Sulfur Love (RE-Write)
9.2
เขียนโดย enzang2660
วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.57 น.
57 บท
25 วิจารณ์
132.35K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556 17.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
55) Special[ss2] ...ไม่บอก...
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความSpecial[Sulfur Love SS 2]
...ไม่บอก...
“ซิลลงมาเอาขนมไปให้ไอติมกินหน่อยสิลูก~”
เสียงเล็กเจื้อยแจ้วมาจากด้านล่าง ผมจำได้ว่ามันคือเสียงแม่ซัล
“คร้าบบบบ แปปนึงงงง>O<”
ไอ้ซิลตะโกนตอบกลับไป แขนเล็กๆดันตัวลุกออกจากโต๊ะญี่ปุ่นตัวเตี้ย ใบหน้าจิ้มลิ้ม(แม่ผมเคยบอกงั้นว่าไอ้เชี่ยนี่มันหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักดี....หรอ-.-) หันควับมองผม ไอ้ซิลยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมมือมันก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือที่กำลังจรดปากกาลงบนกระดาษ
“ไอ้ติม...”
ไอ้ซิลพูดกดเสียง มือเล็กๆบีบรอบข้อมือผมอย่างแรงจนผมรู้สึกเหมือนกระดูกจะแตก
“ไร” ผมถาม
“ถ้ามึงยุ่งกับพี่กูนะมึง..-.-”
“กูไม่ยุ่งหรอก....หล่อตายอ่ะ”
คนถูกนินทาระยะประชิดเงยหน้าจากตำราภาษาอังกฤษเล่มหนาขึ้นมองผม ดวงตาสีเข้มจ้องมองผมบหน้าหล่อตีสีหน้าเรียบนิ่งเหมือนไม่พอใจอะไรบางอย่าง ผมดันกรอบแว่นขึ้นเล็กน้อยพลางเอียงหน้าหลบสายตาที่จ้องมองมายังผม
“กูไม่ให้ยุ่งแต่กูไม่ได้ให้มึงเกลียดพี่กูนะเว้ย มึงอย่าทำเหมือนพี่กูเป็นตัวเชื้อโรคได้มั้ยวะ-o-!”
เชื้อโรค? ผมมองระยะห่างระหว่างผมกับพี่ชายของไอ้ซิล ก็ไม่ห่างกันเท่าไหร่หรอกนะแค่เมตรกว่าๆเอง
“มึงบอกไม่ให้ยุ่งกูก็ไม่ยุ่งแล้วไงมึงจะอะไรนักหนา-*-” ผมถามแบบฉุนๆ
“ขึ้นเสียงหรอห๊ะ พี่กูออกจะหล่อมึงไม่สนหรอ>O<” ไอ้ซิลถามกลับ
“ไม่สนเว้ย หล่อตรงไหนวะ-*-”
“หล่อพอๆกับพ่อ มึงอ่ะ กูไปเอาขนมแปปนึง-o-”
ไอ้ซิลสะบัดก้นเดินออกไปจากห้องนอนสีครามอ่อน ผมถอนหายใจแล้วยกมือขึ้นบีบข้อมือตัวเองเบาๆตรงรอยแดงที่ไอ้เตี้ยซิลมันบีบผม เออ-*- ผมอุส่าห์มาช่วยมันทำการบ้านเสียเวลาอ่านหนังสือผมมากเลยมันยังลีลาไม่ลงไปเอาขนมมาเซ่นผมแถมยังย้ำห้ามเรื่องน่าเบื่อ....
วืด!
ตัวผมถูกกระชากเอนไปกระแทกกับแผงอกหนา มืออุ่นล็อกคอผมให้เชิดหน้าสบตาดวงตาคม ผมนอนแข็งทื่ออยู่ในอ้อมอกของบุคคลต้องห้าม ดะ...เดี๋ยว-o-;;
“สำหรับติมแล้วพี่น่าเกลียดมากนักหรอ”
เสียงทุ้มเอ่ยเรียบ ใบหน้าหล่อโน้มลงมาหาผม ผมหายใจติดขัดพยายามเบี่ยงหน้าหลบปลายจมูกโด่งที่ทิ่มอยู่บนจมูกผมแต่มือใหญ่ก็ล็อกหน้าผมไว้แน่นจนไม่สามารถหันไปไหนได้ ผมเลยต้องจำใจยอมให้คนข้างหน้าฉวยริมฝีปากของผมไปโดยปริยาย
“แฮ่ก....อื้ม! เดี๋ยว”
ผมพยายามอ้าปากประท้วงใต้ริมฝีปากเรียว คนตัวสูงไม่สนใจกลับเร่งกดจูบให้หน่วงหนักยิ่งขึ้น ปลายลิ้นหนารุกล้ำเข้ามาในโพรงปากผม มันตวัดดูดกลืนความหวานในปากผมอย่างหิวกระหาย
พลั่ก!
“แค่กๆ! แฮ่ก...แฮ่ก”
หลังจากผมพลักร่างสูงออกผมก็กางมือยันคนตัวหญ่ไว้ไม่ให้เข้าใกล้ ผมโก่งคอไอเพราะสำลักน้ำลาย มึงจะรีบจูบทำไมวะกูหายใจไม่ทัน!
“พี่ขอโทษนะ...กินน้ำก่อนๆ”
พี่โซลย่นคิ้วเข้าหากันใบหน้าพี่เขาดูเป็นกังวลที่ทำให้ผมไออย่างหนัก ผมรับแก้วน้ำลงมากรอกลงคอ ไม่ได้ช่วยไรเท่าไหร่หรอกนะผมว่าเพราะผมยังรู้สึกแสบคออยู่เลย-o-
“ขอโทษนะ” พี่โซลย้ำอีก
“ไม่เป็นไร”ผมบอก
“เราไม่ได้ทำแบบนี้มานานมากแล้วนะ พอมีโอกาสพี่ก็เลย...”
ผมก้มหน้าซ่อนใบหน้าแดงก่ำเอาไว้ ผมจับมือหนาขึ้นมากุมเอาไว้ ดวงตาเข้มเบิกกว้างอย่างตกใจ ผมเป็นพวกบอกรักไม่เก่งให้แสดงออกก็ไม่ค่อยจะเป็น-///-
“...คิดถึงผมหรอ^///^”ผมถาม
“คิดถึงสิ...อยากกอดจนจะบ้าตายอยู่แล้ว”
อย่าทำให้ผมเขินมากได้มั้ย ผมจะลงไปนอนชักแล้วนะ>/////<
“ผะ...ผมก็คิดถึงพี่โซลฮะ-////-”
ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มสดใสพลางโถมตัวกอดรัดผมเอาไว้ ผมลอบสูดกลิ่นหอมของเสื้อยืดสีอ่อนเบาๆ ผมอยากจะอยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆนี้อีกสักหน่อยแต่ก็ต้องคอยระวังไม่ให้ไอ้เพื่อนตัวดีมันเห็น คบกับบุคคลต้องห้ามแบบนี้มันทำไผมลำบากไม่ใช่น้อย คู่ผมอาจไม่หวานเหมือนคู่รักคนอื่นๆ ไม่ค่อยได้เดินจูงมือ ไม่ค่อยได้คุยซึ่งๆหน้ากันเท่าไหร่
“พี่รักติมนะ..”
พี่โซลประทับจูบบนริมฝีปากผมซ้ำอีกรอบ แรงบดเบียดเหมือนต้องการจะตราตรึงสัมผัสความเป็นเจ้าของมันทำให้ผมอดใจเต้นแรงไม่ได้ ลมร้อนๆที่เป่ารดต้นคอทำให้ผมต้องเอียงคอยอมให้คนตัวใหญ่ฝังรอยจูบแดงๆเอาไว้ เสียงฝีเท้าหนักๆที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆผมกับพี่โซลผละออกจากกัน
ปึง!
“มึงงงง...แอบทำไรพี่กูหรือป่าว-.-”
ไอ้ซิลเปิดประตูผลั๊วะ ตากลมโตของมันหรี่ลงเหมือนจะจับผิดผม มือมันก็ถือถาดขนมตั้งท่าจะร่อนใส่หน้าผม-*-
“ป่าวนี่”
ผมบอกแบบตายด้าน ไอ้ซิลจ้องหน้าผมอีกรอบผมก็เลยต้องพยายามสบตามันกลับไม่ให้เป็นพิรุธ กูเก่งนะเรื่องจ้องตาเนี่ย-.-
“แล้วไป-3-”
มันกระแทกถาดลงบนโต๊ะก่อนจะหยิบคุ้กกี้ชิ้นโตขึ้นมาป้อนพี่มัน พี่โซลยักคอหลบเล็กน้อยแต่พอเห็นไอ้ซิลทำแก้มป่องพี่โซลเลยยอมอ้าปากงับ
“ไม่มีมือหยิบกินเองหรือไง” ผมแขวะ
“..ก็ไม่มีน่ะสิ^^”
พี่โซลกระตุกยิ้มมุมปากชนดที่ว่าแมลงสาบเห็นยังดิ้นตาย(รอยยิ้มไบกอน-o-) ก็นะคงไม่มีปัญญาหยิบกินเองได้หรอก ก็ผมน่ะ....นั่งกุมมือกันอยู่ใต้โต๊ะนี่
...จุ๊ๆ อย่าบอกไอ้ซิลนะ>.O!...
ปึง!
ผมเปิดตู้ล็อกเกอร์ที่เต็มไปด้วยหนังสือก่อนจะเหลือบมองล็อกเกอร์ข้างๆที่มีกล่องของขวัญและจดหมายจำนวนมากไหลออกมาเป็นลาบน้ำตกเลย อ่า! โทษครับหิวไปหน่อย-////- ไอ้เตี้ยซิลยืนกอดอกมองธารของขวัญที่ทะลักออกมา อ่า...วันนี้วันวาเลนท์ไทน์นี่นา
...วาเลนท์ไทน์!!...
วันที่จะได้อยู่กับแฟน อยู่กับพี่โซล>////< แต่....สิบปีมาแล้วละที่ผมกับพี่โซลไม่เคยอยู่ด้วยกันในวันแห่งความรักนี่เลย เพราะบางปีพี่โซลก็ถูกลากไปปาร์ตี้จับคู่หรือไม่ก็โดนไอ้เตี้ยข้างๆผมกักตัวไว้-*- ถามว่าผมทนได้ยังไงที่พี่เขาไปเดทกับคนอื่นในวันนี้ ผมไม่ได้ทน! แต่ผมทำอะไรไม่ได้! ให้ผมเดินไปประกาศว่าคนนี้แฟนกู! ทำแบบนั้นคงไม่ดี...ผมไม่อยากให้คนมองว่าพี่เขาเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน ผมไม่อยากให้คนมองพี่เขาเป็นพวกไม่ปกติ อีกอย่างถ้าไอ้ซิลรู้...บ้านแตก!!
“วันนี้มึงช่วยกูขนกลับบ้านหน่อยดิ-3-”ไอ้ซิลหันมาบอกผม
“ไม่ว่าง” ผมตอบ
“ไม่ว่างได้ไงวะเพื่อนป่ะๆ><”
“ใครเพื่อนมึง-o-”
“กูจะดราม่าแล้วนะT^T”
“-.-”
สรุปผมต้องยอมมันสินะ นี่มึงเห็นกูเป็นเพื่อนหรือเบ๊กันแน่วะ-o-
“เออๆ” ผมตอบส่งๆ
ทำไมผมไม่ได้บ้างนะจมหมายรักอะไรงี้ๆT^T ผมหมายถึง...ได้จากผู้หญิงอ่ะนะ-o-
“นี่ๆไอติม>///<”
เพื่อนผู้หญิงนห้องสะกิดไหล่ผมแล้วยื่นซองกระดาษสีแดงเข้มมาให้ผม ขอเหวอซัก10วิได้มั้ยOoO! จมหมาย...จมหมายให้ผมหรอ ในที่สุดก็ได้จมหมายจากผู้หญิงแล้ว>O<!
“ฝากให้พี่โซลหน่อยนะ>////<”
เพล้ง!
จินตนาการออกอากาศของผมดับสลายเศษเสี้ยวของมันค่อยๆหล่นลงบนพื้น ผมยืนอ้าปากเหวอครู่นึงพอได้สติว่ามันไม่ใช่ของผม ผมก็...ทำใจT^T
“อืม” ผมตอบ
“ขอบใจมากนะ เค้ารักตัวเองที่สุดเลย>////<”
ผู้หญิงคนนั้นกระโดดเอานมมาชนแขนผมแล้วกระโจนหอมแก้มผมดังฟอด ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มแห้งๆให้ไป แบบว่าต้องเอาจมหมายรักไปส่งให้แฟนตัวเอง... แบบนี้มันจะดีหรอวะ-o-! จะว่าไปวาเลนไทน์(หรือวันไหนๆ)ผมก็ไม่เคยให้อะไรพี่โซลเลย เป็นฝ่ายรับตลอด-.-
“จมหมายไรวะนั่น-.-” ไอ้ซิลถาม
“ป่าวไม่มีไร^^” ผมรีบเก็บมันยัดลงกระเป๋า
“มีความลับหรอมึง-.-”
“กูเคยมีความลับกับมึงหรอวะ^^;”
ความลับทุกเรื่องของกูมึงก็เสือ กจนรู้หมดแล้วนี่ ยกเว้นเรื่องเดียวที่ยังไม่มีใครรู้^^
“ไปแด กข้าวกัน หิวหว่ะ><”
ไอ้ซิลบอกพลางล็อกคอผม ด้วยความที่มันเตี้ยกว่าผมๆเลยเดินเอียงจนล้มไปนั่งพับเพียบเรียบร้อยบนพื้นเลย-_-;
“อ้าว! อยากถูพื้นก็ไม่บอกO.o”
-*- ถูที่หน้ามึงสิ ผมมองพื้นที่บิดไปบิดมา ผมพยายามหรี่ตามองภาพข้างหน้าให้ชัดๆ ผมป้ายมือสะเปะสะปะหาแว่นของผม ถ้าไม่มีแว่นผมคงอยู่ไม่ได้-o-
“นี่ครับหัวหน้า^^”
ผมเงยหน้ามองเพื่อนในห้อง ใครวะ-o- แต่เอาเป็นว่าผมรีบยื่นมือไปรับแว่นมาใส่ดีกว่า ผมไม่อยากให้ใครเห็นหน้าโล่งๆนานๆ
“เราว่าหัวหน้าไม่ต้องใส่แว่นหรอก เสียดายออกจะน่ารักแท้ๆ>///<”
เพื่อนผู้ชายคนเมื่อกี้บอก น่ารัก? ผมอ่ะนะ-o-?
หมับ!
มือใหญ่คว้าตัวผมเซเข้าไปประทะกับแผงอก มืออีกข้างก็ปิดตาผมจนมองไม่เห็นอะไรเลย ผมดิ้นพลางดึงมือหนาออกจากใบหน้า
“รู้มั้ยว่าหน้าตัวเองขี้เหร่แค่ไหน”
ผมชะงักมือที่จะแกะแขนพี่โซลออก นั่นสิ...ผมมันขี้เหร่ ใครจะไปหล่อแบบพี่ละ
“รู้แล้ว...”
ทำไมชอบย้ำนักนะว่าผมหน้าตาไม่ดี อย่าเอาปมด้อยคนอื่นมาตอกย้ำได้มั้ย ผมยืนนิ่งๆไม่แสดงอารมณ์ว่าจริงๆแล้วผมกำลังไม่พอใจ ผมก็อิจฉานะที่พี่โซลหล่อส่วนผมมันแค่ลูกเป็นขี้เหร่ บางทีก็แอบคิดว่าเราเหมาะสมกันมั้ย...
“ปล่อยได้แล้วครับผมจะใส่แว่นแล้ว” ผมบอก
คนตัวใหญ่ขยับตัวถอยออกจากผมไป ผมก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันไปมองคนข้างหลัง พี่เขาคงไม่คิดว่าผมโกรธหรอกมั้ง ก็ปกติเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นผมมักจะทำเหมือนพี่เขาไม่มีตัวตน ผมไม่อยากให้คนอื่นจับได้ว่าเราคบกัน
...ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง....
ผมทำไปเพื่อพี่แค่นั้นแหละ ผมเปิดจอมือถือดูตัวเลข 14/02ที่เด่นหราอยู่บนจอ เอาน่าก็แค่วันๆหนึ่งในปีก็เท่านั้น
ครืด~ ครืด~
ผมกดเปิดข้อความที่ถูกส่งเข้ามาก่อนหันหลังกลับไปมองชายหนุ่มที่ยกมือถือตัวเองขึ้นมาจรดริมฝีปาก ใบหน้าหล่อที่อาบสีแดงจ้องมองผมซะรู้สึกหวิวๆ
ให้ตายสิโกรธพี่เขาไม่ได้นานเลยผมน่ะ
.... วันนี้เราไปเดทกันนะ ....
โซล
ผมเดินหิ้วถุงดำขนาดใหญ่ ถ้าเปลี่ยนเป็นถุงผ้าสีแดงคงเหมือนลุงซานต้ามากอ่ะ ข้างในมีแต่กล่องของขวัญที่คอยทิ่มแทงหลังผมอยู่ ผมเหวี่ยงถึงดำลงบนเตียงสีฟ้าอ่อน ไอ้เจ้าของห้องมองหน้าผมอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินเอาหมอนมาฟาดหัวผม
“ไรมึงวะ-*-” ผมถาม
“มึงโยนทำไมวะ ของพวกนี้กูจะส่งไปให้ลีลี่จังนะเว้ย>O<!!”ไอ้ซิลบอก
“ส่งไปเขาจะรับหรอ ขนาดส่งจดหมายไปยังไม่มีตอบกลับมาซักฉบับ-.-”
“มึง....-*-”
เหมือนจะพูดจี้ใจมันไปหน่อย ฮ่าๆ ไอ้ซิลทำหน้างอนๆแล้วยกหมอนตีผมอีกรอบ เห็นกูเป็นกระสอบทรายหรือไงวะ-o-!
“เจ็บเว้ย! กูกลับละนะ” ผมบอก
“อยู่กับกูก่อนดิวะ>o<”
“กูมีธุระ”
ธุระสำคัญมากๆเลย>///<
“ทิ้งกูไง มึงจะไปไหน-o-” ไอ้ซิลถาม
“ไป...ไปเที่ยวๆๆ” ผมตอบ
“วันนี้อ่ะนะ-.-”
“วันไหนมันก็เหมือนกันแหละน่า-_-”
“วันนี้มึงต้องอยู่กับกูดิ><”
“มึงเป็นแฟนกูหรือไงละ-o-!”
...ชิบหายแล้วไง-o-…
ไอ้ซิลตาเหลือกมองหน้าผมนิ่ง หวังว่าคงไม่ฉลาดคิดตามสิ่งที่ผมพูดหรอกนะ-o-;
“วันวาเลนไทน์ก็ต้องอยู่กับแฟนใช่มั้ยละ ฮ่าๆ” แถครับ
“สนใจวันนี้ด้วยหรอ-.-” ไอ้ซิลถาม
“มึงถามไรเยอะแยะวะ กะ..กูไปก่อนนะO.O”
ผมเมินเสียงตะโกนเรียกรีบวิ่งไปให้พ้นรัศมีบ้านไอ้ซิล ผมพลิกข้อมือดูนาฬิกาเรียนสีเข้มทุกๆ5นาที ผมไม่อยากไปสายในวันเดทนี่นา พอวิ่งไปที่นัดพบแล้วผมคงต้องแว้บไปห้องน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนสินะ แล้ววิ่งมาอย่างนี้ไปยืนใกล้พี่โซลเขาจะเหม็นเงื่อผมมั้ยเนี่ย>////<
ปี๊นๆๆ!!!!
ผมชักขากลับเข้าริมทางเท้า เมื่อรถกระบะบีบแตรอัดหูผมดังลั่น เกือบไปเดทแค่วิญญาณแล้วมั้ยละ ผมนี่ไม่ระวังตัวเอาซะเลย
“วิ่งลงมาหาพ่อ มึงหรอ!!”
ไอ้คนขับรถเปิดกระจกชะโงกหัวออกมาด่าผม ขอโทษฮะแต่ไม่เห็นต้องเล่นถึงพ่อแม่ สงสัยที่บ้านไม่เคร่งเรื่องมารยาท-*-
“กรรม”
ผมบ่นกับตัวเองเบาๆมือก็จัดหัวยุ่งๆของตัวเองให้เป็นระเบียบรอเดินข้ามถนน สะพานลอยมันไกลไปขี้เกรียจเดินไปขึ้น วิ่งตัดหน้ารถเนี่ยแหละง่ายดี-.-
ผมเหลือบมองฝั่งตรงข้ามที่เป็นย่านการค้า มีทั้งร้านขนมหรือกิ๊ฟช้อบน่ารักๆเต็มไปหมด สีสันมันสดใสดีผมชอบ ผมยกมือถือขึ้นมาเก็บภาพบรรยากาศด้านหน้าที่เต็มไปด้วยสีสันหลากสีของร้านต่างๆแต่ผมก็ตองชะงักมือไม่กดปุ่มถ่าย
...นั่นมัน....
ผมเงยหน้าจากจอมือถือเหลี่ยมๆมองภาพของจริง ร่างสูงโปรงในชุดนักเรียนเสื้อเชิ้ตสีขาวคล้องเนคไทด์สีฟ้าเข้ม ใบหน้าหล่อหัวเราะขบขันกับสาวน้อยข้างกายที่แต่งเครื่องแบบโรงเรียนเหมือนกับผม
....ทำไมในอกผมมันแน่นไปหมด....
ผมขยุ้มเสื้อตัวเองไม่กล้าละสายตาจากคนคู่นั้น ทั้งที่รู้ว่ายิ่งมองก็ยิ่งเจ็บแต่ถ้าปล่อยให้สองคนนั้นเดินออกไปไกลจากสายตาผม ผมคงทนไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าผมกลายเป็นพวกขี้หึงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เป็นพวกชอบยกข้อดีของคนอื่นมาเปรียบเทียบกับข้อเสียของตัวเองเพื่อให้ตัวเองกูต้อยต่ำลง ทำไงได้ละก็ผมสู้คนอื่นเขาไม่ได้จริงๆ....ถ้าพี่เขาเกิดเลือกคนอื่นขึ้นมาจริงๆ ผมจะทำยังไงนะ
ติ๊ดๆ
ผมกดส่งข้อความไปให้พี่โซล บอกว่าวันนี้ผมไม่สบายขอกลับก่อน เจอแบบนี้ผมถึงกลับไข้ขึ้นเลยแหะ ไม่มีอารมณ์เดทแล้วผมอยากกลับบ้าน ผมปิดมือถือถอดแบตแยกใส่ไว้ในกระเป๋าเป้แล้วหมุนตัวโบกแท็กซี่กลับบ้าน
...เฮ้อ~ ปวดหัวกับปวดใจตรงไหนมันปวดหนักกว่ากันหว่า ตอนนี้ผมแยกไม่ถูกแล้ว....
ก๊อก! ก๊อก!
..เสียงเชี่ยไรวะ..
ผมพยายามลืมตาตื่น ไม่คิดว่าจะเผลอหลับตอนเย็นๆแบบนี้เลยแหะ พอตื่นมาฟ้าข้างนอกหน้าต่างก็มืดแล้วอ่ะ ผมเดินไปเปิดประตูแล้วหาวอัดหน้าแม่ที่ยืนถือถาดยากับน้ำมาให้ผม
“เวลาหาวฮุบปากด้วยสิ-o-”
ผู้ชายผิวขาวตัวเล็กๆแทรกตัวเข้ามาให้ห้อง มือนุ่มลากตัวผมให้ไปนั่งที่เตียงก่อนจะเอามือมาแตะหน้าผากผมแล้วดึงไปเทียบกับอุณหภูมิหน้าผากตัวเอง ถึงแม่ผมจะเป็นผู้ชายแต่แม่ดูแลผมดีมากเลยละ ตั้งแต่ล้างจานกวาดบ้านถูบ้านล้างห้องน้ำทำกับข้าว(แต่ฝีมือห่วยไปนิด-o-)
“ก็ไม่มีไข้นี่O.O” แม่บอก
“มี~ โทรไปบอกพ่อเลยว่าติมไม่สบายจะตายแล้ว><~” ผมบอก
“เปลืองตังค์-_-”
“โห่แม่อ่ะ เวลาคุยกับพ่อก็ไม่เคยจะให้ติมคุยบ้างอ่ะ-3-”
“คุยแค่นาทีเดียวเองพ่อลูกก็วางแล้ว-_-”
“แม่จะกั๊กพ่อไว้คนเดียวใชมั้ยอ่ะ”
“บ้า-o-”
แม่เดินหยิบกระเป๋าบนเตียงผมเก็บเข้าที่ให้เป็นระเบียบ จริงๆแล้วผมว่าแม่น่าจะบอกให้พ่อย้ายเราไปอยู่บ้านใหญ่นะ ถ้าไปอยู่บ้านใหญ่ก็จะมีคนใช้แม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยแบบนี้ แต่ช่วยไม่ได้พ่อเขาดันอยากอยู่แบบนี้ ตอนเด็กๆผมก็ไม่คิดว่าการที่ผู้ชายสองคนรักกันมันเป็นเรื่องแปลก แต่พอโตขึ้นแล้วผมได้รู้อะไรหลายๆอย่าง ผมก็เริ่มคิดว่าเรื่องนี้มันแปลกเหมือนที่คนอื่นเคยล้อพ่อแม่ของผม ผมกำลังทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยหรือป่าวนะ
“แม่ฮะ”
“อะไรหรอo.O”
“แม่กับพ่อรักกันได้ยังไงอ่ะ-o-”
“โห้..อะ...เอ่อ ก็-o-/////”
“ช่างเหอะ ติมรู้แล้วแม่ตีหัวพ่อแล้วปล้ำทำสามีสินะ-o-”
“บ้านแกสิ-*-”
“นี่ไงบ้านติม^^”
“ใครสั่งใครสอนให้กวนโอ้ยชาวบ้านเขาฮะ-o-!”
“มีแม่สอนผมอยู่คนเดียวอ่ะ-_-”
“เวร-.-”
“แม่.. ถ้าแม่เจอพ่อเดินกับผู้หญิงคนอื่นแม่จะทำไง”
แม่เคยเจอเรื่องแบบนี้หรือป่าวนะ ก็คุณพ่อออกจะหล่อขนาดนั้น ส่วนแม่ก็ไม่ได้หล่ออะไรแต่ก็มีเค้าความน่ารักสดใสอยู่หรอก อยากรู้จัง
“ก็คง.....เข้าไปคุยให้รู้เรื่อง”
“งั้นหรอ แล้วไม่รู้สึกเจ็บ โกรธอะไรอย่างนี้หรอ ตอนพูดแม่พูดด้วยความรู้สึกแบบไหนหรอ”
“ไม่รู้สิพอถึงตอนนั้นมันก็มีหลายๆอารมณ์เข้ามาพร้อมกัน”
ผมก้มหน้าอย่างเข้าใจ ดูแม่จะตอบคล่องเอาซะมากๆเลยนะ คงเคยเจอเรื่องแบบนี้มาแล้วสินะ
“มีปัญหาเรื่องความรักหรอ” แม่ถาม
“ป่าว”
“หรา>O<~”
“คร้าบบบบ>O<~”
“งั้นแม่ไปซื้อของข้างนอกก่อนนะ มีหมาที่ไหนไม่รู้บ่นอยากกินเค้ก^^”
“งั้นแม่หมาออกไปซื้อให้ติมหน่อยนะ^^”
“ตังค์ละ-_-”
“ออกไปก่อนสิ-o-”
“เพิ่มไว้ในบัญชีแล้วไปคิดกับพ่อลูกแล้วกันนะ”
“เชิญครับ ไว้พ่อมาเมื่อไหร่ติมจะให้พ่อkisss กับแม่ทั้งคืนเลย^O^”
“ไม่เอาหรอก ไปดีกว่า-3-”
ผมหัวเราะกับท่าทางเขินอายบนใบหน้าบูดของแม่ เพราะแม่เป็นแบบนี้ละมั้งพ่อเลยรักแม่มากเลย เฮ้อ~ ผมอยากได้แฟนดีๆแบบพ่อบ้างจังเลย แต่ไม่เอาแบบโรคจิตSMนะ-o-
ก๊อกๆ!
-.- ยัง..ยางงงง ยังไม่ไปอีกนะ ผมลุกไปเปิดประตูห้องพลางเก๊กหน้ากวนตีนเตรียมยิ้มใส่แม่ แต่กลับเจอคนที่ผมคาดไม่ถึง
ปึก!
ผมปิดประตูแต่ดูเหมือนมันจะติดอะไรบางอย่าง ผมเปิดประตูง้างให้คนตัวใหญ่ดึงมือออกไป และนั่นก็เป็นโอกาสให้ร่างสูงเบียดตัวเข้ามาภายในห้อง
“มะ...มาทำไมหรอ” ผมถาม
“เห็นบอกว่าไม่สบายเลยมาดูน่ะ”
พี่โซลตอบ ผมยิ้มบางๆพลางเดินเอียงหลบสายตาคมที่จ้องมายังผม ผมนอนลงบนเตียงก่อนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมนอนตะแคงข้าง หลับแล้วๆออกไปเหอะ
“ยังไม่กินยาอีกหรอ”
พี่โซลถามพลางเหลือบตามองถ้วยใส่ยาเล็กๆกับน้ำที่ยังเต็มแก้วอยู่ ก็มันไม่เป็นไรนี่หว่า ถ้ากินไปแล้วเป็นขึ้นมาทำไงละ-o-
“หะ..หายแล้วละ แค่ง่วงนอนนิดหน่อย^^;”
พอผมพูดจบพี่โซลก็นั่งนิ่ง อ่า ผมพูดไรผิดหรอ-o-
“ทั้งที่วันนี้เราควรจะไปเดทกันน่ะหรอ”
น้ำเสียงตัดพ้อทำเอาใจผมกระตุกวาบๆ ก็มันไม่มีอารมณ์ไปเดทแล้วนี่นา
“งั้นนอนไปเถอะพี่กลับก่อนนะ”
พี่โซลบอกแล้วเตรียมก้าวเท้าเดินออกไป ผมสปริงตัวคว้าข้อมือใหญ่ไว้ ถึงผมจะไม่อยากเจอแต่ร่างกายผมมันกลับทำงานตรงกันข้าม ผมอยากจะรั้งเขาไว้กับผม แค่เสี้ยวเวลาหนึ่งก็ยังดี...
“..พะ..พี่โซล..”
นี่ผมกำลังทำอะไรกันเนี่ย ร่างสูงนั่งลงข้างเตียงผม ปลายนิ้วเรียวยาวปัดเศษผมที่ตกลงบนหน้าของผมออก มือใหญ่ประคองใบหน้าผมให้เงยขึ้นสบดวงตาสีเข้ม
“ติมเป็นอะไรหรือป่าว”
ผมส่ายหน้าเบาๆ ผมไม่อยากให้พี่เขามากังวลกับผม ไอ้เรื่องเจอแฟนเดินกับคนอื่นผมควรจะทำใจให้ยอมรับมันได้ซะ แต่มันไม่ง่ายเลย...
“มีอะไรก็พูดสิ ถ้าไม่พูดพี่จะรู้ได้ไง”
ผม...ผมพูดได้หรอ ถ้าผมพูดไปมันจะดีหรอ จะเห็นว่าผมเป็นพวกขี้หึงหรือป่าว หรือจะเป็นว่าเป็นพวกเด็กขี้งอนอะไรแบบนี้มั้ย ทั้งที่ผมเป็นเจ้าของพี่แต่ผมไม่รู้ว่าจะแสดงความเป็นเจ้าของออกมายังไง ให้ผมทำยังไง...
“..ถ้าพี่เจอผม เดินกับ..คนอื่น พี่จะทำยังไง..” ผมถาม
“คนอื่นที่ว่าใครละ”
“...ผู้หญิง น่ารักๆ”
“เห็นสินะ”
เอ๊ะ! ผมก้มหน้าหลบ ทำไมผมชอบปล่อยไก่แบบนี้นะ
“พี่ให้เพื่อนไปช่วยเลือกของน่ะ”
มือใหญ่ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบกล่องอะไรบางอย่างออกมา ใบหน้าคมคายเงยขึ้นสบตาผมเล็กน้อยก่อนจะเปิดฝากล่องโชว์ให้ดูสิ่งของที่อยู่ภายใน ใจผมเต้นสั่นระรัวนั่งตัวเกร็งทำอะไรไม่ถูก มือหนาหยิบแหวนที่สลักคำว่า “SOLAR”มาสวมให้ผม พี่โซลดึงมือผมไปประทับจูบอบอุ่น พลันสายตาผมก็เหลือบไปเห็นแหวนวงเกลี้ยงที่สลักว่า “I-Tim” หน้าผมก็แทบละลายกลายเป็นโจ๊ก ผมสูดหายใจถี่เวลาตื่นเต้นมากๆแล้วเหมือนจะช็อกยังไงก็ไม่รู้ -////-
“พี่รักไอติมนะ”
ผมก้มหน้าซ่อนใบหน้าแดงเถือกเป็นมะเขือเทศ ผมอยากจะมุดลงไปใต้เตียงจังเลย มือหนาบีบหัวไหล่มนเรียกใบหน้าผมให้หัวสบดวงตาเข้ม เหมือนมีแรงบางอย่างดึงดูดเราเข้าหากัน คนตัวใหญ่ทาบทับริมฝีปากลงบนปากของผม แรงขบเม้มเบาๆทำเอาใจผมกระตุกวูบ ปลายลิ้นร้อนที่เริ่มโหมชอนไชเข้ามาภายในโพรงปาก ผมหลับตามยอมจำนนต่อคนตรงหน้ายอมเผยปากให้พี่โซลตวัดกลืนกินลิ้นไม่ประสาของผม ผมรู้สึกว่าแผ่นหลังของผมราบสนิทไปกับผ้าปูเตียงนุ่มนิ่ม มืออุ่นสอดเข้ามาใต้เสื้อตัวบางก่อนจะใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเม็ดอกผมเล่น
“อื้อ...”
ผมร้องฮือกับสัมผัสแปลกๆ ร่างกายผมมันร้อนไปหมดยิงคนตัวใหญ่โถรุกจูบผมมากเท่าไหร่ร่างกายผมก็ยิ่งร้อนรุ่ม ผมเข้าใจสถานการณ์ข้างหน้าว่ามันกำลังจะเกิดอะไร แต่ว่าเรื่องแบบนี้....ผมยังไม่ได้เตรียมใจเลย ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ! อีกอย่าง...ผมน่ะ
“ผะ...ผม อาจจะไม่น่ารัก....ทำเรื่องแบบนี้ไม่เป็น มะ..ไม่รู้ว่า คนขี้เหร่
อย่างผมจะคู่ควร..กับพี่มั้ย..”
ในที่สุดก็พูดออกไปจนได้ สิ่งที่ผมอัดอั้นมาตลอดตั้งแต่คบกันตอนประถมยันตอนนี้ ผมได้ยินเสียงพี่โซลถอนหายใจ อ่า....คงหมดอารมณ์สินะ
ผมก้มหน้าขย้ำคอเสื้อที่เปิดกว้างเข้าด้วยกัน ผมทำตัวไม่ถูกไม่กล้ามองหน้าพี่เขาเลย
“ที่บอกว่าขี้เหร่น่ะ..ก็แค่ไม่อยากให้ไปทำหน้าน่ารักๆใส่ใคร”
น่ะ...น่ารักหรอ ผมอ่ะนะ!
“ให้ตายสิ เคยรู้บ้างมั้ยว่าตัวเองน่ารักน่ะ!”
มือใหญ่ยกหลังมือปิดใบหน้าตัวเองไว้ครึ่งนึงพลางเอียงหน้าหลบ ผมลอบมองแก้มใสๆที่แดงเถือกลงมาถึงลำคอ ผมก็อดหน้าแดงตามไม่ได้
“..ต่อจากเมื่อกี้...มั้ย”
พี่โซลถามตะกุกตะกักมือก็เกาท้ายทอยตัวเอง ผมเงยหน้าสบดวงตาเข้มเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเบาๆ เอาก็เอาวะ เออแบบว่าผมออกตัวแรงไปไหมหว่า>////<
“..ตะ..แต่ ผมยังไม่ได้..อาบน้ำ ขอไป..!”
คนตัวใหญ่กระโจนขึ้นคร่อมผม มือหนารั้งแขนผมขืงพืดไว้ข้างหมอน
“ไม่ต้องหรอก อยากได้กลิ่นติม..”
อยากได้กลิ่น-o-! ผมจะเขินหรือผมจะขำก่อนดี ฮ่าๆ พี่โซลจ้องหน้าผมเหมือนกับที่ผมก็จ้องหน้าพี่โซล ใครเริ่ม..? ดูเหมือนพวกผมจะนิ่งมองกันแต่หน้าแล้วก็เขิน งั้น.... ผมเบิกทางให้นิดนึงก็ได้
...ขอโทษพ่อกับแม่ด้วยนะครับที่ผมยั่วปู้จายยยยT^T…
ผมขยับตัวเป็นปลาไหลเล็กน้อยพอให้คอเสื้อเปิดออก ใบหน้าหล่อเริ่มก้มลงฝังจมูกลงข้างคอขาวๆของผม หืออออ! ขนลุกเลย ริมฝีปากหนาขบเม้มเนื้อบอบบางของผมแล้วขยับลงมาที่ช่วงอก มือใหญ่ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนักเรียนผมออกทีละเม็ดๆ จนเหลือเพียงท่อนบนโล่งๆที่ท้าทายสายตาคมให้หยุดมอง ลิ้นอุ่นเริ่มเลียละเลียดยอดอกผม ผมกระตุกตัวเกร็งเป็นระยะๆตามจังหวะที่พี่โซลดูดดึงยอดอกผม
...ทำอย่างกับดูดนมแม่แน่ะ...
มือใหญ่สอดประสานมือเล็กๆของผมจนแทบกลืนเป็นมือเดียวกัน ร่างกายผมเริ่มร้อนระอุเหมือนถูกไฟลนอีกระรอก มวลในท้องมันเริ่มปั่นป่วน หัวสมองชาวาบไปหมด
“พะ...พี่โซล อื้ม!”
ผมเผลอหลุดร้องเสียงหลง เพียงแค่ปลายนิ้วอุ่นลากลงไปใต้กางเกงผมเท่านั้น ผมรู้สึกว่าความอัดแน่นภายในตัวกำลังจะทยานออกมา ผะ...ผมไม่ไหวแล้ว...
ปัง!
บานประตูสีครีมเปิดออก มือเล็กที่ยังคาอยู่ที่ลูกบิดดันประตูกระแทกกำแพงเสียงดัง ผมกับพี่โซลแทบจะผละออกจากกันทันที คนตัวเล็กจ้องผมเขม็ง ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันช่างกดดัน
“กูบอกมึงแล้วใช่มั้ย!!”
ไอ้ซิลตะโกนลั่นแล้วเดินมากระชากตัวผมจนตกจากเตียง
“ซิลไม่รุนแรงไปหน่อยหรอ!!”
พี่โซลตะคอกเสียงดัง มือใหญ่ฉุดดึงตัวผมต้านกับแรงน้องของตัวเองที่ดึงแขนผมไว้อีกข้าง เจ็บชะมัด!
“พี่ก็เหมือนกัน ซิลบอกแล้วว่าอย่ายุ่งกับไอ้ติมมันไง!!”
“มันเรื่องของพี่!! ปล่อย!”
พี่โซลบีบแขนไอ้ซิลแรงๆแล้วกระชากออกจนหลุดจากมือผม ผมมองใบหน้าหล่ออย่างหวั่นๆ ผมไม่เคยเห็นพี่โซลดูน่ากลัวขนาดนี้ ปกติพี่โซลจะใจดี ผมยังตกใจเลยที่อยู่ๆพี่เขาก็ขึ้นเสียงกับไอ้ซิลแถมยังกระชากตัวมันปลิว
“พี่โซลพอเถอะครับ!” ผมบอก
ผมก้าวเท้ายาวๆมุ่งตรงไปหาไอ้ซิลที่นั่งกองอยู่บนพื้น
“ซิล..”
ผมดึงไหล่มันหันมามองหน้าผม ใบหน้าหวานแดงกร่ำดวงตาสีอ่อนเตรียมระเบิดน้ำตาออกมา มันเม้มปากแน่นมองผมอย่างโกรธเคืองสลับกับมองไปยังพี่โซล ผมหันไปมองพี่โซลที่ยืนหน้าซีดกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ผมรู้ว่าพี่โซลก็ตกใจอยู่ไม่น้อยที่ตัวเองเผลอทำอะไรรุนแรงกับน้องรักอย่างไอ้ซิล
“ฮึก!..กูห้ามมึงแล้วมึงยัง..จะทำ ไอ้เพื่อนเลว!!”
ผมหน้าตึงเมื่อได้ยินคำนี้หลุดออกจากปาก ..ผมมันเป็นเพื่อนที่ไม่ได้เรื่องเลยสินะ... แต่ทำไงได้ผมรักพี่โซล!!
“..กูขอโทษ...” ผมเอ่ยแผ่วเบา
“ขอโทษหรอ!!” ไอ้ซิลเสียงดัง
“ขอโทษ...”
ผมรู้ว่าการอยู่ใกล้ไอ้ซิลอาจจะทำให้ผมวิญญาณหลุดออกจากร่างโดยไม่รู้ตัว แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอก และบอกได้ก็แค่”ขอโทษ” ก็เท่านั้น
“ทำไมต้องคบกันด้วย! ทำมายยยย!!!”
ผมนั่งนิ่งจ้องมองใบหน้าที่เอ่อนองไปด้วยน้ำตา ร่างบอบบางสั่นระริก มันสูดหายใจเข้าเหมือนพยายามสะกดกลั้นอารมณ์บางอย่าง
“ฮือๆ..แล้วถ้าเกิดวันนึง.....ละ..เลิกกันขึ้นมา กูก็ต้องเสียเพื่อนไป...สินะ ฮือๆ กูไม่อยากเสียใครไปทั้งนั้น!! ถ้าให้เลือกระหว่างพี่กูกับมึง...กูเลือกไม่ได้ ฮือๆ”
ไอ้ซิลร้องไห้ซบฝ่ามือตัวเอง ผมเข้าใจแล้ว...เหตุผลที่มันไม่อยากให้ผมคบกับพี่โซล... ผมมองร่างสูงโปร่งที่ยืนนิ่งไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะคบกันไปได้นานแค่ไหน เราจะคบกันไปถึงเมื่อไหร่ ผมก็ไม่อยากให้เรามีวันเลิกราแต่...มันคงเป็นไปไม่ได้...
“พี่จะไม่มีวันเลิกกับเพื่อนซิลหรอกนะ”
ร่างสูงย่อตัวลงจับไหล่สั่นไหวไว้ ใบหน้าหวานเงยหน้ามองพี่ชายปากก็เปิดกว้างเหมือนอยากจะตั้งคำถามต่อ
“...พี่สัญญา...”
หัวใจผมเต้นสั่นระรัวเหมือนกลอง ผมสูดลมหายใจลึกเหมือนว่าน้ำมันจะเริ่มตื้นขึ้นที่ขอบตา คำพูดแบบนั้นน่ะ..
...อย่างกับคำสาบบานแต่งงานเลย...
“..นะ..แน่ใจนะ ถ้าพี่โซลทิ้งไอ้ติมละก็....”
“..ไม่มีวันหรอก เพราะพี่..รักติมจริงๆ”
ผมเป็นพวกไม่เชื่ออะไรง่ายๆ เป็นพวกไม่มีความมั่นใจเอาซะเลยโดยเฉพาะเรื่องความรัก แต่พี่ทำให้ผมได้เห็นว่าความรักที่แท้จริงมันเป็นยังไง
ถ้าผมจะบอกเรื่องนึงออกไปตอนนี้จะเป็นไรมั้ย ซิลมันจะโกรธผมหรือป่าว... ผมน่ะ...
“...รักพี่โซลเหมือนกันครับ..”
ไอ้ซิลเบิกตาโพรงกว้างก่อนจะหรี่ตาลงเป็นคลายยิ้มบางๆ พี่โซลกระตุกยิ้มมุมปากเป็นเชิงรับรู้ ส่วนผมก็นั่งหน้าแดงหลังจากพูดออกไป บ้าจริง!
“มึงต้องรักพี่กูมากๆนะ ห้ามดื้อกับพี่กู ต้องตามใจพี่กูให้มากๆ มึงต้องไปฝึกทำกับข้าวมาด้วยนะ”
ไอ้ซิลบอกพลางตบไหล่ผม
“ทำกับข้าว?” ผมทวน
“กูไม่รับพี่สะใภ้ที่ทำกับข้าวห่วยแตกหรอกนะ-3-”
พี่สะใภ้หรอOoO!! ถึงผมจะทำอะไรไม่ได้เรื่องนอกจากเรียนกับทำการทดลอง แต่สิ่งที่ผมต้องไปฝึกเพิ่มคือการเป็นพ่อบ้านที่ดีสินะ ผมจะทำได้มั้ยนะแค่ทำคลุกข้าวปลาทูให้แมวกินแมวยังเมินเลย...
“พยายามเข้านะ”
ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มสดใส มือใหญ่ลูบหัวผมเบาๆ ถ้ามีคนให้กำลังใจละก็ไม่แน่ว่าผมคงทำได้ ผมเงยหน้าสบดวงตาคมแล้วยิ้มบางๆ ใบหน้าหล่อโน้มลงมาติดจมูกผมจนได้กลิ่นลมร้อนที่แผ่ออกมา เวลาอยู่ใกล้กันทีไรไฟติดทุกทีเลย ผมเผยอปากเตรียมรับจูบจากคนตัวสูงที่โอบเอวผมไว้กลายๆ
“เออคือ...กู ต้องไปสินะ-.-”
ไอ้ซิลถามก่อนถอยตัวออกไปนอกประตู ตอนนี้ก็เหลือแค่ผมกับพี่โซล2คนในห้อง โดนขัดดราม่าไปรอบนึงแล้ว ยังจะ...อีกหรอก
“ต่อมั้ย-//////-” พี่โซลถาม
ผมไม่ตอบแต่ผลักร่างสูงลงเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเราสองคนไว้ด้วยกัน
...ไม่บอก...
“ซิลลงมาเอาขนมไปให้ไอติมกินหน่อยสิลูก~”
เสียงเล็กเจื้อยแจ้วมาจากด้านล่าง ผมจำได้ว่ามันคือเสียงแม่ซัล
“คร้าบบบบ แปปนึงงงง>O<”
ไอ้ซิลตะโกนตอบกลับไป แขนเล็กๆดันตัวลุกออกจากโต๊ะญี่ปุ่นตัวเตี้ย ใบหน้าจิ้มลิ้ม(แม่ผมเคยบอกงั้นว่าไอ้เชี่ยนี่มันหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักดี....หรอ-.-) หันควับมองผม ไอ้ซิลยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมมือมันก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือที่กำลังจรดปากกาลงบนกระดาษ
“ไอ้ติม...”
ไอ้ซิลพูดกดเสียง มือเล็กๆบีบรอบข้อมือผมอย่างแรงจนผมรู้สึกเหมือนกระดูกจะแตก
“ไร” ผมถาม
“ถ้ามึงยุ่งกับพี่กูนะมึง..-.-”
“กูไม่ยุ่งหรอก....หล่อตายอ่ะ”
คนถูกนินทาระยะประชิดเงยหน้าจากตำราภาษาอังกฤษเล่มหนาขึ้นมองผม ดวงตาสีเข้มจ้องมองผมบหน้าหล่อตีสีหน้าเรียบนิ่งเหมือนไม่พอใจอะไรบางอย่าง ผมดันกรอบแว่นขึ้นเล็กน้อยพลางเอียงหน้าหลบสายตาที่จ้องมองมายังผม
“กูไม่ให้ยุ่งแต่กูไม่ได้ให้มึงเกลียดพี่กูนะเว้ย มึงอย่าทำเหมือนพี่กูเป็นตัวเชื้อโรคได้มั้ยวะ-o-!”
เชื้อโรค? ผมมองระยะห่างระหว่างผมกับพี่ชายของไอ้ซิล ก็ไม่ห่างกันเท่าไหร่หรอกนะแค่เมตรกว่าๆเอง
“มึงบอกไม่ให้ยุ่งกูก็ไม่ยุ่งแล้วไงมึงจะอะไรนักหนา-*-” ผมถามแบบฉุนๆ
“ขึ้นเสียงหรอห๊ะ พี่กูออกจะหล่อมึงไม่สนหรอ>O<” ไอ้ซิลถามกลับ
“ไม่สนเว้ย หล่อตรงไหนวะ-*-”
“หล่อพอๆกับพ่อ มึงอ่ะ กูไปเอาขนมแปปนึง-o-”
ไอ้ซิลสะบัดก้นเดินออกไปจากห้องนอนสีครามอ่อน ผมถอนหายใจแล้วยกมือขึ้นบีบข้อมือตัวเองเบาๆตรงรอยแดงที่ไอ้เตี้ยซิลมันบีบผม เออ-*- ผมอุส่าห์มาช่วยมันทำการบ้านเสียเวลาอ่านหนังสือผมมากเลยมันยังลีลาไม่ลงไปเอาขนมมาเซ่นผมแถมยังย้ำห้ามเรื่องน่าเบื่อ....
วืด!
ตัวผมถูกกระชากเอนไปกระแทกกับแผงอกหนา มืออุ่นล็อกคอผมให้เชิดหน้าสบตาดวงตาคม ผมนอนแข็งทื่ออยู่ในอ้อมอกของบุคคลต้องห้าม ดะ...เดี๋ยว-o-;;
“สำหรับติมแล้วพี่น่าเกลียดมากนักหรอ”
เสียงทุ้มเอ่ยเรียบ ใบหน้าหล่อโน้มลงมาหาผม ผมหายใจติดขัดพยายามเบี่ยงหน้าหลบปลายจมูกโด่งที่ทิ่มอยู่บนจมูกผมแต่มือใหญ่ก็ล็อกหน้าผมไว้แน่นจนไม่สามารถหันไปไหนได้ ผมเลยต้องจำใจยอมให้คนข้างหน้าฉวยริมฝีปากของผมไปโดยปริยาย
“แฮ่ก....อื้ม! เดี๋ยว”
ผมพยายามอ้าปากประท้วงใต้ริมฝีปากเรียว คนตัวสูงไม่สนใจกลับเร่งกดจูบให้หน่วงหนักยิ่งขึ้น ปลายลิ้นหนารุกล้ำเข้ามาในโพรงปากผม มันตวัดดูดกลืนความหวานในปากผมอย่างหิวกระหาย
พลั่ก!
“แค่กๆ! แฮ่ก...แฮ่ก”
หลังจากผมพลักร่างสูงออกผมก็กางมือยันคนตัวหญ่ไว้ไม่ให้เข้าใกล้ ผมโก่งคอไอเพราะสำลักน้ำลาย มึงจะรีบจูบทำไมวะกูหายใจไม่ทัน!
“พี่ขอโทษนะ...กินน้ำก่อนๆ”
พี่โซลย่นคิ้วเข้าหากันใบหน้าพี่เขาดูเป็นกังวลที่ทำให้ผมไออย่างหนัก ผมรับแก้วน้ำลงมากรอกลงคอ ไม่ได้ช่วยไรเท่าไหร่หรอกนะผมว่าเพราะผมยังรู้สึกแสบคออยู่เลย-o-
“ขอโทษนะ” พี่โซลย้ำอีก
“ไม่เป็นไร”ผมบอก
“เราไม่ได้ทำแบบนี้มานานมากแล้วนะ พอมีโอกาสพี่ก็เลย...”
ผมก้มหน้าซ่อนใบหน้าแดงก่ำเอาไว้ ผมจับมือหนาขึ้นมากุมเอาไว้ ดวงตาเข้มเบิกกว้างอย่างตกใจ ผมเป็นพวกบอกรักไม่เก่งให้แสดงออกก็ไม่ค่อยจะเป็น-///-
“...คิดถึงผมหรอ^///^”ผมถาม
“คิดถึงสิ...อยากกอดจนจะบ้าตายอยู่แล้ว”
อย่าทำให้ผมเขินมากได้มั้ย ผมจะลงไปนอนชักแล้วนะ>/////<
“ผะ...ผมก็คิดถึงพี่โซลฮะ-////-”
ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มสดใสพลางโถมตัวกอดรัดผมเอาไว้ ผมลอบสูดกลิ่นหอมของเสื้อยืดสีอ่อนเบาๆ ผมอยากจะอยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆนี้อีกสักหน่อยแต่ก็ต้องคอยระวังไม่ให้ไอ้เพื่อนตัวดีมันเห็น คบกับบุคคลต้องห้ามแบบนี้มันทำไผมลำบากไม่ใช่น้อย คู่ผมอาจไม่หวานเหมือนคู่รักคนอื่นๆ ไม่ค่อยได้เดินจูงมือ ไม่ค่อยได้คุยซึ่งๆหน้ากันเท่าไหร่
“พี่รักติมนะ..”
พี่โซลประทับจูบบนริมฝีปากผมซ้ำอีกรอบ แรงบดเบียดเหมือนต้องการจะตราตรึงสัมผัสความเป็นเจ้าของมันทำให้ผมอดใจเต้นแรงไม่ได้ ลมร้อนๆที่เป่ารดต้นคอทำให้ผมต้องเอียงคอยอมให้คนตัวใหญ่ฝังรอยจูบแดงๆเอาไว้ เสียงฝีเท้าหนักๆที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆผมกับพี่โซลผละออกจากกัน
ปึง!
“มึงงงง...แอบทำไรพี่กูหรือป่าว-.-”
ไอ้ซิลเปิดประตูผลั๊วะ ตากลมโตของมันหรี่ลงเหมือนจะจับผิดผม มือมันก็ถือถาดขนมตั้งท่าจะร่อนใส่หน้าผม-*-
“ป่าวนี่”
ผมบอกแบบตายด้าน ไอ้ซิลจ้องหน้าผมอีกรอบผมก็เลยต้องพยายามสบตามันกลับไม่ให้เป็นพิรุธ กูเก่งนะเรื่องจ้องตาเนี่ย-.-
“แล้วไป-3-”
มันกระแทกถาดลงบนโต๊ะก่อนจะหยิบคุ้กกี้ชิ้นโตขึ้นมาป้อนพี่มัน พี่โซลยักคอหลบเล็กน้อยแต่พอเห็นไอ้ซิลทำแก้มป่องพี่โซลเลยยอมอ้าปากงับ
“ไม่มีมือหยิบกินเองหรือไง” ผมแขวะ
“..ก็ไม่มีน่ะสิ^^”
พี่โซลกระตุกยิ้มมุมปากชนดที่ว่าแมลงสาบเห็นยังดิ้นตาย(รอยยิ้มไบกอน-o-) ก็นะคงไม่มีปัญญาหยิบกินเองได้หรอก ก็ผมน่ะ....นั่งกุมมือกันอยู่ใต้โต๊ะนี่
...จุ๊ๆ อย่าบอกไอ้ซิลนะ>.O!...
ปึง!
ผมเปิดตู้ล็อกเกอร์ที่เต็มไปด้วยหนังสือก่อนจะเหลือบมองล็อกเกอร์ข้างๆที่มีกล่องของขวัญและจดหมายจำนวนมากไหลออกมาเป็นลาบน้ำตกเลย อ่า! โทษครับหิวไปหน่อย-////- ไอ้เตี้ยซิลยืนกอดอกมองธารของขวัญที่ทะลักออกมา อ่า...วันนี้วันวาเลนท์ไทน์นี่นา
...วาเลนท์ไทน์!!...
วันที่จะได้อยู่กับแฟน อยู่กับพี่โซล>////< แต่....สิบปีมาแล้วละที่ผมกับพี่โซลไม่เคยอยู่ด้วยกันในวันแห่งความรักนี่เลย เพราะบางปีพี่โซลก็ถูกลากไปปาร์ตี้จับคู่หรือไม่ก็โดนไอ้เตี้ยข้างๆผมกักตัวไว้-*- ถามว่าผมทนได้ยังไงที่พี่เขาไปเดทกับคนอื่นในวันนี้ ผมไม่ได้ทน! แต่ผมทำอะไรไม่ได้! ให้ผมเดินไปประกาศว่าคนนี้แฟนกู! ทำแบบนั้นคงไม่ดี...ผมไม่อยากให้คนมองว่าพี่เขาเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน ผมไม่อยากให้คนมองพี่เขาเป็นพวกไม่ปกติ อีกอย่างถ้าไอ้ซิลรู้...บ้านแตก!!
“วันนี้มึงช่วยกูขนกลับบ้านหน่อยดิ-3-”ไอ้ซิลหันมาบอกผม
“ไม่ว่าง” ผมตอบ
“ไม่ว่างได้ไงวะเพื่อนป่ะๆ><”
“ใครเพื่อนมึง-o-”
“กูจะดราม่าแล้วนะT^T”
“-.-”
สรุปผมต้องยอมมันสินะ นี่มึงเห็นกูเป็นเพื่อนหรือเบ๊กันแน่วะ-o-
“เออๆ” ผมตอบส่งๆ
ทำไมผมไม่ได้บ้างนะจมหมายรักอะไรงี้ๆT^T ผมหมายถึง...ได้จากผู้หญิงอ่ะนะ-o-
“นี่ๆไอติม>///<”
เพื่อนผู้หญิงนห้องสะกิดไหล่ผมแล้วยื่นซองกระดาษสีแดงเข้มมาให้ผม ขอเหวอซัก10วิได้มั้ยOoO! จมหมาย...จมหมายให้ผมหรอ ในที่สุดก็ได้จมหมายจากผู้หญิงแล้ว>O<!
“ฝากให้พี่โซลหน่อยนะ>////<”
เพล้ง!
จินตนาการออกอากาศของผมดับสลายเศษเสี้ยวของมันค่อยๆหล่นลงบนพื้น ผมยืนอ้าปากเหวอครู่นึงพอได้สติว่ามันไม่ใช่ของผม ผมก็...ทำใจT^T
“อืม” ผมตอบ
“ขอบใจมากนะ เค้ารักตัวเองที่สุดเลย>////<”
ผู้หญิงคนนั้นกระโดดเอานมมาชนแขนผมแล้วกระโจนหอมแก้มผมดังฟอด ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มแห้งๆให้ไป แบบว่าต้องเอาจมหมายรักไปส่งให้แฟนตัวเอง... แบบนี้มันจะดีหรอวะ-o-! จะว่าไปวาเลนไทน์(หรือวันไหนๆ)ผมก็ไม่เคยให้อะไรพี่โซลเลย เป็นฝ่ายรับตลอด-.-
“จมหมายไรวะนั่น-.-” ไอ้ซิลถาม
“ป่าวไม่มีไร^^” ผมรีบเก็บมันยัดลงกระเป๋า
“มีความลับหรอมึง-.-”
“กูเคยมีความลับกับมึงหรอวะ^^;”
ความลับทุกเรื่องของกูมึงก็เสือ กจนรู้หมดแล้วนี่ ยกเว้นเรื่องเดียวที่ยังไม่มีใครรู้^^
“ไปแด กข้าวกัน หิวหว่ะ><”
ไอ้ซิลบอกพลางล็อกคอผม ด้วยความที่มันเตี้ยกว่าผมๆเลยเดินเอียงจนล้มไปนั่งพับเพียบเรียบร้อยบนพื้นเลย-_-;
“อ้าว! อยากถูพื้นก็ไม่บอกO.o”
-*- ถูที่หน้ามึงสิ ผมมองพื้นที่บิดไปบิดมา ผมพยายามหรี่ตามองภาพข้างหน้าให้ชัดๆ ผมป้ายมือสะเปะสะปะหาแว่นของผม ถ้าไม่มีแว่นผมคงอยู่ไม่ได้-o-
“นี่ครับหัวหน้า^^”
ผมเงยหน้ามองเพื่อนในห้อง ใครวะ-o- แต่เอาเป็นว่าผมรีบยื่นมือไปรับแว่นมาใส่ดีกว่า ผมไม่อยากให้ใครเห็นหน้าโล่งๆนานๆ
“เราว่าหัวหน้าไม่ต้องใส่แว่นหรอก เสียดายออกจะน่ารักแท้ๆ>///<”
เพื่อนผู้ชายคนเมื่อกี้บอก น่ารัก? ผมอ่ะนะ-o-?
หมับ!
มือใหญ่คว้าตัวผมเซเข้าไปประทะกับแผงอก มืออีกข้างก็ปิดตาผมจนมองไม่เห็นอะไรเลย ผมดิ้นพลางดึงมือหนาออกจากใบหน้า
“รู้มั้ยว่าหน้าตัวเองขี้เหร่แค่ไหน”
ผมชะงักมือที่จะแกะแขนพี่โซลออก นั่นสิ...ผมมันขี้เหร่ ใครจะไปหล่อแบบพี่ละ
“รู้แล้ว...”
ทำไมชอบย้ำนักนะว่าผมหน้าตาไม่ดี อย่าเอาปมด้อยคนอื่นมาตอกย้ำได้มั้ย ผมยืนนิ่งๆไม่แสดงอารมณ์ว่าจริงๆแล้วผมกำลังไม่พอใจ ผมก็อิจฉานะที่พี่โซลหล่อส่วนผมมันแค่ลูกเป็นขี้เหร่ บางทีก็แอบคิดว่าเราเหมาะสมกันมั้ย...
“ปล่อยได้แล้วครับผมจะใส่แว่นแล้ว” ผมบอก
คนตัวใหญ่ขยับตัวถอยออกจากผมไป ผมก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันไปมองคนข้างหลัง พี่เขาคงไม่คิดว่าผมโกรธหรอกมั้ง ก็ปกติเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นผมมักจะทำเหมือนพี่เขาไม่มีตัวตน ผมไม่อยากให้คนอื่นจับได้ว่าเราคบกัน
...ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง....
ผมทำไปเพื่อพี่แค่นั้นแหละ ผมเปิดจอมือถือดูตัวเลข 14/02ที่เด่นหราอยู่บนจอ เอาน่าก็แค่วันๆหนึ่งในปีก็เท่านั้น
ครืด~ ครืด~
ผมกดเปิดข้อความที่ถูกส่งเข้ามาก่อนหันหลังกลับไปมองชายหนุ่มที่ยกมือถือตัวเองขึ้นมาจรดริมฝีปาก ใบหน้าหล่อที่อาบสีแดงจ้องมองผมซะรู้สึกหวิวๆ
ให้ตายสิโกรธพี่เขาไม่ได้นานเลยผมน่ะ
.... วันนี้เราไปเดทกันนะ ....
โซล
ผมเดินหิ้วถุงดำขนาดใหญ่ ถ้าเปลี่ยนเป็นถุงผ้าสีแดงคงเหมือนลุงซานต้ามากอ่ะ ข้างในมีแต่กล่องของขวัญที่คอยทิ่มแทงหลังผมอยู่ ผมเหวี่ยงถึงดำลงบนเตียงสีฟ้าอ่อน ไอ้เจ้าของห้องมองหน้าผมอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินเอาหมอนมาฟาดหัวผม
“ไรมึงวะ-*-” ผมถาม
“มึงโยนทำไมวะ ของพวกนี้กูจะส่งไปให้ลีลี่จังนะเว้ย>O<!!”ไอ้ซิลบอก
“ส่งไปเขาจะรับหรอ ขนาดส่งจดหมายไปยังไม่มีตอบกลับมาซักฉบับ-.-”
“มึง....-*-”
เหมือนจะพูดจี้ใจมันไปหน่อย ฮ่าๆ ไอ้ซิลทำหน้างอนๆแล้วยกหมอนตีผมอีกรอบ เห็นกูเป็นกระสอบทรายหรือไงวะ-o-!
“เจ็บเว้ย! กูกลับละนะ” ผมบอก
“อยู่กับกูก่อนดิวะ>o<”
“กูมีธุระ”
ธุระสำคัญมากๆเลย>///<
“ทิ้งกูไง มึงจะไปไหน-o-” ไอ้ซิลถาม
“ไป...ไปเที่ยวๆๆ” ผมตอบ
“วันนี้อ่ะนะ-.-”
“วันไหนมันก็เหมือนกันแหละน่า-_-”
“วันนี้มึงต้องอยู่กับกูดิ><”
“มึงเป็นแฟนกูหรือไงละ-o-!”
...ชิบหายแล้วไง-o-…
ไอ้ซิลตาเหลือกมองหน้าผมนิ่ง หวังว่าคงไม่ฉลาดคิดตามสิ่งที่ผมพูดหรอกนะ-o-;
“วันวาเลนไทน์ก็ต้องอยู่กับแฟนใช่มั้ยละ ฮ่าๆ” แถครับ
“สนใจวันนี้ด้วยหรอ-.-” ไอ้ซิลถาม
“มึงถามไรเยอะแยะวะ กะ..กูไปก่อนนะO.O”
ผมเมินเสียงตะโกนเรียกรีบวิ่งไปให้พ้นรัศมีบ้านไอ้ซิล ผมพลิกข้อมือดูนาฬิกาเรียนสีเข้มทุกๆ5นาที ผมไม่อยากไปสายในวันเดทนี่นา พอวิ่งไปที่นัดพบแล้วผมคงต้องแว้บไปห้องน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนสินะ แล้ววิ่งมาอย่างนี้ไปยืนใกล้พี่โซลเขาจะเหม็นเงื่อผมมั้ยเนี่ย>////<
ปี๊นๆๆ!!!!
ผมชักขากลับเข้าริมทางเท้า เมื่อรถกระบะบีบแตรอัดหูผมดังลั่น เกือบไปเดทแค่วิญญาณแล้วมั้ยละ ผมนี่ไม่ระวังตัวเอาซะเลย
“วิ่งลงมาหาพ่อ มึงหรอ!!”
ไอ้คนขับรถเปิดกระจกชะโงกหัวออกมาด่าผม ขอโทษฮะแต่ไม่เห็นต้องเล่นถึงพ่อแม่ สงสัยที่บ้านไม่เคร่งเรื่องมารยาท-*-
“กรรม”
ผมบ่นกับตัวเองเบาๆมือก็จัดหัวยุ่งๆของตัวเองให้เป็นระเบียบรอเดินข้ามถนน สะพานลอยมันไกลไปขี้เกรียจเดินไปขึ้น วิ่งตัดหน้ารถเนี่ยแหละง่ายดี-.-
ผมเหลือบมองฝั่งตรงข้ามที่เป็นย่านการค้า มีทั้งร้านขนมหรือกิ๊ฟช้อบน่ารักๆเต็มไปหมด สีสันมันสดใสดีผมชอบ ผมยกมือถือขึ้นมาเก็บภาพบรรยากาศด้านหน้าที่เต็มไปด้วยสีสันหลากสีของร้านต่างๆแต่ผมก็ตองชะงักมือไม่กดปุ่มถ่าย
...นั่นมัน....
ผมเงยหน้าจากจอมือถือเหลี่ยมๆมองภาพของจริง ร่างสูงโปรงในชุดนักเรียนเสื้อเชิ้ตสีขาวคล้องเนคไทด์สีฟ้าเข้ม ใบหน้าหล่อหัวเราะขบขันกับสาวน้อยข้างกายที่แต่งเครื่องแบบโรงเรียนเหมือนกับผม
....ทำไมในอกผมมันแน่นไปหมด....
ผมขยุ้มเสื้อตัวเองไม่กล้าละสายตาจากคนคู่นั้น ทั้งที่รู้ว่ายิ่งมองก็ยิ่งเจ็บแต่ถ้าปล่อยให้สองคนนั้นเดินออกไปไกลจากสายตาผม ผมคงทนไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าผมกลายเป็นพวกขี้หึงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เป็นพวกชอบยกข้อดีของคนอื่นมาเปรียบเทียบกับข้อเสียของตัวเองเพื่อให้ตัวเองกูต้อยต่ำลง ทำไงได้ละก็ผมสู้คนอื่นเขาไม่ได้จริงๆ....ถ้าพี่เขาเกิดเลือกคนอื่นขึ้นมาจริงๆ ผมจะทำยังไงนะ
ติ๊ดๆ
ผมกดส่งข้อความไปให้พี่โซล บอกว่าวันนี้ผมไม่สบายขอกลับก่อน เจอแบบนี้ผมถึงกลับไข้ขึ้นเลยแหะ ไม่มีอารมณ์เดทแล้วผมอยากกลับบ้าน ผมปิดมือถือถอดแบตแยกใส่ไว้ในกระเป๋าเป้แล้วหมุนตัวโบกแท็กซี่กลับบ้าน
...เฮ้อ~ ปวดหัวกับปวดใจตรงไหนมันปวดหนักกว่ากันหว่า ตอนนี้ผมแยกไม่ถูกแล้ว....
ก๊อก! ก๊อก!
..เสียงเชี่ยไรวะ..
ผมพยายามลืมตาตื่น ไม่คิดว่าจะเผลอหลับตอนเย็นๆแบบนี้เลยแหะ พอตื่นมาฟ้าข้างนอกหน้าต่างก็มืดแล้วอ่ะ ผมเดินไปเปิดประตูแล้วหาวอัดหน้าแม่ที่ยืนถือถาดยากับน้ำมาให้ผม
“เวลาหาวฮุบปากด้วยสิ-o-”
ผู้ชายผิวขาวตัวเล็กๆแทรกตัวเข้ามาให้ห้อง มือนุ่มลากตัวผมให้ไปนั่งที่เตียงก่อนจะเอามือมาแตะหน้าผากผมแล้วดึงไปเทียบกับอุณหภูมิหน้าผากตัวเอง ถึงแม่ผมจะเป็นผู้ชายแต่แม่ดูแลผมดีมากเลยละ ตั้งแต่ล้างจานกวาดบ้านถูบ้านล้างห้องน้ำทำกับข้าว(แต่ฝีมือห่วยไปนิด-o-)
“ก็ไม่มีไข้นี่O.O” แม่บอก
“มี~ โทรไปบอกพ่อเลยว่าติมไม่สบายจะตายแล้ว><~” ผมบอก
“เปลืองตังค์-_-”
“โห่แม่อ่ะ เวลาคุยกับพ่อก็ไม่เคยจะให้ติมคุยบ้างอ่ะ-3-”
“คุยแค่นาทีเดียวเองพ่อลูกก็วางแล้ว-_-”
“แม่จะกั๊กพ่อไว้คนเดียวใชมั้ยอ่ะ”
“บ้า-o-”
แม่เดินหยิบกระเป๋าบนเตียงผมเก็บเข้าที่ให้เป็นระเบียบ จริงๆแล้วผมว่าแม่น่าจะบอกให้พ่อย้ายเราไปอยู่บ้านใหญ่นะ ถ้าไปอยู่บ้านใหญ่ก็จะมีคนใช้แม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยแบบนี้ แต่ช่วยไม่ได้พ่อเขาดันอยากอยู่แบบนี้ ตอนเด็กๆผมก็ไม่คิดว่าการที่ผู้ชายสองคนรักกันมันเป็นเรื่องแปลก แต่พอโตขึ้นแล้วผมได้รู้อะไรหลายๆอย่าง ผมก็เริ่มคิดว่าเรื่องนี้มันแปลกเหมือนที่คนอื่นเคยล้อพ่อแม่ของผม ผมกำลังทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยหรือป่าวนะ
“แม่ฮะ”
“อะไรหรอo.O”
“แม่กับพ่อรักกันได้ยังไงอ่ะ-o-”
“โห้..อะ...เอ่อ ก็-o-/////”
“ช่างเหอะ ติมรู้แล้วแม่ตีหัวพ่อแล้วปล้ำทำสามีสินะ-o-”
“บ้านแกสิ-*-”
“นี่ไงบ้านติม^^”
“ใครสั่งใครสอนให้กวนโอ้ยชาวบ้านเขาฮะ-o-!”
“มีแม่สอนผมอยู่คนเดียวอ่ะ-_-”
“เวร-.-”
“แม่.. ถ้าแม่เจอพ่อเดินกับผู้หญิงคนอื่นแม่จะทำไง”
แม่เคยเจอเรื่องแบบนี้หรือป่าวนะ ก็คุณพ่อออกจะหล่อขนาดนั้น ส่วนแม่ก็ไม่ได้หล่ออะไรแต่ก็มีเค้าความน่ารักสดใสอยู่หรอก อยากรู้จัง
“ก็คง.....เข้าไปคุยให้รู้เรื่อง”
“งั้นหรอ แล้วไม่รู้สึกเจ็บ โกรธอะไรอย่างนี้หรอ ตอนพูดแม่พูดด้วยความรู้สึกแบบไหนหรอ”
“ไม่รู้สิพอถึงตอนนั้นมันก็มีหลายๆอารมณ์เข้ามาพร้อมกัน”
ผมก้มหน้าอย่างเข้าใจ ดูแม่จะตอบคล่องเอาซะมากๆเลยนะ คงเคยเจอเรื่องแบบนี้มาแล้วสินะ
“มีปัญหาเรื่องความรักหรอ” แม่ถาม
“ป่าว”
“หรา>O<~”
“คร้าบบบบ>O<~”
“งั้นแม่ไปซื้อของข้างนอกก่อนนะ มีหมาที่ไหนไม่รู้บ่นอยากกินเค้ก^^”
“งั้นแม่หมาออกไปซื้อให้ติมหน่อยนะ^^”
“ตังค์ละ-_-”
“ออกไปก่อนสิ-o-”
“เพิ่มไว้ในบัญชีแล้วไปคิดกับพ่อลูกแล้วกันนะ”
“เชิญครับ ไว้พ่อมาเมื่อไหร่ติมจะให้พ่อkisss กับแม่ทั้งคืนเลย^O^”
“ไม่เอาหรอก ไปดีกว่า-3-”
ผมหัวเราะกับท่าทางเขินอายบนใบหน้าบูดของแม่ เพราะแม่เป็นแบบนี้ละมั้งพ่อเลยรักแม่มากเลย เฮ้อ~ ผมอยากได้แฟนดีๆแบบพ่อบ้างจังเลย แต่ไม่เอาแบบโรคจิตSMนะ-o-
ก๊อกๆ!
-.- ยัง..ยางงงง ยังไม่ไปอีกนะ ผมลุกไปเปิดประตูห้องพลางเก๊กหน้ากวนตีนเตรียมยิ้มใส่แม่ แต่กลับเจอคนที่ผมคาดไม่ถึง
ปึก!
ผมปิดประตูแต่ดูเหมือนมันจะติดอะไรบางอย่าง ผมเปิดประตูง้างให้คนตัวใหญ่ดึงมือออกไป และนั่นก็เป็นโอกาสให้ร่างสูงเบียดตัวเข้ามาภายในห้อง
“มะ...มาทำไมหรอ” ผมถาม
“เห็นบอกว่าไม่สบายเลยมาดูน่ะ”
พี่โซลตอบ ผมยิ้มบางๆพลางเดินเอียงหลบสายตาคมที่จ้องมายังผม ผมนอนลงบนเตียงก่อนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมนอนตะแคงข้าง หลับแล้วๆออกไปเหอะ
“ยังไม่กินยาอีกหรอ”
พี่โซลถามพลางเหลือบตามองถ้วยใส่ยาเล็กๆกับน้ำที่ยังเต็มแก้วอยู่ ก็มันไม่เป็นไรนี่หว่า ถ้ากินไปแล้วเป็นขึ้นมาทำไงละ-o-
“หะ..หายแล้วละ แค่ง่วงนอนนิดหน่อย^^;”
พอผมพูดจบพี่โซลก็นั่งนิ่ง อ่า ผมพูดไรผิดหรอ-o-
“ทั้งที่วันนี้เราควรจะไปเดทกันน่ะหรอ”
น้ำเสียงตัดพ้อทำเอาใจผมกระตุกวาบๆ ก็มันไม่มีอารมณ์ไปเดทแล้วนี่นา
“งั้นนอนไปเถอะพี่กลับก่อนนะ”
พี่โซลบอกแล้วเตรียมก้าวเท้าเดินออกไป ผมสปริงตัวคว้าข้อมือใหญ่ไว้ ถึงผมจะไม่อยากเจอแต่ร่างกายผมมันกลับทำงานตรงกันข้าม ผมอยากจะรั้งเขาไว้กับผม แค่เสี้ยวเวลาหนึ่งก็ยังดี...
“..พะ..พี่โซล..”
นี่ผมกำลังทำอะไรกันเนี่ย ร่างสูงนั่งลงข้างเตียงผม ปลายนิ้วเรียวยาวปัดเศษผมที่ตกลงบนหน้าของผมออก มือใหญ่ประคองใบหน้าผมให้เงยขึ้นสบดวงตาสีเข้ม
“ติมเป็นอะไรหรือป่าว”
ผมส่ายหน้าเบาๆ ผมไม่อยากให้พี่เขามากังวลกับผม ไอ้เรื่องเจอแฟนเดินกับคนอื่นผมควรจะทำใจให้ยอมรับมันได้ซะ แต่มันไม่ง่ายเลย...
“มีอะไรก็พูดสิ ถ้าไม่พูดพี่จะรู้ได้ไง”
ผม...ผมพูดได้หรอ ถ้าผมพูดไปมันจะดีหรอ จะเห็นว่าผมเป็นพวกขี้หึงหรือป่าว หรือจะเป็นว่าเป็นพวกเด็กขี้งอนอะไรแบบนี้มั้ย ทั้งที่ผมเป็นเจ้าของพี่แต่ผมไม่รู้ว่าจะแสดงความเป็นเจ้าของออกมายังไง ให้ผมทำยังไง...
“..ถ้าพี่เจอผม เดินกับ..คนอื่น พี่จะทำยังไง..” ผมถาม
“คนอื่นที่ว่าใครละ”
“...ผู้หญิง น่ารักๆ”
“เห็นสินะ”
เอ๊ะ! ผมก้มหน้าหลบ ทำไมผมชอบปล่อยไก่แบบนี้นะ
“พี่ให้เพื่อนไปช่วยเลือกของน่ะ”
มือใหญ่ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบกล่องอะไรบางอย่างออกมา ใบหน้าคมคายเงยขึ้นสบตาผมเล็กน้อยก่อนจะเปิดฝากล่องโชว์ให้ดูสิ่งของที่อยู่ภายใน ใจผมเต้นสั่นระรัวนั่งตัวเกร็งทำอะไรไม่ถูก มือหนาหยิบแหวนที่สลักคำว่า “SOLAR”มาสวมให้ผม พี่โซลดึงมือผมไปประทับจูบอบอุ่น พลันสายตาผมก็เหลือบไปเห็นแหวนวงเกลี้ยงที่สลักว่า “I-Tim” หน้าผมก็แทบละลายกลายเป็นโจ๊ก ผมสูดหายใจถี่เวลาตื่นเต้นมากๆแล้วเหมือนจะช็อกยังไงก็ไม่รู้ -////-
“พี่รักไอติมนะ”
ผมก้มหน้าซ่อนใบหน้าแดงเถือกเป็นมะเขือเทศ ผมอยากจะมุดลงไปใต้เตียงจังเลย มือหนาบีบหัวไหล่มนเรียกใบหน้าผมให้หัวสบดวงตาเข้ม เหมือนมีแรงบางอย่างดึงดูดเราเข้าหากัน คนตัวใหญ่ทาบทับริมฝีปากลงบนปากของผม แรงขบเม้มเบาๆทำเอาใจผมกระตุกวูบ ปลายลิ้นร้อนที่เริ่มโหมชอนไชเข้ามาภายในโพรงปาก ผมหลับตามยอมจำนนต่อคนตรงหน้ายอมเผยปากให้พี่โซลตวัดกลืนกินลิ้นไม่ประสาของผม ผมรู้สึกว่าแผ่นหลังของผมราบสนิทไปกับผ้าปูเตียงนุ่มนิ่ม มืออุ่นสอดเข้ามาใต้เสื้อตัวบางก่อนจะใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเม็ดอกผมเล่น
“อื้อ...”
ผมร้องฮือกับสัมผัสแปลกๆ ร่างกายผมมันร้อนไปหมดยิงคนตัวใหญ่โถรุกจูบผมมากเท่าไหร่ร่างกายผมก็ยิ่งร้อนรุ่ม ผมเข้าใจสถานการณ์ข้างหน้าว่ามันกำลังจะเกิดอะไร แต่ว่าเรื่องแบบนี้....ผมยังไม่ได้เตรียมใจเลย ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ! อีกอย่าง...ผมน่ะ
“ผะ...ผม อาจจะไม่น่ารัก....ทำเรื่องแบบนี้ไม่เป็น มะ..ไม่รู้ว่า คนขี้เหร่
อย่างผมจะคู่ควร..กับพี่มั้ย..”
ในที่สุดก็พูดออกไปจนได้ สิ่งที่ผมอัดอั้นมาตลอดตั้งแต่คบกันตอนประถมยันตอนนี้ ผมได้ยินเสียงพี่โซลถอนหายใจ อ่า....คงหมดอารมณ์สินะ
ผมก้มหน้าขย้ำคอเสื้อที่เปิดกว้างเข้าด้วยกัน ผมทำตัวไม่ถูกไม่กล้ามองหน้าพี่เขาเลย
“ที่บอกว่าขี้เหร่น่ะ..ก็แค่ไม่อยากให้ไปทำหน้าน่ารักๆใส่ใคร”
น่ะ...น่ารักหรอ ผมอ่ะนะ!
“ให้ตายสิ เคยรู้บ้างมั้ยว่าตัวเองน่ารักน่ะ!”
มือใหญ่ยกหลังมือปิดใบหน้าตัวเองไว้ครึ่งนึงพลางเอียงหน้าหลบ ผมลอบมองแก้มใสๆที่แดงเถือกลงมาถึงลำคอ ผมก็อดหน้าแดงตามไม่ได้
“..ต่อจากเมื่อกี้...มั้ย”
พี่โซลถามตะกุกตะกักมือก็เกาท้ายทอยตัวเอง ผมเงยหน้าสบดวงตาเข้มเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเบาๆ เอาก็เอาวะ เออแบบว่าผมออกตัวแรงไปไหมหว่า>////<
“..ตะ..แต่ ผมยังไม่ได้..อาบน้ำ ขอไป..!”
คนตัวใหญ่กระโจนขึ้นคร่อมผม มือหนารั้งแขนผมขืงพืดไว้ข้างหมอน
“ไม่ต้องหรอก อยากได้กลิ่นติม..”
อยากได้กลิ่น-o-! ผมจะเขินหรือผมจะขำก่อนดี ฮ่าๆ พี่โซลจ้องหน้าผมเหมือนกับที่ผมก็จ้องหน้าพี่โซล ใครเริ่ม..? ดูเหมือนพวกผมจะนิ่งมองกันแต่หน้าแล้วก็เขิน งั้น.... ผมเบิกทางให้นิดนึงก็ได้
...ขอโทษพ่อกับแม่ด้วยนะครับที่ผมยั่วปู้จายยยยT^T…
ผมขยับตัวเป็นปลาไหลเล็กน้อยพอให้คอเสื้อเปิดออก ใบหน้าหล่อเริ่มก้มลงฝังจมูกลงข้างคอขาวๆของผม หืออออ! ขนลุกเลย ริมฝีปากหนาขบเม้มเนื้อบอบบางของผมแล้วขยับลงมาที่ช่วงอก มือใหญ่ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนักเรียนผมออกทีละเม็ดๆ จนเหลือเพียงท่อนบนโล่งๆที่ท้าทายสายตาคมให้หยุดมอง ลิ้นอุ่นเริ่มเลียละเลียดยอดอกผม ผมกระตุกตัวเกร็งเป็นระยะๆตามจังหวะที่พี่โซลดูดดึงยอดอกผม
...ทำอย่างกับดูดนมแม่แน่ะ...
มือใหญ่สอดประสานมือเล็กๆของผมจนแทบกลืนเป็นมือเดียวกัน ร่างกายผมเริ่มร้อนระอุเหมือนถูกไฟลนอีกระรอก มวลในท้องมันเริ่มปั่นป่วน หัวสมองชาวาบไปหมด
“พะ...พี่โซล อื้ม!”
ผมเผลอหลุดร้องเสียงหลง เพียงแค่ปลายนิ้วอุ่นลากลงไปใต้กางเกงผมเท่านั้น ผมรู้สึกว่าความอัดแน่นภายในตัวกำลังจะทยานออกมา ผะ...ผมไม่ไหวแล้ว...
ปัง!
บานประตูสีครีมเปิดออก มือเล็กที่ยังคาอยู่ที่ลูกบิดดันประตูกระแทกกำแพงเสียงดัง ผมกับพี่โซลแทบจะผละออกจากกันทันที คนตัวเล็กจ้องผมเขม็ง ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันช่างกดดัน
“กูบอกมึงแล้วใช่มั้ย!!”
ไอ้ซิลตะโกนลั่นแล้วเดินมากระชากตัวผมจนตกจากเตียง
“ซิลไม่รุนแรงไปหน่อยหรอ!!”
พี่โซลตะคอกเสียงดัง มือใหญ่ฉุดดึงตัวผมต้านกับแรงน้องของตัวเองที่ดึงแขนผมไว้อีกข้าง เจ็บชะมัด!
“พี่ก็เหมือนกัน ซิลบอกแล้วว่าอย่ายุ่งกับไอ้ติมมันไง!!”
“มันเรื่องของพี่!! ปล่อย!”
พี่โซลบีบแขนไอ้ซิลแรงๆแล้วกระชากออกจนหลุดจากมือผม ผมมองใบหน้าหล่ออย่างหวั่นๆ ผมไม่เคยเห็นพี่โซลดูน่ากลัวขนาดนี้ ปกติพี่โซลจะใจดี ผมยังตกใจเลยที่อยู่ๆพี่เขาก็ขึ้นเสียงกับไอ้ซิลแถมยังกระชากตัวมันปลิว
“พี่โซลพอเถอะครับ!” ผมบอก
ผมก้าวเท้ายาวๆมุ่งตรงไปหาไอ้ซิลที่นั่งกองอยู่บนพื้น
“ซิล..”
ผมดึงไหล่มันหันมามองหน้าผม ใบหน้าหวานแดงกร่ำดวงตาสีอ่อนเตรียมระเบิดน้ำตาออกมา มันเม้มปากแน่นมองผมอย่างโกรธเคืองสลับกับมองไปยังพี่โซล ผมหันไปมองพี่โซลที่ยืนหน้าซีดกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ผมรู้ว่าพี่โซลก็ตกใจอยู่ไม่น้อยที่ตัวเองเผลอทำอะไรรุนแรงกับน้องรักอย่างไอ้ซิล
“ฮึก!..กูห้ามมึงแล้วมึงยัง..จะทำ ไอ้เพื่อนเลว!!”
ผมหน้าตึงเมื่อได้ยินคำนี้หลุดออกจากปาก ..ผมมันเป็นเพื่อนที่ไม่ได้เรื่องเลยสินะ... แต่ทำไงได้ผมรักพี่โซล!!
“..กูขอโทษ...” ผมเอ่ยแผ่วเบา
“ขอโทษหรอ!!” ไอ้ซิลเสียงดัง
“ขอโทษ...”
ผมรู้ว่าการอยู่ใกล้ไอ้ซิลอาจจะทำให้ผมวิญญาณหลุดออกจากร่างโดยไม่รู้ตัว แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอก และบอกได้ก็แค่”ขอโทษ” ก็เท่านั้น
“ทำไมต้องคบกันด้วย! ทำมายยยย!!!”
ผมนั่งนิ่งจ้องมองใบหน้าที่เอ่อนองไปด้วยน้ำตา ร่างบอบบางสั่นระริก มันสูดหายใจเข้าเหมือนพยายามสะกดกลั้นอารมณ์บางอย่าง
“ฮือๆ..แล้วถ้าเกิดวันนึง.....ละ..เลิกกันขึ้นมา กูก็ต้องเสียเพื่อนไป...สินะ ฮือๆ กูไม่อยากเสียใครไปทั้งนั้น!! ถ้าให้เลือกระหว่างพี่กูกับมึง...กูเลือกไม่ได้ ฮือๆ”
ไอ้ซิลร้องไห้ซบฝ่ามือตัวเอง ผมเข้าใจแล้ว...เหตุผลที่มันไม่อยากให้ผมคบกับพี่โซล... ผมมองร่างสูงโปร่งที่ยืนนิ่งไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะคบกันไปได้นานแค่ไหน เราจะคบกันไปถึงเมื่อไหร่ ผมก็ไม่อยากให้เรามีวันเลิกราแต่...มันคงเป็นไปไม่ได้...
“พี่จะไม่มีวันเลิกกับเพื่อนซิลหรอกนะ”
ร่างสูงย่อตัวลงจับไหล่สั่นไหวไว้ ใบหน้าหวานเงยหน้ามองพี่ชายปากก็เปิดกว้างเหมือนอยากจะตั้งคำถามต่อ
“...พี่สัญญา...”
หัวใจผมเต้นสั่นระรัวเหมือนกลอง ผมสูดลมหายใจลึกเหมือนว่าน้ำมันจะเริ่มตื้นขึ้นที่ขอบตา คำพูดแบบนั้นน่ะ..
...อย่างกับคำสาบบานแต่งงานเลย...
“..นะ..แน่ใจนะ ถ้าพี่โซลทิ้งไอ้ติมละก็....”
“..ไม่มีวันหรอก เพราะพี่..รักติมจริงๆ”
ผมเป็นพวกไม่เชื่ออะไรง่ายๆ เป็นพวกไม่มีความมั่นใจเอาซะเลยโดยเฉพาะเรื่องความรัก แต่พี่ทำให้ผมได้เห็นว่าความรักที่แท้จริงมันเป็นยังไง
ถ้าผมจะบอกเรื่องนึงออกไปตอนนี้จะเป็นไรมั้ย ซิลมันจะโกรธผมหรือป่าว... ผมน่ะ...
“...รักพี่โซลเหมือนกันครับ..”
ไอ้ซิลเบิกตาโพรงกว้างก่อนจะหรี่ตาลงเป็นคลายยิ้มบางๆ พี่โซลกระตุกยิ้มมุมปากเป็นเชิงรับรู้ ส่วนผมก็นั่งหน้าแดงหลังจากพูดออกไป บ้าจริง!
“มึงต้องรักพี่กูมากๆนะ ห้ามดื้อกับพี่กู ต้องตามใจพี่กูให้มากๆ มึงต้องไปฝึกทำกับข้าวมาด้วยนะ”
ไอ้ซิลบอกพลางตบไหล่ผม
“ทำกับข้าว?” ผมทวน
“กูไม่รับพี่สะใภ้ที่ทำกับข้าวห่วยแตกหรอกนะ-3-”
พี่สะใภ้หรอOoO!! ถึงผมจะทำอะไรไม่ได้เรื่องนอกจากเรียนกับทำการทดลอง แต่สิ่งที่ผมต้องไปฝึกเพิ่มคือการเป็นพ่อบ้านที่ดีสินะ ผมจะทำได้มั้ยนะแค่ทำคลุกข้าวปลาทูให้แมวกินแมวยังเมินเลย...
“พยายามเข้านะ”
ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มสดใส มือใหญ่ลูบหัวผมเบาๆ ถ้ามีคนให้กำลังใจละก็ไม่แน่ว่าผมคงทำได้ ผมเงยหน้าสบดวงตาคมแล้วยิ้มบางๆ ใบหน้าหล่อโน้มลงมาติดจมูกผมจนได้กลิ่นลมร้อนที่แผ่ออกมา เวลาอยู่ใกล้กันทีไรไฟติดทุกทีเลย ผมเผยอปากเตรียมรับจูบจากคนตัวสูงที่โอบเอวผมไว้กลายๆ
“เออคือ...กู ต้องไปสินะ-.-”
ไอ้ซิลถามก่อนถอยตัวออกไปนอกประตู ตอนนี้ก็เหลือแค่ผมกับพี่โซล2คนในห้อง โดนขัดดราม่าไปรอบนึงแล้ว ยังจะ...อีกหรอก
“ต่อมั้ย-//////-” พี่โซลถาม
ผมไม่ตอบแต่ผลักร่างสูงลงเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเราสองคนไว้ด้วยกัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ