Mafia Girls ยิงรักร้ายจากยัยสุดเฮ้ว

-

เขียนโดย EnDeaR

วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.28 น.

  1 ตอน
  2 วิจารณ์
  3,633 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 00.34 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ครอบครัวใหม่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

  

ตอนที่ 1 ครอบครัวใหม่

           

                โรงเรียนมัธยมเซนต์โครวเป็นโรงเรียนเอกชนชื่อดังของโตเกียวทั้งทางด้านกีฬา การเรียนและเรื่องต่อยตี? เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ชวนปวดหัวที่สุดก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่ได้มีเด็กคนหนึ่งเข้ามาเรียน เธอก็ทำให้ที่นี่ไม่ธรรมดา ที่ต้องใช้คำว่าเธอก็เพราะ คนที่ใครๆรู้จักกันดีผู้ซึ่งเรียนดี กีฬาเด่นและชกต่อยเป็น เด็กมีปัญหาระดับท็อปของโรงเรียนนั้นเป็นเด็กผู้หญิง

                ฮิเมมิยะ มิโนรุ เด็กสาวมัธยมปลายปี 2 คนดังประจำโรงเรียน เจ้าของเรือนผมสั้นสีดำเงางาม ดวงตาเรียวได้รูป ริมฝีปากอวบเอิ่มระเรือ จมูกโด่งเป็นสันและมีนัยน์ตาสีดำเรียวคม

                เธอมีคู่หูเป็นเด็กสาวโมเอะน่ารักชื่อซาซางาวะ รึทสึ ซึ่งเป็นความต่างที่ลงตัวเสียเหลือเกินกับการจับคู่ของคนต่างขั้วกัน ริทสึเป็นเด็กสาวรูปร่างบอบบางตัวเล็ก ไว้ผมยาวหยักศกสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกลมโต เห็นน่ารักๆแบบนี้เธอก็พอมีศิลปะการป้องกันตัวอยู่บ้าง

                เห็นคนหนึ่งต้องเห็นอีกคนหนึ่งเสมอ นี่คือนิยามที่หลายๆคนให้ไว้ และวันนี้ก็เช่นเดียวกัน…

                “ฮิเมมิยะ ฉันบอกเธอแล้วใช่มั้ยว่าให้แต่งชุดนักเรียนหญิงให้ถูกระเบียบ” เสียงอาจารย์ฝ่ายปกครองดังมาแต่ไกลขณะที่เขาวิ่งเข้าไปสองร่างที่เดินอยู่

                คนอ่อนวัยกว่าหันมาแสยะยิ้มทำเอาคนมองเสียวสันหลังวูบ

                “เนคไท หลวมแน่ะ” เธอบอกสั้นๆและเอื้อมมือไปรูดเนคไทให้ อาจารย์สูงกว่ายืนนิ่งเกร็งเมื่อเห็นสายตาอีกฝ่าย

                “ชุดนักเรียนหญิงมันคงไม่เข้ากับหนูเท่าไหร่ ใส่แบบนี้คล่องกว่า” ว่าแล้วเธอก็หันหลังให้แล้วลากร่างเล็กกว่าให้เดินตามไป

                เป็นอันรู้กันดีกว่า แม้แต่อาจารย์ยังหวั่นเกรงเล็กๆ(เหรอ?) ถึงเธอจะมีเรื่องราวทะเลาะวิวาทให้หนักใจ แต่เพราะผลการเรียนที่เป็นหน้าเป็นตาทำให้สถานะของเธอพิเศษเล็กน้อย

                “สงสารอาจารย์เค้านะ” ริทสึบอก เธอกดเมสเซสในมือถืออย่างเพลิดเพลิน

                “ก็เห็นเป็นงี้ทุกที” มิโนรุไหวไหล่ “ว่าแต่เธอทำอะไรตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว” ร่างสูงกว่าเอ่ยถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายจดจ่อกับมือถือ

                “พี่ชายที่คอยอุปการะริทสึกำลังจะกลับมาญี่ปุ่น เค้าจะมารับริทสึไปอยู่ด้วย” เธอยิ้มกว้างกับข่าวนี้ อีกฝ่ายมุ่นหัวคิ้วเล็กน้อย

                “คนที่เธอเคยเล่าให้ฟังน่ะเหรอว่าส่งเสียเธอตั้งแต่เด็ก” มิโนรุพยายามเค้นความทรงจำ

                ริทสึเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกตระกูลใจดีตระกูลหนึ่งส่งเสียเลี้ยงดู แต่เธอก็ไม่เคยพบคนใจดีคนนั้น เพราะเขาแค่เช่าคอนโดให้อยู่และมีพี่เลี้ยงคอยดูแล เธอไม่เคยพบหน้าเขาเลยแม้แต่ตอนที่เขาอยู่ญี่ปุ่นซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

                “แล้วเค้าชื่ออะไรนะ ฉันลืมทุกที”

                “ตอนนี้ริทสึก็ยังไม่รู้เลย แต่เพราะเขามักจะส่งตุ๊กตากระต่ายมาให้ริทสึเลยเรียกเค้าว่าพี่ชายกระต่าย” เธอพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มทำให้คนมองคิดว่าเธอคงจะมีความสุขมากเป็นแน่

สำหรับเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้งแบบเธอแล้วการได้มีครอบครัวที่อบอุ่นถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสุขที่สุด แต่ทั้งที่อุปการะเธอมาเป็น 10 ปี ทำไมถึงไม่เปิดเผยตัวแต่แรกกันนะ นี่เป็นสิ่งที่มิโนรุคิดอยู่ในใจเสมอมา

                “แล้วคนที่ว่าจะมาเมื่อไหร่เหรอ”

                “วันนี้” เธอยิ้มแป้น “ริทสึจะแนะนำมิโนให้รู้จักนะ เพราะริทสึเล่าเรื่องของมิโนให้พี่ชายฟังเยอะแยะเลย”

                 มิโนรุยืนเกาหัวทำสีหน้าปั้นยาก “เอ่อ วันนี้คงจะไม่ได้ ฉันมีงานพิเศษตอนบ่าย 3 ต้องโดดด้วย” เธอทำสีหน้าเชิงขอโทษ

                 ริทสึถอนใจเล็กๆ ถึงจะรู้สึกน้อยใจผสมงอนบ้าง เธอก็เข้าใจความจำเป็นของอีกฝ่ายหนึ่ง เท่าที่รู้จักกันมาสองปี มิโนรุอาศัยอยู่คนเดียว และทุกครั้งที่ถามถึงญาติเธอมักจะบอกว่าครอบครัวของเธออยู่ต่างจังหวัด และเธอไม่ได้กลับไปบ้านนานแล้ว ริทสึไม่เคยคิดจะถามอะไรต่อเพราะเธอรอให้เมื่อไหร่ที่มิโนรุพร้อมก็คงจะบอกเธอเอง

                 “ถ้าอย่างนั้นตอนบ่ายฝากเช็คชื่อด้วยนะ”

                 “เอ๋ จะไปเลยเหรอ”

                 “อือ ต้องไปเตรียมตัวด้วย วันนี้รับหลายจ๊อบ” เด็กสาวร่างสูงกว่าเริ่มบิดขี้เกียจ                          “กระเป๋านักเรียนก็ไว้ที่โต๊ะแหละ ไม่มีคนมายุ่งหรอก”

                 “ขนาดไม่มีคนมายุ่งกระเป๋าของมิโนยังหายมาหลายครั้งแล้วนะ” ริทสึบ่นอุบ เพราะหลายครั้งแล้วที่กระเป๋าของเพื่อนสาวหายไป พอรู้ตัวส่วนมากก็จะไปอยู่กับเด็กผู้หญิงต่างชั้นปีเสมอ เพราะด้วยรูปลักษณ์ของเธอแล้วป๊อบทั้งในหมู่ผู้ชายและผู้หญิงทีเดียว แต่ไม่ค่อยมีใครอยากจะเข้าใกล้เพราะชื่อเสียงด้านต่อยตีของเธอ (แอบดูอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ)

                 “ถ้าอย่างนั้น ฉันขอตัวก่อนนะ” มิโนรุบอกแล้วเตรียมจะก้าวเดิน แต่ริทสึเรียกเธอไว้ก่อน

                 “มิโนๆ” เด็กสาวร่างเล็กกว่ากวักให้ ซึ่งมิโรนุเข้าใจได้ทันที เธอก้มหน้าลงจนเสมอระดับเดียวกัน ริทสึกจับที่ขมับทั้งสองของเธอเบาๆและเอาหน้าผากตนเองไปชน “ขอให้โชคดีนะ”

                  “ฉันไม่ใช่เด็กๆซะหน่อย” มิโนรุพึมพำเบาๆแล้วดันอีกฝ่ายออก เธอดีดหน้าผากคนร่างเล็กกว่าเบาๆ “ตั้งใจเรียนละ ฉันไม่ว่างจะมาติวให้เธอได้ตลอดหรอกนะ”

                  จบคำพูด มิโนรุก็ผละออกไปพร้อมกับยกมือขึ้นโบกโดยไม่หันกลับมามอง ริทสึมองตามหลังเธอและอดที่จะยิ้มไม่ได้

                  “เอาล่ะ เราเองก็สู้ๆ”

 

                   

                   ตกเย็นหลังจากเลิกเรียน ริทสึเตรียมจะกลับบ้าน แต่เมื่อเธอเดินไปถึงหน้าประตูโรงเรียนนั้นก็เห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น เมื่อเหล่านักเรียนกำลังมุงดูอะไรบางอย่างทว่าเธอกลับมองไม่เห็นเพราะส่วนสูงเพียงแค่ 150 กว่าๆ เธอจึงพยายามแหวกผ่านฝูงชนเข้าไปดูจนสามารถหลุดเข้าไปอยู่แถวหน้าได้

                   สิ่งที่เธอเห็นนั้นคือ ชายหนุ่มคนหนึ่งท่าทางมาดเท่ห์ ย้อมผมสีทองใส่แว่นกันแดดสีดำสนิท เขาอยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ตสีดำกางเกงยีนส์ดูจะธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาเมื่อเขาเป็นผู้ใส่ ที่ดูจะฮือฮาไม่น้อยก็คือรถสปอร์ตสีดำหรูรุ่นล่าสุดราคาหลายล้านเยนซึ่งเขายืนพิงมันอยู่

                    ริทสึรู้สึกว่าเขาเจาะจงมองมาทางที่เธอยืนอยู่ อาจจะมีใครสักคนที่เขารู้จักก็ได้

                    ชายหนุ่มสาวเท้าเข้ามาใกล้แล้วพูดขึ้น “ซาซางาวะ ริทสึใช่รึเปล่า?”

                    “ค--คะ?” เด็กสาวร่างเล็กผงะ จู่ๆคนที่ไม่รู้จักก็มาเรียกชื่อเธอ

                    “ใช่สินะ” จบคำพูดด้วยการทึกทักเอาเอง ร่างบางก็ถูกอุ้มพาดบ่าท่ามกลางเสียงฮือฮาของเหล่านักเรียนที่มองอยู่

                    “ว้าย คุณจะทำอะไร!” ริทสึร้องเสียงหลง และพยายามดิ้น ทว่าแขนของเขาแข็งแรงเหลือเกินที่ล็อคตัวเธอจนอยู่หมัด “ปล่อยนะคะ

                    ร่างบางถูกปล่อยลงบนเบาะหน้าแล้วชายหนุ่มก็เรียบเดินไปที่นั่งคนขับ เขาบิดกุญแจสตาร์ทรถแล้วเร่งเครื่องออกไปอย่างรวดเร็วจนเด็กสาวเกือบหน้าคะมำ

                    “หยุดรถเดี๋ยวนี้นะคะ!” เธออุธรณ์เสียงกร้าว “ถ้าคุณไม่หยุดฉันจะตะโกนร้องให้คนช่วย” เธอตะโกนแข่งกับเสียงเสียดสีของลม

                    แต่ชายหนุ่มไม่สนใจ เขายังคงขับต่อไปและปาดซ้ายป่ายขวาจนเธอต้องจับเบาะไว้แน่นเพราะกลัวจะตกจากรถ

                    “นี่!”

                    “ถ้าเธอไม่หยุดฉันจะจูบนะ” ประกาศิตที่ทำให้คนฟังนิ่งเงียบไปในบัดดล คำต่อว่าทั้งหลายแหล่ที่คิดจะขุดขึ้นมาถูกเก็บเงียบ “ดี นั่งไปเงียบๆแบบนั้นแหละ” เขาบอก

                     ริทสึแอบลอบมองเขาหลายครั้ง เธอกลัวจนแทบอยากจะร้องออกมาดังๆ ในใจคิดถึงมิโนรุที่ไม่รู้ตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน หรือว่านี่จะเป็นการลักพาตัวเรียกค่าไถ่กันนะ

                     ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกวาดมองไปรอบๆรถราวกับจะหาตัวช่วยอะไรสักอย่าง แต่แล้วเธอก็ต้องไปสะดุดกับพวงกุญแจรถรูปกระต่ายสีชมพูถือขวดเบียร์ ซึ่งหน้าตาของกระต่ายนั้นคลายกับตุ๊กตากระต่ายที่เธอมีอยู่ เธอเริ่มคิดทบทวนบางอย่าง แม้จะไม่แน่ใจเท่าไหร่แต่เธอก็ลองดู

                     “พี่ชายกระต่ายเหรอคะ?” เธอเอ่ยเรียก อีกฝ่ายนิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบเธอ

                     “ไม่ใช่ และก็ไม่เชิง” เขาตอบกลับแปลกๆ “พี่ชายของเธอใช้ฉันมารับเธอ เค้าติดธุระด่วนและจะไปเจอเธอที่แมนชั่นของเค้า” คำบอกของเขาทำให้เธอตาโตอย่างตื่นเต้นตกใจ

                     “จริงเหรอคะ พี่ชายกระต่ายมาแล้วเหรอคะ”

                     “อือ เค้าเองก็ดีใจนะที่จะได้พบเธอ” คำกล่าวต่อมาที่ทำให้หัวใจคนฟังพองโต ในที่สุดเธอก็จะได้พบกับเค้าแล้ว ผู้มีพระคุณที่อุปการะเธอตั้งแต่ 6 ขวบ

                     “แล้วคุณชื่ออะไรคะ?” ริทสึเอ่ยถาม คงเป็นการเสียมารยาทมากถ้าเธอไม่ได้รู้จักชื่อของคนที่มารับเธอ

                     “เหยา…หลิว จิ้นเหยา” เขาบอก ทำให้เธอประหลาดใจ

                     “คนต่างชาติเหรอคะ?”

                     “ลูกครึ่งฮ่องกงอเมริกา” เขาบอกเรียบๆ “ฉันเองก็พอจะรู้เรื่องของเธอ ดีใจที่ได้พบนะริทสึจัง” เขาส่งยิ้มให้ เธอนึกว่าเขาจะเป็นคนเย็นชาเสียอีก

                     “ถ้าอย่างนั้นขอริทสึเรียกคุณว่าพี่เหยานะคะ”

                     “ตามสบาย แล้วแต่เธอชอบเลย” ไม่ว่าเปล่า เขายื่นมาสัมผัสหัวเธออย่างเอ็นดู                        “ชักอิจฉาเจ้านั่นแล้วสิที่มีน้องสาวน่ารักแบบเธอ เธอรู้จักชื่อของหมอนั่นรึยัง”

                     “ยังค่ะ”

                     “ให้ฉันบอกเอามั้ย?”

                      เด็กสาวส่ายหัว “ริทสึจะให้พี่ชายกระต่ายเป็นคนบอกเองค่ะ ริทสึอยากรู้จากปากของเขา”

                      จิ้นเหยามองเธอด้วยความรู้สึกทึ่งเล็กน้อย คิดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ใช้ได้เลยทีเดียว

                      “ถ้าอย่างนั้นก็จับไว้ให้ดีๆล่ะ อีกเดี๋ยวเราก็จะได้เจอพี่ชายกระต่ายกันแล้ว”

 

 

 

 

(แจ้งสักเล็กน้อยว่านิยายชื่อภาษาไทยนั้น เคยใช้กับนิยายเรื่องอื่นของเราเอง แต่พอดีเรื่องนั้นเราลบทิ้งไปแล้วและปรับเปลี่ยนแต่งใหม่ค่ะ ขอแจ้งไว้ ณ ทีนี้นะคะ)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา