รักอันตรายกับนายมาเฟีย
7.8
เขียนโดย รีบอร์น
วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 16.29 น.
20 บท
9 วิจารณ์
35.77K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2556 16.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ "แฮ่ก แฮ่ก"
เสียงหอบเหนื่อยของฉันซึ่งได้ผ่านการวิ่งสี่คูณร้อยเมตรเนื่องด้วย โดนเจ้าชินหมาจรจัดที่หมู่บ้านต่างเอ็นดูและรักมันมากไล่กัดเพราะ วันนี้ฉันลืมเอาอาหารมาให้มัน เจ้าหมาเนรคุณแค่วันเดียวเองเดียวก็มีคนเอามาประเคนถึงที่แทนแต่ดูทำสิ ชิว่างๆฉันจะเอาตะกร้อครอบปากแกซักวันจะเอาให้โหยหาอาหารจนกัดใครไม่ได้เลย...
ปัง!
"...เสียงปืนนี้ ใครยิงอะไรนะ"
ฉันหันไปมองทางต้นเสียงก่อนตัดสินใจ(ไม่ได้คิดมากว่า)วิ่งไปตามเสียงปืนที่ดังขึ้น โกดังร้างหรอกเนี่ยทำไมถึงมีเสียงปืนแถวนี้ได้ละ ใครๆก็รู้ว่าที่นี้มันเฮี้ยนและก็น่ากลัวขนาดไหน ด้วยความที่ว่าฉันกลัวผีชนิดขี้ขลาดตาขาวเลยก็ว่าได้ เลยไม่กล้าเดินเข้าไปต่อ...
ปัง!ปัง!
เสียงปืนที่ยิงรัวสองนัดทำให้ฉันรู้ว่ามีคนอยู่ในนั้น เอาเถอะผีก้ผีซักครั้งจเป็นไรไปแค่จับไข้หัวโกรกล่ะนะ ฉันค่อยๆก้าวไปที่ละก้าวอย่างช้าๆก่อนเปลี่ยนเป็นสาวเท้าหนีคนด้านหลังอย่างสุดชีวิต ใคร ใครฟ่ะเนี่ย ใครมันตามหลังมา ขณะที่วิ่งไม่คิดชีวิตด้านหน้าของฉันก็มีคนพรวดพราดออกมาร่างที่โชนเลือด(ยังไม่ตายอีกเหรอ) ฉันจึงรีบวิ่งไปซ่อนในพุ่มไม้ข้างทางแทน
"King...kingไม่เป็นไรใช่ไมครับ"
king ชื่อคิงไงเหรอฉันเก้บความสงสัยแต่ก้ต้องสลัดความคิดพวกนั้นไปก็แค่พวกแปลกหน้าที่มาหมู่บ้าน แล้วปืนมาจากไหนฟ่ะ???ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ ฉันรีบคลานออกไปอีกด้านของโกดังน่ากลัวขนดไหนฉันก็ไม่สน ไอ้คนพวกเนี่ยน่ากลัวสุดแล้ว จากที่คลานอย่างรวดเร็วฉันก็มีความรู้สึกว่าตัวเองลอยด้วยมือของใครซักคน ร่างฉันถูกจับกระชากไปมาอย่างป่าเถื่อน หนอย แม่จะชกให้คว่ำเลย
"ปล่อยนะโว๊ย ปล่อยสิว่ะ"
"หุบปาก ถ้าไม่อยากตาย"
"ก็ปล่อยสิ...ลังแกได้แม้แต่เด็กผู้หญิง ไอ้ไร้ความสุภาพบุรุษ"
ด่าๆไปก่อนถ้าตายเพราะปากค่อยโทษตัวเองทีหลัง ฉันสบัดตัวไปมาก่อนถูกปล่อยอย่างนิ่มนวล(ตรงไหนฟ่ะ)ลงสู่พื้นทันที ชายตรงหน้าที่เลือดท่วมตัว(ยังมีชีวิตอยู่อีกเหรอ)มองฉันอย่างเยือกเย็น ลมหายใจรวนริก ใกล้ตายแล้วเหรอ
"ดูแล้วKingแทนพวกฉันด้วย ถ้าเธอหนีไปล่ะก็ฉันจะฆ่าเธอ"
"ทำไมฉันต้องทำตาม ไม่ใช่เรื่องของฉันแท้ๆ"
"ก็เธอวิ่งเข้ามาหาเรื่องถือว่าตกกระไดพลอยโจรไปด้วยแล้วกัน พวกเราไป"
"ฮ่ะ...เดี๋ยวสิ"
หนอย แม่จะปล่อยให้ไอ้คนที่แกฝากตายๆไปซะ ฉันมองตามอย่างตกตะลึง เอาจริงดิ ให้เด็กมานั่งเฝ้าว่าที่ศพเนี่ยนะ ไม่เอานะฉันไม่ชอบเฝ้าศพนะเฟ้ย ฉันเหลือบมองร่างที่โชกไปด้วยเลือดกลิ่นคาวโลหิตนั้นทำฉันแทบอ้วก ไม่ไหวๆขืนอยู่อีกสามวิฉันเป็นลมแน่ๆ
"นาย...ไหวหรือเปล่า"
"แอบด่าการ์เดี้ยนของฉันอยู่สินะ"
รู้ทันอีกฉันมองเขก่อนจะตบเรียกสติหนึ่งที(ระบายอารมณ์ที่การ์เดี้ยนนายทำไว้ด้วย)เขามองฉันอยากโกรธเคือง มองไปเถอะ ถ้าพวกนั้นมาฉันจะได้ไปซะทีไม่น่าวิ่งมาหาความซ่วยเลยน่าจะวิ่งหนีไอ้ชินไปทางอื่นซะก็ดี เขาทำสีหน้าเจ็บปวดก่อนทรุดร่างลงไปนอนกับพื้น
"เฮ้ย...อย่าเป็นไรนะ..."
"เจ็บ..."
เสียงเขดูทรมาน ฉันรีบเลี้ยงซ้ายแลขวาหาอะไรซักอย่างห้ามเลือดไม่ไงได้ตายจริงๆแน่ ได้ผ้าเช็ดหน้าของตัวเอง จำต้องโบกมือลาผ้าเช็ดหน้า(ปกติก็ไม่ได้ใช้อยู่แล้วติดตัวมาไงๆ) ฉันรีบม้วนๆพันปากแผลก่อนดึงตึงกำลังแล้วมัดให้แน่นที่สุดก่อนตบเรียกสติเพราะใบหน้านั้นเริ่มเย็นและดูจะหลับลงเรื่อยๆ
"อย่ามาตายนะ อย่าตายนะเฟ้ย...อย่างน้อยอยู่เพื่อให้ฉันรอดก่อนสิ"
เพราะนายฉันถึงมาซ่วยแบบนี้(ตัวเองต่างหากที่ผิดโง่วิ่งมาเองแท้ๆ)เสียงปืนถูกยิงอีกครั้งและยืดเยื้อจนคนเจ็บเริ่มไร้สติไปทุกขณะ เอาไงเอากัน แบกมันไปทั้งแบบนี้ล่ะ เมื่อคิดได้ฉันก็รีบแบกร่างสูงกว่าตัวเอง(สูงมาก)กลับบ้านตัวเอง...เพื่อให้พ่อพาไปส่งโรงพยาบาลจะได้หมดเคราะห์กันซะทีฉันพาเขากลับมาถึงบ้านในสภาพที่ฉันก็เปื้อนเลือดจากเขาไม่น้อยส่วนอีกร่างก็อึดใช้ได้เขาแข็งใจพยายามคุมสติจนฉันพามาถึงบ้านและจากนั้นฉันก็ปล่อยให้พ่อส่งโรงพยาบาลโดยด่วน...หมดเคราะห์กันซะที...
โปรดติดตามตอนต่อไป
เสียงหอบเหนื่อยของฉันซึ่งได้ผ่านการวิ่งสี่คูณร้อยเมตรเนื่องด้วย โดนเจ้าชินหมาจรจัดที่หมู่บ้านต่างเอ็นดูและรักมันมากไล่กัดเพราะ วันนี้ฉันลืมเอาอาหารมาให้มัน เจ้าหมาเนรคุณแค่วันเดียวเองเดียวก็มีคนเอามาประเคนถึงที่แทนแต่ดูทำสิ ชิว่างๆฉันจะเอาตะกร้อครอบปากแกซักวันจะเอาให้โหยหาอาหารจนกัดใครไม่ได้เลย...
ปัง!
"...เสียงปืนนี้ ใครยิงอะไรนะ"
ฉันหันไปมองทางต้นเสียงก่อนตัดสินใจ(ไม่ได้คิดมากว่า)วิ่งไปตามเสียงปืนที่ดังขึ้น โกดังร้างหรอกเนี่ยทำไมถึงมีเสียงปืนแถวนี้ได้ละ ใครๆก็รู้ว่าที่นี้มันเฮี้ยนและก็น่ากลัวขนาดไหน ด้วยความที่ว่าฉันกลัวผีชนิดขี้ขลาดตาขาวเลยก็ว่าได้ เลยไม่กล้าเดินเข้าไปต่อ...
ปัง!ปัง!
เสียงปืนที่ยิงรัวสองนัดทำให้ฉันรู้ว่ามีคนอยู่ในนั้น เอาเถอะผีก้ผีซักครั้งจเป็นไรไปแค่จับไข้หัวโกรกล่ะนะ ฉันค่อยๆก้าวไปที่ละก้าวอย่างช้าๆก่อนเปลี่ยนเป็นสาวเท้าหนีคนด้านหลังอย่างสุดชีวิต ใคร ใครฟ่ะเนี่ย ใครมันตามหลังมา ขณะที่วิ่งไม่คิดชีวิตด้านหน้าของฉันก็มีคนพรวดพราดออกมาร่างที่โชนเลือด(ยังไม่ตายอีกเหรอ) ฉันจึงรีบวิ่งไปซ่อนในพุ่มไม้ข้างทางแทน
"King...kingไม่เป็นไรใช่ไมครับ"
king ชื่อคิงไงเหรอฉันเก้บความสงสัยแต่ก้ต้องสลัดความคิดพวกนั้นไปก็แค่พวกแปลกหน้าที่มาหมู่บ้าน แล้วปืนมาจากไหนฟ่ะ???ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ ฉันรีบคลานออกไปอีกด้านของโกดังน่ากลัวขนดไหนฉันก็ไม่สน ไอ้คนพวกเนี่ยน่ากลัวสุดแล้ว จากที่คลานอย่างรวดเร็วฉันก็มีความรู้สึกว่าตัวเองลอยด้วยมือของใครซักคน ร่างฉันถูกจับกระชากไปมาอย่างป่าเถื่อน หนอย แม่จะชกให้คว่ำเลย
"ปล่อยนะโว๊ย ปล่อยสิว่ะ"
"หุบปาก ถ้าไม่อยากตาย"
"ก็ปล่อยสิ...ลังแกได้แม้แต่เด็กผู้หญิง ไอ้ไร้ความสุภาพบุรุษ"
ด่าๆไปก่อนถ้าตายเพราะปากค่อยโทษตัวเองทีหลัง ฉันสบัดตัวไปมาก่อนถูกปล่อยอย่างนิ่มนวล(ตรงไหนฟ่ะ)ลงสู่พื้นทันที ชายตรงหน้าที่เลือดท่วมตัว(ยังมีชีวิตอยู่อีกเหรอ)มองฉันอย่างเยือกเย็น ลมหายใจรวนริก ใกล้ตายแล้วเหรอ
"ดูแล้วKingแทนพวกฉันด้วย ถ้าเธอหนีไปล่ะก็ฉันจะฆ่าเธอ"
"ทำไมฉันต้องทำตาม ไม่ใช่เรื่องของฉันแท้ๆ"
"ก็เธอวิ่งเข้ามาหาเรื่องถือว่าตกกระไดพลอยโจรไปด้วยแล้วกัน พวกเราไป"
"ฮ่ะ...เดี๋ยวสิ"
หนอย แม่จะปล่อยให้ไอ้คนที่แกฝากตายๆไปซะ ฉันมองตามอย่างตกตะลึง เอาจริงดิ ให้เด็กมานั่งเฝ้าว่าที่ศพเนี่ยนะ ไม่เอานะฉันไม่ชอบเฝ้าศพนะเฟ้ย ฉันเหลือบมองร่างที่โชกไปด้วยเลือดกลิ่นคาวโลหิตนั้นทำฉันแทบอ้วก ไม่ไหวๆขืนอยู่อีกสามวิฉันเป็นลมแน่ๆ
"นาย...ไหวหรือเปล่า"
"แอบด่าการ์เดี้ยนของฉันอยู่สินะ"
รู้ทันอีกฉันมองเขก่อนจะตบเรียกสติหนึ่งที(ระบายอารมณ์ที่การ์เดี้ยนนายทำไว้ด้วย)เขามองฉันอยากโกรธเคือง มองไปเถอะ ถ้าพวกนั้นมาฉันจะได้ไปซะทีไม่น่าวิ่งมาหาความซ่วยเลยน่าจะวิ่งหนีไอ้ชินไปทางอื่นซะก็ดี เขาทำสีหน้าเจ็บปวดก่อนทรุดร่างลงไปนอนกับพื้น
"เฮ้ย...อย่าเป็นไรนะ..."
"เจ็บ..."
เสียงเขดูทรมาน ฉันรีบเลี้ยงซ้ายแลขวาหาอะไรซักอย่างห้ามเลือดไม่ไงได้ตายจริงๆแน่ ได้ผ้าเช็ดหน้าของตัวเอง จำต้องโบกมือลาผ้าเช็ดหน้า(ปกติก็ไม่ได้ใช้อยู่แล้วติดตัวมาไงๆ) ฉันรีบม้วนๆพันปากแผลก่อนดึงตึงกำลังแล้วมัดให้แน่นที่สุดก่อนตบเรียกสติเพราะใบหน้านั้นเริ่มเย็นและดูจะหลับลงเรื่อยๆ
"อย่ามาตายนะ อย่าตายนะเฟ้ย...อย่างน้อยอยู่เพื่อให้ฉันรอดก่อนสิ"
เพราะนายฉันถึงมาซ่วยแบบนี้(ตัวเองต่างหากที่ผิดโง่วิ่งมาเองแท้ๆ)เสียงปืนถูกยิงอีกครั้งและยืดเยื้อจนคนเจ็บเริ่มไร้สติไปทุกขณะ เอาไงเอากัน แบกมันไปทั้งแบบนี้ล่ะ เมื่อคิดได้ฉันก็รีบแบกร่างสูงกว่าตัวเอง(สูงมาก)กลับบ้านตัวเอง...เพื่อให้พ่อพาไปส่งโรงพยาบาลจะได้หมดเคราะห์กันซะทีฉันพาเขากลับมาถึงบ้านในสภาพที่ฉันก็เปื้อนเลือดจากเขาไม่น้อยส่วนอีกร่างก็อึดใช้ได้เขาแข็งใจพยายามคุมสติจนฉันพามาถึงบ้านและจากนั้นฉันก็ปล่อยให้พ่อส่งโรงพยาบาลโดยด่วน...หมดเคราะห์กันซะที...
โปรดติดตามตอนต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ