เรือนลั่นทม

-

เขียนโดย กระดาษทราย

วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 02.15 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  5,689 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556 03.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     ...แสง แดดอ่อนๆ ตกกระทบลงผิวน้ำเป็นประกายพร่างพราว เหล่าแมงภู่ ผึ้งบินตอมดูดดื่มความหวานจากเกสรบัวในบึง หญิงสูงศักดิ์กับชายผู้ต่ำต้อยนั่งเอียงแนบแอบอิงกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่

 

              "ไอ้ขันคนนี้รักคุณหนูลั่นทมเหลือเกิน ยอดรักของพี่" 

นี่ไม่ใช่เพียงครั้งแรก แต่เป็นครั้งแล้วครังเล่าที่ เสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มพร่ำคำรักให้กับเจ้าหล่อนฟัง

              "ลั่นทมก็รักพี่ขันนะจ๊ะ ตั้งแต่แม่จากลั่นทมไปก็มีแต่พี่ขันที่รักและเข้าใจลั่นทม ผิดกับพ่อที่คอยแต่จะบังคับข่มให้ลั่นทมแต่งงานกับขุนพิทักษ์" 

หญิงสาวบอกรักกลับ พร้อมตัดพ้อน้อยใจผู้เป็นพ่อ

              "ไอ้ขันมันบุญน้อยนักเกิดมาก็กำพร้าพ่อกำพร้าแม่ ยังดีที่ได้หลวงตาคงชุบเลี้ยงเอาไว้ จะมีปัญญากระไรไปสู้กับท่านขุนเล่า"

             "โธ่...พี่ขัน อย่าน้อยเนื้อต่ำใจไปเลย อย่างไรเสียลั่นทมก็รักพี่ขันคนเดียว และไม่ว่าจะเป็นเช่นไรลั่นทมก็จะทำให้พ่อยอมรับในตัวพี่ขันให้ได้"

               "ไม่มีทางซะหรอก นังลูกไม่รักดี!! นังแจ่มพาตัวลูกข้ากลับบ้าน"

              "เจ้าค่ะ"

 

      เสียงเข้มของชายคนหนึ่งดังขึ้น คนทั้งคู่หันไปมองที่เจ้าของเสียง ทำท่าละล่ำละลักด้วยความตกใจ เจ้าของเสียงนั้นคือหลวงปรีชาบิดาของหญิงสาวนั่นเอง ชายหนุ่มพยายามจะฉุดรั้งตัวหญิงสาวคนรักเอาไว้ แต่ก็ถูกคนของหลวงปรีชาเล่นงานจนสะบักสะบอม หญิงสาวได้แต่ร่ำไห้ที่เห็นคนรักถูกทำร้าย ก่อนจากไปหลวงปรีชากล่าวหักหาญน้ำใจไอ้ขันหมายจะให้เจียมตัวเลิกข้องแวะกับ ลูกสาวของตน

 

              "หมาวัดขี้เรื้อนอย่างมึงก็เป็นได้แค่หมาวัดอย่าได้หมายมาเด็ดดอกฟ้าอย่างลูกสาวกู รู้จักตักน้ำใส่กะโหลกดูเงาตนเสียบ้างว่ามึงเป็นใครแล้วลูกกูเป็นใคร คนที่คู่ควรกับลูกสาวกูมีเพียงพ่อขุนพิทักษ์เท่านั้นมิใช่หมาวัดเยี่ยงมึง"

 

     เมื่อทุกอย่างสงบลงเหลือเพียงแต่ร่างอันบอบช้ำหมดสติของไอ้ขันหลับไหลอยู่ใต้ตนไม้ใหญ่ เสียงเรียกของไอ้แคล้ว เพื่อนเด็กวัดที่ฝึกหัดเชิงมวยมาด้วยกันตั้งแต่เริ่มเป็นหนุ่มทำให้ไอ้ขันเริ่มรู้สึกตัว

 

               “ไอ้ขัน ไอ้ขันโว้ย ไอ้ขันเอ็งอยู่ไหนวะจะเย็นจะย่ำแล้วนะโว้ยหลวงตาให้ข้ามาตามเอ็งไปกินข้าว ไอ้ขัน ไอ้ขันโว้ย”

               “ทางนี้ไอ้แคล้ว ทางนี้”

     ไอ้ขันเรียกให้เพื่อนหันมามองก่อนที่ไอ้แคล้วจะเดินเหยียบตัวของมัน ถึงเสียงจะแผ่วเบาแต่ก็ทำให้ไอ้แคล้วหยุดแล้วหันมาพบมัน ไอ้แคล้วตกใจที่เห็นเพื่อนรักอยู่ในสภาพบอบช้ำเช่นนี้ ร่างกายกำยำของไอ้แคล้วที่ได้มาจากการฝึกหัดเชิงมวยจึงทำให้มันสามารถแบกไอ้ขันกลับไปรักษาตัวที่กระท่อมเล็กๆ หลังวัดได้อย่างสบาย

     ฝ่ายทางลั่นทมเมื่อกลับถึงเรือนก็ถูกหลวงปรีชาลงโทษกักบริเวณมิให้ออกไปไหนเป็นเวลาเจ็ดวัน หญิงสาวได้แต่เศร้าซึมและร้องไห้ด้วยความเป็นห่วงชายคนรัก จึงให้นังอ่อนบ่าวคนสนิทของตนไปสืบความว่าไอ้ขันเป็นอย่างไรบ้าง

 

                 “ได้ความว่าอย่างไรบ้างอ่อน พี่ขันเป็นอย่างไร?”

             “พี่แคล้วบอกว่าพี่ขันบอบช้ำไปทั้งตัว จับไข้เพราะบาดแผลนอนซมอยู่สองวันแล้วเจ้าค่ะ”

             “โธ่…พี่ขัน อ่อน อ่อนเอาอัฐนี่ไปซื้อยาให้พี่แคล้วต้มให้พี่ขันกินนะ”

 

     อ่อนรับอัฐจากลั่นทมและรีบไปทำหน้าที่ตามนายสั่งด้วยความเต็มใจ ถึงแม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับความรักของคนทั้งสองแต่ก็ทนเห็นนายของตนเศร้าเสียใจไม่ได้แล้วอีกอย่าง อ่อนก็จะได้มีโอกาสสานสัมพันความรักกับไอ้แคล้วด้วยเช่นกัน

     สามวันผ่านไป ลั่นทมทนเป็นห่วงไอ้ขันไม่ไหวจึงเขียนจดหมายฝากให้อ่อนนำส่งให้ ไอ้ขันอ่านจดหมายแล้วตอบกลับฝากอ่อนมาให้ลั่นทมเช่นกัน จนวันหนึ่งทั้งคู่ได้นัดหมายกันออกมาพบที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นเดิม คนทั้งสองเข้าสวมกอดกันด้วยความรักและห่วงหาซึ่งกันและกัน

 

            “ฉันคิดถึงพี่เหลือเกินพี่ขัน”

           “พี่ก็คิดถึงลั่นทมเหมือนกัน ยอดรักของพี่”

 

   คนทั้งสองพร่ำคำหวานซึ้งบอกรักกัน แต่ทุกอย่างก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อมีเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น

 

             “เห็นทีจะไม่งามแล้วกระมังน้องลั่นทม มาอยู่ที่นี่เองพี่ตามหาซะทั่ว เมื่อครู่พี่ไปขออนุญาตคุณอาจะพาน้องลั่นทมไปลอยกระทงและไปเที่ยวงานวัดคืนนี้ แล้วคุณอาก็อนุญาตแล้วด้วย”

           “ไม่ น้องไม่ไป น้องจะอยู่กับพี่ขัน ขุนพิทักษ์อยากไปก็เชิญไปคนเดียวเถิดค่ะ”

           “ไม่ได้ น้องต้องไปกับพี่ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้”

 

     ขุนพิทักษ์ดึงแขนลั่นทมเพื่อจะบังคับไห้ไปกับตน ไอ้ขันเห็นดังนั้นจึงเข้าปกป้องคนรักของตน

 

             “หญิงไม่เต็มใจไปด้วยก็มิควรขืนใจ มันจะดูไม่งามชาวบ้านจะครหากันได้นะท่านขุน”

           “ไม่ใช่เรื่องของมึงไอ้หมาวัด อย่ามาเสือก”

 

     ขุนพิทักซัดหมัดเข้าอย่างจังที่ใบหน้าของไอ้ขัน จนไอ้ขันเกิดเลือดขึ้นหน้าควบคุมอารมณ์ตนไว้ไม่อยู่สวนกับทันทีสมุนของขุนพิทักษ์เข้าปกป้องนายตัวเองแต่ก็ไม่มีใครสู้เชิงมวยของไอ้ขันได้ ขุนพิทักษ์เห็นท่าไม่ดีจึงยอมถอย ได้แต่เก็บความแค้นและความอับอายกลับไป นำเรื่องไปเรียนหลวงปรีชาพร้อมใบหน้าที่ฟกช้ำ

    หลวงปรีชาโกรธมากที่ลูกสาวของตนไปกับไอ้ขันเด็กวัดไร้หัวนอนปลายเท้า สั่งให้คนออกไปตามหาตัวลั่นทมเป็นการด่วน ไม่นานนักก็มีคนมารายงานว่าลั่นทมไปเที่ยวงานลอยกระทงที่วัดกับไอ้ขัน คุณหลวงยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ รีบรุดไปที่งานวัดเพื่อพาตัวลูกสาวกลับเรือน

 

     ทางด้านไอ้ขันและลั่นทมเดินเที่ยวเล่นในงานวัดอย่างสนุกสนาน คู่ของไอ้แคล้วและอ่อนก็ไม่น้อยหน้า ทั้งสี่คนต่างสนุกสนานโดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกไม่นานความสุจะหยุดลง

   ที่ริมคลองหน้าวัดไอ้ขันและลั่นทมร่วมลอยกระทงกัน ไอ้ขันมองหน้าสบตาลั่นทมด้วยสายตาที่หวานซึ้งพร้อมส่งรอยยิ้มที่กินใจไปให้ลั่นทม ลั่นทมยิ้มตอบแบบเอียงอาย

 

           “ข้าแต่พระแม่คงคาขอจงเป็นพยาน ข้าไอ้ขันขอให้สัจจะต่อพระแม่คงคาว่าจะรักและภักดีต่อลั่นทมคนเดียวตลอดไป”

           “ข้าแต่พระแม่คงคาขอจงเป็นพยาน ข้านามว่าลั่นทมขอให้สัจจะต่อพระแม่คงคาว่าจะมีรักมั่นคงแก่พี่ขัน และจะรอวันที่ได้เคียงคู่กับพี่ขันแต่เพียงผู้เดียว”

           “ไม่มีทาง!!”

    

   ลั่นทมและไอ้ขันหันไปดามเสียงด้วยความตกใจ

 

   หลวงปรีชาทำหน้าเกรี้ยวโกรธที่เห็นลูกสาวของตนมาข้องแวะกับไอ้ขัน ไอ้ขันทำท่าทางเจียมตนแต่ก็มิได้ยอมแพ้เสียทีเดียว ขุนพิทักษ์พร้อมด้วยลูกสมุนอีกสี่ห้าคนยิ้มเยาะเย้ยไอ้ขันที่หมายจะเด็ดดอกฟ้า

 

             “นังแจ่ม ไปพาลูกข้าขึ้นมาจากท่าน้ำ”

             “เจ้าค่ะคุณหลวง”

             “นังอ่อน ข้าอุตส่าห์ไว้ใจเอ็งให้ดูแลลูกข้า แต่เอ็งกลับพาลูกข้ามาคบค้าสมาคมกับไอ้พวกเด็กวัดต้อยต่ำพวกนี้ กลับไปข้าจะลงหวายเอ็งให้หลังลายคอยดู”

             “อย่านะคะคุณพ่อ ลูกเป็นคนบังคับให้อ่อนออกมากับลูกเองถ้าจะลงโทษก็ลงโทษลูกคนเดียวเถิด อ่อนไม่เกี่ยว”

             “ความผิดของเจ้ายังมิได้ชำระ อย่าหาญกล้ามาออกรับแทนนังอ่อน กลับเรือน!!”

 

     ที่เรือนไทยหลังงามของหลวงปรีชา เสียงร้องโอดโอยโหยหวนของอ่อนที่ถูกมัดมือไว้กับขื่อพร้อมเสียงไม้หวายกระทบกับผิวกายดังเพี๊ยะ! เพี๊ยะ! ดังลั่นไปถึงเรือนไม้หลังเล็กที่ติดอยู่กับชายคลอง ลั่นทมทนเห็นคนสนิทของตนรับโทษแทนตัวเองไม่ได้

 

           “หยุดเถิดคุณพ่อ อย่าไปลงโทษอ่อนมันเลย เป็นความผิดของลูกเองที่บังคับให้มันลักลอบพาลูกไปพบพี่ขัน ถ้าจะลงโทษก็มาลงที่ลูกเถิด”

             “ลงโทษเจ้าหรอ? พ่อควรจะทำอย่างไรกับเจ้าดีแม่ลั่นทม? กี่ครั้งกี่คราแล้วที่พ่อสั่งห้ามแต่แล้วเจ้าก็หาเชื่อฟังไม่ คำสั่งของพ่อมันมิได้มีความหมายต่อเจ้าอีกต่อไปแล้วใช่ไหม?”

             “ต่อให้คุณพ่อจะเคี่ยนตีลูกก็ตีได้แต่เพียงกาย จะกักขังก็แค่เพียงกาย จะฆ่าแกงลูกก็ได้แต่เพียงกาย เพราะหัวใจแลวิญญาณของลูกยังคงผูกพันมั่นไว้กับพี่ขัน”

             “หยุดพูดจาพล่อยๆ เดี๋ยวนี้นะลั่นทม!!....นังแจ่ม เอาตัวลั่นทมไปขังไว้ที่เรือนหลังเล็กชายคลองห้ามให้ใครเปิดประตูให้ออกมาจนกว่าขบวนขันหมากของขุนพิทักษ์จะมาถึงในอีกเจ็ดวัน”

             “คุณพ่อ!?”

#โปรดติดตามตอนต่อไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา