CatWalk “กูจะดังให้มึงจำ”

9.8

เขียนโดย nooonaa

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 22.54 น.

  35 ตอน
  17 วิจารณ์
  58.27K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556 23.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

23) Catwalk 22 : ทั้งชีวิต...กูให้มึง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

By nooonaa

 

Catwalk 22 : ทั้งชีวิต...กูให้มึง

 

+น้องหมาเล็ก+

 

"เดี๋ยวกูมารับตอนสามโมงนะ มึงเรียนเสร็จก็ออกมาเลย"

 

"อืม" ผมตอบรับเมื่อมาถึงโรงเรียนแต่มือหนากลับรั้งผมไว้

 

"ทำไมมึงชอบลืมจูบกูวะ จูบก่อนค่อยไป" หน้ามันมุ้ยอย่างกับหมาพิทบูล ทำตัวเป็นเด็กๆตลอด แต่มันก็น่ารักดีนะ ผมก็รู้สึกชอบนะ ผมเลยเอื้อมตัวไปหอมแก้มมัน

 

ฟอด

 

"พอยัง"

 

"ก็ดี"

 

นิดๆหน่อยๆก็เอาเนอะ

 

"ไปแล้วนะ"

 

"อืม"

 

แล้วมันก็คอยมองส่งผมจนเข้าประตูรั้วโรงเรียนไป

 

วันนี้ผมขอทางบริษัทมาเรียนครับ ตอนแรกก็กะจะอยู่ห้องเฉยๆ แต่ไอ้ทิวต้องไปเรียน ผมเลยอยากมาไม่งั้นผมก็ต้องอยู่คนเดียวอีก เฮียไทก็ไม่ว่าอะไรแค่บอกห้ามพูดอะไรทั้งนั้น ใครถามเรื่องข่าวก็ให้เงียบๆไว้ ซึ่งผมเองก็ต้องเข้าใจเพราะเรื่องมันเกิดเพราะผม วันนี้ไอ้ทิวเลยมาส่งผมสายหน่อยจะได้เจอคนเฉพาะในห้อง แต่พอผมเดินเข้าห้องเรียนได้สายตาทั้งห้องนับสี่สิบคู่ก็มองผมแปลกๆ ผมเองก็ต้องทำใจยิ้มรับแล้วเดินไปนั่งที่ตัวเอง...ข้างๆเพื่ินสนิทของผม

 

ไอ้ภัทร

 

"ว่าไงมึง" ผมทักอีกคนที่ดูเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่พอได้ยินเสียงผม มันก็หันกลับมาพรึบอย่างตกใจ

 

"มึงมาเรียนด้วยหรอ!"

 

"อืม" ถึงปากจะพูดเหมือนไม่มีอะไรแต่ใจผมกลับมองหน้ามันไม่ติด พูดก็แทบจะดูรู้ว่าลำบากใจ ไอ้ภัทรเองก็คงจะคิดเหมือนกัน มันเลยมองผมเฉยๆ

 

แต่มันมองผมตลอดคาบเรียน

 

ผมรู้ว่ามันกำลังหักห้ามใจ ผมเองก็รู้แย่ไม่ต่างจากมัน แต่จะให้ผมทำยังไงละ ในเมื่อผมมีไอ้ทิวแล้ว

 

แล้วดูเหมือนผมจะหลงไอ้หมาตัวใหญ่นั้นมากๆด้วย

 

ถึงแม้ผมจะไม่รู้ว่ามันคือความรักรึป่าว แต่ผมก็รู้ดีและอยากอยู่ใกล้มันตลอดเวลา แล้วก็มีความสุขมากๆด้วย

 

ผมนั่งเรียท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของคนในห้องจนเริ่มรู้สึกชิน แต่พอใกล้ถึงพักเที่ยงผมก็เริ่มคิดหนัก มันไม่อยากจะลงไปโรงอาหารให้คนมองผม สงสัยคงต้องอดแล้วล่ะ วันเดียวคงไม่เป็นอะไรมั้ง

 

พอเรียนคาบช่วงเช้าเสร็จไอ้ทิวก็โทรมาพอดี ผมเลยชำเรืองมองคนข้างๆเล็กน้อยก่อนจะรับสาย

 

"ว่าไง"

 

(ไหวป่าว ให้กูไปรับมั้ย) เป็นห่วงหรอ

 

"ไหวสิ เดี๋ยวก็เย็นแล้ว"

 

(ถ้าไม่ไหวก็ออกมาเลยนะ กูรออยู่หน้าโรงเรียน) อะไรกัน นี่มึงคิดจะรอผมยันสามโมงเลยหรอ

 

"มึงกลับไปเถอะ เดี๋ยวค่อยมาก็ได้" มามัวเสียเวลาเพื่อรอกันทำไม ผมอยู่ได้หน่า แค่ลำบากใจนิดเดียวเอง

 

(ช่างกูเถอะ ดูแลตัวเองละกัน กินข้าวด้วยนะ) มึงแม่งน่ารักวะ

 

"อืม" ผมตอบรับก่อนจะวางสาย แต่ดูอีกคนที่คอยฟังผมอยู่ตลอดกลับดูทะมึนขึ้นมาถนัด

 

"มึงไม่ไปกินข้าวหรอ" ผมเลยหันไปถามก่อนจะหลบตามัน

 

"รอมึงอยู่"

 

ยังไงก็เพื่อนกันสินะ

 

"พี่แวนครับ" แต่แล้วเสียงเรียกชื่อผมก็ดังมาจากหน้าห้อง ผมหันไปมองก่อนจะเห็นรุ่นน้องมอหนึ่งยืนถือถุงใบใหญ่อยู่

 

"พี่หรอ" ผมชี้หน้าตัวเองด้วยความสงสัย น้องเลยพยักหน้าแล้วเดินเอาถุงใบใหญ่นั้นมาให้

 

ถุงพิซซ่า

 

"ของพี่หรอ"

 

"ครับ พี่คนที่หล่อๆที่ขับรถมินิคูเปอร์ เขาบอกให้เอามาให้พี่แวนกับเพื่อนครับ" ผมกับไอ้ภัทรงั้นหรอ

 

หรือว่าไอ้ทิวมันให้เอามาให้

 

"ขอบใจนะ" ผมรับมาแล้วเปิดมันออกดู

 

พิซซ่าตั้งถาดใหญ่ แล้วยังมีไก่บาร์บีคิวที่ผมชอบอีกนับห้ากล่อง นี่มึงจะเอามาให้คนกินหรือหมูกินวะ

 

แต่ผมกลับรู้สึกดีจัง รู้สินะว่าผมไม่อยากไปโรงอาหาร

 

"แฟนมึงใช่มั้ย" พอผมดันพิซซ่าไปหาอีกคน มันก็ถามผมทันที ผมเลยยิ้มแล้วเปิดถาดออก

 

"กินกัน"

 

"กินเถอะ.." มันพูดแค่นั้นแล้วลึกหนีทันทีผมเลยรีบคว้ามือใหญ่นั้นไว้แล้วดึงให้มันมานั่งที่เดิม

 

"ไอ้ภัทร มึงเห็นใจกูหน่อยสิ กูไม่อยากให้เป็นแบบนี้ กูมีมึงเป็นเพื่อนคนเดียวนะ" ผมพยายามสื่อความรู้สึกด้วยสายตาว่าตอนนี้ผมเสียใจแค่ไหนกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันเองก็คงรู้เลยดึงผมเข้ากอดแนบอก

 

"กูบอกแล้วไง ยังกูก็รักมึง"

 

ยังไงก็รักงั้นหรอ...เห้อ

 

"กูขอโทษ"

 

"ไม่เป็นไร ผิดที่กูเอง กูตัดใจไม่ได้"

 

"ขอโทษ" ผิดที่กูด้วย ผิดที่กูไม่ตัดให้มันขาดไปซะ เพราะคิดแค่ว่าต้องเสียความเป็นเพื่อนไป

 

"พอๆ มากินพิซซ่าเถอะ กูหิวแล้ว" มันดันผมออกก่อนจะเขยิบเก้าอี้มาให้ ผมเลยรีบแกะทุกอย่างมาวางบนโต๊ะแล้วเริ่มลงมือกิน แต่อีกคนกลับมองกล่องไก่นั้นแล้วถามผมเสียงนิ่ง

 

"พี่เขารู้หรอ ว่ามึงชอบกินไก่บาร์บีคิว"

 

"อืม" ก็เคยกินด้วยกัน มันคงจะรู้

 

"แล้วเขารู้มั้ยว่ามึงชอบกินบัวลอยไข่หวานสองฟอง"

 

"รู้สิ" ก็ยังเคยซื้อให้กินอยู่

 

"เขารู้มั้ยว่ามึงไม่ชอบดูหนังตอนจบ"

 

"รู้มั้ง" ถ้ามันอ่านนิตยสารวันนั้น

 

"แล้วเขารู้มั้ยว่ามึงเกลียดเสียงฟ้าแลบฟ้าร้อง"

 

"รู้" ก็มันยังปลอบผมอยู่เลย ต้องรู้อยู่แล้วแหละ ถึงจะไม่อยากให้รู้ก็เถอะ

 

"แล้วมีอะไรบ้างที่กูรู้แต่พี่เขาไม่รู้"

 

จึก

 

เหมือนมันอยากพิเศษสำหรับผมมากกว่าไอ้ทิว

 

"ก็ไม่รู้ว่ากูรักมึงมากๆไง" คงมีสิ่งนี้มั้งที่ไอ้ทิวไม่รู้ แล้วมันจะพอสำหรับคำว่าพิเศษให้มึงได้มั้ย

 

"ก็แค่รักแบบเพื่อน"

 

น่ะ...แล้วมึงก็วกมาเรื่องเดิม ทำไมกันนะ ทำไมต้องกดดันกันด้วย

 

"ถ้ากูบอกมึงเร็วกว่านี้ กูคงได้เป็นคนนั้น"

 

"ไม่ใช่หรอกไอ้ภัทร ไม่ว่ามึงจะบอกก่อนหน้านั้นสักปีสองปี กูก็คงรับรักมึงไม่ได้ เพราะกูไม่ใช่ผู้ชายที่จะมองผู้ชายด้วยกัน แล้วก็มั่นใจด้วยว่ามึงไม่สามารถเปลี่ยนความคิดนั้นได้ แต่วันนี้กูดันเจอไอ้ทิว...ไอ้หมาตัวใหญ่ที่คอยปกป้องกูทุกวิถีทาง ยอมแม้กระทั่งให้ตัวเองเจ็บเพื่อกู มันเลยทำให้กูเปลี่ยนความคิดนั้นได้ และพร้อมจะยกชีวิตกูให้มันดูแล มันอาจจะไม่ใช่ความรักแต่ก็ไว้ใจที่สุด เพราะมันเป็นไอ้หมาใหญ่ของหมาเล็กอย่างกู"

 

เข้าใจกูด้วย

 

แต่ผมไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไปอีก เพราะกลัวจะทำให้มันเลวร้ายไปกว่าเดิม ยิ่งเห็นสีหน้าปวดร้าวนั่นอีก ผมเลยไม่พูดอะไรต่อแต่หยิบไก่ขึ้นมากินเรื่อยๆ มันก็มองผมเฉยๆก่อนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา ที่เล่นเอาผมจุกไปหมด

 

"แต่กูก็สามารถเจ็บเพื่อปกป้องมึงได้ ทั้งชีวิตกู...ให้มึงได้"

 

อึก!

 

ทำไม! ทำไมต้องทำให้เรื่องมันแย่ด้วย

 

"แต่กูให้มันไปแล้ว" แล้วก็คิดว่า...ดีใจที่ให้ด้วย

 

"มึงลองให้กูปกป้องมึงบ้างสิ กูอาจจะทำได้ดีกว่ามัน"

 

"กูเชื่อไอ้ภัทร กูเชื่อว่ามึงทำได้อย่างที่พูด แต่หัวใจกูเองนี่แหละ กลับมอบให้มึงไม่ได้"

 

ขอโทษ

 

"มึงรักมัน...ใช่มั้ย"

 

รัก!

 

"ไม่ใช่หรอก มันไม่ใช่รัก" แค่รู้สึกดีที่มีมันอยู่เคียงข้าง

 

"ถ้างั้นกูก็ยังมีสิทธิ"

 

"ทำไมมึงดื้อด้านขนาดนี้วะ กูไม่รู้จะทำยังไงแล้วนะเว้ย"

 

"ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แค่เปิดรับกู" นั่นคือสิ่งที่มึงต้องการสินะ งั้นก็แล้วแต่มึง

 

"...." ผมเลยเงียบไปเลย แล้วเริ่มกินของตรงหน้าใหม่ ถึงจะเครียดแต่ก็ต้องนิ่ง เพราะมันจะยิ่งทำให้อีกคนเจ็บ แต่ตอนนี้ผมจะไม่ไหวแล้ว

 

ไอ้ทิว...กูอยากให้มึงนอนปลอบกูจัง

 

"วันนี้กลับบ้านด้วยกันป่าว" อยู่ๆมันก็ถามเมื่อเรากินกันเกือบหมด ผมเงยหน้ามองมันก่อนมือใหญ่จะหยิบกระดาษเช็ดชู่มาเช็ดปากให้ ผมก็เลยยื่นหน้าให้มันเช็ดได้ง่ายๆด้วยความเคยชิน

 

"คงไม่ได้ วันนี้ไอ้ทิวจะมารับ"

 

"งั้นหรอ" เสียงดูเศร้าจัง

 

"ไอ้ภัทร ไว้พรุ่งนี้กูกลับบ้านพร้อมมึงนะ" กูจะพยายามชดเชยให้ละกัน บางทีมึงอาจจะไม่ต้องเจ็บปวดมาก

 

"ก็ได้" สีหน้ามันดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผมเลยกระทุ้งท้องมันแก้เขิน มันเองก็หัวเราะก่อนจะเอามือมาขยี้หัวผม

 

"ยี๋ มือมึงเลอะอะ" ผมแกล้งปัดมือมันออกแล้วดมผมตัวเอง เพียงแค่นี้เราก็มีเสียงหัวเราะให้กัน

 

มิตรภาพของเพื่อนสินะ

 

พอหมดคาบเรียนช่วงบ่ายผมก็รีบเก็บของเพื่อที่จะไปหาไอ้ทิวที่รออยู่ ไม่รู้ว่ามันรอนานขนาดไหน ป่านนี้เฉาตายไปแล้วมั้ง

 

"ไอ้ภัทรเร็วๆดิ" ไอ้นี่ก็ช้าเกิน เป็นตัวถ่วงก็จริง ผมเลยช่วยมันกวาดของบนโต๊ะลงกระเป๋าแล้วรีบวิ่งไปที่หน้าโรงเรียน แต่ไอ้ตัวควายมหึมาที่ผมลากกลับไม่ยอมเดินตามมาง่ายๆ ทำให้ผมต้องใช้พลังงานอย่างมาก

 

"มึงแกล้งกูอยู่ใช่มะ" ผมตีไหล่มันไปสองทีอย่างหมันไส้ มันก็ทำเป็นลอยหน้าลอยตาไม่รู้เรื่อง ผมเลยปล่อยแขนมันแล้ววิ่งไปหาอีกคนที่ยืนรออยู่ข้างรถ แต่ผมกลับเจอมันกำลังระริกระรี้กับสาวๆ

 

หล่อจริงมึงเนี่ย แต่ได้ข่าวว่ามึงมีเมียแล้วเถอะ

 

ผมยืนกอดอกมองมันที่เอาแต่คุยกับสาวๆมอปลายน่าตาน่ารัก แต่ดูท่ามันจะยังไม่รู้ว่าผมมา ผมเลยเดินเข้าไปหาด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่นแปลกๆก่อนจะโยนกระเป๋าหนังสือใส่มัน

 

"โอ๊ย! ใครโยนมาวะ!" มันกราดด่าอย่างหัวเสียแล้วพร้อมจะชกคนโยน ผมเลยจ้องหน้ามันหน้าเรื่องสุดฤทธิ์ก่อนมันจะเปลี่ยนใบหน้าโกรธเป็นยิ้มแป้นทันที

 

"เริงร่าดีนักนะมึง" ขอกัดสักยกเถอะ หมันไส้มันโครต ที่กูคุยกันอื่นแทบจะกัดคอกูขาด แล้วทีมึงนี่ยิ้มระรื่นเชียวนะ

 

มันน่าสักทีมะ!

 

"เลิกแล้วหรอ" มันรีบสะพายกระเป๋าผมเข้าที่ไหล่แล้วเดินแหวกมาหาผม มือหนาเกลี่ยแก้มผมเบาๆแล้วส่งยิ้มให้

 

"เหนื่อยป่าว"

 

อย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วก็จะหายนะไอ้ทิว

 

"เจ้าชู้ดีนักนะมึง!" ผมตอบมันกลับพร้อมกัดฟันใส่ มันเลยยิ้มกลบเกลื่อนอีกครั้งพร้อมกับเกี่ยแก้มผมเบาๆอีก

 

"เจ้าชู้อะไร นั่นมันแค่ออร์เดิฟ แต่มึงนี่อาหาหลัก"

 

ดูๆมัน แถไปเรื่อย

 

แต่แล้วผมก็ได้ยินเสียงซุบๆแปลกๆจากรอบตัวเลยทำให้ผมเพิ่งนึกได้ว่ายืนอยู่ในที่สาธารณะ แล้วยังมาสวีทกับหมาใหญ่อย่างไอ้ทิวที่เป็นข่าวด้วยกันอีก ผมเลยรีบดันอีกคนให้ขึ้นรถ

 

"กลับกันมึง"

 

"เดี๋ยวสิคะ ตกลงพวกพี่เป็นแฟนกัยหรอ"

 

น่าน ว่าแล้วไงว่าไม่พ้น

 

ผมหันกลับไปมองพวกหล่อนก่อนจะหันไปมองไอ้ภัทร

 

ผมไม่อยากตอบ เพราะมันอาจจะไปบาดหัวใจใครบางคน

 

"เออ..." แล้วจะตอบไงดีวะ

 

"ไอ้ทิว...กลับกัน" ผมไม่รู้จะตอบยังไงจริงๆเลยหันไปเร่งให้มันพากลับ แต่ไอ้ทิวกลับรั้งผมแล้วส่งยิ้มให้สาวๆ

 

"ใช่ๆ สดๆเลย เพิ่งคบกันเมื่อคืน"

 

ไอ้ทิว!

 

"กรี๊ด จริงหรอคะ น่ารักจัง" สาววายชัวร์ เหมือนเพื่อนผู้หญิงในห้องผมนั่นแหละ น่ากลัววะ

 

"แล้วใครจีบใครคะ" คุณเธอยังถามไม่เลิกแล้วดูท่าจะไม่เลิกลาง่ายๆด้วย

 

"รุ่นนี้ไม่จีบครับน้อง ลากขึ้นเตียงทีเดียวจบ"

 

"ไอ้ทิว! มึงพูดบ้าอะไรวะ" คราวนี้ผมทั้งจิกทั้งตบจนทุกคนที่อยู่ในที่ตรงนั้นหัวเราะกันเกลียว ถึงทุกคนจะมองว่าเป็นเรื่องตลกแต่ผมนี่หน้าร้อนจนไฟจะลุกอยู่แล้ว

 

"ก็เรื่องจริงนี่หว่า นี่น้องๆต้องช่วยพี่นะ ใครมาจีบแฟนพี่ พวกน้องต้องช่วยกันมันออกนะ" มันพูดด้วยสีหน้าจริงจังพอรวบมือผมได้ ผมเลยทำได้แค่ยิ้มแหยะๆก่อนจะหันไปมองไอ้ภัทรอีกครั้ง

 

เจ็บป่าววะ กูขอโทษ

 

"ได้เลยคะพี่ทิว พวกเราจะคอยสอดส่องให้" นี่พวกมึงเป็นอะไรวะ เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียว

 

"พอเถอะไอ้ทิว กลับห้องกัน" พอผมเห็นสีหน้าไอ้ภัทรที่เริ่มเจ็บปวด ผมก็รีบดันหลังอีกคนให้ขึ้นรถ แต่ยังไม่ทันที่ผมกับไอ้ทิวจะถึงรถก็มีเสียงเรียกชื่อผมอย่างดังจนต้องหยุดเดิน

 

"ไอ้แวน!!"

 

ใครเรียกผม

 

"แวน หลบ!!"

 

เห้ย!

 

ปัง!

 

"ไอ้ภัทร!" ผมผวารับร่างที่เข้ามาบังผมก่อนมันจะล้มทับผมทั้งตัว

 

"ไอ้เหี้.ย! มึงทำไรวะ!" เสียงไอ้ทิวก็ด่าแล้ววิ่งตามคนที่ยิงกระสุนใส่ก่อนพวกนั้นจะตกใจแล้วรีบขับมอเตอร์ไซหนีไป แต่ไอ้ภัทรนี่สิ

 

"มึงปลอดภัยใช่มั้ย อึก.." ยังจะมาห่วงกูอีก

 

เลือด!!

 

ไอ้ภัทร!

 

"ไอ้ทิว! ไอ้ภัทรถูกยิง!"

 

+++++++++++++++++++++++++++++++

 

131031

 

ดราม่า ดราม่าๆๆๆๆๆ

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา