Chronicles Of Legend. ปฐมบทแห่งตำนาน
7.3
เขียนโดย LanzaDeLuZ
วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.07 น.
67 chapter
7 วิจารณ์
64.16K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย
67) ...นัยแห่งราชศาสตรา...(1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ=====================================================
...เรย์ลาลีนเรียกราชศาสตราโลหะเงินที่มีสภาพเป็นเกราะกำบังกลับมากลายสภาพเป็นดาบอย่างหยาบๆและยกขึ้นตั้งท่าป้องกันไว้ พร้อมกับจ้องเขม็งไปที่หญิงสาวู้เต็มไปด้วยปริศนาตรงหน้า แต่ทั้งๆที่เขาตั้งท่าเตรียมพร้อมพร้อมกับเร่งจิตคุกคามถึงระดับสูงสุดแบบนี้ แต่พริสซิลล่ากลับไม่ได้แผ่รังสีกดดันอะไรตอบกลับมาเลย เธอเอาแต่ยิ้มน้อยๆขณะมองมาที่เขา ก่อนจะบกมือทั้งสองชูขึ้นเหมือนกับจะบอกว่าเธอไม่ได้พกอาวุธมา แม้ว่าเธอจะรู้ดีว่ามันไม่ทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าลดแรงกดดันลงเลยก็ตาม...
" ใจเย็นๆน่า เรย์ฯ "
" แปลว่าจะหักกันตรงนี้จริงๆสินะ! "
" เฮ้ๆ นายแปลคำว่า ใจเย็นๆ อีท่าไหนให้แปลว่า ฉันจะฆ่านาย ได้ล่ะเนี่ย? เอาน่าๆ แค่ใจเย็นลงหน่อย ฉันมาที่นี่เพื่อจะคุยด้วยเฉยๆเท่านั้น "
" คุยด้วย?! " จอมเวทย์หนุ่มทวนคำเสียงสูงปรี๊ดแสดงถึงความไม่เชื่อใจกันแบบเต็มที่
" ช่ายยย คุยด้วย...ไม่เห็นต้องทำเสียงแบบนั้นเลยนี่ มันหยาบคายนะ "
" โห หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมา นี่เธอยังจะกล้าพูดเรื่องหยาบคายอีกเหรอ? "
" คิดมากน่า...ฉันรู้ว่านายไม่ใช่ผู้ชายที่ชอบคิดเล็กคิดน้อยอะไรแบบนั้น เอาน่า แค่ฟังฉันหน่อยเท่านั้นเอง "
เรย์ลาลีนเหลือบมองคลาเดียในกรงคริสตัลใสที่บัดนี้ตัวสั่นสะท้านนั่งขดตัวอยู่ด้วยความหวาดกลัวอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ แม้จะไม่รู้สาเหตุแต่แต่สัญชาตญาณของเธอก็สั่งให้เธอหวาดกลัวพริสซิลล่าอย่างไม่มีเหตุผล แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังมีกรงคริสตัลที่ผู้มีพลังพิเศษไม่อาจฝ่าได้ป้องกันอยู่...ถึงจะพูดแบบนั้นแต่เขาก็ยังอดกังวลไม่ได้อยู่ดี
" แหม...ท่าทางลอกแล่กจังนะ โธ่เอ้ย ก็บอกว่าไม่ได้มาสู้ๆ หัดเชื่อใจกันบ้างสิ "
เรย์ลาลีนสบถพึมพำเบาๆ...กล้าพูดเรื่องความเชื่อใจกันนะ...
ถึงจะยังไม่ได้ลดดาบลง แต่จิตคุกคามของเขาก็ค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆ เพราะไม่ได้สัมผัสถึงจิตคุกคามของอีกฝ่าย เขาถอนหายใจเฮือกและพูดกลับไปเบาๆ
" เธอ...ต้องการอะไรกันแน่? "
พริสซิลล่ายิ้มเล็กน้อยอย่างยินดีที่อีกฝ่ายยอมอ่อนท่าทีลง เธอทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้นวมเก่าๆใกล้ๆ และเริ่มพูดขึ้นช้าๆ
" ความสามารถของฉัน...ความสามารถ Eye of marionette ของฉันถึงแม้จะพูดได้เต็มปากว่าทำให้เป้าหมายให้ตกอยู่ใต้มนตร์สะกดจนเป็นเหมือน ตุ๊กตาเชิด ของฉันก็จริง แต่ก่อนจะถึงขั้นนั้นฉันก็ต้องเคลียร์เงื่อนไขของพลังจิตของฉันไม่น้อย...คร่าวๆก็คือ 1.ฉันต้องเห็นพลังที่แท้จริงของเป้าหมายด้วยตาตนเอง...2.คือฉันจะต้องมอบเงื่อนไขว่าถ้าหากเป้าหมายแพ้จะต้องมาเป็นพวกพ้องฉัน... "
" ตอนนั้นนั่นเอง... " เรย์ลาลีนครางเบาๆ ...นึกถึงคืนที่เขาสู้กับอีกฝ่ายโดยพนันกันว่าใครแพ้จะต้องเป็นของผู้ชนะ...เขากลืนน้ำลายฝืดๆเมื่อรู้ว่าเขาเกือบจะกลายเป็น ตุ๊กตา ของอีกฝ่ายไปแล้ว
" ใช่...ตอนนั้นแหละ...เสียดายที่ข้อที่ 3 คือฉันหรือตุ๊กตาของฉันจำเป็นต้องเอาชนะเป้าหมายในสภาพพลังสูงสุดนั่นได้เสียก่อน...เมื่อขั้นตอนเสร็จสมบูรณ์ เป้าหมายของฉันจะลืมเลือนทุกอย่างเกี่ยวกับความสามารถของฉันไปหมดสิ้น เขาจะใช้ชีวิตอย่างคนปกติไปจนกว่าฉันจะใช้ความสามารถนี้อีกครั้ง เขาจะถูกสามัญสำนึกของฉันควบคุมจนเป็นเหมือนฉันอีกคนเลยทีเดียวนั่นแหละ "
" จะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ เพราะยังไงเสียผมก็ไม่รู้อยู่แล้วว่าที่พูดมามันจริงรึโกหก "
" เฮ้อ...ขอพูดอีกครั้งนะ...นายนี่มันไม่รู้จักไว้เนื้อเชื่อใจคนอื่นเอาซะเลย " เป็นคำพูดที่เขาอยากจะตะโกนตอบกลับไปเสียเหลือเกินว่า จากที่ผ่านมาเนี่ย เธอยังจะเรียกร้อหาความเชื่อใจจากเขาอีกเหรอฟะ?!
เรย์ลาลีนถอนหายใจเฮือก ก่อนจะเก็บราชศาสตรากลับเป็นแหวนเงินอีกครั้งช้าๆ เพราะเขาไม่เห็นประโยชน์ใดๆที่จะถือมันให้มันสูบพลังไปเรื่อยๆแบบนี้ ก่อนที่เขาจะยอมเล่นด้วยอีกครั้งด้วยการพูดต่อเบาๆ
" เอ้า...เอาก็เอา...สมมุติว่าผมเชื่อเธอ...แล้วที่เธอมาบอกฉันเพื่อประโยชน์อะไรไม่ทราบ "
" ประโยชน์คือ อย่างน้อยฉันก็แสดงถึงความบริสุทธ์ใจให้นายได้รู้ไงล่ะ...เพราะเรื่องที่เรากำลังจะพูดต่อไปนี้มันเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่า นาฬิกาทรายแห่งดาราลาน ที่ฉันต้องการนักต้องการหนาเสียอีกนะ "
" เห...จริงดิ?...วาว! " คำอุทานที่ฟังผ่านๆก็รู้ว่าเสแสร้งเพื่อประชดประชันของเรย์ลาลีนทำให้พริสซิลล่าถอนหายใจเฮือกอีกครั้ง...ใจนึงก็อยากจะหักกันตรงนี้ให้สมค่าที่กวนโมโหเธอ แต่เธอก็รู้ดีว่าที่อีกฝ่ายเป็นแบบนี้ก็เพราะตัวเธอเองนั่นแหละ เธอจึงได้แต่ถอนหายใจเบาๆและพูดต่อ
" เรย์ลาลีน...ฉันจะไม่พูดหรอกนะว่าฉันฉลาดกว่านาย แต่เรื่องบางเรื่องเด็กน้อยที่อยู่แต่บนหอคอยงาช้างอย่างนายก็น่าจะยอมรับว่ารู้มันน้อยกว่าคนที่ท่องไปเกือบครึ่งโลกอย่างฉันไม่ใช่รึไง? ...ฉันมีเวลาเหลืออีกประมาณ 3 นาทีก่อนที่สารวัตรนักเรียนหรืออาจารย์ที่มีความสามารถสายตรวจจับจะรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของฉัน...เพราะงั้นเราควรเลิกนอกเรื่องกันซะทีดีไหม? "
คำพูดย้อนเกล็ดชนิดเจ็บแสบของพริสซิลล่าทำเอาเรย์ลาลีนถึงกับหน้าชา...ได้แต่โทษตัวเองที่ไม่น่าปากไวกระแนะกระแหนไปแบบเด็กๆแบบนั้น เขาเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ
" ก็ได้พริสฯ ยิงมาเลย...ไอ้เรื่องที่ว่าสำคัญนักสำคัญหนานั่นมันเรื่องอะไร "
พริสซิลล่าเงียบไปแวบนึง...เธอเหลือบมองคลาเดียที่ยังคงตัวสั่นงันงกอยู่ที่มุมกรงก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ
" ...คุยที่นี่ไม่เหมาะ "
" สำหรับเราสองคน จะคุยที่ไหนมันก็ไม่เหมาะทั้งนั้นแหละ...ถ้าเธอกังวลเกี่ยวกับรุ่นพี่คลาเดียล่ะก็ บอกได้เลยว่าไม่ต้องกังวลไป เพราะถ้ามันเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ต่อให้คลาเดียปิดปากเงียบผมเองก็จะป่าวประกาศไปอยู่ดี...คุณเหลือเวลาอีก 2 นาทีกับอีก 30 วิฯ "
" นายนี่มัน!--- "
" 28...27...26...25... "
การนับถอยหลังที่ใช้นำ้เสียงแบบไม่แน่ใจว่าเล่นหรือจริงของจอมเวทย์หนุ่มทำให้เธอต้องรีบวกกลับเข้าเรื่องอีกครั้ง
" เรื่องที่ฉันจะพูดมันเกี่ยวกับราชศาสตรา... "
" ? "
" นายไม่แปลกใจบ้างรึไงกันว่าทำไมจู่ๆ ราชศาสตราที่ว่ากันว่านอกจากเอ็กโซดัสของเฮเลนแล้ว ที่เหลือสาปสูญไปหมดตามกาลเวลากลับมาปรากฏขึ้นพร้อมกันถึง 4 ชิ้นในเวลาที่ไล่เลี่ยกันแบบนี้ "
" ขอขัดนิดนึงนะ...นี่อย่าบอกว่าเธอคุยเรื่องนี้กับฉันเป็นคนแรก? "
" ...ใช่...ทำไม? "
" ก็ทั้งๆที่เธอมีผู้ใช้ราชศาสตราระดับสูงที่ฝีมือดีโคตรๆอย่างยัยเซลรีเนียอยู่ข้างกายตลอดเวลาเนี่ยนะ? "
" นายก็น่าจะรู้ดีพอๆกับฉันหรือรู้ดีกว่าฉันด้วยซ้ำนี่ว่าเซลรีเนียเป็นคนยังไง...ยัยนั่นมันผีเข้าผีออก ไม่รู้ว่าตอนไหนจะจริงจังตอนไหนจะหลอนจิต เผลอๆก็จะเอาดาบบ้านั่นฟันฉันตะพึดตะพือ...พูดกันตามตรง ถ้าไม่มีทันทารอสคอยอยู่ห้ามทัพซักคน ฉันกับยัยนั่นมีหวังได้แหลกกันไปข้างนึงแล้ว " พริสซิลล่าบ่นดังๆพร้อมทำหน้าเหม็นเบื่อเต็มที่จนเรย์ลาลีนถึงกับต้องหัวเราะออกมาแห้งๆ
" ฮ่ะๆๆ เห็นภาพเลย "
" ...ถ้านอกจากยัยเซลรีเนีย ในหมู่ผู้ใช้ราชศาสตราด้วยกันฉันตัดแลนซ์ทิ้งก่อนเลย เพราะเขายังไม่ใช่ผู้ใช้ราชศาสตราแท้อย่างเราๆ ส่วนยัยเฮเลนก็คงจะเอาดาบผ่าฉันเป็นสองซีกตั้งแต่วินาทีแรกที่เจอโดยไม่ฟังอะไรฉันทั้งสิ้นแหงๆ "
" หวยก็เลยมาออกที่ฉัน ค่าที่ฉันใจอ่อนมากพอจะยอมยืนฟังเธอโดยไม่สับเธอเป็นชิ้นๆ ตั้งแต่แรกเห็นหน้าสินะ? "
" เฮ้อ...ช่วยจริงจังให้สมกับที่ฉันเหลือเวลาอีกไม่ถึงสองนาทีได้ไหม? "
เรย์ลาลีนได้แต่ถอนหายใจเฮือกอีกครั้ง
" เอ้า...จริงจังก็จริงจัง...นี่ พูดตรงๆเลยนะ เธอไม่คิดบ้างเหรอว่าว่าเรื่องที่มันเกิดขึ้นเนี่ยมันเป็นเรื่องบังเอิญ "
" เรื่องบังเอิญ? " พริสซิลล่าทวนคำเสียงสูงปรี๊ด " งั้นมันก็โคตรบังเอิญชนิดถูกหวยรางวัลที่หนึ่งยังอายไปเลยที่ราชศาสตราของนายช่วยชีวิตนายจากเคียวฉันได้แบบพอดิบพอดี เพราะถ้าราชศาสตราของนายตื่นช้ากว่านั้นเพียงวินาทีเดียว ป่านนี้นายได้ไปคุยกับเพื่อนๆของนายที่ยมโลกไปแล้ว "
" นี่จะพื้นฝอยเรื่องนั้นขึ้นมาเพื่อให้ผมหมดความอดทนที่จะคุยกับคุณรึไง? " เรย์ลาลีนถามขึ้นเรียบๆ
" อ๊ะ! โทษทีๆ แต่ประเด็นก็คือถ้าหากมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญล่ะ...ถึงจะพูดด้วยความเคารพแต่ยังไงเสียราชศาสตราก็คืออาวุธ และนายในตอนนี้ก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นอาวุธที่ร้ายแรงและอันตรายเกินกว่าจะมีใครควรใช้มันได้...ถ้าไม่นับตอนนี้ที่มีราชศาสตราปรากฏขึ้น 5 ชิ้น...ครั้งแรกและครั้งเดียวที่มีราชศาสตราอยู่เยอะขนาดนี้คือช่วงมหาสงครามทวีปเอเทอน่อล...ครั้งนั้นราชศาสตราพวกนี้ลบประชากรมนุษย์หายไปเกือบครึ่งนึงของที่มีอยู่บนโลกเลยเชียวนะ "
" นี่...นี่เธออำกันเล่นรึเปล่าเนี่ย?! "
" พูดไปนายอาจจะไม่เชื่อ แต่เห็นอย่างนี้ฉันก็เป็นพวกแอนตี้ความรุนแรงนะ...เอาเถอะ ฉันแค่มาบอกนายในฐานะที่เป็นผู้ใช้ราชศาสตราเหมือนกันเท่านั้น และฉันขอบคุณนายมากที่อุตส่าห์อดทนฟังฉันจนจบแบบนี้ " คำพูดของพริสซิลล่าเต็มไปด้วยกระแสของความจริงใจจนเรย์ลาลีนชะงักกึก เขาหันไปสบตาหญิงสาวชั่วเสี้ยววินาที ก่อนจะเป็นฝ่ายเบนหลบสายตาก่อนและพูดเรียบๆ
" เอาเป็นว่าผมรับรู้แล้ว...และขอบคุณมากที่อุตส่าห์มีแก่ใจมาบอกแบบนี้ "
พริสซิลล่าพยายามสบสายตาอีกฝ่ายอีกครั้ง แต่เรย์ลาลีนเมินเสีย เธอจึงได้แต่ถอนหายใจเฮือก
" เรย์ฯ...นายเป็นคนแรกที่ฉันมีความรู้สึกดีๆบางอย่างให้ ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่ารู้สึกดีในฐานะอะไรก็เถอะ...ฉันได้แต่หวังว่าถ้าเจอกันครั้งหน้า เราจะไม่ต้องหันราชศาสตราของพวกเราเข้าห้ำหั่นเอง "
" หือ?...คิดจะไปแล้วเหรอ? "
" คิกๆๆ ไม่ต้องคิดจะรั้งฉันไว้เพื่อรอให้ฝ่ายตรวจจับตรวจฉันเจอหรอกน่า...เพราะมันเป็นลูกไม้ตื้นๆห่วยๆ "
" ชิ! "
" คิกๆ เอาล่ะ...ขอบคุณอีกครั้งที่อุตส่าห์ฟังฉันระบายนะ เรย์ฯ ...ถนอมตัวไว้จนกว่าเราจะเจอกันอีกครั้ง...ลาก่อน " เธอกล่าวลาพลางเดินหลบเข้าไปในมุมมืดของห้อง เสี้ยววินาทีต่อมาตัวตนของเธอที่เรย์ลาลีนพยายามจับสัมผัสอยู่ตลอดก็หายไปจากห้องและคลองสัมผัสของเขาโดยสิ้นเชิงราวกับเล่นกลเลยทีเดียว!
" นี่มันเรื่องอะไรกันวะเนี่ย?! " เมื่อพลาดจากการจับสัมผัสพริสซิลล่า จอมเวทย์หนุ่มก็ได้แต่ยืนพึมพำเบาๆ ท่ามกลางความเงียบสงัด
.....................................................
" ช้า! ช้ามาก!! " เชรีน่า เมโอ ตริสตัล...พี่สาวผู้เอาแต่ใจของเขาบ่นขึ้นทันทีที่เห็นเขาเข้ามาในประตูบ้านพักของเธอ ในขณะที่เรย์ลาลีนได้แต่ถอนหายใจเฮือก เลือกที่จะไม่พูดอะไร เพราะไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืดกับอีกฝ่าย เขากระพริบตาปริบๆก่อนจะมองไปที่บรรดาแขกในบ้านพักแห่งนี้อย่างงงๆ เพราะนอกจากผอ.ฝาแฝดเทียน่าและซานดร้า กับราชินีน้ำแข็งคาสซานดร้าแล้ว บนโซฟาในห้องรับแขก (ที่ตอนนี้ก็ยังคงรกเป็นที่ทิ้งขยะเทศบาลเหมือนเดิม) ยังคงถูกจับจองด้วยหญิงสาวที่เขารู้จักดีอีก 2 คน
...เจ้าปราการไฟ ผู้ใช้ราชศาสตราดาบเอ็กโซดัส...เฮเลน วอลคาโน และเพื่อนสนิทคนสำคัญ ผู้ครอบครองพลัง Anti Magic ขั้นสุดยอดอย่าง เนตรสีทองแห่งผู้เท่าเทียม ...นาเดีย นาเดียสดร้า...
แม้จะมองแค่ผ่านๆ เรย์ลาลีนก็สามารถบอกได้ทันทีว่าทั้งเฮเลนและนาเดียต่างก็ซึมเซื่องลง ทันทีที่เธอสองคนรู้ว่าคนร้ายตัวจริงเสียงจริงคือพริสซิลล่าซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเธอมาตลอดเกือบ 3 ปี เพราะเหมือนกับพริสซิลล่าหลอกพวกเธอมาตลอด 3 ปีไม่มีผิด...แต่ถึงกระนั้นเรย์ลาลีนก็ยังต้องเลิกคิ้วน้อยๆกับสุดยอดความเจ้าเล่ห์ของนาเดีย ที่ขนาดซึมกะทือขนาดนี้ยังอุตส่าห์ใช้เรื่องบ้าๆนี่หาประโยชน์ใส่ตัวเองได้อีก เพราะตอนนี้เธอกำลังนั่งแกล้งบีบน้ำตากอดเอวของเชรีน่าไว้แน่น โดยที่พี่สาวของเขาก็กำลังลูบผมอีกฝ่ายเพื่อปลอบใจอยู่โดยไม่ได้รู้เลยว่าเธอกำลังโดนหาเศษหาเลยแบบโคตรเหนือเมฆอยู่...ซึ่งในสายตาของเรย์ลาลีน บอกตามตรงเลยว่ามารยาหญิงของนาเดียนี่เข้าขั้นสุดยอดเลยทีเดียว เพราะเธอแสดงได้เนียนจนเขาเกือบจะเชื่ออยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่อีกฝ่ายแอบแลบลิ้นใส่เขาโดยไม่มีใครเห็นแบบนี้
...สมแล้วที่เป็นนักกฎหมายอนาคตไกล...
" ขอโทษที... "
" ท่านเชรีน่าบอกให้ทิ้งช่วงแค่ซัก 10 นาที นี่ปาเข้าไปเกือบครึ่งชั่วโมง...ไปเถลไถลหาสาวที่ไหนมางั้นเหรอคะ? " คาสซานดร้าถามข้นด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ แต่ดันสร้างแรงกดดันมาให้เขาอย่างประหลาดจนเรย์ลาลีนที่ยังไม่ค่อยชินกับสภาพแบบนี้ถึงกับวางหน้าไม่ถูก ก่อนจะถอนหายใจเฮือก
...เอาเถอะ...ก็ไม่คิดจะปิดบังอะไรอยู่แล้ว บอกๆไปเลยก็ดีเหมือนกัน...
" ผมไปเจอกับพริสซิลล่ามา "
" ว่าไงนะ !!! " ทุกคนในห้องร้องขึ้นพร้อมกันทันที
" อ๊ะ! โทษๆ ถ้าจะพูดให้ถูกคือยัยนั่นมาหาผมน่ะ "
" แล้วนายก็ยังอุตส่าห์หน้าด้านรอดมาได้เนี่ยนะ?!! ...เอ่อ ฉันหมายถึง แล้วเธอไม่ได้ทำร้ายอะไรนายงั้นใช่ไหมน่ะ " นาเดียรีบแก้คำพูดใหม่ทั้งดุ้นทันทีที่เห็นสายตาของทุกคน
" เรย์ฯ! " น้ำเสียงที่เริ่มเข้มขึ้นของเชรีน่าทำเอาเขาได้แต่หลับตานวดสันจมูกและถอนหายใจเฮือกอีกครั้ง...เริ่มนึกสงสัยว่าเขาคิดถูกรึเปล่าที่บอกความจริงไปตรงๆแบบนี้
" ที่ยัยนั่นมาหาผมคราวนี้ไม่เกี่ยวกับ ของ ที่อยู่ใต้อาคารเรียนกลางนั่น...แต่เกี่ยวกับราชศาสตราน่ะ "
" ราชศาสตรา? " เฮเลน วอลคาโนที่เป็นผู้ใช้ราชศาสตราเหมือนกันหันขวับมามองพร้อมกับทวนคำเสียงสูงปรี๊ด " แล้วทำไมยัยนั่นไม่มาพูดกับฉันล่ะ?! "
" โห...กล้าพูดออกมาได้นะ ถามตัวเองก่อนไหมว่าเธอจะฟันยัยนั่นทิ้งทันทีก่อนที่ยัยนั่นจะได้ทันพูดประโยคแรกจบรึเปล่า? "
" อ...อึ่ก! "
" เรย์ฯ! อย่านอกเรื่องสิ! " เชรีน่าปรามเขาให้กลับเข้าเรื่องอีกครั้งในขณะที่เรย์ลาลีนยักไหล่ช้าๆ ก่อนจะเริ่มต้นเล่าเหตุการณ์แบบฉากต่อฉากโดยไม่ปิดบัง ใช้เวลาเพียงครู่เดียวเขาก็เล่าจนจบ
" เอาจริงดิ? " เมื่อเขาเล่าจบ ประโยคแรกที่ทุกคนพูดออกมาถึงกับทำให้เขาหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ เพราะมันเป็นประโยคเดียวกับที่เขาพูดเด๊ะๆ เลย
" ฉันคิดว่าเธอจะรู้มากกว่าฉันซะอีกนะ " เขาหันไปพูดกับเฮเลนเบาๆ ในขณะที่อีกฝ่ายก็ส่ายหน้าช้าๆ
" ฉันก็ไม่ได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับราชศาสตราอะไรไปมากกว่านายหรอกนะ ถึงเราจะสื่อสารกับราชศาสตราได้ แต่นายก็น่าจะรู้แล้วว่าตัวราชศาสตราเองก็ไม่สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับเรือ่งนี้ได้...ใช่ไหมล่ะ " คำย้อนของอีกฝ่ายทำให้เรย์ลาลีนได้แต่พยักหน้ารับเบาๆ เพราะเขาเองก็ถามราชศาสตรา Enigma แล้วเหมือนกัน และคำตอบก็คือ...
' ...ขอโทษจริงๆนะคะ ถึงฉันอยากจะช่วย แต่พวกฉัน หมายถึงราชศาสตราทุกชนิดจะถูกรีเซ็ตความทรงจำใหม่ทั้งหมดเมื่อได้รับการสืบทอดผู้ใช้ราชศาสตราใหม่ ...ฉันไม่มีความทรงจำใดๆ เกี่ยวกับอดีตเหลืออยู่ทั้งสิ้น เพราะงั้นเรื่องเกี่ยวกับราชศาสตราอื่นๆ หรือเกี่ยวกับมหาสงครามที่พวกเราเคยอยู่ ฉันไม่สามารถตอบได้ทั้งสิ้นเลยค่ะ '
" เวร...กรรม! "
ในขณะที่อันนาเทียน่าหันไปหาเชรีน่าพร้อมกับถามขึ้นเบาๆ
" พี่เชรีน่าคะ แล้วหนังสือเล่มนั้นบอกอะไรไว้รึเปล่าคะ? " หนังสือ...ที่เธอว่าก็หมายถึงคัมภีร์โบราณที่ระบุราชศาสตราทั้ง 13 ชนิดไว้ที่เชรีน่าครอบครองอยู่ แต่เชรีน่าก็ส่ายหน้าตอบกลับมาเบาๆ
" ไม่มีหรอก...หนังสือนั่นฉันอ่านมาจนปรุแล้ว ไม่มีเรื่องอะไรแบบนั้นแน่...เรย์ฯ นายแน่ใจรึเปล่าว่าเรื่องที่ยัยนั่นพูดไม่ใช่แผนอีกแผนนึงที่ยัยนั่นขุดเป็นหลุมพรางล่อนายแบบคราวก่อนๆน่ะ "
" ผมไม่รู้...คราวนี้ยัยนั่นไม่ได้มีจิตมุ่งร้ายอะไรกับผมเลยนะ ถึงจะไม่รู้ว่ามันเป็นอีกแผนของยัยนั่นรึเปล่าก็ตามเถอะ "
" แต่ถ้ามันเกิดเป็นเรื่องจริงขึ้นมา เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่พวกเราก็ไม่อาจปล่อยผ่านไปได้นะคะ... "
คาสซานดร้าที่เงียบมาตลอดหันไปมองเชรีน่า ก่อนจะเริ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ
" ท่าน...พี่เชรีน่าคะ "
" ฉันรู้ว่าเธอจะพูดอะไร แต่ว่า... "
" มันไม่มีทางเลือกแล้วล่ะค่ะ ไม่อย่างงั้นเราก็ไม่ได้รู้กันพอดีว่าเรื่งนี้มันเป็นไปเป็นมายังไง "
" ...อะไรงั้นเหรอพี่? ดูท่าซีเรียสกันจริง " เรย์ลาลีนหันไปถามพี่สาวของตัวเองเบาๆ ในขณะที่เชรีน่าถอนหายใจเฮือก
" ถ้าเลือกได้ ฉันเองก็ไม่อยากจะใช้ไม้นี้หรอกนะ...พวกเธอช่วยเคลียร์พื้นที่ให้หน่อยได้ไหม? ฉันจะทำการ อัญเชิญ เทพองค์นั้นลงมา... "
.....................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ