Sulfur Love (RE-Write)
9.2
เขียนโดย enzang2660
วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.57 น.
57 บท
25 วิจารณ์
132.33K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556 17.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) คำตอบบางอย่างไม่จำเป็นต้องรอการพิสูจน์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 7
℃คำตอบบางอย่างไม่จำเป็นต้องรอการพิสูจน์ Ⓢ
[Cheetah]
ถึงวันแข่งกีฬาซักทีนะ อุส่าห์ซ้อมกันมาตั้งนานหวังว่าจะได้ที่ 1 กับเขาบ้างนะ TT ผมมองบรรยากาศรอบๆโรงเรียนตอนมืดๆแบบนี้โรงเรียนนี้ดูหลอนๆดีเหมือนกันนะ วันนี้ทุกคนตื่นกันตั้งแต่ตี 3 เพื่อมาฟิตร่างกายกันแต่เช้า ตอนแรกผมจะให้มันตื่นมาโรงเรียนตี2ด้วยซ้ำ แต่สงสารพวกน้องๆมัน --;
“รดน้ำสนามหญ้าอีกล่ะ เบื่อจริง แล้วจะซ้อมยังไงวะ!!”
ผมมองไปทางต้นตอเสียงที่ก่อความรำคาญใกล้ๆสนามหญ้าที่ติดกับสนามบาส เด็กชมรมบอลคนนั้นอีกแล้ว คนที่ย้อมผมแดงแบบไม่เกรงใจอาจารย์ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นเพื่อนกับวิวนะ
“จะไปซ้อมที่ไหนล่ะครับท่านรอง ท่านประธานก็จะมาแล้วด้วยTT”
“ไปเตะลานจอดรถแล้วกัน”
มันบอกกับสมุนมัน
“ลานจอดรถมันมีประวัตินะท่านรอง -o-;;”
“ประวัติไร”
“ก็ที่เด็กโดดตึกลงมา ตายไงพี่ พวกเด็กศิลป์ที่ไปวาดรูปแถวนั้นมันเจอประจำ ชอบนั่งอยู่บนหลังคารถอาจารย์ แล้วพอใครผ่านไปเจอมันก็จะถามหาไดอารี่ที่หายไป แล้วก็..”
“พอๆ ไม่อยากฟังล่ะ”
ผมเห็นน้องมันอุดหูไม่ฟังที่สมุนมันเล่า สงสัยจะกลัว ฮ่าๆ
“แล้วไงซ้อมไหนอ่ะครับ”
“สนามบาสนี่แหละ ”
สนามผมนี่นา เฮ้ย! ได้ไง
“สนามบาสมีไว้เล่นบาส ไม่ใช่บอล”
ผมพูดลอยๆ น้องมันเดินตรงมาหาผม แถมยืนประจันหน้าผมอีก ขนาดผมอยู่ชมรมบาสยังสูงแพ้มันอีกหรอเนี่ย--;
“มีอะไร”
ผมถาม
“ยืมใช้ชั่วคราวน่า อย่างกนักเลย”
มันพูด
“นักกีฬาฉันจำเป็นต้องใช้ คงแบ่งให้พวกนายไม่ได้ ขอโทษด้วยนะ^^”
“มีตั้ง 2 สนาม”
“สนามม.ต้น กับม.ปลาย ให้พวกตัวสำรองซ้อมด้วย เต็มพอดี”
“ไม่ให้ก็จะยึด เฮ้ย! ยึดพื้นที่”
จะล้มล้างชมรมบาหรอวะ พอมันสั่งพวกนักบอลเกือบ 30 คนก็วิ่งกันเข้าไปในสนามบาสอันคับแคบ
“เฮ้ย! เดี๋ยว ”
ผมวิ่งเข้าไปลากไอ้นักฟุตบอลจอถึกพวกนั้นแต่โดนล็อกแขนไว้ซะก่อน ผมมองหน้าไอ้คนที่ล็อกแขนผม ไม่ล็อกป่าวยังดึงตัวผมไปใกล้มันอีก-o-!
“ไม่ให้เข้าไปหรอก^^”
เด็กนั่นพูด ผมดิ้นแรงๆ ต้องหลุดให้ได้ละวะ
“เด็กแขนเคล็ดหรอก”
มันบอก
“งั้นก็ปล่อยได้ล่ะ”
มันปล่อยผมออก ผมมองไปทางสนามที่มีสภาพเละเทะจนน่าตกใจเมื่อกี้เห็นตัวสำรองม.ต้นเอาลูกบอลมาโยนใส่ห่วงบาสด้วย อยากตายจริงๆTT แล้วยังไอ้พวกนักบอลที่เตะบอลอัดขานักบาสผมอีก มันเป็นการตัดกำลังกันชัดๆ-*- ผมมองไปเห็นสาวน้อย(?)ในชุดหรีดเดอร์กระโปรงสั้นของโรงเรียน ใบหน้าน่ารักๆนั่นดูเศร้าสร้อยไม่ร่าเริงตั้งแต่เกิดเรื่องในห้องน้ำวันนั้น ผมเลยเดินไปนั่งตรงขั้นบันไดข้างๆ
“วันนี้น่ารักจังเลย^^”
นัยน์ตากลมโต เหลือบมองผม
“ขอบคุณครับ”
น้องซัลยิ้มหน่อยๆ แล้วก็ก้มหน้ากลับไปเหมือนเดิม เฮ้อ~ คงไม่สบายใจสินะที่ทำให้ไอ้เซลไม่ได้ลงแข่ง แถมไอ้เซลก็เล่นหายหัวไปไม่มาโรงเรียนเลยด้วย ผมตบไหล่น้องเขาเบาๆแล้วพูด
“ไม่ต้องคิดมากหรอกนะเรื่องนั้น เซลมันโกรธใครไม่ได้นานหรอกเชื่อพี่”
น้องเขาเงยหน้าขึ้นมามองผมหน่อยๆ ผมเลยพูดต่อ
“โดยเฉพาะ ซัล มันไม่กล้าโกรธนานหรอก”
“ผมหรอ”
น้องเขาพูดพร้อมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
“ตอนที่ซัลกับเซลทะเลาะกันน่ะ เซลก็เป็นฝ่ายง้อก่อนใช่มั้ยล่ะ ฮ่าๆ^^”
“........................”
บรรยากาศย่ำแย่ลงทุกทีๆ ผมจะพลิกวิกฤติได้มั้ยเนี่ย TT
“ซัลอย่าคิดมากน่า เชื่อพี่”
“.........พี่เซลเขาคงเกลียดผมแล้ว”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกๆ^^”
ผมวิ่งเข้าไปในตึกฉีกท้ายปฏิทินมาเขียนที่อยู่คอนโดไอ้เซลแล้วเอาไปให้น้องเขา น้องเขามองหน้าผมงงๆแต่ก็รับไป
“ไปง้อมันตามที่อยู่นี่แล้วกันนะ^^”
น้องเขาพยักหน้ารับ แล้วก็กำกระดาษไว้แน่นสงสัยกลัวจะหายไปเหมือนไอ้เซลฮ่าๆ
“พี่อยากจะรู้จังเลยว่าระหว่างซัลกับไอ้เซล ใครจะฉลาดกว่ากัน^^”
“หือ?”
น้องเขาเอียงคอทำหน้างงๆ ผมไม่เข้าใจเจ้าพวกนี้เลยจริงๆ หน้าตาดูฉลาดกันทั้งคู่แท้ๆ แต่กลับไม่ฉลาด ไม่สิ ไม่เฉลียวใจมากว่า ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญของตัวเองแท้ๆ เรื่องความรักมันเป็นอะไรที่ใกล้ตัวเกินไปจนมองไม่เห็น หรือพวกมันไม่ยอมรับว่ามันชอบผู้ชายด้วยกันเองนะ-_-;
“ซัลถามตรงๆเลยนะ”
“ครับ?”
“ชอบเพื่อนพี่มั้ย?”
ขุดครับ น้องเขาก้มหน้าขุดดินใหญ่เลย ฮ่าๆ ขอขุดให้เจอน้ำมันไปเลยละกันนะ
“ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร แต่พี่อยากให้ซัลฉลาดนำหน้าไอ้เซลมันน่ะ^^”
“......................”
“ถ้ารู้คำตอบเมื่อไหร่ ไม่ต้องบอกพี่นะ”
“....................”
“ไปบอกเซลมันโน่น ไปขึ้นรถก่อนนะ^^”
ผมมองในหน้าหวานที่ฉาบไปด้วยสีแดง น่ารักจังวะ แล้วค่อยเดินไปขึ้นรถบัส จริงๆเดินไปก็ได้แท้ๆโรงเรียนใกล้กันแค่นี้ ผมเดินขึ้นมาชั้นบน ชั้นล่างพวกสาวๆเขาจองจะร้องคาราโอเกะครับ อย่าให้ดังมากแล้วกันจะหลับ=.=
“ไอ้วิว มึงนอนอย่างนั้นแล้วกูจะนั่งยังไง-*-”
เจ้าเด็กหัวแดงยืนเท้าเอวบ่นวิวเด็กชมรมผม
“มึงไปนั่งที่อื่นไปกูจะนอน-_-++”
วิวเปิดผ้าเช็ดหน้าแล้วเอ่ยปากบ่นบ้าง แล้วมันก็เปิดหน้าตามเดิม
“มึงกูก็ง่วง กูตื่นมาซ้อมตี4นะมึง-o-!”
“แต่กูตื่นมาตี 3 !! เลิกกวนกูได้ละ ไป๊!!”
วิวโบกมือไล่เพื่อนมันแถมถีบส่งด้วย ผมมองหาที่นั่งจะให้น้องมันนั่งไม่มีเลยแหะ มีที่เดียวข้างๆผมนี่แหละ
“น้อง!”
ผมเรียก น้องมันหันมาทำหน้างง
“มานั่งนี่มา”
ผมชี้ลงที่เบาะข้างๆผม
“นึกว่าชมรมบาสจะไม่ชอบชมรมบอลซะอีก”
มันพูด ก็จริงก็พวกมันชอบมาแย่งสนามชมรมบาสไปเตะบอลนี่ครับ แถมยังชอบมาโหนๆเพิ่มกล้ามกันแถวๆแป้น เห็นแล้วหมั่นไส้ครับ! ยังไม่พอชอบเตะบอลอัดหัวเด็กชมรมบาสด้วย ผมก็เคยโดนเกือบทุกวันๆละ4-5ครั้งและที่สำคัญฝีเท้ามันเนี่ยแหละ-*-!! มันเดินมานั่งข้างๆผมหงกหัวขอบคุณผม
“ท่านรองชมรมบอลกับรองประธานชมรมบาสนั่งด้วยกันด้วย~”
ไอ้เด็กบอลเบาะหลังมันพูด เดี๋ยวก็จับเลาะฟันซะหรอก!
“เห็นอนาคตอันสดใสของสองชมรมขึ้นมารางๆแล้ว^^”
ประธานชมรมบอลเบาะข้างๆพูด
“ถ้าต้ายอมให้รองชมรมบอลมานั่งด้วย อีกหน่อยคงให้ชมรมนายมาซ้อมที่สนามเราได้สบายแล้วละนะ^^”
พี่บีกินพูด
“ให้นั่งด้วยไม่ได้แปลว่ายอมให้ยึดสนามไปใช้นะครับพี่^^”
ผมพูดตอบพี่ๆ อย่าเหลิงไปหน่อยพวกชมรมบอลเอ๋ย~ ผมนอนพิงขอบหน้าต่างมองวิวระหว่างทางไปพลางๆ ในรถสงบเงียบเป็นป่าช้า แม้แต่ข้างล่างที่สาวๆนั่งก็ไม่มีเสียงไหนบอกจะร้องคาราโอเกะไง รู้งี้ไปยึดซะก็ดี นอนสบายกว่าข้างบนตั้งเยอะTT
ควับ!
“เฮ้ย! ทำอะไรเนี่ย”
ผมสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆไอ้เด็กข้างๆเอาแขนมาพาดตัวผม แถมเขยิบเข้ามาจนชิดเลยด้วย-o-;
“ไอ้ซอสอย่าไปปล้ำพี่เขานะเว้ย^^”
พี่ประธานฟุตบอลเอ่ยพลางยิ้มกริ่ม
“เห็นหน้าสวยแบบนั้นแต่โหดนะเว้ย ฮ่าๆ”
พี่บีกิน
“ผมจะปรับเบาะ”
มัน
“ก็บอกสิครับน้อง^^;”
ผมบอกมัน ผมดันแขนมันออก เบาะมันปรับครั้งนึงลงไปทั้งสองเบาะที่ปรับมันเลยมีอันเดียว ผมปรับให้มัน
“ขอบคุณฮะ ผมนึกว่าพี่หลับอยู่เลยไม่อยากปลุกน่ะ”
มันพูด พร้อมขยับตัวออกห่าง ผมก็พยักหน้ารับๆ แล้วก็นอนตะแคงชิดหน้าต่าง ทำไมรถมันขับช้าแบบนี้นะ....
ผมนั่งเหนื่อยหอบขอบอยู่ริมสนาม พอไม่มีไอ้เซลไม่รู้จะเล่นเข้าขากับใครดีเลยแฮะ อย่างน้อยก็ชนะไอ้โรงเรียนเขียวๆนี่ได้ละนะ ผมมองสาวๆ+หนึ่งหนุ่มน้อยที่ยังเต้นไม่เลิกมีคนไปถ่ายรูปเต็มเลย กระโปรงสั้นๆกับขาขาวๆนี่มันเกือบทำให้สติผมหลุดกลางสนามซะแล้ว กองเชียร์ข้างสนามโรงเรียนเราก็สวยโรงเรียนนี้ก็สวย เลือกมองไม่ถูกเลยแหะ-.,-
“ซัลถ่ายรูปหน่อยดิ”
ผมเดินไปหาน้องซัลที่กำลังกินน้ำอยู่ น้องหันมามองผมนัยน์ตาเบิกกว้างเกือบเท่าไขห่าน
“ไม่เอาอ่ะครับ ผมอายอ่ะ>///<”
น้องเขาพูดพลางส่ายหัวไปมา
“ทีโรงเรียนอื่นยังให้ถ่ายเลย ทำไมพี่ถ่ายไม่ได้อ่ะ”
“ก็มัน......-////-”
น้องเขายืนจิ้มนิ้วตัวเองยืนบิดไปบิดมา ถ่ายซะเลยละกัน ฮ่าๆ
“น่ารักดี ไปละ^^”
“ทำไมพี่ต้าทำแบบนี้อ่าT-T”
น้องเขายืนโวยวายผมไม่สนฮะ แกล้งเด็กแล้วมีความสุข ผมเดินออกจากโรงยิมจะไปที่รถไปเอากระเป๋าตังค์มาซื้อไรกินซะหน่อย
“นี่ๆขอถ่ายรูปหน่อยได้มั้ยคะ”
ผมหันหลังไปเจอเด็กชุดเขียว มากับเพื่อนอีก4-5 ผมยิ้มๆจะถ่ายตอนนี้เลยหรอ เหงื่อยังท่วมอยู่เลยนะ
“จะถ่ายหรอ เช็ดหน้าก่อนนะ อ่ะถ่ายๆ”
ผมยืนยิ้มเก๊กหล่อให้พวกเธอถ่ายรูป
“ขอบคุณค่ะ”
เธอพูดแล้วก็เดินไปแต่ยังไม่ไกลพอที่เธอสมควรจะนินทาผมนะ
“ยังมีพวกย้อมผมทองอยู่อีกหรอเนี่ย”
“แต่ก็เขากับเขาออก เขาเป็นลูกครึ่งหรือป่าวแก”
“หล่อ แต่ดูเสี่ยวๆไปหน่อยนะ”
พวกเธอพูดเกี่ยวกับผมสีบลอนด์อันเด่นชัดของผม ไม่ได้ย้อมซะหน่อยก็ผมเป็นลูกครึ่งออกจะเสี้ยวซะมากกว่านะ ปู่เป็นคนญี่ปุ่น ย่าเป็นคนไทย ยายเป็นคนไทย-จีน ตาเป็นคนฝรั่งเศส หน้าผมเลยบอกไม่ถูกว่าจะเป็นคนชาติไหนดี ผม
บลอนด์แบบฝรั่ง ผิวขาวเหมือนคนจีน ตาเล็ก หน้าสวยเหมือนคนญี่ปุ่น ผมยืนขยี้หัวตัวเองอยู่หน้าประตูรถเคยคิดจะย้อมหลายรอบแล้ว แต่ตอนเด็กๆมีเด็กคนนึง
บอกว่าผมสีนี้มันสวยผมเลยไม่ย้อม^^
“จะไปไรกิน มึงเอาไรป่าว”
เสียงน้องหัวแดงนี่หว่า
“เอาทุกอย่างที่มึงมีปัญญาจ่าย”
วิวตอบ
“ก็ไปช่วยกูหิ้วดิ”
“กูง่วง ซื้อชามาให้กูด้วย”
ผมหยิบกระเป๋าตังค์ข้างบนแล้วก็เลยลงบันไดไป ปล่อยให้พวกมันอยู่ข้างบนกันสองคน แต่ดูเหมือนอีกคนจะเดินตามผมลงมา
“พี่ไปไหนอ่ะ”
เด็กหัวแดงมันถามผม ตามมารยาทก็ต้องตอบสินะ
“ไปซื้อขนมน่ะ^^”
“ผมไปด้วย หิว”
มันพูดแล้วก้าวขายาวๆนำหน้าผมไป กลับกันสิ มันต้องเดินตามผมไม่ใช่หรอแล้วไหงผมต้องเดินตามมันอ่ะ-o-;
ผมนั่งรออยู่หน้าร้านค้า ไม่ได้อยากกินขนมพวกนี้เท่าไหร่อยากกินสายไหมที่ขายอยู่นอกโรงเรียนต่างหาก แต่......นั่นมันขนมเด็ก ผมโตแล้วจะไปกินอะไรเด็กๆแบบนั้นได้ยังไง ถ้ารุ่นน้องมาเห็นมันคงล้อผมตายเลยTT
“ไม่กินอะไรหรอ”
มันเดินออกมาแล้วถามผม ถุงขนมเต็มมือเลย เหมามาสินะ
“ขนมแบบนั้นไม่ค่อยชอบน่ะ^^”
ผมตอบ น้องมันนั่งลงข้างๆผมแล้วก็แกะไอติมโคนกิน น่ากินจังเลยอ่ะ-.-
“อยู่ต่อหน้าผมทำตัวตามสบายก็ได้นะ”
หือ มันพูดอะไรของมัน
“ฉันก็ทำตัวตามสบายๆนี่^^”
“แต่รอยยิ้มนั่นมันดูฝืนๆนะ”
ดูออกด้วยหรอ แต่ผมก็ติดการพูดไปยิ้มไปจนชินแล้วนี่นา
“งั้นหรอ โทษทีนะ^^”
“ถึงจะเป็นผู้นำคนแต่ไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่แสนใจดีอยู่ตลอดเวลาก็ได้นะ”
“บางทีก็โหดบ้างแหละ ไม่ได้ใจดีตลอดซักหน่อย-3-”
“หมายถึงทำตัวเป็นเด็กบ้างก็ได้ เอ้า!”
มันยื่นไอติมรูปคิตตี้สีหวานแหววมาให้ผม –o- ; มันจะเด็กเกินไปหรือป่าวน่ะ
ผมรับมาแล้วก็ลองกินดู ทำไมต้องมากินอะไรต๊องๆแบบนี้ด้วยนะ งับ!-_-;
“ไปเดินเที่ยวกันดีกว่า ไป^^”
มันลุกขื้นยืนตรงหน้าผม มือใหญ่ๆยื่นมาเชิญให้ผมลุกขึ้นไปเดินเล่นด้วยกัน ผมนั่งนิ่งไม่ขยับตัวราวกับว่าเห็นภาพซ้อนทับของคนตรงหน้ากับเด็กผู้ชายในความทรงจำเมื่อครั้งยังเป็นเด็กของผม เด็กผู้ชายที่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดดร้อนแรงที่สาดส่องลงมากลับดูเจิดจ้ามากว่าแสงดวงตะวันดวงนั้น รอยยิ้มสดใสนั่นทำให้ผมเผลอยื่นมือออกไป มือแสนอบอุ่นจับมือผมไว้แล้วดึงให้ยืนขึ้นแล้วก้าวเดินไปพร้อมๆกัน
[Celsius]
เวลาขาเจ็บแล้วต้องมานั่งแก่วอยู่บ้านแบบนี้มันน่าเบื่อจริงๆ วันแรกขาบวมจนยัดรองเท้าไม่เข้าเลย แถมเดินแทบไม่ได้ต้องโทรตามไอ้ต้าไอ้พาไปโรง’บาล หมอบอกดีที่กระดูกไม่หัวแค่ข้อเท้าเคล็ดเอ็นช้ำนิดหน่อย แต่นิดหน่อยของหมอเนี่ยมันทำให้ผมเดินเกือบไม่ได้ทั้งอาทิตย์เลยนะ--; น่าโมโหทั้งเจ้าเด็กนั่นจริงๆเลย ซุ่มซ่ามสุดๆมันเกือบล้มผมเลยต้องกระโดดไปรับมันไว้ แล้วสุดท้ายผมก็เจ็บแทนมันซะงั้น แถมอดลงแข่งด้วยรอบนี้ แต่สงสัยผมจะทำเกินไปหน่อยนะที่จะถ่ายคลิปมันในห้องน้ำกะว่าแค่ทำนิดๆหน่อยๆก็พอดันหลอมตัวเกือบปล้ำมันไปซะได้-_-;;
“หนังสือไรวะเนี่ย?”
ผมหยิบหนังสือที่วางอยู่บนโซฟาขึ้นมา เมื่อวานไอ้ต้ามันมาเยี่ยมเอารูปไอ้เด็กนั่นมาให้ดู เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามันเป็นหรีดฯแถมเพื่อนผมยังส่งเข้ามือถือให้อีก ผมหยิบหนังสือที่มีหน้าปกเป็นสาวสวยหุ่นสะบึ้มในชุดซีทรูสีหวานขึ้นมาดู เปิดอ่านไปพลางๆพลิกไปคอลัมน์ที่ใครๆก็ต้องอ่าน-.,- ไม่ได้ทะลึ่งนะแต่มันเป็นธรรมดา
S.E.X COLUMN by เจ้ดำ
สวัสดีจ้าคุณผู้อ่านทั้งหลายทั้งกระทิง กระเทย เก้ง กวาง ชะนีหรือชายแท้หญิงเทียม วันเจ้ดำบินกลับมาตอบคำถามคลายข้อสังสัยให้แกะน้อยที่หลงทางแล้วนะจ๊ะ ฉบับแรกเลยดีกว่าไม่ต้องฟังฉันบ่นมาก
สวัสดีครับเจ้ดำ ผมมีเรื่องสงสัยนิดหน่อยอยากจะถามเจ้ครับแต่มันเป็นเรื่องของเพื่อนผมนะครับ ผมสงสัยว่ามันจะชอบผู้ชายด้วยกันเองน่ะครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือป่าว เจ้ช่วยบอกข้อสังเกตเล็กๆน้อยๆให้ผมรู้หน่อยนะครับ อีกข้อนึงแล้วผู้ชายเนี่ยมันอะไรๆกันครั้งแรกต้องทำยังไงครับ-///-
คาซิโนบ่อนไก่ใต้ทางด่วน
พรึ่บ!
ผมปิดหน้าหนังสือลงทันทีO.O เปิดมาก็ชายxชายเลยหรอเนี่ย กะว่าจะมาอ่านปัญหาของสาวๆซะหน่อย-.-; ผมมองซ้ายมองขวาก่อนจะก้มอ่านต่อ(ซะงั้น)
แหมๆ ไอ้เรื่องรักๆใคร่ๆจะชายๆหรือหญิงๆมันก็เหมือนกันหมดแหละ ง่ายๆเลยนะเพื่อนหนูช่วงนี้เขาเป็นยีราฟหรือป่าว
ไม่มาก็รอๆมันเข้าไป
เปิดประเด็นคุยทีไรต้องเอาเรื่องคนนั้นมาพูด
หรืออาจจะชอบหาเรื่องให้โดนด่าก็ได้
แต่บางคนอาจจะขี้อาย ก็เป็นแบบข้อ 1 จ้า
ผมหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูเบอร์ใครวะ “น้องซัล” เบอร์มันหรอ มาอยู่ในเครื่องผมได้ไงอ่ะ ผมไม่เคยขอเลยนะ ไอ้ต้าแน่ๆมันแอบเมมไว้แน่ๆเลยไอ้ตัวแสบ แถมมีเมลล์ให้ซะด้วย-o-;;
แต่ผู้ชายบางคนไม่ค่อยกล้ายอมรับใจตัวเองหรอกค่ะว่าชอบผู้ชายด้วยกัน เพราะคิดว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงเท่านั้น!! พอรู้สึกชอบผู้ชายเลยคิดว่าตัวเองแปลก ก็เลยต่อต้านหัวใจตัวเองซะเลย ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะ แต่เจ้เชียร์ให้ยอมรับซะ เพราะสมัยนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ต้องหลบๆซ่อน โลกมันเปิดกว้างแล้วนะหนู หัดดูทีวีซะบ้าง!!
กูไม่ได้ชอบโวย กูชอบเนยต่างหาก กูไม่ได้ชอบมานนนนนนนนนน!!!
เจ้ว่าผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องนี้และกำลังอ่านอยู่ตอนนี้คงโอดครวญโหยหวนกันไปตามๆกันอยู่แน่ๆค่ะนะคะ
แม่ งรู้ได้ไงวะ หลอนหว่ะ-o-;;~
เจ้แนะนำเลยนะ ฮ่าๆ ลองให้เพื่อนหนูไปจับผู้ชายคนนั้นมาจูบซักทีรับลองรู้ซึ้งถึงใจตัวเองแน่นอนค่ะ ถ้าจูบไปแล้วไม่รู้สึกดี แปลว่าไม่ชอบค่ะ แต่ถ้าจูบแล้วอยากทำอย่างอื่นต่อ เพื่อนหนูก็เป็นแน่นอนค่ะ!!(ถ้าไม่ใช่จะนอนให้ถีบหน้าเลยค่ะ^^)
อ่านไปแล้วย้อนมอง จูบหรอ เคยไปแล้ว-/////-
จูบแล้วจะทำอย่างอื่นต่อ ............... ชัดเลย กูเป็นเกย์หรอออออOoO!! ว้ากก! ผมปาหนังสือทิ้งทันที นี่มันเรื่องอะไรกัน !!!
ผมหยิบมือถือขึ้นมาหารูปใครคนนั้น อยู่ไปก็รกเครื่องลบๆทิ้งไปน่ะแหละ ผมเลื่อนๆหา อ่ะ! เจอละ รูปเด็กนั่นใส่ชุดเชียร์แขนกุดโชว์แขนขาว กระโปรงมันสั้นไปนะเลยเข่าไปหลายคืบเลย เกล้าจุกสองข้างแถมผูกโบว์ด้วย ทำท่าเอานิ้วจิ้มๆกันอยู่ ใบหน้าหวานๆนั่นแดงระเรื่อเล็กน้อย ลบต้องลบ ถ้ากูลบไม่ได้ก็แปลว่ากูชอบมันจริงๆสิ มันที่เป็นผู้ชาย!!
ต้องการลบภาพนี้
[ใช่][ยกเลิก]
ผมนั่งจ้องมือถืออยู่ครู่นึง รูปมันก็น่ารักดีนะ-///- หาดูยากด้วย เฮ้ย!!ไม่ใช่ละผมพยายามเลื่อนนิ้วไปที่คำว่าลบ แต่นิ้วมันไม่กระดิกสงสัยจะเล่นเกมมากไปนิ้วเลยค้างกูต้องลบ ของแค่นี้เองทำไมทำไม่ได้ กูชอบเนยๆๆ ไม่ใช่ซัลลลลลล
ก๊อกๆ
ผมวางมือถือแล้วเดินไปที่ประตู สงสัยไอ้ต้าจะมา แต่แม่ งก็ไม่โทรบอกล่วงหน้าซะงั้น จะฝากซื้อของหน่อย
แอ๊ด~
ผมเปิดประตูออก ผมยืนอึ้งมองคนตัวเล็กผิวขาวหน้าตาราวกับตุ๊กตาสวมเสื้อกล้ามแบบบีบอยสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นเหนือเข่าโชว์ขาขาว แถมติดกิ๊ฟเพนกวินสีน้ำเงินอีกด้วย มันยิ้มน้อยๆให้ผม มาทำไม มาทำอะไรตอนนี้-o-!!
ปึ๊ก!
“โอ๊ย!”
เสียงร้องดังมาจากข้างนอก กับเสียงประตูที่ดังแปลกๆทำให้ผมต้องเปิดประตูพรวดอีกรอบ ผมยกแขนเล็กๆที่โดนประตูหนีบขึ้นมาดู แขนที่รอยแดงเป็นแนวยาวมีรอยถลอกหน่อยๆ
“ก็เห็นอยู่ว่าจะปิดประตูจะยื่นแขนเข้ามาทำไม!”
ผมตวาดมันเสียงดัง ถ้าแขนหักจะทำยังไงล่ะ แรงผมไม่ใช่เบาๆซะด้วย
“ผะ....ผมซื้อของมาฝากครับ”
มันก้มหน้ายื่นถุงกระดาษมาให้ผม ทำไมมันชอบทำให้ผมรู้สึกเป็นคนผิดอยู่เรื่อยนะ
“ขอบใจ”
ผมพูดพร้อมยื่นมือไปรับ
“เอ่อ... เรื่องวันนั้น ผมขอโทษด้วยนะครับ...”
มันพูดแล้วก้มหน้าจนคอจะหักอยู่แล้ว น้ำเสียงมันสั่นเครือ จะมาดราม่าหน้าห้องไม่ได้นะเฮ้ย!
“ผมไปก่อนนะฮะ หายไวๆนะ^^”
ผมมองรอยยิ้มฝืดๆของมัน มันยิ้มจนตาหยีจนมองไม่เห็นลูกตา แต่ผมเห็นประกายหยดน้ำใสๆในตามัน ผมทำให้มันร้องไห้อีกแล้ว เวรกรรม
“เข้ามาข้างในก่อนสิ”
ผมเปิดกว้างขึ้น แล้วผายมือเชิญมันเข้าห้อง มันไปนั่งที่โซฟาส่วนผมก็เอาของไปเก็บแล้วรินน้ำเย็นๆมาให้มันกิน
“น้ำ”
ผมพูดพร้อมยื่นแก้วไปตรงหน้ามัน มันรับไปแล้วก็ซดอึกสองอึก ผมนั่งลงข้างๆมันแล้วเปิดทีวีให้เสียงทีวีทำลายความเงียบสงบที่ดูกดดันนี่ซะ
“ทำอะไรน่ะ!”
ผมร้องอย่างตกใจอยู่ๆมันก็นั่งลงที่ปลายเท้าผม กลายร่างเป็นนางทาสไปแล้วหรอไอ้เด็กบ้า มันจับข้อเท้าที่มีผ้าพันไว้ของผมขึ้นมา แล้วก็ช้อนตามองผม
“เจ็บหรือป่าวครับ”
มันถาม
“ไม่ค่อยเจ็บแล้วล่ะ”
ผมตอบมันไป แต่มันก็ยังไม่ปล่อยเท้าผม จะเอากลับบ้านไปด้วยมันเดี๋ยวพี่จะตัดให้--;
“ผมขอโทษนะ”
มันก้มหน้าอีก เฮ้อ~
“ช่างมันเถอะ ฉันไม่โกรธอะไรแล้วละ”
“ผมขอโทษนะ”
“พอได้แล้วน่า”
“ผมขอโทษ...ฮึก ขอโทษ”
ไม่ทันซะแล้ว ใบหน้าหวานนั่นมีน้ำหยดลงมาซะแล้ว ผมดึงตัวมันให้ลุกขึ้นมานั่งข้างๆ แล้วปาดน้ำตาให้มัน เห็นน้ำตามันทีไรผมก็ใจอ่อนยอมยกโทษให้มันทุกทีเลยบ้าจริงกะว่าจะแกล้งให้มันรู้สึกผิดเล่นซักหน่อย
“ไม่ต้องร้องน่าๆ แต่งตัวมาน่ารักแท้ๆ^^”
ผมพูดแล้วยิ้มให้มันมันเงยหน้ามองแล้วก็สวมกอดผม แขนเล็กๆกอดเอวผมไว้แน่นแล้วปล่อยโฮออกมา ผมจับหัวมันซบกับอกของผมแล้วลูบเส้นผมมันเบาๆ
“ผะ...ผม...ฮือ ทำให้..พี่..อดแข่ง”
มันบ่นอู้อี้กับอกผม
“รอบหน้าก็ลงได้ น่าจะหายทันนะ”
แต่ข้อเท้าผมมันปูดออกไปข้างนึงน่ะ ต้องรอให้มันกลับสภาพเดิมก่อน
“อืม ผม...จะ...ไป...ฮึก เชียร์พี่นะ”
ผมกระชับอ้อมแขนกอดคนตัวเล็ก ไออุ่นจากคนในอ้อมแขนทำให้ผมลืมอาการเจ็บที่ข้อเท้าทันที ผมรู้ว่าหัวใจของผมกำลังเต้นแรงแข่งกับหัวใจของคนในอ้อมกอด ถึงผมจะเคยกอดกับเนยหรือจูบกันบ้างตอนที่คบกัน แต่ผมกลับรู้สึกต้องการเจ้าตัวเล็กคนนี้ ..... ต้องการไออุ่นจากคนๆนี้ ....... ต้องการสัมผัสริมฝีปากสีเชอร์รี่คู่นี้........ และต้องการเป็นเจ้าของ.......คนๆนี้ ผมจูบเรือนผมสีน้ำตาลอ่อน ทำไมมันทำตัวน่านุถนอมนี้นะ
“ซัล”
ผมเรียกชื่อมัน มันเงยหน้ามองผม ดวงตากลมโตฉายแววสงสัยประมาณว่ามึงเรียกชื่อกูทำไม
“ถ้ากอดนายมากขึ้นกว่านี้ ฉันกลัวว่า....”
“...อะไร”
มันถาม
“จะทำแบบนั้นกับนายอีก”
ผมดันมันออกจากอ้อมแขน เพราะตัวมันอบอุ่นเกินไป มันทำให้ตัวผมที่ว่างเปล่าเหมือนถูกเติมเต็มขึ้นมาก็จริง แต่..... มนุษย์มีความต้องการที่ไร้ขีดจำกัดนะ
“ผะ.......ผมมีเรื่องนึง....ที่อยากพิสูจน์”
มันจับแขนเสื้อผมไว้ไม่ให้ผมลุกหนีมันไปไหน แววตามันสื่อความรู้สึกบางอย่างการพิสูจน์นี่ที่มันพูดมีความหมายตรงกับสิ่งที่ผมอยากจะพิสูจน์เหมือนกัน
“ฉันก็เหมือนกัน...”
คนตัวเล็กขยับขึ้นมานั่งคร่อมบนตักผม ผมเล็กๆจับไหล่หนาของผม มันจ้องมองลึกเข้ามาในดวงตาผมทำให้ผมอดเขินไม่ได้ ผมดันหลังมันให้ตัวมันเขยิบเข้าหาผมอีกนิด ไกลไปอยู่.... คว้าเอวมันค่อยๆดึงตัวมันให้เข้ามาชิดกับตัวผม ริมฝีปากสีกุหลาบเผยอออกอย่างเชิญชวน มีหรือที่ผมจะอดใจไหว ไม่ลิ้มลองริมฝีปากแสนหวานนั่น แต่ก่อนจะลิ้มรสผมคงต้องเตือนอะไรบางอย่างกับเจ้าตัวน้อยข้างหน้าซะหน่อย ในเมื่อมันเลือกที่จะทำเรื่องอันตรายแบบนี้ล่ะก็........
“จะมาร้องห้ามตอนนี้ไม่ได้แล้วนะ”
℃คำตอบบางอย่างไม่จำเป็นต้องรอการพิสูจน์ Ⓢ
[Cheetah]
ถึงวันแข่งกีฬาซักทีนะ อุส่าห์ซ้อมกันมาตั้งนานหวังว่าจะได้ที่ 1 กับเขาบ้างนะ TT ผมมองบรรยากาศรอบๆโรงเรียนตอนมืดๆแบบนี้โรงเรียนนี้ดูหลอนๆดีเหมือนกันนะ วันนี้ทุกคนตื่นกันตั้งแต่ตี 3 เพื่อมาฟิตร่างกายกันแต่เช้า ตอนแรกผมจะให้มันตื่นมาโรงเรียนตี2ด้วยซ้ำ แต่สงสารพวกน้องๆมัน --;
“รดน้ำสนามหญ้าอีกล่ะ เบื่อจริง แล้วจะซ้อมยังไงวะ!!”
ผมมองไปทางต้นตอเสียงที่ก่อความรำคาญใกล้ๆสนามหญ้าที่ติดกับสนามบาส เด็กชมรมบอลคนนั้นอีกแล้ว คนที่ย้อมผมแดงแบบไม่เกรงใจอาจารย์ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นเพื่อนกับวิวนะ
“จะไปซ้อมที่ไหนล่ะครับท่านรอง ท่านประธานก็จะมาแล้วด้วยTT”
“ไปเตะลานจอดรถแล้วกัน”
มันบอกกับสมุนมัน
“ลานจอดรถมันมีประวัตินะท่านรอง -o-;;”
“ประวัติไร”
“ก็ที่เด็กโดดตึกลงมา ตายไงพี่ พวกเด็กศิลป์ที่ไปวาดรูปแถวนั้นมันเจอประจำ ชอบนั่งอยู่บนหลังคารถอาจารย์ แล้วพอใครผ่านไปเจอมันก็จะถามหาไดอารี่ที่หายไป แล้วก็..”
“พอๆ ไม่อยากฟังล่ะ”
ผมเห็นน้องมันอุดหูไม่ฟังที่สมุนมันเล่า สงสัยจะกลัว ฮ่าๆ
“แล้วไงซ้อมไหนอ่ะครับ”
“สนามบาสนี่แหละ ”
สนามผมนี่นา เฮ้ย! ได้ไง
“สนามบาสมีไว้เล่นบาส ไม่ใช่บอล”
ผมพูดลอยๆ น้องมันเดินตรงมาหาผม แถมยืนประจันหน้าผมอีก ขนาดผมอยู่ชมรมบาสยังสูงแพ้มันอีกหรอเนี่ย--;
“มีอะไร”
ผมถาม
“ยืมใช้ชั่วคราวน่า อย่างกนักเลย”
มันพูด
“นักกีฬาฉันจำเป็นต้องใช้ คงแบ่งให้พวกนายไม่ได้ ขอโทษด้วยนะ^^”
“มีตั้ง 2 สนาม”
“สนามม.ต้น กับม.ปลาย ให้พวกตัวสำรองซ้อมด้วย เต็มพอดี”
“ไม่ให้ก็จะยึด เฮ้ย! ยึดพื้นที่”
จะล้มล้างชมรมบาหรอวะ พอมันสั่งพวกนักบอลเกือบ 30 คนก็วิ่งกันเข้าไปในสนามบาสอันคับแคบ
“เฮ้ย! เดี๋ยว ”
ผมวิ่งเข้าไปลากไอ้นักฟุตบอลจอถึกพวกนั้นแต่โดนล็อกแขนไว้ซะก่อน ผมมองหน้าไอ้คนที่ล็อกแขนผม ไม่ล็อกป่าวยังดึงตัวผมไปใกล้มันอีก-o-!
“ไม่ให้เข้าไปหรอก^^”
เด็กนั่นพูด ผมดิ้นแรงๆ ต้องหลุดให้ได้ละวะ
“เด็กแขนเคล็ดหรอก”
มันบอก
“งั้นก็ปล่อยได้ล่ะ”
มันปล่อยผมออก ผมมองไปทางสนามที่มีสภาพเละเทะจนน่าตกใจเมื่อกี้เห็นตัวสำรองม.ต้นเอาลูกบอลมาโยนใส่ห่วงบาสด้วย อยากตายจริงๆTT แล้วยังไอ้พวกนักบอลที่เตะบอลอัดขานักบาสผมอีก มันเป็นการตัดกำลังกันชัดๆ-*- ผมมองไปเห็นสาวน้อย(?)ในชุดหรีดเดอร์กระโปรงสั้นของโรงเรียน ใบหน้าน่ารักๆนั่นดูเศร้าสร้อยไม่ร่าเริงตั้งแต่เกิดเรื่องในห้องน้ำวันนั้น ผมเลยเดินไปนั่งตรงขั้นบันไดข้างๆ
“วันนี้น่ารักจังเลย^^”
นัยน์ตากลมโต เหลือบมองผม
“ขอบคุณครับ”
น้องซัลยิ้มหน่อยๆ แล้วก็ก้มหน้ากลับไปเหมือนเดิม เฮ้อ~ คงไม่สบายใจสินะที่ทำให้ไอ้เซลไม่ได้ลงแข่ง แถมไอ้เซลก็เล่นหายหัวไปไม่มาโรงเรียนเลยด้วย ผมตบไหล่น้องเขาเบาๆแล้วพูด
“ไม่ต้องคิดมากหรอกนะเรื่องนั้น เซลมันโกรธใครไม่ได้นานหรอกเชื่อพี่”
น้องเขาเงยหน้าขึ้นมามองผมหน่อยๆ ผมเลยพูดต่อ
“โดยเฉพาะ ซัล มันไม่กล้าโกรธนานหรอก”
“ผมหรอ”
น้องเขาพูดพร้อมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
“ตอนที่ซัลกับเซลทะเลาะกันน่ะ เซลก็เป็นฝ่ายง้อก่อนใช่มั้ยล่ะ ฮ่าๆ^^”
“........................”
บรรยากาศย่ำแย่ลงทุกทีๆ ผมจะพลิกวิกฤติได้มั้ยเนี่ย TT
“ซัลอย่าคิดมากน่า เชื่อพี่”
“.........พี่เซลเขาคงเกลียดผมแล้ว”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกๆ^^”
ผมวิ่งเข้าไปในตึกฉีกท้ายปฏิทินมาเขียนที่อยู่คอนโดไอ้เซลแล้วเอาไปให้น้องเขา น้องเขามองหน้าผมงงๆแต่ก็รับไป
“ไปง้อมันตามที่อยู่นี่แล้วกันนะ^^”
น้องเขาพยักหน้ารับ แล้วก็กำกระดาษไว้แน่นสงสัยกลัวจะหายไปเหมือนไอ้เซลฮ่าๆ
“พี่อยากจะรู้จังเลยว่าระหว่างซัลกับไอ้เซล ใครจะฉลาดกว่ากัน^^”
“หือ?”
น้องเขาเอียงคอทำหน้างงๆ ผมไม่เข้าใจเจ้าพวกนี้เลยจริงๆ หน้าตาดูฉลาดกันทั้งคู่แท้ๆ แต่กลับไม่ฉลาด ไม่สิ ไม่เฉลียวใจมากว่า ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญของตัวเองแท้ๆ เรื่องความรักมันเป็นอะไรที่ใกล้ตัวเกินไปจนมองไม่เห็น หรือพวกมันไม่ยอมรับว่ามันชอบผู้ชายด้วยกันเองนะ-_-;
“ซัลถามตรงๆเลยนะ”
“ครับ?”
“ชอบเพื่อนพี่มั้ย?”
ขุดครับ น้องเขาก้มหน้าขุดดินใหญ่เลย ฮ่าๆ ขอขุดให้เจอน้ำมันไปเลยละกันนะ
“ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร แต่พี่อยากให้ซัลฉลาดนำหน้าไอ้เซลมันน่ะ^^”
“......................”
“ถ้ารู้คำตอบเมื่อไหร่ ไม่ต้องบอกพี่นะ”
“....................”
“ไปบอกเซลมันโน่น ไปขึ้นรถก่อนนะ^^”
ผมมองในหน้าหวานที่ฉาบไปด้วยสีแดง น่ารักจังวะ แล้วค่อยเดินไปขึ้นรถบัส จริงๆเดินไปก็ได้แท้ๆโรงเรียนใกล้กันแค่นี้ ผมเดินขึ้นมาชั้นบน ชั้นล่างพวกสาวๆเขาจองจะร้องคาราโอเกะครับ อย่าให้ดังมากแล้วกันจะหลับ=.=
“ไอ้วิว มึงนอนอย่างนั้นแล้วกูจะนั่งยังไง-*-”
เจ้าเด็กหัวแดงยืนเท้าเอวบ่นวิวเด็กชมรมผม
“มึงไปนั่งที่อื่นไปกูจะนอน-_-++”
วิวเปิดผ้าเช็ดหน้าแล้วเอ่ยปากบ่นบ้าง แล้วมันก็เปิดหน้าตามเดิม
“มึงกูก็ง่วง กูตื่นมาซ้อมตี4นะมึง-o-!”
“แต่กูตื่นมาตี 3 !! เลิกกวนกูได้ละ ไป๊!!”
วิวโบกมือไล่เพื่อนมันแถมถีบส่งด้วย ผมมองหาที่นั่งจะให้น้องมันนั่งไม่มีเลยแหะ มีที่เดียวข้างๆผมนี่แหละ
“น้อง!”
ผมเรียก น้องมันหันมาทำหน้างง
“มานั่งนี่มา”
ผมชี้ลงที่เบาะข้างๆผม
“นึกว่าชมรมบาสจะไม่ชอบชมรมบอลซะอีก”
มันพูด ก็จริงก็พวกมันชอบมาแย่งสนามชมรมบาสไปเตะบอลนี่ครับ แถมยังชอบมาโหนๆเพิ่มกล้ามกันแถวๆแป้น เห็นแล้วหมั่นไส้ครับ! ยังไม่พอชอบเตะบอลอัดหัวเด็กชมรมบาสด้วย ผมก็เคยโดนเกือบทุกวันๆละ4-5ครั้งและที่สำคัญฝีเท้ามันเนี่ยแหละ-*-!! มันเดินมานั่งข้างๆผมหงกหัวขอบคุณผม
“ท่านรองชมรมบอลกับรองประธานชมรมบาสนั่งด้วยกันด้วย~”
ไอ้เด็กบอลเบาะหลังมันพูด เดี๋ยวก็จับเลาะฟันซะหรอก!
“เห็นอนาคตอันสดใสของสองชมรมขึ้นมารางๆแล้ว^^”
ประธานชมรมบอลเบาะข้างๆพูด
“ถ้าต้ายอมให้รองชมรมบอลมานั่งด้วย อีกหน่อยคงให้ชมรมนายมาซ้อมที่สนามเราได้สบายแล้วละนะ^^”
พี่บีกินพูด
“ให้นั่งด้วยไม่ได้แปลว่ายอมให้ยึดสนามไปใช้นะครับพี่^^”
ผมพูดตอบพี่ๆ อย่าเหลิงไปหน่อยพวกชมรมบอลเอ๋ย~ ผมนอนพิงขอบหน้าต่างมองวิวระหว่างทางไปพลางๆ ในรถสงบเงียบเป็นป่าช้า แม้แต่ข้างล่างที่สาวๆนั่งก็ไม่มีเสียงไหนบอกจะร้องคาราโอเกะไง รู้งี้ไปยึดซะก็ดี นอนสบายกว่าข้างบนตั้งเยอะTT
ควับ!
“เฮ้ย! ทำอะไรเนี่ย”
ผมสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆไอ้เด็กข้างๆเอาแขนมาพาดตัวผม แถมเขยิบเข้ามาจนชิดเลยด้วย-o-;
“ไอ้ซอสอย่าไปปล้ำพี่เขานะเว้ย^^”
พี่ประธานฟุตบอลเอ่ยพลางยิ้มกริ่ม
“เห็นหน้าสวยแบบนั้นแต่โหดนะเว้ย ฮ่าๆ”
พี่บีกิน
“ผมจะปรับเบาะ”
มัน
“ก็บอกสิครับน้อง^^;”
ผมบอกมัน ผมดันแขนมันออก เบาะมันปรับครั้งนึงลงไปทั้งสองเบาะที่ปรับมันเลยมีอันเดียว ผมปรับให้มัน
“ขอบคุณฮะ ผมนึกว่าพี่หลับอยู่เลยไม่อยากปลุกน่ะ”
มันพูด พร้อมขยับตัวออกห่าง ผมก็พยักหน้ารับๆ แล้วก็นอนตะแคงชิดหน้าต่าง ทำไมรถมันขับช้าแบบนี้นะ....
ผมนั่งเหนื่อยหอบขอบอยู่ริมสนาม พอไม่มีไอ้เซลไม่รู้จะเล่นเข้าขากับใครดีเลยแฮะ อย่างน้อยก็ชนะไอ้โรงเรียนเขียวๆนี่ได้ละนะ ผมมองสาวๆ+หนึ่งหนุ่มน้อยที่ยังเต้นไม่เลิกมีคนไปถ่ายรูปเต็มเลย กระโปรงสั้นๆกับขาขาวๆนี่มันเกือบทำให้สติผมหลุดกลางสนามซะแล้ว กองเชียร์ข้างสนามโรงเรียนเราก็สวยโรงเรียนนี้ก็สวย เลือกมองไม่ถูกเลยแหะ-.,-
“ซัลถ่ายรูปหน่อยดิ”
ผมเดินไปหาน้องซัลที่กำลังกินน้ำอยู่ น้องหันมามองผมนัยน์ตาเบิกกว้างเกือบเท่าไขห่าน
“ไม่เอาอ่ะครับ ผมอายอ่ะ>///<”
น้องเขาพูดพลางส่ายหัวไปมา
“ทีโรงเรียนอื่นยังให้ถ่ายเลย ทำไมพี่ถ่ายไม่ได้อ่ะ”
“ก็มัน......-////-”
น้องเขายืนจิ้มนิ้วตัวเองยืนบิดไปบิดมา ถ่ายซะเลยละกัน ฮ่าๆ
“น่ารักดี ไปละ^^”
“ทำไมพี่ต้าทำแบบนี้อ่าT-T”
น้องเขายืนโวยวายผมไม่สนฮะ แกล้งเด็กแล้วมีความสุข ผมเดินออกจากโรงยิมจะไปที่รถไปเอากระเป๋าตังค์มาซื้อไรกินซะหน่อย
“นี่ๆขอถ่ายรูปหน่อยได้มั้ยคะ”
ผมหันหลังไปเจอเด็กชุดเขียว มากับเพื่อนอีก4-5 ผมยิ้มๆจะถ่ายตอนนี้เลยหรอ เหงื่อยังท่วมอยู่เลยนะ
“จะถ่ายหรอ เช็ดหน้าก่อนนะ อ่ะถ่ายๆ”
ผมยืนยิ้มเก๊กหล่อให้พวกเธอถ่ายรูป
“ขอบคุณค่ะ”
เธอพูดแล้วก็เดินไปแต่ยังไม่ไกลพอที่เธอสมควรจะนินทาผมนะ
“ยังมีพวกย้อมผมทองอยู่อีกหรอเนี่ย”
“แต่ก็เขากับเขาออก เขาเป็นลูกครึ่งหรือป่าวแก”
“หล่อ แต่ดูเสี่ยวๆไปหน่อยนะ”
พวกเธอพูดเกี่ยวกับผมสีบลอนด์อันเด่นชัดของผม ไม่ได้ย้อมซะหน่อยก็ผมเป็นลูกครึ่งออกจะเสี้ยวซะมากกว่านะ ปู่เป็นคนญี่ปุ่น ย่าเป็นคนไทย ยายเป็นคนไทย-จีน ตาเป็นคนฝรั่งเศส หน้าผมเลยบอกไม่ถูกว่าจะเป็นคนชาติไหนดี ผม
บลอนด์แบบฝรั่ง ผิวขาวเหมือนคนจีน ตาเล็ก หน้าสวยเหมือนคนญี่ปุ่น ผมยืนขยี้หัวตัวเองอยู่หน้าประตูรถเคยคิดจะย้อมหลายรอบแล้ว แต่ตอนเด็กๆมีเด็กคนนึง
บอกว่าผมสีนี้มันสวยผมเลยไม่ย้อม^^
“จะไปไรกิน มึงเอาไรป่าว”
เสียงน้องหัวแดงนี่หว่า
“เอาทุกอย่างที่มึงมีปัญญาจ่าย”
วิวตอบ
“ก็ไปช่วยกูหิ้วดิ”
“กูง่วง ซื้อชามาให้กูด้วย”
ผมหยิบกระเป๋าตังค์ข้างบนแล้วก็เลยลงบันไดไป ปล่อยให้พวกมันอยู่ข้างบนกันสองคน แต่ดูเหมือนอีกคนจะเดินตามผมลงมา
“พี่ไปไหนอ่ะ”
เด็กหัวแดงมันถามผม ตามมารยาทก็ต้องตอบสินะ
“ไปซื้อขนมน่ะ^^”
“ผมไปด้วย หิว”
มันพูดแล้วก้าวขายาวๆนำหน้าผมไป กลับกันสิ มันต้องเดินตามผมไม่ใช่หรอแล้วไหงผมต้องเดินตามมันอ่ะ-o-;
ผมนั่งรออยู่หน้าร้านค้า ไม่ได้อยากกินขนมพวกนี้เท่าไหร่อยากกินสายไหมที่ขายอยู่นอกโรงเรียนต่างหาก แต่......นั่นมันขนมเด็ก ผมโตแล้วจะไปกินอะไรเด็กๆแบบนั้นได้ยังไง ถ้ารุ่นน้องมาเห็นมันคงล้อผมตายเลยTT
“ไม่กินอะไรหรอ”
มันเดินออกมาแล้วถามผม ถุงขนมเต็มมือเลย เหมามาสินะ
“ขนมแบบนั้นไม่ค่อยชอบน่ะ^^”
ผมตอบ น้องมันนั่งลงข้างๆผมแล้วก็แกะไอติมโคนกิน น่ากินจังเลยอ่ะ-.-
“อยู่ต่อหน้าผมทำตัวตามสบายก็ได้นะ”
หือ มันพูดอะไรของมัน
“ฉันก็ทำตัวตามสบายๆนี่^^”
“แต่รอยยิ้มนั่นมันดูฝืนๆนะ”
ดูออกด้วยหรอ แต่ผมก็ติดการพูดไปยิ้มไปจนชินแล้วนี่นา
“งั้นหรอ โทษทีนะ^^”
“ถึงจะเป็นผู้นำคนแต่ไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่แสนใจดีอยู่ตลอดเวลาก็ได้นะ”
“บางทีก็โหดบ้างแหละ ไม่ได้ใจดีตลอดซักหน่อย-3-”
“หมายถึงทำตัวเป็นเด็กบ้างก็ได้ เอ้า!”
มันยื่นไอติมรูปคิตตี้สีหวานแหววมาให้ผม –o- ; มันจะเด็กเกินไปหรือป่าวน่ะ
ผมรับมาแล้วก็ลองกินดู ทำไมต้องมากินอะไรต๊องๆแบบนี้ด้วยนะ งับ!-_-;
“ไปเดินเที่ยวกันดีกว่า ไป^^”
มันลุกขื้นยืนตรงหน้าผม มือใหญ่ๆยื่นมาเชิญให้ผมลุกขึ้นไปเดินเล่นด้วยกัน ผมนั่งนิ่งไม่ขยับตัวราวกับว่าเห็นภาพซ้อนทับของคนตรงหน้ากับเด็กผู้ชายในความทรงจำเมื่อครั้งยังเป็นเด็กของผม เด็กผู้ชายที่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดดร้อนแรงที่สาดส่องลงมากลับดูเจิดจ้ามากว่าแสงดวงตะวันดวงนั้น รอยยิ้มสดใสนั่นทำให้ผมเผลอยื่นมือออกไป มือแสนอบอุ่นจับมือผมไว้แล้วดึงให้ยืนขึ้นแล้วก้าวเดินไปพร้อมๆกัน
[Celsius]
เวลาขาเจ็บแล้วต้องมานั่งแก่วอยู่บ้านแบบนี้มันน่าเบื่อจริงๆ วันแรกขาบวมจนยัดรองเท้าไม่เข้าเลย แถมเดินแทบไม่ได้ต้องโทรตามไอ้ต้าไอ้พาไปโรง’บาล หมอบอกดีที่กระดูกไม่หัวแค่ข้อเท้าเคล็ดเอ็นช้ำนิดหน่อย แต่นิดหน่อยของหมอเนี่ยมันทำให้ผมเดินเกือบไม่ได้ทั้งอาทิตย์เลยนะ--; น่าโมโหทั้งเจ้าเด็กนั่นจริงๆเลย ซุ่มซ่ามสุดๆมันเกือบล้มผมเลยต้องกระโดดไปรับมันไว้ แล้วสุดท้ายผมก็เจ็บแทนมันซะงั้น แถมอดลงแข่งด้วยรอบนี้ แต่สงสัยผมจะทำเกินไปหน่อยนะที่จะถ่ายคลิปมันในห้องน้ำกะว่าแค่ทำนิดๆหน่อยๆก็พอดันหลอมตัวเกือบปล้ำมันไปซะได้-_-;;
“หนังสือไรวะเนี่ย?”
ผมหยิบหนังสือที่วางอยู่บนโซฟาขึ้นมา เมื่อวานไอ้ต้ามันมาเยี่ยมเอารูปไอ้เด็กนั่นมาให้ดู เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามันเป็นหรีดฯแถมเพื่อนผมยังส่งเข้ามือถือให้อีก ผมหยิบหนังสือที่มีหน้าปกเป็นสาวสวยหุ่นสะบึ้มในชุดซีทรูสีหวานขึ้นมาดู เปิดอ่านไปพลางๆพลิกไปคอลัมน์ที่ใครๆก็ต้องอ่าน-.,- ไม่ได้ทะลึ่งนะแต่มันเป็นธรรมดา
S.E.X COLUMN by เจ้ดำ
สวัสดีจ้าคุณผู้อ่านทั้งหลายทั้งกระทิง กระเทย เก้ง กวาง ชะนีหรือชายแท้หญิงเทียม วันเจ้ดำบินกลับมาตอบคำถามคลายข้อสังสัยให้แกะน้อยที่หลงทางแล้วนะจ๊ะ ฉบับแรกเลยดีกว่าไม่ต้องฟังฉันบ่นมาก
สวัสดีครับเจ้ดำ ผมมีเรื่องสงสัยนิดหน่อยอยากจะถามเจ้ครับแต่มันเป็นเรื่องของเพื่อนผมนะครับ ผมสงสัยว่ามันจะชอบผู้ชายด้วยกันเองน่ะครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือป่าว เจ้ช่วยบอกข้อสังเกตเล็กๆน้อยๆให้ผมรู้หน่อยนะครับ อีกข้อนึงแล้วผู้ชายเนี่ยมันอะไรๆกันครั้งแรกต้องทำยังไงครับ-///-
คาซิโนบ่อนไก่ใต้ทางด่วน
พรึ่บ!
ผมปิดหน้าหนังสือลงทันทีO.O เปิดมาก็ชายxชายเลยหรอเนี่ย กะว่าจะมาอ่านปัญหาของสาวๆซะหน่อย-.-; ผมมองซ้ายมองขวาก่อนจะก้มอ่านต่อ(ซะงั้น)
แหมๆ ไอ้เรื่องรักๆใคร่ๆจะชายๆหรือหญิงๆมันก็เหมือนกันหมดแหละ ง่ายๆเลยนะเพื่อนหนูช่วงนี้เขาเป็นยีราฟหรือป่าว
ไม่มาก็รอๆมันเข้าไป
เปิดประเด็นคุยทีไรต้องเอาเรื่องคนนั้นมาพูด
หรืออาจจะชอบหาเรื่องให้โดนด่าก็ได้
แต่บางคนอาจจะขี้อาย ก็เป็นแบบข้อ 1 จ้า
ผมหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูเบอร์ใครวะ “น้องซัล” เบอร์มันหรอ มาอยู่ในเครื่องผมได้ไงอ่ะ ผมไม่เคยขอเลยนะ ไอ้ต้าแน่ๆมันแอบเมมไว้แน่ๆเลยไอ้ตัวแสบ แถมมีเมลล์ให้ซะด้วย-o-;;
แต่ผู้ชายบางคนไม่ค่อยกล้ายอมรับใจตัวเองหรอกค่ะว่าชอบผู้ชายด้วยกัน เพราะคิดว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงเท่านั้น!! พอรู้สึกชอบผู้ชายเลยคิดว่าตัวเองแปลก ก็เลยต่อต้านหัวใจตัวเองซะเลย ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะ แต่เจ้เชียร์ให้ยอมรับซะ เพราะสมัยนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ต้องหลบๆซ่อน โลกมันเปิดกว้างแล้วนะหนู หัดดูทีวีซะบ้าง!!
กูไม่ได้ชอบโวย กูชอบเนยต่างหาก กูไม่ได้ชอบมานนนนนนนนนน!!!
เจ้ว่าผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องนี้และกำลังอ่านอยู่ตอนนี้คงโอดครวญโหยหวนกันไปตามๆกันอยู่แน่ๆค่ะนะคะ
แม่ งรู้ได้ไงวะ หลอนหว่ะ-o-;;~
เจ้แนะนำเลยนะ ฮ่าๆ ลองให้เพื่อนหนูไปจับผู้ชายคนนั้นมาจูบซักทีรับลองรู้ซึ้งถึงใจตัวเองแน่นอนค่ะ ถ้าจูบไปแล้วไม่รู้สึกดี แปลว่าไม่ชอบค่ะ แต่ถ้าจูบแล้วอยากทำอย่างอื่นต่อ เพื่อนหนูก็เป็นแน่นอนค่ะ!!(ถ้าไม่ใช่จะนอนให้ถีบหน้าเลยค่ะ^^)
อ่านไปแล้วย้อนมอง จูบหรอ เคยไปแล้ว-/////-
จูบแล้วจะทำอย่างอื่นต่อ ............... ชัดเลย กูเป็นเกย์หรอออออOoO!! ว้ากก! ผมปาหนังสือทิ้งทันที นี่มันเรื่องอะไรกัน !!!
ผมหยิบมือถือขึ้นมาหารูปใครคนนั้น อยู่ไปก็รกเครื่องลบๆทิ้งไปน่ะแหละ ผมเลื่อนๆหา อ่ะ! เจอละ รูปเด็กนั่นใส่ชุดเชียร์แขนกุดโชว์แขนขาว กระโปรงมันสั้นไปนะเลยเข่าไปหลายคืบเลย เกล้าจุกสองข้างแถมผูกโบว์ด้วย ทำท่าเอานิ้วจิ้มๆกันอยู่ ใบหน้าหวานๆนั่นแดงระเรื่อเล็กน้อย ลบต้องลบ ถ้ากูลบไม่ได้ก็แปลว่ากูชอบมันจริงๆสิ มันที่เป็นผู้ชาย!!
ต้องการลบภาพนี้
[ใช่][ยกเลิก]
ผมนั่งจ้องมือถืออยู่ครู่นึง รูปมันก็น่ารักดีนะ-///- หาดูยากด้วย เฮ้ย!!ไม่ใช่ละผมพยายามเลื่อนนิ้วไปที่คำว่าลบ แต่นิ้วมันไม่กระดิกสงสัยจะเล่นเกมมากไปนิ้วเลยค้างกูต้องลบ ของแค่นี้เองทำไมทำไม่ได้ กูชอบเนยๆๆ ไม่ใช่ซัลลลลลล
ก๊อกๆ
ผมวางมือถือแล้วเดินไปที่ประตู สงสัยไอ้ต้าจะมา แต่แม่ งก็ไม่โทรบอกล่วงหน้าซะงั้น จะฝากซื้อของหน่อย
แอ๊ด~
ผมเปิดประตูออก ผมยืนอึ้งมองคนตัวเล็กผิวขาวหน้าตาราวกับตุ๊กตาสวมเสื้อกล้ามแบบบีบอยสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นเหนือเข่าโชว์ขาขาว แถมติดกิ๊ฟเพนกวินสีน้ำเงินอีกด้วย มันยิ้มน้อยๆให้ผม มาทำไม มาทำอะไรตอนนี้-o-!!
ปึ๊ก!
“โอ๊ย!”
เสียงร้องดังมาจากข้างนอก กับเสียงประตูที่ดังแปลกๆทำให้ผมต้องเปิดประตูพรวดอีกรอบ ผมยกแขนเล็กๆที่โดนประตูหนีบขึ้นมาดู แขนที่รอยแดงเป็นแนวยาวมีรอยถลอกหน่อยๆ
“ก็เห็นอยู่ว่าจะปิดประตูจะยื่นแขนเข้ามาทำไม!”
ผมตวาดมันเสียงดัง ถ้าแขนหักจะทำยังไงล่ะ แรงผมไม่ใช่เบาๆซะด้วย
“ผะ....ผมซื้อของมาฝากครับ”
มันก้มหน้ายื่นถุงกระดาษมาให้ผม ทำไมมันชอบทำให้ผมรู้สึกเป็นคนผิดอยู่เรื่อยนะ
“ขอบใจ”
ผมพูดพร้อมยื่นมือไปรับ
“เอ่อ... เรื่องวันนั้น ผมขอโทษด้วยนะครับ...”
มันพูดแล้วก้มหน้าจนคอจะหักอยู่แล้ว น้ำเสียงมันสั่นเครือ จะมาดราม่าหน้าห้องไม่ได้นะเฮ้ย!
“ผมไปก่อนนะฮะ หายไวๆนะ^^”
ผมมองรอยยิ้มฝืดๆของมัน มันยิ้มจนตาหยีจนมองไม่เห็นลูกตา แต่ผมเห็นประกายหยดน้ำใสๆในตามัน ผมทำให้มันร้องไห้อีกแล้ว เวรกรรม
“เข้ามาข้างในก่อนสิ”
ผมเปิดกว้างขึ้น แล้วผายมือเชิญมันเข้าห้อง มันไปนั่งที่โซฟาส่วนผมก็เอาของไปเก็บแล้วรินน้ำเย็นๆมาให้มันกิน
“น้ำ”
ผมพูดพร้อมยื่นแก้วไปตรงหน้ามัน มันรับไปแล้วก็ซดอึกสองอึก ผมนั่งลงข้างๆมันแล้วเปิดทีวีให้เสียงทีวีทำลายความเงียบสงบที่ดูกดดันนี่ซะ
“ทำอะไรน่ะ!”
ผมร้องอย่างตกใจอยู่ๆมันก็นั่งลงที่ปลายเท้าผม กลายร่างเป็นนางทาสไปแล้วหรอไอ้เด็กบ้า มันจับข้อเท้าที่มีผ้าพันไว้ของผมขึ้นมา แล้วก็ช้อนตามองผม
“เจ็บหรือป่าวครับ”
มันถาม
“ไม่ค่อยเจ็บแล้วล่ะ”
ผมตอบมันไป แต่มันก็ยังไม่ปล่อยเท้าผม จะเอากลับบ้านไปด้วยมันเดี๋ยวพี่จะตัดให้--;
“ผมขอโทษนะ”
มันก้มหน้าอีก เฮ้อ~
“ช่างมันเถอะ ฉันไม่โกรธอะไรแล้วละ”
“ผมขอโทษนะ”
“พอได้แล้วน่า”
“ผมขอโทษ...ฮึก ขอโทษ”
ไม่ทันซะแล้ว ใบหน้าหวานนั่นมีน้ำหยดลงมาซะแล้ว ผมดึงตัวมันให้ลุกขึ้นมานั่งข้างๆ แล้วปาดน้ำตาให้มัน เห็นน้ำตามันทีไรผมก็ใจอ่อนยอมยกโทษให้มันทุกทีเลยบ้าจริงกะว่าจะแกล้งให้มันรู้สึกผิดเล่นซักหน่อย
“ไม่ต้องร้องน่าๆ แต่งตัวมาน่ารักแท้ๆ^^”
ผมพูดแล้วยิ้มให้มันมันเงยหน้ามองแล้วก็สวมกอดผม แขนเล็กๆกอดเอวผมไว้แน่นแล้วปล่อยโฮออกมา ผมจับหัวมันซบกับอกของผมแล้วลูบเส้นผมมันเบาๆ
“ผะ...ผม...ฮือ ทำให้..พี่..อดแข่ง”
มันบ่นอู้อี้กับอกผม
“รอบหน้าก็ลงได้ น่าจะหายทันนะ”
แต่ข้อเท้าผมมันปูดออกไปข้างนึงน่ะ ต้องรอให้มันกลับสภาพเดิมก่อน
“อืม ผม...จะ...ไป...ฮึก เชียร์พี่นะ”
ผมกระชับอ้อมแขนกอดคนตัวเล็ก ไออุ่นจากคนในอ้อมแขนทำให้ผมลืมอาการเจ็บที่ข้อเท้าทันที ผมรู้ว่าหัวใจของผมกำลังเต้นแรงแข่งกับหัวใจของคนในอ้อมกอด ถึงผมจะเคยกอดกับเนยหรือจูบกันบ้างตอนที่คบกัน แต่ผมกลับรู้สึกต้องการเจ้าตัวเล็กคนนี้ ..... ต้องการไออุ่นจากคนๆนี้ ....... ต้องการสัมผัสริมฝีปากสีเชอร์รี่คู่นี้........ และต้องการเป็นเจ้าของ.......คนๆนี้ ผมจูบเรือนผมสีน้ำตาลอ่อน ทำไมมันทำตัวน่านุถนอมนี้นะ
“ซัล”
ผมเรียกชื่อมัน มันเงยหน้ามองผม ดวงตากลมโตฉายแววสงสัยประมาณว่ามึงเรียกชื่อกูทำไม
“ถ้ากอดนายมากขึ้นกว่านี้ ฉันกลัวว่า....”
“...อะไร”
มันถาม
“จะทำแบบนั้นกับนายอีก”
ผมดันมันออกจากอ้อมแขน เพราะตัวมันอบอุ่นเกินไป มันทำให้ตัวผมที่ว่างเปล่าเหมือนถูกเติมเต็มขึ้นมาก็จริง แต่..... มนุษย์มีความต้องการที่ไร้ขีดจำกัดนะ
“ผะ.......ผมมีเรื่องนึง....ที่อยากพิสูจน์”
มันจับแขนเสื้อผมไว้ไม่ให้ผมลุกหนีมันไปไหน แววตามันสื่อความรู้สึกบางอย่างการพิสูจน์นี่ที่มันพูดมีความหมายตรงกับสิ่งที่ผมอยากจะพิสูจน์เหมือนกัน
“ฉันก็เหมือนกัน...”
คนตัวเล็กขยับขึ้นมานั่งคร่อมบนตักผม ผมเล็กๆจับไหล่หนาของผม มันจ้องมองลึกเข้ามาในดวงตาผมทำให้ผมอดเขินไม่ได้ ผมดันหลังมันให้ตัวมันเขยิบเข้าหาผมอีกนิด ไกลไปอยู่.... คว้าเอวมันค่อยๆดึงตัวมันให้เข้ามาชิดกับตัวผม ริมฝีปากสีกุหลาบเผยอออกอย่างเชิญชวน มีหรือที่ผมจะอดใจไหว ไม่ลิ้มลองริมฝีปากแสนหวานนั่น แต่ก่อนจะลิ้มรสผมคงต้องเตือนอะไรบางอย่างกับเจ้าตัวน้อยข้างหน้าซะหน่อย ในเมื่อมันเลือกที่จะทำเรื่องอันตรายแบบนี้ล่ะก็........
“จะมาร้องห้ามตอนนี้ไม่ได้แล้วนะ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ