SOTUS พี่ว้ากครับ...ผมรักพี่
เขียนโดย faiisis
วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 21.39 น.
แก้ไขเมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 22.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) บทที่หนึ่งของน้องปีหนึ่ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ1
____________________________________________
เสียงพูดคุยที่ดังกระหึ่มอยู่ทั่วสารทิศของนักศึกษาน้องใหม่ปีหนึ่งที่เดินเข้ามาลงทะเบียนเรื่อยๆ แต่ทันทีที่เจอรุ่นพี่ปีสามคนนึงที่ยืนอยู่ว้ากเข้าไปถึงกับพร้อมใจกันเงียบอย่างดี
“เห้ยนี่คุณ เดินไปอีกสิครับ เห็นที่ว่างข้างหน้าไหม!” นั่นไงโดนกับตัวจนได้ นี่จะให้ขยับอะไรนักครับ ถ้ากูสิงไอ้คนข้างหน้าได้นี่กูสิงไปแล้วนะครับ
แต่ก็ขยับตามที่พี่เขาสั่งครับ ทำตัวดีๆจะได้มีคนรัก ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว หันมามองไอ้พี่ว้ากที่มันสั่ง แต่ไม่รู้โลกมันกลมหรือพรหมลิขิตบันดาบชักพา ดลให้มาพบกันทันใด บุพเพสันนิบาทชัดๆ
“ไอ้....” ปากไปไวกว่าสมอง ผมนี่อ้าปากจะด่าออกไป แต่ดูเหมือนจะช้ากว่าไอ้พี่ว้ากปากหมาคนนั้น
“ไอ้เด็กนี่อีกแล้วเหรอวะ!!!” พร้อมกับชี้หน้า ทำให้หลายคนที่อยู่ใกล้ๆกับที่ผมยืนอยู่หันมามองกันเป็นแถบๆ
อยากถามตัวเองซ้ำๆ อายไหม?
“เห้ยมีไรวะ” พี่อีกคนนึงเดินตรงเข้ามาหาเราสองคน คำด่าที่กำลังจะออกจากปากของผมถูกกลืนหายไปทันที หน้าที่ออกจะโหดหน่อยๆ แต่เสียงนี่ไม่เท่าไหร่ ภาวนาให้พี่เป็นคนดีนะ สาธุ -_-;
“เด็กเวรนี่ไงที่วันนั้นมันชนกู ขอโทษสักคำก็ไม่มี”
“น้องมันไม่ได้ตั้งใจมึงอย่าไปถือสาเลย เออไอ้เจมส์เรียกมึงอ่ะ รีบๆไปเหอะ”
“เออๆก็ได้วะ...” เหมือนจะอภัยให้ แต่พี่ที่ชื่อซิกก็ยังชี้หน้าอย่างคาดโทษ แบบเดี๋ยวมึงเจอกู ก่อนจะเดินหายไปกับกลุ่มคน
“ชื่ออะไร”
“เอ่อ ไนน์ครับ”
“พี่ชื่อแสนดีนะ”
โอ้โห ชื่อพี่แม่งโคตรเข้ากับหน้าเลย บอกตรงๆหน้าพี่โหดนะ แต่คำพูดพี่โคตรดีอ่ะ ประโยคดังกล่าวที่ว่ามาก็คิดมันไว้ในใจนั่นแหละ
ไม่ทันจะได้คุยอะไร อันที่จริงก็ไม่ได้คิดจะคุยนะ-_- พี่แสนดีบอกให้ผมไปลงทะเบียนเพราะถึงผมแล้ว ยกมือไหว้ขอบคุณอย่างงงๆ ก่อนจะเดินมาลงทะเบียน รับป้ายชื่อไปอย่างว่องไว
“อ้าวไอ้ไนน์ มึงมาตั้งแต่ตอนไหนวะ”
“สักพักละ ไอ้สีไม้ไปไหนวะ?” ผมถามเมื่อเห็นไอ้สีน้ำเดินมาคนเดียว
“ไม่รู้ว่ะ เดินหามันอยู่เนี่ย หาแม่งไม่เจอ เซ็งควายเลย” อ้าวนี่มึงว่าพี่มึงเป็นควายเลยเหรอะ แฝดคู่นี้นี่รักกันดีนะครับ แหม่
“เออๆ เดี๋ยวกูช่วยหา”
เป็นอันว่ายุติการสนทนาแล้วเดินหาแฝดพี่ของไอ้สีน้ำหรือเพื่อนผมนั่นเอง สรุปเดินหามันเจอที่ห้องน้ำ แล้วพวกผมสามคนก็กลับมาเข้าแถวตามคำสั่งพี่ๆก่อนจะไปหอประชุมเพื่อนั่งฟังบรรยายมากมายสารพัดสรรพคุณของคณะ นั่งๆไปก็เบื่อ พอผมเบื่อเท่านั้นแหละแม่งเบื่อเลย เออๆไม่เล่นก็ได้ สรุปคือผมเบื่อเลยหันมาคุยกับสองหน่อแดงเขียว แดงเขียวนี่คือหัวของพวกมันสองคนนะ ไอ้สีไม้ทำสีเขียว ส่วนไอ้สีน้ำมันทำสีแดง ช่างมิกแอ็นด์แมทกันได้ดีเลยทีเดียวเชียวครับ
คุยกันไปคุยกันมารู้ตัวอีกทีประชุมเลิกพอดี นักศึกษาค่อยๆทยอยเดินออกจากห้องประชุม
“มึงกลับเลยป่ะ หรือไปไหนต่อ” ไอ้สีไม้ถาม
“กูต้องกลับก่อนว่ะ แม่บอกข้างบ้านมีคนย้ายมาอยู่ใหม่ว่ะ สุดหล่อต้องไปต้อนรับ” บอกพลางขยิบตาให้ไปสองที
“ขอให้คนที่ย้ายมาใหม่แม่งเป็นกระเทยเถ๊อะ เพี้ยง!!” พูดพลางพนมมือ เป่ามาที่หัวผมเบาๆเป็นเชิงให้พร แต่ขอโทษครับพรแบบนี้ไม่ต้องครับ ไม่ต้องการ!!!!!!!!
“เออครับ กูก็ขอให้พวกมึงถูกฉุดไปเย่อกลางทางนะครับ บาย” ให้พรสองพี่น้องก่อนจะวิ่งหนีมันออกมา ได้ยินเสียงโวยวายดังมาทีหลัง
“อ้าว กลับมาแล้วเหรอไนน์” ทันทีที่ผมก้าวเข้ามาในรั้วบ้านก็มีเสียงทุ้มไพเราะสะเนาะหู (เว่อร์ไปละ) ทักผมขึ้นมา พี่ผมเองแหละครับ ชื่อพี่ไนท์ ที่แปลว่ากลางคืนอ่ะ ชอบเที่ยวกลางคืนด้วยนะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขำอะไรวะ เออช่างมัน แต่คือพี่มันหวงผมมากอ่ะ พี่ไนท์มันบอกว่า...
ถ้าคนที่มาจีบมึงเป็นผู้หญิงนะ กูจะไม่หวงมึงเลย แล้วมึงดูนี่ดิ แต่ละคนนี่แบบ...หล่อล่ำแฮนด์ซั่มกว่าพี่มึงอีก!!!!!!
แล้วตอนพี่ไนท์พาแฟนมาบ้านนะ แฟนพี่ไนท์นี่แทบจะเขย่าผมเล่นเกือบตาย บอกว่าผมเหมือนตุ๊กตา เออเอาเข้าไป พูดอีกว่าสะเบ้าหน้าผมสวยกว่าพี่เขาซะอีก ทั้งๆที่ผมเป็นผู้ชาย และพี่เขาคือ.........ผู้หญิง -_-;
“ยังครับ นี่ถอดญาณมาอ่ะ กะจะมาหลอกพี่หน่อยอ่ะ โห่ ไม่เห็นกลัวเลย” หน้าพี่ไนท์เปลี่ยนจากยิ้มแย้มกลายมาเป็นหน้าหงิก ไม่ทันที่พี่ไนท์จะได้พูดอะไร ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างลอยเคว่งมาใกล้หัว
ทุ้บ!
บู้มมมมมมม! เกิดเป็นโกโก้ครั้น
“เห้ย ไอ้ไนน์!!!” พี่ไนท์เรียกผมด้วยสีหน้าและท่าทางตกใจ
เดี๋ยวนะทำไมหัวมันเจ็บๆ แล้วจู่ๆก็มีกระป๋องโค้กตกอยู่ใกล้ๆที่ผมยืน
“เห้ยอย่า!!” พี่ไนท์ร้องเสียหลงห้ามทันทีที่ยกมือขึ้นจับที่หน้าผาก น้ำอะไรวะเหนอะๆ
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“อ้ากกกกก เลือดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!”
“อ้ากกกกก เลือดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!”
“เห้ยงานงอกแล้วไอ้ฟิวส์! ไอ้เวร!!!” ผมด่าไอ้ฟิวส์เพื่อนรักทันที ก็วันนี้ผมย้ายของเข้าบ้านใหม่พ่อกับแม่ท่านก็ไม่อยู่เพราะต้องไปทำธุระกันกว่าจะกลับก็ดึกๆ
ผมเลยชวนไอ้ฟิวส์มาช่วยผมย้ายของ แต่มันทะลึ่งบ้องไง เล่นอะไรไม่เล่นมันเสือกเล่นโยนกระป๋องโค้ก แล้วกระป๋องมันก็โยนแรงเกินแรงขนาดไหนก็ดูเอาเถอะเล่นข้ามบ้านขนาดนี้
“มีใครเป็นอะไรไหมครับ!!!” ผมรีบวิ่งไปอีกบ้านด้วยความร้อนรน เพราะมีเสียงโวยวายดังขึ้น
ถือวิสาสะเปิดประตูรั้วเข้าไป ก็พบกับผู้ชายสองคน คนนึงกำลังวิ่งเข้าไปรับอีกคนนึงที่กำลังจะสลบลงกับพื้น ไปรอช้าผมวิ่งตรงเข้าไปหาทั้งคู่อย่างทันที ทำให้ผมเห็นใบหน้าของคนที่สลบอย่างชัดเจน
ใบหน้าหวานราวกับผู้หญิง จมูกโด่งรั้นสวย ปากเล็กรูปกระจับน่ารัก ขนตายาวเป็นแพรนั่นยิ่งขับให้ใบหน้านั้นดูยิ่งน่าสนใจยิ่งขึ้น แม้กระทั้งรูปร่างบอบบางเหมือนผู้หญิง
“เอ่อ คือ น้องเขา...” ผมอึกอักพูดไม่ออก
“แค่สลบน่ะ มันไม่ได้เป็นไรมากหรอกครับ แค่กลัวเลือด” ดูจากลักษณะท่าทางของคนตรงหน้าเขามีเป็นผู้ใหญ่พอสมควร ไม่แก่กว่าก็อายุเท่ากัน ทำท่าจะอุ้มคนตัวเล็กเข้าบ้านแต่ดูเหมือนมือของเขาจะได้รับบาดเจ็บมาก่อนเพราะที่มือมีผ้าพันแผลพันอยู่รอบมือ จึงร้องออกมาเบาๆด้วยความเจ็บ
“ให้ผมช่วยดีกว่าครับ” พูดพลางยกคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขนทันที โดยมีผู้ชายคนนั้นเป็นคนเปิดตูบ้านให้
“รบกวนหน่อยแล้วกันครับ”
เดินนำเข้ามาในบ้านตรงดิ่งไปที่โซฟาในห้องรับแขก วางร่างบางลงบนโซฟาอย่างแผ่วเบา ส่วนผู้ชายคนนั้นขอตัวไปเอากล่องปฐมพยาบาลมาทำแผลถลอกเล็กๆบนหน้าผากของคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ตอนนี้
ทิ้งตัวนั่งโซฟาตัวข้างๆ สายตากวาดสำรวจใบหน้าของอีกคนให้ชัด
และดูเหมือนผมจะคุ้นหน้ากับเด็กคนนี้มาก....
“เดินชนคนอื่นเขาขอโทษซักคำก็ไม่มี นี่ยังจะมาด่าอีกเหรอวะ หา!!!!!”
ถ้าจำไม่ผิดมันเด็กคนนั้นแน่ คนที่ชนกับผมตอนนั้น ตัวเองล้มแต่ปากก็ยังคงด่าผม ตอนนั้นผมรีบมากจนไม่ได้แม้แต่ขอโทษ พอเจออีกคนด่าเข้าไปจากที่ผมหงุดหงิดอยู่แล้วกลับทำให้หงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมอีก แต่ตัวเล็กตรงหน้านี้เหมือนกับคนละคน พอตอนหลับดูไร้ผิดภัย น่าถนุถนอมกว่าตอนตื่นซะอีก
ไม่รู้ผมมองน้องนานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่รู้ตัวอีกทีผู้ชายคนนั้นก็เดินกลับมาพร้อมกับกล่องปฐมพยายาบาลในมือด้วย
“เอ่อ คุณ...”
“ผมซิกครับ พึ่งย้ายเข้ามาบ้านข้างๆครับ” ผมตอบอย่างเป็นมิตรไป
“ผมไนท์นะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ แล้วก็ขอโทษที่ไม่ได้ต้อนรับเพื่อนบ้านให้ดีซักหน่อย” ว่า ในมือก็ทำแผลในคนตัวเล็กอย่างเบามือไปด้วย
“ไม่เป็นไรครับ ยังไงคนทำก็เพื่อนผมเอง ว่าแต่คุณอยู่กับน้องเขาสองคนเหรอครับ”
“เรียกผมพี่ไนท์ก็ได้ครับ ดูเหมือนผมจะแก่กว่า ที่จริงก็ไม่ได้อยู่กันแค่สองคนหรอกครับ แต่พ่อกับแม่อยู่ต่างประเทศน่ะ พี่เลยเที่ยวสบายหน่อย ฮ่าๆ” พี่ไนท์ว่าพลางหัวเราะเล็กน้อย พี่เขาดูเป็นกันเอง แถมยังดูเป็นผู้ใหญ่ซะด้วย ต่างกับไอ้คนที่นอนอยู่เลย
“ผมก็ชอบเที่ยวครับ ว่าแต่น้องพี่ชื่ออะไรเหรอครับ”
“ไนน์น่ะ มันเป็นเด็กที่ค่อนข้างดื้อซะหน่อย หัวแข็งใช่ย่อย ที่สำคัญงอแงอย่างกับเด็ก ฮ่าๆๆๆ” ผมนั่งฟังพี่ไนท์พูดไปก็มองหน้าไอ้เด็กแสบไปด้วย หลังจากนั้นผมกับเขาก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย ดูเหมือนเราสองคนจะคอเดียวกัน พี่ไนท์เหมือนเป็นคนเข้ากับคนง่าย เราเลยสนิทกันในเวลาที่นั่งคุยกันแค่แป๊บเดียว พี่ไนท์ชวนผมทานข้าวเย็นด้วยกัน แต่ผมต้องขอตัวเพราะต้องกลับมาย้ายของต่อให้เสร็จ
จะว่าไป จำได้ว่าตอนแรกมีไอ้ฟิวส์อยู่ด้วยนิ.....
ไอ้เพื่อนเวร!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“วิศวะปีหนึ่งครับ!!!! มารวมกันตรงนี้!!!!”
เสียงเข้มสั่งอย่างเหี้ยมโหด ปีหนึ่งวิ่งมารวมตัวกันที่ซุ้มอย่างรวดเร็วตามคำสั่ง เป็นที่รู้กันดีว่าพี่ว้ากของคณะวิศวะมหาลัยนี้โหดที่สุด
“วิศวะต้องเป็นระเบียบ!! ตรงต่อเวลา!! คุณทำตัวแบบนี้จะทำอะไรรอดครับ!!! รู้ตัวว่าช้าก็หมอบครับ!”
สิ้นเสียงพี่ว้ากเป็นอันว่าสิ้นสุดทุกคนต้องทำตาม ถ้าขืนไม่ทำตามละก็...โดนซ่อมเละครับ
“เห้ย ไอ้น้องคนที่หัวเขียวๆอ่ะ พ่อเป็นแมลงวันหรือไงครับ พรุ่งนี้ย้อมกลับ รับทราบ!!” เสียงพี่ว้ากอีกคนดังขึ้น อ้าวหัวเขียวนี่ใช่เพื่อนผมป่ะ มองกวาดไปทั่วก็ไม่มีใครแล้วนะ เออเพื่อนผมครับเพื่อนผม
“ไอ้ห่านี่อีกละ แม่ง....” ไอ้สีไม้บ่นออกมาเบาๆ ส่วนพี่ว้ากคนนั้นก็หัวเราะอย่างชอบใจ เออสีไม้แม่งมีความหลังกับพี่คนนี้แน่ๆ
“เกิดไรขึ้นวะ เล่ามา” ถามด้วยหน้าตาอยากรู้อยากเห็น งานหลักครับ
“คือ...”
ตอนนั้นที่สีน้ำกับไนน์เดินหาเขาอยู่ ก่อนหน้านั้นสีไม้กำลังจะเดินไปลงทะเบียนแล้วรับป้ายชื่อ จู่ๆก็มีเสียงใครอีกคนอ่านชื่อของเขาจากป้ายชื่อที่เขารับมาอยู่ใกล้ๆ
“สี...ไม้ งั้นเหรอ”
“มีอะไรเหรอครับ?” สีไม้ถามพลางทำหน้ากวนตีน เขาเป็นคนแบบนี้อยู่แล้วไม่ชอบให้ใครมายุ่ง ยิ่งคนตรงหน้าเขาเป็นหน้ากระล่อนแบบนี้ด้วยเขายิ่งไม่ชอบใหญ่
“เปล่าครับ ชื่อน้องน่ารักดี พี่ชื่อโจอี้นะครับ”
“มีอะไรอีกไหมครับ ถ้าไม่มีงั้นขอตัวนะครับ” สีน้ำตัดบท
“เดี๋ยวก่อนสิครับๆ” โจอี้วิ่งตามมา ก่อนจะคว้ามือสีไม้เอาไว้ ร่างบางหันมามองอย่างไม่พอใจก่อนจะสบัดมือออก
“อะไร”
“ขอเบอร์หน่อย”
“ผมเป็นผู้ชายนะ!!!” โจอี้ไม่สนใจคำตอบของสีไม้ เพียงแต่ยักไห่เป็นเชิงว่า แล้วไง แค่ครั้งแรกที่เขาเจอสีไม้ก็ชอบเลย สีไม้เป็นผู้ชายคนแรกที่เขาชอบ(นอกนั้นผู้หญิง) ต่อให้ใครจะว่าเขาว่าวิปริตอะไรก็ช่าง แต่ในเมื่อเขาชอบเขาก็ต้องได้ เขาคิดแบบนั้น
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัว” สีไม้ตัดบทอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าเขาไม่ตกใจที่มีผู้ชายมาขอเบอร์แบบนี้ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งไง...ไม่ใช่ครั้งที่เขาโดนผู้ชายด้วยกันขอเบอร์
“จะไปไหนครับ ยังไม่ให้เบอร์พี่เลย”
“โว้ย เอาไปเลย อ่ะ!” สีไม้รับโทรศัพท์มาจากมือของโจอี้ จิ้มเบอร์ลงไปบนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหรู ก่อนจะเดินหนีร่างสูงไปเข้าห้องน้ำอย่างไว ส่วนโจอี้ก็ไม่คิดจะตามไปตื้ออีกเพราะยังไง เขาก็ได้เบอร์โทรศัพท์ของอีกคนมาอยู่ในมือแล้ว
“แล้วมึงให้เบอร์เขาไปได้ไงวะ ง่ายว่ะ โหๆๆๆ” แฝดน้องที่คลานออกจากท้องแม่มาก่อนบ่น ไม่ต้องงงครับออกมาก่อนนี่แหละ ไอ้สีน้ำมันเล่าให้ผมฟังว่าออกก่อนเป็นน้องครับ เพราะมันเป็นพี่มันเสียสละเลยถีบน้องมันออกมาก่อน5555555555555555555555555 เออแม่งรักกันดีอ่ะ
“เบอร์มึงไงไอ้ฟาย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
“เดี๋ยวนะๆ” ไอ้สีน้ำถึงกับทำหน้างง ชี้หน้าแบบเบอร์กูเหรอ
“ใครคุย ยืนขึ้นครับ!!!” เสียงพี่ว้ากตะโกนดังขึ้น(กว่าเดิมx1000) ส่งให้ผมกับไอ้สองคนนี้สดุ้งตกใจ
ทุกคนกลับเงียบไม่มีใครตอบอะไร อาจเป็นเพราะพี่เขาไม่ได้เจาะจงเป็นรายคน ทำให้ทุกคนเงียบหมดหรืออาจจะเป็นเพราะ ไม่มีใครกล้า ที่จะลุกมาเผชิญหน้ากับพี่ว้ากตรงๆ
“ในเมื่อต่างคนต่างไม่มีความรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ...”
พรึ่บ!
เหมือนรู้ตัวอยู่แล้วว่าที่พี่ว้ากหมายถึงอาจจะเป็นพวกผม เราสามคนลุกขึ้นอย่างพร้อมเพรียง พี่ซิกถึงกับหน้าเหวอไปเล็กน้อยแต่ก็กลับมาดึงหน้าขึมเหมือนเดิม
ไม่ต้องสงสัยครับทำไมผมไม่ตกใจที่เจอไอ้พี่ซิกปากหมานี่อีก เตรียมใจมาแล้ว เดี๋ยวรู้กันครับพี่ซิกๆ
“มารยาทอะมีไหมครับ ไม่มีใครสั่งสอนรึไงครับ!!!” เจอคำถามนี้ไปถึงกับจี๊ดครับ เล่นกันอย่างงี้ไม่รู้ซะแล้วผมแสบขนาดไหน
“แต่มารยาทมันเลือกใช้กับใครได้หนิครับ” คำตอบของผมดูเหมือนจะทำให้พี่ว้ากถึงกับเงิบนิดๆ ไม่ใช่แค่พี่ว้ากอย่างเดียว รวมไปถึงเพื่อนปีหนึ่ง พี่ว้ากคนอื่นๆ แม้แต่เพื่อนผมยังถึงกับอึ้งๆที่ผมตอบไปอย่างนั้น
“เฮ้ยไอ้ไนน์” ไอ้สีไม้เรียกอย่างตกใจ
“กรุณาเคารพรุ่นพี่ด้วยครับ รุ่นพี่นะครับไม่ใช่เพื่อนพวกคุณ!!!” และดูเหมือนพี่ว้ากจะไม่พอใจอย่างแรงที่ผมตอบไปแบบนั้นคิ้วงี้ขมวดแบบมึงเล่นห่าอะไรกูไม่ขำกูเล่นมึงแน่
“อ้าวนึกว่าเล่นได้นะครับ” ผมตอบอย่างนิ่งๆ พลางทำหน้ากวนตีนนิดๆ ยักไหล่อย่างไม่เกรงกลัว แต่ใครว่าไม่กลัวที่จริงนี่กลัวนะ แต่เรื่องแบบนี้โดนทำโทษหน่อยนึงเพื่อแลกกันความสะใจนี่ต้องยอม5555555555
“เป็นรุ่นน้องอย่าปีนเกลียวรุ่นพี่ครับ!!!”
“ผมไม่ชอบปีนเกลียว ชอบปีนพี่มากกว่าครับ” ผมเชือดไปนิ่มๆอีกครั้ง สกิลพี่ต่ำกว่าอย่ามาเล่นกับผมครับ เบเบ เรียกเสียงฮือฮาจากที่คนได้ไม่น้อย ส่วนพี่ซิกก็ดูเหมือนจะพยายามระงับอารมณ์เอาไว้
“กฎคณะของเราที่นี่ คือ รุ่นน้องเคารพรุ่นพี่!!! และการเป็นหนึ่งเดียวสามัคคีกัน มีอะไรต้องรับผิดชอบร่วมกัน!!! และคุณไม่เคารพในกฎ…”
เอาแล้วไง งานงอกแล้วไง!!!
“ทุกคนไปวิ่งรอบสนามคนละห้ารอบ!! ปฏิบัติ!!!”
ปีหนึ่งทุกคนบ่นกระปอดกระแปดออกมาทันทีที่สิ้นคำสั่งพี่ซิก หันไปมองพี่ซิกที่ยิ้มอย่างร้ายกาจอยู่รัศมีทำลายร้างที่แผ่ออกมาจากตัวซิก รุ่นพี่ต้อนรับซะดีเลย น้ำตาจะไหล อบอุ่นเลยกู
พี่ซิกเล่นกูซะแล้ว สร้างความเฮฮาให้เพื่อนตั้งแต่แรกๆเลยกู TOT
TBC...
ฮัลโหลลลลล ไม่รอและลงเลยแล้วกัน แต่ต้องเม้นอยู่ดีนะเว้ยครับ555555555
ชอบไม่ชอบบอกได้ ถ้าชอบก็ขอบคุณนะ ซึ้งอ่ะน้ำตาจะไหล
แต่ถ้าไม่ชอบก็ เออ ช่างมันเหอะ55555555555 โอเคบาย อย่าลืมเม้นน้า เลิ้ปๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ