Love Japan ยัยหน้าหวานกับอาจารย์หน้าหล่อ
8.5
เขียนโดย มิซากิจัง
วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 22.14 น.
3 chapter
9 วิจารณ์
8,849 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556 20.20 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) เซ็นเซที่(ไม่ )น่ารัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “เอ่อ...โอ้ทาโร่ข้าวต้มมัด (โอะฮะโยโกะไซมัส) T^T” ฮื่อ~ นี่ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย ฉันอยากกินทาโร่กับข้าวต้มมัดขนาดนั้นเลยเหรอ ความประทับใจแรกพบระหว่างฉันกับอีตานี่จบกันล่ะงานนี้ เขาต้องดุฉันแน่ๆเลย ดูจากสีหน้าหมอนี่ตอนนี้ไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ >.<
“ฮ่าๆๆๆ เธอนี่มันเพี้ยนจริงๆ” เขาหลุดหัวเราะออกมา ทำให้ฉันแปลกใจว่าหมอนี่ที่ดูขรึมๆ แล้วหัวเราะกับเขาเป็นด้วยเหรอ เห็นตอนแรกทำหน้าอย่างกับจะเชือดคอฉันไปทำซุปเห็ดหลินจือ “555 ก็ยังดีนะที่เธออุตส่าห์พูดออกมา ถึงมันจะทำให้ภาษาประจำชาติเค้าวิบัติก็ตาม” Y.Y นี่มันด่ากันชัดๆ!
“นายจะหัวเราะทำไม ก็คนมันไม่เคยเรียนนี่นา” ฉันทำหน้าดุๆใส่เขา เผื่อหมอนี่จะได้หยุดขำสักที
โป๊ก!
“โอ๊ย! นี่นายทำบ้าอะไรเนี่ย ฉันเจ็บนะ” ฉันร้องเสียงหลง เมื่อมือหนาๆของใครบางคนโขกมาที่หน้าผากฉันเต็มๆ อีตาบ้า นี่มันแกล้งกันชัดๆเลย
“นี่...ฉันเป็นอาจารย์เธอนะ เรียกว่า 'เซ็นเซ' สิ!”
“-_-;;”
โป๊ก!
มาอีกแล้วฝามือพิฆาตโยโกะ หน้าผากฉันต้องยุบแน่ๆเลย เย้ T0T หมอนี่หล่อร้ายอ่ะ
“ดูทำหน้าเข้า...อย่างกับไม่ได้เขาห้องน้ำมาสามอาทิตย์” ดูเขาพูดสิ น่าเกียจ “เรียกว่าเซ็นเซสิ”
“มะ...” 0.0// “เซ็นเซ” ฉันพูดไม่ทันจบก็ต้องเปลี่ยนเป็นยอมเชื่อฟังหมอนี่ เอ๊ย! เซ็นเซ ทันที เมื่อเขาถือไม่เรียวอันเท่าต้นไผ่ (ที่เอามาจากไหนก็ไม่รู้)แกว่งไปแกว่งมาอย่างกับคมแฝก แล้วยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ เป็นการบอกว่าถ้าเธอไม่เชื่อฟังฉัน ฉันจะเฆี่ยนเธอเหมือนอีเย็นในนางทาสแน่ๆ
“ ดีมาก ^^ ส่วนฉันจะเรียกเธอว่า ‘กะคุเซอิ’ หรือสั้นๆว่า ‘เซอิ’ ก็แล้วกัน ”
“-_-?” กะคุเซอิ?
“นี่เธอไม่คิดจะแนะนำตัวหน่อยเหรอ เราต้องรู้จักกันไว้นะ เพราะต้องอยู่ด้วยกันอีกตั้งสองเดือนแน่ะ ”
“เอ่อ...” หึๆ ยิ้มเยาะเย้ยฉันเหรอ แนะนำตัวเอง ฉันซ้อมมาเรียบร้อยแล้ว ไม่พลาดแน่คราวนี้ เอ๊ะ!ว่าแต่มันอะไรแล้วนะ ฮะจิเตะ..กินโดโซะ แล้วชนโต๊ะ โอ๊ย~ฉันคิดไม่ออก เอ้า จะยังไงก็ช่าง! ฉันจะพูดภาษาต่างดาวนี่ล่ะ ผิดก็ยอม หึ...คติประจะใจของฉันคือ ผิดเป็นครู สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการลงมือทำ ส่วนความผิดพลาดจะเป็นบทเรียนในอนาคต (พยายามปลอบใจตัวเอง) “ฮะจิ--”
ฉันพูดไม่ทันจบ เซ็นเซที่น่ารักของฉันก็เอามือมาปิดปากฉันไว้ -///- “อายอำอ้าอะไอ (นายทำบ้าอะไร)”
“ไม่ได้ก็ไม่ต้องพูด เดี๋ยวฉันสอนเธอเอง เอ้า!ไปนั่งที่สิ”
ฉันเดินไปนั่งที่เก้าอี้ที่ไว้สำหรับเขียนหนังสือ พร้อมหันหน้าไปทางไวท์บอร์ดที่คุณแม่เตรียมไว้ให้ เพื่อใช้ในการเรียนการสอน นี่มันเหมือนกวดวิชาขนาดย่อมเลยนะเนี่ย
“เอาไปสิ” เขาส่งสมุดอะไรสักอย่างมาให้ฉัน ซึ่งมีทั่งหมดสี่เล่ม “เล่มแรกเป็นตารางคัดตัวอักษรญี่ปุ่น เล่มที่สองเป็นหนังสือแบบเรียนภาษา เล่มที่สามจะเรียนรู้เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด ส่วนเล่มที่สี่ไว้จดคำศัพท์ของแต่ละวัน แต่ไม่ต้องห่วงนะ ยังมีหนังสืออื่นๆอีกเพียบเลย ^^”
“U.U” ฉันจะสลบยังไม่ทันเรียนนี่ล่ะ เพราะฉันเห็นหนังสือเล่มที่สามแล้ว นี่มันคัมภีร์ไบเบิลชัดๆ
“อืม...แล้วก็นี่ มันเป็นสมุดพกประจำตัวของเธอนะ” ฉันเห็นสมุดพกลายโดราเอม่อนนี่แล้วอดขำไม่ได้
“ฮ่าๆๆ นี่เซ็นเซคิดว่าฉันกี่ขวบฮ้า~”
“อย่าหัวเราะไป เพราะฉันจะทำเหมือนที่โรงเรียนเธอนั่นแหละ มีคะแนนเก็บ คะแนนสอบ แล้วก็คะแนนจิตพิสัย ถ้าเธอทำไม่ผ่านล่ะก็ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอมีความสุขแน่” นี่มันเหมือนฉากตัวร้ายข่มขู่นางเอกผู้อ่อนแอเลยอ่ะ -*-
“...”
“เอ้า! มาเริ่มเรียนกันเลยดีกว่า” เขาเขียนอะไรยิกๆบนไวท์บอร์ด
‘ฮะจิเมะมะชิเตะ เคนตะเดส โดโซะโยะโระชิคุ’
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันชื่อเคนตะ” เอ่อ...คุยกันตั้งนาน ก็เพิ่งรู้ชื่อเขานี้ล่ะ มัวสนใจแต่หน้าตา
“ฮะจิเมะมะชิเตะ โยโกะเดส โดโซะโยะโระชิคุ” ฉันพูดตามที่เขาเขียน เอ๊ะ! นี่มันเหมือนกับตำราของฉันเลยนี่ แสดงว่าตำราฉันมาตรฐาน
ยุกยิก~ ยุกยิก~
เขาเริ่มเขียนภาษาอะไรก็ไม่รู้ แต้ฉันเดาว่าเป็นภาษาญี่ปุ่นแน่เลย
“นี่เรียกว่าตัวอักษรฮิระงะนะและคะตะคะนะ ซึ่งเป็นหน้าที่ของเธอที่ต้องเขียนตัวอักษรนี้วันละ5ตัวอักษร ตัวอักษรละ20ครั้ง ซึ่งจะต้องเขียนตัวอักษรทั้งสองควบคู่กัน เพราะมีเสียงเหมือนกัน พร้อมคำอ่านภาษาไทยเป็นการบ้าน”
O_O อะไรนะ
“ไม่...ฉันไม่คัด ลดให้เหลือตัวละ5ครั้งไม่ได้เหรอ นี่มันเท่ากับว่าฉันต้องเขียน10ตัวไม่ใช่รึไง”
“หัดต่อรองนะเด็กน้อย นี่ถือว่าฉันอารมณ์ดีนะ ถ้าเธอทำให้ฉันไม่พอใจหรือไม่ทำงานที่สั่งล่ะก็ ฉันจะให้เธอคัดตัวละ100ครั้ง” อีตานี่ยิ้มตาหยี แต่มันไม่น่ารักซัดกะตี๊ด นี่ขนาดอารมณ์ดีนะ “วันนี้ถือว่าพูดคุยชิลๆก่อนแล้วกัน ยังไม่เรียนแบบจริงๆจังๆ ไว้พรุ่งนี้ เธอจะรู้ว่าเรียนกับฉันสนุกแค่ไหน!”
นี่มันนรกชัดๆเลย!! ใครก็ได้ช่วยโยโกะที T0T
คำศัพท์น่ารู้
先生 sensei(เซ็นเซ) คุณครู
学生 gakusei(กะคุเซอิ) นักเรียน
เรียนรู้เพิ่มเติม
ตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นมี 2 ประเภท คือ
1. ตัวอักษรคันจิ เป็นตัวอักษรภาษาจีนที่ญี่ปุ่นยืมมา แล้วปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม โดยอักษรตัวคันจิจะมีความหมายในตัวของมันเอง
2. ตัวอักษรที่ทางญี่ปุ่นประดิษฐ์ขึ้นเอง โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ตัวอักษรฮิระงะนะ กับ คะตะคะนะ จริงๆแล้วตัวอักษรสองกลุ่มนี้มีเสียงเหมือนกัน แต่ตัวคะตะคะนะจะใช้เขียนเป็นตัวทับศัพท์ที่มาจากภาษาต่างประเทศ คำเลียนเสียง คะแสดงลักษณะท่าทาง คำที่ต้องการเน้นให้ชัด
**********************************************************************************
สวัสดีเพื่อนที่น่ารักทุกคนจ้า พบกันในตอนที่สองแล้ว ยังไงช่วยๆติชมกันด้วยนะคะ โดยเฉพาะข้อบกพร่องบอกมาได้เลย ยินดีรับฟังจ้า
สำหรับวันนี้ บ๊ายบาย
โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ
“ฮ่าๆๆๆ เธอนี่มันเพี้ยนจริงๆ” เขาหลุดหัวเราะออกมา ทำให้ฉันแปลกใจว่าหมอนี่ที่ดูขรึมๆ แล้วหัวเราะกับเขาเป็นด้วยเหรอ เห็นตอนแรกทำหน้าอย่างกับจะเชือดคอฉันไปทำซุปเห็ดหลินจือ “555 ก็ยังดีนะที่เธออุตส่าห์พูดออกมา ถึงมันจะทำให้ภาษาประจำชาติเค้าวิบัติก็ตาม” Y.Y นี่มันด่ากันชัดๆ!
“นายจะหัวเราะทำไม ก็คนมันไม่เคยเรียนนี่นา” ฉันทำหน้าดุๆใส่เขา เผื่อหมอนี่จะได้หยุดขำสักที
โป๊ก!
“โอ๊ย! นี่นายทำบ้าอะไรเนี่ย ฉันเจ็บนะ” ฉันร้องเสียงหลง เมื่อมือหนาๆของใครบางคนโขกมาที่หน้าผากฉันเต็มๆ อีตาบ้า นี่มันแกล้งกันชัดๆเลย
“นี่...ฉันเป็นอาจารย์เธอนะ เรียกว่า 'เซ็นเซ' สิ!”
“-_-;;”
โป๊ก!
มาอีกแล้วฝามือพิฆาตโยโกะ หน้าผากฉันต้องยุบแน่ๆเลย เย้ T0T หมอนี่หล่อร้ายอ่ะ
“ดูทำหน้าเข้า...อย่างกับไม่ได้เขาห้องน้ำมาสามอาทิตย์” ดูเขาพูดสิ น่าเกียจ “เรียกว่าเซ็นเซสิ”
“มะ...” 0.0// “เซ็นเซ” ฉันพูดไม่ทันจบก็ต้องเปลี่ยนเป็นยอมเชื่อฟังหมอนี่ เอ๊ย! เซ็นเซ ทันที เมื่อเขาถือไม่เรียวอันเท่าต้นไผ่ (ที่เอามาจากไหนก็ไม่รู้)แกว่งไปแกว่งมาอย่างกับคมแฝก แล้วยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ เป็นการบอกว่าถ้าเธอไม่เชื่อฟังฉัน ฉันจะเฆี่ยนเธอเหมือนอีเย็นในนางทาสแน่ๆ
“ ดีมาก ^^ ส่วนฉันจะเรียกเธอว่า ‘กะคุเซอิ’ หรือสั้นๆว่า ‘เซอิ’ ก็แล้วกัน ”
“-_-?” กะคุเซอิ?
“นี่เธอไม่คิดจะแนะนำตัวหน่อยเหรอ เราต้องรู้จักกันไว้นะ เพราะต้องอยู่ด้วยกันอีกตั้งสองเดือนแน่ะ ”
“เอ่อ...” หึๆ ยิ้มเยาะเย้ยฉันเหรอ แนะนำตัวเอง ฉันซ้อมมาเรียบร้อยแล้ว ไม่พลาดแน่คราวนี้ เอ๊ะ!ว่าแต่มันอะไรแล้วนะ ฮะจิเตะ..กินโดโซะ แล้วชนโต๊ะ โอ๊ย~ฉันคิดไม่ออก เอ้า จะยังไงก็ช่าง! ฉันจะพูดภาษาต่างดาวนี่ล่ะ ผิดก็ยอม หึ...คติประจะใจของฉันคือ ผิดเป็นครู สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการลงมือทำ ส่วนความผิดพลาดจะเป็นบทเรียนในอนาคต (พยายามปลอบใจตัวเอง) “ฮะจิ--”
ฉันพูดไม่ทันจบ เซ็นเซที่น่ารักของฉันก็เอามือมาปิดปากฉันไว้ -///- “อายอำอ้าอะไอ (นายทำบ้าอะไร)”
“ไม่ได้ก็ไม่ต้องพูด เดี๋ยวฉันสอนเธอเอง เอ้า!ไปนั่งที่สิ”
ฉันเดินไปนั่งที่เก้าอี้ที่ไว้สำหรับเขียนหนังสือ พร้อมหันหน้าไปทางไวท์บอร์ดที่คุณแม่เตรียมไว้ให้ เพื่อใช้ในการเรียนการสอน นี่มันเหมือนกวดวิชาขนาดย่อมเลยนะเนี่ย
“เอาไปสิ” เขาส่งสมุดอะไรสักอย่างมาให้ฉัน ซึ่งมีทั่งหมดสี่เล่ม “เล่มแรกเป็นตารางคัดตัวอักษรญี่ปุ่น เล่มที่สองเป็นหนังสือแบบเรียนภาษา เล่มที่สามจะเรียนรู้เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด ส่วนเล่มที่สี่ไว้จดคำศัพท์ของแต่ละวัน แต่ไม่ต้องห่วงนะ ยังมีหนังสืออื่นๆอีกเพียบเลย ^^”
“U.U” ฉันจะสลบยังไม่ทันเรียนนี่ล่ะ เพราะฉันเห็นหนังสือเล่มที่สามแล้ว นี่มันคัมภีร์ไบเบิลชัดๆ
“อืม...แล้วก็นี่ มันเป็นสมุดพกประจำตัวของเธอนะ” ฉันเห็นสมุดพกลายโดราเอม่อนนี่แล้วอดขำไม่ได้
“ฮ่าๆๆ นี่เซ็นเซคิดว่าฉันกี่ขวบฮ้า~”
“อย่าหัวเราะไป เพราะฉันจะทำเหมือนที่โรงเรียนเธอนั่นแหละ มีคะแนนเก็บ คะแนนสอบ แล้วก็คะแนนจิตพิสัย ถ้าเธอทำไม่ผ่านล่ะก็ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอมีความสุขแน่” นี่มันเหมือนฉากตัวร้ายข่มขู่นางเอกผู้อ่อนแอเลยอ่ะ -*-
“...”
“เอ้า! มาเริ่มเรียนกันเลยดีกว่า” เขาเขียนอะไรยิกๆบนไวท์บอร์ด
‘ฮะจิเมะมะชิเตะ เคนตะเดส โดโซะโยะโระชิคุ’
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันชื่อเคนตะ” เอ่อ...คุยกันตั้งนาน ก็เพิ่งรู้ชื่อเขานี้ล่ะ มัวสนใจแต่หน้าตา
“ฮะจิเมะมะชิเตะ โยโกะเดส โดโซะโยะโระชิคุ” ฉันพูดตามที่เขาเขียน เอ๊ะ! นี่มันเหมือนกับตำราของฉันเลยนี่ แสดงว่าตำราฉันมาตรฐาน
ยุกยิก~ ยุกยิก~
เขาเริ่มเขียนภาษาอะไรก็ไม่รู้ แต้ฉันเดาว่าเป็นภาษาญี่ปุ่นแน่เลย
“นี่เรียกว่าตัวอักษรฮิระงะนะและคะตะคะนะ ซึ่งเป็นหน้าที่ของเธอที่ต้องเขียนตัวอักษรนี้วันละ5ตัวอักษร ตัวอักษรละ20ครั้ง ซึ่งจะต้องเขียนตัวอักษรทั้งสองควบคู่กัน เพราะมีเสียงเหมือนกัน พร้อมคำอ่านภาษาไทยเป็นการบ้าน”
O_O อะไรนะ
“ไม่...ฉันไม่คัด ลดให้เหลือตัวละ5ครั้งไม่ได้เหรอ นี่มันเท่ากับว่าฉันต้องเขียน10ตัวไม่ใช่รึไง”
“หัดต่อรองนะเด็กน้อย นี่ถือว่าฉันอารมณ์ดีนะ ถ้าเธอทำให้ฉันไม่พอใจหรือไม่ทำงานที่สั่งล่ะก็ ฉันจะให้เธอคัดตัวละ100ครั้ง” อีตานี่ยิ้มตาหยี แต่มันไม่น่ารักซัดกะตี๊ด นี่ขนาดอารมณ์ดีนะ “วันนี้ถือว่าพูดคุยชิลๆก่อนแล้วกัน ยังไม่เรียนแบบจริงๆจังๆ ไว้พรุ่งนี้ เธอจะรู้ว่าเรียนกับฉันสนุกแค่ไหน!”
นี่มันนรกชัดๆเลย!! ใครก็ได้ช่วยโยโกะที T0T
คำศัพท์น่ารู้
先生 sensei(เซ็นเซ) คุณครู
学生 gakusei(กะคุเซอิ) นักเรียน
เรียนรู้เพิ่มเติม
ตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นมี 2 ประเภท คือ
1. ตัวอักษรคันจิ เป็นตัวอักษรภาษาจีนที่ญี่ปุ่นยืมมา แล้วปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม โดยอักษรตัวคันจิจะมีความหมายในตัวของมันเอง
2. ตัวอักษรที่ทางญี่ปุ่นประดิษฐ์ขึ้นเอง โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ตัวอักษรฮิระงะนะ กับ คะตะคะนะ จริงๆแล้วตัวอักษรสองกลุ่มนี้มีเสียงเหมือนกัน แต่ตัวคะตะคะนะจะใช้เขียนเป็นตัวทับศัพท์ที่มาจากภาษาต่างประเทศ คำเลียนเสียง คะแสดงลักษณะท่าทาง คำที่ต้องการเน้นให้ชัด
**********************************************************************************
สวัสดีเพื่อนที่น่ารักทุกคนจ้า พบกันในตอนที่สองแล้ว ยังไงช่วยๆติชมกันด้วยนะคะ โดยเฉพาะข้อบกพร่องบอกมาได้เลย ยินดีรับฟังจ้า
สำหรับวันนี้ บ๊ายบาย
โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ