Fiend พันธสัญญานิรันดร์
เขียนโดย EnDeaR
วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.37 น.
แก้ไขเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556 14.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ชิเรน ฟาลโบเก้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความชิเรน ฟาลโบเก้ เด็กสาวผู้ถูกตามล่าจนโดนรถชนตกหน้าผา เธอได้รับการช่วยเหลือจากปีศาจหนุ่มดิบ เถื่อน! ไร้ความเป็นสุภาพชน เพื่อแลกกับการทำพันธสัญญา
รัตติกาลที่ 1
ชิเรน ฟาลโบเก้
“คุณหนูชิเรนครับ ตื่นได้แล้วนะครับ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยเรียกหลายครั้งพร้อมคร่อมอยู่บนตัวร่างเล็กกว่า
เด็กสาวค่อยๆลืมตาตื่นแล้วอย่างเกียจคร้าน สิ่งแรกที่เห็นคือชายหนุ่มซึ่งทำให้เธอรู้สึกเบื่อหน่ายทีเดียว
“ลุกออกไปซะชาร์ล ก่อนที่ฉันจะอดใจไม่ไหวที่จะยิงนาย” เด็กสาวเจ้าของนามชิเรนสั่งเสียงกร้าว พ่อบ้านหนุ่มหล่อจึงถอนตัวออกมา
“ตอนนี้เธอเป็นเจ้านายของผม เธอจะทำยังไงก็ได้” เขาว่ายิ้มๆก่อนที่สายตาจะแปรเปลี่ยนเป็นมุ่งร้าย “แต่อย่าลืมว่าผมไม่ใช่พ่อบ้านสไตล์ที่ไม่ตอบโต้อะไร”
“ฉันจำเข้ากระดูกดำมาตั้งแต่ 4 ปีก่อนแล้ว” เธอสลัดผ้าห่มออกลุกขึ้นบิดขี้เกียจ
“ฝันร้ายหรือครับ ผมเห็นเธอละเมอเสียงดังเลย” ชาร์ลรูดผ้าม่านหน้าต่างเพื่อรับแสงแดด “เรื่องอะไรเหรอครับ”
“เรื่องของไอ้ปีศาจโรคจิตที่ตามมาหลอกหลอนฉันจนถึงทุกวันนี้” เธอตอบห้วนๆ ขยี้ผมของตัวเองที่ตอนนี้สั้นระดับบ่า ชาร์ลลอบมองมือซ้ายซึ่งมักจะสวมถุงมือไว้ตลอดแม้แต่เวลานอน
“เฮ้อ ไม่น่ารักเลย ตอนเจอกันครั้งแรกยังน่ารักเสียกว่าอีก” เขาแสร้งถอนหายใจพลางเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ เขาเลือกชุดเดรสยาวสีดำกับกางเกงเลกกิ้งสีเดียวกันแล้วเอามาวางไว้ที่เตียง “วันนี้ชุดนี้นะครับ และก็ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว” เขาโบกชุดสีดำไปมาราวกับจะยั่วอารมณ์เธอ
ชิเรนมองเขาชั่วคู่ก่อนจะเดินตรงไปห้องอาบน้ำ เธอหยิบผ้าขนหนูที่พาดไว้บนราวแล้วปิดประตูเสียงดังอย่างไม่พอใจเขา
ชิเรน ฟาลโบเก้ ทายาทสายตรงคนสุดท้ายแห่งตระกูลขุนนางเก่าที่มีชื่อเสียงเรื่องการแพทย์ ปัจจุบันเธอมีหน้าที่ดูแลกิจการของตระกูลทั้งบริษัทยาและขนมขนาดใหญ่ โดยมีชาร์ล วอลเตอร์พ่อบ้านหนุ่มเป็นที่ปรึกษา
ปัจจุบันชิเรนอายุ 19 ปี เธอยังมีอีกหน้าที่หนึ่งซึ่งผู้อาศัยในด้านมืดจะรู้จักกันดี…เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องที่เหนือเหตุผลของมนุษย์ทั่วไป เธอไม่ชอบเข้าสังคมหรือปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนในงานต่างๆเท่าไหร่นอกจากจะให้ชาร์ลเป็นตัวแทนเสียมากกว่า
“วันนี้ไม่มีนัดหมายอะไรใช่มั้ย” เธอสะบัดผมที่เปียกหมาดๆและหวีลวกๆ
“มีหนึ่งรายครับ” ชาร์ลอ่านจากกำหนดการในมือ “เป็นคุณหนูตระกูลลัคซ์ ชื่อว่าอลิเซีย”
“เธอเป็นอะไร?”
“เห็นว่าฝันร้ายทุกคืนจนไม่กล้านอน จากนั้นนอนไม่หลับอีกเลย” ชาร์ลว่าพลางเปรยสายตาขึ้นมองชิเรน “ผมว่าจ่ายยานอนหลับให้สักกระปุกก็คงเอาอยู่” เขาพูดส่งๆ อีกฝ่ายตวัดนัยน์ตาดุมอง
“ลองฝันแบบฉันยานอนหลับก็เอาไม่อยู่หรอก”
“แต่ผมคิดว่านั่นเป็นฝันที่ดีที่สุดเลยนะครับ” เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “แล้วจะเอายังไงครับ ให้เจ้าหล่อนมาพบคุณหนูที่นี่เลยรึเปล่า”
“ตามสบาย ถ้างั้นฉันไปรอที่ห้องทำงานละ” จบคำพูด เธอก็ก้าวเดินออกจากห้องไปทันที
เด็กสาวทำหน้าเบื่อโลกไปตลอดทางเดินยาวของระเบียง ผ่านสาวใช้ที่กำลังทำความสะอาดพื้น ถ้านับรวมชาร์ลแล้ว คนรับใช้ในบ้านทั้งหมดมีเพียงแค่ 5 คน 1คือเข้าซึ่งเป็นพ่อบ้าน สาวใช้ 2 คน ชายคนสวน 1 คน และพ่อครัวอีก 1 คน ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ชาร์ลหามาทั้งนั้น ชิเรนไม่คิดจะสอบประวัติพวกเขาเลย เพราะถ้าเป็นคนที่ชาร์ลหามายังไงก็ไม่ใช่ธรรมดา
ห้องทำงานของชิเรนเป็นห้องที่เต็มไปด้วยชั้นหนังสือต่างผนังห้อง ส่วนมากหนังสือของเธอเป็นเล่มสีทึบแทบทั้งหมดทำให้ห้องนี้ดูมืดมนไม่น้อย เธอตกแต่งข้าวของทุกอย่าง เช่นชุดรับแขก โต๊ะทำงาน แจกัน ม่าน พรม เป็นสีแดงหรือดำราวกับจะตอกย้ำอะไรบางอย่าง
ชิเรนเดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานอันเต็มไปด้วยหนังสือมากมายแต่เธอก็ไม่สัมผัสพวกมันเลย เด็กสาวมองมือซ้ายซึ่งมีถุงมือหนังสีดำ รู้สึกสะอิดสะเอียนเป็นที่สุด
ลิ้นชักเล็กด้านขวาถูกเปิดออกอย่างรุนแรง มือเรียวหยิบบางสิ่งออกมา มันคือมีดในซองหนังประดับพลอยสวยงามทีเดียว เธอสะบัดมีดจนซองร่วงหล่นพื้น
มือซ้ายวางบนโต๊ะ ส่วนมือขวาทำสิ่งทีใครเห็นคงต้องหวาดเสียวเป็นแน่ เมื่อเธอลงมีดแทงมือซ้ายตัวเองอย่างแรง ทว่า…
เคร้ง!
“บ้าเอ๊ย!” เธอถบทหัวเสีย เพราะนอกจากจะแทงไม่เข้าแล้ว ใบมีดยังหักกระเด็น
“ถ้ายังไงเวลาอยู่ต่อหน้าผมอย่าทำแบบนั้นนะครับ” เสียงนุ่มลึกเอ่ยข้างหูทำเอาชิเรนดีดตัวถอยห่าง ชาร์ลยืนส่งยิ้มเย็นให้เธอหลังโต๊ะทำงาน ดวงตาสีมรกตฉายประกายมารร้าย
“คราวหลังหัดเข้ามาทางประตูเหมือนคนปกติบ้างนะ” ชิเรนว่าเสียงแข็ง อีกฝ่ายเดินเนิบๆเข้ามาใกล้แล้วยืนหน้าไปที่ข้างหู
“ถ้ามาทางประตูจะได้เห็นอะไรแบบนี้เหรอครับ” นิ้วเรียวยาวลูบไล้แผ่วเบาที่ลำคอระหงส์ ทำเอาคนโดนลูบเย็นวาบทั้งตัว “ต่อไปทำอะไรงี่เง่าอีก ผมจะไม่ปราณีแล้วนะ”
“เป็นคำขู่เหรอ?” เธอถามอย่างไม่เกรงกลัว
“เรียกว่าเป็นคำแนะนำดีกว่านะครับ” สิ้นคำกล่าว เขากระส่งหมัดลุ่นๆเข้าที่ท้องทว่าเด็กสาวใช้กันได้ทัน “ตอบสนองไว้ดีนี่ครับ สมแล้วที่เป็นผู้‘ร่วงหล่น’” ชายหนุ่มเน้นคำตอนท้าย ยิ่งทำให้อีกฝ่ายเกิดโทสะทันที
“หุบปาก!” เธอคำรามพร้อมกับชักปืนพกที่ซ่อนไว้ออกมากราดยิงกระหน่ำใส่บุรุษตรงหน้า
ปังๆๆๆๆๆๆๆ
“แค่นี้ใช่มั้ยครับ?” ชาร์ลถาม ใบหน้ายังคงเปื้อนรอยยิ้ม เขาควักกระสุนทั่วร่างออกมาแล้วเอาไปใส่ลงถังขยะข้างโต๊ะทำงาน “น่าจะรู้ว่ากระสุนลูกโม่ธรรมดาทำอะไรผมไม่ได้”
เด็กสาวยังคงหันปากกระบอกไปทางร่างสูงกว่า เขาสาวเท้าเข้าใกล้แล้วดึงปืนจากมือเธอ
“ผมคงต้องลงโทษคุณบ้างแล้ว” สิ้นคำ เขาก็กระซวกจูบเธอทันที เธอทั้งดิ้นทั้งทุบแต่ก็ไร้ผล ยิ่งขัดขืนมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งบดจูบรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
ก๊อกๆๆๆ
“ขอโทษที่มาขัดจังหวะนะคะ มีแขกที่นัดไว้มาขอพบท่านชิเรนค่ะ” สาวใช้หน้าไร้อารมณ์บอกมือยังคงค้างในท่าเคาะประตูอยู่
“ขอบใจมากนะครับลิซ่า มาแขกมาที่ห้องนี้ได้เลย” ชาร์ลบอกยิ้มๆ มือยังโอบเอวร่างบางกว่าไว้
“คงไม่จำเป็นหรอกค่ะ เพราะเธอยืนอยู่ที่นี่แล้ว” ลิซ่าเบี่ยงตัวหลบ
เด็กสาวร่างเล็กเจ้าของผมบรอนด์ยาวเป็นลอนสลวยยืนมองหน้าแดงซ่านบ่งบอกว่าเธอเองก็เห็นการกระทำเมื่อครู่หมดแล้ว
“คะ--คือ” เธอตะกุกตะกักพูดไม่ออก
“เชิญครับ” ชาร์ลผละออกจากชิเรนแล้วปรี่เข้าไปหาร่างเล็ก
“สันดานเจ้าชู้” ชิเรนโพล่งขึ้นลอยๆและทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“เดี๋ยวขอน้ำส้มให้แขกด้วยนะครับลิซ่า” ชาร์ลหันไปสั่งสาวใช้ “และก็ขอน้ำใบบัวบกให้กับคุณหนูแล้วกันครับ”
“งั้นฉันขอน้ำมนตร์ให้หมอนี่ละกัน” ชิเรนทำหน้าตาย แล้วเดินไปนั่งที่โซฟา “เชิญแขกนั่งสิชาร์ล” เธอพยักเพยิดหน้าไปที่เด็กสาว
ชาร์ลยิ้มกว้างก่อนจะพยุงร่างเล็กไปนั่งตรงข้ามกับชิเรนโดยไม่จำเป็น
“สรุปว่าดิฉันต้องยกน้ำส้ม น้ำใบบัวบก และน้ำมนตร์มารึเปล่าคะ?” ลิซ่าเอ่ยถาม
“ไม่ต้อง (ชาร์ลบอก)/ต้อง(ชิเรนบอก)” พวกเขาพูดขึ้นพร้อมกัน
“ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัดสินใจเองละกันค่ะ” จบคำพูด ลิซ่าก็โค้งให้แล้วเคลื่อนกายออกไปจากห้องทันที
ชิเรนแอบถบทด่าในใจว่าทำไมเขาถึงมีแต่คนรับใช้จิตไม่ปกติทั้งนั้น
“มาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ” ชิเรนเปิดประเด็น เธอนั่งไขว่ห้างกุมมือวางบนหัวเข่า “ที่ว่าฝันร้ายน่ะยังไงเหรอ?”
“เอ่อ…ค่ะ” เธอกล้าๆกลัวๆ แววตาเลิ่กลั่ก “ดิฉันได้ยินเสียงแปลกๆค่ะ”
“เสียงแปลกๆแบบไหน?”
“เป็นเสียงคุ้นหู แต่มัน…มันเหมือนจะขาดใจ” เธอพูดเสียงเบาเหมือนกำลังพยายามรวบรวมแรงทั้งหมด
“เสียงนั้นเป็นคำพูดเลยใช่มั้ย?”
“ค่ะ…เป็นคำพูด เรียกชื่อดิฉัน” เธอนั่งประสานมือวางบนตักแน่น ชาร์ลทิ้งตัวลงนั่งข้างๆและกุมมือไว้
“ใจเย็นๆนะครับคุณอลิเซีย” เขาว่าเสียงอ่อนเสียงหวาน ชิเรนกระแอมดักคอแต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ปล่อยมือ
“ว่าต่อค่ะ อย่าไปสนใจพวกพยาธิตัวตืดแถวนี้เลย”
“ดิฉันรู้สึกกลัวเลยรีบเข้านอน จากนั้นดิฉันก็ฝันค่ะ” ราวกับคำพูดเริ่มบีบคั้นอารมณ์ เธอกำมือแน่น
“ฝันว่าอะไรบ้าง”
“ฝันว่าฉันไปอยู่ในสถานที่ๆไม่รู้จัก ที่นั่นมีแม่น้ำกว้างใหญ่มาก แล้วฉัน…ก็ได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง คราวนี้มันดังใกล้ๆ เมื่อฉันหันไปก็พบว่ามีชายคนหนึ่งลอยอยู่ในน้ำ…” ถึงตรงนี้อลิเซียก้มหน้าลง เหมือนเธอไม่อยากจะเล่าต่อ
“คุณรู้จักเขารึเปล่า?” ชิเรนถามราบเรียบ ไม่แยแสสักนิดว่าสีหน้าของเด็กสาวซีดลง
“มะ…ไม่ค่ะ”
“แล้วจากนั้นเกิดอะไรขึ้น”
“เหงา..” คำที่หลุดออกมาทำให้ชิเรนและชาร์ลสนใจไม่น้อย “เขาบอกว่าเหงา อยากให้ดิฉันไปอยู่เป็นเพื่อน”
“จากนั้นล่ะ?”
อลิเซียนิ่งเงียบครู่หนึ่งแล้วเธอก็พูดขึ้น “ขะ…เขา เขาว่ายน้ำด้วยความเร็วมาหาดิฉัน ละ…แล้วดิฉันก็ตื่น…” เธอว่าเสียงเครือราวกับว่าพึ่งผ่านเหตุการณ์มาเมื่อครู่
“มันก็เหมือนฝันร้ายทั่วๆไปไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่นะคะ! ไม่ใช่ คืนต่อไปฉันก็ได้ยินเสียงเขาอีก ฉันกลัว--กลัวมากๆ!” เธอร้องไห้น้ำตานอง ชาร์ลดึงเข้ามากอดอย่างถือดี
“มากไป” ชิเรนพูดรอดไรฟัน เธอลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะทำงานแล้วหยิบบางอย่างออกมาโยนให้ชาร์ลรับไว้ ชายหนุ่มส่งมันให้กับเด็กสาวในอ้อมแขน
“รับไปสิครับ” เขาแบมือเผยให้เห็นของที่อยู่ข้างใน มันคือช็อคโกแลตอัลมอนด์ ร่างเล็กมองด้วยความสงสัย
“กินซะ แล้วเธอจะนอนหลับสบาย”
“ช็อคโกแลตอันแค่นี้น่ะเหรอคะ?” เธอรับมันมาและแกะห่อออก มันดูน่ากินทีเดียว
“ให้ผมป้อนให้มั้ยครับ” ชาร์ลยื่นหน้าไปใกล้ แต่เมื่อรับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตของชิเรนเขาจึงผละออก
“กินมันตอนนี้เลยสิ” ชิเรนบอก
เด็กสาวลังเลแต่ก็ยอมกิน เธอรู้สึกว่ามันหวานอร่อยมาก ทว่า…
“ทำไม…ฉัน..” พูดได้เพียงเท่านั้น ร่างบางก็ผล็อยหลับทันที
“เล่นแรงจังเลยนะครับ” ชาร์ลพูดพลางประคองร่างนั้นนอนลงกับโซฟา
“ขี้เกียจรอจนกว่าจะหลับ” ชิเรนตอบสั้นๆ เธอสาวเท้าเข้ามาใกล้ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงตรงข้าม
“แล้วใครจะเข้าไปดีครับ?” ชาร์ลเปรยถาม
“นายไง” เธอตอบสั้นๆดั่งประกาศิตที่อีกฝ่ายต้องทำตาม ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างปลงๆ
“หวังว่าคงมีรางวัลพิเศษให้ผมนะครับ” เขาแย้มยิ้มพราย คนตรงหน้ายิ้มตอบเจ้าเล่ห์
“แม่สาวนั่นไง เห็นมือไม้เหมือนปลากหมึกอยู่นี่”
“ผมไม่กินลูกค้าให้เสียเครดิตหรอกครับ” เขาวางมือลงที่หน้าผากของเธอ “แต่ถ้าเจ้าตัวยอมก็อีกเรื่องหนึ่ง”
จบคำพูด ร่างกายของชายหนุ่มกลายเป็นควันสีดำก่อนจะซึมเข้าไปในหัวของอลิเซีย ชิเรนเอนหลังพิงโซฟานั่งหาวหวอดอย่างเบื่อๆ
“เอาเหอะ ยังไงมันก็อยู่ในสันดานของนายอยู่แล้วนี่นะ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ