เสน่ห์ร้ายยัยตัวแสบ
3.0
เขียนโดย YoruKitsune
วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.53 น.
3 ตอน
0 วิจารณ์
6,462 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 20.58 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) จุดเริ่มต้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ1
จุดเริ่มต้น
ผู้คนจำนวนไม่น้อยในเมืองโตเกียว จังหวัดโตเกียว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมาชมเทศกาลพลุที่เมืองโตเกียวกันเต็มเมืองและยังมีการใส่ชุดกิโมโนมาร่วมงานด้วย ในงานก็มีขนมที่เป็นที่นิยมของคนในงาน
ในฐานะที่เป็นเมืองท่องเที่ยวคนที่ชื่อเสียงเดินกลางถนนในเมืองโตเกียว จังหวัดโตเกียว จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เห็นจนชิน โรงแรมทุกที่ในเมืองถูกจองตั้งแต่เดือนก่อนพวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปรากฏอยู่ทุกมุมเมือง มีนักข่าวอีกเป็นกองทัพคอยจับจองพื้นที่มีค่าในงาน แต่เนื่องจากเศรษฐกิจท้องถิ่นต้องพึ่งพาการท่องเที่ยว คนเมืองโตเกียวเจอปัญหาจากภัยธรรมชาติเมื่อปีที่แล้วพวกนักการเมือง และองค์การกุศลก็หัวใสสุดๆ เอาของยังชีพมาเรียกคะแนนเสียงกัน
ทาคาสุ ไทกะทายาทของคณบดีมหาวิทยาลัยโตเกียวแต่เธอก็อยู่ในสภาพมืดมน ไร้อนาคต ทำให้เธอไม่อยู่ในอารมณ์จะเป็นคุณหนูในงานเลี้ยงกาล่าที่มีแต่พวกผู้ดีหัวโบราณ แถมเธอภาวนาว่าของให้นี่คือการตัดสินใจครั้งที่ผิดพลาดที่สุด ที่คิดมางานเลี้ยงแต่งตัวตัวเป็นคุณหนูแบบนี้
คิทามุระ อามิเพื่อนสนิทของไทกะเดินไปเดินมาอยู่บนพื้นพรมในห้องสวีตของโรงแรมฮิลตัน นิเซโกะที่เป็นสถานที่จัดงาน “คนพวกนั้นไม่ได้อยากมาเพราะอยากจะมาหรอก พวกเขาก็แค่อยากอวดเรื่องที่ลูกของพวกเขาได้ดีแค่ไหนก็เท่านั้น”
ไทกะดูไม่สบายใจมากจนอามิอยากเข้าไปกอด แต่เธอเองก็อยากได้สิ่งปลอบใจแบบนี้เหมือนกัน ไทกะสัญญากับตัวเองว่าจะไม่เอาเรื่องรันทดของตัวเองมาทำให้เพื่อนรักไม่สบายใจไปด้วย “เป็นบทสรุปที่น่าสนใจมากเลยน่ะสำหรับคนพวกนั้น คิดดูสิ เธอเป็นถึงลูกสาวของคณบดีมหาวิทยาลัยโตเกียว ไม่ใช่คนที่เร่ร่อนซักหน่อย”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะน่ะ ฉันพูดจริงๆ นะอามิ คนพวกนั้นน่ะตัดสินฉันตลอดเวลา ทุกครั้งที่ฉันออกงานเลยด้วย”
ข้อมูลนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ไทกะคุยโทรศัพท์กับอามิสัปดาห์ละหลายหน แต่อามิไม่เคยเล่าเรื่องเครียดๆ ของตัวเองให้เพื่อนสาวของเธอฟัง ไทกะเล่นกำไลข้อมือ ซึ่งเป็นของแบรนด์เนม “ฉันว่าถ้าเทียบกับคนพวกนั้นแล้ว เธอดีกว่าพวกนั้นน่ะ”
“ก็แค่ไม่มั่นใจน่ะ” ไทกะพูด “พวกนั้นชอบมองฉันแปลกๆ เวลาฉันเดินอยู่ในมหาวิทยาลัยทีไรเป็นต้องมีคนมามองฉันแล้วถามเกี่ยวอนาคต หรือไม่ก็พูดถึงลูกของพวกเขาได้ไปเรียนทุนเปรียบเทียบให้ฉันดูด้อยกว่าเสมอ นี่มันหลอกถามกันชัดๆ”
ไทกะจบจากมหาวิทยาลัยโดยเกรดเฉลี่ยที่ไม่ค่อยจะสวยเท่าไร ฉะนั้นความคิดที่ว่าเรียนปริญญาโทอีก เธอคิดว่าออกจะเกินไปหน่อย แต่อามิก็ยังเป็นกังวลเรื่องคนอื่นไม่เลิก “ถือซะว่าเป็นประสบการณ์ใหม่แล้วกัน ที่ไม่ได้เจอคนรุมประจบเอาใจอย่างเคยน่ะ”
สองสาวรู้จักกันในมหาวิทยาลัย ไทกะเป็นเด็กปีสองหัวรั้น ส่วนอามิเป็นคนเรียนเก่ง ไทกะโตมากับพ่อแม่ซึ่งเป็นบุคคลมีชื่อเสียง อามิจึงเข้าใจที่ไทกะทำความท่ากังวล ในไม่ช้าทั้งคู่ก็สนิทกันทั้งที่มีบุคลิกต่างกันสุดขั้ว ไม่นานนักไทกะก็พบสิ่งที่คนอื่นมองข้ามไป นั่นคือภายใต้ความหัวรั้น จริงๆ แล้วภายในใจไทกะเป็นคนที่ต้องการใครสักคนมาเข้าใจ แต่ไม่มีใครดูออกเลยจากบุคลิกที่แข็งกร้าวภายนอก
เมคอัพของอามิกับแผงขนตาเหมือนออกมาจากนิตยสารแฟชั่น ผมไฮไลท์สีน้ำเงินเป็นเงางามยาวขึ้นกว่าสมัยเรียน บางครั้งเธอรวบผมด้วยกิ๊บติดผมกำมะหยี่ อามิเลือกชุดราตรีสั้นสีน้ำเงิน ไทกะเลือกชุดแซกสีแดงสไตล์โกธิค กับรองเท้าส้นเข็มสีดำแบบพัน กับจี้เงินลายแมวประดับโรสควอสสีชมพูประณีตระหว่างอกไทกะซื้อสร้อยเส้นนี้มาจากปารีสเมื่อตอนที่เธอไปเที่ยวช่วงซัมเมอร์ เธอไม่เคยเป็นรองใครเรื่องแฟชั่น
“ยังเป็นเด็กไม่รู้จักโตสิน่ะ” อาจารย์มหาวิทยาท่านหนึ่งพูดกับเธออย่างนั้น
ไทกะมองเขาด้วยสายตากังขา นี่ล่ะอุบายของอาจารย์มหาวิทยาลัยที่ความรู้สูง แต่หัวโบราณยิ่งกว่าเต่าล้านปีที่จะได้สร้างโลกส่วนตัวของตัวเองไงล่ะ
ไทกะถอนหายใจแล้วนั่งลงบนโซฟา “ตราบใดที่ฉันยังอยู่ในงาน ฉันก็ต้องทนแบบนี้ต่อไป”
อามิกอดปลอบใจเพื่อนสาว “เป็นตัวเองดีแล้ว เธอเป็นตัวของตัวเอง และปรับตัวเข้ากับพวกพี่ๆ ของเธอได้ดีมาก ส่วนเธอเองก็ยังเป็นเซลีนยอดฝีมือในวงการแฮคเกอร์”
ไทกะปัดมือไปมา “เรื่องมันงี่เง่าน่ะ แค่อึดอัดกับงานก็แค่นั้นเอง”
อามิเริ่มเป็นห่วง “ไทกะ เราเป็นเพื่อนสนิทกันมานานแล้วน่ะ ฉันรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่”
ไทกะกอดหมอนแล้วเอาฟุบลงไป“พ่อกับแม่ฉันชื่นชมพี่ๆ กันมาก เธอก็รู้นี่ว่าพ่อแม่รู้สึกยังไงกับพวกเขา” เธอโยนหมอนทิ้งไปข้างๆ “ฉันเริ่มเป็นแฮคเกอร์ตั้งแต่อยู่มอปลาย เขียนโปรแกรมเอง เคยแฮคแก้เกรดเองด้วยซ้ำ พอถูกจับได้ฉันเลยถูกกักบริเวณไม่ให้เล่นอินเตอร์เลยหนึ่งอาทิตย์ยังไม่พอฉันยังไปไนต์คลับตลอดเลยด้วยช่วงอยู่ที่เป็นเฟรชชี่ ฉันนี่มันเป็นแกะดำจริงๆ”
อามิโยนหมอนไปที่ไทกะ เรื่องนี้มันยากเกินที่เธอจะช่วยได้ ถึงแม้ไทกะจะเป็นเพื่อนรัก แต่อามิเองก็ไม่รู้จะช่วยยังไง ไทกะถูกตามใจจนเคยตัวเป็นคนที่มีความคิดเป็นตัวเองสูง ไทกะจะมองเรื่องที่อยู่ข้างหน้ามากกว่าที่จะคิดให้ดีก่อนว่าควรจะทำอะไร แต่ไทกะก็นิสัยดี เป็นห่วงเพื่อนๆ และเป็นเพื่อนสนิทของอามิ อามิเป็นเด็กทุนเรียนดี ส่วนไทกะกลับใช้ชีวิตอย่างอิสระ หัวรั้น เพื่อจะหนีจากครอบครัวที่เหมือนกรงขังเธอไว้
จุดเริ่มต้น
ผู้คนจำนวนไม่น้อยในเมืองโตเกียว จังหวัดโตเกียว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมาชมเทศกาลพลุที่เมืองโตเกียวกันเต็มเมืองและยังมีการใส่ชุดกิโมโนมาร่วมงานด้วย ในงานก็มีขนมที่เป็นที่นิยมของคนในงาน
ในฐานะที่เป็นเมืองท่องเที่ยวคนที่ชื่อเสียงเดินกลางถนนในเมืองโตเกียว จังหวัดโตเกียว จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เห็นจนชิน โรงแรมทุกที่ในเมืองถูกจองตั้งแต่เดือนก่อนพวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปรากฏอยู่ทุกมุมเมือง มีนักข่าวอีกเป็นกองทัพคอยจับจองพื้นที่มีค่าในงาน แต่เนื่องจากเศรษฐกิจท้องถิ่นต้องพึ่งพาการท่องเที่ยว คนเมืองโตเกียวเจอปัญหาจากภัยธรรมชาติเมื่อปีที่แล้วพวกนักการเมือง และองค์การกุศลก็หัวใสสุดๆ เอาของยังชีพมาเรียกคะแนนเสียงกัน
ทาคาสุ ไทกะทายาทของคณบดีมหาวิทยาลัยโตเกียวแต่เธอก็อยู่ในสภาพมืดมน ไร้อนาคต ทำให้เธอไม่อยู่ในอารมณ์จะเป็นคุณหนูในงานเลี้ยงกาล่าที่มีแต่พวกผู้ดีหัวโบราณ แถมเธอภาวนาว่าของให้นี่คือการตัดสินใจครั้งที่ผิดพลาดที่สุด ที่คิดมางานเลี้ยงแต่งตัวตัวเป็นคุณหนูแบบนี้
คิทามุระ อามิเพื่อนสนิทของไทกะเดินไปเดินมาอยู่บนพื้นพรมในห้องสวีตของโรงแรมฮิลตัน นิเซโกะที่เป็นสถานที่จัดงาน “คนพวกนั้นไม่ได้อยากมาเพราะอยากจะมาหรอก พวกเขาก็แค่อยากอวดเรื่องที่ลูกของพวกเขาได้ดีแค่ไหนก็เท่านั้น”
ไทกะดูไม่สบายใจมากจนอามิอยากเข้าไปกอด แต่เธอเองก็อยากได้สิ่งปลอบใจแบบนี้เหมือนกัน ไทกะสัญญากับตัวเองว่าจะไม่เอาเรื่องรันทดของตัวเองมาทำให้เพื่อนรักไม่สบายใจไปด้วย “เป็นบทสรุปที่น่าสนใจมากเลยน่ะสำหรับคนพวกนั้น คิดดูสิ เธอเป็นถึงลูกสาวของคณบดีมหาวิทยาลัยโตเกียว ไม่ใช่คนที่เร่ร่อนซักหน่อย”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะน่ะ ฉันพูดจริงๆ นะอามิ คนพวกนั้นน่ะตัดสินฉันตลอดเวลา ทุกครั้งที่ฉันออกงานเลยด้วย”
ข้อมูลนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ไทกะคุยโทรศัพท์กับอามิสัปดาห์ละหลายหน แต่อามิไม่เคยเล่าเรื่องเครียดๆ ของตัวเองให้เพื่อนสาวของเธอฟัง ไทกะเล่นกำไลข้อมือ ซึ่งเป็นของแบรนด์เนม “ฉันว่าถ้าเทียบกับคนพวกนั้นแล้ว เธอดีกว่าพวกนั้นน่ะ”
“ก็แค่ไม่มั่นใจน่ะ” ไทกะพูด “พวกนั้นชอบมองฉันแปลกๆ เวลาฉันเดินอยู่ในมหาวิทยาลัยทีไรเป็นต้องมีคนมามองฉันแล้วถามเกี่ยวอนาคต หรือไม่ก็พูดถึงลูกของพวกเขาได้ไปเรียนทุนเปรียบเทียบให้ฉันดูด้อยกว่าเสมอ นี่มันหลอกถามกันชัดๆ”
ไทกะจบจากมหาวิทยาลัยโดยเกรดเฉลี่ยที่ไม่ค่อยจะสวยเท่าไร ฉะนั้นความคิดที่ว่าเรียนปริญญาโทอีก เธอคิดว่าออกจะเกินไปหน่อย แต่อามิก็ยังเป็นกังวลเรื่องคนอื่นไม่เลิก “ถือซะว่าเป็นประสบการณ์ใหม่แล้วกัน ที่ไม่ได้เจอคนรุมประจบเอาใจอย่างเคยน่ะ”
สองสาวรู้จักกันในมหาวิทยาลัย ไทกะเป็นเด็กปีสองหัวรั้น ส่วนอามิเป็นคนเรียนเก่ง ไทกะโตมากับพ่อแม่ซึ่งเป็นบุคคลมีชื่อเสียง อามิจึงเข้าใจที่ไทกะทำความท่ากังวล ในไม่ช้าทั้งคู่ก็สนิทกันทั้งที่มีบุคลิกต่างกันสุดขั้ว ไม่นานนักไทกะก็พบสิ่งที่คนอื่นมองข้ามไป นั่นคือภายใต้ความหัวรั้น จริงๆ แล้วภายในใจไทกะเป็นคนที่ต้องการใครสักคนมาเข้าใจ แต่ไม่มีใครดูออกเลยจากบุคลิกที่แข็งกร้าวภายนอก
เมคอัพของอามิกับแผงขนตาเหมือนออกมาจากนิตยสารแฟชั่น ผมไฮไลท์สีน้ำเงินเป็นเงางามยาวขึ้นกว่าสมัยเรียน บางครั้งเธอรวบผมด้วยกิ๊บติดผมกำมะหยี่ อามิเลือกชุดราตรีสั้นสีน้ำเงิน ไทกะเลือกชุดแซกสีแดงสไตล์โกธิค กับรองเท้าส้นเข็มสีดำแบบพัน กับจี้เงินลายแมวประดับโรสควอสสีชมพูประณีตระหว่างอกไทกะซื้อสร้อยเส้นนี้มาจากปารีสเมื่อตอนที่เธอไปเที่ยวช่วงซัมเมอร์ เธอไม่เคยเป็นรองใครเรื่องแฟชั่น
“ยังเป็นเด็กไม่รู้จักโตสิน่ะ” อาจารย์มหาวิทยาท่านหนึ่งพูดกับเธออย่างนั้น
ไทกะมองเขาด้วยสายตากังขา นี่ล่ะอุบายของอาจารย์มหาวิทยาลัยที่ความรู้สูง แต่หัวโบราณยิ่งกว่าเต่าล้านปีที่จะได้สร้างโลกส่วนตัวของตัวเองไงล่ะ
ไทกะถอนหายใจแล้วนั่งลงบนโซฟา “ตราบใดที่ฉันยังอยู่ในงาน ฉันก็ต้องทนแบบนี้ต่อไป”
อามิกอดปลอบใจเพื่อนสาว “เป็นตัวเองดีแล้ว เธอเป็นตัวของตัวเอง และปรับตัวเข้ากับพวกพี่ๆ ของเธอได้ดีมาก ส่วนเธอเองก็ยังเป็นเซลีนยอดฝีมือในวงการแฮคเกอร์”
ไทกะปัดมือไปมา “เรื่องมันงี่เง่าน่ะ แค่อึดอัดกับงานก็แค่นั้นเอง”
อามิเริ่มเป็นห่วง “ไทกะ เราเป็นเพื่อนสนิทกันมานานแล้วน่ะ ฉันรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่”
ไทกะกอดหมอนแล้วเอาฟุบลงไป“พ่อกับแม่ฉันชื่นชมพี่ๆ กันมาก เธอก็รู้นี่ว่าพ่อแม่รู้สึกยังไงกับพวกเขา” เธอโยนหมอนทิ้งไปข้างๆ “ฉันเริ่มเป็นแฮคเกอร์ตั้งแต่อยู่มอปลาย เขียนโปรแกรมเอง เคยแฮคแก้เกรดเองด้วยซ้ำ พอถูกจับได้ฉันเลยถูกกักบริเวณไม่ให้เล่นอินเตอร์เลยหนึ่งอาทิตย์ยังไม่พอฉันยังไปไนต์คลับตลอดเลยด้วยช่วงอยู่ที่เป็นเฟรชชี่ ฉันนี่มันเป็นแกะดำจริงๆ”
อามิโยนหมอนไปที่ไทกะ เรื่องนี้มันยากเกินที่เธอจะช่วยได้ ถึงแม้ไทกะจะเป็นเพื่อนรัก แต่อามิเองก็ไม่รู้จะช่วยยังไง ไทกะถูกตามใจจนเคยตัวเป็นคนที่มีความคิดเป็นตัวเองสูง ไทกะจะมองเรื่องที่อยู่ข้างหน้ามากกว่าที่จะคิดให้ดีก่อนว่าควรจะทำอะไร แต่ไทกะก็นิสัยดี เป็นห่วงเพื่อนๆ และเป็นเพื่อนสนิทของอามิ อามิเป็นเด็กทุนเรียนดี ส่วนไทกะกลับใช้ชีวิตอย่างอิสระ หัวรั้น เพื่อจะหนีจากครอบครัวที่เหมือนกรงขังเธอไว้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ