SOTUS พี่ว้ากครับ...ผมรักพี่
เขียนโดย faiisis
วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 21.39 น.
แก้ไขเมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 22.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) บทที่สามของน้องปีหนึ่ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ3
____________________________________________
“คุณชื่ออะไร!! ทำไมสาย!!!”
เสียงว้ากดังขึ้นทันทีที่ผมวิ่งมาถึงแถว กวาดสายตาไปมีเพื่อนนั่งรออยู่เป็นแถว ทุกสายตาหันมาจับจิ้งผมกันเป็นตาเดียว นั่นไงชัดเลย
“จะ จิรายุ ฉัตรบริกุลครับ!” ผมตอบขัดๆในตอนแรก แต่ก็ตอบเสียงดังฟังชัด โดยพี่ซิกยังคงยืนทำหน้าเข้มขึมอยู่
“ทำไมถึงมาสาย!!!”
“ตื่นสายครับ!” ผมตอบไปอย่างมั่นใจ เออมั่นใจว่ากูมาสาย เอาล่ะวะโดนทำโทษอย่างน้อยก็โดนแค่เรื่องมาสายแหละ
“ป้ายชื่อไปไหน?”
ชิบหายแล้ว!!!!!
“พี่เห็นผมใส่ไหมล่ะครับ”
“!!!!!!”
“ถ้าไม่ใส่แสดงว่าผมลืมไง” เรื่องกวนตีนไม่เข้าใครออกใครครับ ปากมันไปไวกว่าสมองอีก หน้าพี่ซิกกระตุกแบบ เดี๋ยวมึงตายๆ เอาดิวะผมอยากรู้วันนี้พี่ซิกมันจะลงโทษให้ผมทำอะไร
“ผมขอย้ำเป็นครั้งที่สองว่าผมไม่ใช่เพื่อนเล่นคุณ!!! ต่อให้คุณจะสายขนาดไหนคุณก็ต้องเอามา!! ของทุกอย่างที่รุ่นพี่คุณทำให้คุณต้องเก็บรักษาไว้ นี่แสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้ให้ความสำคัญกับรุ่นพี่คุณเลย!!!”
“ถ้าคุณไม่มีป้ายชื่อ แล้วเพื่อนของคุณจะรู้จักคุณได้ยังไง!!!”
“ก็ถามชื่อสิครับ”
“งั้นเหรอ คุณคิดว่าทุกคนเขาจะวิ่งว่อนถามคุณเพียงคนเดียวงั้นเหรอ ถ้าทุกคนไม่ได้เอาป้ายมาก็วิ่งถามกันตายเลยสิ” นั่นไงผมว่าแล้ว เป็นน้องตอบให้ดียังไงก็ผิด รุ่นพี่ถูกเสมอสินะ
“งั้นผมถามคุณหน่อยแล้วกัน...ทุกคนหันป้ายชื่อกลับให้หมด!!! คุณที่นั่งแถวหลังสุดยืนครับ!!” พี่ซิกว่าก่อนจะหันไปเรียกไอ้คนที่นั่งแถวหลังสุดให้ยืนขึ้น
“คุณลองบอกผมเพื่อนคุณคนนี้ชื่ออะไร” ผมสตั้นไปประมาณสามวิ ไม่คิดว่าเขาจะเล่นวิธีนี้ นี่สินะ พี่ว้าก!!!!
“เขาชื่อสีน้ำครับ!!” ผมตอบไปอย่างชัดท้อยชัดคำ พี่ถามซะหวานหมูเลย ถามใครไม่ถาม ถามเพื่อนกูทำไม555555555555555555555555555555555555555555555
“คุณหันป้ายมาให้ผมดูซิ!” เมื่อหันป้ายแล้วเป็นชื่อที่ผมบอกไปจริงๆ พี่ซิกถึงกับหน้าเหวอนิดๆ ส่วนผมล่ะ โอ้ยยยยย ยืนขำพี่แม่ง
“นั่งลงได้!” ผมนั่งลงตามคำสั่งพี่ซิกแต่ดูเหมือนเขาจะอึ้งๆหน่อย ตกใจอะไรครับพี่?
“ผมไม่ได้สั่งคุณ!! คุณสีน้ำนั่งลงได้! ส่วนคุณยืนขึ้น!!!” เอ้าแล้วก็ไม่สั่งอย่างนี้ตั้งแต่ทีแรก เพื่อนๆในแถวบางคนหัวเราะออกมาอย่างปิดไม่อยู่แต่ก็เจอพี่ซิกว้ากใส่ไปทีถึงกับกลับมาเงียบอีกครั้ง
“คุณที่นั่งอยู่ริมสุดฝั่งซ้ายมือผมยืนขึ้นครับ!!”
“เพื่อนคุณคนนี้ชื่ออะไร!”
”…” อึ่งกิมกี่ไปเลยครับ ชิบหายวายวอดของจริงครับ ยืนนิ่งเงียบแทบจะไม่ไหวติง นี่กูจะโดนเล่นจริงๆแล้วใช่ไหม ตอบ!!!
“ตอบไม่ได้ใช่ไหมครับ…”
“คุณช่วยถอดป้ายชื่อของคุณมาให้ผมด้วยครับ” พี่ซิกหันไปสั่งให้ผู้ชายคนนั้นส่งป้ายชื่อที่ป้ายเขียนว่า ‘แอลฟา’ มาให้ ถือไว้ในมือแล้วชูขึ้นมาให้ทุกคนเห็น แล้วหันมาพูดกลับผม
“ทีนี้คุณเห็นรึยังว่าป้ายชื่อมันมีความสำคัญขนาดไหน!!!”
“ครับ” ผมตอบไปเสียงอ่อย รู้แล้วว่าตัวเองเริ่มทางตัน
“ทีนี้ผมจะลงโทษคุณ..” พี่ซิกเว้นวรรคประโยค มันทำให้คนรอฟังอย่างผมแทบขาดใจตาย “ผมจะให้คุณเลือกระหว่าง ให้ผมฉีกป้ายชื่อของเพื่อนคุณทิ้ง! หรือคุณจะไปตะโกนบอกให้คนอื่นรับรู้ว่าคุณมันไร้ความผิดชอบที่หน้าโรงอาหาร!! ดังๆ!!!”
คำถามของพี่ซิกเรียกเสียงฮือฮาจากเพื่อนๆได้ไม่น้อย รวมถึงเจ้าของป้ายชื่อที่ผมไม่รู้จักชื่อคนนั้นด้วยก็ดูเหมือนจะอึ้งอยู่เหมือนกัน
หลายคนอาจจะคิดว่าแค่ฉีกกระดาษชื่อธรรมดาๆทิ้งก็จบ จะไปตะโกนให้อายคนทำไม แถมยังไม่รู้ว่าพี่ซิกจะให้ตะโกนนานขนาดไหนอีก ถึงป้ายนั่นมันจะไม่ใช่ ของผม แต่ก็เป็นของเพื่อนคนนั้น ถ้าเกิดพี่ซิกฉีกไปเขาก็ไม่มีใส่ และแน่นอน พี่ซิกก็จะทำโทษอีก
“ผมยอมตะโกนครับ!!!”
“ดี!! พวกคุณต้องมีระเบียบวินัยให้มากกว่านี้ ในเมื่อคุณไร้ความรับผิดชอบก็ไปตะโกนบอกให้ทุกคนรู้ว่าคุณไร้ความรับผิดชอบขนาดไหนให้ผมได้ยินดังๆจนกว่าผมจะพอใจ!!! ปฏิบัติ!!!”
“คะ ครับ!!!” ผมตอบรับคำสั่งกำกวมนั่นที่ไม่รู้ว่าจะให้หยุดเมื่อไหร่ แต่ที่รู้ๆคือไอ้พี่ซิกแม่งจงใจแกล้งผมชัดๆดูจากรอยยิ้มที่พี่มันกระตุกยิ้มที่มุมปากเมื่อกี๊ดิ ใช่อ่ะ พี่แม่งแกล้งอ่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เอาล่ะวะ แค่ตะโกนมันจะไปยากอะไร อย่างมากไม่เสียงแหบก็คออักเสบล่ะวะ
พรึ่บ!!
“ผมขออนุญาตไปด้วยครับ!!” ผู้ชายเจ้าของป้ายที่ชื่อแอลฟาลุกขึ้นยกมือขออนุญาต ผมที่กำลังจะออกตัววิ่งนี่หยุดทีแทบคว่ำเลยครับ ส่วนพี่ซิกก็อึ้งๆในตอนแรก แต่ก็กลับมาทำหน้าไม่พอใจอย่างชัดเจน สีหน้าพี่ซิกกระตุกแบบกูจะทำโทษไอ้ห่านี่คนเดียวมึงเสือกไรวะ เออนั่นแหละ กูก็นะสีหน้ากูยังดูแม่งได้เป็นเรื่องเป็นราวได้อะ คือดีอ่ะ เก่งว่ะ
“ทำไมคุณถึงจะไปด้วย!!!” หน้าคมเข้มถามอย่างเหี้ยมโหด
“เพราะผมไม่ทำความรู้จักกับเพื่อนก่อน เพื่อนเลยไม่รู้จักผมครับ!!!” ผมยืนฟังคำตอบของเพื่อนที่ชื่อแอลฟาอย่างไม่เข้าใจ มึงอย่าเป็นคนดีเลยว่ะเพื่อน เดี๋ยวมึงโชคร้ายเหมือนกู TOT
นัยน์ตาพี่ซิกเหมือนกำลังลังเลอะไรสักอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็ยื่นคำขาดออกไป
“ผมไม่อนุญาต แต่ถ้าคุณยังดิ้นรนจะทำเย็นนี้คุณก็ไปวิ่งที่สนามสามรอบ!! นั่งลงซะ!!”
“ส่วนคุณ!! ไปได้แล้ว!!!” จู่ๆพี่ซิกก็หันกลับมาไล่ผมอีกครั้งเสียงดัง ผมสดุ้งเพราะไม่ได้ตั้งตัวก่อน เอะอะก็เสียงดังโวยวายนะ หันไปเห็นสายตาอาลัยอาวรณ์จากสองแฝด ไอ้สีน้ำชูสองนิ้วให้เป็นเชิงสู้ๆ เออสู้แน่ แค่ไม่กล่องเสียงพังก็พอใจละ ส่วนไอ้สีไม้ก็ชูนิ้วกลางให้อย่างน่ารัก ขอบคุณเพื่อนทั้งสองนะเว้ยที่อยู่เคียงข้างกัน น้ำตาจะไหล ซึ้งว่ะ
“ผมไม่มีความรับผิดชอบครับ! ผมไม่มีความรับผิดชอบครับ!ผมไม่มีความรับผิดชอบครับ! ผมไม่มีความรับผิดชอบครับ! ผมไม่มีความรับผิดชอบครับ! ผมไม่มีความรับผิดชอบครับ! ผมไม่มีความรับผิดชอบครับ! ผมไม่มีความรับผิดชอบครับ! ผมไม่มีความรับผิดชอบครับ! ผมไม่มีความรับผิดชอบครับ!”
ผมยังคงตะโกนไปเรื่อยๆจนตอนนี้รู้สึกแสบๆคอ แต่ไอ้พี่ซิกมันก็ยังไม่สั่งให้หยุดสักที แถมยังตะโกนกลับมาอีกว่าไม่ได้ยินเป็นระยะๆ
“เห้ยไอ้ซิกพอเหอะ กูสงสารน้องมัน มึงดูเสียงน้องดิ” พี่แสนดีเดินเข้ามาหาพี่ซิก ส่วนผมยังคงตะโกนต่อไปพร้อมกับความแสบๆที่คอรู้สึกว่าเสียงของผมที่แหบพร่าลงและใบหน้าที่ไม่พร้อมเจอใคร ณ จุดๆนี้นะครับ ผู้ชายน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ผู้หญิงนี่ดิต่อไปนี้กูจะเอาที่ไหนไปจีบเขา หา!!!!!!!!! ไอ้พี่ซิกโว้ย!!!!!!!!!!!
“ผมไม่มีความรับผิดชอบครับ! ผมไม่มี............”
“เออๆพอๆๆ” ผมเดินขาลากกลับมาที่แถวพร้อมกับกล้ามเนื้อขาที่รู้สึกว่า....กูกำลังจะตาย TOT โอ้ยยยยยยยยย ทำไมมันเมื่อยแบบนี้วะ
“เอาไป” พอถึงแถวเตรียมจะนั่งก็มีเสียงพี่ซิกดังมา พร้อมกับอะไรลอยเคว้งมาอีกครั้ง
หมับ!
น่านนนนน ไม่ได้แอ้มผมหรอกครับ เรื่องขอบน้ำโดนหัวอ่ะเหรอะ ไม่เคยครับนี่บอกเลย ขอโทษทีคนมันเทพครับ
รับมาพร้อมกับดื่มอย่างกระหาย น้ำที่ออกจากขวดแทบเป็นสาย คือเปิดมาละมันพุ่งเลยอ่ะ สภาพคือกูเปียกจ้า แต่ช่างมันเหอะโชว์ซิกแพก แมนๆ
แต่บอกเลยนะว่าตอนนี้กูไม่พร้อมจอยกับใคร เคๆนะ
“ขอบคุณน่ะมีไหมครับ” อ้าวละไม่พูดตั้งแต่กูยังไม่นั่งล่ะฮาร์ฟ
“ขอบคุณครับ!!!” ผมลุกขึ้นแล้วตอบเสียงดังฟังไม่ค่อยชัด เสียงกูแหบน่ะมีไรมะ แต่หน้าพี่ซิกจะอึ้งๆไปนิด ก่อนจะสั่งให้ผมนั่งลงเหมือนเดิม
“เอาล่ะ ขอให้พวกคุณทุกคนจำเป็นบทเรียนแล้วกัน!! พวกคุณจงจำไว้ว่าระบบของเราคือ เคารพรุ่นพี่!การปฏิบัติตามระเบียบ! ทำตามธรรมเนียมประเพณี! เป็นหนึ่งเดียว! และมีน้ำใจ!!!! ทราบไม่ทราบ!!!”
“ทราบครับ/ค่ะ” ทุกคนตอบกันอย่างพร้อมเพรียงและเสียงดังฟังชัด ส่วนผมทำได้แค่เพียงพะงาบๆปากตาม
หลังจากนั้นพี่ซิกก็ให้พี่อีกคนมาพูดแทน
“เอาล่ะ วันนี้พี่จะให้พวกน้องจับพี่ฉลากคนละแผ่น โดยในนั้นจะมีเบอร์บัดดี้ของน้องๆ ใครจับได้เบอร์ไหนก็โทรหากันเอาเองนะครับ หาให้ได้ว่าเขาคือใคร และที่สำคัญคือ...”
“ต้องทำให้พี่คนนั้นยอมรับให้ได้ว่าเราคือน้องรหัสของเขา โอเคนะครับ!!”
จบประโยคของพี่เขา เสียงจอแจก็เกิดขึ้นทันทีทันใด แต่พอพี่โจอี้เดินมาว้ากทีเสียงต่างๆก็ค่อยเงียบลงอีกครั้ง ส่วนพวกพี่ๆก็ให้น้องๆเดินเรียงแถวกันไปจับฉลากโดยมีพี่แสนดีเป็นคนถือกล่องฉลากให้อยู่ ใครที่จับแล้วก็สามารถกลับบ้านได้เลย โดยที่พี่ซิกย้ำเสียงดังๆอีกว่า ‘พรุ่งนี้แปดโมงเช้า ใครสายเจอซ่อมหนัก’
“โชคดีนะน้องไนน์” พี่แสนดีอวยพรให้ระหว่างที่ผมกำลังยื่นมือลงไปหยิบฉลากในกล่องมาหนึ่งแผ่น
“ครับ” ผมตอบรับด้วยเสียงแหบพร่าพร้อมกับส่งยิ้มบางๆให้
อ๊าาาห์ห์ห์ 08 นำมาเลยจ้า ถูกแหละคงไม่มีใครใช้เบอร์บ้านหรอกครับ
“มึงๆได้เบอร์ไรวะ” ไอ้สีน้ำวิ่งเข้ามาแบบโคตรตื่นเต้น คือมึงตื่นเต้นอะไรเนี่ย กูตื่นเต้นไปด้วยแล้วเนี่ย
“นี่อ่ะ”
“นี่ของกู ทำไมเบอร์มึงไม่คุ้นเลยวะ” ส่วนไอ้สีไม้เดินเข้ามาก็ถามด้วยคำถามแปลกๆ
“หรือของมึงคุ้น”
“คุ้นไง” ห๊ะ อะไรนะ ไอ้สีไม้มันจะไปคุ้นมาจากไหนวะ ของรุ่นพี่นะเว้ย
“ก็กูจำได้ว่าเบอร์นี้มันโทรมาหากูเมื่อคืน แต่กูไม่ได้รับหรอก” ไอ้สีไม้พูดพลางทำท่าทางงงๆอยู่
“งั้นก็อาจจะเป็นคนที่มึงรู้จัก งั้นก็ดีดิวะค่อยหาง่ายหน่อย”
“แต่กูไม่รู้จักใครเลยนี่สิ ประเด็น!” ไอ้สีไม้พูดเสียงดัง ผมหันไปเห็นไอ้สีน้ำทำท่าตกใจ คือมึงจะตกใจอะไรเสียงพี่มึง หรือว่า....
“ไอ้สีน้ำ!”
“กูเปล่า” นั่นไงถ้าผมคิดไม่ผิด ไอ้สีน้ำมันต้องรู้เรื่องเบอร์นี้แน่เลย แต่ก็นะ ผมเป็นคนรักเพื่อน...
“กูรู้แล้วว่าใคร ส่วนคนโง่ๆแบบมึงก็จมปรักกับไอ้เบอร์ห่านี่และความสงสัยของมึงต่อไปนะ” ผมพูดทิ้งไว้ส่วนไอ้สีไม้นี่โวยวายใหญ่เลย คนทำคือน้องมึงนะ มึงนี่ยังไม่ฉลาดซะที และสรุปคือให้มันหาเองต่อไป นี่แหละรักเพื่อน5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555บวก
“เออสีน้ำมึงกับพี่โง่ๆของกลับไปก่อนนะวันนี้ เดี๋ยวกูต้องไปเอาของที่พี่เป้ยก่อน” ผมบอกลาไอ้สองแฝดก่อนจะเดินแยกออกมาไปเอาของที่พี่เป้ยหรือแฟนพี่ไนท์นั่งเอง เพราะพี่ไนท์มันสั่งไว้เมื่อสองสามวันก่อนว่าให้มาเอาของไปให้พี่มันด้วย เออนี่ถ้าไม่ติดว่าจำได้นี่ลืมไปแล้วนะ เออๆช่างมันเหอะ
“มีไรเปล่า” ผมถามทันทีที่นั่งรอพี่เป้ยอยู่ที่โรงอาหารซึ่งอยู่ใกล้ๆกับสนาม เออสนามไม่เกี่ยวไรหรอกแต่อยากบอก อิอิ หันมาเจอเพื่อนผู้ชายคนนึงที่ผมจำได้ว่านั่งแถวใกล้ๆกันตอนประชุมเชียร์นั่นแหละ ท่าทางเหมือนจะพูดอะไรกับผมแต่ก็อึกอักไม่ยอมพูด พร้อมกับขยับตัวเข้ามาใกล้ๆผมมากขึ้นเพราะเมื่อกี๊มันอยู่ไกลนิดๆ
“ชื่อไรอ่ะ”
“ไนน์ มึงอ่ะ” ผมถามกลับอย่างเป็นมิตร
“เจมส์ อะนี่!” เพื่อนใหม่ที่ชื่อเจมส์ส่งเสื้อแขนยาวสีเทาตัวไม่หนามากมาให้ ผมรับมาด้วยความงงๆ
“ให้ทำไมวะ?”
“คือนี่แหละที่กูไม่กล้าบอกมึง” ไอ้เจมส์พูดพร้อมกับหน้าแดงๆ เป็นไรวะร้อนเหรอ
“ขอตรงๆ”
“เสื้อมึงมองได้ทะลุปรุโปร่งมากอ่ะ แล้วเสียงมึงแหบๆแบบนี้นี่ยิ่งกว่าเสียงครางอีก กูว่าร้อยทั้งร้อยแม่งมองหน้าอกมึง...”
“เห้ยพอแล้วๆๆๆ” ผมเอาเสื้อที่รับจากมันมาขึ้นปิดที่หน้าอกตัวเองทันที แล้วห้ามมันให้หยุดก่อนที่มันจะพูดอะไรเลยเถิดไปก่อนนี้
“ฮ่าๆๆมึงขอตรงๆเองนี่หว่า” ไอ้เจมส์พูดติดตลก กูไม่ขำนะกูจะร้อง
“พอเลยๆ” ผมว่าพลางผลักหัวมันเบาๆ มีใครเคยบอกรึเปล่าว่าผมเล่นได้ทุกรุ่น กูเล่นได้กระทั่งคนที่กูพึ่งรู้จักนี่แหละจ้า
แต่คนที่ทำให้กูเป็นแบบนี้นี่กูเล่นหนักแน่ครับ เดี๋ยวรู้ๆครับพี่ซิก
TBC...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ