รักรัตติกาฬลวร ตอน เจ้าหญิงฐานิศร

-

เขียนโดย cheraom

วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.48 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  5,066 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 23.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) พบเจอ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ


แฉะแฉะ!!!
เสียงกระหนำรวนชัตเตอร์ของบรรดานักข่าวนับหลายร้อยคนจนเฉียดพันที่ต่างแก่งแย่งกันแทรกมาถ่ายรูปยิ่งใกล้เขตกันรั้วเท่าไรยิ่งมีคนหนาแน่นมาเท่านั้น รั้วกันเขตที่มีบอดี้การ์ดหลายสิบคนช่วยกันกั้นไว้เอนไปเอนมาตามแรงเบียดเสียด เหนือพื้นพรมสีแดงแเผยให้เห็นโฉมสาวสวยทั้งสี่คนและหนึ่งหนุ่มรูปงามผู้โดดเด่น ที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่มีโฉมงามมากที่สุดในประเทศหรืออาจจะเป็นในโลก น้อยคนนักที่ไม่รู้จักชื่อของพวกเธอและเขา
เจ้าชายดุลยวันน์ พี่คนโตและคนเดียวของวังรัตติกาฬลวร องค์รัชทายาทที่มีรูปร่างหน้าตาและความสามารถเต็มเปี่ยม ทำให้สาวทั้งในและนอกประเทศพากันหลงไหลชืื่นชมอยากเจ้าหญิงในอ้อมแขนของชายคนนี้
เจ้าหญิงกันติศาเจ้าหญิงพี่คนโตแห่งวังรัตติกาฬลวร ผู้มีนิสัยเรียบร้อยพูดน้อย มีกริยาท่าทางงดงามสง่างามที่สุดในเหล่าบรรดาพี่น้องด้วยกัน
เจ้าหญิงฐานิศรพี่รอง มีนิสัยรักสวยรักงามชอบการแต่งตัว เย่อหยิ่งในบางครั้งบางหน มีความเชื่อมั่นในตัวเอง จริงใจ
เจ้าหญิงกรรัตน์พี่คนกลางรักสนุก ควงชายมากหน้าหลายตาแต่ไม่เคยทำเรื่องเสียเสียหายหายให้แก่วงศ์ตระกูล
เจ้าหญิงลัลน์ลลิตน้องคนสุดท้อง ได้ฉายาว่าเป็นคนที่เพอร์เฟ็คที่สุดในประเทศด้วยหน้าตาที่สวย รูปร่างงดงาม ความสามารถเพียบพร้อมในทุกด้าน นิสัยดี รักการแสดงการร้องเพลง ถึงแม้จะเป็นคนที่สมบูรณ์แต่ในบรรดาพี่น้องไม่เคยอิจฉากัน
เมื่อบรรดาเจ้าชายเจ้าหญิงก้าวขึ้นมาถึงบันไดขั้นสูงสุดแล้วก้าวเข้าสู่งานราตรีของบรรดาผู้คนที่สูงศักดิ์ทั้งหลายทั้งปวงนักข่าวถูกกันออกจากงานด้วยฝีมือบอดี้การ์ด เมื่อประตูงานใกล้ปิดลง นักข่าวผู้หนึ่งได้บังอาจดึงสายชุดราตรีของเจ้าหญิงฐานิศรอย่างแรง ทำให้เจ้าหญิงสะดุดส้นสูงกำลังจะล้มลงกับพื้น ชายรูปงามคนนึงก้าวมาคว้าตัวเจ้าหญิงไว้ได้ทันหน้าของทั้งคู่อยู่ห่างกันราวไม่ถึงคืบ สายตาของทั้งคู่ประสานกันเจ้าหญิงฐานิศรใจเต้นรั่วอย่างไม่เป็นจังหวะอาจเป็นเพราะตกใจกับเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นหรือเพราะเธอกำลังอยู่ในอ้อมกอดวงแขนอันแข็งแรงของหนุ่มรูปงามผู้นี้ ทั้งคู่สบตากันอยู่นานสองนานโดยไม่รู้ว่าผู้คนรอบของเกิดอาการตกใจอย่างมากราวกับว่าในงานนี้มีเพียงเขาแค่สองคน เจ้าหญิงฐานิศรเริ่มรู้สึกตัว ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"กรุณาปล่อยตัวดิฉันด้วยนะค้ะ"
ชายรูปงามรู้สึกตัวช้อนตัวเจ้าหญิงฐานิศรขึ้นมายืนตรงตรงทั้งคู่สบตากัน ชายรูปงามส่งยิ้มหวานให้เจ้าหญิงเล็กก่อนถอยหลังห่างจากเจ้าหญิงหนึ่งก้าว ทำให้บรรดาพี่น้องรีบเข้ามาดู
"ศรเป็นยังไงบ้าง"
เจ้าชายดุลยวันน์เอ่ยถามเป็นคนแรก
เจ้าหญิงกันติศาเดินดูรอบรอบตัวของเจ้าหญิงฐานิศรเพื่อตรวจสอบว่ามีบาดแผลหรือไม่
เจ้าหญิงกรรัตน์จัดทรงผมให้เจ้าหญิงฐานิศรให้เรียบร้อยเป็นทรงเดิม
เจ้าหญิงลัลน์ลลิตปัดชุดราตรีให้เจ้าหญิงฐานิศรให้เรียบ
ซึ่งทำให้บรรดาคนในงานอมยิ้มไปตามตามกันในความรักของพี่น้องกลุ่มนี้
"ศรไม่เป็นไรค้ะพี่ชายใหญ่"
ศรตอบพร้อมอมยิ้มเบาเบาก่อนหันไปหาชายรูปงามที่เข้ามาช่วยเธอเมื่อสักครู่นี้แต่พบว่าเขาได้หายไปแล้ว
"พี่ศรมองหาใครหรอค้ะ"
เจ้าหญิงลัลน์ลลิตถามด้วยน่าเสียงสงสัยพาให้คนอื่นอื่นสงสัยไปตามตามกัน
"เปล่าจ๊ะ"
"เจ้าหญิงครับ ให้หม่อมฉันทำยังไงกับนักข่าวคนนี้ดีครับ"
เจ้าหญิงฐานิศรมองนักข่าวที่ดึงชุดราตรีของเธอที่มีหน้าตาสำนึกผิดอย่างมากและแสดงท่าทางกลัวการลงโทษ
"เราไม่เป็นไรแล้ว ปล่อยนักข่าวท่านนี้ไปเถอะ เขาคงไม่ได้ตั้งใจ"
บอดี้การ์ดค่อยค่อยคลายแขนที่มัดนักข่าวไว้อยู่ นักข่าวแสดงหน้าตาดีใจอย่างมากรีบยกมือไหว้เจ้าหญิงฐานิศรหลายครั้งก่อนเก็บข้าวของของตนวิ่งออกจากงานไป
"ศรไม่เป็นไรแน่น้ะ"
เจ้าหญิงกันติศาถามด้วยน้ำเสียงห่วงใยอีกครั้ง
"ศรไม่เป็นไรจริงจริงค้ะ พี่ศา"
"พี่ศรไม่เป็นไรแล้วก็ดีค้ะ งั้นเราไปเดินสวัสดีผู้ใหญ่ในงานกันดีกว่าค้ะ"
เจ้าหญิงกรรัตน์เอ่ยพี่พี่น้องน้องพยักหน้าก่อนเดินตามเจ้าชายเขมินท์ที่พาน้องน้องไปสวัสดีผู้ใหญ่รอบงานด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
'ไปไหนของเขานะ'
เจ้าหญิงฐานิศรที่เดินรั้งท้ายคิดในใจพร้อมมองหาชายหนุ่มเมื่อครู่แต่ก็ไม่มีแม้แต่เงาของเขาในงานนี้
"ศร ศร ศร!"
"ค้ะพี่ชายใหญ่!"
เจ้าหญิงฐานิศรสะดุงหลังจากที่โดยเจ้าชายดุลยวันน์เขย่าตัวเบาเบาพร้อมเรียกชื่อ
"ท่านนายกเขาถามนะ"
"ถามอะไรหรอค้ะ?"
"หม่อมฉันถูลถามเจ้าหญิงนะเพคะ ว่าในบรรดาพวกท่าน เจ้าหญิงทรงคิดว่าใครจะได้อภิเษกเป็นองค์แรกนะเพคะ"
"เราคิดว่าเป็นพี่ชายใหญ่นะค่ะ เพราะเจ้าชายดุลยวันน์เป็นพี่คนโตของพวกเรา"
"เพคะ งั้นหม่อมฉันขอตัวก่อนเพคะ"
ท่านนายกบอกลาก่อนปลีกตัวออกไป เจ้าหญิงฐานิศรถอนหายใจเบาเบาก่อนจิบไวน์ในแก้วเล็กน้อย
"ศรเป็นอะไรหรือเปล่าดูเหม่อเหม่อ"
"เปล่าค้ะพี่ชายใหญ่ พอดีศรเพลียนิดหน่อยนะค้ะ"
"ไปพักก่อนดีไหมค้ะพี่ศร"
"ไม่เป็นไรลัลพี่ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น"
เจ้าหญิงฐานิศรตอบก่อนยิ้มเล็กเล็กชายตาไปในน้ำพุหลังงานเห็นชายรูปงามคนที่ช่วยเธอไว้นั่งอยู่คนเดียว เธอรีบปลีกตัวออกจากกลุ่มสร้างความสงสัยให้พี่พี่น้องน้องของอย่างมากในตอนนี้ เจ้าหญิงฐานิศรเดินเลียบสวนดอกไม้ไปก่อนหยิบกระจกมาส่องดูสภาพของตนตอนนี้หลังจากที่เก็บกระจกเธอเดินไปในน้ำพุที่ชายรูปงามนั่งอยู่
"เจ้าหญิงฐานิศร!"
ชายผู้นั้นตกใจเล็กน้อยก่อนโปรยมือให้เจ้านั่งที่ม้านั่งของตน เจ้าหญิงก้มหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงขอบคุณ
"ท่านรู้จักชื่อเราได้อย่างไร"
"ก็ท่านเป็นที่รู้จักของคนในโลกอย่างขว้างคว้างหม่อมฉันจะไม่รู้จักได้ยังไงล้ะเพคะ"
"ฮาฮา เราไม่ได้โด่งดังขนาดนั้น"
"ไม่จริงเพคะ รัตติกาฬลวรทรงมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก"
"ที่โด่งดังก็พี่พี่น้องน้องเราไม่ใช่เราคนเดียวนิ"
"เพคะเจ้าหญิง"
"แล้วท่านล้ะมีนามว่าอย่างไร"
"หม่อมฉันชื่อภาคินทร์เพคะ"
"ภาคินทร์งั้นหรือ ภาคินทร์ท่านเรียกเราว่าศรเฉยเฉยก็ได้ ถือว่าตอบแทนที่ท่านช่วยชีวิตเรา"
"แต่ว่า..."
"ไม่มีแต่ทั้งนั้น กรุณาเรียกเราว่าศรเถอะ"
"ครับ เจ้าหญิงศร"
"ดีมาก จริงสิเรายังไม่ได้ขอบคุณท่านเลยที่ช่วยชีวิตเราไว้"
"คงไม่ถึงกับช่วยชีวิตหรอกครับ เจ้าหญิงศร"
"ไม่แน่นะ เราอาจจะหกล้มหัวแตกก็ได้นิ"
"ฮาฮา เจ้าหญิงศรนี้ตลกเหมือนกันนะครับ"
"ไม่ขนาดนั้นหรอกนะ"
"ครับ"
"....."
"......"
"......"
"เจ้าหญิงศรครับ"
"ว่าไงค้ะ"
"ทำไมท่านถึงมานั่งคุยกับหม่อมฉันอย่างนี้ล้ะครับ"
"เราอยากมาขอบคุณที่มาช่วยเราไว้นะ"
"เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอกครับ หม่อมฉันพร้อมเสมอ"
"ว่าแต่ท่านเป็นคนตระกูลอะไรล้ะ"
"รณพัฒน์ศวรนะครับ"
"อ๋อเราเคยได้ยินท่านพ่อพูดถึงบ่อยบ่อยแต่นึกไม่ออกนะว่าเรื่องอะไร"
"องค์เหนือหัวพูดถึงตระกูลของหม่อมฉันด้วยหรอครับ เป็นเกียรติอย่างยิ่ง"
"ฮาฮา ท่านนี้จริงจังดีนะ"
"ว่าแต่เจ้าหญิงฐานิศรครับ"
".."
"ให้เกียรเต้นรำกับหม่อมฉันนะครับ"
ภาคินทร์คุกเข่าต่อหน้าเจ้าหญิงฐานิศรพร้อมยืนมือออกมาสร้างความตกใจแก่เจ้าหญิงเล็กน้อย
'แค่ขอเต้นรำท่าทางพอพอกับขอแต่งงาน'
เจ้าหญิงคิดในใจก่อนส่งมือไปวางเบาเบาบนมือของภาคินทร์ เจ้าหญิงรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาจากมือของภาคินทร์ทำให้เธอรู้สึกร้อนผ่าวบนใบหน้า เจ้าหญิงค่อยค่อยลุกขึ้น เดินเข้างานไปพร้อมกันทั้งคู่สบตากันตลอดทางที่เดินมา คนในงานตามพากันมองมาที่จุดเดียวกัน เจ้าหญิงลัลน์ลลิตสะกิดให้พี่ของตนดูไปทางเจ้าหญิงฐานิศร ซึ่งพวกเขาแอบอมยิ้มกันไปมา
เจ้าหญิงฐานิศรที่ตอนนี้อยู่กลางฟอล์กับเจ้าชายภาคินทร์หยุดยืน ค่อยค่อยเอามือโอบกันและกัน ทั้งคู่สบตากันตลอดเวลา เจ้าหญิงฐานิศรรู้สึกราวกับว่าอยู่ในสวนดอกไม้ที่มีเพียงเธอกับเขาเพียงสองคนทั้งคู่ค่อยค่อยขยับตัวตามจังหวะ เจ้าหญิงมองหน้าชายที่เขากำลังเต้นรำด้วยในขนาดนี้แอบพิจารณาใบหน้าที่เรียบเนียนของเขา ขนตายาวพอสมควรรับกับตาคมที่ซ่อนความขี้อ้อนในแววตา ปากรูปกระจับสีกระเจี้ยบที่พาเธอหลงไหล ทั้งคู่ขยับตัวตามจังหวะโดยพร้อมกันอย่างไร้ที่ติ สายตาคนในงานต่างอึ้งกับการเต้นรำของทั้งคู่ที่งดงามมากจนไม่อาจละสายตาได้ เมื่อจบเพลงลงทั้งคู่สบตากันในระยะจมูกชนจมูก ภาคินทร์ยิ้มก่อนถอยหลังออกมาก่อนจูงมือพาเจ้าหญิงฐานิศรไปหากลุ่มพี่น้องของเธอ
ปล่อยมือออกช้าช้า
"วันนี้หม่อมฉันขอตัวก่อนนะครับ"
เจ้าหญิงยิ้มรับก่อนที่ภาคินทร์ตะโน้มตัวมากระซิบข้างหูของเจ้าหญิงของฐานิศรเบาเบา
"หวังว่าจะได้เจอเจ้าหญิงอีกนะครับ"
ภาคินทร์ยิ้มก่อนถอยหลังเดินออกจากงานทิ้งให้เจ้าหญิงฐานิศรยืนอี้งอยู่กลางวงของพี่น้อง
"แหนะ เมื่อกี้มันอะไรกันค้ะพี่ศร"
"ใช่เมื่อกี้มีกระซิบอะไรกันข้างหูหรอศร พี่อยากรู้"
"แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยล้ะค้ะพี่ศร"
"ศร!!!ไม่สบายหรอจ้ะ"
"ไม่ใช่หรอก ศาอาการแบบนี้เขาเรียกว่าเขิน"
"เขิน?"
เจ้าหญิงฐานิศรจับหน้าตัวเองที่ร้อนผ่าว จิกตาใส่พี่พี่น้องที่รุมกันแซวตนก่อนแอบคิดถึงภาคินทร์ว่าจะได้เจอเขาอีกครั้งไหม
-----------------------------------------............-----------------------------------------จบตอนแรกนะค้ะ อาจจะสั้นไปหน่อยนะค้ะ มีข้อผิดพลาดประการใดก็ชวนติชมกันด้วยนะค้ะ ขออภัยหากมีข้อผิดพลาดประการใดไว้นะที่นี้ค้ะ cheraom;3

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา