CatWalk “กูจะดังให้มึงจำ”
9.8
เขียนโดย nooonaa
วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 22.54 น.
35 ตอน
17 วิจารณ์
56.91K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556 23.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) Catwalk 11 : ลืม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
By nooonaa
Catwalk 11 : ลืม
+น้องหมาเล็ก+
ก๊อกๆ
"แวน อาบน้ำเสร็จยัง"
"เดี๋ยวดิ"
"ออกมาได้แล้ว มึงอยู่ในนั้นมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ"
"เออๆ"
"ช้าแล้วรถมันติด มึงจะไปไหม โรงเรียนมึงเนี่ย"
เออเว้ย! พูดมากวะ
"เออ เสร็จแล้ว!" ผมตะโกนบอกมันด้วยอารมณ์ที่เริ่มคลุกกรุ่น รำคาญเสียงมันแต่เช้าเลย ผมแค่ปลุกมันตอนหกโมงเพื่อให้ไปส่งผมที่โรงเรียนให้หน่อย แต่มันกลับเอาแต่บ่น บ่น แล้วก็บ่น ว่าผมเป็นคนทำให้มันนอนน้อยแล้วหน้ามันจะโทรมไม่หล่อ แต่กูอยากบอกมึงนะ ยังไงมันก็ไม่หล่ออยู่แล้วล่ะ หน้าเลวๆอย่างมึงเนี่ย
หลังจากทำธุระอุจาริโกะ(ขี้)เสร็จ ผมก็รีบออกมาแต่งตัวเพื่อให้ทันมัน แต่พอเดินออกไปหามันข้างนอกห้องก็เห็นมันนั่งหน้าบูดเป็นหมาวัดอยู่บนโซฟา ผมเลยทำเป็นไม่สนใจมัน เดินไปหยิบโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงแล้วออกไปรอหน้าห้อง
"เร็วดิ กูต้องรีบไปโรงเรียน" ผมส่งเสียงเรียกมันเมื่อก้นใหญ่ๆยังนั่งติดเบาะ มันจิ๊ปากเล็กน้อยเหมือนไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่แต่ก็ยอมเดินตามมา
"หิวข้าวป่าว" มันถามผมขณะขับรถออกมาจากคอนโดมันได้สักพัก แต่ผมกะไปกินกับไอ้ภัทรที่โรงอาหาร
"เดี๋ยวไปกินกับเพื่อน"
"ใคร!" เสียงขุ่นถามกลับทันที ผมเองก็ตกใจไม่น้อยที่มันขึ้นเสียงใส่ซะน่ากลัว
"ก็เพื่อนไง"
"แล้วมันเป็นใคร ผู้หญิงหรือผู้ชาย" เป็นอะไรของมึงเนี่ย ผมหันไปมองหน้ามันเล็กน้อยแต่ก็ไม่กล้าเถียงมันมาก เดี๋ยวมันอาละวาดขึ้นมา ผมเนี่ยแหละจะตายเอา
"เพื่อนสนิท ชื่อภัทร เป็นผู้ชาย พอใจยัง!"
"ไม่ต้องไปเรียนแล้วสัด กลับบ้าน!" อยู่ๆมันก็ตีไฟเลี้ยวเข้าชิดขวา ทำท่าจะยูเทิร์นกลับเฉยเลยครับ ผมเลยรีบร้องห้ามมันไว้
"เห้ยๆ จะทำไร!"
"กลับบ้าน!"
"เห้ย กูต้องไปเรียน พากูไปส่งโรงเรียนเดี๋ยวนี้!" ผมสั่งมันเสียงเข้มแต่ร่างหนายังจะกลับรถอยู่อีก ผมเลยขู่มันเสียงแข็งทันที
"ถ้าวันนี้กูไม่ได้ไปเรียน กูจะไม่คุยกับมึงอีก ไม่เชื่อก็ลองดู!" เอาสิมึง ให้รู้เรื่องรู้ราวบ้าง เวลาไหนควรเล่นไม่ควรเล่น แล้วครั้งนี้ผมจริงจังด้วย ไม่เชื่อก็ลองดู
"มึงขู่กูรึไง!! นี่มึงกล้าหรอหะ!"
"ทำไม! ถ้าไม่เชื่อฟังกู มึงก็ไม่ต้องมายุ่งกับกูอีก! จะลองมั้ยล่ะ"
แม่.ง! หาเรื่องชวนทะเลาะแต่เช้าเลยวะ
"คิดว่ากูกลัวรึไง!"
ไอ้เหี้.ย! สันดารเลวชิบหาย!!
"เลิกเรียนกี่โมง"
"บ่ายสาม"
"รออยู่เนี่ยแหละ เดี๋ยวตอนเย็นกูมารับ"
"ไม่ต้อง!" นี่ผมยังไม่หายอารมณ์เสียเลยนะเนี่ย จะชวนผมทะเลาะทำไมก็ไม่รู้ ในเมื่อสุดท้ายก็ยอมมาส่งผมที่โรงเรียนอยู่ดี
บ้าบอจริงมึงเนี่ย
"กู จะ มา รับ"
"เออ!" แม่.ง! จะเน้นเสียงให้กูกลัวจนขี้แตกเลยมะ กวนตีนวะ
"ถ้ากูโทรไปต้องรับทุกสาย เข้าใจมั้ย"
"สั่งเสร็จยัง" ผมชักเริ่มรำคาญมันแล้ว ตามตรง ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย สั่งจริงสั่งจังจนเหมือนจะเป็นพ่อผมแล้วเนี่ย
"ยัง..."
เออแม่ง! ไม่ต้องเรียนกันและ
"ส่งข้อความหากูทุกๆหนึ่งชั่วโมงว่าตอนนั้นกำลังทำอะไรอยู่ เข้าใจมั้ย"
"มึงเป็นพ่อกูรึไง! นี่พ่อแท้ๆยังไม่เคยจู้จี้กับกูขนาดนี้เลยนะเว้ย มึงจะมากไปแล้ว!" ทำอะไรควรมีขอบเขตบ้างดิ ไม่ใช่เอาแต่ใจแบบนี้
"แล้วกูเป็นพ่อมึงหรอสัด วันนี้หลายรอบแล้วนะมึง!"
"ไอ้ทิว! ถ้ามึงจะไม่อยากมาส่งกูขนาดนี้ก็บอกสิวะ กูนั่งแท็กซี่มาเองก็ได้ ไม่ใช่มาลงที่กูแบบนี้!" ผมชักจะเริ่มน้อยใจมันแล้วนะ เอาแต่บังคับและใช้อารมณ์กับผมตลอด เมื่อคืนยังเป็นหมาแสนเชื่องอยู่เลย แล้วดูตอนนี้ดิ คนละคนน่ะ
"......." พอผมอาละวาดใส่มันไป มันก็เงียบกริบไม่เถียงสักคำ มันปลดล็อคประตูเป็นการบอกว่าลงไปได้แล้ว ผมเลยรีบเปิดแล้วลงทันที แถมปิดประตูรถใส่หน้ามันอย่างแรงอีก
หมั่นไส้วะ
พอรถมินิคันหรูของมันเคลื่อนตัวออกไป ผมก็เดินเข้าโรงเรียนทันที อารมณ์เสียแต่เช้าเลยทีนี้ แล้วอย่างนี้จะมีอารมณ์เรียนมั้ยเนี่ย อุตส่ามีเวลาได้เป็นเด็กมอปลายเหมือนคนอื่นสักที เพราะมึงคนเดียวเลยไอ้หมาทิว
"ไอ้แวน! มาเรียนด้วยเว้ยวันนี้" เมื่อผมเดินมาถึงห้องเรียน เสียงไอ้ภัทรก็ดังมาแต่ไกล แค่เพียงผมได้เห็นหน้ามันผมก็ลืมเรื่องเมื่อกี้ไปเลย ผมเอาแต่คุยเล่นกับมันก่อนจะเดินไปกินข้าวเช้า แล้วมันก็เป็นแบบเดิม นักเรียนคนอื่นเอาแต่มองมาที่ผมเหมือนผมเป็นตัวประหลาด ผมเลยยิ้มให้พวกเขาเล็กน้อยแล้วทำเป็นไม่สนใจ ทั้งๆที่ตอนนี้ผมอึดอัดเหลือทนแล้ว
"อย่าคิดมากหน่า คนดังก็งี้แหละมึง" ไอ้ภัทรตบไหล่ผมสองสามทีเหมือนให้ผมปลง ผมเลยถอนหายใจออกยาวๆแล้วหันกลับมากินข้าวต่อ
"เอาบัวลอยไข่หวานป่าว"
"เอาดิ คราวนี้ขอไข่สองฟองนะ อยากมาก" ผมยิ้มแป้นแล้นใส่อีกคนจนร่างเพรียวชะงักกึก มันจ้องหน้าผมนิ่งๆก่อนจะลุกออกจากโต๊ะพรึบ ผมเองก็มองมันงงๆแต่ก็ไม่สนใจอะไรมาก มันคงไม่สบายมั้ง
"พี่แวนคะ" อยู่ๆเสียงหวานใสก็ดังมาจากอีกฝั่งของโต๊ะ ผมเงยหน้าขึ้นมองก็เจอเด็ผู้หญิงสี่ห้าคนกำลังยืนจ้องผมด้วยความเขินอาย น่าจะอยู่มอสี่นะถ้าดูจากดาวบนปกเสื้อ ผมเลยยิ้มให้พวกเธอเล็กน้อย
"มีอะไรหรอ"
"อ่า...ขอถ่ายรูปด้วยได้มั้ยคะ"
ถ่ายรูป!
"เออ...ได้สิๆ" ผมรีบผลักจานข้าวที่กินได้ไปแค่ครึ่งออกห่างจากตัวก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง น้องๆเขาเลยวิ่งมายืนข้างหลังผมแล้วก้มมาซะชิด ชิดจนผมได้กลิ่นหอมๆจากตัวพวกเธอ
อา...ชื่นใจจัง
ผมไม่ได้หื่นนะ แต่มันเป็นเรื่องปกติของเด็กผู้ชายอย่างผม มีสาวๆเข้ามาใกล้ใจมันก็ต้องเต้นเป็นธรรมดา แต่ยังไม่ทันที่ผมกับสาวๆจะถ่ายรูปเสร็จ เสียงเรียกชื่อผมก็ดังจนแก้วหูแทบแตกก่อนร่างเล็กบางจะวิ่งมาหาผมด้วยใบหน้าบึ้งตึงสุดฤทธิ์ ทำให้น้องๆเขาเตลิดหายกันไปใหญ่
"พี่แวน! ทำไมมาโรงเรียนแล้วไม่บอกน้ำหวานคะ"
น่ากลัวมากเถอะ ผู้หญิงคนนี้
ยังจำเจ้าหล่อนได้ไหม คนที่เกาะติดผมแจตั้งแต่ผมยังไม่เข้าวงการ แล้ววันนี้ผมก็ต้องทนให้เธอเกาะอีกหรอเนี่ย
"พี่เพิ่งมาเอง น้ำหวานสบายดีมั้ย"
"เมื่อวันจันทร์ก็มา แต่ก็ไม่ยอมบอกน้ำหวาน" แก้มใสเล็กทั้งข้างพองลมอย่างน่ารักใส่ ผมเองก็อมยิ้มตามพอเธออ้อนแบบนี้กับผม แต่พอไอ้ภัทรเดินกลับมาที่โต๊ะก็ปากหมาใส่ทันที
"มันเป็นแฟนเธอรึไง ถึงต้องรายงานตลอด"
"ไม่เป็นก็เหมือนเป็นแหละพี่ภัทร" เสียงหวานแห่วใส่ไอ้ภัทรจนผมรู้สึกขำ ใบหน้าทะเล้นของอีกคนเลยตีหน้ากวนใส่น้องไม่ยั้ง ร่างเล็กเองก็เต้นเด่วๆเมื่อทำอะไรไอ้ภัทรไม่ได้ ผมมองไปก็เลื้อนบัวลอยมากินไป เหมือนได้ดูตลกตอนเข้าเลย
ครืดๆ
อยู่ๆโทรศัพท์ผมก็สั่นครืดอยู่ในกระเป๋ากางเกง ผมควักมันออกมาดูก็เจอข้อความของใครบางคนที่ผมเพิ่งจะทะเลาะไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว
'ครบชั่วโมงแล้วทำไมไม่ส่งข้อความหากู'
นี่มันเลยมาแค่สองนาทีเองนะ มึงจะแป๊ะไปปะ
ผมเลยจัดการพิมพ์ส่งกลับไป จะได้สิ้นเรื่องสิ้นราวสักที
'กินข้าวอยู่'
ผมนั่งมองหน้าจอเพื่อดูว่ามันจะส่งอะไรกลับมา แต่มันกลับไม่มี ผมนี่ปี๊ดขึ้นสมองเลยครับ มันจะเอายังไงของมันกันแน่
"ขึ้นเรียนเถอะมึง" ไอ้ภัทรเรียกผมเมื่อผมตักไข่แดงคำสุดท้ายเข้าปาก ผมเลยบอกให้น้ำหวานรีบเข้าเรียน แต่เจ้าตัวก็ยังดึงดันจะไปส่งผมที่ห้อง ผมก็ไม่ว่าอะไร อยากทำอะไรก็ทำ แต่พอถึงห้องได้เท่านั้น ไอ้ภัทรนี่ไล่น้องไปทันที
"กลับไปได้แล้วยัยนกแก้ว เกาะเพื่อนกูจังนะเธอเนี่ย"
"น้ำหวานเกาะพี่แวน ไม่ได้เกาะพี่ภัทรนี่"
"น่ารำคาญจริง!" มือหนาผลักหน้าผากมนของน้องน้ำหวานจนหงายหลัง ผมยืนดูสองคนทะเลาะกันก็ขำกร๊าก ไอ้ภัทรไม่เคยคุยกับผู้หญิงคนไหนเลยนะครับ มีแต่น้ำหวานเนี่ยแหละ เห้ย! หรือว่ามันชอบน้ำหวาน
ใช่แน่ๆ
เพราะทุกทีมันจะคอยขัดน้องเวลาเข้าใกล้ผม อย่างนี้นี่เอง มึงหึงน้องสินะ
เสร็จกูไอ้ภัทร! ฮ่าๆ
"มึงชอบน้ำหวานอ่อ" ผมถามมันด้วยใบหน้าที่คิดว่าจริงจังที่สุด จนใบหน้าทะเล้นชะงักกึก มันรีบหันไปมองด้านหลังเพื่อดูว่าน้องยังอยู่รึป่าว อาการนี่ชัดเลย
"ป่าว ใครจะไปชอบเด็กชอบยั่วโมโหแบบนั้น"
"แล้วทำไมเหงื่อมึงแตก มึงมีพิรุธกับกู บอกมา!" คราวนี้ผมจับไหล่มันแล้วบีบแน่น เพื่อเค้นความจริง มันเลยเม้มปากเหมือนช่างคิดก่อนจะถอนหายใจออกมา
"เออ ชอบก็ชอบ"
"นั่นไง! กูว่าแล้วเชียว" ผมหัวเราะร่าเมื่อได้รับคำตอบอย่างที่ใจคิด แต่อีกคนกลับหันหน้าหนีผมแล้วถอนหายใจยาวอีกครั้ง
"เป็นไรวะ" ไม่อยากให้กูรู้หรอ
"ป่าว เรียนเถอะ" มันเปลี่ยนเรื่องทันทีที่อาจารย์เข้ามาในห้อง ผมเลยไม่คิดจะถามต่อ แต่ดูเหมือนจะเครียดๆยังไงชอบกล สงสัยจะต้องช่วยมันซะแล้ว
ไม่ต้องเป็นห่วงนะเพื่อน มึงมีไอ้แวนอยู่ทั้งคน
"ไปดูหนังกันปะมึง กูติดมึงไว้"
"ว่างหรอมึง"
"ว่างดิ" ไม่ว่างก็ต้องว่างแหละวะ ก็กูจะเป็นพ่อสื่อนี่หว่า
"ไปๆ" แค่นี้ก็จบ ต่อไปก็เหลือแต่น้ำหวาน
ผมรอจนพักกลางวันแล้วผมก็ได้เจอน้ำหวานอย่างที่คิด ผมบอกกับหล่อนว่าอยากชวนไปดูหนัง น้องเขาดีใจจนผมเริ่มรู้สึกผิด แต่ถ้าเพื่อเพื่อนสนิท ผมต้องห้ามใจอ่อน
สู้เว้ย!
ครืดๆ
ข้อความอีกแล้ว เห้ย! ผมรีบส่งข้อความหาไอ้ทิวมาสามชั่วโมงแล้วนี่หว่า ตายห่.า โกรธตายแล้วมั่งเนี่ย
'มึงลืมกู'
อุ่ย...กูขอโทษ
'พักกลางวันอยู่ เพิ่งเลิก มึงกินข้าวด้วยนะ'
แล้วทำไมผมต้องรีบร้อนส่งขนาดนี้ด้วยเนี่ย ไม่เห็นจำเป็นต้องใส่ใจเลยนี่หว่า อยากโกรธก็โกรธไปดิ
พอคิดอย่างนั้นผมก็เข้าห้องเรียนเพื่อเรียนช่วงบ่ายต่อ แต่ก็คอยส่งข้อความหามันทุกชั่วโมง จะได้ไม่มีปัญหาทีหลังไง นี่ผมเป็นคนรอบครอบนะเนี่ย
ฟู่...ทำไมหน้าร้อนแบบนี้เนี่ย
"ไปๆ ไปดูหนังกัน" ผมรีบลากไอ้ภัทรออกมาจากห้องก่อนจะเดินไปเจอน้ำหวานที่ใต้ตึกเรียน แต่พอไอ้ภัทรเห็น มันก็จ้องตาผมเขม็ง เหมือนรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ ผมเลยยิ้มแหย่ให้มันแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
"ฝากไว้ก่อนเถอะมึง" มันชี้หน้าผมอย่างคาดโทษ ผมเลยรีบเดินหนีมันทันที
เรามาถึงโรงหนังก็ซื้อตั๋วกันทันที รอบห้าโมงด้วย แต่แผนของผมก็คือ จะให้สองคนนี้ดูกันสองคน ส่วนผมก็ชิ่งกลับ แค่คิดก็เห็นความรักสีชมพูรำไรแล้วล่ะ
แต่ว่า...ผมรู้สึกเหมือนลืมอะไรบางอย่าง นี่ผมลืมอะไรไปนะ แต่ช่างมันเถอะ เดี๋ยวก็นึกออกเองแหละ
พวกเราไปนั่งกินไอติมกันเพื่อรอหนังฉาย ผมก็หยอดไป ไอ้ภัทรก็ทะเลาะกับน้ำหวานไปจนเวลาผ่านไปเร็วมาก เห็นแค่นี้ก็แฮปปี้แล้ว
"อีกห้านาทีหนังฉายแล้ว ไปกันเถอะ" ผมรีบดึงสองคนนั้นมาจากร้านเมื่อไอ้ภัทรร้องบอก แต่พอถึงหน้าโรงหนัง ผมบอกให้สองคนนั้นเข้าไปก่อน ผมขอคุยโทรศัพท์เดี๋ยวเดียวแล้วจะตามเข้าไป ไอ้ภัทรกับน้องเขาก็ยอมผมง่ายๆ ทีนี้ก็ยิ้มสิ
ดูหนังให้สนุกนะมึง
ผมควักโทรศัพท์ออกมาดูก็พบสายที่ไม่ได้รับนับร้อยสาย ใจผมเต้นแรงถี่อย่างรู้สึกผิดเมื่อเห็นคนโทรมา
"ไอ้ทิว!" ผมลืมมัน
ติ๊ดๆ
แต่แล้วหน้าจอโทรศัพท์กลับดับมืด อย่าบอกนะว่าแบตโทรศัพท์หมด ให้ตายเถอะ เหมาะเจาะไปป่าววะ แล้วอย่างนี้ผมจะติดต่อไอ้ทิวย้งไง นี่มันก็สองชั่วโมงแล้วด้วย แต่มันนานขนาดนี้แล้วมันคงกลับคอนโดแล้วมั้ง
ผมเลยรีบโบกแท็กซี่แล้วกลับคอนโดทันที แต่พอไปถึงกลับไม่เห็นมันแม้แต่เงา แล้วตกลงมันไปไหนเนี่ย เห้ย! หรือว่า...
ตายห่.า
ผมรีบขึ้นแท็กซี่อีกครั้งเพื่อไปยังเป้าหมาย แล้วพอไปถึง...หัวใจผมถึงกับหายวูบ
สามชั่วโมง! มึงรอกูอยู่ที่นี่ถึงสามชั่วโมงเลยหรอวะ
"ไอ้ทิว..." พอลงมาจากรถได้ ผมก็เดินเขาไปหาร่างสูงที่ยืนรอผมอยู่ข้างรถตัวเอง มันยืนรออยู่หน้าโรงเรียนผมตลอดสามชั่วโมง ทำไมผมถึงเป็นคนที่แย่ขนาดนี้
"มึง..."
"มาแล้วหรอ...."
ทำไมถึงยังพูดคำนั้นออกมาได้ ทั้งๆที่กูลืมมึง
กูขอโทษ...
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
130927
I'm sorry my babyyyy. 555 นานเลย ขอโทษนร้ารีดเดอร์ เม้นด้วยนะคะ จุบๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ