ObserveR “คุณมึงครับ มาเลียกูซิ!”
เขียนโดย nooonaa
วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.21 น.
แก้ไขเมื่อ 25 มกราคม พ.ศ. 2557 23.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) "คุณมึงครับ มาเลียกูซิ!" 12 : ไม่สบายใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความBy nooonaa
"คุณมึงครับ มาเลียกูซิ!" 12 : ไม่สบายใจ
+ผงฝุ่น+
"มึงแน่ใจนะไอ้ฝุ่น กูไม่อยากตายนะเว้ย"
ชู่!
"มึงจะเสียงดังทำไมวะ!" ผมดุไอ้โง่ข้างตัวที่กำลังย่องตามหลังผมมา แต่ดูขามันจะสั่นเกินความจำเป็น ผมเลยต้องรีบคว้ามือมันแล้วลากออกให้ห่างจากตัวบ้านไวๆ
ถ้าพี่ถ่านตื่นขึ้นมาเห็นผมตอนนี้ล่ะก็...ตายกับตาย
ทำไมน่ะหรอ...ก็เพราะว่าผมกำลังจะหนีออกจากบ้านตอนตีสี่น่ะสิ นี่ถ้าพี่ถ่านไม่งี้เง้าให้ผมไปเข้าค่ายนะ ป่านนี้ผมก็ไม่ต้องลำบากขนาดนี้หรอก
แต่ตอนนี้ผมขอตบกะโหลกไอ้เพื่อนโง่คนนี้ก่อน มึงจะสตาร์ดมอไซน์หน้าบ้านกูเนี่ยนะ โง่สัดๆ
โป๊ก!
"สัด! ตบกูไมวะ!" มือเล็กของไอ้แซมกุมหลังหัวตัวเองไว้แน่นก่อนจะด่าผมซะเสียงดังลั่น ผมเลยต้องตบมันแล้วด่าอีกครั้ง
โป๊ก!
"ไอ้โง่! กูบอกว่าอย่าเสียงดังไงวะ เดี๋ยวพี่ถ่านก็ลงมาซัดมึงหรอก!!" ไอ้พี่เวรนี่ก็ดีจริง ตลอดอาทิตย์ไม่เคยมานอนบ้าน แต่ไอ้วันที่กูจะไปค่ายมึงเสือกมานอนหน้าสล่อนเลยนะ
ทำไมหะ! วันนี้ไอ้เจมส์ไม่ให้นอนด้วยรึไง!
โด่!
อันที่จริงผมก็ไม่รู้หรอกว่าพี่ผมไปไหน แต่ก็ด่าลามไปหาไอ้เจมส์ไปงั้นอะ อารมณ์มันพาไป แหะๆ
"เข็นรถไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปติดเครื่องหน้าหมู่บ้าน"
"เหี้.ย! ไกลนะเว้ย!" ใบหน้าหวานมันด่าผมใหญ่เลยครับ ผมเลยต้องเพิ่มสิ่งล่อใจให้มัน
"ถ้ามึงเข็นเดี๋ยวกูช่วยให้มึงนอนใกล้ๆไอ้เป๋า เอาปะๆ"
นั่นไง! หันมามองหน้ากูเชียวนะมึง อยากขนาดนั้นเลยรึไง รักนวลสงวนตัวบ้างเถอะมึง
"เดี๋ยวมึงขนกระเป๋าตามกูไปเลยนะ" แล้วมันก็เข็นฟีโน่ลูกรักมันไปเลยครับ แถมยังเงียบกริบจนเหมือนนินจาล่องหน ผมเห็นแบบนั้นก็เริ่มเห็นใจมันแล้วล่ะ คนบ้าอะไรถึงแอบรักได้มากขนาดนั้น
พอพ้นรัศมีถิ่นที่พี่ถ่านแผ่รังสีเอาไว้ ผมกับไอ้แซมก็รีบเผ่นไปจากหมู่บ้านทันที ไอ้แซมมันก็แวะไปเอากระเป๋าของตัวเองก่อนจะตะลอนพาผมไปที่โรงเรียน
อ่า...ผมจะได้ไปเข้าค่ายครั้งแรกในชีวิตแล้วนะครับ ดีใจกับผมมั้ย...แต่ผมดีใจมากๆด้วยล่ะ
พอมาถึงรถบัสที่จอดรอพวกเราอยู่ผมกับไอ้แซมก็รีบวิ่งไปรวมตัวกับเพื่อนๆก่อนผมจะเจอใครบางคนยืนอยู่ที่ท้ายแถว มันมองหน้าผมนิ่งก่อนจะเดินมาคว้ากระเป๋าผมไปถือ
"กูนึกว่ามึงจะไม่มาซะอีก" นี่อย่าบอกนะว่ามึงมายืนรอกู ไอ้บ้าเอ้ย! กูก็เขินเป็นนะเว้ย
"บอกว่าจะมาก็มาสิ" แต่ผมก็ทำเป็นพูดเสียงแข็งใส่มันเพื่อไม่ให้มันจับความรู้สึกผมได้ มันเองก็ไม่ว่าอะไรกลับเอ่ยประโยคตามหลังมาที่เล่นเอาผมชาไปทั้งตัว
"กูดีใจนะ...ที่มึงมา"
จะ ใจผมสั่นอีกแล้ว
"อะไรของมึง!" ผมผลักไหล่มันเบาๆก่อนจะเดินหนีไปนั่งต่อท้ายไอ้แซม มันเองก็เดินมานั่งข้างหลังผมซะชิด จนผมรู้สึกถึงลมหายใจร้อนที่เป่ารดต้นคอได้ชัดเจน
มึงทำบ้าอะไรเนี่ย!
ถึงใจจะด่า แต่ผมทำอะไรไม่ถูกแล้ว ยิ่งมันใกล้ผมก็ยิ่งคิดอะไรไม่ออก จนต้องทำตัวเองให้นิ่งที่สุด ไม่งั้นผมต้องละลายแน่
"มึงเปลี่ยนสบู่รึไง กลิ่นหอมดีวะ กูชอบ"
อึก!
"พูดเหี้.ยไรเนี่ย!!"
อีกแล้ว! มันเป็นบ้าอะไรวะ มาพูดแบบนี้กับผมได้ไง เพราะตอนนี้ผมรู้สึกว่าท้องน้อยผมหายวาบไปหลายทีแล้ว
"ก็เรื่องจริงนี่หว่า อย่าเปลี่ยนกลิ่นนะ" คราวนี้ผมทนต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ ถ้านั่งอยู่ตรงนั้นผมต้องล้มหงายหลังแน่ ผมเลยเบี่ยงตัวเองหนีแล้วลุกมานั่งข้างหลังมันแทน
เอาสิมึง คราวนี่มึงจะพูดอะไรได้อีกมะ
"หึ" แต่มันกลับหึในลำคอเหมือนขำกับการกระทำของผม ก่อนเจ้าตัวจะเอี้ยวตัวมาหันกลับมา
"หนีไปเถอะมึง แต่คืนนี้มึงหนีกูไม่ได้แน่" ประโยคมันดูกำกวมมากเลยครับ มากจนหน้าผมร้อนผ่าว นี่มันคิดจะทำอะไรถึงพูดแบบนั้น หรือว่าคืนนี้...มันจะทำเหมือนคืนที่ผมนอนบ้านมัน
บ้าน่า! มันยังเด็กอยู่เลย ทำมากกว่านั้นไม่ได้หรอก!
"คิดเรื่องทะลึ่งอยู่ล่ะสิ กูแค่จะให้มึงเป็นคนใช้กูนะ"
อะไรนะ!!
"ไอ้เลว!" แม่ง! แล้วกูคิดเหี้.ยในเนี่ย มันยังไม่คิดแต่กูคิดไปแล้ว หรือว่าผมจะทะลึ่งอย่างที่มันบอกจริงๆ
ไอ้ฝุ่น น่าอายวะ
ผมจำใจต้องส่ายหัวให้กับความหื่นของตัวเองก่อนจะเชิดหน้าหนีมัน มันก็ไม่ว่าอะไรแค่แสยะยิ้มให้ผม ก่อนเสียงงัวเงียของใครบางคนจะดังอยู่ข้างหลัง
"เออ กูบอกว่ามันอยู่นี่...เออ! มันนั่งอยู่ข้างตีนกูเนี่ย! หวงมากทำไมไม่ล่ามโซ่ไว้วะ! แม่ง!" แล้วมันก็ตัดสายทิ้งก่อนจะปิดเครื่องใส่ปลายสาย หน้ามันนี่หงิกเลยครับ แถมใบหน้าน่ารักของมันยังหันมาค้อนผมอีก
กูทำไรผิดวะ
"มึงจะมาทำหอกไรสัด! กูล่ะเบื่อตระกูลผงชิบหาย ยิ่งพี่มึงก็ยิ่งเบื่อ!" อยู่ๆมันก็ด่าผมใหญ่เลยครับ แถมเอาตีนเน่าๆของมันมาเตะหลังผมเบาๆสองสามที แต่เมื่อกี้มันว่าผมกับพี่ถ่าน แสดงว่าพี่ถ่านก็รู้ว่าผมหนีมาแล้วอะดิ
โดนเชือดแน่กู
"มึงคุยกับพี่ถ่านหรอวะ"
"เออ! แล้วแม่งจะตายแหล่ไม่ตายแหล่ยังเสือกจะหนีมาเที่ยวกับผู้ชายอีกนะมึง"
"โห ด่ากูจนเจ็บยั้นมดลูกเลยวะ นี่มึงหาว่ากูเป็นเด็กมีปัญหาใช่มะ"
"เหี้.ย! กูด่ามึงว่าแรดหนีตามผู้ชายเว้ย!!"
อุ!
อันนี้เจ็บกว่าวะ
แต่ผมหาคำด่ากลับไม่ได้แล้วอะ เลยทำได้แค่ค้อนมันไปสองสามที แต่ไอ้เปรตด้านหน้าดันขำผมจนหน้าเขียว
"ฮ่าๆ ตลกวะ"
ซึ่งนี่มันเป็นครั้งแรกที่มึง...ยิ้ม
'หล่อ' และอยู่ๆคำนั้นมันก็พุดขึ้นมาในหัว จนผมทำอะไรไม่รู้สึกตัวสักนิด เพราะตอนนี้ผมกำลังลูบรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อของอีกคนอยู่
"มึงทำอะไร" เจ้ารอยยิ้มถามผมเสียงแข็งเหมือนมันจะไม่ชอบที่ผมทำมาก พอผมรู้สึกตัวก็รีบชักมือกลับแล้วหันหน้าหนีไปอีกทางทันที
นี่ผมทำอะไรลงไป ตกลงว่าผมหลงใบหน้าเทพบุตรของมันอย่างที่ไอ้เจมส์บอกจริงๆใช่มั้ย
อ่า...หน้าร้อนอีกแล้ว
ปึก!
"มึงนี่แรดจริง!!" แล้วฝ่ามือน้อยๆของไอ้เจมส์ก็ตบลงมากะหม่อมผมอย่างจัง
"เจ็บนะเว้ย!"
"ทำไม! มึงจะฟ้องไอ้เฮียร์ให้มาตบกูคืนรึไง แต่กูขอบอกก่อนนะ ก่อนมึงจะฟ้องมันช่วยจัดการพี่มึงก่อน อีกไม่นานมันตามมาตบกะโหลกผัวมึงแน่"
ผัว! หมายถึงไอ้เฮียร์อะนะ!
"มันไม่ใช่ผัวกูนะ!" ผมรีบแก้ตัวก่อนจะก้มหน้างุดเมื่อโดนไอ้เฮียร์จ้องเหมือนคำพูดผมไปทำให้มันโกรธ แต่โชคยังดีที่อาจารย์เรียกพวกเราให้ขึ้นรถ ทำให้ผมพ้นจากสายตาคมของไอ้อันตพาลบ้านั้นได้
แต่ดูเหมือนมันจะโกรธผมมาก แล้วผมพูดอะไรผิดงั้นหรอ...ก็มันไม่ใช่ผัวผมจริงๆนี่หว่า
พอขึ้นรถมาได้ผมก็ได้ที่นั่งด้านหลังเพราะทุกที่มันเต็มแล้วเขาก็นั่งเป็นคู่ๆ ไอ้เป๋าเองก็นั่งคู่กับไอ้แซมเหมือนทุกปี มันเลยเหมือนผมเป็นส่วนเกิน ทำให้คนไร้คู่อย่างผมต้องมาระเห็ดพบเจอชะตากรรมคนเดียว โดยที่เก้าอี้ด้านหลังผมก็ดันเป็นไอ้เฮียร์
มันเอาแต่จ้องผมจากด้านหลังนิ่งอย่างกดดันจนผมเริ่มรู้สึกประหม่า และเริ่มทำตัวไม่ถูก แต่แล้วมันก็มีเรื่องบ้าๆที่ทำให้ผมเครียดอีกหลายสิบเท่า เพราะมีบางบุคคลที่ผมไม่อยากเจอไม่ที่สุดกำลังเดินดิ่งมาหาผม
"น้องฝุ่นของพี่ฟองงงงงง"
ชัดมะ ชื่อต่อท้ายนั่นอะ ชัดมะว่าทำไมผมถึงบอกว่าไม่อยากเจอรองจากพี่ชายตัวเอง(พี่ถ่านนี่คือบุคคลที่ผมไม่อยากเจอที่สุดตอนนี้)
"พี่ฟอง...พี่มาได้ไงครับ" แล้วร่างหนาก็เข้ามานั่งชิดกับผมทันที ผมเองก็ทำอะไรไม่ถูกก่อนจะหันไปมองอีกคนที่จ้องผมด้วยสายตาที่ดูขุ่นมากว่่าเดิม
"ก็นี่มันค่ายที่มหาลัยพี่จัด แล้วพี่ก็เป็นประธานค่าย แต่พอพี่รู้ว่าดาร์ลิ้งของพี่มา หัวใจมันก็สั่งให้มาหาทันที เห็นมะ...ว่าพี่มิสยูนายสุดๆ" พี่มันพ่นคำหวานมากมายใส่ผมจนชวนอ้วกก่อนมือหนาจะคว้าเข้าที่มือผมแล้วก้มลงหอมหลังมือจนสุดปอด แต่นั่นมันกลับทำให้ผนักเบาะที่ผมนั่งถูกเตะอย่างแรงด้วยฝีมือใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างหลัง
ปึก!!
"รกหูรกตาวะ มึงเป็นประธานค่ายจริงหรอวะ ประธานค่ายนี่หม้อเด็กได้ด้วยรึไง" มันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเหมือนกับวันที่มันเจอผมอยู่ในห้องพยาบาลกับประธานนักเรียน แล้วผมก็เริ่มรู้สึกว่ามันจะต้องรุนแรงเหมือนวันนั้นแน่
"อ่าวไอ้น้อง พูดงี้หาเรื่องพี่หรอครับน้อง" พี่ฟองเองก็นักเลงใช่เล่น ร่างหนาลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับไอ้เฮียร์ก่อนอีกคนจะลุกขึ้นยืนจนเห็นความสูงที่ต่างกันได้ชัด
"พี่คิดงั้นมั้ยล่ะ เพราะน้องอย่างกูโคตรชอบพูดแนวนั้นเลยวะ"
เหี้.ย! มึงจะน่ากลัวไปมั้ย มันน่ากลัวจนรอบข้างเย็นเกือบเป็นน้ำแข็ง พี่ฟองเองต้องกัดฟันแน่นเพื่อระงับอารมณ์ เพราะมีอาจารย์นั่งอยู่หน้ารถ พี่มันคงไม่อยากให้เกิดเรื่องใหญ่แน่
"พี่ฟองครับ...พี่ไปทำงานเถอะครับ เดี๋ยวเราค่อยมาคุยกันนะ" ผมเลยต้องเป็นคนแยกสองคนนั้นออกจากกันเพราะไม่มีทีท่าที่คนใดคนหนึ่งจะยอมแพ้ ซึ่งพี่ฟองก็ดูเหมือนจะยอมง่ายๆแต่ก็ยังคาดโทษอีกคนไว้
"ระวังปากไว้นะมึง จบค่ายเมื่อไหร่มึงเจอตีนกู"
อะไร!!
"หึ งั้นกูจะรอวันนั้นละกัน แต่ก่อนจะถึงวันนั้นระวังอกแตกตายนะมึง" ไอ้เฮียร์พูดเสียงยียวนใส่ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงข้างๆผมแล้วเกี่ยวเอวผมเข้ากอดซะแน่น จนมันไปสะกิดต่อมพี่ฟองจนใบหน้าหล่อนั้นเขียวคล้ำ แถมเส้นเลือดก็ปูดเต็มขมับ
"นี่มึง!!"
"พอเถอะครับพี่ฟอง กลับไปทำงานนะครับ ส่วนมึงก็กลับไปนั่งที่ได้แล้ว" ผมขอพี่ฟองเมื่อรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นต้นเหตุ ก่อนจะจับเอามือใหญ่ที่กอดเอวผมออกเช่นกัน พี่ฟองเลยขำออกมาเล็กน้อยที่ผมทำแบบนั้นกับไอ้เฮียร์ แต่มันดันทำให้อีกคนมองผมอย่างไม่เข้าใจ ตาคมมันจ้องเหมือนต้องการคำตอบ แต่ผมก็ทำเป็นเหมือนไม่รู้สึก
"งั้นพี่ไปทำงานก่อนนะ เจอกันที่ค่ายนะมายดาร์ลิ้ง" พี่มันไม่พูดป่าว แต่ส่งจูบมาให้ผมด้วย ผมเลยต้องยิ้มรับแล้วหันกลับมานั่งนิ่งๆ
แต่ทำไมมึงต้องโกรธขนาดนั้น ก็ดูมันดิ มันจ้องเหมือนอยากจะกินหัวผมอย่างไงอย่างนั้น
"มึงมองกูแบบนั้นทำไม อยากหาเรื่องกูอีกคนใช่มะ" อันตพาลยังไงก็อันตพาลสินะ
"มึงเลือกมัน"
"อะ อะไรนะ กูเลือกใคร?" ผมไปเลือกใครอะไรตอนไหนยังไงกัน ผมก็นั่งอยู่ตรงนี้นะ แล้วยังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ
"มึงเลือกมัน...มึงเลือกมัน" พูดซ้ำไปซ้ำมาสองรอบก่อนร่างสูงจะลุกขึ้นแล้วกลับไปนั่งที่เดิม ผมเลยหันไปมองมันแต่มันกลับหันหน้าหนีไปนอกหน้าต่างเหมือนไม่อยากเห็นหน้าผม
แต่ทำไมสีหน้ามึงถึงดูสลดขนาดนั้น...นี่กูทำอะไรไม่ถูกใจหรอ และดูเหมือนมันจะไม่ถูกใจกว่าทุกครั้ง เพราะมันเงียบและไม่อาละวาด
ให้ตายเถอะ ผมไม่สบายใจเลยจริงๆ
ผมชำเรืองมองมันอยู่หลายครั้งจนเริ่มรู้สึกง่วง แต่ความกระวนกระวายใจมันทำให้ผมหลับไม่ลงตลอดหลายชั่วโมง จนตอนนี้รถบัสที่เรานั่งมันมาถึงค่ายที่จัด พวกอาจารย์เลยเรียกรวมตัวที่หน้าแคมป์เพื่อที่จะได้รู้จักกับพี่ๆมหาลัยก่อนที่จะปล่อยเป็นหน้าที่ของพวกพี่ๆ ผมเองก็เดินตามไอ้แซมกับไอ้เป๋าเรื่อยๆโดยที่ตาเอาแต่จ้องมองแผ่นหลังกว้างของอีกคนที่กำลังเดินคุยอยู่กับไอ้เจมส์
มันโกรธผมมากแน่ๆเลย ถึงไม่มองหน้ากันแบบนี้ แล้วผมจะทำไงดีล่ะ มันรู้สึกแย่จริงๆ
พอมาถึงลานกว้างที่มีพวกพี่ๆจากมหาลัยยืนรออยู่ พวกเราก็รีบวางของแล้วเข้าไปนั่งตามห้องของตัวเอง ก่อนที่พี่ฟองที่เป็นประธานค่ายจะเป็นคนเปิดงาน
"สวัสดีครับน้องๆ พวกพี่ดีใจมากที่น้องๆมากันในวันนี้ พี่ชื่อฟองนะครับ เป็นประธานค่าย ส่วนนั่นคือพี่ริน เป็นรองประธานค่าย ถ้ามีปัญหาอะไรระหว่างค่ายก็ปรึกษาพี่ได้ หรือจะเป็นพี่ๆสตาร์ฟก็ได้นะครับ" ผมมองตามนิ้วของพี่ฟองที่ชี้ไปทางสาวสวยอกสะบึ้มที่ยืนข้างๆพี่มันทันทีที่เสียงวีดวิ้วมันดังสนั่น พี่เขาสวยจริงๆนะครับ ผมยังเคลิ้มเลย แต่คงจะไม่เคลิ้มเท่าเหล่าผู้หญิง เพราะพวกเธอนั่งอมยิ้มกะลิ้มกะเลี่ยไอ้พี่ฟองจนแทบกินทั้งตัว
"แต่ว่าก่อนที่เราจะเริ่มกิจกรรมวันนี้ พี่อยากให้เราแบ่งเป็นกลุ่มก่อน เราจะแบ่งออกเป็นห้าสี ซึ่งเราจะมีกิจกรรมรอบกองไฟในคืนวันสุดท้ายกัน สีไหนประพฤติตัวดีก็จะได้ของรางวัลเป็นขนมปี๊บกับบ้าน เฮ้ๆ" แล้วพี่มันก็เฮลั่นเหมือนของรางวัลตัวเองมันยิ่งใหญ่มาก พวกผมก็มองพี่มันอย่างเอื่อมๆจนพี่ฟองต้องรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อมันไม่ฮาตาม
แป๊กวะพี่เอ้ย น่าอายชะมัด
"โอเคๆ เรามาจับสลากกันดีกว่า" ว่าเสร็จพี่ๆคนอื่นๆก็เดินถือกล่องใบไม่ใหญ่มาที่หัวแถวก่อนจะเดินให้ทุกคนจับสลากในกล่อง พอถึงคิวผม ผมก็จับมันมาก่อนจะมานั่งลุ้นอยู่คนเดียว
สีอะไรวะ...แต่ขออย่าอยู่สีเดียวกับไอ้หื่นพี่ฟองเลยเพี้ยง ไม่งั้นโดนล้วงตลอดค่ายแน่
"ใครอยู่สีอะไรเดินไปหาพี่ที่อยู่ด้านหลังเลยนะครับ ดูที่ผ้าผันคอพวกพี่เขาเลย" ผมชะเง้อมองตามที่พี่ฟองพูดก่อนจะพบว่าพี่มันผูกผ้าพันคอสีม่วง แต่นั้นผมก็บนไปเจ็ดวัดแล้วครับ ขอสีอะไรก็ได้นะครับ แต่อย่าสีม่วง!
เห้ย! เยส! สีฟ้าเว้ย!!
ผมแทบกรี๊ดลั่นเมื่อเปิดออกมาเป็นสีฟ้า แต่ผมคงคิดผิดที่คิดว่าตัวเองน่าจะรอด เพราะลืมคิดว่ามันเป็นประธานค่าย ดังนั้นมันก็มีสิทธิที่จะ...
"ไอ้ไก่ มึงแลกสีกับกูดิ๊ กูอยากอยู่สีฟ้า"
เหี้.ย!! มึงจะใหญ่ไปและ!!
"หึ ถูกใจมึงล่ะสิ มันอุตส่าแลกสีเพื่อมึงเลยนิ" แล้วคำถากถางของคนที่นั่งข้างหลังผมก็ลอยมาใส่หูอย่างจัง ผมหันกลับไปมองก็พบว่ามันก็อยู่สีฟ้าเหมือนกัน แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงดีใจยังไงก็บอกไม่ถูก
"บ้ารึไง ยิ้มคนเดียว" มันผลักหัวผมกลับก่อนจะหันไปคุยกับไอ้เจมส์ที่นั่งข้างหลังมันอีกที ดูเหมือนไอ้เจมส์จะอยู่สีม่วงนะครับ ส่วนไอ้แซมอยู่สีแดง เป๋าอยู่สีเขียว ส่วนอีกสีคือสีเหลืองที่ดูเหมือนพี่คุมสีจะงามหยอดย้อยเหลือเกิน เล่นเอาผมย้ายสีเลยอะ
ปัง!
แต่แล้วเสียงปิดประตูก็ดังขึ้นจากด้านข้างพวกเรา มันเรียกความสนใจทุกอย่างจากผมเพราะผมเห็นใครบางคนยืนเท้าเอวมองมายังกลุ่มพวกเราผ่านแว่นตากันแดดอันสวย ซึ่งมันทำให้สาวๆกรี๊ดกันแทบสลบ แต่ผมไม่กรี๊ดด้วยหรอก ก็มันดูก็รู้ว่าเขาคนนั้นมีอารมณ์โหดกับโกรธพ่วงมาด้วย ซึ่งมันทำให้ผมอยากจะหายไปจากโลกนี้จริงๆ
"คุณมาทำไมครับไอ้ถ่าน มาเป็นมารขัดกูหรอครับสัด" พี่ฟองรีบตะโกนด่าอีกคนแต่เขาก็ไม่สนใจ กลับจ้องเขม็งมาที่เดิม...เหมือนกำลังหาใครบางคน
ใช่ครับ...ใครบางคนนั้นคือพี่ชายผมเอง ซึ่งมันแบบว่า...ซวยแน่กู
ผมรีบมุดแอบอยู่ข้างหลังไอ้เป๋าทันทีที่สายตาคมกวาดผ่านมายังพวกผม แต่ยังไงมันก็คงไม่พ้นหรอกมั้ง เพราะอยู่ๆตัวผมก็ลอยเหนือพื้นไปแล้ว
"เห้ย!!" ผมห้อยหัวต่องแต่งเหนือพื้นเมื่อแขนใหญ่กระชับผมให้ขึ้นบ่า ก่อนร่างสูงใหญ่จะพาผมเข้าไปในรถคันสวยของตัวเองพร้อมกับดุผมเสียงเขียว
"กล้าหนีกูมาค่ายนะไอ้น้องเวร! กลับบ้าน!!"
โห น้องเวรเลยอ่อ
"ก็ผมอยากมาค่ายบ้างอะ อย่าด่าผมดิ" ผมรีบเกาะแขนพี่ถ่านแล้วพูดเสียงอ่อนเลยครับ แม่งพี่ผมโหดจริง เล่นเอาขนลุกไปทั้งตัวแล้วเนี่ย
"แล้วทำไมมึงไม่มาขอกูดีๆ หนีมาแบบนี้ได้ไงวะ กูเป็นห่วงนะเว้ย"
"ขอแล้วพี่ก็ไม่ให้มา อล้วถ้าขออีกพี่จะให้มามั้ยล่ะ" ผมถามกลับทันทีซึ่งพี่มันก็สวนกลับทันควันเหมือนกัน
"ไม่ให้มาเว้ย!"
"นั่นไง แล้วผมจะขอพี่ทำไมอะ" ผมว่าพลางทำสีหน้าสลด พี่ถ่ายเลยขยี้หัวตัวเองใหญ่เหมือนจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ไหวแล้ว ก่อนจะจับตัวผมพลิกมาคุยกันอย่างจริงจัง
"โอเคๆ ครั้งนี้กูจะยอม แต่ถ้ามึงมีอาการนิดเดียวกูจะพากลับทันที" แค่นั้นผมก็ยิ้มแก้มปริแล้วครับ ผมผวากอดคอพี่มันใหญ่แถมหอมแก้มใสนั้นอีกหายฟอด
"ใจวะพี่" อย่างกับถูกหวยเลยวะ
"มึงรีบไปเถอะ มีไรก็มาหากูล่ะกัน กูอยู่แถวนี้แหละ" พอพี่มันอนุญาตผมก็วิ่งสิครับ เดี๋ยวพี่มันเกิดบ้าเปลี่ยนใจขึ้นมาผมก็แย่ดิ แต่พอผมวิ่งกลับมาที่แถว เพื่อนๆก็มองผมเป็นตาเดียว
สายตาพวกมึงไม่ได้ส่อว่าอยากรู้เลยเนอะ
ผมเลยเดินไปหาไอ้เฮียร์ที่นั่งจ้องผมอยู่แล้วถือวิสาสะนั่งลงข้างๆมันด้วย มันก็ไม่ได้ว่าอะไรผมนะ แต่ก็ไม่ยอมคุยกับผมด้วย
ท่าจะโกรธหนัก
ผมเลยนั่งเงียบๆโดนทำเป็นมองไปรอบๆเหมือนไม่สนใจแต่ก็แอบเหล่จนตาเข มันก็ยังคงเมินผมเอง จนสุดท้ายผมต้องหันไปดูอย่างอื่นอย่างจริงจัง ก่อนจะพบพี่ชายตัวเอวยื้อฉุดกระชากลากถูไอ้เจมส์ใหญ่ โดยที่ไอ้เจมส์เองก็ปล่อยพลังจิกหัวพี่ผมเต็มกำลัง แต่ไม่ต้องเดาว่าใครจะชนะหรอกครับ แค่พูดชื่อของสองคนนี้ผมก็แทงหมดตัวว่าพี่ผมชนะ แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะพี่ถ่านไม่รอให้อีกคนเดินตามมา แต่อุ้มเข้าบ้านพักไปเลย
นี่พี่กูไม่กลัวอาญาบ้านเมืองเลยใช่มะ แต่มึงน่าจะกลัวอาจารย์กูบ้างก็ได้นะพี่ถ่าน
แม่ง ว่างเป็นฉุด แล้วยังมีหน้ามาพูดว่ากูจะอยู่แถวนี้ๆ เหมือนจะคอยดูแลผมอยู่ห่างๆ แต่การกระทำมึงแบบว่า...กูจะกินไอ้เจมส์รอมึงอยู่แถวๆนี้ล่ะกัน
เห้อ...พี่ผม หมดกัน
พอทุกคนพร้อมพี่ๆเขาก็ให้จับคู่นอนเต๊นท์กันโดยการจับสลากเหมือนเดิม พี่เข้าให้เหตุผลว่าไม่อยากจะให้รู้จักแค่เพื่อนในห้องตัวเอง สมควรที่จะรู้จักเพื่อนห้องอื่นด้วย ผมเลยจับหมายเลขมาแล้วเดินไปหยิบเต็นท์รอเพื่อนที่ร่วมชะตากรรม
"หวัดดี เราชื่อต้นนะ" เด็กเนิร์สสุดๆ เนี่ยนะเพื่อนร่วมเต๊นท์ผม แว่นเด่นมาแต่ไกลเลย แล้วมึงอยู่ห้องไรวะ กูไม่เคยเห็นมึงเลยอะ
ผมมองร่างเพรียวที่ยืนส่งยิ้มให้ผมอย่างเขินอายก่อนผมจะยิ้มตอบ
"เราชื่อฝุ่นนะ" ผมแนะนำตัวเสร็จก็เดินไปที่ตั้งเต็นท์ แต่พอมาถึงเสียงเรียกเพื่อนร่วมเต็นท์ผมก็ดังลั่นก่อนถุงเต็นท์อีกอันจะถูกโยนใส่ร่างเพรียวอย่างจัง
"ไอ้แว่น มึงนอนเต๊นท์นี้" ร่างสูงของไอ้เฮียร์ผลักต้นซะกระเด็นก่อนมันจะเดินมาหยิบเต๊นท์กับกระเป๋าของผมไปถือแทน แล้วเดินนำผมไปโดยไม่สนใจใครทั้งนั้น
"มึงทำไรวะ"
"อย่าฝันว่ามึงจะได้นอนกับคนอื่นนอกจากกู"
!!!
อึ้งดิ พูดแบบนี้ก็อึ้งดิ
ตอนนี้หน้าผมร้อนไปแล้วครับ ร้อนจนทอดไข่ให้สุกได้เลยล่ะ แล้วยิ่งอีกคนสั่งให้ผมยืนอยู่เฉยๆรอมันกางเต็นท์นี่อีก ยื่งทำให้ผมหุบยิ้มไม่อยู่ ถึงแม้ว่ามันจะด่าผมว่าเป็นตัวถ่วงมันมากกว่าช่วยก็เถอะ แต่ผมกลับรู้สึกดีที่มันทำดีกับผม
"ดีผงฝุ่น" ในขณะที่ผมกำลังนั่งมองไอ้เฮียร์กางเต็นท์อยู่นั่น ก็มีเสียงทักผมมาจากข้างหลัง ผมเลยหันกลับไปมองพร้อมกับรอยยิ้มที่ส่งให้อีกคนทันที
"สวัสดีครับประธาน อ่าว...อยู่สีฟ้าเหมือนกันหรอครับ" ผมมองผ้าพันข้อมือที่ร่างหนาตรงหน้าผูกเอาไว้ ก่อนอีกคนจะยกมันขึ้นมาดูตาม
"ใช่ เราอยู่สีเดียวกัน"
"ดีๆครับ อย่างนี้เราได้รางวัลแน่" ผมมั่นใจมากๆเลยล่ะว่าเราจะได้ เพราะประธานคนเก่งมาร่วมทีมด้วย
"ไอ้เตี้ย! มาเก็บของ" แต่แล้วไอ้ปากหมาก็โผล่หัวออกมาจากเต็นท์แล้วเรียกผมเสียงดังลั่น แถมทั้งลานยังมีมันคนเดียวที่กางเสร็จ แม่งโคตรเทพอะ
"เดี๋ยวดิ แล้วประธานนอนตรงไหนหรอครับ" ผมหันไปตอบไอ้หล่อนั่นก่อนจะหันมาถามอีกคน นิ้วยาวเลยชี้ไปอีกฝั่งที่ไกลจากผมมากก่อนจะชวนผมไปเยี่ยม
"ว่างๆก็มาที่เต็นท์ฉันนะ มีขนมเยอะเลย"
"จริงดิ"
"ไอ้เตี้ย!! กูบอกให้มานี่!!" แต่คราวนี้มือใหญ่ดึงคอเสื้อผมขึ้นจนขาผมลอยเหนือพื้นก่อนจะตวัดสายตาไปหาอีกคนที่คุยกับผมอยู่
"สองครั้งแล้วนะมึง" มันพูดแค่นั้นแล้วแบกผมเข้าเต็นท์ไปเลยครับ แล้วคนอย่างผมจะทำอะไรได้ล่ะ นอกจากเงียบ
"มึงคุยกับมันอีกแล้วนะไอ้ฝุ่น" พอมันรูดซิบปิดเต็นท์เสร็จจนตอนนี้เหลือเราแค่สองคนในนี้ มันก็กัดฟันพูดใส่ผมซะเสียงเขียว ผมก็ต้องก้มหน้าเงียบเลยดิ กลัวมันอาละวาดยังไงไม่รู้
"เขาคุยมากูก็ต้องคุยตอบดิ" กูไม่ผิดนะ
"หึ นิสัยดีจริงนะ"
มันเอ่ยประโยคนั้นออกมาเหมือนคำพูดทั่วไป แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันน้อยใจยังไงอย่างนั้น ผมเลยค่อยๆเงยหน้ามองอีกคนก็พบว่าคิ้วมันขมวดเกือบชิด แค่นั่นใจผมก็หายวาบก่อนที่ร่างสูงจะลุกออกจากเต็นท์ไป
โดนโกรธอีกแล้ว
แล้ววันนี้ทั้งวันมันก็ไม่ยอมพูดกับผมอีกเลย
แล้วอย่างนี้ผมจะต้องทำยังไงล่ะ ผมไม่ชอบสถานการณ์น่าอึดอัดนี้สักนิด ยิ่งพี่ฟองชอบเข้ามาคุยจนผมถูกสายตาคมนั้นจ้องเขม็งนั้นอีกที่ยิ่งทำให้ผมเครียด
ไอ้เฮียร์ ทำไมมึงถึงต้องมาทำให้กูจิตตกแบบนี้ว่ะ มึงไม่รู้รึไงว่ากูไม่ชอบที่มึงไม่คุยกับกู อย่างน้อยด่ากันสักคำก็ยังดี...นะ
++++++++++++++++++++++++++++++++
140104
ตอนแรกมันเยอะกว่านี้ แต่มันยาวไป ตัดออกหน่อย เพื่อฟินตอนหน้า 555
ปล. ขอเปลี่ยนชื่อนิยายหน่อยนะคะ แบบว่า...มันไม่ค่อยถูกใจ ที่จริงคิดว่านานแล้วล่ะ แต่ตอนนั้นกะตั้งประชดเว็บมาสเตอร์ 555 แต่ตอนนี้อยากเปลี่ยนและ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ