Chronicles Of Legend. ปฐมบทแห่งตำนาน
เขียนโดย LanzaDeLuZ
วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.07 น.
แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) ...พี่น้องตลอดไป...
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
================================================
" ....เรย์ฯ ....นายเป็นอะไรรึเปล่า ? " เซเรรย์ลีนที่ยืนอยู่เบื้องหลังราโชลีนเอ่ยถามเบาๆ อย่างผิดสังเกต เพราะเรย์ลาลีนในตอนนี้ดูเหม่อลอยแบบแปลกๆ
" ไม่เป็นไร... " เรย์ลาลีนตอบกลับเบาๆ
" ไม่โดนยา...ไม่โดนมนต์สะกด...ไม่โดนข่มขู่นะ ? "
" ฉันดูเหมือนโดนบังคับอยู่ไหมล่ะ ? " เรย์ลาลีนเอ่ยถามยิ้มๆ ก่อนจะพูดต่อ
" ราโชฯ...แล้ว ท่านพ่อ กับ ....รินฯ ...เป็นยังไงบ้าง ? ...หลังเกิดเรื่อง "
ราโชลีนกับเซเรย์ลีนหันมามองหน้ากัน พวกเขารู้ดี ว่าเรย์ลาลีนกำลังเบี่ยงเบนประเด็นที่พวกเขารอคำตอบอยู่
" ก็จะให้เป็นไงล่ะ ? .....นายตายไปทั้งคนนะเว้ย ! ...ท่านพ่อประกาศไว้ทุกข์ทั่วราชอาณาจักร ส่วนมิลิรินก็เอาแต่ขังตัวเองร้องไห้อยู่ในห้อง ฉันกับราโชฯ ก็ต้องสร้างเรื่องยกเมฆโกหกคนทั้งประเทศ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ ผู้บัญชาการทหารจอมเวทย์ เรย์ลาลีน คอบร้า ฝ่าเข้าไปช่วยเหล่าทหารจอมเวทย์ที่ถูก จอมเวทย์รับจ้างผู้ชั่วร้ายจากซีแบทเทิ่ล จับไว้เป็นตัวประกัน และต่อสู้กันจนตายทั้งคู่ ....ฟังแล้วน้ำเน่าได้โล่เลยไหมล่ะ.... รู้ไหม งานศพของนายโคตรจะยิ่งใหญ่เลย ประชาชนกับทหารค่อนประเทศพร้อมใจกันมางานนี้ ...แถมบทสดุดีก็เล่นเอาน้ำตาซึมกันไปหลายรอบ .....ว่าไป จะเอาภาพบรรยากาศงานศพตัวเองไหม ? ...จะได้ส่งไปให้ " เซเรย์ลีนเป็นคนตอบอย่างขำๆ
" อีกเรื่องนึง...วันที่พวกเราไปที่เกาะทองคำนั่น .....ที่ราชวังหลวงเกิดเรื่องขึ้น ... " ราโชลีนเสริมเบาๆ แต่กลับเรียกความสนใจจากเรย์ลาลีนได้ไม่น้อย
" ยังไง ? "
" นางกำนัลรับใช้หน้าห้องบรรทมของมิลิรินทั้งหมด 5 คน หายตัวไป "
" เจอศพไหม? "
" ไม่.....อันที่จริง เราไม่เจอรอยเลือด หรือร่องรอยการต่อสู้ดวยซ้ำ ....อีกอย่าง พวกนั้นไม่ใช่คนรับใช้ธรรมดา แต่เป็นหน่วยอารักขาลับ ใต้บัญชาการของฉัน....ไม่มีทางที่พวกนั้นจะเสียท่าง่ายๆ หรือละทิ้งหน้าที่ไปเฉยๆ แน่ "
" พวกนักฆ่า ของอีก 3 ราชวงศ์หรือเปล่า ? "
" ถ้าใช่ ...ทำไมพวกมันถึงไม่เข้าไปฆ่ามิลิรินล่ะ ...โอกาสทองซะขนาดนั้น ...แถมแรงจูงใจก็ยังไม่ชัดเจน ....บอกตรงๆ เรื่องนี้ฉันมืดแปดด้านว่ะ ฉันหวังว่านายน่าจะกลับมาช่วยฉันสะสางเรื่องนี้ได้ ....นายจะกลับมาใช่ไหม ? เรย์ฯ "
ราโชลีนเข้าประเด็นอีกครั้งโดยหวังให้เรื่อง ความปลอดภัยของมิลิริน โน้มน้าวใจให้เรย์ลาลีนตัดสินใจกลับมา
แต่เซเรย์ลีนกลับขมวดคิ้ว ..........ราโชลีนตัดสินใจรีบปิดเกมเกินไป จนลืมนึกไปว่า เรย์ลาลีน กำลังจะโดนจับคลุมถุงชนอยู่ เรื่องนี้อาจจะไปสะกิดตะกอนในใจของเรย์ลาลีนก็ได้ .... ยิ่งเห็นดวงตาของเรย์ลาลีน หม่นแสงลงอย่างชัดเจน ริมฝีปากของเรย์ลาลีน เม้มบางจนเกือบเป็นเส้นตรง
' แกพลาดซะแล้วว่ะ .... ราโชฯ ... ' เซเรย์ลีนได้แต่คิดเงียบๆ
" ขอโทษนะ ... ราโชฯ ....แต่ฉันไม่คิดจะกลับไปที่นั่นอีกแล้ว.... "
ราโชลีนเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
" ทำไม ?! "
" นายก็รู้เหตุผลดีอยู่แล้วนี่ ...ราโชฯ ...เรื่องเดียวที่ฉันยังเป็นห่วงอยู่คือ เกาะทองคำ และเหล่าทหารจอมเวทย์ใต้บัญชาการของฉัน ........แต่เชรีน่า ก็บอกไปแล้วนี่ ว่าเธอรับประกันความปลอดภัยของเกาะทองคำไปแล้ว เป็นเวลา 100 ปี .....ทหารจอมเวทย์ก็รอดหมด แม้จะไข้ขึ้นกันถ้วนหน้าเพราะถูกแช่แข็งนานไปหน่อยก็ตามที "
" แล้วเรื่องของมิลิรินล่ะ ?! "
" ฉันมันตัวซวย ....ราโชฯ ...มิลิรินน่ะอยู่ห่างๆ ฉันไว้จะดีต่อเธอมากกว่า ...อีกอย่าง ถ้าฉันกลับไป ...ไม่ช้าก็เร็ว ฉันก็จะต้องแต่งกับเวโรนิก้า ลูกสาวลอร์ดอาร์ธัส อยู่ดี .....เรื่องระหว่างฉัน กับ มิลิริน น่ะ มันจบไปตั้งแต่คืนที่ท่านพ่อฯ พูโกับฉันแล้ว ....ฉันตาย และอยู่ในความทรงจำของเธอตลอดไปน่ะ ถึงแม้จะโหดร้ายกับเธอ แต่ก็ดีต่อเธอที่สุดแล้ว "
" ต...แต่ว่า !!.... " ราโชลีนพยายามจะยกเหตุผลอื่นมาอีก แต่เซเรย์ลีนที่อยู่เบื้องหลังจับบ่าของเขาไว้ ก่อนจะเดินมายืนที่หน้ากระจกเวทย์พร้อมกับเกาหัวแกรกๆ
" เรย์ฯ ....นายรู้ตัวดีใช่ไหม ...ว่าการตัดสินใจของนายในเรื่องนี้ เป็นเรื่องใหญ่ที่สุด และอาจจะสำคัญที่สุด ในชีวิตของนายก็ได้... " เซเรย์ลีนพูดเบาๆ ด้วยน้ำเสียงจริงจัง ซึ่งหาได้ยากจากตัวเขา
" ใช่...ฉันรู้... "
" อืม.....งั้น ...ถ้านายคิดว่านั่นเป็นการดีที่สุด .....นายไปเถอะ ....เรย์ฯ ... "
" เซเรย์ลีน !! "
" ราโชฯ ...เซฯ มันไม่ใช่เด็กแล้วนะ ...มันโตพอจะตัดสินใจอะไรได้ด้วยตัวเองแล้ว ... อีกอย่าง คนที่มันไปอยู่ด้วยก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเชรีน่า แม่ของมันเอง ....เอาน่า...มันก็แค่ไปเที่ยวเล่นซักพัก "
ราโชลีนหันมามองหน้าเซเรย์ลีน ก่อนจะคิดว่า ...มันจะรู้ไหม ว่าสิ่งที่เรย์ลาลีน ตัดสินใจไป มันต่างจากการขออนุญาตผู้ปกครองไปเที่ยวสวนสัตว์ชนิดคนละโยชน์เลยนะ ...
เรย์ลาลีนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ ก่อนที่เขาจะเอามือมาวางทาบบนกระจกเวทย์ ...... มันดูเหมือนระหว่างเขา กับพวกราโชลีน มีเพียงกระจกบางๆ กั้นอยู่เท่านั้น
" เซฯ ...ราโชฯ ...จำที่เราสัญญากันตอนเด็กๆ ได้ไหม ...... ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเรา ...ไม่ว่าเราจะอยู่ใกล้กันเพียงตา ...หรือไกลเกินขอบฟ้ากั้น ....พวกเราจะยังเป็นพี่น้องกัน ....และจะเป็นพี่น้อง ตลอดไป .... "
ราโชลีนมองน้องชายของเขาที่สะท้อนมาจากกระจกเวทย์ ก่อนจะถอนหายใจเฮือก เขารู้อยู่แก่ใจว่าเรย์ลาลีนดึงดันยิ่งกว่าอะไรดี ถ้าลงเขาตัดสินใจอะไรแล้วล่ะก็ต่อให้ราโชลีนพูดอะไรไป ก็ไม่ฟังอยู่ดี เหตุการณ์ตอนที่เรย์ลาลีนดึงดันจะย้ายตัวเองไปที่เกาะทองคำเป็นตัวอย่างได้เป็นอย่างดี
" เรย์ฯ ...รู้ไหม... ตอนนายถูกเชรีน่าพาไป ...ฉันเฝ้าแต่โทษตัวเองมาตลอด ...ว่าทั้งหมด เป็นความผิดของฉัน " ราโชลีนพูดเหมือนกับสารภาพบาปที่เขาอัดอั้นมานาน
" ราโชฯ ...มันไม่ใช่ความผิดของนาย ....รู้ไหม ฉันต้องขอบใจนายด้วยซ้ำ ที่ทำให้ฉันได้พบเจอกับ แม่ ของฉัน.....ถึงเธอจะไม่ได้คลอดฉันด้วยตัวเธอเองก็เหอะ " เรย์ลาลีนบอกเพื่อให้ราโชลีนสบายใจขึ้น ซึ่งมันก็ได้ผลทันตา เพราะ ราโชลีนมีสีหน้าดีขึ้นอย่างชัดเจน
" ฉันบอกแล้ว ว่าไอ้หมอนี่มันจริงจังเกินเหตุจนน่ากังวล " เซเรย์ลีนเอ่ยแซวเบาๆ
" เงียบเหอะน่า ...เซฯ " ราโชลีนหันมาบ่นก่อนจะหันมาหาเรย์ลาลีนพร้อมพูดต่อ
" เรย์ฯ ....ก่อนจากกัน ...ฉันไม่อยากให้นายลืมเรื่องสำคัญบางอย่างไป ....ไม่ว่านายจะอยู่ที่ไหนในโลกนี้ ...เซลโลลอร์ก็ยังคงเป็นบ้านของนาย ....ถ้าโลกภายนอกมันเหนื่อยนัก เซลโลลอร์ ก็ยังต้อนรับนายเสมอ .... " ราโชลีนเอ่ยอย่างไม่วายเป็นห่วงตามประสาผู้เป็นพี่คนโต ซึ่ง เรย์ลาลีนก็ตอบรับด้วยการยิ้มบางๆ
" พี่น้องตลอดไป ...ราโชฯ ...เซฯ ... "
ราโชลีนกับเซเรย์ลีนเอื้อมมือมาทาบกระจกเวทย์ ตรงที่เดียวกับที่เรย์ลาลีนเอามือทาบอยู่ พร้อมกับยิ้มอวยพรบางๆ
" พี่น้องตลอดไป ...โชคดี ....เรย์ฯ "
เรย์ลาลีนค้อมหัวเป็นเชิงขอบคุณ ก่อนที่กระจกเวทย์จะสลายกลายเป็นหมอกควันสีขาว และในที่สุดก็จางหายไปกับธาตุอากาศ ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
" ...สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น ...ไปแล้วคนนึง... " เซเรย์ลีนเปรยเบาๆ ทำเอาราโชลีนหัวเราะหึๆ ก่อนจะเลิกคิ้วอย่างนึกอะไรบางอย่างได้
" เออ... แล้วเรย์ลาลีน มันรู้รึยังว่า เชรีน่า ใช้วิธีอะไรประกันความปลอดภัยให้เกาะทองคำน่ะ " เขาพูดเบาๆ พลางเดินไปค้นในกองเอกสารกองใหญ่ และหยิบภาพๆ หนึ่งขึ้นมา
...มันเป็นภาพของเกาะทองคำที่ตลอดชายฝั่งทั้ง 4 ทิศล้อมรอบไปด้วยกำแพงน้ำแข็งสีขาวสูงเสียดฟ้า ที่หนาและเข็งพอๆ กับเพชรทีเดียว ชนิดที่ต่อให้ใช้เครื่องเจาะที่ดีที่สุดก็ยังไม่สามารถทำให้มันเป็นรอยได้เลย ทางเดียวที่จะเข้าออก รวมถึงเคลื่อนย้ายน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติได้ คือทาง วาร์ปเกท เท่านั้น ...
....อีกไม่กี่วัน ซีแบทเทิ่ลคงจะประกาศถอนกำลัง แน่ๆ .... เขาคิดพลางยิ้มให้กับเรื่องดีๆ ไม่กี่เรื่องที่เกิดขึ้น ในรอบสัปดาห์นี้
........................................................
...หลังจากที่เขาสลายกระจกเวทย์ไป เรย์ลาลีนก็ยังคงยืนนิ่งอยู่เงียบๆ คนเดียว โดยมี เชรีน่านั่งอยู่ในมุมอับสายตาของกระจกเวทย์...
" รู้ไหม....ผมคิดว่านี่ เป็นการตัดสินใจที่ง่ายที่สุด ...แต่กลับพูดออกมาได้ยากที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลยล่ะ "
" บอกแล้ว...ทุกอย่างย่อมต้องมีครั้งแรกเสมอ... " เชรีน่าพูดยิ้มๆ พลางลุกขึ้นบิดตัวจนกระดูกลั่นด้วยความเมื่อยขบ
" อย่าพึ่งทำท่าขี้เกียจน่า ...ผมกับ .......เอ่อ....ว้า......ผมควรเรียกคุณว่าไงดีเนี่ย? ....ม...แม่ ....งั้นเหรอ? " เรย์ลาลีนรู้สึกกระดากปากพิกล เพราะไม่ว่าจะมองจากมุมไหน หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าก็แก่กว่าเขาไม่เกิน 5 ปีด้วยซ้ำ
เชรีน่าทำหน้าพิกล ก่อนจะหัวเราะเบาๆ
" เอ...เรียกฉันว่า พี่ ดีกว่า...ฉันขี้เกียจจะคอยอธิบายกับใครต่อใครว่า หญิงสาวบริสุทธ์ อย่างฉันไปมีลูกชายโตขนาดนี้ได้ยังไง "
" น...นั่นสินะ...งั้น...พี่...ผมควรจะทำยังไงต่อไปดี ? "
" ไม่เอาน่า.....นายถามในสิ่งที่ไม่มีใครนอกจากตัวนายเป็นผู้ให้คำตอบได้นะ "
" พี่ก็รู้ว่าผมหมายความว่ายังไง....ตอนนี้เป้าหมายของผมมันเคว้งคว้างไปหมด ...อีกอย่าง....นอกจาก เซลโลลอร์ กับ เกาะทองคำแล้ว ผมก็ไม่เคยไปที่อื่นเลย "
" อ้อ....เด็กน้อยบนหอคอยงาช้าง ...งั้นสินะ? "
" เลิกกระแนะกระแหนซะทีเถอะน่า ...ชีวิตผม ครึ่งนึงผูกขาดไปกับการรบที่เกาะทองคำนะ ....อันที่จริง ผมเคยฝันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่า จะท่องเที่ยวไปทั่วทั้งทวีป.... "
" เฮ้อ....ฝันเฟื่องแบบเด็กๆ "
" เออๆ ...พูดได้พูดไป...พี่ก็ต้องมีมั่งแหละน่า...ความฝันแบบเด็กๆ น่ะ "
" เอางี้นะ....ก่อนที่นายจะ..... " เชรีน่ายังพูดได้ไม่ทันจบ ประตูห้องก็ถูกกระแทกเข้ามาดังลั่น
โครม !!!
" เชรี่ !! ยัยเด็กกะโปโล ! .....รู้ตัวรึเปล่าว่าลูกทำอะไรลงไป !! "
" อึ๋ย ! ตายละวา ...พ่อ !! " เชรีน่าอุทานออกมาพร้อมทำสีหน้าปั้นยากอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน
ผู้ที่กระโดดผลุงเข้ามาคือชายที่รวมเอาภาพพจน์ของ ซานตาคลอส ไว้กับตัวทุกประการ เว้นแต่ไม่ได้ใส่ชุดขนสัตว์สีแดงกับแบกถุงของขวัญเท่านั้น เส้นผมและหนวดเคราที่เคยเป็นสีเทา บัดนี้เปลี่ยนเป็นสีขาวไปเกือบหมดแล้ว ใบหน้าอ้วนท้วนใจดีบัดนี้ยับยู่ยี่และปั้นยากอย่างที่สุด ดวงตาสีเทาเข้มสอดส่ายหาตัวเชรีน่า ขณะที่ในมือโบกหนังสือพิมพ์ฉบับนึงไปมา
" พ่อ ?! " เรย์ลาลีนทวนคำอีกครั้ง พลางคิดว่าตอนนี้ เขาได้เจอกับผู้เป็น คุณตา ของตัวเอง แล้วใช่ไหมเนี่ย ?....
........................................................
ปล. สำหรับใครที่ งง เรื่องอายุของเรย์ลาลีนกับเชรีน่านะครับ เชรีน่าเป็นพวกหน้าอ่อนกว่าอายุซึ่งเป็นปกติของเหล่านักเวทย์อยู่แล้ว อายุปัจจุบันของเธอน่าจะเลย 35 ไปไม่มากก็น้อย แม้ว่าใบหน้าจะดูไม่เกิน 25 ก็ตาม ส่วนเรย์ลาลีนที่อายุ 22 ปีนั้น จริงๆแล้ว เขาถูกเร่งการเติบโตจนอายุ 5 ปี ภายใน 2 เดือนนับตั้งแต่เขาถูกสร้างขึ้น .....สรุปว่าทางเซลโลลอร์ได้ตัวอย่าง DNA ของเชรีน่ามาตอนที่เชรีน่าอายุประมาณ 18 ปีครับ
ตอนนี้เป็นอันจบเรื่องราวในเซลโลลอร์โดยสมบูรณ์แล้ว แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องของมิลิริน หรือ ราโชลีนกับเซเรย์ลีนนะครับ เพราะจะมีสอดแทรกความเป็นไปทุกระยะ ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติเข้ามาอ่านนะครับทีแรกกะว่ามีคนอ่านซัก 100 คนก็ดีใจแล้วนะ ตอนนี้มีกำลังใจแต่งต่อไปเรื่อยๆ แน่นอนครับ ^^
ขอบคุณอีกครั้งจากใจ
LanzaDeLuZ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ