No Sugar!! บ้าน่า..ฉันหลงรักนายตอนไหน?

9.3

เขียนโดย Murasaki

วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 23.55 น.

  7 chapter
  2 วิจารณ์
  12.12K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 20.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) ความลับ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Part : อิมพอร์ต

เวลา 12.15 น.

วันนี้ผมตื่นสายจนไม่ทันไปโรงเรียนจนได้ก็ตอนนี้มันจะเที่ยงแล้ว น่าจะเป็นเวลากินข้าวเที่ยงมากกว่าไปโรงเรียนนะครับ ชั่วจริง! พี่เพรสจะเป็นยังไงบ้างว่ะเนี่ย! เห็นวันนั้นถามถึงไอ้มาเฟียหน้าหล่อนั่น คงไม่ได้เจอกับมันหรอกมั้ง

อ๊อด...อ๊อด

ใครมากดกริ่งหน้าบ้านกัน..พี่เพรสก็ไม่อยู่ ไอ้เราก็ไม่ได้นัดใครไว้ด้วยสิ แล้วใครจะมาหาตอนนี้ว่ะ! ขณะที่ผมเดินไปที่ประตูรั้วหน้าบ้านเพื่อไปสอดส่องผู้มาเยือน ณ กระท่อมของเทพบุตรอย่างผม และแล้วสายตาเจ้ากรรมก็ปะทะกับดวงตาคมดุของชายหนุ่มหน้าตาหล่อแบบลูกครึ่งฝรั่งใส่แว่นตาสีชาและรูปร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้ามที่กำลังพิงยืนพิงตรงกำแพงข้างๆรั้วบ้านของผม เอิ่ม! มันเป็นใคร?

“ขอโทษนะครับ มาหาใครครับ?” ผมพูดอย่างผูกมิตรแล้วฉีกยิ้มที่คิดว่าหล่อ(สวย)ที่สุดไปให้ชายแปลกหน้าคนนั้น

“Impress or Import?” ชายแปลกหน้าหันมามองผมแล้วถอดแว่นตาสีชานั้นออกแล้วถามด้วยภาษาอังกฤษที่ผมไม่คุ้นหู จะคุ้นได้ไงล่ะ ผมได้แต่ Hi,My name is.... นอกนั้นอย่าถาม ลอกเพื่อนตลอดเลย ไอ้ภาษาผู้ดีเนี่ย!

“What? Want go to hell? Go! Go! ชิ่วๆ” ภาษาอังกฤษวันนี้ขอเสนอด้วยคำเหล่านี้ครับ ไม่ใช่ฟังไม่ออกนะ แต่ไม่อยากบอกคุยกับคนแปลกหน้ามาถึงก็ถามว่า “ อิมเพรส หรือ อิมพอร์ต?” เรื่องอะไรจะบอกล่ะครับเลยแนะนำให้ไปนรกซะเลย

“หึ! กวนแบบนี้ อิมพอร์ตสินะ” อ้าว! ไอ้กร๊วกนี่พูดไทยได้อ่ะ จะกระแดะต่างชาติทำไมว่ะ

“แล้วไงล่ะ นายเป็นใคร?” ผมตอบกลับไปด้วยสีหน้ากวนอารมณ์คนตรงหน้า เตรียมพร้อมมีเรื่องเต็มที่

“ไม่อนุญาตให้ถามและนายต้องมากับฉัน” และแล้วชายแปลกหน้าก็เดินเข้ามาเพื่อจะจับตัวอิมพอร์ต

“เฮ้ย! อะไรว่ะ ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละ เดินเข้ามาเจอเตะอ่ะ” ผมรีบตั้งการ์ดเตรียมจะชกไอ้คนแปลกหน้าที่ไม่ยอมบอกชื่อแล้วยังเดินมาเข้ามาใกล้เตรียมจะลักพาตัวอีก

“เตะมาสิ! จับปล้ำหน้าบ้านนี่แหละ! จะไปหรือไม่ไป ห๊ะ!” ชายหนุ่มแปลกหน้าแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่อิมพอร์ตที่ทำเหมือนเขาจะพาร่างบางตรงหน้าไปฆ่าซะอย่างนั้น

“คำตอบคือไม่”

“จะไปดีๆหรือต้องให้ลงไม้ลงมือ?”

“ประสาทกลับหรือไงว่ะ บอกว่าไม่ไปโว้ย!” ผมกำมือแน่นเตรียมจะชกปากคนตรงหน้าและวางแผนจะกระทืบสมองด้วย ขอหาฟังคนพูดไม่รู้เรื่อง หึ!

“ไปกับฉันเดี๋ยวนี้!” หือ! ไอ้บ้านี่มันจะเอื้อมมือมาแตะตัวผมแล้วอ่า จะไปไหนก็ไปไกลๆเลย ไป๊ กูไม่รู้จักมึง

“นี่มันบ้านผมครับ เชิญคุณออกไปจากหน้าบ้านผมด้วย” ผมพูดยืนยันคำเดิมกับไอ้บ้าหูหนวกตรงหน้าแล้วจ้องหน้าด้วยหงุดหงิด

“Ok ไม่ไปก็ไม่ไป แต่ฉันจะอยู่ที่นี่กับนาย”

“อะไรคือ OK อย่ามามั่วซั่ว แล้วเป็นใครถึงต้องมาอยู่กับฉันด้วยกันว่ะ”

 

“อ้อ! ที่แท้ก็อยากรู้จักนี่เอง กระผมชื่อ เมิร์ค เป็นเพื่อนของนิรย หรือว่าเจ้าพ่อฮาเดสที่กำลังตามหาพี่ชายของนายอยู่” ไอ้บ้านี่เพิ่งนึกออกหรือมันไม่ใส่ใจว่ะ ก็มันยังไม่เคยบอกผมนี่ว่ามันเป็นใครอ่ะ

 

“ห๋า! แล้ว..แล้วมันเกี่ยวอะไรกับต้องมาอยู่ที่บ้านฉัน”

 

“แล้วอิมเพรสจะหนีไปไหนได้ ถ้าไม่กลับบ้านล่ะ”

 

“หึ! กลัวมันเบี้ยวว่างั้น ช่างเถอะ อยากจะอยู่ที่นี่ใช่มั้ย? งั้นก็หน้าบ้านนี่เลยล่ะกัน” พอพูดเสร็จผมหันหลังเดินไปทางประตูรั้วเตรียมจะเข้าบ้าน ทันใดนั้นก็มีมือหนาของคนที่ไม่ได้รับเชิญและอยากถีบส่งเอื้อมมาจับประตูรั้วแล้วก้มลงมาพูดใส่หน้าผมว่า...

 

“ขอสุดหล่อเข้าบ้านหน่อยนะครับ เบบี๋” แล้วเมิร์คก็ทำตาหวานซึ้งใส่เหมือนตอนที่เขาเคยออดอ้อนสาวๆ ส่งไปให้อิมพอร์ต

 

“เหอะ! อะไรของมึง เมาแดดหรอ?” ผมเงยหน้ามองไอ้บ้าเมิร์คแล้วทำหน้าตายไร้อารมณ์ตอบกลับไป

 

“โว๊ะ! หลีกสิ ยืนเตี้ยอยู่ได้” อ้าว! พอแผนล่มก็ถีบส่งนะมึง แล้วเมิร์คก็ดันตัวผมกระเด็นจนพ้นจากประตูแล้วแทรกตัวเข้าบ้านไปโดยมีผมที่ลุกขึ้นมายืนจ้องด้านหลังของไอ้คนไร้มารยาทอย่างหัวเสีย กูจะไม่ทน!

 

“รีบตายๆไปซะ! ออกไปจากบ้านกูเดี๋ยวนี้เลย ไอ้หน้าด้าน”  ผลั้ว! อ๊อก!

แล้วผมวิ่งไปกระโดดถีบไอ้บ้าเมิร์คที่กำลังถือวิสาสะเข้าไปในบ้านผมด้วยความสะใจ แล้วยังไงล่ะ ก็นี่มันบ้านผมอ่ะ

 

“โอ๊ย! เจ็บนะโว้ย! ฝากไว้ก่อนเหอะ ไอ้เด็กนรกแตก” เมิร์คพูดแล้วพลางลูบๆคลำๆกลางหลังที่โดนอิมพอร์ตกระโดดถีบเต็มๆ

 

“มาฝากทำไม กูไม่ใช่ธนาคารนะ อาการหนักนะเนี่ย ฮ่าๆๆ”

 

แล้วผมก็เดินผิวปากเข้าบ้านอย่างสบายอารมณ์ที่ได้ถีบคนระบายอารมณ์หงุดหงิด ไอ้บ้าเมิร์คลุกขึ้นมาจัดเสื้อผ้าแล้วเดินตามผมเข้ามาในบ้าน ขณะที่เมิร์คกำลังจะนั่งบนโซฟาหน้าทีวี

 

“อ๊ะๆ ห้ามนั่งครับ มันไม่ใช่ที่สำหรับสุนัข บอกแล้วไง ที่ของคุณอยู่หน้าบ้าน ว่ะ..ฮา..ฮา” พอผมพูดเสร็จก็ส่งยิ้มหวานประชดให้กับเมิร์คที่มองหน้าผมเหวอๆกับความกวนประสาทไม่หยุดของผม

 

“......” อ้าว! มันเงียบอ่ะ เมิร์คนั่งเงียบบนโซฟาแล้วจ้อง มันหมายความว่าไงว่ะ!

 

“น่ารักนะ” แล้วเมิร์คก็ยิ้มพลางทำหน้ากรุ้มกริมใส่อิมพอร์ต

 

“โว๊ยยย! ประสาทจะกิน ชีวิตนี้มันอะไรกันนักหนาว่ะเนี่ย!” แล้วอิมพอร์ตก็โวยวายเหมือนคนบ้าพลางยกมือมาทึ้งหัวตัวเองที่ต้องมาเจอกับคนโรคจิตแล้วก็ตัดสินใจเดินเข้าห้องครัวไปด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

 

“อ้าว! น่ารักจนบ้าซะแหละ ไม่น่าเลย” เมิร์คพึมพำแล้วยิ้มกับตัวเองเมื่อเห็นท่าทางโวยวายเอาแต่ใจนั้น

 

ติ๊กต่อก ตี๊กต่อก

5 ชั่วโมงผ่านไป

โว้ย! เบื่อ เซ็ง ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ก็แล้ว ทำไมต้องมานั่งเฝ้าไอ้บ้านี่เพื่อรอพี่เพรสกลับมาจากโรงเรียนด้วยว่ะ แล้วไอ้บ้าเมิร์คนี่ทำอะไร นอกจากจะนั่งดูหนังและอ่านนิตยสารฟรีที่บ้านผม มันก็นอนน่ะสิ แถมหลับสบายหายห่วง ส่วนผมก็ถ่างตาเต็มตื่นอยู่คนเดียว เพื่อเฝ้ามันจนกว่าไอ้พี่บ้านั่นจะกลับมาน่ะเซ่  แต่จะให้ทำยังไงล่ะ

 

เวลา 19.20 น.

ก๊อง แก๊ก

ครืด

“อ้าว! แกมานั่งเปิดเนตรอะไรตรงนี้ว่ะ” พี่ชายฝาแฝดของผมส่งรอยยิ้มมาให้ทันทีที่เจอหน้ากัน

 

“หึๆๆ แล้วทำไมถึงเพิ่งโผล่หัวมาล่ะครับ พี่ชาย” อิมพอร์ต

 

“อะ...เอ่อ กินข้าวหรือยัง? น้องรัก ถ้ายังไม่กินเดี๋ยวพี่ทำให้นะ” ไอ้เพรสมันเปลี่ยนเรื่องต่อหน้าต่อตาผมเลย แถมยังลุกลี้ลกลนหลบสายตาด้วย มันไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่าว่ะ?

 

“อืม..ตอนนี้ยังไม่หิว แต่อยากออกกำลังกายมากกว่า” ผมตอบเสียงเรียบบ่งบอกถึงอารมณ์ที่กำลังหงุดหงิดรอการปะทุ

 

“อ้อ! จะออกกำลังกาย งะ..งั้นไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ พี่ไปล่ะ” แล้วอิมเพรสที่รีบพูดก็รีบชิ่งหนีอิมพอร์ตก่อนที่จะถูกสงสัยมากไปกว่านี้ในขณะที่อิมเพรสกำลังก้าวขาขึ้นบันได

 

“หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ!” เอ๊ะ! เสียงใคร ไม่ใช่เสียงอิมพอร์ตนะ

 

อิมเพรสหันไปทางที่น้องชายฝาแฝดยืนจ้องตัวเองอยู่แล้วก็พบคนที่ลุกมาขึ้นมาจากโซฟาหน้าทีวีด้วยสภาพผมกระเซอกระเซิงและหน้าตาเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน

 

“ฮ้าวววว....มองอะไรหรอ?” เมิร์คที่กำลังเมาขี้ตาอยู่นั้นก็หันไปถามอิมพอร์ตที่ยืนจ้องไปทางบันไดขึ้นชั้น 2 ของบ้าน

 

“อะ...เอ่อ...นะ..นายเป็นใคร?” อิมเพรสที่เห็นคนแปลกหน้าเพิ่งตื่นนอนก็ตั้งสติได้แล้วถามขึ้นอย่างนึกสงสัย

ใครว่ะ? เอ๊ะ! หรือว่าคะ...คู่ขาของไอ้พอร์ต เหวอ!

 

“หึ!นึกว่าใคร” เมิร์คหันไปมองตรงทางขึ้นบันไดแล้วพูดขึ้นทันทีที่เห็นหน้าคนมาใหม่

 

“ไม่ต้องมาฟอร์มเปลี่ยนเรื่องนะพี่เพรส วันนี้ไปไหนมาว่ะ?” ผมรีบพูดแทรกเพื่อไม่ให้เมิร์คได้คุยกับเพรส

 

“กะ...ก็ เอ่อ..ไว้ค่อยเล่าทีหลังได้มั้ยว่ะ?” ไอ้เพรสมันจะลีลาทำไมว่ะ กะอีแค่บอกว่าไปไหนมามันยากตรงไหน

 

“ได้ งั้นเราค่อยคุยกัน ขอพอร์ตไปส่งหมอนี่ก่อน”  ผมบอกกับเพรสที่หน้าซีดแล้วลุกลี้ลุกลนชอบกล วันนี้มันแปลกจริงๆ

 

“อ่ะแฮ่ม! ไม่ได้บอกว่าจะไปซะหน่อย” ผมที่ได้ยินไอ้บ้าเมิร์คพูดก็หันไปมองมันแล้วทำหน้าทำตาใส่ประมาณว่า “กูจะไล่ มีอะไรป่ะ?”

 

“Ok ไปก็ไป ไล่ฉันตั้งแต่เที่ยงแล้วนี่ อ้อ!ขอบคุณมากสำหรับที่นอนนะ แล้วเจอกันใหม่นะอิมเพรส” แล้วเมิร์คที่หันไปร่ำลาอิมเพรสก็ทำท่าเดินออกไปจากประตูบ้าน

 

“พอร์ตไปส่งเพื่อนสิ” อิมเพรสเห็นน้องชายที่ไม่มีมารยาทไม่ยอมไปส่งแขกก็เอ่ยเสียงดุ

“ชิ จำไว้เลย เรามีเรื่องต้องคุยกัน” แล้วผมก็ชี้หน้าเพรสแล้วจ้องด้วยสายตาดุกลับไป

 

ผมเดินออกมาส่งไอ้ตัวปัญหาที่มานอนโดยที่ไม่เห็นจะมีธุระสำคัญนอกจากพอตื่นแล้วเห็นอิมเพรสกลับมาบ้านคุณชายเมิร์คก็ยอมกลับง่ายๆซะอย่างนั้น ทั้งๆที่ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยักกะไป อยากเตะไอ้ลูกครึ่งนี่ให้หัวแบะซะจริง ขณะที่ผมกำลังเดินตามหลังคนร่างสูงใหญ่ข้างหน้าอยู่นั้น อยู่ๆ คนที่เดินข้างหน้าก็หันมาจนผมที่เดินคิดเพ้อเจ้ออยู่คนเดียวเดินชนแผงอกแกร่งของเมิร์คเข้า

 

“ถ้าจะหยุดก็บอกก่อนสิว่ะ” ผมโวยวายใส่ไอ้บ้าที่เอาแต่จ้องหน้าผมอย่างกับเห็นสิ่งมหัศจรรย์ในโลก

 

“ถ้าบอกแล้วจะได้อยู่ใกล้นายหรอ?” แล้วเมิร์คก็จ้องมองดวงหน้าของอิมพอร์ตอย่างเผลอใจลอย

 

 “อ๋อ! นี่มึงตั้งใจหรอ ไอ้สาดดดด” ผมบอกเมิร์คอย่างโมโห มันเมากัญชาหรอว่ะ มาเพ้อฝันตั้งแต่หัวค่ำ

 

“พูดไม่เพราะเลย เดี๋ยวตีปากแตกเลย” เมิร์คทำหน้ายุ่งที่ได้ยินคำที่ไม่ไพเราะเสนาะหูออกมาจากปากเล็กของคนตรงหน้า

 

“แล้วมึงจะทำอะไรได้ก็กูจะพูด ไอ้สาดๆๆ” ผมพูดยั่วโมโหไอ้เมิร์คซะเลย อยากกวนประสาทผมมาทั้งวันดีนัก

 

“จะเอาอย่างนี้ใช่มั้ย?” เมิร์คจ้องหน้าแล้วพูดเสียงเรียบ

 

“ใช่” ผมก็ตอบทันทีโดยไม่คิด

 

ทันใดนั้นเมิร์คก็เอื้อมมือไปคว้าท้ายทอยเล็กและมืออีกข้างก็โอบเอวของร่างบางเข้ามาใกล้จนอิมพอร์ตตั้งตัวไม่ทันได้แต่อ้าปากตกใจที่โดนจู่โจมกะทันหัน แล้วเมิร์คก็ก้มหน้าลงมาจูบริมฝีปากช่างพูดของร่างบางอย่างร้อนแรงในอารมณ์ที่อยากสั่งสอนคนตรงหน้าให้รู้ว่าอย่ามายั่วโมโหคนอย่างเขา ระหว่างที่เมิร์คบดเบียดจูบกับริมฝีปากของร่างบาง มือที่เคยอยู่ตรงเอวบางก็เอื้อมไปลูบไล้แผ่นหลังเล็กราวกับจะกลั้นแกล้งร่างบางในอ้อมกอด อิมพอร์ตที่เริ่มรู้สึกถึงมือปลาหมึกที่เริ่มลูบไล้ตามตัวก็ออกแรงผลักอย่างแรงจนริมฝีปากของทั้งสองผละออกจากัน แต่อ้อมกอดก็ยังไม่ยอมปล่อยแต่กลับกอดอิมพอร์ตแน่นราวกับกลัวคนตรงหน้าจะหายไปซะเดี๋ยวนั้น

 

“ปะ..ปล่อยนะโว้ย! แกเป็นโรคจิตใช่มั้ย? ปล่อยสิว่ะ” ผมที่ดิ้นรนเพื่อให้หลุดออกมาจากอ้อมกอดของเมิร์คที่หน้าด้านจูบผมทั้งที่เพิ่งรู้จักกันวันนี้

 

“เฮ้อ! ทำไมแรงเยอะอย่างนี้นะ” เมิร์คถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนที่คนดื้อยังพยศใส่เขาไม่หยุดตั้งแต่เจอหน้ากัน

 

“เฮ้ย! ออกไปไกลๆเลย” อิมพอร์ตที่เริ่มโวยวายเมื่อเมิร์คก้มหน้าลงมาทำท่าจะจูบเขาอีกรอบ

 

เคร้ง!

หือ? (O_O)

เสียงหม้อตกกระทบกับพื้นดังขึ้นพร้อมกับอิมเพรสตาโตอ้าปากหวดแล้วกำลังมองมาที่น้องชายฝาแฝดที่แสนจะมาดแมนกำลังอยู่ในอ้อมกอดของคนที่เขาคิดว่าเป็นเพื่อน

 

“เอ่อ...ขอโทษ จังหวะไม่ดีเลยเน๊อะ แหะๆ” อิมเพรสยิ้มเขินๆก็รีบก้มลงเก็บหม้อและแถบจะวิ่งหายเข้าไปในบ้าน

 

“ว้า! เสียดายจัง” เมิร์คก็หันไปส่งสายตาแพรวพราวและส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ไปหาอิมพอร์ต

“มึงตาย!!” อิมพอร์ตผลักเมิร์คออกแล้วปล่อยหมัดเสยคางคนตัวสูงอย่างแรงแล้วรีบปิดประตูรั้วใส่หน้าด้วยความหงุดหงิดและอับอายที่พี่ชายฝาแฝดมาเห็นฉากเรทของเขาซะนี่

 

เมิร์คที่เพิ่งถูกเสยหมัดแทนที่จะรู้สึกเจ็บกับรอยช้ำนั้นแต่กลับอมยิ้มแล้วมองไปที่บ้านของอิมพอร์ตพลางนึกถึงดวงหน้าของร่างบางที่แดงกล่ำโดยที่ไม่รู้เลยว่ากำลังโกรธ หรือว่า เขิน เขากันแน่

 

“กมลณัฐ..ชาตินี้เจ้าจะอภัยในสิ่งที่ข้าเคยทำกับเจ้าได้หรือไม่?”

 

คำถามที่ไร้คำตอบออกมาจากริมฝีปากของเมิร์คที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าและดวงตาที่เปลี่ยนเป็นความเศร้าเสียใจสำนึกในความผิดยามที่นึกถึงดวงหน้าหวานของคนที่เขาเพิ่งร่ำลา เมิร์คที่หันหลังแล้วเดินไปตามซอยบ้านของอิมพอร์ตนั้น ดวงตาของเมิร์คก็เปลี่ยนกลายเป็นสีแตงราวกับเลือด มือและเท้าของมนุษย์เปลี่ยนเป็นเล็บสีดำคมกริบที่งอกยาวออกมาเป็นกรงเล็บ ริมฝีปากมีเขี้ยวขาวงอกออกมาเตรียมพร้อมที่จะล่าเหยื่อ

แล้วปีกค้างคาวสีดำก็งอกออกมาจากแผ่นหลังแกร่งพร้อมกับเจ้าตัวที่กระพือปีกแล้วบินหายไปในท้องฟ้ายามค่ำคืน

 

Part : อิมเพรส

ขณะที่ผมกำลังจะทำอาหารให้น้องชายฝาแฝดที่แสนเอาแต่ใจก็นึกขึ้นได้ว่าลืมถามเจ้าตัวว่าอยากกินอะไร วันนี้ต้องเอาใจหน่อย เดี๋ยวมันโกรธก็บ้านแตกล่ะ ไอ้น้องตัวแสบเนี่ย! ทำหน้าดุจนขนลุกขึ้นมาเต้นระบำเลย ผมที่เผลอหยิบหม้อติดมือมาแล้วเดินไปหน้าบ้านก็ได้ยินเสียงของน้องชายกำลังยืนเถียงกับเพื่อน

 

“แล้วมึงจะทำอะไรได้ก็กูจะพูด ไอ้สาดๆๆ”  ไอ้พอร์ตมันกวนว่ะ เดี๋ยวก็โดนเพื่อนมันเตะหรอก

“จะเอาอย่างนี้ใช่มั้ย?” เริ่มโกรธแล้ว ว่าแต่เพื่อนไอ้พอร์ตคนนี้ไม่เคยเห็นเลย ชื่ออะไรก็ไม่รู้

“ใช่” อ้าว! น้องตูมันเมากัญชาแน่ๆ

 

เชี้ยยยยย!! จู่ๆเพื่อนไอ้พอร์ตก็จูบมันเฉยเลย ไอ้พอร์ตมันได้ทั้งชายทั้งหญิงนี่หว่า! เอ๊ะ! แต่มันเป็นรุกไม่ใช่หรอ? หรือว่าทั้งชายทั้งหญิงก็คือ ตัวมันเป็นทั้งรุกทั้งรับ ล่ะนั่น โอ๊ย! โลกนี้มันอะไรกันว่ะเนี่ย! แต่คราวนี้ไม่น่าจะรุกแล้วล่ะ มีโดนลูบไล้กันด้วย โฮๆๆ น้องรักของเพรสจะเสียสาววันนี้หรอเนี่ย! ทำไมมึงรีบแท้ว่ะไอ้พอร์ต รอพี่มีเมียอกอึ๋มก่อนสิน้อง(ฝัน?) โอ๊ะ! ไอ้พอร์ตผลักออกใหญ่เลย มันฮึดสู้หรือว่าเขินสู้ว่ะ หน้าน่ะ แดงได้อีกนะไอ้น้องชาย

 

“ปะ..ปล่อยนะโว้ย! แกเป็นโรคจิตใช่มั้ย? ปล่อยสิว่ะ” นี่มึงเพิ่งมีสติหรอ..ไอ้น้องที่น่ารัก

“เฮ้อ! ทำไมแรงเยอะอย่างนี้นะ”  มีถอนหายใจ น้องกูจะถูกทิ้งแหละ

 

ขณะที่ผมกำลังแอบดูน้องชายกิ๊บกิ้วกับชายหนุ่มลูกครึ่ง...ทำไมต้องแอบดูหรอ? ถ้าไม่แอบไอ้พอร์ตก็รู้น่ะสิ มีหวังมันประเคนฝ่าเท้าใส่หน้าผมน่ะสิ 

 

“เฮ้ย! ออกไปไกลๆเลย” โอ๊ะ! มีต่อหรอเนี่ย! จะจูบอีกแหละ ไอ้ผู้ชายคนนี้มันหิวเลยจะกินน้องผมหรือเปล่าอ่ะ?

 

เคร้ง!

หือ? (O_O)

เสียงอะไรขัดจังหวะว่ะ อ้าว! ทำไมหม้อไปบรรทมที่พื้นล่ะ ซวยแล้วสิ! ผมเห็นน้องชายกับหนุ่มลูกครึ่งหันมามองผม เอ่อ...บาปกรรมแน่ๆเลยขัดจังหวะคนสวีทกัน จะทำไงดีว่ะ! คิดสิๆ

 

“เอ่อ...ขอโทษ จังหวะไม่ดีเลยเน๊อะ แหะๆ” ผมยิ้มเขินๆแล้วรีบก้มลงเก็บหม้อที่นอนรออยู่แล้วจากนั้นก็วิ่งเข้าไปในห้องครัวราวกับไฟจะไหม้บ้านในอีก 1 นาทีอย่างนั้นแหละ แล้วผมก็ตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารให้น้องชาย ไม่ต้องถามแหละว่าอยากกินอะไร มันคงจะอิ่มทิพย์แล้วล่ะ ฮ่าๆๆๆ เฮ้ย! ไอ้พอร์ตมาแล้ว

 

“นี่” เสียงเรียบทักขึ้นมาเมื่อเข้ามาในห้องครัว

 

“......” ผมไม่กล้ามองหน้ามันอ่ะ

 

“นี่” เฮ้ย! กูไม่เคยติดหนี้มึงนะ กูผ่อนหมดแล้ว (มันคนละอย่างแล้วนังหนู)

 

“........” ผมไม่ตอบแต่เงยหน้าไปมองน้องชายที่จ้องผมเขม็ง อย่าจ้องตาได้ไหม..ถ้าเธอไม่แคร์

“เพรส..มึงไม่ต้องมาใบ้ใส่กูเลยนะ เมื่อกี้เห็นหมดแล้วล่ะสิ?”

 

“อะ...อ้อ! ไม่ได้เห็นอะไรนะ เพรสเพิ่งเห็นก็ตอนที่ทำหม้อตกน่ะ”  โกหกตกนรก...ตอนนี้ผมว่าใกล้แหละ ยมบาลกำลังยืนจ้องหน้าผมอยู่ไง ถ้าเขี้ยวงอกได้มันคงกระโดดกัดคอผมแล้วล่ะ จ้องเพรสทำไมอ่ะ

 

“หึ! กูขอให้มึงตกนรก ไอ้พี่ขี้โกหก”

 

“อ้าว! ไอ้น้องเลวนี่ มึงแช่งกูหรอ? ก็บอกแล้วไงว่าเห็นตอนทำหม้อตก กูไม่ได้เห็นไอ้ฉากจูจุ๊บกอดกันกลมดิ๊กของมึงซะหน่อย อุ๊บ!” วันนี้ไม่ได้ทำบุญใช่มั้ย? งานเข้าแล้วตู  เผลอหลุดปากไปซะได้

 

“หึๆๆๆ” เหวอ! ไอ้พอร์ตมันหัวเราะแล้วทำหน้าโรคจิตจ้องผมอ่ะ อย่าทำอย่างนี้เซ่ กูกลัวนะ

 

“หะ..หัวเราะอะไรว่ะ?”  ผมทำใจกล้าถามไอ้บ้าที่กำลังหัวเราะโรคจิตอยู่ตรงหน้า

 

“เพรส...มึงเตรียมตัวไว้เลย กูจะบอกให้ไอ้นิรยปล้ำจูบมึง!!” ไม่!!! ทำไมมึงชั่วอย่างนี้...จะไปบอกไอ้บ้ากาม ฮาเดสมาปล้ำจูบกูทำไม ใจร้าย!

 

“วันนี้เพรสไปไหนมาถึงกลับดึก?” มาแหละ..คำถามเดิมๆตั้งแต่ผมกลับมานี่มันไม่คิดจะลืมใช่ป่ะ?

 

“กูก็หนีไอ้มาเฟียเฮงซวยนั่นไงล่ะ เหนื่อยแทบตาย” ผมบอกแล้วพลางทำหน้าหงุดหงิดที่นึกถึงเรื่องเมื่อเย็น

 

“ฮาเดสไปเจอเพรสที่ไหนล่ะ?” อิมพอร์ตถามผมด้วยสีหน้าเป็นกังวล โธ่! น้องรักห่วงพี่ใช่มั้ย?

 

“เจอแค่ที่โรงเรียน ไม่ต้องห่วงหรอกพอหมอนั่นหาเพรสไม่เจอ พี่แกก็ขับรถออกไปจนเพรสแอบมองอยู่ก็เกือบหลบไม่ทัน”

 

“ใคร?”

 

“อะไรของมึง?”

 

“ใครห่วงมึง น่าจะปล่อยให้ถูกจับปล้ำไปเลย กูยินดีมีพี่เขยนะ ฮ่าๆๆๆๆ”

 

“อะ...ไอ้น้องเลว”

 

แล้ววันนี้ผมกับน้องชายก็กินข้าวเย็น(ดึก?)โดยมีเสียงพวกผมเถียงกันไปมาตามประสาพี่น้องและผมก็ได้รู้ว่าหนุ่มลูกครึ่งที่จูบอิมพอร์ตก็คือ เพื่อนของไอ้มาเฟียนั่น นั่นสินะ หื่นพอกันเลย แล้วอิมพอร์ตยังบอกอีกว่าตอนแรกที่เมิร์คมาที่บ้าน เขามาถามหาผม? ทำให้ผมงงเข้าไปใหญ่ ผมก็เลยแซวอิมพอร์ตว่ามันเป็นข้ออ้างมาหาพอร์ตหรือเปล่า? พอพอร์ตได้ยินก็โกรธหูแดงด่าแช่งใหญ่เลย ขณะที่พวกผมกินข้าวเสร็จแล้วและกำลังจะแยกย้ายไปนอน

 

“เอ้อ! พรุ่งนี้พอร์ตว่างป่ะ?” ผมหันไปถามน้องชายที่นั่งอยู่ข้างบนโซฟาหน้าทีวี

 

“ทำไมหรอ? จะไปไหนล่ะ?”  อ้าว! มันลืมหรอ?

 

“จำไม่ได้หรอว่าพรุ่งนี้เพรสจะไปต่างจังหวัดน่ะ”

 

“อ๋อ! จำได้แหละ...ไปสิ พอร์ตไปด้วย แต่มีเพื่อนพอร์ตไปด้วยแค่คนเดียวเอง” อิมพอร์ตเริ่มนึกออกเรื่องที่พวกผมจะไปเที่ยวด้วยกัน

 

“ไม่เป็นไร ไปเที่ยวสนุกๆ มีพวกของเพรสอีกตั้ง 3 คนก็เยอะแหละ”

 

“งั้นน้องแว่นก็ต้องไปน่ะสิ?”

 

“ห๊า! น้องแว่น?” ใครว่ะ? น้องที่ไหนก็บอกอยู่ว่ามีแต่เพื่อนๆไป ไอ้นี่มันกวนหรอ?

 

“ชื่ออะไรนะ...ไซ..ไซเรน เอ! ชื่ออะไรว่ะ” แล้วอิมพอร์ตก็พยายามนึกชื่อและบ่นพึมพำคนเดียวว่า ไซ...อะไรนี่แหละ เอ๋! ไซหรอ? หรือว่าจะเป็น...

 

“ไซคี”

 

“เออ..นั่นแหละ พอร์ตจำได้ว่าเคยเจอที่โรงเรียนพร้อมเพรส น่ารักดี” หืม! แกคิดอะไรว่ะไอ้พอร์ต

 

“จะจีบหรือไงว่ะ? กูกลัวเพื่อนกูแปดเปื้อนว่ะ” ผมบอกอิมพอร์ตพลางทำหน้าตาอ้อนวอนให้ปล่อยเพื่อนผมไปตามยถากรรม ก็ผมสงสารไซคีถ้าต้องมาเจอไอ้น้องบ้าของผมอ่ะ

 

“ไม่ได้จะจีบโว้ย! พอร์ตก็แค่รู้สึกว่าเวลาอยู่ใกล้น่าจะมีความสุขและรู้สึกอบอุ่นน่ะ”

 

“อืม! งั้นแยกย้ายไปนอนกัน เจอกันพรุ่งนี้ ห้ามสายนะโว้ย!” ผมเอ่ยลาน้องชายที่กำลังจ้องมองไปที่ทีวีแล้วเดินขึ้นมาข้างบนบ้าน

 

ก๊อก แก๊ก

หือ! เสียงอะไรดังในห้องของผมอีกแล้วเนี่ย! ผมจับลูกบิดประตูแล้วตัดสินใจเปิดเข้าไปในห้องที่ผมเป็นเจ้าของแล้วก็พบกับร่างสูงใหญ่ที่กำลังหันหลังให้ผมและแล้วใครคนนั้นที่มีผมยาวสีแดงพริ้วไหวไปตามสายลมที่มาจากทางหน้าต่างของห้องนอนก็หันมามองผมด้วยสายตาคมกริบ

 

“พะ..พี่ปันน์” แล้วปันนคนาสน์ก็ส่งรอยยิ้มอบอุ่นและสายตาอ่อนโยนก็จ้องมองมาที่อิมเพรส ผู้เป็นดั่งดวงใจที่เขาต้องรอมาหลายชาติภพ แต่เป็นชาตินี้ที่เหลี่ยนฮวาของเขาอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ

 

“ข้ารอเจ้าอยู่..เหลี่ยนฮวา” โห่! ยังหล่อเหมือนเคยนะ ผู้เฒ่าปันน์นี่ อายุเป็นพันปีจริงหรือเปล่าว่ะเนี่ย! อ!เว่าแต่เราลืมอะไรบางอย่างไปหรือเปล่านะ

 

“เอ๋! รอผมทำไมอ่ะ? พี่ปันน์หิวน้ำมั้ย? เดี๋ยวผมลงไปเอามาให้นะ”

 

“ไม่ต้องหรอก ข้ามาไม่นานเดี๋ยวก็ไปแล้ว” ปะ..ไปหรอ เฮ้ย! จริงด้วย ไอ้หมอนี่เป็น...

 

“อึก!ปะ..ปี..ปีศาจ” อิมเพรสหน้าตาตื่นดวงตาสวยเบิ่งโพลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าครั้งล่าสุดที่เขาเจอกับคนๆนี้ เขามีปีกแล้วบินออกไปทางระเบียงตรงหน้าต่างห้องนี้ อิมเพรสถอยหลังไปที่ประตูทันทีที่นึกออก

 

“เจ้ากลัวข้าอย่างนั้นหรือ?” ไม่กลัวก็ไม่ใช่มนุษย์แล้วพี่น้อง ท่านเล่นสยายปีกต่อหน้าต่อตาเลยอ่ะ

 

“อึก! พี่ไม่ใช่คน..ใช่มั้ย?” ตึก!ตัก! หัวใจผมมันลุ้นระทึกไปหมด เขาเป็นอะไรกันแน่?

 

“ไม่..ข้าจะไม่บอกเจ้า มันยังไม่ถึงเวลานั้น” ปันนคนาสน์มองหน้าเหลี่ยนฮวาด้วยความห่วงใยและครุ่นคิดถึงสิ่งที่คนตรงหน้าถามถึงตัวตนของเขา

 

“เวลาอีกแหละ ทำไมทุกคนต้องพูดว่ายังไม่ถึงเวลาอยู่เรื่อยเลย แล้วบอกหน่อยไม่ได้หรอ?”

 

“เจ้าอย่าน้อยใจไปเลย ข้าไม่ได้จะปิดบังเจ้า” ปันนคนาสน์มองเหลี่ยนด้วยสายตาอ่อนโยนด้วยกลัวว่าคนตรงหน้าจะน้อยเนื้อต่ำใจที่ตนปิดบังตัวตน

 

“โอ๊ย!ไม่ได้น้อยใจ ก็แค่เข้าใจว่าพี่มีความลับเยอะชะมัด!” โว๊ะ! จะน้อยใจทำไมฟระ! ไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย แก่แล้วเลอะเลือนว่ะ ไอ้พี่ปันน์นี่!

 

“อย่าเพิ่งใส่ใจเรื่องนั้นเลย ข้ามีเรื่องที่สำคัญกว่านั้นมาบอกเจ้า จงระวัง! บุรุษที่มีนามว่า..พศวัต(พด-สะ-วัด)อย่าเข้าใกล้เป็นอันขาด จำคำของข้าไว้ให้ดี”

 

“เขาเป็นใครหรอ? แล้วจะรู้ได้ไงว่าชื่อพศวัตอ่ะ?” ผมชักสงสัยแล้วสิ..เขาคนนั้นเป็นคนสำคัญเหรอ? อืม..ชักอยากรู้แหะ

 

“พศวัตเป็นคนที่ปลิดชีพเจ้าทุกภพทุกชาติ เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าจะรู้เอง”

 

“อึก! ตะ..ต้องฆ่ากันด้วยหรอ? ทะ..ทำไมอ่ะ?”  อะ..อะไรกันฟระ! มาถึงจะฆ่ากันเลยเหร๊อ โห่! ผมยังไม่ทันได้มีเมียเลยนะ

 

“เจ้ามีสิ่งที่เจ้านั่นต้องการ ระวังตัวด้วย..ยอดรักของข้า”

 

“อื้ม! ผมจะระวังตัว แต่เลิกเรียกว่ายอดรักเหอะ ผมขนลุก บรึ๋ย!” เหอะ!เรียกอยู่ได้ว่า..ยอดรัก ไอ้หมอนี่มันบ้าหรือเปล่าว่ะ ก็บอกอยู่ว่าไม่ใช่เหลี่ยนฮวายังจะบ้าเรียกอย่างนั้นอีก เออ! แล้วทำไมตอนเราจะ..จูบกัน ทำไมไม่ขนลุกว่ะ เราเป็นบ้าอะไรว่ะเนี่ย ไอ้เพรส!

 

“รู้สึกรึ? หรือว่าเจ้าหลงรักข้าแล้ว?” ปันนคนาสน์ที่เห็นเหลี่ยนฮวากำลังทำหน้าตาหลากอารมณ์ เดี่ยวขมวดคิ้ว เดี๋ยวทำหน้าซีดตาโตอยู่นั้นก็เอ่ยทักแล้วยิ้มมีเลศนัยส่งไปให้ร่างบางตรงหน้าอย่างหยอกล้อ

 

“ห๋า!” รู้สึกอะไร? รู้สึกขนลุกขนร่วงหรอครับพี่

 

“หึๆ ขยันยั่วข้าเหลือเกินนะเจ้า” ปันนคนาสน์ที่เห็นความน่ารักของคนตรงหน้าก็อดไม่ได้ก็กำลังก้มหน้าลงมาเพื่อสูดดมความหอมจากแก้มนวลของร่างบางตรงหน้า ทันใดนั้น...

 

ผลั้ว!

ประตูห้องนอนของผมก็ถูกน้องชายฝาแฝดที่เปิดเข้ามาโดยไม่ให้สุ่มให้เสียง และแล้วอิมพอร์ตก็จ้องไปที่บุคคลแปลกหน้าเขม็งแล้วดวงตาของเจ้าตัวแสบก็เบิ่งโพลง

 

“พี่เพรส พี่คุยกับคะ....ท่าน!”

 

 

 

พรึ่บ! สัญญาณขัดข้อง โปรดรอตอนต่อไป อิอิ...

พูดคุยกันหน่อยเน๊อะ...

วันนี้มาต่อตอนที่ 6 ให้แล้ว และก็จะมาต่อตอนที่ 7 ให้ในวันอังคารหน้านะจ๊ะ ใครที่ติดตามกันอยู่ก็มาตามอ่านกันได้ ขอบคุณและรักคนอ่านทุกคนจ้า วิจารณ์กันได้ตามสบายเลยนะ วันนี้ก็ลาก่อน จ๊วบ!

     

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา