Overnight คืนนี้กับ 4 หัวใจของยัยวายร้าย
9.6
เขียนโดย LazyGirl
วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.34 น.
32 บท
189 วิจารณ์
46.64K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 10.48 น. โดย เจ้าของนิยาย
16) แค่กาแฟ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแค่กาแฟ
ผ่าง
ฉันเปิดประตูสีขาวออกและพบกับห้องนอนที่กว้างขวาง โอ้โห! มีโต๊ะเตี้ยสำหรับแขกและทีวีจอเบ้อเร่อพร้อมกับเครื่องเสียงอันมหึมาติดผนัง นี่มันเหมาะกับการดูหนังระทึกขวัญมากเลยนะเนี่ย! หันไปทางซ้ายเจอเตียงคู่ที่ปูด้วยผ้าปูที่นอนสีครีม ห้องนี้กว้างดีชะมัด ทำให้คิดถึงห้องนอนตัวเองเลยแฮะ
ฉันวางกระเป๋าใบที่สี่ลงบนพื้นและออกไปหิ้วกระเป๋าใบที่ห้าเข้ามา โอ๊ย ทำไมถึงได้ขนข้าวของมาเยอะขนาดนี้เนี่ย จะย้ายบ้านหรือไงยะ!
“นี่!! นายไม่มีสิทธิ์เอาของพวกนั้นมากองไว้ตรงนี้นะ มันขวางทางเดิน!”
“จะวางไวตรงไหนก็เหมือนกันแหละน่า ยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องย้ายของอยู่ดี วางจ่อประตูนี่แหละขนง่ายจะตาย” นั่นมันเสียงทะเลาะของคู่ร็อคกับกล่องแก้วนี้ หมายความว่ายัยพวกนั้นอยู่ข้างห้องของฉันอย่างนั้นเหรอ แบบนี้ก็ไม่ได้นอนกันพอดี คืนนี้คงอีกยาว
“ฮ่ะๆ พวกนั้นนี่ทะเลาะกันตลอดเลยเนอะ” กัปตันหิ้วกระเป๋นของตัวเข้ามาพลางยื่นกระเป๋าสีเหลืองมาให้ นั่นมันกระเป๋าของฉันนี่ เขาช่วยเอามันมาให้ฉันงั้นเหรอ
“ขอบคุณนะ แต่ฉันว่าอีกนานกว่าจะหยุดทะเลาะ ก็พวกนั้นมันคู่ปรับกันเลยนี่” ฉันรับกระเป๋านั่นมาอุ้ม ไอ้กระเป๋าบ้านี่ทำไมถึงได้หนักอย่างนี้ ทำไมเขาถึงได้หิ้วกระเป๋ามาให้ฉันอย่างกับว่ามันเบาราวขนนกอย่างนั้นแหละ ทั้งๆที่มันหนักยิ่งกว่าแม่ฉันอีก >O<
ปัง!
“ก็เหมือนเธอกับไอโอดีนไง เป็นคู่ปรับที่ไม่ยอมเข้าใจกันสักที” กัปตันที่ตามฉันเข้ามาในห้องโพล่งขึ้นพลางปิดประตูเสียงดัง
“ฉันไม่ชอบหมอนั่น” ฉันตอบกัปตันแล้วจัดของเข้าตู้
“รู้ว่าเธอไม่ชอบหมอนั่นและคิดแก้แค้นตลอดเวลา แต่เธอไม่ควรให้ความแค้นมันครอบงำจิตใจถึงขนาดหลอกตัวเองว่าสิ่งที่ทำมันถูกต้องนะ”
“พูดอะไรของนาย ใครหลอกตัวเอง?” อีตาบ้านี่อยากเป็นศัตรูกับฉันงั้นเรอะ พูดอะไรก็ไม่รู้ ไม่เข้าหูจริงๆเลย
“ก็เธอหลอกตัวเองว่าดินสอต้องการรังไข่มดแดงอะไรนั่นไม่เหรอ เธอเอาเพื่อนมาอ้าง หรือไม่จริง?”
“นาย!”
“คิดดูให้ดีๆสิ เธอเอาเพื่อนเข้ามาเกี่ยวกับการแผนการบ้าๆของตัวเองแล้วก็ไปโกรธยัยนั่นอีก ไม่คิดว่าดินสอเค้าจะเสียใจหรือไง” กัปตันโพล่งขึ้นพลางหยิบเซ็ทดูแลผิวพรรณขึ้นมา อ๊ะ! นั่นมันรางวัลของทีมสีแดงนี่นา ราคาหลายพันนะนั่น อิจฉาหมอนี่จังที่ได้ของดีแบบนั้นมาครอง ของแบบนั้นมันคู่ควรกับฉันมากกว่านะ
“มองอะไร? อ้อ ไอ้นี่เหรอ เธออยากได้มั้ยล่ะ” เขายื่นเซ็ทนั่นมาให้ เอ๊ะ ให้ฉันจริงดิ >_<
“จริงเหรอ? +O+ ไม่สิ นายต้องการอะไรจากฉัน เมื่อกี้ยังสั่งสอนฉันอยู่เลย จู่ๆมาใจดีทำไม”
“สินบนน่ะ เธอเอาไอ้นี่ไปและทำตามที่ฉันสั่งซะ”
“อะไร? นายจะให้ฉันทำอะไร” ถ้าเป็นเรื่องง่ายๆฉันจะทำให้เดี๋ยวนี้เลย ก็มันอยากได้นี่นา ที่นี่แดดแรงมาก ถ้าได้เจ้านี่มาช่วยบำรุงผิวพรรณคงจะดีมิใช่น้อย >_<
“ขอโทษดินสอซะ”
หา?
“ไปขอโทษดินสอ ขอโทษจนกว่ายัยนั่นจะให้อภัย แต่ฉันว่าแค่ยัยนั่นเห็นหน้าเธอก็คงให้อภัยแล้วแหละ ก็ยัยนั่นใจดีแล้วก็รักเธอมากด้วย รักถึงขนาดยอมเป็นตัวล่อ ยอมตามแผนบ้าๆของเธอจนตัวเองกลายเป็นต้นเหตุทำให้เธอกับไอโอดีนคนทะเลาะกัน”
“ว่ายังไงนะ!”
“จะเอามั้ยไอ้นี่น่ะ” เขายังคงยื่นข้อเสนอที่ล้ำค่าให้กับฉัน มันก็น่าสนที่จะได้ของรางวัลเป้นเซ็ทดูแลผิวนะ แต่ฉันยอมให้เขามาดูถูกไม่ได้เด็ดขาด ถ้าจะขอโทษเพื่อนก็ต้องออกมาจากใจสิ ไม่ใช่ทำเพราะเพียงแค่อยากได้สิ่งของ!
“ไม่! ฉันไม่เอา!” ฉันตอบเสียงแข็ง “ฉันจะไปขอโทษด้วยตัวเอง!” พูดจบฉันก็เปิดประตูออกนอกห้องทันที ฮึ่ย! ใช้ได้ที่ไหน ใครมันจะไปขอโทษเพราะอยากได้ของแบบนั้นกัน นั่นเพื่อนฉันเลยนะ! ถ้าดินสอรู้ว่าฉันไปขอโทษเพราะอยากได้ของบ้าๆนั่นต้องเสียใจมากแน่ๆ แต่ฟังที่กัปตันว่ามันก็ถูกนะ ฉันไม่ดีเอง ฉันใช้งานเพื่อน ฉันหลิกเพื่อน ดินสอไม่ผิดหรอก คนที่ผิดคือฉันเอง ใช่ ฉันโกหกตัวเองว่าสิ่งที่ทำคือสิ่งที่ถูก พอไม่เป็นไปตามแผนก็ไปโทษคนอื่น ยัยนั่นบอบบาง ความคิดก็ไร้เดียงสา โดนฉันว่าใส่แบบนั้นคงต้องโทษตัวเองอยู่แน่ ยัยนั่นเป็นเพื่อนเก่าแก่ของฉันเลยนะ จะปล่อยให้เข้าใจผิดแบบนี้ไม่ได้!
ก๊อก ก๊อก
“ค่า! รอแป๊บนึงนะคะ” ฉันตัดสินใจเคาะประตูห้องที่ 3 ที่ถัดจากห้องของยัยกล่องแก้วนั่น ห้องนี้คือห้องของดินสอเอง ฉันสำนึกผิดแล้วนะ ให้อภัยทีเถอะ
แอ๊ด...
“ท...ทิงเจอร์” ว่าแล้ว พอยัยนี่เห็นหน้าฉันปุ๊บก็ตาเบิกโตทันที คงตกใจสินะว่าคนอย่างฉันมาทำอะไรที่นี่
“มาหาพี่ร็อปเป้เหรอ”
“เปล่า ฉันมาหาเธอ”
“หาฉัน? ทำไม? ฉัน...เอ่อ...ขอโทษนะ เรื่องเมื่อตอนเช้าน่ะ” ดินสอก้มหน้ารู้สึกผิดแล้วก็พูดตะกุกตะกัก ฉันมันน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือไง
“ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ”
“เอ๊ะ!” ยัยนั่นเงยหน้ามามองฉันอย่างประหลาดใจ อะไร คนสวยขอโทษมันน่าตกใจมากนักหรือไง
“เธอไม่ต้องตกใจขนาดนั้นก็ได้”
“อ่า...ขอโทษนะ คือฉันไม่คิดมาก่อนว่าเธอจะขอโทษ แต่เธอไม่ผิดนะ ฉันต่างหากที่ผิด ฉันทำแผนเธอพัง...”
“ไม่หรอก ฉันผิดเอง ผิดที่โทษเธอแบบนั้น ฉันมันงี่เง่าเองแหละ” ก็จริงอย่างที่ว่า ดินสอน่ะอ่อนแอจะตายไป แค่เห็นยัยบัทเทอร์โดนมดกัดก็สงสารจนต้องเข้าไปช่วยแล้ว ยิ่งโดนฉันด่าแบบนี้เธอต้องโทษตัวเองอยู่แน่ๆ และก็เป็นอย่างที่คิด ยัยนี่โทษตัวเองจริงๆด้วย ฉันเป็นเพื่อนที่แย่มาก ทำไมต้องทำร้ายยัยเด็กอ่อนแอนี่ด้วยนะ
“ฉัน..ฉันก็ผิดเหมือนกัน ถ้าฉันไม่...”
“ก็ฉันบอกว่าฉันผิดไงเล่า ฟังไม่รู้เรื่องหรือไง -_-” อยากรับบทเป็นคนผิดมากเรอะ เดี๋ยวก็โบกหรอก
“ขอโทษ...ก็...”
“ช่างมันเถอะ เอามือมานี่” ฉันคว้ามือน้อยๆของยัยนั่นมาแล้วสอดนิ้วก้อยเข้าไปคล้องนิ้วก้อยของยัยนั่น
“ดีกันแล้วนะ กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมแล้วนะ” นี่ฉันพูดอะไรเนี่ย ทั้งชีวิตฉันไม่เคยง้อใครมาก่อนเลยแม้กระทั่งยัยโนเกีย
“ทิงเจอร์ ฉันไม่คิดว่าเธอจะน่ารักแบบนี้ TOT” จู่ๆน้ำในตาของยัยนั่นก็พุ่งออกมาแล้วโผกอดฉันอย่างกับเด็กน้อย เฮ้ย! ฉันไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กใครนะ อย่ามางอแงแถวนี้ -O-
“เฮ้ย ทำอะไรเนี่ย ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ -_-^” ฉันแกะมือยัยนั่นออกจากเอวขอดของคนสวย มีใครมาเห็นต้องคิดว่าเราเป็นคู่เลสเบี้ยนแน่ๆ ไม่เอานะ ฉันไม่ชอบข่าวฉาว >_<
“ก็เธอดุร้าย ไม่คิดว่าจะมีมุมอ่อนโยนแบบนี้ ฉันชอบที่เธอเป็นแบบนี้จัง เป็นแบบนี้ไปนานๆนะ >_<”
“ไม่ต้องมาทำตาวิ้งใส่ฉันเลย ก็มันจริงนี่ ฉันผิดเองนี่นา” ปกติฉันต้องร้ายและไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดนะ ทำไมวันนี้มันแปลกๆไปนะ รายการนี้ดัดนิสัยเสียฉันได้จริงๆเหรอ
“น่ารักจัง >_<” ยัยบ้านี่ก็ยังไม่เลิกชม ฉันเริ่มจะขนลุกกับพฤติกรรมประหลาดของหล่อนแล้วนะ -O-
“ไม่ได้น่ารักสักหน่อย! เลิกชมฉันได้แล้ว -O-”
“ฉันไม่คิดว่าเธอจะมาขอโทษนะ ฉันหาโอกาสไปขอโทษเธอหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่กล้า เธอน่ากลัวอะ TOT” ดีแล้วที่ไม่มาขอโทษ ยิ่งทำแบบนั้นฉันก็ยิ่งถูกเกลียด ต้องขอบคุณในความปัญญาอ่อนของยัยนี่แหละนะ -_-
“ไม่ต้องมาขอโทษหรอก เธอไม่ผิดสักหน่อย ถ้าฉันทำผิดอีก เธอช่วยตบหน้าเตือนสติฉันหน่อยได้มั้ย”
“หา! ให้ฉันตบเธอเหรอ? ถ้าตบตอนเธอโมโหอยู่แล้วฉันจะต้องเจอกับอะไรเธอก็รู้ ต้องสวนฉันกลับสิบทีแน่ๆ ไม่เอาหรอก” อ่า...นั่นสิ แบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด ยัยนี่ต้องหน้าเละคามือฉันแน่ๆ
“งั้นเปลี่ยนเป็นพูดเตือนสติก็แล้วกัน อยู่ข้างๆฉันเมื่อมีปัญหา” ยัยนี่เป็นคนพูดจาดีตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว เกลี้ยกล่อมจนฉันยอมในที่สุด
“เรื่องนั้นทำได้สบายมาก แต่เธอต้องใจเย็นๆนะ ฉันกลัว >_<”
“อื้ม ^^”
“อ้าว ทิงเจอร์” เสียงทุ่มต่ำที่นุ่มนวลและปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นนั่นฉันจำได้ดี
“พี่ร็อปเป้” ฉันกับดินสอประสานเสียงพร้อมกันทันทีที่เห็นใบหน้าที่ใจดีนั่น เอ๊ะ ในมือเขาถืออะไรมาด้วย นั่นมันขนมปังนี่นา บอกฉันทีว่านั่นของฉัน>O<
“ฉันไม่รู้ว่าเธอจะมา ขนมปังแค่นี้คงไม่พอแล้วมั้ง ฮะๆ” ร็อปเป้หัวเราะเบาๆพลางยื่นจานที่มีขนมปังวางอยู่ 4 แผ่น นั่นสิ มันไม่พอจริงๆด้วย -O-
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวดินสอแบ่งส่วนของตัวเองให้ทิงเจอร์เอง ^^” ไม่ต้องมาทำตัวน่ารักเลยนะ แบบนั้นฉันก็ดูเหมือนคนแย่งของเด็กกินสิ -O-
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไร ทิงเจอร์เอาของพี่ไปกินก็ได้ ^^” โอ๊ย คนใจดีอยู่กับคนใจดีอะไรมันช่างเหมาะเจาะขนาดนี้ อันที่จริงก็อยากกินเหมือนกันนะ แต่มันจะดีเหรอ เขาเตรียมมาเพื่อกินด้วยกันนะ
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันมาขอโทษดินสอน่ะ เดี๋ยวจะกลับแล้ว ^^” อา...ฉันกลายเป็นมนุษย์ขี้เกรงใจไปตั้งแต่เมื่อไหร่นะ ปกติถ้ามีของกินอยู่ตรงหน้าฉันก็จะกินให้หมด ทำไมช่วงนี้แปลกๆไปนะ เป็นคนดีซะงั้น เอ๊ะ ฉันก็ดีมาตั้งแต่แรกแล้วนี่
“แน่ใจเหรอ?” ดินสอถามฉันอย่างเป็นห่วง ทำไมรอบตัวฉันมีแต่คนดีนะ -O-
“อื้ม ฉันยังเก็บของไม่เสร็จเลย ต้องไปเก็บของแล้วล่ะ พี่ร็อปเป้ ดูแลยัยดินสอดีๆนะ อย่าทำอะไรยัยนี่” ฉันทำหน้าจริงจังแต่แฝงความล้อเล่น ก็รู้อยู่พี่ชายที่แสนดีคนนี้ไม่ทำอะไรยัยติ๊งต๊องนี่หรอก
“ฮ่าๆ เธอก็รู้ว่าฉันเป็นคนยังไง กลับห้องไปเก็บของได้แล้ว เดี๋ยวกัปตันก็บ่นหรอก” นั่นสิ วางของเกลื่อนห้องขนาดนั้น กลับห้องไปต้องโดนด่าแน่
“ค่ะๆพี่ชาย ฉันกลับแล้วนะ” ฉันโบกมือลายัยดินสอและยืนรอจนกว่าประตูห้องนั้นจะปิดลง ตอนนี้ฉันอยู่ข้างนอกคนเดียว อารมณ์นี้ไม่อยากกลับห้องเลย ฉันอยากกินขนมปัง TOT
“ยัยตัวทำลายเพื่อนนี่นา มายืนบื้ออะไรอยู่ตรงนี้” อารมณ์นี้ฉันโคตรอยากกลับห้องเลย -_-
“ไม่ต้องมายุ่ง” ฉันหันไปประจันหน้ากับนายหัวสีแดงที่ถือแก้วกาแฟไว้ในมือ ฉันเกลียดหมอนี่ที่สุดในรายการนี้เลยแหละ โหวตให้อีตาบ้านี่ออกจากบ้านมั้ยนะ จะไปกู้เงินสักสามพันล้านเพื่อโหวตให้หมอนี่ออกเลยคอยดู
“ขอโทษดินสอเหรอ?”
“ไม่ต้องมายุ่ง”
“ดีนะที่ยังพอคิดได้ว่าตัวเองผิด นึกว่าจะไม่มาขอโทษแล้วซะอีก ใช้ได้เลยนะเนี่ย”
“ไม่ต้องมายุ่ง!”
“พูดเป็นคำเดียวหรือไง?” จำเป็นต้องสนทนากับคนอย่างนายมั้ย?
“เธอนี่ไม่น่ารักเอาซะเลยนะ คนเค้าอุตส่าห์ชมไม่รู้จักเขินอายหรือขอบคุณบ้างเลยหรือไง” ทำไมต้องเขินอายกับคำชมของนายด้วยฟะ โอ๊ยหงุดหงิด คนสวยเพลียเดินหนีดีกว่า ฉันเชิดหน้า 90 องศาแล้วหมุนตัวกลับหลังสะบัดผมใส่หน้าอีตานั่นหนึ่งที เวลานี้กลับห้องดีกว่า เสียอารมณ์ชะมัด
“เดี๋ยว” มีแม่เป็นแม่นาคหรือไงทำไมถึงได้มือยาวสาวได้สาวเอาแขนฉันครองได้อย่างง่ายดายขนาดนี้
“อย่ามายุ่ง!!” ฉันหมุนตัวกลับและสะบัดแขนออกพลางใช้ประโยคเดิมๆกวนประสาทเขา อ๊ะ! เขาถือแก้วกาแฟอยู่นี่นา ถ้าโดนน้ำร้อนลวกจะเป็นยังไงนะ
ฟึ่บ!!
“โอ๊ย!” ฮ่าๆ ฉันใช้มือที่ว่างอยู่อีกข้างปัดแขนหมอนั่น โดนลวกเลยเป็นไงล่ะ เล่นกับใครไม่เล่น! สมน้ำหน้ากะลาหัวเจาะ ไม่กินแครอท กินผักของดี ^O^
“ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว ^O^” คนอะไรก็ไม่รู้ซื่อบื้อจัง สถานการณ์แบบนี้เหมาะแก่กาหลบหนีเป็นที่สุด
“หึ! จะรีบไปไหน” อีตานั่นจับฉันไว้ได้อีกแล้ว แม่ผู้ให้กำเนิดของนายเป็นแม่นาคจริงๆใช่มั้ย
“อย่ามายุ่... เฮ้! นายจะพาฉันไปไหน” หมอนั่นลากฉันไปที่หน้าห้องของตัวเอง อย่าบอกนะว่าจะลากฉันไปให้ยัยบัทเทอร์ตบ หนอย! ดูถูกมากเกินไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ยัยบัทเทอร์ตบหรอก ให้อีตาไอโอดีนต่อยเลยก็ได้ ฉันสู้นะยะ!
“พูดคำอื่นเป็นแล้วนี่ ดีล่ะ เราจะได้พูดจากันง่ายๆหน่อย” ไอโอดีนยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วเปิดประตูห้องลากคนสวยเข้าไป อี๊! มือเหนียวกาแฟเป็นบ้า ไปล้างมือก่อนซะไป๊!
“นายพาฉันมาที่นี่ทำไม จะทำอะไรฉัน!” ฉันตะโกนโวยวายเสียงดังสนั่นแผ่นดินพลางแกะมือไอ้แดงลูกแม่นาคออกจากแขน ปล่อยนะเฟ้ย ลากมายังกะตุ๊กตาบาร์บี้ ฉันไม่ใช่ของเล่นกิ๊กก๊อกนะ!
“เดี๋ยวก็รู้” พูดจบ เขาก็ลากฉันเข้าไปในห้องน้ำ หา!! จะทำบ้าอะไรเนี่ย ยัยบัทเทอร์อยู่ที่ไหน แฟนเธอจะข่มขืนฉันแล้ว TOT
“นี่! เดี๋ยวสิ มันมีกล้องอยู่นะ นายไม่กลัวคนอื่นเห็นหรือไง” ฉันตะโกนลั่นภายในห้องน้ำอันกว้างขวางนี่ โวยวายจนได้ยินเสียงตัวเองดังก้อง แสบหูเหมือนกันแฮะ ลดโวลุมหน่อยดีกว่า
“เธอคิดว่ากล้องจะอยู่ในห้องน้ำหรือไง?” เออจริงด้วย หมายความว่าในนี้จะไม่มีคนเห็นใช่มั้ย พี่ทีมงานจะไม่เห็นอะไรสักอย่าง แล้วก็จะไม่มีใครมาช่วยฉัน มันหนทางแล้ว TOT
“เอ่อ...บัทเทอร์ล่ะ ยัยบัทเทอร์อยู่ไหน ถ้ายัยนั่นเข้ามาจะทำยังไง”
“ยัยนั่นไปหาอะไรให้ฉันกินอยู่ อีกนานกว่าจะขึ้นมา อีกอย่างฉันก็รอบคอบพอที่จะล็อคประตูห้องด้านนอกไว้ และห้องนี้ก็ถูกล็อคเหมือนกัน”
แกร๊ก!
ถูกล็อคจริงๆด้วย! -O-
“นายจะทำอะไรฉัน พาฉันมาในที่อับคนแบบนี้ได้ยังไง คิดจะทำอย่างนู้นอย่างนี้ใช่มั้ย อย่านะ!” ฉันทุบอกหมอนี่แรงๆเป็นสิบรอบ อกช้ำตายไปเลยเอ้า ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!
“แรงมีอยู่แค่นั้นคิดว่าจะทำอะไรฉันได้หรือไง แต่เรื่องที่บอกมันก็น่าทำดีนะ” ไอโอดีนยิ้มเจ้าเล่ห์และรวบมือฉันทั้งสองข้างไว้ เฮ้ย ได้ยังไงเนี่ย!
“อะไร? เรื่องอะไร?”
“ก็...ทำอย่างนู้นอย่างนี้ไง ^^” อีตาบ้าหื่นกามหัวแดงลูกแม่นาคพระโขนงก้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างหูแล้วเป่าลมอุ่นรดต้นคอขาวๆของฉัน ย๊าก!! มากเกินไปแล้วนะ ฉันไม่ใช่พวกผู้หญิงที่ยอมพลีหน่มน้มเพื่อหมอนี่อย่างในผับนั่นนะ ฉันเคยบอกเขาไปแล้วไม่ใช่หรือไงว่าฉันเกลียดการถูกแตะตัวแบบนี้!
“อย่านะ! นายจะทำอะไร!!” โอ๊ย! เกิดเป็นผู้หญิงมันก็เสียเปรียบทั้งชาติ แรงน้อยๆของฉันมันสู้แรงของเขาไม่ได้เลยสักนิด
“ฮ่าๆ เธอนี่ขี้กลัวชะมัด เป็นแบบนี้ก็น่ารักดีนะ” นายเพลย์บอยตัวพ่อฝังจมูกโด่งๆลงบนแก้มสีขาวอมชมพูของฉัน
“ออกไป!!”
“เสียงเธอแสบหูพอๆกับยัยกล่องแก้วเลยนะ ก็ได้ ฉันไม่แกล้งเธอแล้ว =_=” ในที่สุดเขาก็ยอมปล่อบมือออกจากแขนฉันสักที อะไร? เมื่อกี้แค่แกล้งเหรอ? นึกว่าจะเอาจริง ตกใจหมด -_-
“ตกลงนายพาฉันม...กรี๊ด!! ถอดเสื้อทำไมเนี่ย!!” จู่ๆอีตาบ้านี่ก็ถอดเสื้อจนฉันเห็นซิกแพคกับจุดสีชมพูที่อกเขา ยกมือขึ้นมาปิดตาแทบไม่ทันแน่ะ นี่จะเอาจริงแล้วใช่มั้ย ไม่ได้แกล้งแล้วใช่มั้ย ปล่อยนะ ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้ TOT
“ซักซะ” เขาโยนเสื้อสีน้ำตาลตัวใหญ่มาจนมันคลุมหัวฉันมิด ที่เสื้อคนหรือเสื้อควายกันแน่ ทำไมมันใหญ่อย่างนี้ แล้วทำไมฉันต้องซักเสื้อให้คนอย่างเขาด้วยนะ มีสิทธิ์อะไรมาใช้งานฉันยะ!
“ไม่ซัก เหม็นกาแฟจะตาย” ฉันส่งเสื้อขนาดช้างสิบตัวคืนให้เขา อย่าหวังว่าฉันจะซักผ้าให้ คนสวยซักผ้าไม่เป็นย่ะ!
“ใช่ไง เธอเป็นคนทำมันเลอะ เสื้อตัวนี้หมื่นแปดเชียวนะ ไม่ใช่ของถูกๆ เลอะแบบนี้แล้วฉันจะไปมีอารมณ์ใส่ได้ยังไง ซักเดี๋ยวนี้”
“เสื้อที่ฉันใส่ตอนนี้ก็หมื่นแปดเหมือนกัน ไม่ใช่ของถูกๆนะ มันสัมผัสกับผิวสกปรกของนายไปแล้ว แบบนี้ฉันจะไปมีอารมณ์ใส่ต่อได้ยังไง นายซักให้ฉันเลยนะ”
“ถอดสิ เดี๋ยวซักให้” ไม่น่าเล่นมุกเดียวกับนายบ้านี่เลย!
“ไม่! เจ๊ากันไปก็แล้วกัน ฉันไม่ซักให้นาย นายก็ไม่ต้องซักให้ฉัน” ฉันยืนกอดอกพิงอ่างล้างหน้าอย่างผู้ชนะ ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร
“แต่เธอต้องซักให้ฉัน ทำผิดก็รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำผิดสิ ผู้หญิงอะไรยอกย้อนดีจริงๆ เชี่อเขาเลย -_-” ให้ตายสิพับผ่า ความยุติธรรมมันอยู่ตรงไหน
“ไม่ทำ! หลบไป ฉันจะกลับแล้ว” ฉันผลักไหล่หมอนั่นให้ออกห่างแล้วเอื้อมมือไปที่ประตู แต่มือน้อยๆของฉันถูกมือหนาดึงไปซะก่อน อะไรเนี่ย!
“ฉันบอกให้เธอซัก!”
“เอ๊ะ นายนี่ยังไงกันนะ เก็บกดมากรึไงทำไมต้องทำกับฉันแบบนี้ด้วย บอกว่าไม่ซักก็ไม่ซักไงโว้ย!” ฉันตะโกนใส่หน้าชายผมแดงตรงหน้าพลางสะบัดมือออก ฮึ! ฉันไม่ยอมแน่ๆ ยังไงคนสวยก็ไม่ยอม
“ทำผิดก็ไม่ยอมรับ ทำคนอื่นเดือดร้อนแล้วยังไม่ขอโทษอีก”
“นายเป็นแม่ฉันหรือไงสั่งสอนอยู่ได้ แล้วใครทำอะไรผิด นายนั่นแหละที่ผิด นายถือไอ้แก้วนั่นไม่ดีเองนะ ฉันก็แค่สะบัดแขนออกจากตัวนายแค่นั้นน้ำในแก้วก็กระฉอกใส่ ฉันผิดหรือเปล่า?” คนสวยจะอยู่รอด คนสวยไม่ผิด!
“เธอจะไม่ยอมรับใช่มั้ย? ฉันเห็นอยู่ว่าเธอตั้งใจทำให้ฉันโดนลวก” อ้าว เห็นด้วยเหรอ
“อย่ามากล่าวหานะ!” ฉันตีหน้าซื่อไม่รู้ไม่ชี้อะไรทั้งสิ้น ถ้าฉันยังคงยืนยันคำเดิมว่าไม่ได้เป็นคนทำ ยังไงฉันก็ไม่ได้เป็นคนทำถึงแม้ว่าฉันจะเป็นคนทำ เอ๊ะ พูดอะไรเนี่ย พูดเองงงเอง =_=
“เธอจะไม่ซักใช่มั้ย?”
“ใช่! ฉัน-ไม่-ซัก!” ฉันยังคงยืนยันคำเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง ในความหลอกลวงของฉันยังมีความซื่อสัตย์อยู่นะ ซื่อสัตย์ต่อคำพูด พูดแล้วไม่คืนคำ ไม่ซักคือไม่ซัก!
“ถ้าเธอไม่ซัก ฉันจะทำอย่างว่ากับเธอ” เหอะ! อย่ามาขู่ ฉันโดนขู่จนชินแล้ว นี่มันรายการสดนะ ใครเขาจะทำแบบนั้นกัน!
“ก็เอาสิ! ฉันจะตะโกนเรียกให้คนอื่นมาช่วย”
“คิดว่าจะมีใครมาเหรอ? ถ้าเขาจะช่วย เขาคงมาตั้งแต่เห็นฉันลากเธอมาแล้วมั้ง” เออ จริงด้วย
“อย่างน้อยเพื่อนฉันที่อยู่ข้างห้องก็ต้องได้ยินแหละน่า เขาต้องมาช่วยฉันแน่!” ใช่! คนที่อยู่ข้างห้องหมอนี่คือร็อปเป้กับยัยดินสอนะ
“ยังกล้านับว่าเป็นเพื่อนอยู่เหรอ?”
“ไอโอดีน!!” ทำไมหมอนี่ชอบเอาเรื่องเพื่อนมาพูดอยู่เรื่อย!
“สรุปคือเธอจะไม่ซักใช่มั้ย?”
“ไม่!” ฉันยังยืนยันคำเดิม “ถ้านายทำอะไรฉันจริงๆล่ะก็ ฉันจะตะโกน!” ฉันมองหน้านายหัวแดงที่เปลือยท่อนบนอย่างเอาเรื่อง
“ถ้าเธอไม่ซักฉันก็จะ ’ทำ’ เธอเหมือนกัน” ไอโอดีนจับไหล่ฉันอย่างมั่นแล้วโน้มตัวลงมา จ...จะทำอะไรน่ะ!
“ปล่อย!!” ฉันยกมือขึ้นต่อยอกหมอนี่อย่างแรงแต่เขาไม่สะทกสะท้านเลย เขารวบมือฉันไว้เหนือหัวแล้วดันให้ตัวฉันติดกำแพง มากเกินไปแล้วนะ นายไม่มีสิทธิ์ทำกับฉันอย่างนี้!
“ไม่ จนกว่าเธอจะ...ยอม” หมอนั่นก้มลงมากระซิบที่ข้างหูแล้วกัดติ่งหูน้อยๆของฉันจนเสียวสันหลังวูบ ออกไปนะไอ้โรคจิต อย่าทำอนาจารกับฉันนะ!!
“ฉันไม่ชอบแบบนี้!” โอ๊ย ดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่หลุด แรงเขามีมากเหลือเกิน ฉันไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้เลย!
“ไม่ชอบก็ยอมสิ” เขาไล้จมูกมาที่แก้มฉันแล้ว จะทำอะไรกันแน่!
“ไม่!! ช่วยด้วย!! ใครก็ด…อุ๊บ!” จู่ๆเสียงก็หายลงไปในลำคอ ตาบ้านี่เก็บปากฉันโดยการก้มลงมาประทับริมฝีปาก! ขยับตัวไม่ได้ เขาใช้ความได้เปรียบด้านร่างดันฉันให้ติดกับผนังห้องน้ำ ร่างกายของผู้ชายคนนี้ใหญ่มาก ร่างเล็กๆของฉันถูกเบียดจนเคลื่อนไหวไม่ได้ มือทั้งสองข้างก็ถูกล็อคไว้ข้างตัว แบบนี้มัน...ทรมานกันชัดๆ!
เขาบดขยี้ริมฝีปากฉันอย่างแรงจนหายใจไม่ออกและเคลื่อนริมฝีปากอย่างรวดเร็วราวกับเป็นเจ้าของริมฝีปากเล็กๆของฉัน ทั้งที่ฉันเป็นเจ้าของแท้ๆยังบังคับมันไม่ได้เลย ริมฝีปากนี้ถูกเขาครอบครองไปแล้วและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เขายังคงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและเร่าร้อน เสียงลมหายใจของเราประสานกัน แต่ฉันหายใจไม่ออก! ทำยังไงดี ฉันผลักตัวเขาออกไม่ได้เลย ต้องอยู่อย่างนี้ต่อไปอย่างนั้นเหรอ ไม่เอานะ มันทรมาน ฉันไม่ชอบการถูกบังคับแบบนี้!!
สวัสดีรีดเดอร์ทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนถึงตอนนี้นะคะ ปลื้มมาก >_<
รู้สึกว่าตอนนี้ยาวมาก แต่ก็ขอบคุณจริงๆที่อ่านจนถึงตอนนี้
หากมีข้อผิดพลาดหรืออยาแนะนำอะไรบอกได้เลยนะ จะได้กลับเอาไปแก้ไข
ถ้าช่วยคอมเมนต์ วิจารณ์ด้วยจะดีมาก มันจะเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่มาก >O<
ฝากติดตามไปเรื่อยๆนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ