เรือนลั่นทม
-
เขียนโดย กระดาษทราย
วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 02.15 น.
2 ตอน
0 วิจารณ์
5,606 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556 03.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ...แสง แดดอ่อนๆ ตกกระทบลงผิวน้ำเป็นประกายพร่างพราว เหล่าแมงภู่ ผึ้งบินตอมดูดดื่มความหวานจากเกสรบัวในบึง หญิงสูงศักดิ์กับชายผู้ต่ำต้อยนั่งเอียงแนบแอบอิงกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่
"ไอ้ขันคนนี้รักคุณหนูลั่นทมเหลือเกิน ยอดรักของพี่"
นี่ไม่ใช่เพียงครั้งแรก แต่เป็นครั้งแล้วครังเล่าที่ เสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มพร่ำคำรักให้กับเจ้าหล่อนฟัง
"ลั่นทมก็รักพี่ขันนะจ๊ะ ตั้งแต่แม่จากลั่นทมไปก็มีแต่พี่ขันที่รักและเข้าใจลั่นทม ผิดกับพ่อที่คอยแต่จะบังคับข่มให้ลั่นทมแต่งงานกับขุนพิทักษ์"
หญิงสาวบอกรักกลับ พร้อมตัดพ้อน้อยใจผู้เป็นพ่อ
"ไอ้ขันมันบุญน้อยนักเกิดมาก็กำพร้าพ่อกำพร้าแม่ ยังดีที่ได้หลวงตาคงชุบเลี้ยงเอาไว้ จะมีปัญญากระไรไปสู้กับท่านขุนเล่า"
"โธ่...พี่ขัน อย่าน้อยเนื้อต่ำใจไปเลย อย่างไรเสียลั่นทมก็รักพี่ขันคนเดียว และไม่ว่าจะเป็นเช่นไรลั่นทมก็จะทำให้พ่อยอมรับในตัวพี่ขันให้ได้"
"ไม่มีทางซะหรอก นังลูกไม่รักดี!! นังแจ่มพาตัวลูกข้ากลับบ้าน"
"เจ้าค่ะ"
เสียงเข้มของชายคนหนึ่งดังขึ้น คนทั้งคู่หันไปมองที่เจ้าของเสียง ทำท่าละล่ำละลักด้วยความตกใจ เจ้าของเสียงนั้นคือหลวงปรีชาบิดาของหญิงสาวนั่นเอง ชายหนุ่มพยายามจะฉุดรั้งตัวหญิงสาวคนรักเอาไว้ แต่ก็ถูกคนของหลวงปรีชาเล่นงานจนสะบักสะบอม หญิงสาวได้แต่ร่ำไห้ที่เห็นคนรักถูกทำร้าย ก่อนจากไปหลวงปรีชากล่าวหักหาญน้ำใจไอ้ขันหมายจะให้เจียมตัวเลิกข้องแวะกับ ลูกสาวของตน
"หมาวัดขี้เรื้อนอย่างมึงก็เป็นได้แค่หมาวัดอย่าได้หมายมาเด็ดดอกฟ้าอย่างลูกสาวกู รู้จักตักน้ำใส่กะโหลกดูเงาตนเสียบ้างว่ามึงเป็นใครแล้วลูกกูเป็นใคร คนที่คู่ควรกับลูกสาวกูมีเพียงพ่อขุนพิทักษ์เท่านั้นมิใช่หมาวัดเยี่ยงมึง"
เมื่อทุกอย่างสงบลงเหลือเพียงแต่ร่างอันบอบช้ำหมดสติของไอ้ขันหลับไหลอยู่ใต้ตนไม้ใหญ่ เสียงเรียกของไอ้แคล้ว เพื่อนเด็กวัดที่ฝึกหัดเชิงมวยมาด้วยกันตั้งแต่เริ่มเป็นหนุ่มทำให้ไอ้ขันเริ่มรู้สึกตัว
“ไอ้ขัน ไอ้ขันโว้ย ไอ้ขันเอ็งอยู่ไหนวะจะเย็นจะย่ำแล้วนะโว้ยหลวงตาให้ข้ามาตามเอ็งไปกินข้าว ไอ้ขัน ไอ้ขันโว้ย”
“ทางนี้ไอ้แคล้ว ทางนี้”
ไอ้ขันเรียกให้เพื่อนหันมามองก่อนที่ไอ้แคล้วจะเดินเหยียบตัวของมัน ถึงเสียงจะแผ่วเบาแต่ก็ทำให้ไอ้แคล้วหยุดแล้วหันมาพบมัน ไอ้แคล้วตกใจที่เห็นเพื่อนรักอยู่ในสภาพบอบช้ำเช่นนี้ ร่างกายกำยำของไอ้แคล้วที่ได้มาจากการฝึกหัดเชิงมวยจึงทำให้มันสามารถแบกไอ้ขันกลับไปรักษาตัวที่กระท่อมเล็กๆ หลังวัดได้อย่างสบาย
ฝ่ายทางลั่นทมเมื่อกลับถึงเรือนก็ถูกหลวงปรีชาลงโทษกักบริเวณมิให้ออกไปไหนเป็นเวลาเจ็ดวัน หญิงสาวได้แต่เศร้าซึมและร้องไห้ด้วยความเป็นห่วงชายคนรัก จึงให้นังอ่อนบ่าวคนสนิทของตนไปสืบความว่าไอ้ขันเป็นอย่างไรบ้าง
“ได้ความว่าอย่างไรบ้างอ่อน พี่ขันเป็นอย่างไร?”
“พี่แคล้วบอกว่าพี่ขันบอบช้ำไปทั้งตัว จับไข้เพราะบาดแผลนอนซมอยู่สองวันแล้วเจ้าค่ะ”
“โธ่…พี่ขัน อ่อน อ่อนเอาอัฐนี่ไปซื้อยาให้พี่แคล้วต้มให้พี่ขันกินนะ”
อ่อนรับอัฐจากลั่นทมและรีบไปทำหน้าที่ตามนายสั่งด้วยความเต็มใจ ถึงแม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับความรักของคนทั้งสองแต่ก็ทนเห็นนายของตนเศร้าเสียใจไม่ได้แล้วอีกอย่าง อ่อนก็จะได้มีโอกาสสานสัมพันความรักกับไอ้แคล้วด้วยเช่นกัน
สามวันผ่านไป ลั่นทมทนเป็นห่วงไอ้ขันไม่ไหวจึงเขียนจดหมายฝากให้อ่อนนำส่งให้ ไอ้ขันอ่านจดหมายแล้วตอบกลับฝากอ่อนมาให้ลั่นทมเช่นกัน จนวันหนึ่งทั้งคู่ได้นัดหมายกันออกมาพบที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นเดิม คนทั้งสองเข้าสวมกอดกันด้วยความรักและห่วงหาซึ่งกันและกัน
“ฉันคิดถึงพี่เหลือเกินพี่ขัน”
“พี่ก็คิดถึงลั่นทมเหมือนกัน ยอดรักของพี่”
คนทั้งสองพร่ำคำหวานซึ้งบอกรักกัน แต่ทุกอย่างก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อมีเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น
“เห็นทีจะไม่งามแล้วกระมังน้องลั่นทม มาอยู่ที่นี่เองพี่ตามหาซะทั่ว เมื่อครู่พี่ไปขออนุญาตคุณอาจะพาน้องลั่นทมไปลอยกระทงและไปเที่ยวงานวัดคืนนี้ แล้วคุณอาก็อนุญาตแล้วด้วย”
“ไม่ น้องไม่ไป น้องจะอยู่กับพี่ขัน ขุนพิทักษ์อยากไปก็เชิญไปคนเดียวเถิดค่ะ”
“ไม่ได้ น้องต้องไปกับพี่ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้”
ขุนพิทักษ์ดึงแขนลั่นทมเพื่อจะบังคับไห้ไปกับตน ไอ้ขันเห็นดังนั้นจึงเข้าปกป้องคนรักของตน
“หญิงไม่เต็มใจไปด้วยก็มิควรขืนใจ มันจะดูไม่งามชาวบ้านจะครหากันได้นะท่านขุน”
“ไม่ใช่เรื่องของมึงไอ้หมาวัด อย่ามาเสือก”
ขุนพิทักซัดหมัดเข้าอย่างจังที่ใบหน้าของไอ้ขัน จนไอ้ขันเกิดเลือดขึ้นหน้าควบคุมอารมณ์ตนไว้ไม่อยู่สวนกับทันทีสมุนของขุนพิทักษ์เข้าปกป้องนายตัวเองแต่ก็ไม่มีใครสู้เชิงมวยของไอ้ขันได้ ขุนพิทักษ์เห็นท่าไม่ดีจึงยอมถอย ได้แต่เก็บความแค้นและความอับอายกลับไป นำเรื่องไปเรียนหลวงปรีชาพร้อมใบหน้าที่ฟกช้ำ
หลวงปรีชาโกรธมากที่ลูกสาวของตนไปกับไอ้ขันเด็กวัดไร้หัวนอนปลายเท้า สั่งให้คนออกไปตามหาตัวลั่นทมเป็นการด่วน ไม่นานนักก็มีคนมารายงานว่าลั่นทมไปเที่ยวงานลอยกระทงที่วัดกับไอ้ขัน คุณหลวงยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ รีบรุดไปที่งานวัดเพื่อพาตัวลูกสาวกลับเรือน
ทางด้านไอ้ขันและลั่นทมเดินเที่ยวเล่นในงานวัดอย่างสนุกสนาน คู่ของไอ้แคล้วและอ่อนก็ไม่น้อยหน้า ทั้งสี่คนต่างสนุกสนานโดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกไม่นานความสุจะหยุดลง
ที่ริมคลองหน้าวัดไอ้ขันและลั่นทมร่วมลอยกระทงกัน ไอ้ขันมองหน้าสบตาลั่นทมด้วยสายตาที่หวานซึ้งพร้อมส่งรอยยิ้มที่กินใจไปให้ลั่นทม ลั่นทมยิ้มตอบแบบเอียงอาย
“ข้าแต่พระแม่คงคาขอจงเป็นพยาน ข้าไอ้ขันขอให้สัจจะต่อพระแม่คงคาว่าจะรักและภักดีต่อลั่นทมคนเดียวตลอดไป”
“ข้าแต่พระแม่คงคาขอจงเป็นพยาน ข้านามว่าลั่นทมขอให้สัจจะต่อพระแม่คงคาว่าจะมีรักมั่นคงแก่พี่ขัน และจะรอวันที่ได้เคียงคู่กับพี่ขันแต่เพียงผู้เดียว”
“ไม่มีทาง!!”
ลั่นทมและไอ้ขันหันไปดามเสียงด้วยความตกใจ
หลวงปรีชาทำหน้าเกรี้ยวโกรธที่เห็นลูกสาวของตนมาข้องแวะกับไอ้ขัน ไอ้ขันทำท่าทางเจียมตนแต่ก็มิได้ยอมแพ้เสียทีเดียว ขุนพิทักษ์พร้อมด้วยลูกสมุนอีกสี่ห้าคนยิ้มเยาะเย้ยไอ้ขันที่หมายจะเด็ดดอกฟ้า
“นังแจ่ม ไปพาลูกข้าขึ้นมาจากท่าน้ำ”
“เจ้าค่ะคุณหลวง”
“นังอ่อน ข้าอุตส่าห์ไว้ใจเอ็งให้ดูแลลูกข้า แต่เอ็งกลับพาลูกข้ามาคบค้าสมาคมกับไอ้พวกเด็กวัดต้อยต่ำพวกนี้ กลับไปข้าจะลงหวายเอ็งให้หลังลายคอยดู”
“อย่านะคะคุณพ่อ ลูกเป็นคนบังคับให้อ่อนออกมากับลูกเองถ้าจะลงโทษก็ลงโทษลูกคนเดียวเถิด อ่อนไม่เกี่ยว”
“ความผิดของเจ้ายังมิได้ชำระ อย่าหาญกล้ามาออกรับแทนนังอ่อน กลับเรือน!!”
ที่เรือนไทยหลังงามของหลวงปรีชา เสียงร้องโอดโอยโหยหวนของอ่อนที่ถูกมัดมือไว้กับขื่อพร้อมเสียงไม้หวายกระทบกับผิวกายดังเพี๊ยะ! เพี๊ยะ! ดังลั่นไปถึงเรือนไม้หลังเล็กที่ติดอยู่กับชายคลอง ลั่นทมทนเห็นคนสนิทของตนรับโทษแทนตัวเองไม่ได้
“หยุดเถิดคุณพ่อ อย่าไปลงโทษอ่อนมันเลย เป็นความผิดของลูกเองที่บังคับให้มันลักลอบพาลูกไปพบพี่ขัน ถ้าจะลงโทษก็มาลงที่ลูกเถิด”
“ลงโทษเจ้าหรอ? พ่อควรจะทำอย่างไรกับเจ้าดีแม่ลั่นทม? กี่ครั้งกี่คราแล้วที่พ่อสั่งห้ามแต่แล้วเจ้าก็หาเชื่อฟังไม่ คำสั่งของพ่อมันมิได้มีความหมายต่อเจ้าอีกต่อไปแล้วใช่ไหม?”
“ต่อให้คุณพ่อจะเคี่ยนตีลูกก็ตีได้แต่เพียงกาย จะกักขังก็แค่เพียงกาย จะฆ่าแกงลูกก็ได้แต่เพียงกาย เพราะหัวใจแลวิญญาณของลูกยังคงผูกพันมั่นไว้กับพี่ขัน”
“หยุดพูดจาพล่อยๆ เดี๋ยวนี้นะลั่นทม!!....นังแจ่ม เอาตัวลั่นทมไปขังไว้ที่เรือนหลังเล็กชายคลองห้ามให้ใครเปิดประตูให้ออกมาจนกว่าขบวนขันหมากของขุนพิทักษ์จะมาถึงในอีกเจ็ดวัน”
“คุณพ่อ!?”
#โปรดติดตามตอนต่อไป
"ไอ้ขันคนนี้รักคุณหนูลั่นทมเหลือเกิน ยอดรักของพี่"
นี่ไม่ใช่เพียงครั้งแรก แต่เป็นครั้งแล้วครังเล่าที่ เสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มพร่ำคำรักให้กับเจ้าหล่อนฟัง
"ลั่นทมก็รักพี่ขันนะจ๊ะ ตั้งแต่แม่จากลั่นทมไปก็มีแต่พี่ขันที่รักและเข้าใจลั่นทม ผิดกับพ่อที่คอยแต่จะบังคับข่มให้ลั่นทมแต่งงานกับขุนพิทักษ์"
หญิงสาวบอกรักกลับ พร้อมตัดพ้อน้อยใจผู้เป็นพ่อ
"ไอ้ขันมันบุญน้อยนักเกิดมาก็กำพร้าพ่อกำพร้าแม่ ยังดีที่ได้หลวงตาคงชุบเลี้ยงเอาไว้ จะมีปัญญากระไรไปสู้กับท่านขุนเล่า"
"โธ่...พี่ขัน อย่าน้อยเนื้อต่ำใจไปเลย อย่างไรเสียลั่นทมก็รักพี่ขันคนเดียว และไม่ว่าจะเป็นเช่นไรลั่นทมก็จะทำให้พ่อยอมรับในตัวพี่ขันให้ได้"
"ไม่มีทางซะหรอก นังลูกไม่รักดี!! นังแจ่มพาตัวลูกข้ากลับบ้าน"
"เจ้าค่ะ"
เสียงเข้มของชายคนหนึ่งดังขึ้น คนทั้งคู่หันไปมองที่เจ้าของเสียง ทำท่าละล่ำละลักด้วยความตกใจ เจ้าของเสียงนั้นคือหลวงปรีชาบิดาของหญิงสาวนั่นเอง ชายหนุ่มพยายามจะฉุดรั้งตัวหญิงสาวคนรักเอาไว้ แต่ก็ถูกคนของหลวงปรีชาเล่นงานจนสะบักสะบอม หญิงสาวได้แต่ร่ำไห้ที่เห็นคนรักถูกทำร้าย ก่อนจากไปหลวงปรีชากล่าวหักหาญน้ำใจไอ้ขันหมายจะให้เจียมตัวเลิกข้องแวะกับ ลูกสาวของตน
"หมาวัดขี้เรื้อนอย่างมึงก็เป็นได้แค่หมาวัดอย่าได้หมายมาเด็ดดอกฟ้าอย่างลูกสาวกู รู้จักตักน้ำใส่กะโหลกดูเงาตนเสียบ้างว่ามึงเป็นใครแล้วลูกกูเป็นใคร คนที่คู่ควรกับลูกสาวกูมีเพียงพ่อขุนพิทักษ์เท่านั้นมิใช่หมาวัดเยี่ยงมึง"
เมื่อทุกอย่างสงบลงเหลือเพียงแต่ร่างอันบอบช้ำหมดสติของไอ้ขันหลับไหลอยู่ใต้ตนไม้ใหญ่ เสียงเรียกของไอ้แคล้ว เพื่อนเด็กวัดที่ฝึกหัดเชิงมวยมาด้วยกันตั้งแต่เริ่มเป็นหนุ่มทำให้ไอ้ขันเริ่มรู้สึกตัว
“ไอ้ขัน ไอ้ขันโว้ย ไอ้ขันเอ็งอยู่ไหนวะจะเย็นจะย่ำแล้วนะโว้ยหลวงตาให้ข้ามาตามเอ็งไปกินข้าว ไอ้ขัน ไอ้ขันโว้ย”
“ทางนี้ไอ้แคล้ว ทางนี้”
ไอ้ขันเรียกให้เพื่อนหันมามองก่อนที่ไอ้แคล้วจะเดินเหยียบตัวของมัน ถึงเสียงจะแผ่วเบาแต่ก็ทำให้ไอ้แคล้วหยุดแล้วหันมาพบมัน ไอ้แคล้วตกใจที่เห็นเพื่อนรักอยู่ในสภาพบอบช้ำเช่นนี้ ร่างกายกำยำของไอ้แคล้วที่ได้มาจากการฝึกหัดเชิงมวยจึงทำให้มันสามารถแบกไอ้ขันกลับไปรักษาตัวที่กระท่อมเล็กๆ หลังวัดได้อย่างสบาย
ฝ่ายทางลั่นทมเมื่อกลับถึงเรือนก็ถูกหลวงปรีชาลงโทษกักบริเวณมิให้ออกไปไหนเป็นเวลาเจ็ดวัน หญิงสาวได้แต่เศร้าซึมและร้องไห้ด้วยความเป็นห่วงชายคนรัก จึงให้นังอ่อนบ่าวคนสนิทของตนไปสืบความว่าไอ้ขันเป็นอย่างไรบ้าง
“ได้ความว่าอย่างไรบ้างอ่อน พี่ขันเป็นอย่างไร?”
“พี่แคล้วบอกว่าพี่ขันบอบช้ำไปทั้งตัว จับไข้เพราะบาดแผลนอนซมอยู่สองวันแล้วเจ้าค่ะ”
“โธ่…พี่ขัน อ่อน อ่อนเอาอัฐนี่ไปซื้อยาให้พี่แคล้วต้มให้พี่ขันกินนะ”
อ่อนรับอัฐจากลั่นทมและรีบไปทำหน้าที่ตามนายสั่งด้วยความเต็มใจ ถึงแม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับความรักของคนทั้งสองแต่ก็ทนเห็นนายของตนเศร้าเสียใจไม่ได้แล้วอีกอย่าง อ่อนก็จะได้มีโอกาสสานสัมพันความรักกับไอ้แคล้วด้วยเช่นกัน
สามวันผ่านไป ลั่นทมทนเป็นห่วงไอ้ขันไม่ไหวจึงเขียนจดหมายฝากให้อ่อนนำส่งให้ ไอ้ขันอ่านจดหมายแล้วตอบกลับฝากอ่อนมาให้ลั่นทมเช่นกัน จนวันหนึ่งทั้งคู่ได้นัดหมายกันออกมาพบที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นเดิม คนทั้งสองเข้าสวมกอดกันด้วยความรักและห่วงหาซึ่งกันและกัน
“ฉันคิดถึงพี่เหลือเกินพี่ขัน”
“พี่ก็คิดถึงลั่นทมเหมือนกัน ยอดรักของพี่”
คนทั้งสองพร่ำคำหวานซึ้งบอกรักกัน แต่ทุกอย่างก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อมีเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น
“เห็นทีจะไม่งามแล้วกระมังน้องลั่นทม มาอยู่ที่นี่เองพี่ตามหาซะทั่ว เมื่อครู่พี่ไปขออนุญาตคุณอาจะพาน้องลั่นทมไปลอยกระทงและไปเที่ยวงานวัดคืนนี้ แล้วคุณอาก็อนุญาตแล้วด้วย”
“ไม่ น้องไม่ไป น้องจะอยู่กับพี่ขัน ขุนพิทักษ์อยากไปก็เชิญไปคนเดียวเถิดค่ะ”
“ไม่ได้ น้องต้องไปกับพี่ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้”
ขุนพิทักษ์ดึงแขนลั่นทมเพื่อจะบังคับไห้ไปกับตน ไอ้ขันเห็นดังนั้นจึงเข้าปกป้องคนรักของตน
“หญิงไม่เต็มใจไปด้วยก็มิควรขืนใจ มันจะดูไม่งามชาวบ้านจะครหากันได้นะท่านขุน”
“ไม่ใช่เรื่องของมึงไอ้หมาวัด อย่ามาเสือก”
ขุนพิทักซัดหมัดเข้าอย่างจังที่ใบหน้าของไอ้ขัน จนไอ้ขันเกิดเลือดขึ้นหน้าควบคุมอารมณ์ตนไว้ไม่อยู่สวนกับทันทีสมุนของขุนพิทักษ์เข้าปกป้องนายตัวเองแต่ก็ไม่มีใครสู้เชิงมวยของไอ้ขันได้ ขุนพิทักษ์เห็นท่าไม่ดีจึงยอมถอย ได้แต่เก็บความแค้นและความอับอายกลับไป นำเรื่องไปเรียนหลวงปรีชาพร้อมใบหน้าที่ฟกช้ำ
หลวงปรีชาโกรธมากที่ลูกสาวของตนไปกับไอ้ขันเด็กวัดไร้หัวนอนปลายเท้า สั่งให้คนออกไปตามหาตัวลั่นทมเป็นการด่วน ไม่นานนักก็มีคนมารายงานว่าลั่นทมไปเที่ยวงานลอยกระทงที่วัดกับไอ้ขัน คุณหลวงยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ รีบรุดไปที่งานวัดเพื่อพาตัวลูกสาวกลับเรือน
ทางด้านไอ้ขันและลั่นทมเดินเที่ยวเล่นในงานวัดอย่างสนุกสนาน คู่ของไอ้แคล้วและอ่อนก็ไม่น้อยหน้า ทั้งสี่คนต่างสนุกสนานโดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกไม่นานความสุจะหยุดลง
ที่ริมคลองหน้าวัดไอ้ขันและลั่นทมร่วมลอยกระทงกัน ไอ้ขันมองหน้าสบตาลั่นทมด้วยสายตาที่หวานซึ้งพร้อมส่งรอยยิ้มที่กินใจไปให้ลั่นทม ลั่นทมยิ้มตอบแบบเอียงอาย
“ข้าแต่พระแม่คงคาขอจงเป็นพยาน ข้าไอ้ขันขอให้สัจจะต่อพระแม่คงคาว่าจะรักและภักดีต่อลั่นทมคนเดียวตลอดไป”
“ข้าแต่พระแม่คงคาขอจงเป็นพยาน ข้านามว่าลั่นทมขอให้สัจจะต่อพระแม่คงคาว่าจะมีรักมั่นคงแก่พี่ขัน และจะรอวันที่ได้เคียงคู่กับพี่ขันแต่เพียงผู้เดียว”
“ไม่มีทาง!!”
ลั่นทมและไอ้ขันหันไปดามเสียงด้วยความตกใจ
หลวงปรีชาทำหน้าเกรี้ยวโกรธที่เห็นลูกสาวของตนมาข้องแวะกับไอ้ขัน ไอ้ขันทำท่าทางเจียมตนแต่ก็มิได้ยอมแพ้เสียทีเดียว ขุนพิทักษ์พร้อมด้วยลูกสมุนอีกสี่ห้าคนยิ้มเยาะเย้ยไอ้ขันที่หมายจะเด็ดดอกฟ้า
“นังแจ่ม ไปพาลูกข้าขึ้นมาจากท่าน้ำ”
“เจ้าค่ะคุณหลวง”
“นังอ่อน ข้าอุตส่าห์ไว้ใจเอ็งให้ดูแลลูกข้า แต่เอ็งกลับพาลูกข้ามาคบค้าสมาคมกับไอ้พวกเด็กวัดต้อยต่ำพวกนี้ กลับไปข้าจะลงหวายเอ็งให้หลังลายคอยดู”
“อย่านะคะคุณพ่อ ลูกเป็นคนบังคับให้อ่อนออกมากับลูกเองถ้าจะลงโทษก็ลงโทษลูกคนเดียวเถิด อ่อนไม่เกี่ยว”
“ความผิดของเจ้ายังมิได้ชำระ อย่าหาญกล้ามาออกรับแทนนังอ่อน กลับเรือน!!”
ที่เรือนไทยหลังงามของหลวงปรีชา เสียงร้องโอดโอยโหยหวนของอ่อนที่ถูกมัดมือไว้กับขื่อพร้อมเสียงไม้หวายกระทบกับผิวกายดังเพี๊ยะ! เพี๊ยะ! ดังลั่นไปถึงเรือนไม้หลังเล็กที่ติดอยู่กับชายคลอง ลั่นทมทนเห็นคนสนิทของตนรับโทษแทนตัวเองไม่ได้
“หยุดเถิดคุณพ่อ อย่าไปลงโทษอ่อนมันเลย เป็นความผิดของลูกเองที่บังคับให้มันลักลอบพาลูกไปพบพี่ขัน ถ้าจะลงโทษก็มาลงที่ลูกเถิด”
“ลงโทษเจ้าหรอ? พ่อควรจะทำอย่างไรกับเจ้าดีแม่ลั่นทม? กี่ครั้งกี่คราแล้วที่พ่อสั่งห้ามแต่แล้วเจ้าก็หาเชื่อฟังไม่ คำสั่งของพ่อมันมิได้มีความหมายต่อเจ้าอีกต่อไปแล้วใช่ไหม?”
“ต่อให้คุณพ่อจะเคี่ยนตีลูกก็ตีได้แต่เพียงกาย จะกักขังก็แค่เพียงกาย จะฆ่าแกงลูกก็ได้แต่เพียงกาย เพราะหัวใจแลวิญญาณของลูกยังคงผูกพันมั่นไว้กับพี่ขัน”
“หยุดพูดจาพล่อยๆ เดี๋ยวนี้นะลั่นทม!!....นังแจ่ม เอาตัวลั่นทมไปขังไว้ที่เรือนหลังเล็กชายคลองห้ามให้ใครเปิดประตูให้ออกมาจนกว่าขบวนขันหมากของขุนพิทักษ์จะมาถึงในอีกเจ็ดวัน”
“คุณพ่อ!?”
#โปรดติดตามตอนต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ