สายสัมพันธ์ที่มิอาจตัดขาด [Satan]
7.5
เขียนโดย มุเมะโนไทสะ
วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.37 น.
17 ตอน
21 วิจารณ์
22.80K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 22.59 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) ผู้บุกรุก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความในช่วงที่โรงเรียนไกล้เลิกพวกนักเรียนในโรงเรียนอนุสรณ์ที่ยืนรอคอยให้พวกอาจารย์เตรียมปล่อย
พวกเขาออกจากนอกโรงเรียนนี้พร้อมกับสองพี่น้องตระกูลอนาวรณ์ที่ยืนรออยู่ด้วย
''อ่า ..เมื่อไรเขาจะปล่อยนะ?'' เสียงอันนิ่งเงียบๆพร้อมกับแววตาสีนํ้าตาลที่มองไปทางข้าง
หน้าที่มีเด็กนักเรียนยืนรออยู่แต่ทว่านั้นทำให้ผู้เป็นพี่สาวเริ่มอารมณ์เสีย
''อยากกลับบ้านไปอาบนํ้าเฟร้ย ..''อชิระเริ่มหงุดหงิดและอารมณ์เสียขึ้นมาเพราะพวกเขายืน
รอตั้งสิบนาทีถ้าเป็นห้านาทีเธอจะเดินออกไปโดยไม่สนใจใครทั้งนั้นแต่น้องยังอยู่กับเธออชิระจึงได้
แต่ยืนนิ่งๆ
ในที่สุดพวกเด็กนักเรียนก็ได้เดินออกนอกโรงเรียนด้วยความดีใจที่อาจารย์ได้ขยับประตูรั้วออก
พร้อมกับวิราวและอชิระที่เดินตามติดๆกันไปโดยที่ไม่ทันสังเกตในขนาทดี่พวกเขาเดินไปนั้นก็มีใคร
บางคนจับจ้องมองมาร่างของทั้งสองคนพร้อม
''ฉันต้องรู้ให้ได้!''ลูกอมเกาะต้นไม้พร้อมกับแอบตามอีกฝ่ายโดยไม่สนใจพวกเพื่อนๆในคาบที่
แล้วที่ไปชวนเธอไปเที่ยวไปซื้อของเธอสะกดรอยตามวิราวและอชิระโดยที่ไม่ให้อีกฝ่ายเห็นจงกระ
ทั้งสายตาของวิราวเหลือบไปเห็นลูกอมที่เกาะต้นไม้และกำลังข้ามถนนอยู่กับอชิระ
''มีอะไรหรือ?''อชิระถามวิราวที่หันไปมองใครบางคนพร้อมกับหันไปตามผู้เป็นน้องชายที่มองดู
ตรงต้นไม้แต่ไม่มีใคร
''ไม่มีอะไรหรอก กลับบ้านกันเถอะครับพี่'' สิ้นเสียงวิราวก็เดินนำหน้าอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้มที่ประดับอยู่ตรงหน้าของเขา
ลูกอมที่ยืนอยู่ข้างหลังพร้อมหัวใจที่เต้นสั่นระรัวที่ในขนาดที่เธอกำลังตามสองพี่น้องไปวิราวก็หัน
หน้าไปมองเจอเธออยู่พอดีพร้อมกับรอยยิ้มที่ออกมากับความรู้สึกที่ไม่สามารเดาได้ของลูกอม
------------------------------------------------------------------------------------
''กลับมาแล้วครับ/คะ'' สองพี่น้องเดินเข้าไปเปิดประตูพร้อมกับถอดรองเท้าเข้ามาในคอนโดสี
เขียวที่ซึ่งเป็นบ้านของพวกเขากับบรรยากาศที่นิ่งเงียบที่ไม่มีใครอยู่
''ทำแบบนี้มันก็แปลกดีนะ ฮ่าๆ'' วิราวหลุดขำออกมานั้นก็เพราะพวกเขาต้องการที่จะลอง
เปลี่ยนอะไรดูบ้างในชีวิตพร้อมกับอชิระที่รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน
''ค...แค่อยากจะลองเปลี่ยนอะไรบ้างนี้หน่า?อย่างเช่น''กลับมาแล้วนะ''อะไรอย่างนี้''
''ครับๆ .... หิวนํ้าไหมละ ผมจะได้ไปหยิบนํ้ามาให้?'' วิราววางกระเป๋าตรงที่นั่งโซฟาก่อนที่
อชิระจะเดินไปชั้นใต้ดิน
''มัวแต่เล่นๆไปได้ ... รีบลงมาซะ''ผู้เป็นพี่สาวรีบออกคำสั่งให้น้องชายเดินตามเธอลงมาก่อน
ที่วิราวจะเข้าใจก็รีบเดินตามพี่สาวของเขาลงไป
ภายในชั้นใต้ดินที่มืดมิดและไม่มีแสงไฟฟ้าอะไรที่สามารถส่องได้วิราวหยิบไฟฉายในกางเกงขนาด
เล็กส่องทางให้อีกฝ่ายก่อนที่อชิระจะเดินไปเปิดสวิตซ์ไฟฟ้าที่ติดอยู่กับกำแพงพร้อมกับ
ภาพที่ปรากฏให้เห็นทั้งคู่แสงไฟที่เปิดมาออกมาพบกับขวดโหลขนาดเล็กตรงพื้นกับสายไฟที่เชื่อม
ต่อกันไปต่อกันมาตรงตู้ชีพจรหัวใจพร้อมกับเครื่องสัญญาไฟฟ้าหลายชิ้นที่กำลังเชื่อมต่อกับหัวที่ส่ง
กลิ่นเหม็นเน่าพร้อมกับมีปีกหกปีกและสองปีกคลุมหน้าทั่วใบหน้าแต่ก็ยังมีชีวิตและขยับได้อยู่
''ฉันจะงัดปากแกออกมาจงกว่าแกจะยอมบอกข้อมูล ใครเป็น'เจ้านาย'แก?''ดวงตาสีแดง
ฉํ่าที่คืนสภาพออกมาของอชิระพร้อมกับดวงตาสีเหลืองเข้มของวิราวที่เผยออกมาพร้อมกันมองหัว
ของเทวดาหญิงที่มองพวกเขาต้องการคำตอบอยู่
------------------------------------------------------------------------------------
ลูกอมเดินสุดจงถึงคอนโดสีเขียวที่เหมือนคอนโดทั่วๆไปพร้อมกับกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ถูกตั้งอยู่
ตรงหน้าบ้าน และดอกไม้หลายๆชนิดที่เธอไม่รู้เรื่องอะไรกับประตูขนาดเล็กพร้อมกับประตูรั้วที่ติดอยู่
ฝั่งตรงข้างในขนาดที่ลูกอมกำลังจะไปเปิดประตูอยู่ก็ครุ่นคิด
''ถ้าเปิดประตู สองพี่น้องคู่นั้นก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าตามพวกเขามา?''ลูกอมพึมพำพร้อมกับมอง
ตรงประตูแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปเพราะกลัวว่าจะถูกจับได้ก่อนจะเดินไปตรงด้านหลังเจอหน้าต่างบานเล็ก
ที่สามารถให้เข้าไปได้
''ดีละ!'' ลูกอมรีบปีนต้นไม้ขนาดใหญ่แอบเข้าไปทางตรงหน้าต่างบานเล็กนั้นโดยไม่รอช้าเธอก็เข้ามาได้ก่อนจะรู้สึกอะไรบางอย่างหัวใจของเธอเต้นระรัวและไม่รู้ว่าทำไมถึงทำแบบนั้น
ฉันก็แค่อยากจะรู้....ว่าสองพี่น้องนั้นเป็นใคร ...
หญิงสาวคิดอยู่ในใจก่อนที่จะเปิดประตูห้องนํ้าพบห้องครัวขนาดเล็กกับโต๊ะกินข้าวสีขาวดำสองอันที่
วางอยู่กับตู้เย็นขนาดใหญ่พร้อมฝั่งตรงข้ามอีกห้องคือห้องรับแขกลูกอมมองคอนโดนี้ที่แทบจะไม่
เชื่อเลยว่าวิราวกับอชิระจะอยู่ในสภาพแบบนี้ มันช่างเหมือนลูกคุณหนูเสียจริงๆ ลูกอมเดินตรงไป
ห้องรับแขกพร้อมเปิดประตูดู ภายในห้องมีโซฟาขนาดใหญ่สีขาวนวลพร้อมกับกองเอกสารที่เกลื่อน
กลาดอยู่ตรงโต๊ะ
ลูกอมหยิบเอกสารขึ้นมาอ่านดูก็ลองอ่าน
[ทระนงศักดิ์ เสรีไน ลูกครึ้งยิวเศรษฐีวงการศาสนาขนาดใหญ่ใจบุญได้บริจาคเงินให้กับวัด
และโรงเรียนสอนธรรมให้กับประเทศไทยทั่วทุกจังหวัด]
''ทระนงศักดิ์'' พอได้ยินชื่อนี้ลูกอมก็อดคิดทบทวนไม่ได้ว่าสองพี่น้องคู่นั้นไปเกี่ยวกับคนดังๆคน
นั้นได้ไงพร้อมกับเธอเคยเห็นเขาเกือบออกทีวีทั่วบ้านทั่วเมืองพร้อมกับคำชื่นชมของพวกชาวบ้านที่
เขาบริจาคมากมายขนาดนี้ให้กับประเทศไทย ลูกอมนึกอยู่ในใจว่า วิราวกับอชิระไปเกี่ยวอะไรกับ
พวกเขากันแน่?
ในขนาดที่ลูกอมกำลังหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาอ่านอยู่ก็ไม่ทันสังเกตเห็นตุ๊กตาลิงที่ถือกลองอัน
เล็กพร้อมกับขยับมาทางลูกอมก่อนที่จะเริ่มตีกล่องกับเสียงสัญญาขนาดใหญ่
[มีผู้บุกรุก!! พบผู้บุกรุก!!]
------------------------------------------------------------------------------------
ในชั้นใต้ดินที่ไม่มีมีอะไรสองพี่ตระกูลอนาวรณ์ที่กำลังรีดไถข้อมูลจากร่าของเทวดาหญิงอยู่
''ฉันจะถามแกอีกครั้ง ...'' อชิระหันหน้าไปมองวิราวเพื่อส่งสัญญาให้จัดการสิ่งมีชีวิตที่ขยับอยู่
ในขวดโหลวิราวกดสัญญาวงจรไฟฟ้าส่งกระแสไปทางขวดโหลขนาดมากช็อตเทวดาหญิงให้ทรมาน
''ใครเป็นเจ้านายแก?''
''อ๊ากกกกกกกกก----!!'' เสียงครํ่าครวญพร้อมกับเสียงโหยหวนขนาดใหญ่ดังออกมาจากปาก
ร่างของเทวดาหญิงพร้อมกับเสียงกรีดร้องแทบจะขาดใจตายอยู่ตรงนี้ในขนาดที่วิราวยืนอยู่ตรงที่กด
ไฟและอชิระที่ยืนอยู่ตรงหน้าเพื่อต้องการข้อมูลจากปากของร่างนี้
''ม--มนุษย์อย่างพวกเจ้า! ไม่มีวัน! ไม่มีวันพบเจอท่านหร--อ๊ากก---!!''เสียงโหยหวนยัง
คงดังไม่หยุดพร้อมกับศรีษะของเทวดาหญิงที่ดิ้นพล่ามไปมาเหมือนปลาตัวน้อยที่ถูกจับออกจาก
พื้นนํ้าแล้วพยายามเพื่อมีชีวิตรอดให้ได้
''เหรอ ..... ''อชิระตอบเสียงครุ่นเครือและเริ่มหงุดหงิดพร้อมกับใบหน้าที่เบื่อหน่ายก่อนที่วิราว
จะเดินเข้าไปจับไหล่พี่เพื่อไปสงบอาการที่เตรียมจะโมโห
''พี่ไปสงบสติก่อนก็ได้นะ ...'' วิราวจับไหล่ของพี่สาวเขาอย่างอ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้มที่ร่าเริง
ที่ไม่เข้ากับสถานการณ์ที่ยืนอยู่ตรงนี้
''เฮ้อ! โอเค! ฝากถามมันต่อละกัน!''แววตาสีแดงที่เกือบจะประทุออกมาเมื่อเทวดาหญิงนั้น
ไม่ยอมตอบคำถามของพวกเขา
''ครับๆ ... '' วิราวแอบหัวเราะเบาๆที่พี่เขายอมเขาสักครั้งก่อนที่จะเดินเข้าไปหา
''นายของคุณเป็นใครหรือครับ?'' วิราวถามอีกฝ่ายด้วยความสุภาพและเรียบร้อยที่ซึ่งแตก
ต่างจากอชิระที่ถามอีกฝ่ายด้วยความรุงแรงในขนาดที่วิราวกำลังถามร่าของจอยก็แน่นิ่งพร้อมกับ
เสียงหอบหายใจที่ออกมา
''ข ..ข้า ...ไม่มีวัน! ไม่มีวันจะบอกพวกเจ้าหรอก!''รอยบาดแผลที่อยู่ตรงคอเริ่มเจ็บปวดและ
ไหลออกมาพร้อมกับส่งกลิ่นเหม็นเน่ากับวิราวที่มองศรีษะของร่างนั้นที่ยังดื้อดึงและไม่ยอมถาม
คำถามของพวกเขา
''แย่จังเลยน้า แย่จังเลยน้า ... '' วิราวพูดซํ้าไปซํ้ามาก่อนจะถอดแว่นตาของเขาพร้อมกับจ้อง
มองพร้อมกับพูดออกมา
''มิคาเอล'' ช่วงตรงแขนของวิราวตรงข้อมือตรงเนื้อมีกระบอกปืนสีขาวที่มีลวดลายเทพเจ้าพร้อม
กับโซ่ตรงกระดูกที่ติดอยู่เอาปืนจ่อตรงขวดโหล
''คำถามสุดท้าย ...'' วิราวเริ่มมีเสียงที่เย็นชาและนิ่งเงียบ
''นายของคุณเป็นใคร?'' ดวงตาสีเหลืองเข้มเผยให้เห็นสัตว์ประหลาดในตัวของวิราวทั้งสองข้าง
พร้อมกับร่างที่ขยับอยู่ยูริลล์แทบจะสะอึกสะอื้นออกมาพร้อมกับความหวาดกลัวที่ตัวเองจะ
ไกล้ตายเข้ามาก่อนจะเริ่มกัดฟันของตัวเองพร้อมกับเสียงอันสั่นกลัว
''ท ...ท..ทระนง .. ศัก---! '' สิ้นเสียงของร่างยูริลล์มีวงเวทขนาดใหญ่สีทองพร้อมเสียง
กรีดร้องของเธอดังออกมากับภาษาที่ตะโกนออกมาอย่างไม่เข้าใจพร้อมกับเสียงโหยหวนอชิระที่ดึง
คอเสื้อของน้องชายให้ออกไปจากที่นั้นพร้อมกับถกเสื้อตรงแขนของตน
''ลูซิเฟอร์!!'' ช่วงแขนข้างซ้ายของอชิระเผยให้เห็นเลือดสีดำที่ไหลท่วมออกมากับโซ่สีดำที่เผย
ให้เห็นดาบคาตานะที่ติดเปลวไฟสีดำออกมาก่อนจะกางดาบคาตานะป้องกันระเบิดที่ออกมา
''กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดด!'' เสียงโหยหวนของเทวดาหญิงพุ่งพรวดก่อนที่จะนิ่งเงียบกับวงเวทที่เริ่มใหญ่ขึ้น
ตู้ม!
เสียงระเบิดขนาดใหญ่ที่ดังออกมาเล็กน้อยภายในขวดโหลเลือดสาดท่วมกระจายพร้อมกับส่งกลิ่น
เหม็นเน่าชวนสาปออกมาอชิระตวัดแขนพร้อมกับไอออกมาเป็นระยะ
''เล่นแบบนี้มันขี้โกงเกินไปนะเฟร้ย!! แค่กๆ!'' อชิระไออกมาเพราะเศษฝุ่นและเครื่องชีพจร
หัวใจกับเครื่องไฟฟ้าพังเรียบกับวิราวที่นิ่งเงียบเดินตรงไปขวดโหลหยิบแว่นตาที่ตกอยู่พื้นแต่ไม่ได้
รับความเสียหายอะไรมากเท่าไร
''เป็นเขาคนนั้นจริงๆด้วยสินะครับ ...'' วิราวได้ข้อสรุปเลยว่าคนที่อยู่เบี้องหลังนั้นคือง
''ทระนงศักดิ์ เสรีไน'' นั้นเอง
''ถ้ายังงั้นจะมัวรออะไรอยู่ละวะ?'' อชิระยกดาบคาตานะวางตรงหัวไหล่ในขนาดที่วิราวก็จะตอบ
เห็นด้วยกับอีกฝ่ายนั้นก็มีสัญญาแจ้งเตือนดังเข้ามา
[พบผู้บุกรุก! พบผู้บุกรุก!!]
------------------------------------------------------------------------------------
พวกเขาออกจากนอกโรงเรียนนี้พร้อมกับสองพี่น้องตระกูลอนาวรณ์ที่ยืนรออยู่ด้วย
''อ่า ..เมื่อไรเขาจะปล่อยนะ?'' เสียงอันนิ่งเงียบๆพร้อมกับแววตาสีนํ้าตาลที่มองไปทางข้าง
หน้าที่มีเด็กนักเรียนยืนรออยู่แต่ทว่านั้นทำให้ผู้เป็นพี่สาวเริ่มอารมณ์เสีย
''อยากกลับบ้านไปอาบนํ้าเฟร้ย ..''อชิระเริ่มหงุดหงิดและอารมณ์เสียขึ้นมาเพราะพวกเขายืน
รอตั้งสิบนาทีถ้าเป็นห้านาทีเธอจะเดินออกไปโดยไม่สนใจใครทั้งนั้นแต่น้องยังอยู่กับเธออชิระจึงได้
แต่ยืนนิ่งๆ
ในที่สุดพวกเด็กนักเรียนก็ได้เดินออกนอกโรงเรียนด้วยความดีใจที่อาจารย์ได้ขยับประตูรั้วออก
พร้อมกับวิราวและอชิระที่เดินตามติดๆกันไปโดยที่ไม่ทันสังเกตในขนาทดี่พวกเขาเดินไปนั้นก็มีใคร
บางคนจับจ้องมองมาร่างของทั้งสองคนพร้อม
''ฉันต้องรู้ให้ได้!''ลูกอมเกาะต้นไม้พร้อมกับแอบตามอีกฝ่ายโดยไม่สนใจพวกเพื่อนๆในคาบที่
แล้วที่ไปชวนเธอไปเที่ยวไปซื้อของเธอสะกดรอยตามวิราวและอชิระโดยที่ไม่ให้อีกฝ่ายเห็นจงกระ
ทั้งสายตาของวิราวเหลือบไปเห็นลูกอมที่เกาะต้นไม้และกำลังข้ามถนนอยู่กับอชิระ
''มีอะไรหรือ?''อชิระถามวิราวที่หันไปมองใครบางคนพร้อมกับหันไปตามผู้เป็นน้องชายที่มองดู
ตรงต้นไม้แต่ไม่มีใคร
''ไม่มีอะไรหรอก กลับบ้านกันเถอะครับพี่'' สิ้นเสียงวิราวก็เดินนำหน้าอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้มที่ประดับอยู่ตรงหน้าของเขา
ลูกอมที่ยืนอยู่ข้างหลังพร้อมหัวใจที่เต้นสั่นระรัวที่ในขนาดที่เธอกำลังตามสองพี่น้องไปวิราวก็หัน
หน้าไปมองเจอเธออยู่พอดีพร้อมกับรอยยิ้มที่ออกมากับความรู้สึกที่ไม่สามารเดาได้ของลูกอม
------------------------------------------------------------------------------------
''กลับมาแล้วครับ/คะ'' สองพี่น้องเดินเข้าไปเปิดประตูพร้อมกับถอดรองเท้าเข้ามาในคอนโดสี
เขียวที่ซึ่งเป็นบ้านของพวกเขากับบรรยากาศที่นิ่งเงียบที่ไม่มีใครอยู่
''ทำแบบนี้มันก็แปลกดีนะ ฮ่าๆ'' วิราวหลุดขำออกมานั้นก็เพราะพวกเขาต้องการที่จะลอง
เปลี่ยนอะไรดูบ้างในชีวิตพร้อมกับอชิระที่รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน
''ค...แค่อยากจะลองเปลี่ยนอะไรบ้างนี้หน่า?อย่างเช่น''กลับมาแล้วนะ''อะไรอย่างนี้''
''ครับๆ .... หิวนํ้าไหมละ ผมจะได้ไปหยิบนํ้ามาให้?'' วิราววางกระเป๋าตรงที่นั่งโซฟาก่อนที่
อชิระจะเดินไปชั้นใต้ดิน
''มัวแต่เล่นๆไปได้ ... รีบลงมาซะ''ผู้เป็นพี่สาวรีบออกคำสั่งให้น้องชายเดินตามเธอลงมาก่อน
ที่วิราวจะเข้าใจก็รีบเดินตามพี่สาวของเขาลงไป
ภายในชั้นใต้ดินที่มืดมิดและไม่มีแสงไฟฟ้าอะไรที่สามารถส่องได้วิราวหยิบไฟฉายในกางเกงขนาด
เล็กส่องทางให้อีกฝ่ายก่อนที่อชิระจะเดินไปเปิดสวิตซ์ไฟฟ้าที่ติดอยู่กับกำแพงพร้อมกับ
ภาพที่ปรากฏให้เห็นทั้งคู่แสงไฟที่เปิดมาออกมาพบกับขวดโหลขนาดเล็กตรงพื้นกับสายไฟที่เชื่อม
ต่อกันไปต่อกันมาตรงตู้ชีพจรหัวใจพร้อมกับเครื่องสัญญาไฟฟ้าหลายชิ้นที่กำลังเชื่อมต่อกับหัวที่ส่ง
กลิ่นเหม็นเน่าพร้อมกับมีปีกหกปีกและสองปีกคลุมหน้าทั่วใบหน้าแต่ก็ยังมีชีวิตและขยับได้อยู่
''ฉันจะงัดปากแกออกมาจงกว่าแกจะยอมบอกข้อมูล ใครเป็น'เจ้านาย'แก?''ดวงตาสีแดง
ฉํ่าที่คืนสภาพออกมาของอชิระพร้อมกับดวงตาสีเหลืองเข้มของวิราวที่เผยออกมาพร้อมกันมองหัว
ของเทวดาหญิงที่มองพวกเขาต้องการคำตอบอยู่
------------------------------------------------------------------------------------
ลูกอมเดินสุดจงถึงคอนโดสีเขียวที่เหมือนคอนโดทั่วๆไปพร้อมกับกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ถูกตั้งอยู่
ตรงหน้าบ้าน และดอกไม้หลายๆชนิดที่เธอไม่รู้เรื่องอะไรกับประตูขนาดเล็กพร้อมกับประตูรั้วที่ติดอยู่
ฝั่งตรงข้างในขนาดที่ลูกอมกำลังจะไปเปิดประตูอยู่ก็ครุ่นคิด
''ถ้าเปิดประตู สองพี่น้องคู่นั้นก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าตามพวกเขามา?''ลูกอมพึมพำพร้อมกับมอง
ตรงประตูแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปเพราะกลัวว่าจะถูกจับได้ก่อนจะเดินไปตรงด้านหลังเจอหน้าต่างบานเล็ก
ที่สามารถให้เข้าไปได้
''ดีละ!'' ลูกอมรีบปีนต้นไม้ขนาดใหญ่แอบเข้าไปทางตรงหน้าต่างบานเล็กนั้นโดยไม่รอช้าเธอก็เข้ามาได้ก่อนจะรู้สึกอะไรบางอย่างหัวใจของเธอเต้นระรัวและไม่รู้ว่าทำไมถึงทำแบบนั้น
ฉันก็แค่อยากจะรู้....ว่าสองพี่น้องนั้นเป็นใคร ...
หญิงสาวคิดอยู่ในใจก่อนที่จะเปิดประตูห้องนํ้าพบห้องครัวขนาดเล็กกับโต๊ะกินข้าวสีขาวดำสองอันที่
วางอยู่กับตู้เย็นขนาดใหญ่พร้อมฝั่งตรงข้ามอีกห้องคือห้องรับแขกลูกอมมองคอนโดนี้ที่แทบจะไม่
เชื่อเลยว่าวิราวกับอชิระจะอยู่ในสภาพแบบนี้ มันช่างเหมือนลูกคุณหนูเสียจริงๆ ลูกอมเดินตรงไป
ห้องรับแขกพร้อมเปิดประตูดู ภายในห้องมีโซฟาขนาดใหญ่สีขาวนวลพร้อมกับกองเอกสารที่เกลื่อน
กลาดอยู่ตรงโต๊ะ
ลูกอมหยิบเอกสารขึ้นมาอ่านดูก็ลองอ่าน
[ทระนงศักดิ์ เสรีไน ลูกครึ้งยิวเศรษฐีวงการศาสนาขนาดใหญ่ใจบุญได้บริจาคเงินให้กับวัด
และโรงเรียนสอนธรรมให้กับประเทศไทยทั่วทุกจังหวัด]
''ทระนงศักดิ์'' พอได้ยินชื่อนี้ลูกอมก็อดคิดทบทวนไม่ได้ว่าสองพี่น้องคู่นั้นไปเกี่ยวกับคนดังๆคน
นั้นได้ไงพร้อมกับเธอเคยเห็นเขาเกือบออกทีวีทั่วบ้านทั่วเมืองพร้อมกับคำชื่นชมของพวกชาวบ้านที่
เขาบริจาคมากมายขนาดนี้ให้กับประเทศไทย ลูกอมนึกอยู่ในใจว่า วิราวกับอชิระไปเกี่ยวอะไรกับ
พวกเขากันแน่?
ในขนาดที่ลูกอมกำลังหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาอ่านอยู่ก็ไม่ทันสังเกตเห็นตุ๊กตาลิงที่ถือกลองอัน
เล็กพร้อมกับขยับมาทางลูกอมก่อนที่จะเริ่มตีกล่องกับเสียงสัญญาขนาดใหญ่
[มีผู้บุกรุก!! พบผู้บุกรุก!!]
------------------------------------------------------------------------------------
ในชั้นใต้ดินที่ไม่มีมีอะไรสองพี่ตระกูลอนาวรณ์ที่กำลังรีดไถข้อมูลจากร่าของเทวดาหญิงอยู่
''ฉันจะถามแกอีกครั้ง ...'' อชิระหันหน้าไปมองวิราวเพื่อส่งสัญญาให้จัดการสิ่งมีชีวิตที่ขยับอยู่
ในขวดโหลวิราวกดสัญญาวงจรไฟฟ้าส่งกระแสไปทางขวดโหลขนาดมากช็อตเทวดาหญิงให้ทรมาน
''ใครเป็นเจ้านายแก?''
''อ๊ากกกกกกกกก----!!'' เสียงครํ่าครวญพร้อมกับเสียงโหยหวนขนาดใหญ่ดังออกมาจากปาก
ร่างของเทวดาหญิงพร้อมกับเสียงกรีดร้องแทบจะขาดใจตายอยู่ตรงนี้ในขนาดที่วิราวยืนอยู่ตรงที่กด
ไฟและอชิระที่ยืนอยู่ตรงหน้าเพื่อต้องการข้อมูลจากปากของร่างนี้
''ม--มนุษย์อย่างพวกเจ้า! ไม่มีวัน! ไม่มีวันพบเจอท่านหร--อ๊ากก---!!''เสียงโหยหวนยัง
คงดังไม่หยุดพร้อมกับศรีษะของเทวดาหญิงที่ดิ้นพล่ามไปมาเหมือนปลาตัวน้อยที่ถูกจับออกจาก
พื้นนํ้าแล้วพยายามเพื่อมีชีวิตรอดให้ได้
''เหรอ ..... ''อชิระตอบเสียงครุ่นเครือและเริ่มหงุดหงิดพร้อมกับใบหน้าที่เบื่อหน่ายก่อนที่วิราว
จะเดินเข้าไปจับไหล่พี่เพื่อไปสงบอาการที่เตรียมจะโมโห
''พี่ไปสงบสติก่อนก็ได้นะ ...'' วิราวจับไหล่ของพี่สาวเขาอย่างอ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้มที่ร่าเริง
ที่ไม่เข้ากับสถานการณ์ที่ยืนอยู่ตรงนี้
''เฮ้อ! โอเค! ฝากถามมันต่อละกัน!''แววตาสีแดงที่เกือบจะประทุออกมาเมื่อเทวดาหญิงนั้น
ไม่ยอมตอบคำถามของพวกเขา
''ครับๆ ... '' วิราวแอบหัวเราะเบาๆที่พี่เขายอมเขาสักครั้งก่อนที่จะเดินเข้าไปหา
''นายของคุณเป็นใครหรือครับ?'' วิราวถามอีกฝ่ายด้วยความสุภาพและเรียบร้อยที่ซึ่งแตก
ต่างจากอชิระที่ถามอีกฝ่ายด้วยความรุงแรงในขนาดที่วิราวกำลังถามร่าของจอยก็แน่นิ่งพร้อมกับ
เสียงหอบหายใจที่ออกมา
''ข ..ข้า ...ไม่มีวัน! ไม่มีวันจะบอกพวกเจ้าหรอก!''รอยบาดแผลที่อยู่ตรงคอเริ่มเจ็บปวดและ
ไหลออกมาพร้อมกับส่งกลิ่นเหม็นเน่ากับวิราวที่มองศรีษะของร่างนั้นที่ยังดื้อดึงและไม่ยอมถาม
คำถามของพวกเขา
''แย่จังเลยน้า แย่จังเลยน้า ... '' วิราวพูดซํ้าไปซํ้ามาก่อนจะถอดแว่นตาของเขาพร้อมกับจ้อง
มองพร้อมกับพูดออกมา
''มิคาเอล'' ช่วงตรงแขนของวิราวตรงข้อมือตรงเนื้อมีกระบอกปืนสีขาวที่มีลวดลายเทพเจ้าพร้อม
กับโซ่ตรงกระดูกที่ติดอยู่เอาปืนจ่อตรงขวดโหล
''คำถามสุดท้าย ...'' วิราวเริ่มมีเสียงที่เย็นชาและนิ่งเงียบ
''นายของคุณเป็นใคร?'' ดวงตาสีเหลืองเข้มเผยให้เห็นสัตว์ประหลาดในตัวของวิราวทั้งสองข้าง
พร้อมกับร่างที่ขยับอยู่ยูริลล์แทบจะสะอึกสะอื้นออกมาพร้อมกับความหวาดกลัวที่ตัวเองจะ
ไกล้ตายเข้ามาก่อนจะเริ่มกัดฟันของตัวเองพร้อมกับเสียงอันสั่นกลัว
''ท ...ท..ทระนง .. ศัก---! '' สิ้นเสียงของร่างยูริลล์มีวงเวทขนาดใหญ่สีทองพร้อมเสียง
กรีดร้องของเธอดังออกมากับภาษาที่ตะโกนออกมาอย่างไม่เข้าใจพร้อมกับเสียงโหยหวนอชิระที่ดึง
คอเสื้อของน้องชายให้ออกไปจากที่นั้นพร้อมกับถกเสื้อตรงแขนของตน
''ลูซิเฟอร์!!'' ช่วงแขนข้างซ้ายของอชิระเผยให้เห็นเลือดสีดำที่ไหลท่วมออกมากับโซ่สีดำที่เผย
ให้เห็นดาบคาตานะที่ติดเปลวไฟสีดำออกมาก่อนจะกางดาบคาตานะป้องกันระเบิดที่ออกมา
''กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดด!'' เสียงโหยหวนของเทวดาหญิงพุ่งพรวดก่อนที่จะนิ่งเงียบกับวงเวทที่เริ่มใหญ่ขึ้น
ตู้ม!
เสียงระเบิดขนาดใหญ่ที่ดังออกมาเล็กน้อยภายในขวดโหลเลือดสาดท่วมกระจายพร้อมกับส่งกลิ่น
เหม็นเน่าชวนสาปออกมาอชิระตวัดแขนพร้อมกับไอออกมาเป็นระยะ
''เล่นแบบนี้มันขี้โกงเกินไปนะเฟร้ย!! แค่กๆ!'' อชิระไออกมาเพราะเศษฝุ่นและเครื่องชีพจร
หัวใจกับเครื่องไฟฟ้าพังเรียบกับวิราวที่นิ่งเงียบเดินตรงไปขวดโหลหยิบแว่นตาที่ตกอยู่พื้นแต่ไม่ได้
รับความเสียหายอะไรมากเท่าไร
''เป็นเขาคนนั้นจริงๆด้วยสินะครับ ...'' วิราวได้ข้อสรุปเลยว่าคนที่อยู่เบี้องหลังนั้นคือง
''ทระนงศักดิ์ เสรีไน'' นั้นเอง
''ถ้ายังงั้นจะมัวรออะไรอยู่ละวะ?'' อชิระยกดาบคาตานะวางตรงหัวไหล่ในขนาดที่วิราวก็จะตอบ
เห็นด้วยกับอีกฝ่ายนั้นก็มีสัญญาแจ้งเตือนดังเข้ามา
[พบผู้บุกรุก! พบผู้บุกรุก!!]
------------------------------------------------------------------------------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ