Tarey

9.0

เขียนโดย Mauvais

วันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 17.49 น.

  4 Ep
  3 วิจารณ์
  9,433 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 16.00 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ไถล..

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

             ฟิคเรื่องนี้ไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับศิลปิน ไม่มีเรื่องจริงสักกะติ๊ดเดียว

เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น

ใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ ^__^

 

 

                ผมกำลังอ่านฟิควายที่แฟนคลับแต่งจิ้นผมกับโจอี้อยู่ อ่านแล้วก็ตลกดีนะครับ ที่ว่าผมปกป้องโจอี้น่ะไม่จริงเลย โจอี้ปกป้องผมซะมากกว่า เด็กตัวแค่นี้รู้จักต่อยคนอื่นแทนพี่ แถมยังทำอวดดีอีก -_- บางครั้งผมก็หมั่นไส้มัน ไม่รู้ว่ามันได้อ่านฟิคพวกนี้รึยัง แต่ถึงมันอ่าน มันก็คงไม่คิดอะไร เพราะมีแต่ผมคนเดียวที่คิด .. คิดว่าโจอี้จะคิดแบบผมรึเปล่า เพราะสำหรับผม ผมคิดกับโจอี้เกินน้องไปตั้งนานแล้วครับ

                “ทำไรอยู่น่ะ” เสียงเข้มดังขึ้นข้างหลัง ผมรีบปิดหน้าเว็บทันที เดี๋ยวถ้ามันรู้ว่าผมอ่านนิยายมุ้งมิ้งแบบนี้ มันจะมาล้อผมเอาได้ หึหึ

                “ผมเห็นนะว่าพี่อ่านนิยายที่แฟนคลับแต่งให้อยู่” มันพูดพร้อมยิ้มมุมปาก

                “ก็สนุกดีนี่หว่า ไม่เห็นเป็นไรเลย” ผมตอบพลางมองหน้ามันที่จ้องผมเหมือนผมเป็นเด็กยังงั้นแหละ

                “อี้ไม่อยากให้พี่ต้าโดนคุงครูตี..” เฮ่ย ! มันพูดเหมือนในนิยายเด๊ะ

                “อี้ก็อ่านเหมือนกันหรอ ?”

                “แน่อยู่แล้ว คนอย่างผมอะซุ่มเงียบ รู้ทุกเรื่องแหละแต่ไม่พูด .. ส่วนพี่ โพสอะไรไม่รู้ทุกวัน ไม่ให้แฟนคลับเค้าตื่นเต้นเวลาโพสเล๊ย” แหม..จิกกัดได้เจ็บมาก

                “โทรศัพท์พี่ เฟซบุ๊คพี่ สามจีก็ตังพี่ จะโพสอะไรก็เรื่องของพี่ จบมั้ยครับคุณเทวดาน้อย”

                “จะทำอะไรก็แล้วแต่คุณพี่ชายเลยครับ ว่าแต่วันนี้ พี่นัดพี่สองพี่บิ๊กไว้ที่ตาต้าสตูดิโอ ซ้อมเพลงใหม่ไม่ใช่หรอ”

                “ใช่ แต่นี่มันเพิ่งแปดโมงเช้าเอง พี่นัดไว้สี่โมงเย็น อี้จะไปทำอะไรก็ไปก่อนเหอะ” ผมบอกอย่างงั้น เพื่อจะสื่อให้มันไปไกลๆ เพราะตูจะอ่านนิยายต่อเฟ่ยยยยยยย

                “เออ !! ใช่ว่ะพี่ ผมลืมเลย นี่นัดแอนไว้ ไปดูหนังเรื่องใหม่ ถ้าพี่ไม่พูดนี่ลืมไปแล้วนะเนี่ย ขอบคุณมากครับ” แล้วมันก็วิ่งออกไปดั่งสายลม .. ว่าแต่ แอนคือใคร ที่แน่ๆต้องเป็นผู้หญิง แล้วทำไมต้องไปดูหนังด้วยกันด้วยล่ะ ..ผมรู้สึกเหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่ๆถ่วงอยู่ในหัวใจ  และมันก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่อี้พูดถึงผู้หญิงคนอื่น

                ผมคิดกับอี้เกินน้องก่อนจะมีกระแสจิ้นวายอะไรพวกนี้อีก แต่ก็มีพวกเด็กกลุ่มนึงที่จ้องจับผิดเห็นเคมีอะไรไม่รู้ในตัวผมกับอี้แล้วเอาไปจิ้นเนี่ย (ได้ข่าวว่าน้องพวกนั้นจิ้นกันในทวิต) ตอนแรกผมก็ไม่ชอบหรอก ก็แหม ความลับระดับโลก เอาไปล้อเล่นกันได้ไง แต่สุดท้ายเรื่องมันก็เลยเถิดมาจนถึงเฟซบุ๊ค ทีนี้แหละครับ แค่ผมลงรูปโจอี้แฟนคลับก็เอาไปจิ้นกันใหญ่แล้ว และล่าสุดก็ฟิคจิ้นวายที่ผมกำลังอ่านอยู่ ในนิยายมันตรงข้ามไปหมดเลย จริงๆมันต้องเป็นผมสิ ที่คิดถึงแต่โจอี้ ไม่ชอบให้โจอี้อยู่ใกล้ผู้หญิงคนอื่น และผมสิที่ต้องให้โจอี้ปกป้อง ...

                ผมจำได้ว่าโจอี้เคยให้สัมภาษกับรายการ HAMBURGER ว่าชอบเพลงไถล ของพาราด็อกซ์ที่สุด อี้บอกว่าเป็นเพลงแรกที่ผมเอาเดโมไปให้มันลองเล่นกลอง มันบอกว่าประทับใจที่สุด ผมดีใจที่อี้คิดอย่างนั้น เพราะเพลงนี้ ผมแต่งให้อี้โดยเฉพาะ

                เจ็บใจก็เพราะว่าเธอยังคิดว่าเราไม่รัก ไม่เคยสนใจ

            ปวดใจที่ฉันรักเธอหมดใจ แต่เธอไม่รู้ ไม่ฟัง

 

                พ.ศ. 2535

                ตอนเย็นหลังเลิกเรียนวันหนึ่ง เด็กชายอิทธิพงศ์ หรือต้าที่ตอนนี้อยู่ ม.4 กำลังเดินออกจากโรงเรียน แต่มันต้องผ่านห้องน้ำ ที่ลือกันเป็นข่าวดังว่ามีพวกรุ่นพี่ ม.6 มาสูบบุหรี่กัน และมันก็เป็นเหมือนข่าวลือ เพราะกลิ่นบุหรี่ตลบอบอวน บริเวณนั้น อาจารย์หายไปไหนกันหมดนะ เรื่องแค่นี้ทำไมจัดการกันไม่ได้ ต้าคิด แล้วเขาก็ชำเลืองไปเห็นรุ่นพี่คนนึงที่ขึ้นชื่อเรื่องนักเลงมาก ก็คือ เต๋า ที่อยู่ ม.6/10 นั่นเอง

                “เฮ้ย มึงมองหน้ากูอยากมีเรื่องหรอวะ” เต๋าพูด เขาลุกขึ้นและปาบุหรี่ลงบนพื้นพลางขยี้ให้ต้าเห็นอย่างจงใจ

                “เปล่าครับพี่” ต้ารู้แล้วว่าวันนี้เขาต้องโดนต่อยแน่ๆ

                “ก็กูเห็นอยู่ว่ามึงมองกู ..ทำไม มึงจะเอาเรื่องที่กูสูบบุหรี่ไปฟ้องครูหรอวะ กูน่ะรู้จักมึง ไอ้ต้าที่อยู่ ม.4 วันๆไม่ทำอะไรนอกจากเล่นกีต้าร์ มึงอยากจะให้สาวๆสนใจหรอวะ มันไม่ได้ผลหรอก เลิกทำตัวเด่นได้ละมึงอะ กูเหม็นขึ้หน้าถุย” เต๋าถ่มน้ำลายลุงบนรองเท้าต้า .. ต้าไม่พูดอะไร ตอนนี้เขาโกธรมาก อยากจะต่อยหน้ามันสักหมัด แต่ถ้าต่อยไป มีหวังโดนรุมกระทืบเละแน่ แต่ความโกธรก็แสดงออกมาทางแววตา

                “ทำมาถลึงตาใส่ เอาหมัดกูไปแดกมั้ย ไอ้เหี้ย!” ว่าแล้วเต๋าก็ต่อยเข้าที่ปากของต้าอย่างแรง ต้าล้มไปกองกับพื้น เอามือแตะริมฝีปากตัวเอง และเขาก็เห็นเลือด..

                “มาสิวะไอ้ต้า มึงแน่จริงก็ต่อยกูกลับสิ หรือจะเอากีต้าร์ต๊อกต๋อยของมึงมาฟาดหัวกูก็ได้นะ พ่อกูเป็นเพื่อนกับผอ. กูจะทำอะไรมึง กูก็ไม่ผิดเว่ย !!!” ต้าโกธรจนตาจะลุกเป็นไฟ เขาลุกขึ้น มองเต๋าอย่างไม่กลัวอะไรทั้งนั้น  เขากำลังจะง้างหมัดต่อยเต๋าแต่ว่า..

                “แล้วมึงลืมไปแล้วหรอวะ .. ว่าพี่กูนามสกุลอะไร” เสียงห้าวๆ ดังมาจากข้างหลังเต๋า .. โจอี้นั่นเอง อวดดีอีกแล้ว ไอ้เด็กบ้านี่ เดี๋ยวก็โดนต่อยอีกคนหรอก ต้าคิด

                “หึ..น้องมึงปากดีจังเลยนะ อยากแดกตีนแทนข้าวมั้ย”

                “กฤดากร ณ อยุธยา .. ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก จำได้มั้ยเอ่ยว่านามสกลุใคร” โจอี้เล่นกวนประสาท

                “กูจะไปรู้มึงมั้ยวะ !!!”

                “นามสกุลเก่า เมียผอ. คือนามสกุลกฤดากร ณ อยุธยา จะพูดให้มึงเข้าใจก็คือ เมียผอ.คือป้าแท้ๆของพี่กูเว่ย ..เทียบไม่ติดกับการที่พ่อมึงเป็นเพื่อน ผอ. เลยเนอะ” โจอี้อธิบาย ตอนนี้เต๋าทำหน้าช็อกสุดขีด .. ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย เพราะต้าไม่อยากให้ครูต้องประคบประหงมเค้าเหมือนลูกคุณหนู

                “ฝากไว้ก่อนเหอะมึง” เต๋าทำท่าจะเดินหนีไป แต่โจอี้รั้งไว้ ทั้งสองหันมาเผชิญหน้ากัน

                “มึงจะเอาอะไรอีกฮะ ไอ้เด็กเวร” เต๋าถาม

                “มึงต่อยพี่กู !!!” พูดจบ โจอี้ก็ต่อยเข้าที่ตา เต๋าจังๆ ถึงจะอยู่แค่ ม.1 แต่เขาสูงพอๆกับต้า และนิสัยร้ายกาจนี่ก็ไม่เป็นสองรองใคร

                “มึง..มึง .. ” เต๋าพยายามจะหาคำมาด่า มือนึงจับเบ้าตา อีกมือนึงก็ชี้โจอี้ด้วยแววตาโกธรแค้น

                “มึงต่อยพี่กู กูต่อยมึง ถือว่าเจ๊ากัน” โจอี้พูด เต๋ามองหน้าโจอี้แล้วเขาก็เดินไปอีกทางจนลับสายตา

                โจอี้รีบวิ่งเข้าไปประคองต้าทันที อยู่ตั้ง ม.4 แล้ว ทำไมยังบอบบางก็ไม่รู้ สู้เขาไม่ได้เลยสักนิด

                “ทำไมต้องไปต่อความยาวสาวความยืดกับมันด้วย เดี๋ยวมันก็ไปเปล่าประกาศ แล้วก็ล้อว่าเราเป็นลูกคุณหนูที่ไหนอีก” ต้าบ่นทันที เมื่อถึงห้องพยาบาลของโรงเรียน

                “ทำไมล่ะพี่ เป็นลูกคุณหนูแล้วไง ถ้าเป็นลูกนักธุรกิจนิสัยเลวๆอย่างมัน ผมยอมเป็นลูกคุณหนูให้คนล้อดีกว่า” โจอี้พูดพลางจับริมฝีปากต้าที่มีเลือดเปรอะอยู่

                “โอ๊ย พี่เจ็บนะ”

                “ทำเป็นเด็กห้าขวบไปได้ ผมต้องปกป้องพี่อีกนานแค่ไหนเนี่ย ถ้าไม่มีผม พี่จะสู้กับคนอื่นยังไงฮะ”

                “ไม่รู้สิ พี่แค่ไม่อยากมีเรื่องกับใครทั้งนั้น อย่างน้อยถ้ามันหาเรื่องเราก่อน เราก็ไม่ผิด อีกอย่างพี่จะตั้งใจเรียนไม่อยากให้พ่อแม่เสียใจ”

                “โธ่ .. พ่อเทวดาลงมาจุติ ครับ ครับ ครับ ผมจะดูแลพี่อย่างนี้ตลอดไปเลยนะ” โจอี้พูดและขำกับท่าทางของพี่ชาย

                “ได้ทีเอาใหญ่นะ แล้วเล่นกลองเป็นไงบ้าง ไปเรียนมาไม่ใช่หรอ”

                “ก็ดีนะ ผมว่ามันง่ายมากเลยแหละ”

                “ง่ายหรอ -__- พี่ว่าเหนือมนุษย์ยังไงไม่รู้ กีต้าร์ง่ายกว่าเยอะ”

                “มันแล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน เท่ๆอย่างผมเนี่ยเล่นกลองได้อยู่แล้ว ส่วนพี่ก็เล่นกีต้าร์ต๊อกต๋อยไป 55555”

                “พูดเหมือนพี่เต๋าเมื่อกี๊เด๊ะ”

                “หึ..แต่สำหรับพี่ จะเล่นดนตรีอะไร หรือจะไม่เล่นอะไร พี่ก็เท่สำหรับผมอยู่แล้วครับ”

 

                เป็นสิทธิ์ของฉันเช่นกัน ที่มันจะขอรักเธอ ที่มันจะขอเฝ้าและขอได้ทำตามใจ

            กำลังคิดถึงตอนเด็กๆเลย โทรมาทำไมฟะ ไอ้น้องบ้า -_- ผมกดรับโทรศัพท์อย่างเซ็งสุดชีวิต

                “ว่าไง”

                (หิว)

                “เอ้า ! แล้วจะมาบอกพี่ทำไมเนี่ย บอกแล้วจะมีข้าวลอยไปหาเอ็งหรอวะ”

                (ไปกินข้าวกันนะ มีร้านอาหารตามสั่งเปิดใหม่อยู่แถวบางพลัดเนี่ย หน้าปากซอยบ้านอะ พี่ออกมาเลย ผมอยูที่ร้าน)

                “แล้วน้องแอนที่จะไปดูหนังด้วยล่ะ”

                (เดี๋ยวเล่าให้ฟัง ออกมาก่อน)

                “เออๆ เดี๋ยวออกไป” .. อะไรของมันล่ะครับเนี่ย อยู่ดีๆ ก็ชวนออกไปกินข้าว ประสาท

 

                แล้วสุดท้ายผมก็ต้องมาอยู่ที่ร้านข้าวที่อี้บอก เป็นร้านอาหารตามสั่งธรรมดาทั่วไปนี่แหละครับ แต่มันไม่ธรรมดาตรงที่..อี้นั่งอยู่กับผู้หญิง แล้วมันจะชวนผมออกมาทำไมล่ะ ก็มีคนนั่งกินด้วยอยู่แล้วเนี่ย ..ผมเดินหันหลังจะกลับ แต่ว่า

                “เฮ่ย พี่ต้า ! จะไปไหน ” โจอี้เข้ามาลากผมเข้าไปนั่งที่โต๊ะ นั่งติดกับอี้ ส่วนผู้หญิงคนนั้น(น่าจะเป็นน้องแอนที่อี้พูดถึง)นั่งตรงข้ามกับเราสองคน

                “พี่ต้า นี่แอน ..แฟนผมครับ” ฮะ..ว่าไงนะ แฟนหรอ แล้วทำไมล่ะ ทำไมต้องให้ผมมานั่งทำความรู้จักด้วย .. น้ำตาผมมันจากไหนเนี่ย

                “พี่ต้า ร้องไห้ทำไม” อี้เอามือมาปาดน้ำตาให้ผม และน้องแอนก็ทำหน้างงๆ

                “ฮะ ป่าวๆ ใครร้องไห้ จะบ้าหรอ ฝุ่นมันเข้าตาพี่น่ะ .. เออ น้องชื่อแอนใช่มั้ยครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” ผมฝืนยิ้มให้น้องเค้าไป    

                “แอนรู้จักพี่ต้าอยู่แล้วแหละค่ะ แอนเป็นแฟนคลับพาราด็อกซ์มาตั้งแต่อัลบั้ม summer นู่นแน่ะ” น้องแอนตอบกลับมา .. ผมหันไปมองหน้าโจอี้ . . ก็วงเรามีกฏห้ามจีบแฟนคลับนี่นา .. แต่ถึงน้องเขาจะไม่ใช่แฟนคลับ ผมก็เจ็บปวดจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลย สรุปคำตอบก็คือ โจอี้ไม่ได้คิดกับผมเกินอะไรทั้งนั้น เขาเห็นผมเป็นแค่คนๆนึง ที่ต้องดูแลปกป้องตลอดเวลา คนๆนึงที่เขาคงรู้สึกรำคาญแล้ว ..

                “ครับ เดี๋ยวพี่กลับก่อนนะ ต้องไปแต่งเพลงเพิ่มอัลบั้มใหม่” ผมลุกขึ้น

                “ทำไมไม่กินข้าวด้วยกันก่อนละพี่” โจอี้ถาม

                “ฉันมีงานต้องทำ” ผมพูดเสียงเย็นชา โจอี้มองผมด้วยสายตางงงวย ก็แน่สิ..ผมไม่เคยเรียกตัวเองว่า ฉัน กับน้องเลยสักครั้งในชีวิต

                “แอนติดตามอยู่นะคะ >__<” ผมยิ้มตอบน้องเขาไป ก่อนจะเดินออกนอกร้าน .. ตอนนี้ในหัวผมมันมึนงงไปหมด ทำไมโจอี้ต้องเรียกผมออกมารู้จักคนรักด้วย ที่ผ่านมา เขาไม่เข้าใจจริงๆหรอ ว่าผมคิดกับเขายังไง .. ผมเดินกลับบ้าน ไร้สภาพความเป็นศิลปินสุดๆ

                ผมนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ตอบแฟนคลับที่โพสถามบนเฟซบุ๊ค แต่ในหัวตอนนี้ผมไม่ได้คิดอะไรเลยนอกจากโจอี้

 

                พ.ศ. 2540

                “ฉันเดินหาคนที่เล่นกลองเทพๆมาทั่วมหา’ลัยละ ไม่มีสักคน” ต้าพูดกับสอง

                “เขาอาจจะเล่นได้ แต่ไม่อยากอยู่วงเรา เรามันฟอร์มวงเล่นกันเล่นๆ ไมได้จริงจังอะไร ใครเขาจะอยากมาอยู่กับเราวะต้าเอ๊ย ...”

                “มันก็จริง แต่ตอนนี้ฉันจนปัญญาสุดๆเลยว่ะ”

                “ก็น้องเอ็ง ที่ว่าเล่นกลองได้ ทำไมไม่เอามาอยู่ในวง”

                “อี้มันอยู่ ม.ปลาย เอง อย่าดึงมันให้มาเสียการเรียนเลย”

                “งั้นเดี๋ยวค่อยว่ากันใหม่ละกัน”

 

                “ฉันหามือกลองได้แล้วเว่ย นี่พี่โน๊ต จะมาเป็นมือกลองวงหอยจ๊อเรา” ต้าแนะนำโน๊ตให้ทุกคนรู้จัก เขาได้ไปดูวงดนตรีของรุ่นพี่ ที่โน๊ตไปเล่นรับเชิญให้หนึ่งเพลง แล้วอดติดใจเสียงกลองไม่ได้ เลยชวนเข้ามาอยู่ในวง

                หลังจากนั้น 2 ปี วงของต้าก็มีอัลบั้มเป็นของตัวเอง แต่ไม่ได้ใช้ชื่อเป็นหอยจ๊อ เขาเปลี่ยนใหม่เป็นพาราด็อกซ์ ซึ่งแปลว่าความขัดแย้งในตัวเอง วันแรกที่อัลบั้มออกวางขาย ก็มีเรื่องทันที ..

                “อี้ พี่ขอเล่นมาริโอ้หน่อย ไปหยิบให้พี่ไปน้องรัก” เขาพูดเสียงอารมณ์ดีสุดขีด ก็แหม .. ได้ออกอัลบั้มทั้งที ไม่ดีใจได้ไง แต่โจอี้ไม่ตอบ เขานั่งอยู่หน้าคอม หันหลังให้ต้า แล้วหน้าจอคอมนั้นก็ว่างเปล่า ไม่ได้เปิดเว็บอะไรดูเลยแม้แต่น้อย

                “เป็นอะไรอี้” ต้าเดินช้าๆ ไปหาโจอี้ แล้วสิ่งที่เขาเห็นก็ทำให้ประหลาดใจที่สุด โจอี้กำลังร้องไห้ เงียบๆ ไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้น เมื่อเห็นว่าต้ากำลังมองอยู่ โจอี้ก็ลุกขึ้นเผชิญหน้ากับพี่ชาย

                “พี่ก็รู้ว่าผมอยากเล่นกลองให้วงพี่ ถ้าพี่ตั้งวง ! ผมไปเรียนกลอง เผื่อจะมีสักวันหนึ่งที่พี่ให้ผมเข้าไปอยู่ในวง !! พี่ตั้งวงพาราด็อกซ์อะไรของพี่มานานแค่ไหนแล้วล่ะ .. ต้องนานมากเลยสินะ ถึงจะสั่งสมประสบการณ์จนออกอัลบั้มได้เนี่ย !” เขาตะโกนลั่นห้อง  และหยิบเทป Lunatic Planet  จากโต๊ะคอม เขวี้ยงใส่ต้า แต่ต้ารับไว้ทัน ตอนนี้เขารู้สึกผิดมาก แต่โจอี้ก็งี่เง่าเกินไป เขาไม่อยากให้น้องต้องมาเสียการเรียน อย่างที่เคยพูดไว้กับสอง

                “อี้ !! อย่ามาขึ้นเสียงกับพี่ ที่พี่ไม่บอกอี้เรื่องตั้งวงเพราะพี่ไม่อยากให้อี้มาเล่นในวงกับพี่  พี่ไม่อยากให้อี้เสียการเรียน อี้อยู่ ม.6 แล้ว ต้องตั้งใจเรียน ต้องสอบเข้ามหา’ลัย เลิกทำตัวงี่เง่าสักที !”

                “ใช่สิพี่ต้า ผมมันงี่เง่า พี่เอาใครไม่รู้มาเป็นมือกลอง นั่นก็พิสูทให้เห็นแล้วว่าพี่เห็นคนอื่นสำคัญกว่าผม !!!! พี่อย่าเอาเรื่องการเรียนมาอ้างเลยดีกว่า ผมมันตีกลองกระจอก เล่นก็ไม่เก่ง ต้า พาราด็อกซ์ จะอยากเอาเข้าวงไปทำไมล่ะจริงไหม ..” โจอี้พูด เสียงสั่นเคลือ

                “ยิ่งพูดพี่ว่ายิ่งเลยเถิดละอี้ ยังไงก็ไม่มีใครสำคัญเท่าอี้หรอก พี่รักอี้ พี่ถึงไม่อยากให้อี้ไปทำอะไรที่ไม่มีจุดหมายปลายทางกับวงพี่ ตอนที่พี่ตั้งวง พี่ไม่รู้หรอกนะว่าวันนึงมันจะได้ออกอัลบั้ม ถ้าอี้อยากยึดอาชีพมือกลองจริงๆ อี้ก็ตั้งวงของอี้ได้นี่ ไม่จำเป็นต้องอยู่วงพี่เลย”

                “ก็ผมอยากอยู่กับพี่ .. เวลาผมใกล้พี่ ผมรู้สึกว่าผมไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น แต่ไม่เป็นไรครับ ขอให้วงพี่ดังๆแล้วกันนะ” พูดจบ โจอี้ก็เดินออกนอกห้องไปเลย ต้าได้ยินเสียงสะอื้น มันดังเข้าไปในโสตประสาทและทำให้เขาเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด .. เขาทำให้โจอี้ร้องไห้ ทั้งๆที่โจอี้รักเขามาก ปกป้องเขามาตลอด เขาทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย !

                “โจอี้ .. พี่ขอโทษ” ต้าพึมพำกับตัวเองเบาๆ แล้วน้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็ไหลออกมา

 

 

                คงเป็นเพราะตอนนั้น ที่ผมทำร้ายโจอี้อย่างแสนสาหัส ถ้าพี่โน๊ตไม่บินไปต่างประเทศ ทุกวันนี้ผมกับอี้ก็คงยังไม่มองหน้ากันเหมือนเดิม เพราะตลอดระยะเวลาที่พี่โน๊ตยังอยู่ ผมกับอี้ไม่คุยกันสักคำเดียว ผมรู้สึกผิด ส่วนโจอี้ก็คงโกธรผมมากๆ..และนี่ไง โจอี้มาทำให้ผมเจ็บปวด เหมือนที่เขาเจ็บปวดวันนั้นแล้ว ผมเข้าใจแล้ว.. ว่าเวลาคนที่เรารักไปให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าเป็นยังไง .. แต่นี่มันต่างกัน ผมรักโจอี้คนละแบบ และแน่นอนว่าผมไม่ได้รักพี่โน๊ตแบบที่โจอี้รักน้องแอนแน่ๆ ผมไม่รู้จะทำยังไง หัวใจผมมันเหมือนโดนน้ำร้อนเดือดๆสาดใส่ ผมไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ..

 

ร้องตะโกน ร้องคำราม มันเจ็บลึกที่เธอไม่รู้ ไม่เชื่อ ไม่เข้าใจ

ไถลกับพื้นดินแดนแห้งผาก ไถลกับยั้ยยัยยัยแห้งผาก

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา