Chronicles Of Legend. ปฐมบทแห่งตำนาน

7.3

เขียนโดย LanzaDeLuZ

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.07 น.

  67 chapter
  7 วิจารณ์
  64.15K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) ...พยัคฆ์เทาออกศึก...(3)...(ตรวจความถูกต้อง 100%)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
         
========================================================
             
 
            ....วาร์ปเกท คือ ชื่อเล่นของ ประตูเคลื่อนย้ายมวลสาร ....สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่จากอารยธรรมโบราณที่สาปสูญ ไม่มีใครรู้ว่าโบราณสถานนี้ถูกสร้างขึ้นโดยใคร หรือตั้งแต่เมื่อไหร่...แต่มันก็ทำหน้าที่ของมันได้อย่างซื่อสัตย์มาตลอดตั้งแต่มีคนรู้ว่ามันใช้ยังไง...จนกระทั่งมาถึงยุคสมัยขององค์ราชาคาริออส  เรย์ลาลีนเป็นผู้ทำเรื่องขอย้ายประตูวาร์ปเกทด้านหนึ่งไปยังเกาะทองคำหลังจากที่เขาและกองทัพจอมเวทย์บุกยึดได้ และใช้มันเพื่อขนส่ง ยุทโธปกรณ์รวมถึงเครื่องพยาบาลต่างๆ  ที่อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาชนะศึกมาโดยตลอด ........แต่ในค่ำคืนนี้...จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประตูเคลื่อนย้ายมวลสาร ที่จะทำการเคลื่อนย้าย มนุษย์ ตัวเป็นๆ.....
 
               " ท...ท่านเรย์ลาลีน....ได้โปรดคิดใหม่เถอะครับ! ไม่เคยมีครั้งใดใน ประวัติศาสตร์ ของวาร์ปเกทที่ทำการเลื่อนย้าย สิ่งมีชีวิต มาก่อน!! "  ผู้ดูแลวาร์ปเกทชราห้องห้ามทันที เมื่อได้ยินว่าจอมทัพหนุ่มต้องการให้เขาทำอะไร
 
               " หนวกหูน่า  คุณฟากัส ...ตอนนี้มันเหตุฉุกเฉิน ถ้าหากเดินทางด้วยเรือตามปกติ...กว่าผมจะไปถึงที่นั้นก็ไม่ทันพอดี "  
 
               " ต...แต่ๆ ท่านเรย์ลาลีนครับ! ...การเคลื่อนย้ายสิ่งของ มันต่างจากการเคลื่อนย้ายสิ่งมีชีวิตนะครับ .....มันเหมือนกับเอา การทำอาหาร ไปเปรียบเทียบกับ การเล่นแร่แปรธาตุ เลยเชียวนะ!! "
 
                " อ่า...ไว้วันหลังผมจะแนะนำผู้หญิงคนนึงให้รู้จัก ...เป็นคนที่ผมยอมกินสิ่งที่หล่อนได้จาก การเล่นแร่แปรธาตุ  มากกว่ากินสิ่งที่หล่อนเรียกว่า อาหาร แน่ๆ "  
 
                " โธ่....ท่านเรย์ลาลีน  อย่าพูดเล่นได้ไหมครับ ...ผมจะทำยังไงถ้าผมส่งคุณไปจากทางนี้ แล้วคุณไปโผล่ที่โน่นในสภาพที่เหมือน ซอสมะเขือเทศเละๆ ล่ะครับ "  
 
                ประโยคนี้ทำเอาเรย์ลาลีนที่เดินๆ อยู่ถึงกับชะงักกึก...เขาพยายามจะไม่คิดภาพตามแล้ว แต่ก็ยังอดหน้ามืดไม่ได้...แต่เขาก็ยังก้าวต่อไปโดยคิดถึงพวกพ้องของเขาที่รออยู่ที่อีกฝั่งของวาร์ปเกทเป็นหลัก
 
                " หมดเรื่องพูดแล้วใช่ไหม คุณฟากัส ...เอาล่ะ กรุณาเปิด วาร์ปเกท ด้วยครับ "
 
                " โธ่....ท่านเรย์ลาลีน.... "
 
                " ได้โปรด...คุณฟากัส.... "
 
                ดวงตาสีเทาเข้มของเรย์ลาลีนไม่มีแววของความสั่นคลอนเลยแม้แต่น้อย...แม้รู้ว่ากำลังจะกลายเป็น หนูตะเภาลองยา ก็ตาม ....นั่นทำให้ชายชราฟากัสถึงกับอึ้ง เขาเป็นข้าราชการฝ่ายพลเรือนจึงไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มตรงหน้าทำแบบนี้เพื่ออะไร  ...และรู้ว่า เขาอาจจะไม่มีวันเข้าใจเลย  ก็เป็นได้
 
                เรย์ลาลีนก้าวมาหยุดอยู่หน้าซุ้มประตูขนาดใหญ่ของวาร์ปเกท...ปกติหากไม่มีการเปิดใช้มันจะดูเหมือนซุ้มประตูสูงธรรมดาๆ   แต่เมื่อเปิดใช้งาน ตรงระหว่างซุ้มประตูจะมีสสารกึ่งแข็งกึ่งเหลวสีโลหะเงินวาวฉาบอยู่บางๆ ราวกับกระจกเงาขนาดใหญ่ที่ดูไม่น่าไว้วางใจเอาเสียเลย...เขากลืนน้ำลายฝืดๆ รู้สึกว่าคอเหนียวหนืดอย่างประหลาด
 
                " ถ้าถอยตอนนี้ มีหวังโดนคุณฟากัสหัวเราะเยาะไปทั้งปีแหงๆ "  เขาพึมพำเบาๆ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกอีกครั้งราวกับตัดสินใจได้...เขาหันมาหาผู้คุมวาร์ปเกทชรานามว่า ฟากัส อีกครั้งพร้อมกับยิ้มให้บางๆ
 
                " ไปก่อนนะครับ คุณฟากัส...แล้วเจอกันครับ... "  เขาพูดพร้อมกับก้าวเข้าไปในวาร์ปเกท อย่างไม่เหลือความลังเลอีกต่อไป
 
                    
                 วูบบบบบบบ !!!!!!!!
 
                 
                 เสี้ยววินาทีแรกที่เขาก้าวเข้าสู่โลหะเหลวสีเงิน เขารู้สึกราวกับตัวเองถูกยัดเข้าเข้าไปในขวดค๊อกเทล ก่อนจะโดนเขย่าอย่างแรง แล้วก็โดนพาไปขึ้นรถไฟเหาะตีลังกาแบบมาราธอน...แรงโน้มถ่วงดูเหมือนจะพลิกกลับไปกลับมาไปหมด ...ก่อนที่เสี้ยววินาทีต่อมา ทุกอย่างจะหยุดลงพร้อมๆ กับเขาหล่นลงไปเอาหน้ากระทบหญ้าเย็นๆ ดัง ตุ้บ !!
 
                 " อ่าห์....สงสัยมานานแล้วว่ามันจะเป็นยังไง.......รสชาติแบบนี้อย่าให้ได้เจอะได้เจอ อีกเล้ยยย .... "  
 
                  เขาบ่นเบาๆ พลางพยายามจะลุกขึ้น แต่ก็ต้องทรุดลงไปกองอีกรอบ...น้ำย่อยกับอดีตอาหารเย็นในกระเพาะพยายามจะพุ่งออกมาจากปาก แต่เขาก็ฝืนกลืนลงไปอย่างยากลำบาก
 
                  เมื่อตั้งสติได้ เขาจึงมองไปรอบๆ อย่างพินิจ จนเขารู้สึกได้ถึงกระแสพลังเวทย์อย่างมหาศาลมาจากฝั่งชายทะเลด้านทิศเหนือ อันเป็นตำแหน่งแคมป์ของเหล่าทหารจอมเวทย์ของเขา...เป็นพลังเวทย์ที่หนาวยะเยือกจนเสียดกระดูก แม้ว่าจะอยู่ไกลถึงขนาดนี้ก็ตาม
 
                  เรย์ลาลีนไม่รอช้า เขาพุ่งไปทันทีด้วยความเร็วราวกับสายลม
 
                  " รอก่อนนะ ...ทุกคน...ฉันกำลังจะไปถึงเดี๋ยวนี้แหละ !! " เขาพึมพำเบาๆ แม้ว่าจะอยู่ด้วยความเร็วสูงสุดที่เขาทำได้แล้วก็ตาม แต่เขากลับรู้สึกเหมือนว่าแต่ละวินาที ยาวนานราวกับชั่วกัปชั่วกัลป์  ยิ่งเขาเข้าใกล้แค้มป์มากเท่าไหร่ ใจเขาก็ยิ่งไม่ดีมากขึ้นเท่านั้น  เพราะนอกจากเสียงคลื่นกระทบฝั่งแล้ว เขาไม่ได้ยินเสียงอื่นใดเลย
 
                  " เจมส์ ...อาเธอร์ ...ลารี่ !!  โธ่โว้ย !! ใครก็ได้ขานตอบฉันที !! "  เขาตะโกนไปรอบๆ แต่สิ่งที่ตอบกลับมากลับมีเพียงความเงียบ ....เงียบ เสียจนกระทั่งน่าหวั่นใจ
 
                   " ต้องยอมรับ......ว่าคราวนี้  ฉันประหลาดใจของจริงเลย..."
 
                   อยู่ๆ เสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง ก็มากระซิบเบาๆ คลอเคลียหูเขาอย่างกะทันหัน   เรย์ลาลีนพุ่งหลบทันทีอย่างระวังภัย...เมื่อหันมา เขาก็พบกับหญิงสาวในชุดจอมเวทย์ยาว โดยมีฮู้ดคลุมหัวปิดบังใบหน้าส่วนใหญ่ไว้  ที่ไม่น่าไว้วางที่สุดคือไม้เท้าเวทย์ที่มีผลึกสีฟ้าใสประดับอยู่เป็นหัวไม้เท้า ...มันเป็นไม้เท้าเวทย์ที่ดูคุ้นตาเขาอย่างประหลาด
 
                   " คุณ ...คุณคือคนที่จับทหารของผมไว้ ....งั้นเหรอ ? "  เรย์ลาลีนหยั่งเสียงถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ  ปกติเขาก็เชื่อได้ยากอยู่แล้วว่า จะมีคนเพียงคนเดียวเอาชนะกองทหารของเขาได้ ...ยิ่งถ้าบอกว่าผู้ที่เอาชนะกองทหารจอมเวทย์ได้ เป็นหญิงสาวตรงหน้าที่อายุน่าจะมากกว่าเขาไม่เกิน 3 ปี ยิ่งทำให้ทำใจเชื่อได้ยากเข้าไปใหญ่
 
                   " น่าประหลาดจริงๆ ...นายมีความสามารถอันสูงส่งซ่อนเร้นอยู่  แต่กลับไม่เคยใช้มัน...ไม่สิ...นายยังไม่รับรู้ถึงการคงอยู่ของความสามารถนั้น.... "
 
                   จอมเวทย์สาวยังคงกล่าวต่อไปโดยไม่สนใจเรย์ลาลีนเลยแม้แต่น้อย
 
                   " โทษทีนะ....ผมไม่มีเวลามาดูดวงตอนนี้...ผมอยากรู้แค่ว่า...คนของผมอยู่ที่ไหนเท่านั้น " 
 
                   " อะไรกัน ? " เธอพูดพลางกลั้วหัวเราะ ก่อนจะกล่าวต่อเบาๆ                   " พวกมัน อยู่ด้านหลังนายมาตั้งแต่แรกแล้วนี่ ! " 
 
                   เรย์ลาลีนหันกลับไปมอง ก่อนดวงตาสีเทาจะเบิกกว้างขึ้นอย่างตื่นตระหนก เพราะสิ่งที่ปรากฎในคลองสายตาของเขา คือร่างของทหารจอมเวทย์ 48 นาย ที่ถูกแช่ค้างไว้ในก้อนน้ำแข็งสีฟ้าใส ในสภาพดวงตาเบิกโพลง ...เขารีบวิ่งไปที่ก้อนน้ำแข็งที่แช่ร่างของทหารจอมเวทย์ที่อยู่ใกล้ที่สุดพร้อมกับสัมผัสก้อนน้ำแข็งก้อนนั้น
 
                  ' ร่างกายทั้งหมดถูกแช่เข็ง ....แต่สมอง หัวใจ กับส่วนที่พยุงชีวิตไว้กลับยังไม่หยุดทำงาน......นี่มัน.........คำสาปแบบไหนกันแน่เนี่ย ?! '  เขาพยายามวิเตราะห์สิ่งที่ พันธนาการ  ทหารจอมเวทย์ของเขา  นี่เป็นเวทย์ที่แม้แต่คนอย่างเขาก็ยังไม่เคนรู้จักมาก่อน
 
                 " ไง? ...คิดยังไงกับ โลงเย็นนิรันดร์  ของฉัน "  จอมเวทย์สาวเอ่ยถามความเห็นยิ้มๆ
 
                  " น่าชื่นชมจริงๆ ...ถ้าคนที่ถูกคำสาปแช่แข็งอยู่นี่ ไม่ใช่คนของผม...ผมว่าผมคงจะชื่นชมมากกว่านี้อีกไม่น้อยแน่ๆ "
 
                  " ช่วยไม่ได้นี่...ฉันก็ไม่ได้อยากจะทำอะไรให้เอกเกริกหรอกนะ  แต่จะให้ฉันเดินอาดๆ เข้ามาแล้วบอกกับพวกนั้นว่า...มาขอพบ คุณเรย์ลาลีน หน่อยค่า !  มีหวังเจ้าพวกเด็กๆ ของนาย ได้รุมยำฉันเละน่ะสิ "
 
                  เรย์ลาลีนถอนหายใจเฮือก  อย่างน้อยตอนนี้เขาก็มั่นใจได้แล้วว่าทหารจอมเวทย์ใต้บังคับบัญชาของเขาปลอดภัยในระดับนึง เพียงแค่ถูกควบคุมตัวอยู่เท่านั้น.....เพราะดูจากเวทย์ โลงเย็นนิรันดร์์  แล้ว...ถ้าจะฆ่ากันจริงๆ ระดับของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า คงทำได้ไม่ยากเย็นนักด้วยซ้ำ
 
                  " คนที่คุณอยากพบ ก็อยู่ตรงหน้าคุณแล้วนี่ไง ....มีอะไรก็ว่ามาสิ "
 
                  " ...มีแน่... เรย์ลาลีน คอบร้า ....มีแน่ๆ ... "  จอมเวทย์สาวปริศนาพูดพลางกลั้วหัวเราะด้วยอารมณ์ยินดี 
 
 
 
....................................................
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา