Chronicles Of Legend. ปฐมบทแห่งตำนาน

7.3

เขียนโดย LanzaDeLuZ

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.07 น.

  67 chapter
  7 วิจารณ์
  65.24K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

18) ...พี่น้องตลอดไป...

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

================================================

 

             " ....เรย์ฯ ....นายเป็นอะไรรึเปล่า ? "  เซเรรย์ลีนที่ยืนอยู่เบื้องหลังราโชลีนเอ่ยถามเบาๆ อย่างผิดสังเกต เพราะเรย์ลาลีนในตอนนี้ดูเหม่อลอยแบบแปลกๆ 

 

             " ไม่เป็นไร... " เรย์ลาลีนตอบกลับเบาๆ 

 

             " ไม่โดนยา...ไม่โดนมนต์สะกด...ไม่โดนข่มขู่นะ ? " 

 

             " ฉันดูเหมือนโดนบังคับอยู่ไหมล่ะ ? " เรย์ลาลีนเอ่ยถามยิ้มๆ ก่อนจะพูดต่อ

 

             " ราโชฯ...แล้ว  ท่านพ่อ กับ ....รินฯ ...เป็นยังไงบ้าง ? ...หลังเกิดเรื่อง "

 

             ราโชลีนกับเซเรย์ลีนหันมามองหน้ากัน พวกเขารู้ดี ว่าเรย์ลาลีนกำลังเบี่ยงเบนประเด็นที่พวกเขารอคำตอบอยู่

 

             " ก็จะให้เป็นไงล่ะ ? .....นายตายไปทั้งคนนะเว้ย ! ...ท่านพ่อประกาศไว้ทุกข์ทั่วราชอาณาจักร  ส่วนมิลิรินก็เอาแต่ขังตัวเองร้องไห้อยู่ในห้อง  ฉันกับราโชฯ ก็ต้องสร้างเรื่องยกเมฆโกหกคนทั้งประเทศ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ  ผู้บัญชาการทหารจอมเวทย์ เรย์ลาลีน  คอบร้า ฝ่าเข้าไปช่วยเหล่าทหารจอมเวทย์ที่ถูก จอมเวทย์รับจ้างผู้ชั่วร้ายจากซีแบทเทิ่ล จับไว้เป็นตัวประกัน และต่อสู้กันจนตายทั้งคู่ ....ฟังแล้วน้ำเน่าได้โล่เลยไหมล่ะ.... รู้ไหม งานศพของนายโคตรจะยิ่งใหญ่เลย  ประชาชนกับทหารค่อนประเทศพร้อมใจกันมางานนี้ ...แถมบทสดุดีก็เล่นเอาน้ำตาซึมกันไปหลายรอบ .....ว่าไป จะเอาภาพบรรยากาศงานศพตัวเองไหม ?  ...จะได้ส่งไปให้ "  เซเรย์ลีนเป็นคนตอบอย่างขำๆ 

 

             " อีกเรื่องนึง...วันที่พวกเราไปที่เกาะทองคำนั่น .....ที่ราชวังหลวงเกิดเรื่องขึ้น ... "  ราโชลีนเสริมเบาๆ แต่กลับเรียกความสนใจจากเรย์ลาลีนได้ไม่น้อย

 

             " ยังไง ? "

 

             " นางกำนัลรับใช้หน้าห้องบรรทมของมิลิรินทั้งหมด 5 คน หายตัวไป "

 

             " เจอศพไหม? "

 

             " ไม่.....อันที่จริง  เราไม่เจอรอยเลือด หรือร่องรอยการต่อสู้ดวยซ้ำ ....อีกอย่าง พวกนั้นไม่ใช่คนรับใช้ธรรมดา  แต่เป็นหน่วยอารักขาลับ ใต้บัญชาการของฉัน....ไม่มีทางที่พวกนั้นจะเสียท่าง่ายๆ หรือละทิ้งหน้าที่ไปเฉยๆ แน่ "

 

             " พวกนักฆ่า ของอีก 3 ราชวงศ์หรือเปล่า ? "

 

             " ถ้าใช่ ...ทำไมพวกมันถึงไม่เข้าไปฆ่ามิลิรินล่ะ ...โอกาสทองซะขนาดนั้น  ...แถมแรงจูงใจก็ยังไม่ชัดเจน ....บอกตรงๆ เรื่องนี้ฉันมืดแปดด้านว่ะ  ฉันหวังว่านายน่าจะกลับมาช่วยฉันสะสางเรื่องนี้ได้ ....นายจะกลับมาใช่ไหม ? เรย์ฯ "

 

              ราโชลีนเข้าประเด็นอีกครั้งโดยหวังให้เรื่อง ความปลอดภัยของมิลิริน โน้มน้าวใจให้เรย์ลาลีนตัดสินใจกลับมา   

 

              แต่เซเรย์ลีนกลับขมวดคิ้ว ..........ราโชลีนตัดสินใจรีบปิดเกมเกินไป จนลืมนึกไปว่า เรย์ลาลีน กำลังจะโดนจับคลุมถุงชนอยู่  เรื่องนี้อาจจะไปสะกิดตะกอนในใจของเรย์ลาลีนก็ได้ .... ยิ่งเห็นดวงตาของเรย์ลาลีน หม่นแสงลงอย่างชัดเจน ริมฝีปากของเรย์ลาลีน เม้มบางจนเกือบเป็นเส้นตรง

 

              ' แกพลาดซะแล้วว่ะ .... ราโชฯ ... ' เซเรย์ลีนได้แต่คิดเงียบๆ

 

              " ขอโทษนะ ... ราโชฯ ....แต่ฉันไม่คิดจะกลับไปที่นั่นอีกแล้ว....

 

              ราโชลีนเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

 

              " ทำไม ?! "

 

              " นายก็รู้เหตุผลดีอยู่แล้วนี่ ...ราโชฯ ...เรื่องเดียวที่ฉันยังเป็นห่วงอยู่คือ เกาะทองคำ และเหล่าทหารจอมเวทย์ใต้บัญชาการของฉัน ........แต่เชรีน่า ก็บอกไปแล้วนี่ ว่าเธอรับประกันความปลอดภัยของเกาะทองคำไปแล้ว เป็นเวลา 100 ปี .....ทหารจอมเวทย์ก็รอดหมด แม้จะไข้ขึ้นกันถ้วนหน้าเพราะถูกแช่แข็งนานไปหน่อยก็ตามที "

 

              " แล้วเรื่องของมิลิรินล่ะ ?! "

 

              " ฉันมันตัวซวย ....ราโชฯ ...มิลิรินน่ะอยู่ห่างๆ ฉันไว้จะดีต่อเธอมากกว่า ...อีกอย่าง ถ้าฉันกลับไป ...ไม่ช้าก็เร็ว ฉันก็จะต้องแต่งกับเวโรนิก้า ลูกสาวลอร์ดอาร์ธัส อยู่ดี .....เรื่องระหว่างฉัน กับ มิลิริน น่ะ มันจบไปตั้งแต่คืนที่ท่านพ่อฯ พูโกับฉันแล้ว ....ฉันตาย และอยู่ในความทรงจำของเธอตลอดไปน่ะ  ถึงแม้จะโหดร้ายกับเธอ แต่ก็ดีต่อเธอที่สุดแล้ว "

 

              " ต...แต่ว่า !!.... " ราโชลีนพยายามจะยกเหตุผลอื่นมาอีก แต่เซเรย์ลีนที่อยู่เบื้องหลังจับบ่าของเขาไว้ ก่อนจะเดินมายืนที่หน้ากระจกเวทย์พร้อมกับเกาหัวแกรกๆ  

 

              " เรย์ฯ ....นายรู้ตัวดีใช่ไหม ...ว่าการตัดสินใจของนายในเรื่องนี้ เป็นเรื่องใหญ่ที่สุด  และอาจจะสำคัญที่สุด ในชีวิตของนายก็ได้... " เซเรย์ลีนพูดเบาๆ ด้วยน้ำเสียงจริงจัง ซึ่งหาได้ยากจากตัวเขา

 

              " ใช่...ฉันรู้... "

 

              " อืม.....งั้น ...ถ้านายคิดว่านั่นเป็นการดีที่สุด .....นายไปเถอะ ....เรย์ฯ ... "

 

              " เซเรย์ลีน !! "

 

              " ราโชฯ ...เซฯ มันไม่ใช่เด็กแล้วนะ ...มันโตพอจะตัดสินใจอะไรได้ด้วยตัวเองแล้ว ... อีกอย่าง คนที่มันไปอยู่ด้วยก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเชรีน่า แม่ของมันเอง ....เอาน่า...มันก็แค่ไปเที่ยวเล่นซักพัก "

 

              ราโชลีนหันมามองหน้าเซเรย์ลีน ก่อนจะคิดว่า ...มันจะรู้ไหม ว่าสิ่งที่เรย์ลาลีน ตัดสินใจไป มันต่างจากการขออนุญาตผู้ปกครองไปเที่ยวสวนสัตว์ชนิดคนละโยชน์เลยนะ ...

 

              เรย์ลาลีนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ ก่อนที่เขาจะเอามือมาวางทาบบนกระจกเวทย์ ...... มันดูเหมือนระหว่างเขา กับพวกราโชลีน มีเพียงกระจกบางๆ กั้นอยู่เท่านั้น

 

              " เซฯ ...ราโชฯ ...จำที่เราสัญญากันตอนเด็กๆ ได้ไหม ...... ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเรา ...ไม่ว่าเราจะอยู่ใกล้กันเพียงตา ...หรือไกลเกินขอบฟ้ากั้น ....พวกเราจะยังเป็นพี่น้องกัน  ....และจะเป็นพี่น้อง ตลอดไป .... "

 

              ราโชลีนมองน้องชายของเขาที่สะท้อนมาจากกระจกเวทย์ ก่อนจะถอนหายใจเฮือก เขารู้อยู่แก่ใจว่าเรย์ลาลีนดึงดันยิ่งกว่าอะไรดี  ถ้าลงเขาตัดสินใจอะไรแล้วล่ะก็ต่อให้ราโชลีนพูดอะไรไป ก็ไม่ฟังอยู่ดี  เหตุการณ์ตอนที่เรย์ลาลีนดึงดันจะย้ายตัวเองไปที่เกาะทองคำเป็นตัวอย่างได้เป็นอย่างดี

 

              " เรย์ฯ ...รู้ไหม... ตอนนายถูกเชรีน่าพาไป ...ฉันเฝ้าแต่โทษตัวเองมาตลอด ...ว่าทั้งหมด เป็นความผิดของฉัน " ราโชลีนพูดเหมือนกับสารภาพบาปที่เขาอัดอั้นมานาน

 

              " ราโชฯ ...มันไม่ใช่ความผิดของนาย ....รู้ไหม ฉันต้องขอบใจนายด้วยซ้ำ ที่ทำให้ฉันได้พบเจอกับ แม่  ของฉัน.....ถึงเธอจะไม่ได้คลอดฉันด้วยตัวเธอเองก็เหอะ " เรย์ลาลีนบอกเพื่อให้ราโชลีนสบายใจขึ้น  ซึ่งมันก็ได้ผลทันตา เพราะ ราโชลีนมีสีหน้าดีขึ้นอย่างชัดเจน

 

              " ฉันบอกแล้ว ว่าไอ้หมอนี่มันจริงจังเกินเหตุจนน่ากังวล " เซเรย์ลีนเอ่ยแซวเบาๆ

 

              " เงียบเหอะน่า ...เซฯ " ราโชลีนหันมาบ่นก่อนจะหันมาหาเรย์ลาลีนพร้อมพูดต่อ

 

              " เรย์ฯ ....ก่อนจากกัน ...ฉันไม่อยากให้นายลืมเรื่องสำคัญบางอย่างไป ....ไม่ว่านายจะอยู่ที่ไหนในโลกนี้ ...เซลโลลอร์ก็ยังคงเป็นบ้านของนาย ....ถ้าโลกภายนอกมันเหนื่อยนัก  เซลโลลอร์ ก็ยังต้อนรับนายเสมอ .... " ราโชลีนเอ่ยอย่างไม่วายเป็นห่วงตามประสาผู้เป็นพี่คนโต  ซึ่ง เรย์ลาลีนก็ตอบรับด้วยการยิ้มบางๆ

 

              " พี่น้องตลอดไป ...ราโชฯ ...เซฯ ... "

 

              ราโชลีนกับเซเรย์ลีนเอื้อมมือมาทาบกระจกเวทย์ ตรงที่เดียวกับที่เรย์ลาลีนเอามือทาบอยู่ พร้อมกับยิ้มอวยพรบางๆ

 

              " พี่น้องตลอดไป ...โชคดี ....เรย์ฯ "

 

              เรย์ลาลีนค้อมหัวเป็นเชิงขอบคุณ ก่อนที่กระจกเวทย์จะสลายกลายเป็นหมอกควันสีขาว และในที่สุดก็จางหายไปกับธาตุอากาศ ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

 

              " ...สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น ...ไปแล้วคนนึง... " เซเรย์ลีนเปรยเบาๆ ทำเอาราโชลีนหัวเราะหึๆ ก่อนจะเลิกคิ้วอย่างนึกอะไรบางอย่างได้

 

              " เออ... แล้วเรย์ลาลีน มันรู้รึยังว่า เชรีน่า ใช้วิธีอะไรประกันความปลอดภัยให้เกาะทองคำน่ะ " เขาพูดเบาๆ พลางเดินไปค้นในกองเอกสารกองใหญ่ และหยิบภาพๆ หนึ่งขึ้นมา

 

             ...มันเป็นภาพของเกาะทองคำที่ตลอดชายฝั่งทั้ง 4 ทิศล้อมรอบไปด้วยกำแพงน้ำแข็งสีขาวสูงเสียดฟ้า ที่หนาและเข็งพอๆ กับเพชรทีเดียว ชนิดที่ต่อให้ใช้เครื่องเจาะที่ดีที่สุดก็ยังไม่สามารถทำให้มันเป็นรอยได้เลย  ทางเดียวที่จะเข้าออก รวมถึงเคลื่อนย้ายน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติได้ คือทาง วาร์ปเกท เท่านั้น ...

 

           ....อีกไม่กี่วัน ซีแบทเทิ่ลคงจะประกาศถอนกำลัง แน่ๆ .... เขาคิดพลางยิ้มให้กับเรื่องดีๆ ไม่กี่เรื่องที่เกิดขึ้น ในรอบสัปดาห์นี้

 

 

........................................................

 

 

             ...หลังจากที่เขาสลายกระจกเวทย์ไป  เรย์ลาลีนก็ยังคงยืนนิ่งอยู่เงียบๆ คนเดียว  โดยมี เชรีน่านั่งอยู่ในมุมอับสายตาของกระจกเวทย์...

 

              " รู้ไหม....ผมคิดว่านี่ เป็นการตัดสินใจที่ง่ายที่สุด ...แต่กลับพูดออกมาได้ยากที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลยล่ะ "

 

              " บอกแล้ว...ทุกอย่างย่อมต้องมีครั้งแรกเสมอ... " เชรีน่าพูดยิ้มๆ พลางลุกขึ้นบิดตัวจนกระดูกลั่นด้วยความเมื่อยขบ

 

              " อย่าพึ่งทำท่าขี้เกียจน่า ...ผมกับ .......เอ่อ....ว้า......ผมควรเรียกคุณว่าไงดีเนี่ย? ....ม...แม่ ....งั้นเหรอ? " เรย์ลาลีนรู้สึกกระดากปากพิกล เพราะไม่ว่าจะมองจากมุมไหน  หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าก็แก่กว่าเขาไม่เกิน 5 ปีด้วยซ้ำ

 

              เชรีน่าทำหน้าพิกล ก่อนจะหัวเราะเบาๆ

 

             " เอ...เรียกฉันว่า พี่ ดีกว่า...ฉันขี้เกียจจะคอยอธิบายกับใครต่อใครว่า หญิงสาวบริสุทธ์ อย่างฉันไปมีลูกชายโตขนาดนี้ได้ยังไง "

 

             " น...นั่นสินะ...งั้น...พี่...ผมควรจะทำยังไงต่อไปดี ? "

 

             " ไม่เอาน่า.....นายถามในสิ่งที่ไม่มีใครนอกจากตัวนายเป็นผู้ให้คำตอบได้นะ " 

 

             " พี่ก็รู้ว่าผมหมายความว่ายังไง....ตอนนี้เป้าหมายของผมมันเคว้งคว้างไปหมด ...อีกอย่าง....นอกจาก เซลโลลอร์ กับ เกาะทองคำแล้ว ผมก็ไม่เคยไปที่อื่นเลย "

 

             " อ้อ....เด็กน้อยบนหอคอยงาช้าง ...งั้นสินะ? "

 

             " เลิกกระแนะกระแหนซะทีเถอะน่า ...ชีวิตผม ครึ่งนึงผูกขาดไปกับการรบที่เกาะทองคำนะ ....อันที่จริง ผมเคยฝันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่า จะท่องเที่ยวไปทั่วทั้งทวีป.... "

 

             " เฮ้อ....ฝันเฟื่องแบบเด็กๆ "

 

             " เออๆ ...พูดได้พูดไป...พี่ก็ต้องมีมั่งแหละน่า...ความฝันแบบเด็กๆ น่ะ "

 

             " เอางี้นะ....ก่อนที่นายจะ..... " เชรีน่ายังพูดได้ไม่ทันจบ ประตูห้องก็ถูกกระแทกเข้ามาดังลั่น

 

             โครม !!!

 

             " เชรี่ !! ยัยเด็กกะโปโล ! .....รู้ตัวรึเปล่าว่าลูกทำอะไรลงไป !! "

 

             " อึ๋ย !  ตายละวา ...พ่อ !! " เชรีน่าอุทานออกมาพร้อมทำสีหน้าปั้นยากอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน

 

             ผู้ที่กระโดดผลุงเข้ามาคือชายที่รวมเอาภาพพจน์ของ ซานตาคลอส ไว้กับตัวทุกประการ เว้นแต่ไม่ได้ใส่ชุดขนสัตว์สีแดงกับแบกถุงของขวัญเท่านั้น  เส้นผมและหนวดเคราที่เคยเป็นสีเทา บัดนี้เปลี่ยนเป็นสีขาวไปเกือบหมดแล้ว  ใบหน้าอ้วนท้วนใจดีบัดนี้ยับยู่ยี่และปั้นยากอย่างที่สุด  ดวงตาสีเทาเข้มสอดส่ายหาตัวเชรีน่า ขณะที่ในมือโบกหนังสือพิมพ์ฉบับนึงไปมา

 

             " พ่อ ?! " เรย์ลาลีนทวนคำอีกครั้ง พลางคิดว่าตอนนี้ เขาได้เจอกับผู้เป็น คุณตา ของตัวเอง แล้วใช่ไหมเนี่ย ?....

 

 

........................................................

 

 

 

 

 

       

 

             ปล. สำหรับใครที่ งง เรื่องอายุของเรย์ลาลีนกับเชรีน่านะครับ   เชรีน่าเป็นพวกหน้าอ่อนกว่าอายุซึ่งเป็นปกติของเหล่านักเวทย์อยู่แล้ว อายุปัจจุบันของเธอน่าจะเลย 35 ไปไม่มากก็น้อย แม้ว่าใบหน้าจะดูไม่เกิน 25 ก็ตาม ส่วนเรย์ลาลีนที่อายุ 22 ปีนั้น จริงๆแล้ว เขาถูกเร่งการเติบโตจนอายุ 5 ปี ภายใน 2 เดือนนับตั้งแต่เขาถูกสร้างขึ้น .....สรุปว่าทางเซลโลลอร์ได้ตัวอย่าง DNA ของเชรีน่ามาตอนที่เชรีน่าอายุประมาณ 18 ปีครับ

               

                ตอนนี้เป็นอันจบเรื่องราวในเซลโลลอร์โดยสมบูรณ์แล้ว แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องของมิลิริน หรือ ราโชลีนกับเซเรย์ลีนนะครับ เพราะจะมีสอดแทรกความเป็นไปทุกระยะ  ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติเข้ามาอ่านนะครับทีแรกกะว่ามีคนอ่านซัก 100 คนก็ดีใจแล้วนะ ตอนนี้มีกำลังใจแต่งต่อไปเรื่อยๆ แน่นอนครับ ^^

 

ขอบคุณอีกครั้งจากใจ       

 

                                                LanzaDeLuZ          

              

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา