Love Japan ยัยหน้าหวานกับอาจารย์หน้าหล่อ
8.5
เขียนโดย มิซากิจัง
วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 22.14 น.
3 chapter
9 วิจารณ์
8,825 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556 20.20 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) เที่ยวห้างกับเซ็นเซ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฉันเรียนเสร็จตั้งแต่ตอนเที่ยงแล้วล่ะ วันนี้เซ็นเซของฉันมีธุระก็เลยขอตัวกลับไปก่อน
ตอนนี้ฉันนั่งมองการบ้านอยู่ในห้องนอน เหนื่อยมากเลยวันนี้ มีแต่ตัวอักษรญี่ปุ่นลอยอยู่ในหัวเต็มไปหมด Y0Y การบ้าน!! คนอย่างฉันไม่ถูกโฉลกกับคำนี้อย่างแรง พอเห็นแล้วเหมือนร่างกายของฉันไร้เรี่ยวแรง (มีแบบนี้ด้วยเหรอ) ฉันจะบอกกับอาจารย์สุดหล่อของฉันว่ามือเป็นตะคริวดีมั้ยนะ เขาคงไม่เชื่อ (ก็แหงน่ะสิ)
30 นาทีผ่านไป
ตุ๊บ!
ฉันใช้กำปั้นทุบโต๊ะเขียนหนังสือที่อยู่ในห้องนอน แล้วยิ้มให้มีความคิดที่แสนบรรเจิด พรุ่งนี้รู้แล้วล่ะว่าทำอย่างไรดี...หนีเที่ยวดีกว่า อ๊ะๆ ถ้าเกิดฉันขอคุณแม่ไปเที่ยว แน่นอนว่าคำตอบก็คือ ‘ไม่ได้ ’ แล้วถ้าให้เพื่อนรักของฉันขออนุญาตแทนล่ะ -_-++
คิดได้ดังนั้น ฉันจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วรีบกดโทรหาเพื่อนซี้โดยด่วน
อัง อัง อัง ตดเตะโมะคาอิซุคิ โดราเอมอน~~…
เพลงรอสายคลาสสิกดีแท้
(ฮัลโหล)
“ฮัลโหล~ โมจิ”
(แกมีอะไรโยโกะ)
“พรุ่งนี้ว่าป่าว ไปช็อปปิ้งกันหน่อยมั้ย *0*”
(ร้อยปีแปดเดือนไม่เห็นเคยชวนกันเลย แกต้องมีอะไรแน่ๆ)
ฉันล่ะเกลียดคนรู้ทันที่สุดเลย ชิ!
“ก็แค่เบื่อที่ต้องเรียนภาษาญี่ปุ่นน่ะ”
(อ๋อ ที่แกบอกว่าพ่อกับแม่แกจ้างครูพิเศษมาสอนถึงบ้านใช่ป่าว)
“อืม แกไปขออนุญาตแม่ของฉันให้หน่อยนะจ๊ะ *0*”
(ก็ได้ แต่พรุ่งนี้ต้องเลี้ยงข้าวนะ)
“OK แค่นี้แหละ บาย~”
เพื่อนฉันคนนี้เห็นแก่กินที่สุดอ่ะ แต่เสียใจแพ้ฉันย่ะ โฮะๆๆ (มันน่าภูมิใจตรงไหนเนี่ย) คิดแล้วก็มีความสุข ฉันไม่ต้องคัดคัวอักษรอะไรนั่นแล้วล่ะ ^^
“โย~ ลงมาทานข้าวได้แล้วลูก” เสียงคุณแม่เรียกให้ฉันลงมาทานข้าวข้างล่างหลังจากโมจิวางสายไปไม่นาน
ฉันเด้งตัวขึ้นจากเตียงนอน แล้ววิ่งกรูลงไปข้างล่างอย่างไม่รอช้า อาหารอร่อยๆของคุณแม่กำลังรอฉันอยู่นี่นา ของกินเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับฉันเหนือสิ่งอื่นใดในสากลโลกเลยนะ -, ,- ฉันยอมโดนครกโขกหัวตายดีกว่ายอมอดอาหารตายนะจะบอกให้ >.< ไม่ได้เห็นแก่กินเลยสักนี๊ดดดด จริงจรี๊งงงง
และแล้วเช้าแห่งการหนีเรียนก็มาถึงแล้วเจ้าค่ะ
เมื่อวานยัยโมจิโทรมาบอกแม่ฉันเรียบร้อยแล้วล่ะว่า เราจะไปเที่ยวกัน เอ๊ย ไม่ใช่สิ ยัยนั่นบอกว่าจะพาฉันไปเปิดหูเปิดตา หาประสบการณ์ชีวิต ชมธรรมชาติ (ในห้างเนี่ยนะ -_-;) เรียนรู้วิถีชีวิตผู้คน ทำความรู้จักกับผู้อื่น สร้างสัมพันธ์ไมตรีกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แถมอีกอย่างก็คือ ไม่ควรอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน ความคิดสร้างสรรค์จะไม่เกิด อยู่แต่ในโลกแคบๆแบบนี้จะเครียดได้ ดูเหตุผลเพื่อนรักฉันสิ โลกสวยเนอะ อันที่จริงบอกแม่ฉันไปตรงๆก็ได้นะว่าเราจะไปช็อปปิ้ง ลั้ลล้ากัน เพราะถ้าเป็นยัยนี่แม่ฉันอนุญาตแน่ หึ ก็โมจิทั้งสวย นิสัยดีและคอยช่วยเหลือฉันมาตลอดนี่นา แต่ดูอย่างนี้นะ จะบอกว่ายัยโมจิเป็นพวกติสต์แตกอ่ะ บางครั้งฉันก็ปวดหัวที่ต้องอยู่กับยัยนี่
ฉันนั่งรถมาถึงห้าง K ในเวลาไม่กี่นาที แล้วก็เดินไปหาโมจิในร้านหนังสือ T ซึ่งเป็นสถานที่ที่ฉันกับโมจินัดกันไว้ เด็กเรียนมั้ยล่ะ นัดกันที่ร้านขายหนังสือ > < เห็นอย่างนี้แล้วฉันชอบอ่านหนังสือมากนะ!!
เดินเข้าไปในร้าน ฉันก็เห็นโมจิยืนอ่านหนังสือเลยแฮะ แกล้งให้ตกใจหน่อยดีกว่า ย่อง ย่อง
“จ๊ะเอ๋!!”
แล้วโมจิก็หันมาในท่าที...เยือกเย็นสุดๆอ่ะ
“แกเล่นอะไรของแกหนะ”
“ไม่ตกใจบ้างเหรอ” -*-
“ไม่เห็นมีอะไรให้ตกใจเลยนะ”
“นี่ๆ ไปหาอะไรกินกันเถอะ ฉันหิวแล้ว” (เมื่อกี้ยังบอกว่าเป็นเด็กเรียนอยู่เลย)
“อื้มๆ เดี๋ยวตามไป อีก10นาที” แงๆ อีก 10 นาทีเลยเหรอ
“งั้นก็ได้ เดี๋ยวฉันไปหาอะไรอ่านตรงนู้นนะ” ฉันชี้นิ้วไปทางหนังสือแผนกธรรมะ ชี้ไปอย่างนั้นแหละ ไม่ได้คิดจะอ่านหรอก
ฉันเดินไปหยิบโน่นนี่อ่านเรื่อยๆ ระหว่างรอเพื่อนรัก
ลั้ลลา~ ดีจังเลยวันนี้ไม่ต้องเรียนภาษาอาโนเนะกับเซ็นเซคิกขุ จู๊บุๆอะไรนั่น
“อารมณ์ดีจังเลยนะเซอิจัง” เอ๊ะเหมือนกับมีใครมาทักฉัน น้ำเสียงกวนมึนโฮแบบนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก
“เซ็นเซปีศาจ!! O_O”
“ไง หนีเที่ยวแบบนี้ควรหักคะแนนความประพฤติดีมั้ยน้า~”
“นาย เอ๊ย!เซ็นเซมาได้ไง อีกอย่างนะฉันขอแม่เรียบร้อยแล้ว -*-”
“โยโกะไปกินข้าวกะ 0//0 แกนั่นเจมส์จิรึป่าว” <<โมจิ
“ไม่ใช่ย่ะ อาจารย์ที่สอนพิเศษภาษาญี่ปุ่นของฉันเอง”
“O_O” แน่ะ ยังทึ่ง อึ้ง ตะลึงไม่หาย
“แกไปกินข้าวไป”
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อโมจิ เป็นเพื่อนของโยโกะค่ะ”
“เอ่อ ผมชื่อเคนตะ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ^^”
“ไปกินข้าวด้วยกันมั้ยคะ พี่บอย ปกรณ์” -*- อะไรเนี่ย ยัยนี่เห็นคนหล่อไม่ได้ แล้วไหงเมื่อกี้บอกว่าเจมส์จิ เปลี่ยนเป็นบอยซะงั้น ไม่น้า~ บอยเป็นแฟนฉัน
“ถ้าอย่างงั้นรบกวนด้วยนะครับ ผมก็ไม่มีเพื่อนอยู่พอดี”
เห้ย! ได้ไงอ่ะ สองคนนี้เออออห่อหมกไม่ปรึกษาฉันสักคำ ฉันกำลังจะพูดว่า ‘ไม่ได้’ แต่ก็โดยยัยโมจิลากมายังร้าน งุงิ ครุคริ อาหารญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว ตลอดที่นั่งทานอาหารสองคนนี้ดูจะสนิทกันมาก คุยกันถูกคอเชียว ไม่มีใครคุยกับฉัน จะมีก็แต่นินทาฉันตลอด Y.Y
โอ๊ย~วันหยุด (เรียนภาษาญี่ปุ่น)ทั้งที ทำไมต้องมาเจอกับเซ็นเซปีศาจด้วยน้า~ ปล่อยฉันไปเถอะTT*TT
สวัสดีเพื่อนๆนักอ่านๆนะคะ พบกันในตอนที่3 กว่าจะได้ลงตอนที่3 ปาเข้าไป 2เดือน แงๆ ยังไงฝากวิจารย์หน่อยนะคะ อยากให้วิจารย์ข้อควรปรับปรุงเยอะๆ จุ๊บ!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ