Chronicles Of Legend. ปฐมบทแห่งตำนาน

7.3

เขียนโดย LanzaDeLuZ

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.07 น.

  67 chapter
  7 วิจารณ์
  64.18K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

31) ...Trust...(ความไว้เนื้อเชื่อใจ)...(1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
================================================
 
 
             " แก !!! .....แน่จริงก็โผล่ออกมาสิ...มาตัดสินกันให้รู้ดีรู้ชั่วไปเลย...คืนนี้ไม่แกก็ฉันต้องคว่ำกันไปข้าง !! "  
 
               เรย์ลาลีนตวาดกร้าวพลางเสก หอกวายุ เข้าสู่มืออีกครั้ง...แถมยังเป็นหอกวายุที่ใหญ่และคมกล้ากว่าที่แลนซ์ เซอร์เบร่อน ทำได้เกือบ 2 เท่า....อีกทั้งยังแอบร่าย คันฉ่องเทพวายุ เตรียมป้องกันไว้เผื่อสถานการณ์ฉุกเฉินสุดขีดอีกด้วย...แต่สิ่งที่ตอบกลับเสียงตวาดกร้าวของเขากลับมา เป็นเพียงแค่เสียงหัวเราะอันแปร่งพร่าเท่านั้น
 
             " คิกๆๆๆ....มีใครเคยบอกนายไหมว่า นายนี่ไม่มีวาทศิลป์ในด้านการเจรจาต่อรอง เอาเสียเลย...เรย์... "
 
               เรย์ลาลีนยิ้มเครียดๆ ...ว่าจะไม่คิดอะไรก็อดคิดไม่ได้ว่าการด้อยความสามารถด้านการเจรจาแบบนี้เป็นผลพวงจากพันธุกรรมครึ่งนึงของเชรีน่ารึเปล่า
 
             " อย่ามาเล่นลิ้นดีกว่าน่า...ระหว่างฉันกับ แก มันไม่มีเรื่องอะไรจะต้องคุยกันอยู่แล้วนี่ "
 
             " เรียก แก ๆๆๆๆ อยู่ได้...คนเขามีชื่อมีแซ่นะ "
 
               เรย์ลาลีนถึงกับเอียงวูบอย่านึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะตัดพ้อเขาด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องพรรค์นี้  แต่วิบตาต่อมาเขาจะยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะตะโกนถามกลับไป
 
             " งั้นก็บอกชื่อแซ่ของแกมาสิฟะ...ทีแกยังรู้ชื่อของฉันเลย...วินๆ กันหน่อย "
 
               อีกฝ่ายหัวเราะอีกครั้งอย่างชอบอกชอบใจ
 
             " แหม...เจ้าเล่ห์จริงนะ...ตัวแค่นี้...เอางี้ดีกว่า...เพื่อป้องกันนายเรียกฉันว่า แก อีก ...เรียกฉันว่า ชาโดว์ (Shadow - เงา) ก็แล้วกัน "
 
            ...จากลักษณะของรูปแบบการพูดและการหัวเราะ...รวมถึงลักษณะนิสัยยึดติดกับเรื่องหยุมหยิมเล็กน้อยอย่างคำใช้เรียกสรรพนามอีก...พนันต่อร้อยเอาหนึ่งเลยว่าถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่ผู้หญิงตัวเป็นๆ ก็คงเป็นไอ้หนุ่มที่มีนิสัยสมหญิงยิ่งกว่าเชรีน่าเสียอีกแหงๆ...เรย์ลาลีนวิเคราะห์เงียบๆ ซึ่งก็ดูเหมือนอีกฝั่งราวกับอ่านใจได้ เพราะชาโดว์(ตามที่อีกฝ่ายบอก)พูดเหมือนจะตอบกลับมาว่า  
 
             " ใช่แล้ว...ฉันเป็นผู้หญิง...เป็นแค่สาวน้อยน่ารักธรรมด๊า...ธรรมดา  เพราะงั้นโปรดสุภาพกับฉันให้เหมือนสุภาพกับเฮเลน วอลคาโน หน่อยๆ สิ "
 
             ' อุวะ...เป็นพยาธิในลำไส้ตูรึไงฟะเนี่ย!? '  เรย์ลาลีนอดคิดไม่ได้ก่อนที่จะตะโกนกลับไป
 
             " งั้น...ชาโดว์...ยินดีที่ได้รู้จักนะ...ฉันชื่อเรย์ รัชเชอร์...เอ้า!...แนะนำตัวกันพอหอมปากหอมคอแล้วก็ออกมาซะทีเซ่...จุดประสงค์ของ เธอ คือการบุกเข้าอาคารเรียนกลาง ในขณะที่พันธะหน้าที่ของฉันคือจัดการและควบคุมตัวเธอเสีย...เพราะงั้น ระหว่างเรามันไม่มีอะไรให้คุยกันอยู่แล้วนี่ "  เขาเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกคนร้ายชุดดำนามว่าชาโดว์เสียใหม่ เพราะไม่ว่าจะเป็นคนร้ายหรือคนดี...เขาก็เป็นคนที่ให้เกียรติผู้หญิงเสมอ
 
               พริบตาเดียวที่เขาพูดจบ จิตสังหารอันไม่รู้ที่มาก็พุ่งวูบจากรอบทิศทาง เสียดแทงมาที่ชายหนุ่มราวกับดาบนับพันเล่ม...เสี้ยววินาทีถัดมา ร่างเล็กบางภายใต้ชุดคลุมดำก็ปรากฎตัวขึ้นด้านหลังอันเกือบจะเป็นมุมอับสายตาของเขา ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าทำได้ยังไง...ก่อนที่เรย์ลาลีนจะได้ทันร่ายเวทย์หรือปลดปล่อย หอกวายุ ออกไป...ส่วนคมของเคียวสีดำทมิฬขนาดใหญ่ก็ปาดวูบผ่านลำคอของเขาไป !!
 
 
 
..................................................
 
 
    
             ...ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง...ณ ห้องประชุมใหญ่คณาจารย์...มหา'ลัยหมื่นเวทย์...
 
                เพล้ง !!! 
 
                แก้วคริสตัลสีฟ้าใสลายงาม ซึ่งวินาทีก่อนอยู่ในกระโจมมือเรียวงามของ ผอ.เชรีน่า เมโอ คริสตัล...บัดนี้หล่นไปกระทบพื้นแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย...มือของเธอสั่นระรัว ดวงตาสีเทาจรัสเบิกโพลงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน!
 
              " ท...ท่าน เชรีน่า?! "
 
              " ฉันไม่เป็นไร... "  เธอพูดเบาๆ โดยบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น...แม้ว่าหัวใจจะยังคงเต้นระรัวไม่เป็นส่ำอยู่ก็ตาม
 
              " ต...แต่ว่า... "
 
              " ออกไปก่อน...ทุกคนเลย... "  คราวนี้เธอสั่งด้วยน้ำเสียงที่เฉียบขาดขึ้นเล็กน้อย
 
                พวกอาจารย์จอมเวทย์ที่กำลังนั่งประชุมกันอยู่จนดึกจนดื่นหันไปมองหน้ากันเลิกลั่ก ...แต่กึ่งอึดใจต่อมา หัวหน้าอาจารย์ที่อาวุโสที่สุด...ผู้ซึ่งเป็นอาจารย์มาตั้งแต่ที่ กาเบรียล เมโอ คริสตัล ผู้เป็นพ่อของเชรีน่าเป็นผู้อำนวยการของที่นี่ ลุกขึ้นช้าๆ ก่อนจะก้มหัวน้อมคำนับเชรีน่า แล้วใช้ไม้เท้าเวทย์ประคองตัวยักแย่ยักยันออกจากห้องประชุมไป ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณให้อาจารย์จอมเวทย์คนอื่นๆ ลุกขึ้นตามไป ...เพียงไม่กี่นาทีต่อมา ห้องประชุมขนาดใหญ่ก็เหลือเพียงแค่เชรีน่าอยู่เพียงคนเดียว...
 
                เชรีน่าหันมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าเธอเป็นคนเดียวที่อยู่ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่แห่งนี้ ก่อนที่เธอจะรีบกางกระจกเวทย์ขึ้นทันที...แม้ความเร็วในการกางกระจกเวทย์ของเธอจะเร็วกว่าเรย์ลาลีนหรือจอมเวทย์อื่นๆ ที่มีความสามารถนี้ถึงเกือบ 2 เท่า...แต่ในความคิดของเธอ มันราวกับว่ากระจกเวทย์ของเธอก่อตัวเป็นรูปร่างได้ช้าราวกับชั่วกัปชั่วกัลป์ทีเดียว...ดวงตาสีเทาของเธอไหววูบอย่างรวดเร็วขณะที่ริมฝีปากสีแดงชาดพึมพำด้วยประโยคเดิยซ้ำๆไม่หยุด
 
              " ขอให้ผิดทีเถอะ...ขอให้ผิดทีเถอะ !! "
 
 
 
..............................................
 
 
 
           ...หัวของเขายังอยู่ติดกับคอ...แถมคอของเขาก็ยังไม่มีรอยแผลแม้กระทั่งมีดโกนบาด...
 
           ...แต่เมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว เขาเห็นชัดๆ อยู่คาตาว่าไอ้ เคียว บ้านั่นฟันผ่านคอเขาไปแล้วนี่หว่า?!...
 
           ...เรย์ลาลีนกระโดดวูบทิ้งระยะจากคนร้ายชุดดำที่เรียกตัวเองว่า ชาโดว์ ไปถึง 4-5 ช่วงตัว พลางลูบคลำลำคอตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตายราวกับเพื่อให้แน่ใจว่ามันยังคงเชื่อมติดกันอยู่ดี ...น่าแปลกที่อีกฝ่ายยังคงยืนคอนเคียวยักษ์นั่นด้วยมือข้างเดียวอยู่ที่เดิม โดยไม่คิดจะติดตามเข้ามาโจมตีเขาต่อ...
 
            " ประสาทแข็งดีนี่...ปกติแล้วคนที่โดน ท่า นี้เข้าไปถ้าไม่ยืนแข็งอยู่กับที่ก็ต้องช็อคจนสลบไปแล้วแท้ๆ "  ชาโดว์พูดเป็นเชิงชื่นชมด้วยน้ำเสียงแปร่งๆ จากเครื่องแปลงเสียงตามเดิม
 
            " ...ท...ท่า...งั้นเหรอ? " เรย์ลาลีนอดทวนคำเบาๆ อย่าฉงนไม่ได้
 
            " ไม่แปลกใจมั่งเหรอ?...ว่าทำไมเวทย์สุดยอดแห่งการป้องกัน คันฉ่องเทพวายุ ของนายถึงไม่แสดงผล... "
 
            ' ยัย...บ้านี่รู้แล้วว่าเราเป็นผู้ใช้เวทย์มนต์...ไม่ใช่ผู้ใช้พลังจิต...แถมยังรู้แม้กระทั่งชื่อท่าของคันฉ่องเทพวายุึของเราอีก...ชักไม่เข้าท่าแล้วเว้ยเฮ้ย '  ชายหนุ่มคิดเครียดๆ ...เขายังไม่กล้าผลีผลามเข้าโจมตีเพราะใจนึงก็อยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะเล่นตลกอะไร...อีกใจนึงก็ยังเกรงใจไอ้เคียวยักษ์สีดำสนิทที่แผ่รังสีความไม่น่าไว้วางใจมาให้อยู่เนืองๆ
 
            " แย่หน่อยนะที่ฉันไม่ได้พกกระจกเงามาด้วย แต่ฉันมีอีกวิธีที่จะอธิบาย ท่า ของฉัน "  เธอพูดพลางหยิบผลแอปเปิ้ลสีแดงสดจากแขนเสื้อขึ้นมาให้ดู ซึ่งมันก็เห็นได้อย่างชัดเจนภายใต้แสงนวลของดวงจันทร์ 3 ดวงที่ลอยอยู่บนฟ้า
 
             ' ไม่ได้พกกระจกเงา...แต่ดันมีแอปเปิ้ล...เนี่ยนะ...เอาเหอะ ! '  แม้จะรู้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องไร้สาระพรรค์นี้ แต่เรยฺ์ลาลีนก็อดคิดอย่างหงุดหงิดไม่ได้
 
               จะได้ยินความคิดของชายหนุ่มหรือไม่ อยู่ๆ ชาโดว์ก็ใช้เคียวด้านที่มีคมฟันฉับ! ผ่านกลางผลแอปเปิ้ลนั่นด้วยความเร็วราวกับเคียวนั่นเป็นแค่ของเด็กเล่น...ที่น่าประหลาดใจระคนงุนงงเป็นที่สุดคือทั้งๆ ที่เขาเห็นอยู่ตำตาว่าคมเคียวนั่นผ่าผ่านแอปเปิ้ลไปแล้วแท้ๆ ...แต่ผลแอปเปิ้ลนั่น กลับยังคงอยู่ดีโดยไม่ได้แบ่งเป็น 2 ซีกแต่อย่างใด
 
               แต่ก่อนที่เรย์ลาลีนจะได้ทันถามอะไร ปรากฎเส้นตรงสีดำผุดขึ้นโดยรอบผลแอปเปิ้ลตามรอยที่เคียวฟันผ่านพอดีเป๊ะ...หญิงสาว(ตามที่เธอบอก)นามว่าชาโดว์โยนผลแอปเปิ้ลผลนั้นให้เขา ซึ่งเขาก็รับมาก่อนจะมองดูเส้นสีดำรอบแอปเปิ้ลนั่นอย่างงงๆ
 
             " เห็นเส้นรอบวงสีดำนั่นใช่มะ?...ฉันเรียกมันว่า DeadLine ...เข้าท่าดีใช่ไหมล่ะ? "
 
             " DeadLine ? "
 
             " เส้นสีัดำที่พาดผ่านตามรอยตัดของเคียวที่ตัดแอปเปิ้ล...และแน่นอนว่าเป็นแบบเดียวกับที่ตัดผ่านคอของนาย เป็นเหมือน เครื่องหมาย ที่ถูกทำไว้...เพราะการทำเครื่องหมายยังไม่เพียงพอที่จะทำให้การป้องกันแบบ passive ของทั้งพลังจิตและพลังเวทย์แสดงผล...ซึ่งถ้าฉันเดาไม่ผิด คันฉ่องเทพวายุ ของนายก็ไม่ได้อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์นี้...เวทย์คันฉ่องเทพวายุของนายคงจะทำงานก็ต่อเมื่อ สิ่งที่จู่โจมผู้ใช้เพียงพอจะทำให้ผู้ใช้เกิดการบาดเจ็บได้....เพราะงั้น DeadLine ของฉันถึงไม่อยู่ในข่าย... "
 
              ' ถูกต้องทุกประการเลยแฮะ...ไม่ใช่แค่รู้ชื่อท่า แต่ยังรู้ถึงหลักการทำงาน...ยัยผู้หญิงคนนี้ไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับเวทย์มนต์แบบงูๆ ปลาๆ แน่ '  เรย์ลาลีนคิดในใจพร้อมกับลูบคลำลำคอที่มีเส้นขีดสีดำที่ชาโดว์เรียกว่า Deadline ก่อนจะถามกลับไปว่า
 
              " ถ้างั้นมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ?...ไอ้การโจมตีที่ทะลุเกราะป้องกันทุกรูปแบบ แต่ดันไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับผู้ถูกโจมตีได้พรรค์นี้... "
 
              " ใจร้อนเสียจริงนะ...นายคิดจริงๆ เหรอ ว่าการโจมตีของ เคียว ของฉันจะไร้ประโยชน์ถึงขนาดนั้นเชียว? "  ชาโดว์ชูเคียวเล่มยักษ์ที่สูงท่วมหัวขึ้นด้วยมือเพียงข้างเดียว แต่นั่นก็ทำให้เรย์ลาลีนได้เห็นอาวุธของอีกฝ่ายชัดๆ เป็นครั้งแรก...
 
             ...ด้ามเคียวเป็นวัสดุที่ดูเหมือนทำจากไม้เมื่อมองด้วยตาเปล่า แต่เป็นไม้ที่มีสีดำสนิท และมีลายคล้ายกับเส้นเอ็นสีแดงสดที่ปูดโปนตลอดแนว...ส่วนของใบเคียวที่เป็นโลหะยิ่งแล้วใหญ่ เพราะนอกจากจะมีขนาดใหญ่ซึ่งควรจะหนักเกินกว่าที่มนุษย์คนเดียวจะแบกไหวแล้ว...มันยังเป็นสีดำสนิทเสียยิ่งกว่าส่วนที่เป็นด้ามเสียอีก...มันเป็นสีดำและส่องประกายประหลาดราวกับนิลกาฬน้ำหนึ่ง...ส่วนที่ติดใบเคียวเข้ากับด้ามมีลักษณะปูดโปนขึ้นอย่าน่ากลัว!!...
 
               " ฉันก็ยังไม่เข้าใจสิ่งที่เธอสื่ออยู่ดี "
 
               " คิกๆๆๆ....งั้นจับตามองรอยขีดดำที่ผลแอปเปิ้ลให้ดีนะ... "
 
               " คร้าบ...คร้าบ...กระผมกำลังดูอยู่... "  เขาขานด้วยน้ำเสียงเหมือนจะชักเริ่มเหนื่อยกับการสนทนา
 
               " สะบั้น !!! "
 
                 พริบตาที่สิ้นเสียงของคำว่า สะบั้น !! รอยเส้นสีดำเล็กๆ รอบผลแอปเปิ้ลนั้นก็หดรัดวูบ!! หดหายผ่านเนื้อแอปเปิ้ลเข้าไป! ...พริบตาต่อมา ผลแอปเปิ้ลส่วนบนก็เลื่อนไถลหลุดออกจากส่วนล่างที่อยู่ในมือของชายหนุ่ม จากรอยตัดที่คมกริบยิ่งกว่ามีดโกน!!
 
               " ฮ ...เฮ้ยยย !!! "  
 
                 เรย์ลาลีนสะบัดผลแอปเปิ้ลที่เหลืออยู่ในมืออีกครึ่งนึงทิ้งทันทีด้วยความตกใจ  ก่อนที่เขาจะพยายามลูบคลำจนกระทั่งข่วนลำคออย่างเอาเป็นเอาตายโดยหวังอย่างสิ้นหวังว่าจะเอาเส้นสีดำแบบเดียวกับที่ติดอยู่กับผลแอปเปิ้ลออก...ซึ่งเขาก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันไม่ได้ผล
 
               " เปล่าประโยชน์น่า...เรย์...เส้นสีดำสนิทนั่นเป็นเพียงแค่เครื่องหมายที่ถูกมาร์คไว้ ...แต่อย่าห่วงไปเลย...มันจะยังไม่ทำงานจนกว่าจะได้รับคำสั่งของฉันเ่ท่านั้น... "  ชาโดว์เอ่ยสำทับเข้ามาอีกครั้ง...ในตอนนี้เรย์ลาลีนต้องตกอยู่ในฐานะเป็นเบี้ยล่างอย่างไร้ทางสู้ชนิดจะบีบก็ตายจะคลายก็รอดเลยทีเดียว!!...
 
              ...แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา ที่ตกอยู่ในสภาพไร้ทางโต้ตอบสุดขีดขนาดนี้ แต่เรย์ลาลีนก็ยังแสดงให้เห็นถึงการควบคุมสติสัมปชัญญะตัวเองอย่างยอดเยี่ยม...ชาโดว์ได้เห็นแววตาแตกตื่นลนลานของชายหนุ่มเพียงไม่กี่วินาที...พริบตาเดียวเมื่อเรย์ลาลีนหลับตาลงและลืมตาขึ้นมาใหม่ แววตาแตกตื่นลนลานนั้นก็มลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย...
 
               " เอาล่ะ.....ต้องการจะพูดอะไรกับผมก็ว่ามา! "
 
               " ??? "  ชาโดว์งงงันวูบ ก่อนที่อึดใจต่อมาเธอจะหัวเราะเบาๆ อย่างชอบอกชอบใจอีกครั้ง
 
               " ความฉลาด และความใจเย็นของนาย กำลังเริ่มจะทำให้ฉันกลัวแล้วนะ...รู้ได้ยังไงว่าที่ฉันทำไปทั้งหมดเพราะต้องการจะแค่คุยกับนายเท่านั้น? "
 
               " ...ถ้าเธอต้องการจะแค่ฆ่าฉันจริงๆ...เธอก็ควรจะฆ่าฉันเสียตั้งแต่ตอนที่ฉันกำลังประมาทฝีมือเธอ...และไม่เห็นจำเป็นจะต้องต่อความยาวสาวความยืดด้วยการมายืนอธิบายความสามารถของเธอขนาดนี้...ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอต้องการจะคุยอะไรกับฉัน...แต่ที่เธอทำมาทั้งหมดก็เพราะแค่รับประกันว่าฉันจะอยู่นิงๆ คุยกับเธอตามที่เธอต้องการเท่านั้น... "
 
                 ท่ามกลางความเงียบสงบในค่ำคืนที่เริ่มจะยาวนานในความคิดของเรย์ลาลีน....หญิงสาวนามว่าชาโดว์ตบมือให้กับคำพูดของเขาอย่างยาวนาน ก่อนที่เธอจะหัวเราะอย่างอารมณ์ดีอีกครั้ง
 
               " ตั้งแต่...ที่เรา 2 คนได้พบกันครั้งแรกในคืนนั้น...ฉันก็รู้อยู่แล้วว่านายไม่ใช่นักศึกษาธรรมดา...แต่ฉันพึ่งจะรู้ชัดเอาเดี๋ยวนี้เอง...ว่านายมันเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับฉัน...ขอโทษที่ต้องทำแบบนี้นะ...แต่ฉันต้องการทำให้แน่ใจว่า นายต้องไม่หัน แหวนนำเวทย์นั่น ใส่ฉัน ในเวลาที่เรากำลังคุยกัน... "  เธอพูดเบาๆ พลางเดินทอดน่องไปนั่งที่ม้านั่งไม้ใกล้ๆ โดยวางเคียวสีดำพาดตักไว้
 
                 เรย์ลาลีนหันไปมองอย่างไม่ใคร่จะไว้วางใจนัก แต่สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันบีบให้เขาไม่มีทางเลือกมากนัก...เขาจึงทำได้แต่เดินไปนั่งที่ม้านั่งฝั่งตรงข้าม ลูบคอที่มีเส้น DeadLine พาดผ่านอยู่ก่อนจะเอ่ยเปิดบทสนทนาเรียบๆ
 
               " เอาล่ะ...ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง บ้า อะไรก็ตาม!...ผมก็พร้อมจะฟังแล้ว... "
 
                 หญิงสาว(ตามที่เธอได้บอกไว้)นามว่าชาโดว์หันมาเอียงคอมองเขาผ่านหน้ากากสีดำที่ปิดบังทุกรูปพรรณสัณฐานของเธอเอาไว้ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ ราวกับเรื่องที่เธอกำลังจะพูดต้องใช้ความกล้าในการเตรียมใจอย่างมาก
 
               " เรย์ ....ขอร้องล่ะ ....มาอยู่ฝ่ายฉันได้ไหม ? "
 
               " !!! " 
 
 
 
.....................................................
               
 
             
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา