้มตัวเองไว้
“เปล่าประโยชณ์น่า!!!!!! ไม่มีอะไรที่คาออสนัคเคิลจะทำลายไม่ได้!!!!!!!”วายุพูดพลางชาร์จพลังคาออสนัคเคิล
เปรี้ยง!!!! วายุต่อยคาออสนัคเคิลที่เต็มไปด้วยพลังมหาศาลทำลายใยที่ห่อหุ้มตัวโซม่าไว้ แล้วกระชากตัวโซม่าโยนลงพื้นอย่างรุนแรง ปึง!!! ทันทีที่ร่างของโซม่ากระทบพื้น พื้นในบริเวณเกิดรอยร้าวขึ้นมาทันที วายุพุ่งลงไปยื้นบนพื้น แล้วสลายคาออสนัคเคิลไปแล้วค่อยๆเดินเข้าไปหาโซม่าที่นอนอยู่บนพื้น
“ฆ่าฉันซะสิ”โซม่าพูดขึ้น
วายุเดินมาหยุดบริเวณที่โซม่านอนอยู่บนพื้น
“สลายพลังโครนอสซะ”วายุพูดขึ้นแล้วสลายพลังโครนอสของตัวเองไป
“ไม่ฆ่าฉันจะดีเหรอ ฉันอาจจะลอบมากัดเธอได้ทุกเมื่อน่ะ”
“ผมเชื่อว่าคุณไม่ทำแบบนั้น”
“ฮ่าๆ เป็นเด็กที่อ่อนต่อโลกจังเลยน่ะ”
“ไม่ คุณต่างจากพวกนั้น พวกฆาตกรโรคจิต พวกที่บ้าคลั่งกับการแก้แค้นนั้น คุณไม่ใช้แบบนั้น คุณยังมีจิตใจที่เป็นมนุษย์อยู่แต่ว่าคุณเพียงปฏิเสธมัน”
“ฉันต้องการปฏิเสธมันอย่างสมบูรณ์กับการเป็นมนุษย์ ฉันไม่ชอบเลยหากเป็นมนุษย์แล้วต้องมาเจอกับความโหดร้ายของโชคชะตา สังคมจอมปลอมผู้คนที่สวมหน้ากากเข้าหากัน”
“เพราะมนุษย์เป็นแบบนั้น และถูกเหล่าปีศาจ หรือแม้กระทั่งเหล่านักรบแห่งแสงสว่างมองว่า มนุษย์เป็นเพียงแค่สิ่งมีชีวิตที่อ้างว่าตัวเองเป็นสัตว์ประเสริฐ ผมจึงเลือกที่จะปกป้องพวกเขา เพราะแท้จริงแล้วพวกเขาก็คือวิญญาญสีขาว ที่สามารถย้อมให้กลายเป็นสีดำได้”
“เหอะ ยังไงก็ตามฉันจะทำตามที่ขอละกัน”
ทันใดโซม่าก็วาปหายไปแล้วพลังโครนอสก็ถูกสลายไปทุกอย่างเข้าสู่สภาวะปกติ
‘เธอก็คือวิญญาญสีขาวที่ถูก ความมืดมิดของพลังย้อมให้กลายเป็นสีดำ เพราะฉะนั้นเราจะต้องดึงเธอออกมาให้ได้’
ขณะนั้นเอง รร.แลกเปลี่ยน ห้องประธานนักเรียน
ลิเวียกำลังนั่งตรวจเอกสารงานประจำปีของโรงเรียนอยู่ พลางจิบกาแฟไปด้วยเพื่อระงับอาการง่วง
“เฮ้ย ทำไหมฉันต้องมาทำอะไรพวกนี้คนเดียวด้วยเนี่ย”ลิเวียบ่นขึ้น
“ก็ช่วยไม่ได้นี้น่าเธอเล่นลางาน ประจำเดือนของโรงเรียนเมื่อคราวที่แล้ว เพราะฉะนั้นทำไปอย่าบ่น”เด็กสาววัยไล่เลี่ยกับลิเวียเอากองเอกสารมาวางไว้ให้
“จะลองมาทำเองไหมละ ลีน่า”
“ไม่ล่ะขอบใจ ฉันว่างานแบบนี้คงไม่เหมาะกับฉันน่ะ”เด็กสาวที่ชื่อลีน่าตอบพลางกำลังจะเดินออกจากห้องไป
“ถ้าจะไปซื้อข้าวฝากซื้อ กระเพราไก่ไข่ดาวด้วยน่ะ”
“แหม่ กินแต่ของเดิมๆน่ะเธอ”
“ก็มันอร่อยนี้น่า”
ลีน่าเปิดประตูออกไป สักพักก็มีเด็กหนุ่มที่วายุเจอเมื่อคราวที่แล้วเดินเข้ามา แล้วสังเกตเห็นลิเวียนั่งทำงานอย่างเคร่งเครียด
“ขอโทษด้วยน่ะเรื่องเจ้าเด็กนั้น”เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้น
“หมายถึงวายุน่ะเหรอ เหอะ คุณไปโกหกอะไรเขาอีกล่ะ”
“ก็แค่ไม่ได้บอกว่าใครคือผู้ครอบครองพลังของซิลิธาน แค่นั้นแหละ”
“ฉันว่าตอนนี้เขาก็คงรู้แล้วล่ะ”
“สรุปจะเอายังไงล่ะ พลังของเธอมันไม่ควรที่จะเจาะจงไปอยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลยน่ะ”
“จะบอกว่าให้ ฉันทำตัวเป็นพวกประเภทจัสติกคาออส แบบคุณนะเหรอ เหอะน่าขำยังไงฉันก็ไม่มีทางจะทำแบบนั้นได้หรอกฉันเลือกแล้ว การรักษาสมดุลเป็นซึ่งที่ต้องทำ เพื่อหยุดยั้งไม่ให้เกิดสงครามวันสิ้นโลก”
“ทั้งเธอและฉันถ้าเกิดสงครามวันสิ้นโลก มันก็ไม่มีผลอะไรมากเลยน่ะ”
“แต่ฉันต้องการจะปกป้องสมดุลนั้นคือสิ่งที่ฉันเลือกไว้แล้ว!!!”ลิเวียหันไปตะคอกใส่
“สรุปฉันก็ดึงเธอมาไม่ได้สิน่ะ ไม่เป็นไรเพราะถึงยังไงดาบเซงยาฉะของฉันสร้างใกล้เสร็จแล้ว และเมื่อถึงตอนนั้น สภาแห่งเพลิงคงสะเทือนน่าดู”
“คุณคิดจะทำอะไรกันแน่ หัวหน้าประธานนักเรียน ธนากร”
“หึๆ พลังของจัสติกเท่านั้นที่จะรู้ได้”
เด็กหนุ่มที่ชื่อธนากรเปิดประตูห้องแล้วเดินออกไปจากห้อง
“เลิกอ้างเรื่องจัสติก(ความยุติธรรม) ได้แล้วละมั้งคุณธนากร”ลิเวียพูดไล่หลังไป
“มันเป็นทางเดียวที่ใช้จะใช้พลังนี้ได้”
ขณะนั้นเองลีน่าก็เดินสวนเข้ามาในห้อง แล้วยืนข้าวกล่องให้ลิเวีย
“เอา ได้ละข้าวกระเพราไก่ไข่ดาวเธอ”
“วางไว้ตรงนั้นก่อนเดี๋ยวไปกิน”ลิเวียพูดพลางวางเอกสารที่ตรวจเสร็จแล้วหยิบเอกสารใหม่มาตรวจ
“จ๋าๆ เดี๋ยวฉันไปซื้อของข้างนอกก่อนน่ะ เดียวกลับมาช่วยงาน”ลีน่าพูดเสร็จแล้วเดินออกจากห้องไป
‘เอาแต่อ้างความยุติธรรม แบบนี้มันดีแล้วเหรอ’ลิเวียคิดในใจพลางตรวจเอกสารต่อ
บริษัทเฮลการ์ด
“เชื้อไวรัสของพวกเราค่อนข้างที่จะพัฒนาไปได้ดีครับ คาดว่าภายในสองอาทิตย์ถ้าไม่เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาก่อน การพัฒนาไวรัสตัวนี้จะสำเร็จครับ”ชายในชุดกราวรายงานข้อมูลขึ้น
“อืม ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี เราจะได้ลดการใช้พลังของปีศาจชั้นซอมบี้ลงไป และหันมาใช้พวกมนุษย์ที่ติดเชื้อแทน”หญิงสาววางเอกสารที่กำลังอ่านลงแล้วพูดขึ้น
“ท่านครับ ผมเกรงว่าเรื่องการทดสอบไวรัสของพวกเราจะหลุดไปถึงหูของพวกไฟตติ้งฮิวแมน น่ะครับ”
“งั้นเหรอ ก็ให้มันรู้ไปสิพวกนั้นมันก็เหมือนไก่ในกำมือ จะฆ่าตอนไหนก็ได้”
“แต่ว่าท่านครับ ตอนนี้พวกเราได้รับภาพถ่ายปริศนาที่คาดว่าพวกไฟตติ้งฮิวแมนได้ออกแบบมาเพื่อสู้กับไวรัสของเราโดยเฉพาะเลยนะครับ”
“ภาพเหรอขอดูหน่อยสิ”
ชายชุดกราวหยิบเอารูปภาพหนึ่งออกจากกระเป๋าแล้วยืนให้หญิงสาว
“นี้มัน”หญิงสาวพิจราณารูปภาพอย่างละเอียด
“คาดว่าจะเป็นเครื่อง A1001 ที่เป็นรุ่นเทสไทป์น่ะครับ เครื่องนี้เคยประจำการกองทัพอเมริกา และด้วยการใช้ทหารฝีมือดีบังคับทำให้มันสามารถทำลายกองทัพได้สบาย รถถังและเรือรบยังเอามันไม่อยู่เกรงว่า ถ้าพวกไฟตติ้งฮิวแมนผลิตรุ่นใช้จริงออกมา จะเป็นการยากสำหรับพวกเราน่ะครับ”
“อย่ามากก็แค่ต่อกรกับซอมบี้วิจัยและปีศาจชั้นซอมบี้ได้ พวกนี้เจอเจเนรอลธรรมดาสัก 2 ตัวก็ตายหมดแล้วล่ะ”
“แต่ว่า..”
“ไม่ต้องพูดมาก ปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับแล้วเร่งวิจัยไวรัสให้เสร็จ ก่อนที่ฉันจะทำให้พวกนักวิจัยทั้งหมดกลายเป็นปีศาจชั้นซอมบี้ ที่เป็นอาหารของพวกเจเรล”
ทางวายุ
รถบัสที่เปลี่ยนยางเสร็จกำลังวิ่งไปบนท้องถนนโดยที่ไม่ทราบจุดหมาย วายุนั้งมองวิวจากด้านนอกทั้งสองด้านของถนนเป็นไร่นาที่กว้างมาก และไม่มีเสาไฟฟ้าตั้งอยู่ตามถนนสักต้น
‘ยังคงแอบมองเราตลอดจริงๆด้วย’
วายุมองผ่านหางตาเห็นโซม่าที่นั่งอยู่เบาะด้านหน้าหันมามองตัวเองตลอดทุกครั้งไป
‘ดูๆแล้วคุณก็ไม่น่าจะใช้คนที่เกลียดชังมนุษย์นี้น่า แต่ทำไหมคุณถึงต้องการทำลายสมดุลและทำให้เกิดสงครามวันสิ้นโลก และคุณโซม่า’วายุคิดในใจไปเรื่อยๆ
“นี้เธอเคยอ่านนิยายเล่มนี้ใหม่”เสียงสนทนาจากเบาะด้านหลังดังขึ้น
“อ่อ เทพนิยายเล่มนี้นะเหรอ เคยอ่านอยู่หรอกน่ะแต่หลังๆเรื่องมาไม่อยากจะอ่านเท่าไหร่”
“เอ ทำไหมละก็สนุกออกน่ะ”
“ก็ฉันไม่ชอบน่ะ ที่เขาเขียนเกี่ยวกับสี่ม้าแห่งวันสิ้นโลกให้เป็นพวกประเภทบ้าพลัง โดยเฉพาะวอร์เนี้ยบ้าพลังตัวพ่อเลยแถมยังเล่นมุขแป๊กตลอดเวลา แถมขี้ซุ่มซ่าม ไม่เหมือนในตำนานของจริงน่ะ”
คำพูดจากบทสนทนาแทงเข้ากลางใจของวายุทันที
‘หูย พูดแทงใจดำกันแบบนี้เลยเรอะ’
ขณะนั้นเองวายุก็สังเกตเห็นโซม่าหัวเราะปนยิ้มเล็กน้อยมาทางวายุ
“สงสัยคนเขียนเขาเอานิสัยเธอไปละมั้ง แล้วมันก็จริงด้วยใช้ไหมล่ะ”โซม่าพูดพอให้ได้ยินเพียงแค่ตัวเองกับวายุ
“เงียบน่า”
“พอโดนพูดแทงใจดำเข้าหน่อยก็แสดงอาการแบบเด็กๆเลยน่ะ นี้น่ะเหรอวอร์คนที่สอง ความน่ากลัวหายไปหมดเลยน่ะตอนที่แสดงสีหน้าตอนโดนแทงใจดำ”โซม่าเดินมานั่งข้างๆวายุแล้วพูดแบบกระซิบ
“แล้วคุณล่ะสีหน้าตอนยิ้มเมื่อสักครู่นี้ก็สวยดีน่ะ”
“งั้นเหรอขอบใจน่ะ”โซม่าหน้าแดงเล็กน้อย
“แต่มีเรื่องจะถามนิดหน่อยขอพาเข้าเรื่องเครียดๆหน่อยละกัน”
“เรื่องอะไรงั้นเหรอ”
“รู้จักเทพที่ชื่อว่าซีอุสไหม”
“ในตำนานเทพนิยายกรีก บอกไว้ว่าเป็นผู้ปกครองเทือกเขาโอลิมปัส แต่ว่าในโลของพวกเรามีอยู่ 3 มิติคือ โลก เฮฟเวน และเฮล ถ้าตัดสภาแห่งเพลิงออกไปน่ะ เลยบอกได้ยากว่าซีอุสมีตัวตนไหม”
“ยังงั้นหรอกเหรอ”
“ว่าแต่ถามทำไหมเหรอ”
“ตอนมิสชั่น 8 ผมได้ปะทะกับโครวซิลเวอร์”
“โครวซิลเวอร์ เธอจะหมายถึงกาสีเงิน งั้นเหรอ บ้าน่าไม่มีใครเคยสัมผัสพลังของโครซิลเวอร์ได้มาหลายแสนล้านปีแล้วนี้”
“นั้นสิน่ะครับ แม้กระทั่งสภาแห่งเพลิงก็ยังไม่มีรู้เรื่องของเธอคนนั้นโครวซิลเวอร์ แต่จู่ๆก็มาปรากฏตัวต่อหน้าผมและเล่นงานผม ผมก็แทบแย่เหมือนกันถ้าตอนนั้นหน้ากากแห่งเงา Mask of Shadow ไม่สามารถถูกปลุกขึ้นมาจากตัวผมได้ ผมคงตายไปนานล่ะ”
“อะไรกันสี่ม้าแห่งวันสิ้นโลกจะแพ้โครวซิลเวอร์ได้ไง”
“ถ้าผมดึงพลังออกมาได้หมดก็อาจจะไม่แพ้ แต่ผมดึงพลังออกมาได้แค่ครึ่งหนึ่ง”
“ว่าแล้วเชียวทำไหมไม่เห็นเธอใช้ Abyss Armor”
ขณะนั้นเองรถบัสก็เลี้ยวเข้าไปในซอยหนึ่ง
“อ้าวเปลี่ยนเส้นทางเหรอ”
“อาจวะร้านค้าก็ได้มั้ง”
เสียงสนทนาจากเบาะด้านข้างดังขึ้น
“คุณโซม่าแห่งบางอย่างไหมครับ”วายุถามขึ้นพลางขยี้ตา
“เห็นสิ ออร่าสีแดงที่ออกมาจากคนขับรถนั้น”
“แสดงว่าผมไม่ได้ตาฝาด”
“คงจะรู้ใช้ไหมออรานี้พวกเราเท่านั้นที่มองเห็น”โซม่าเอามือลูบผมตัวเองเล่น
“ไม่รู้ก็คงไม่ใช้สี่ม้าแห่งวันสิ้นโลกแล้วล่ะครับ ออร่าแดงแบบนั้นมีแค่เจ้านั้น”
“ฉันว่ามันคงจะใจร้อนเลยหาทางลัด สงสัยต้องการจะแอบติดตามฉันกับเธอ ตามคำสั่งของท่านประธาน”
“ท่านประธาน?”วายุหันไปถามด้วยความสงสัย
“อย่ารู้เลย อย่าลืมสิเราอยู่คนละฝ่ายกัน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องสู้กัน”
ด้านลิเวีย
ลิเวียเดินออกจากห้องประธานนักเรียนด้วยอาการเหนื่อยสุดๆ
“เห้ย กลับบ้านไปต้องไปนอนซะแล้วสิ”ลิเวียพูดด้วยน้ำเสียงง่วงจัด
ขณะนั้นเองเด็กหนุ่มผอมสูงส่วนสูงประมาณ 160 ส่วมแว่นสายตา และอยู่ในเสื้อยูนิฟรอมของโรงเรียน ก็เดินมาข้างๆลิเวียแล้วพูดทักขึ้น
“ทำงานหนักอีกแล้วเหรอครับ คุณลิเวีย
“อ้าว แว่นมาตั้งแต่ตอนไหน”ลิเวียหันไปทักทายเด็กหนุ่มที่ชื่อแว่น
“ก็พึ่งมาเมื่อกี้เองครับ ท่านหัวหน้าประธานสั่งให้ผมเอาพัสดุนี้มาให้ครับ”แว่นยืนพัสดุให้ลิเวีย
“ขอบใจมากน่ะ”ลิเวียรับกล่องพัสดุมา
“งั้นผมกลับแล้วน่ะครับ คุณลิเวียก็เดินกลับบ้านดีๆละกันครับ”
“อืมๆ ฉันจะรีบกลับไปนอนนี้แหละ”
บ้านของลิเวีย
ลิเวียนั่งแกะพัสดุในห้องอย่างรวดเร็ว แล้วหยิบกล่องเหล็กสีขาวที่มีปุ่มสีน้ำเงินตรงกลางออกมาจากพัสดุ
‘นี้มันอะไรกันเหมือนจะเป็นของที่ใช้เทคโนโลยีขององกรค์ไฟตติ้งฮิวแมน’
ลิเวียกดปุ่มสีน้ำเงินแล้วภาพโฮโลแกรมก็ถูกฉายออกมา เป็นภาพของหุ่นยนต์ขนาด 5 เมตรสองเครื่องกำลังทดสอบการบิน และภาพก็ตัดไปที่หุ่นยนต์สองตัวเดิมกำลังทดสอบการใช้อาวุธระยะไกล/ใกล้ ขณะนั้นเองที่มุมขวาล่างของภาพโฮโลแกรมก็มีข้อมูลไหลขึ้นมาเรื่อยๆ
A1002 and A1003
Type:Test Type
Pilot:Unknow
‘นี้นะเหรอหุ่นยนต์ของกลุ่มไฟตติ้งฮิวแมนที่จะเอาไว้ใช้ต่อรกับพวกดาร์คคาออส รวมถึงพวกเรา สมัยก่อนมันเคยประจำการที่กองทัพสหรัฐอมเริกา แต่เป็นแค่เทสไทป์เพียงเครื่องเดียว ตอนนี้มีรุ่น 2 และ 3 ออกมาแสดงว่ากลุ่มไฟตติ้งฮิวแมนพร้อมที่จะต่อกรกับพวกดาร์คคาออสแล้วสิน่ะ’
ขณะนั้นเองภาพการทดสอบตัวเครื่องก็ถูกตัดไปแล้วก็ปรากฏภาพแบบแปลนของทั้งสองเครื่องขึ้นมา ลิเวียนั่งดูแบบแปลนนั้นอย่างละเอียด แต่ก็ไปสะดุดเข้ากับชิ้นส่วนหนึ่ง
‘ชิ้นส่วนนี้มัน คุ้นๆน่ะ’ลิเวียพยายามคิดให้ออกว่ามันคือชิ้นส่วนอะไรกัน
แต่ก่อนที่ลิเวียจะนึกออกภาพแบบแปลนก็ถูกตัดไปเป็นภาพของเครื่องหมายเลข 4 และ 5 กำลังถูกสร้าง ลิเวียกดปุ่มปิดภาพโฮโลแกรมแล้วเลื่อนกล้องไปไว้ทีมุมโต๊ะ
“วายุ ท่าทางมิสชั่น 11 ต่อไปคงจะลำบากมากเลยน่ะ”
ด้านวายุ
รถบัสจอดอยู่ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง นักเรียนหลายคนรวมกันอยู่ในห้องของตัวเองตามแต่ละรีสอร์ท ขณะนั้นวายุก็กำลังแบกกระเป๋าตัวเองเดินไปยังห้องของตัวเองซึ่งอยู่อีกที่หนึ่ง โซม่าที่กำลังลากกระเป๋าลงจากรถเห็นวายุกำลังจะเดินไปอีกที่หนึ่งจึงเดินเร็วเข้าไปถาม
“จะเดินไปไหนเหรอ”
“พอดีที่พักของผมแยกกับคนอื่นน่ะครับ ห่างจากที่นี้ไปนิดหน่อย”
“ให้ไปอยู่เป็นเพื่อนไหม?”
“ผมไม่ใช้คนขี้กลัวนี้ครับไม่จำเป็นต้องมาเป็นเพื่อนก็ได้”
วายุพูดจบแล้วมองด้วยหางตาไปด้านหลัง เห็นคนขับรถบัสที่มีออร่าสีแดงออกมาจากด้านหลังกำลังแอบมองทั้งสองอยู่
“ผมว่าคุณกลับไปห้องพักของตัวเองจะดีกว่าน่ะครับ”
“ไม่ต้องให้ไปส่งแน่น่ะ”
“ไม่ต้องหรอกครับ ถ้าคุณไม่อยากโดนตราหน้าว่าเป็นพวกทรยศ”
โซม่าเดินลากกระเป๋ากลับเข้าไปในรีสอร์ทที่พัก หลังจากที่โซม่าเดินเข้าไปวายุหันกลับไปมองคนขับรถบัส แต่คนขับรถบัสก็หายไปซะก่อน วายุจึงเดินมุ่งหน้าไปยังที่พักของตัวเองอย่างระมัดระวัง
‘คิดจะแอบสอดแหนมฉันเหรอ ออลเดรย์’วายุคิดในใจ
10 นาทีต่อมา
วายุวางของไว้ในตู้เสื้อผ้าเสร็จจนหมดแล้วเดินไปเปิดม่านออกเพื่อดูวิวรอบๆ
“ป่าทั้งนั้นเลย”
รอบๆที่พักของวายุเป็นป่าล้วน แถมเป็นป่าทึบยิ่งในเวลาใกล้มืดเช่นนี้ ยิงทำให้มองเห็นได้ยากมาก
‘บรรยากาศแบบนี้มันอะไรกัน’
กึก! กึก! เสียงเหยียบบันไดสองขั้นแรก เสียงเหยียบบันไดแสดงให้เห็นว่าเป็นเท้าที่ค่อนข้างจะหนักแน่นอนไม่ใช้เท้าของมนุษย์ธรรมดาแน่นอน แอ๊ด ประตูค่อยๆเปิดออกเบาๆโดยที่ไม่ให้วายุรู้ตัว ปึง!! สิ่งนั้นฟาดดาบใส่วายุอย่างรวดเร็ว แต่วายุเบี่ยนตัวหลบได้ ดาบเลยกระแทกเข้าที่พื้นเต็มๆจนพื้นเป็นรูโบ๋
“โห แกไม่ผิดจริงด้วย”วายุพูดพลางเรียกอมาเกดอนเบลดออกมาถือไว้
“หึๆ ยังประสาทไว้เหมือนเดิมเลยน่ะ เจ้าหนู”ชายผอมสูงส่วนสูงประมาณ 175 ในเสื้อสีดำมีดอกกุหลาบติดไว้ที่อกซ้ายที่ไหล่ข้างซ้ายมีผ้าคลุ่มยาวสีดำติดไว้ ผมบลอน มือข้างขวาถือดาบขนาดใหญ่ไว้ พูดขึ้น
“ฉันว่าไปสู้กันที่อื่นดีกว่า ที่นี้มันจะรบกวนเวลาพักของคนอื่นๆ”
“งั้นเหรอ ยังเป็นคนดีเหมือนเดิมนี้ถ้าขอมาก็จัดให้”
ชายหนุ่มพุ่งกระแทกวายุทันที เป้ง!! ทั้งสองกระเด็นออกไปนอกหน้าต่างเข้าไปในเขตป่า วายุกลิ้งตัวออกห่างจากชายหนุ่มแล้วลุกขึ้น
“เข้ามาสิ ไอ้ฆาตกรโรคจิตที่ใช้ดาบเดโวเลอร์ ออลเดรย์”วายุพูดท้าทาย
“ได้เลยไอ้หนูม้าแห่งวันสิ้นโลก”ชายหนุ่มที่ชื่อออลเดรย์ จับดาบเดโวเลอร์มั่น
ฟุ่บ! ทั้งสองพุ่งเข้าหากันอย่างรวดเร็วเกินที่สายตามนุษย์ธรรมดาจะมองทัน เป้ง!! เป้ง!! เป้ง! เสียงดาบของทั้งสองกระทบกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“วันนี้ฉันจะต้องตัดหัวแกให้ได้!!!!!!!!”ออลเดรย์พูดด้วยน้ำเสียงออกโรคจิต
“ถ้าคิดว่าทำได้ก็เอาสิ!!!!!!!!!”
ปึง! ดาบของทั้งสองต้านกัน วายุพยายามออกแรงดันดาบไปหาออลเดรย์ ขณะเดียวกันออลเดรย์ก็พยายามดันดาบของตัวเองไปหาตัววายุ ทันใดนั้นออลเดรย์ก็ยกเท้าขึ้นแล้วถีบตัววายุกระเด็นไปชนต้นไม้ ทันที่ที่ร่างของวายุกระทบกับต้นไม้ต้นไม้ ต้นนั้นหักโค่นลงมาอย่างรวดเร็ว ออลเดรย์ปล่อยคลื่นพลังในลักษณะดาบออกไปใส่วายุทันที
“ของแค่นั้นทำอะไรฉันไม่ได้หรอกน่า!!!!”วายุกางบาเรียเวทย์ทันที
เป้ง!! เป้ง! คลื่นพลังที่ถูกซัดมาถูกบาเรียเวทย์กันไว้จนหมด
‘ชิ!!! สู้ในชุดโรงเรียนแบบนี้มันไม่ถนัดยังไงไม่รู้!!!’
วายุกระโดดหลบคลื่นพลังอีกสองลูกที่ถูกซัดมาทันที ก่อนที่จะปล่อยพลังวิญญาญออกมาสร้างคาออสกันแล้วกระหน่ำยิงใส่ออลเดรย์อย่างรวดเร็ว
“ยังอ่อนหัดไปน่ะ!!!!”
ออลเดรย์หมุนดาบเดโวเลอร์ในลักษณะวงกลมปัดกระสุนจำนวนมากที่ถูกยิงมา วายุเห็นว่ากระสุนไม่สามารถจะถึงตัวออลเดรย์ได้จึงสลายคาออสกันไปแล้วพุ่งเข้าหาออลเดรย์
“เข้ามาเลยไอ้หนู!!!!!!!”
ออลเดรย์ฟาดเดโวเลอร์เบลดใส่วายุทันที แต่วายุก็หลบได้แล้วฟันอมาเกดอนเบลดสวนคืน เป้ง! ออลเดรย์ใช้แขนข้างซ้ายกันอมาเกดอนเบลดไว้ได้
“เห้ๆ อย่าลืมสิว่าแขนข้างซ้ายของฉันมันแข็งและหนาพอๆกับคาออสนัคเคิลของแกเลยน่ะ”
“ฉันไม่ลืมเพียงแต่ถ่วงเวลาไว้เล็กน้อย”
“ถ่วงเวลา?”
ทันใดนั้นร่างของวายุก็มีลำแสงสีแดงพุ่งขึ้น จากเสื้อยูนิฟรอมของโรงเรียนกลายเป็นชุดออกปฏิบัติภารกิจ เสื้อสีดำข้างในทับชั้นนอกด้วยสีแดงกางเกงยีนยาวสีดำผ้าคลุ่มสีแดง
“อ่อ เรียกชุดประจำตัวเพื่อให้คล่องตัวงั้นเหรอ”
ปึง! ออลเดรย์ถีบวายุอีกครั้งแต่คราวนี้วายุตั้งการ์ดขารับไว้ได้ ก่อนที่จะสวนหมัดเข้าไปที่กลางลำตัวของออลเดรย์
“อึก!!!!!”ออลเดรย์กระเด็นไถลไปกับพื้น
“เข้ามาเลยตอนนี้ฉันพร้อมสู้กับแกเต็มพิกัดแล้ว!!!!!!!”
ออลเดรย์ค่อยๆลุกขึ้นแล้วสแยะยิ้มออกมา
“ฮ่าๆ ฮ่าๆ”
“หัวเราะอะไรกัน!?”
“ฮ่าๆ แกเรียกชุดประจำตัวแกฉันก็เอาบ้างสิ”แสงสีทองพุ่งออกมาจากตัวของออลเดรย์
จากเสื้อสูทกลายเป็นเสื้อประจำตัวของออลเดรย์เสื้อสีดำข้างในสีดำข้างนอกทับกางเกงยีนสีแดง ผ้าคลุ่มที่ไหล่ซ้ายสีดำใส่ถุงมือสีขาว ทันใดออลเดรย์กางประตูเวทย์ออกแล้ววิญญาญสีเขียวในลักษณะหนอนก็พุ่งเข้าหาวายุทันที
“พลัง โซลลีดเลอร์ งั้นเหรอ!!!?”
เป้ง! วิญญาญในลักษณะหนอนสีเขียวที่พุ่งเข้าใส่วายุสลายไปทันที
“อ่า สโตนนสคินงั้นเหรอ เลือกใช้ได้เหมาะมาก”ออลเดรย์พูดแล้วปล่อยพลังจำนวนหนึ่งออกมาทั่วร่าง
“อึก!! นั้นสโตนสคินเหมือนกันงั้นเหรอ!!?”
ออลเดรย์และวายุวิ่งเข้าหากัน ทั้งสองฟาดดาบใส่กันอย่างรวดเร็ว เป้ง! อมาเกดอนเบลดฟันถูกตัวของออลเดรย์แต่ไม่สามารถเจาะร่างที่มีพลังหินครอบไว้ได้ เป้ง! เดโวเลอร์เบลดของออลเดรย์ฟันโดเข้าที่กลางลำตัวของวายุ แต่ก็กระเด็นออกเพราะร่างกายที่แข็งดั่งหิน ผัวะ! วายุต่อยเข้ากลางหน้าของออลเดรย์ทันที ผัวะ! ออลเดรย์สวนหมัดกลับคืนมาทันทีทันใดนั้นพลังสโตนสคินของทั้งสองจางหายไป แล้วทั้งสองก็กระเด็นออกจากกันด้วยแรงปะทะ
“อึก!!!”วายุกระเด็นไปชนก้อนหิน แล้วก้อนหินก้อนนั้นก็แตก
“ฮ่าๆ!!!!”ออลเดรย์กระเด็นไปชนกับต้นไม้อย่างจัง จนต้นไม้หักโค่นไป
“แฮ่กๆ แบบนี้คงใช้เวลาตัดสินนานหน่อยล่ะ”วายุยืนขึ้นแล้วถืออมาเกดอนเบลดด้วยสองมือ
“แกกับฉันสู้กันมาเป็น เดือนยังตัดสินกันไม่ได้แบบนี้มันหยามกันชัดๆ”
“เหอะ แกคิดว่าตัวแกเองจะชนะได้หมดทุกคนเลยรึไง”
“ไม่ เพียงแต่ฉันไม่ชอบการแพ้เท่านั้นแหละ!!!!!!”
ทันใดนั้นออลเดรย์ก็ฟาดคลื่นพลังจากดาบใส่วายุทันที
“!!!!!!”
ปึง!!!!! วายุโดนพลังเข้าเต็มๆแล้วกระเด็นไถลไปกับพื้นออกไปไกลโข
“ฮ่าๆ เล่นทีเผลอมันสนุกจริงๆ”
ออลเดรย์วิ่งตามรอยไถลไปทันที ขณะนั้นวายุพยายามลุกขึ้น
“ชิ!! เผลอจนได้เรา”
ขณะนั้นเองวายุเห็นออลเดรย์กำลังวิ่งมาจึงใช้ดาบอมาเกดอนเบลดยันพื้นแล้วยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะวิ่งเข้าไปแล้วเตรียมฟาดดาบใส่ออลเดรย์
“ห่ะๆ!!! ไอ้หนูวันนี้แกต้องตาย!!!!”
“ใครกันแน่ที่จะตาย!!!! ไอ้ฆาตกรโรคจิต!!!!!”
เปรี้ยง!!!! ฟ้าผ่าลงพื้นต่อหน้าทั้งสองที่กำลังจะวิ่งเข้าหากัน ทั้งสองหยุดชะงักทันที
“สายฟ้าเหรอ!!?”วายุตกใจ
ทันทีที่สายฟ้าจางไปปรากฏร่างหญิงสาวในเสื้อเกราะสีขาวมีผ้าคลุ่มสีดำที่ด้านหลังผมสีดำตาสีแดงที่เอวข้างซ้ายและขวามีฝักดาบอยู่ หญิงสาวค่อยๆยืนขึ้น
“อึก!!เธอคือ!!! โครวซิลเวอร์!!!!!”วายุพูดด้วยความตกใจ
“โห่ นี้นะเหรอโครวซิลเวอร์!!!!”ออลเดรย์
หญิงสาวที่มีนามว่าโครวซิลเวอร์ชักดาบทั้งสองข้างออกจากฝักทันทีที่ดาบทั้งสองเล่มออกจากฝักเสียงฟ้าร้องพร้อมด้วยฟ้าแลบก็ดังขึ้นทันที
“วอร์ และ แฟนทอมเจเนรอล พวกเจ้าทั้งสองจะต้องพบจุดจบที่นี้”โครวซิลเวอร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ห่ะ!!! ถ้าคิดว่าทำได้ก็ทำสิ!!!”ออลเดรย์พูดออกไปด้วยน้ำเสียงหยาบคาย
ซูม!! ออลเดรย์ถูกพลังของโครวซิลเวอร์ซัดกระเด็นไปทันที ก่อนที่จะยันตัวขึ้นกับพื้น
‘อึก!!!ร้ายนี้หว่าแบบนี้คงต้องถอยล่ะ!!!’
ออลเดรยรีบเปิดประเฮลเกตแล้วพุ่งเข้าไปข้างในแล้วเฮลเกตก็ปิดออกไป วายุจับอมาเกดอนเบลดมั่นเตรียมเผชิญหน้ากับโครวซิลเวอร์ ขณะนั้นเองโครวซิลเวอร์ก็หันมาทางวายุ
“โครวซิลเวอร์ เธอเป็นใครกันแน่!!!?”
“ก็เคยบอกไปแล้วไม่ใช้เหรอ ว่าฉันคือซีอุสคนใหม่ ผู้ปกครองเทือกเขาโอลิมปัส”
“อย่างเธอเนี่ยน่ะ!!!!”
“ใช้แล้วเมื่อซีอุส ถูกทำลายไปด้วยพลังบางอย่าง คนที่มีพลังสายฟ้าแทบเท่าซีอุสก็คือฉัน เหมือนกับเธอที่คือวอร์คนใหม่ ใช้ไหมล่ะที่ฉันพูด”
“จุดประสงค์ของคุณคืออะไรกัน!!!!!!!”
“ง่ายมาก ทำให้มิติโลกอยู่ภายใต้การปกครองของโอลิมปัสอีกครั้ง”
“ถ้าทำแบบนี้สมดุลจะไม่ถูกทำลายงั้นเหรอ!?”
“ถูกทำลายสิ แต่ว่าด้วยพลังของเทือกเขาโอลิมปัสจะไม่มีสงครามวันสิ้นโลก”
“แต่เป็นสงครามกับพวกไททัน!!!!”
ทันใดนั้นโครวซิลเวอร์ก็ปล่อยพลังสายฟ้าจากดาบทั้งสองข้างใส่วายุ วายุกางบาเรียเวทย์กันไว้ได้ทัน
“ถ้าคิดที่จะให้มนุษย์ไปเป็นขี้ข้า ละก็ข้ามศพพวกเราไลทคาออสไปก่อนเถอะ!!!!!!!!”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ