Sulfur Love (RE-Write)

9.2

เขียนโดย enzang2660

วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.57 น.

  57 บท
  25 วิจารณ์
  132.75K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556 17.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

48) [Fic service] ดาราหน้าใสเอี่ยวหัวใจนายหน้าบูด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

+++++ ชี้แจง +++++

ตอนที่ขึ้นต้นด้วยFic Service

ไม่มีส่วนเีกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องเพียงแต่ใช้ตัวละครภายในเรื่อง Sulfur Love

ตอนอยู่บอร์ดเด็กดี-นิยาย ได้เปิดให้มีรีเควสเลือกคู่ที่อยากอ่านและอธิบาย

โครงเรื่องที่ต้องการ  เป็นการคืนกำไรให้คนอ่าน555+

(เกริ่นมาซะดี  รั่วท้ายอีกล่ะ>///<)

 

 

 

 

  Fic service 

ดาราหน้าใสเอี่ยวหัวใจนายหน้าบูด

 

 

 

                “ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่เรือสำราญของฉันนะ   หวังว่าคืนนี้ทุกท่านจะรู้สึกสนุกกันนะ^^”

                ชายวัยกลางคนละริมฝีปากออกจากไมค์ก่อนจะโปรยยิ้มสดใสที่แฝงไปด้วยความนัยบางอย่างที่ทุกคนยังไม่รู้....คำว่าสนุกของเขา   แท้จริงแล้วมันคืออะไรที่ยากจะหยั่งถึง

                “ทุกคนคงสงสัยสินะว่าทำไมเรือลำนี้ถึงด้วยแจกกำไลไอดีให้ทุกคน   สงสัยกันมั้ยเอ่ย?”  ชายเจ้าของเรือพูดต่อ

                “เราจะมาเล่นเกมตามหาบัดดี้กัน^^”

                ผู้คนบนเรือเริ่มสงสัยฮือฮา   มันเป็นเกมที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยถึงจะดูเป็นเกมเด็กเล่นก็เถอะ   ร่างสูงสง่าเบือนหน้าเล็กน้อย   เขาไม่ค่อยสนใจเกมไร้สาระพรรค์นี้สักเท่าไหร่   อีกอย่างผู้คนที่ถูกเชิญมายังเรือลำนี้ล้วนแต่เป็นคนแต่งานแล้วไม่ก็มีคู่รักอยู่แล้วยังไงซะเกมนี้ก็คงอวยให้พวกนั้นได้คู่กัน

                “เรามาเริ่มเกมกันเลยดีกว่า   หลังจากฉันระเบิดเรือแล้วฉันจะให้เวลา10นาทีให้พวกคุณๆตามหาบัดดี้แล้วพาไปที่เกาะ B14” ชายเจ้าของเรือพูด

                “แหมฟังดูโหดร้ายจังเลยนะฮ่าๆ  ระเบิดเรือเลยหรอ”

                หลังจากชายชุดสูทข้างหน้าเวทีพูดจบเสียงระเบิดหัวเราะของคนอื่นก็ตาม   ชายร่างสูงบนเวทีขยับยิ้มเล็กน้อยก่อนกล่าวต่อ

                “ฮ่าๆ  น่าสนุกใช่มั้ยละ   ฉันจะบอกกฎสำคัญของเกมนี้ให้อีกอย่างนะ   บัดดี้ที่มีเลขไอพีตรงกันจะอยู่ห่างกันเกิน2เมตรไม่ได้^^”

                “ทำไมคะ....จะระเบิดตามเรือไปหรือไง  คิกๆ^^”

                คุณนายรวยเครื่องประดับหัวเราะคิกคัก 

                “ฉลาดจังเลยนะครับ   เอาละได้เวลาเริ่มเกมกันแล้วละนะ   หลังจากได้ยินเสียงระเปิดแล้วอีก10นาทีฉันจะเปิดระบบที่กำไลไอดีทุกคน....”

                ผู้พูดๆด้วยบหน้ายิ้มแย้มแต่น้ำเสียงกลับเย็นยะเยือก   ผู้คนบนเรือเริ่มแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมาแล้วเริ่มจับกลุ่มกัน    ใบหน้าหล่อตีหน้านิ่งเฉยเหมือนเดิม   ตัวเขาเองก็เป็นดาราให้ไปทำหน้ายิ้มพูดเสียงโรคจิตๆแบบนั้นเขาก็ทำได้

                “...ขอให้สนุกนะ^^”

 

                ตู้ม!!!

 

                เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวทำเอาคนบนเรือกรีดร้องวิ่งหนีกันอย่างจ้าละหวั่น    ดวงตาคมมองกลับไปบนเวทีที่เจ้าของเรือยืนอยู่อีกครั้งแต่กลับไร้ร่างของชายคนนั้นเสียแล้ว    ริมฝีปากหนาขบเม้มเข้าหากัน   ดูเหมือนเขาจะคาดการณ์ผิดไปนิด   ร่างสูงโปร่งก้มมองกำไลไอดีที่ข้อมือซึ่งตัวเลขสีเขียวบนจอเล็กๆเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

                ....เวลามันเริ่มนับถอยหลังแล้ว...

 

 

 

 

[View]

               

                ครืดดดด~

           

            ได้ยินเหมือนเสียงเหล็กก้อนใหญ่ถูกลากไปมากับพื้นเลยหว่ะ....   ผมลืมตามองที่ตำแหน่งที่นอนของตัวเองที่ต่างไปจากตอนเข้านอน    ผมว่าเตียงผมมันอยู่ติดกำแพงนะทำไมมามาอยู่ชิดตู้ได้-_-?

                “อั่ก!!”

                ไม่ทันที่ผมจะลุกออกจากเตียงหลังผมก็กระแทกกับตู้ไม้ในห้องซะแล้ว   ถ้าเรือมันจะเอียงขนาดนี้นะ-*-

                “เจ็บชิบเลย-*-”

                ผมบ่นกับตัวเองก่อนจะลุกไปหยิบกล้องตัวเองบนโต๊ะ    ผมชื่อวิวเป็นนักข่าวGossipให้นิตยาสารชื่อดัง   งานของผมคือขายเข้าเขียนคอลัมน์    ความจริงแล้วผมเกลียดการขึ้นเรือที่สุดแต่เพราะต้องมาทำข่าวของพระเอกชื่อดัง “ซีนอน”   มันมีข่าวไรให้น่าสนหรอ   อันนี้ผมก็ไม่รู้แต่บก.สั่งผมให้มาจับตาดู

บก.เขาว่าไอ้หมอนี่มันเป็นมาเฟีย!

                “เฮ้อ~  เรือเอียงชิบ-*-”

                ผมเดินออกมานอกห้องอย่างมึนๆ  ยิ่งความดันต่ำด้วยนอนไม่พอมันเรื่องใหญ่นะ-*-   เสียงโหวกเหวกโวยวายดังลั่นไปทั่วเรือ   คนบนเรือวิ่งชนกันไปมาอย่างกับ.....เอ๊ะ! หรือจะมีข่าวอะไรให้เก็บ    ผมเปิดฝาเลนส์กล้องแล้วไล่แชะรูปไปเรื่อยๆ

                “นี่นายไอดีอะไรน่ะ!!”

                ผู้หญิงคนนึงวิ่งโร่เข้ามาถามผม  ไอดี?  ไอดีอะไรวะ-_-?

                “ไม่รู้สิ-_-”

                ผมตอบหน้านิ่ง   มือขาวฉวยข้อมือผมขึ้นไปดูก่อนสะบัดทิ้งแล้ววิ่งหายไป   อะไรวะ-_-   ผมมองกำไลดิจิตอลที่ข้อมือตัวเองมันขึ้นเหมือนบอกเวลาเลย 05:28  แล้วตัวเลขมันก็ถอยหลังลงจนกลายเป็นสีเหลือง

               

                ครืดดดด~

 

            ผมเกือบหงายหลังลงไปนอนกลับพื้น  จู่ๆเรือมันก็โคลงอีกแล้ว.....ไม่สิ   หัวเรือมันถูกยกขึ้นต่างหาก...   ผมคว้ามือเกาะกำแพงไต่ออกไปดูสถานการณ์ข้างนอก

                “เรือจะจมแล้วๆ!!”

                “กรี๊ดดดดดดดด  ใครไอดี44859  บ้าง!!”

                .....เรือจะจมหรอ-_-….

                งั้นไปหาถุงพลาสติกมาคลุมกล้องก่อนแล้วกัน-_-   ผมไม่ได้เป็นคนใจเย็นหรอกนะที่ไม่ตกใจอะไรเรื่องเรือจะจม    แต่ถ้ามันจะจมแล้วผมโวยวายไปเรือมันจะเหินฟ้าขึ้นไปให้ผมมั้ยละ   เก็บเสียงไว้ร้องเรียกคนมาช่วยดีกว่า   ผมลากเท้าเข้าไปหลังเคาเตอร์เรือบนด่านฟ้าแล้วรื้อค้นเอากล่องพลากติกใส่อาหารออกมา   

                ....สำหรับนักข่าวแล้ว  กล้องคือชีวิต!!....

                “แฮ่กๆ   สิบนาทีแล้ว...”

                เสียงทุ้มเอ่ยพลางผ่อนลมเหนื่อยหอบออกจากปาก    ผมเหลือยมองใบหน้าหล่อดูดีราวกับเจ้าชายที่ดูสิ้นหวัง   มือใหญ่กุมศีรษะตัวเองก่อนจะปล่อยตัวนั่งลงบนพื้น    มันถูกหวยแด กหรอ-_-?

                “พารามั้ย-o-”  ผมถาม

                ร่างหอบเหนื่อยหันมามองผมก่อนจะลุกเดินมาหาผม

                “ชิ!  หาตั้งนานมาหมกอยู่ในบาร์หรอกเรอะ!”

                ไอ้พระเอกบ่น   กูผิดหรอที่กูมาหาที่ใส่ลูกกูเนี่ย   มือใหญ่เสยผมขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเปรยยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก   ....คืนชีพแล้วสินะ-_-

                “รีบออกไปได้แล้วเรือจะจมแล้ว”  ไอ้หน้าหล่อบอก

                “จะไปก็ไปดิผมไม่รีบ-_-”

                ไม่รีบหรอก   ผมยังหาสก็อปเทปมาปิดปากกล่องไม่เจอเลยเดี๋ยวน้ำเข้าซวยเลย   ผมเปิดตู้หยิบฟิล์มเคลือบอาหารออกมาห่อกล่องแทน   หวังว่าน้ำคงไม่เข้าหรอกนะ

                “นี่นายไม่กลัวตายหรือไง”  หมอนั่นถามต่อ

                “จะไปก็ไปดิยืนบ่นอยู่ได้น่ารำคาญ-*-”

                “ถ้านายไม่ไปแล้วฉันจะไปได้ยังไงละ-_-”

                “ผมไม่ได้ล่ามโซ่คุณไว้นะครับ-*-”

                มึงจะไปไหนก็ไปเถอะเกี่ยวไรกับกู   ยืนเร่งอยู่ได้ปั๊ดเอามีดแทงซะดีมั้ย   คนนอนน้อยมันหงุดหงิดง่ายนะเว้ย-*-

                “อยากตายคู่หรือไง-*-”  

                “ตาย?  คุณจะอยู่รอเรือจมกับผมปะละ-*-”

                “ไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรือไง-o-”

                “เรื่องไรไม่รู้ทั้งนั้นแหละ-*-”

                “นายไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงบนเรือหรอ”

                “หลับอยู่  ผมเมาเรือ-o-”

                ไอ้พระเอกยกมือกุมขมับกับคำพูดของผม   กูนอนแล้วหนักหัวมึงหรือไงละ-*-

                “ตอนนี้ทุกคนกำลังอยู่ในเกม”

                ผมพยักหน้าหงึกๆ   เกมอะไรไม่สนละไปละ   ผมเดินออกไปข้างนอกที่เป็นลานกว้าง   หัวเรือสูงเป็นบ้าเลย   ผมมองลงไปยังผิวน้ำที่มืดสนิทถ้าผมไปเอาชูชีพตอนนี้จะมีเหลือให้ผมมั้ยเนี่ย  

 

                ครืดดดด~

 

            หีบไม้ขนาดใหญ่สไลด์ลงมาจากหัวเรือ   ผมหลับตาเกาะขอบเรือแน่นหวังว่าไอ้หีบนั่นจะไม่ลากผมลงท้ายเรือไปนะ!!

 

                หมับ!

 

                เอวผมถูกคว้าไว้โดยคนข้างกาย   ซีนอนดึงผมให้ข้ามมาอยู่ฝั่งเดิม    ผมพิงหลังกับกำแพงต้านแรงโน้มถ่วงของเซอร์ไอแซคนิวตัน   เพราะกฎของมันทำให้ผมต้องเรียนฟิสิกส์จนจะบ้า-*-

                “เกือบตายแล้วมั้ยละ  ถ้านายหล่นน้ำไปฉันไม่ไปรับนะ!!”

                ไอ้พระเอกตวาดวีนผม   กูได้ข่าวใหม่สำหรับมึงละ   พระเอกมาเฟียวีนนักข่าวประกาศจะส่งลูกน้องไปตามกระทืบที่บ้าน

                “ถ้าห่างกัน2เมตรนายกับฉันได้ระเบิดแน่!!”

                “เชื่อ?”  ใครจะไปเชื่อละ

                “นายไม่ได้ยินหรอ....เสียงระเบิดน่ะ”

                ไม่รู้เหมือนกันโว้ย   เสียงคลื่นซัดมันดังกลบหมดไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นแหละ  

 

                ฟ้าว   แกร๊ง!!

 

                ลูกดอกปลายแหลมพุ่งออกจากกระบอกปืนไปปักค้างอยู่บนโขดหินขนาดใหญ่   มือใหญ่ถอดเสื้อสูทราคาแพงออกมาวางทาบบนเส้นลาดหนา

                “จับให้แน่นๆ  ระวังขาด้วย”

                ซีนอนบอกแล้วเอามือผมวางบนเสื้อสูท   จะให้โหนลงไปหรอ   เหมือนในหนังอ่ะนะ-o-   ผมมองดูผืนน้ำอันเวิ้งว้างไม่รู้จะมีฉลามโผล่ขึ้นมาเมื่อไหร่แล้วก็มองกลับไปที่ลวดสลิงอันหนาที่ไอ้พระเอกมันยิงออกไป   พุ่งไปชนโขดหินก็หล่นลงน้ำอยู่ดี   งั้นลงนำไปเลยก็สิ้นเรื่อง-*-

 

                ตู้ม!!

               

                ผมกระโดดข้ามราวกั้นบนเรือออกมา   ร่างผมตกลงสู่ทะเลที่เยือกเย็น    ผมเปิดเปลือกตามองความมืดมิดรอบข้าง   เพิ่งรู้ว่าเล่นน้ำทะเลตอนกลางคืนมันน่ากลัว

 

                ซวบ!

 

                “อ๊า!  แฮ่กๆ”

                แค่แว้บเดียวมือใหญ่ก็ฉุดผมให้ขึ้นมาเหนือน้ำ    จะตามลงมาทำไม่ก็ไม่รู้    ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วตีหน้าเคร่ง

 

                ฉับ!

 

                กุญแจมือสีเงินวาววับล็อคเข้าที่แขนผม   มือหนายกขึ้นสูงเหนือหัวโชว์ให้ผมดูว่ามันล็อคแขนผมไว้กับมันเรียบร้อยแล้ว   ให้ตายสิ!!

                “ทำบ้าอะไรของมึงเนี่ย!!”  ผมตะคอก

                “ฉันสิต้องถามนาย  บอกแล้วใช่มั้ยว่าถ้าห่างกัน2เมตรจะระเบิด   ทำไมไม่ฟังกันบ้างห๊ะ!!”

                “เชื่อเรื่องบ้าๆนี่ด้วยหรอ-*-”

                “นายไม่เชื่อก็เรื่องของนาย   แต่อย่าเอาความดื้อรั้นของนายมาทำให้คนอื่นเขาตายไปด้วย!!”

                “กลัวตายว่างั้น?”

                “ฉันไม่ใช่คนไร้ครอบครัวที่จะเอาชีวิตไปทิ้งที่ไหนก็ได้นะ!!”

                “....เรื่องครอบครัวอะไรนั่น...ไม่เข้าใจหรอก”

                ผมก้มหน้านิ่ง   ครอบครัวเป็นยังไงผมไม่รู้จักเพราะผมโตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า   พอออกมาก็ทำงานไปวันๆไม่เคยนึกถึงเรื่องอะไร   ไม่นึกถึงใครด้วย   ก็ผมมันตัวคนเดียว   ไม่มีภาระ  ไม่มีใคร....  เรื่องจะตายไม่ตายก็เลยไม่อยู่ในหัวผมเลย....

                “ตามเขียนข่าวฉันอยู่ไม่ใช่หรอ”

                เสียงทุ้มเอ่ย   ผมเงยหน้าสบดวงตาคมที่เบือนออกไปจากผม

                “ถ้าฉันรอดจากเกมนี้ไปได้......จะสัมภาษณ์อะไรฉันจะตอบให้หมดเลย”

                เข้าใจแล้ว   จะเล่นเกมนี้ด้วยก็ได้   ไม่ใช่เพื่อมึงแต่เพื่องานกูหรอกนะ!!

 

 

 

 

                ซ่า~ ซ่า~

 

                ผมค่อยๆลืมตาขึ้น   ที่ตื่นไม่ใช่เพราะเสียงคลื่นหรอกแต่ตื่นเพราะแดดมันเผาต่างหาก   ผมยันตัวลุกจากพื้นทรายที่เปียกชื้น

 

                ตุ้บ!

 

                ผมนั่งกัดฟันกรอดๆ  ลุกได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีก้นผมก็ปักลงทรายอีกแล้ว!!   ผมมองข้อมือตัวเองที่โดนพันธนาการไว้กับอีกคน   เพราะมันไม่ลุกผมก็เลยลุกไม่ได้-*-   

                “ตื่นๆๆๆๆ”

                ผมบอกพลางพลิกไอ้พระเอกไปมาเป็นหมึกย่าง   ไม่ตื่นหรอวะ-o-!!   หวังว่ายังไม่เป็นศพไปนะ   จะให้กูแบกศพเดินไปเดินมาแบบนี้ไม่ไหวนะเว้ย!!

                “ตื่น!!!!”

                ผมตะโกนดังลั่น   มึงไม่ตื่นแต่ชาวบ้านเขาตื่นกันแล้วนะ   ผมเอากิ่งไม้มาสะกิดตัวมันแทน  

                “เจ็บ...”

                ไอ้หน้าหล่อปรือตาขึ้นเล็กน้อยก่อนเอ่ยเสียงเย็น   กูปลุกนานละไม่ตื่นไง-*-

                “หลับเป็นตายเลยนะ-*-”  ผมบ่น

                “ไม่ตายหรอกน่า^^”

                ไอ้พระเอกโปรยยิ้มใส่ผม   ขนลุก=o=

                “กุญแจอ่ะ”  ผมถามหากุญแจไขที่ล็อคข้อมือผมเนี่ย

                “-_-”

                มือใหญ่ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง   กระเป๋าเสื้อ   ปลิ้นออกมาดูแล้วมีแต่ทราย   บรรลัยแล้วไง   กุญแจละ-o-!!

                “สงสัยจะลืมไว้บนเรือ^^;”

                ....ลืมไว้-o-….

                ….บนเรือ-o-…

                “ไอ้เวรรรรร!!!!>[]<”

                ผมอยากจะเอาหัวโหม่งต้นมะพร้าวจริงๆ   อยู่บนเรือ...   เรือแม่ ง จมไปถึงชั้นแมกม่าแล้วมั้งป่านนี่   ทำไมต้องมาเจอเรื่องซวยๆแบบนี้ด้วยวะ!!   ผมจิกตามองไอ้พระเอกมาเฟียข้างๆ   อยากจะฆ่ามัน!!  ถ้าไม่ติดว่ามันตายแล้วต้องเดินลากศพมันละก็นะ-*-

                “ช่างมันเหอะ  เดี๋ยวเอาอย่างอื่นมาไขก็ได้”

                มันบอกจบก็เอากิ่งไม้มาแงะรูกุญแจ

 

                แก๊กๆ

 

                เปาะ!

 

                -o-…..

                “หักเฉยเลย  แย่จังนะ^^”

                วิญญาณผมแทบจะหลุดออกจากร่าง   มองใบหน้าหล่อที่คลายยิ้มแก้เก้อออกมาสลับกับพวงกุญแจที่ล็อคข้อมือผม   ผมตีหน้าตายไว้อาลัยให้กับกิ่งไม้ที่หักคารูกุญแจ....ฝั่งผม

                “ทำไมไม่ไขของตัวเองก่อนเล่า!!”ผมบอก

                “ต้องไขให้คนอื่นก่อนสิ-o-”

                “-*-”

                “จะได้รู้ว่าใช้ไม้ไขแล้วมันหักจะได้หาอย่างอื่นมาไขแทน^^”

                ฆ่ามันได้มั้ย!!  ไอ้รอยยิ้มยียวนกวนประสาทนี่มันทำให้ผมอยากจะ

กระโดดเอาสนเท้าวางทาบหน้ามันมากๆเลย   ดารามันเป็นงี้ทุกคนเลยหรือไงวะ!!

                ~ฮัลโหลๆ  ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่เกาะB14นะคะ  ฉันชื่อลาล่าเป็นพิธีกรดำเนินรายการเกมนี้นะคะ   ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ  อ๊ายยยย   อยากกระโดดลงไปซบอกคุณซีนอนจังเลย~

                คนถูกพูดถึงยักคิ้วขึ้นพร้อมกระตุกยิ้มเท่ที่มุมปาก   ถ้าพวกนักข่าวสาวที่ทำงานผมมาเห็นเข้าคงลงไปนอนดิ้นตายเหมือนแมลงสาบโดนยาเบื่อ(?)  

                ~แสดงความยินดีกับทุกท่านที่มาถูกเกาะนะคะ  เพราะเกาะบริเวณใกล้เคียงเป็นเกาะเก่าของชนเผ่ากินคนคะ  คิกๆ  น่ากลัวจังเลยนะคะ~

                น้ำเสียงเธอช่าง..... -*-   ฟังแล้วแสบแก้วหูดีเหลือเกินนะ

                ~เอาละเรามาเข้าเช็คอินที่พักกันก่อนดีกว่า   ให้ทุกท่านวิ่งขึ้นไปตามทางที่กำหนดไว้แล้วตามหาหลอดเก็บบาร์โค้ดเพื่อไปแสกนที่ประตูห้องนะคะ     ห้องมีจำนวนจำกัดรีบๆหน่อยนะคะ~

                สิ้นเสียงประกาศคนที่นอนเป็นผีตายซากบนเกาะก็วิ่งเข้าป่ากันไปอย่างเร่งรีบ   ซีนอนกระชากข้อมือผมให้วิ่งตามไปด้วยเช่นกัน

                ~...อ่อ  หลอดเก็บบาร์โค้ดมีพิษเคลือบอยู่ซึ่งพิษจะทำงานตอนมันแห้ง   ฉะนั้น.....ระวังด้วยนะจ๊ะ~

                พิษประเทศไหนมันออกฤทธิ์ตอนแห้งวะ!!   ซีนอนลากผมเบี่ยงออกไปจากเส้นทางแทนที่จะตามคนอื่นไป

                “เฮ้ย!  จะไปไหนเนี่ย”  ผมถาม

                “ไม่เห็นหรอมันแขวนอยู่บนต้นไม้”

                “อะไร”

                มันไม่ตอบแต่ลากผมให้วิ่งเร็วขึ้น   เท้าใหญ่หยุดลงที่ใต้ต้นไม้   กิ่งไม้ยาวอันใหญ่ที่โน้มลงมามีหลอดแก้วใสที่ภายในบรรจุกระดาษแถบสีดำถี่เอาไว้   ตาดีมากเลยนะอยู่ไกลขนาดนี้ยังมองเห็นอีก   แต่จะเอามันลงมายังไงลง   ปีนขึ้นไปหรอ-o-

                “นายเป็นคนเอามันลงมา”

                ห๊ะ!!  กูหรอ-*-หาเรื่องให้กูไปตายก่อนเลยสินะให้กูลองชิมพิษก่อน

ใช่มั้ยละ  เลวที่สุดเลย-*-

                “ส่งผมไปตายก่อนสินะ-*-”

                “รู้ทันนี่^^”

                “เลว-*-”

                “ฮ่าๆ  นายเอาปากคาบมันลงมานะ  เลียให้มันเปียกก่อนด้วยละ”

                “รู้แล้ว-*-”

                ร่างสูงยกตัวขึ้นจากพื้น

                “อ่ะOoO!”

                “ไม่ให้ปีนหรอกน่า^^”

                แขนใหญ่ช้อนตัวผมไว้   ผมพยายามยืดตัวให้สูงขึ้นเพื่อที่จะให้ปากมันงาบถึงไอ้หลอดแก้วใสๆ   ผมแลบลิ้นออกมาเลียมันก่อนจะงับเข้าปาก(อมไว้เลยละ)    ซีนอนค่อยๆวางตัวผมลงกับพื้นตามเดิม

                “ทำได้ดีมาก^^”

               

                จุ๊บ!

 

                ผมเบิกตาโพงกว้างอย่างตกใจเมื่อคนตรงหน้าประกบริมฝีปากลงบนปากผม   มือใหญ่ประคองใบหน้าผมให้ตั้งตรงแต่ผมพยายามดิ้น   ลิ้นเปียกชุ่มเริ่มรุกล้ำเข้ามาในปากผม   ผมยิ่งขืนตัวเม้มปากแน่นไม่ยอมให้มันเอาลิ้นมาเข้าง่ายๆ

 

                เฮือก!

 

                มือหนาลูบไล้เอวของผมที่อยู่ใต้เสื้อยืดตัวบาง   ผมสะดุ้งอ้าปากจะด่ามันจังหวะนั้นลิ้นหนาก็ลุกล้ำเข้ามาฉกฉวยของนปากผมไป

                “แฮ่กๆ  บอก...กันดีๆสิ-////-”

                พอละริมฝีปากออกมาได้ผมก็บ่นเลย   ไอ้ตัวก่อการร้ายยืนยิ้มแป้นไม่สะทกสะท้านอะไร    นี่...นี่ผมจูบกับผู้ชายไปแล้วใช่มั้ย   แถมคนๆนั้นยังเป็น...พระเอกชื่อดังซะด้วย-////-   ซีนอนดึงผมให้วิ่งกลับไปทางเดิมที่มีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ    ผมมองแผ่นหลังเปียกชุ่มที่อาบชโลมไปด้วยเหงื่อ    ก็เท่ดีนะ  เอากล้องมาถ่าย...

                ...กล้องละ-o-….

                กล้องอยู่หน้ายยยยยย>O<!!!

               

 

 

 

                ผมวิ่งมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านหลังเล็กๆที่เรียงต่อๆกันหลายหลังแต่อยู่ห่างกันเป็นส่วนตัวดี   ซีนอนคายหลอดแก้วออกจากปากก่อนจะดึงแผ่นบาร์โค้ดออกมาแสกนที่หน้าห้อง

                /กรุณาป้อนไอดี/

                ตัวอักษรสีแดงโผล่ขึ้นมาที่จอ   ซีนอนพิมพ์ไอดีของเราลงไปแล้วมันก็ขึ้นข้อความต่ออีกรอบ

                /กุญแจ  อยู่หลังเขา/

                -_-;   กูวิ่งขึ้นเขาจนลงมาตีนเขาอีกรอบ   แล้วมึงบอกว่ากุญแจอยู่หลังเขา   มันหมายฟายยยว่าไงวะ-*-  อยากเห็นหน้าคนเขียนหว่ะ!(Witer: หนูไม่เกี่ยวนะ-o-)

                “ไอ้สนตีน!  ไอ้ซอฟแวร์เออเร่อ-*-”  ผมด่า

                /ไม่เออเร่อนะ/

                ตอบได้อีกนะ  จะแสนรู้ไปไหน-*-

                “หลังเขา...”

                ซีนอนพรำพรึมพลางเหลือบตามองมาทางผม   ดวงตามองพลางจับตัวผมหมุนไปหมุนมา

                “ไม่ใช่ม้าหมุนนะเฟ้ย-*-”

                “รู้แล้วน่า^^”

 

                ตึง!

 

                “ทำไรเนี่ย!!”

                ผมร้องเสียงหลง  จู่ๆไอ้บ้านี่ก็จับผมอัดหน้าเข้ากำแพง   มือหนารวบมือผมกดไว้กับกำแพง

                “อยู่เฉยๆน่า...”

                เสียงทุ้มปามผมเบาๆ   ผมขบปากตัวเองแน่น  นิ้วอุ่นๆค่อยๆยกช้าเสื้อผมให้สูงขึ้นก่อนจะลูบไปมาอย่างเบามือ   อย่าลูบได้มั้ยวะขนลุก><!!!

                “มีรหัสอยู่ที่หลังนายน่ะ”

                ซีนอนบอกเสร็จก็ปล่อยตัวผม   มันหันไปกดรหัสใส่ไอ้ตัวมอนิเตอร์หน้าห้อง   ดูเหมือนประตูจะเปิดได้นะ   รหัสมันมาอยู่ที่หลังผมได้ยังไงเนี่ย-*-

                “บอกกันดีๆสิ  ต้องให้พูดกี่รอบห๊ะ!!”  ผมโวย

                “เซอร์วิสคนอ่านน่ะ^^”

                มือใหญ่ลูบปลายคางผมเบาๆก่อนที่จะก้มลงมา….

 

                งับ!

 

                “อ๊ากกกก   ทำบ้าอะไรวะ>////<”

                ไอ้ซีนอนมันงับหูผม!!   ใบหน้าหล่อยิ้มระรื่นแล้วเดินเข้าไปในห้องอย่างสบายใจเฉิบ   มัน....มันเป็นเกย์หรอวะ-o-!!   ทำอย่างนี้กับผู้ชายเนี่ยนะ   ผมลูบหน้าร้อนระอุของตัวเอง   ไม่ได้เขินนะ....แค่..-o-   ยังไงละ  เอาเป็นว่าไม่ได้เขินแล้วกัน

                “นี่เดินเข้ามาเร็วๆหน่อยสิ.....หรือต้องให้อุ้ม^^”

                “ไม่ต้อง>O<!!!”

                “หึๆ”

                อยู่กับมันชักจะไม่ดีแล้วละ-*-   ผมก้าวเท้าเข้าไปในห้องก็ถึงกลับเงิบ   ห้องเตียงคู่สุดหรูเหมือนห้องสวีทที่โรงแรมริมทะเลไม่มีผิด   มีผ้าขนหนูกับชุดคลุมวางไว้บนเตียงอย่างเรียบร้อยแถมมีกล่องถุงยางสามกล่องวางโชว์หราอยู่กลางเตียง

                ...นี่มัน  อะไรกัน-o-;;….

                “อ่า  เป็นเกมที่บ้าดีจริงๆนะว่ามั้ย   ถุงยางวางไว้ให้ใช้หรอ”

                ไอ้พระเอกว่าแล้วหยิบกล่องสีดำที่มีเขียนกำกับไปตัวโต้งๆว่าผิวขรุขระขึ้นมา   บ่งบอกถึงความซาดิสม์ในตัวเลยนะ   จะว่าไปนอกจากตำรวจแล้วมีคนประเภทไหนที่พกกุญแจมือแล้วเอาไปล็อคคนอื่นเขาอีกบ้างเนี่ย

                “....โรคจิตสินะ-.-”

                “ว่าฉันหรอ^^”

                ขนาดกระซิบกับตัวเองแล้วแท้ๆยังได้ยินอีกนะ

                “อยากรู้มั้ยละ^^”

 

                ตุ้บ!

 

                มันผลักผมลงบนเตียงก่อนจะตามขึ้นมาคร่อมตัวผมไว้   ใจคอมึงจะเอาให้ครบเซทเลยหรอวันนี้  จับจูบลูบคลำ-*-   ดำนาด้วยเลยหรอห๊ะ!!   กูไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นแล้วก็ไม่ยอมให้ใครทำได้ง่ายๆหรอกนะ!!

               

                พรึ่บ!

 

                “ยอมง่ายจังเลยนะ^^”

                ไม่ใช่นะ!!  จังหวะที่ผมจะเบี่ยงตัวลงจากเตียงไอ้บ้าโรคจิตนี่ก็ดึงเสื้อผมออกไปที่ปลายแขนแล้ว-o-;;

                “ถีบจริงนะเว้ย  เลิกเล่นเลย-*-”

                “ถีบสิจะได้....สะดวกๆ^^”

                “-o-”

                ผมเริ่มกลัวรอยยิ้มมันซะแล้ว   มือใหญ่ลูบไปมาตามหน้าท้องผม   ผมหลับตานอนนิ่งเป็นปลาตาย  ก็มันทำอะไรไม่ได้นี่!!  กูดิ้นมึงก็ถอด  กูนอนเฉยๆมึงก็จับ    สรุปแล้วกูทำอะไรที่รอดพ้นมือมึงได้มั่งมั้ยเนี่ย-_-;;

                “ล้อเล่นน่า  เห็นฉันเป็นคนอย่างนั้นหรอ^^”

                “ไม่ได้เป็นก็แล้วไป-_-”

                ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก  ใบหน้าคมคายส่งยิ้มหวานก่อนจะดึงตัวให้ผมลุกขึ้นนั่ง    ซีนอนหยิบปากกาใกล้ๆมาแงะที่กุญแจมือ    ไม่ถึงนาทีกุญแจที่แขนผมก็หลุดออก   นึกว่าต้องติดกันแบบนี้ไปตลอดซะอีก   ผมคงประสาทกิน!!   ดวงตาคมมองมาที่ผม  

                “ที่ไม่ทำเพราะว่า...”ซีนอนเอ่ยเสียงแผ่วเบาๆ

                “ทำกูถีบ-*-”

                “หึๆ  เอาเถอะเชิญรักษาจิ้นไว้ให้เจ้าสาวนายเถอะ^^”

                จิ้น-o-!!

                “พวกเวอร์จิ้นนี่หวงเนื้อหวงตัวจังน้า~  ระวังขึ้นคานเอาน้า~”

                ไอ้หน้าหล่อหัวเราะเยาะในลำคอก่อนจะหายลับเข้าประตูห้องน้ำ(ละมั้ง)ไป   แยกกันเกินสองเมตรระเบิดใช่มั้ย^^

                “นี่  ไม่อาบน้ำหรอ^^”

                ซีนอนชะโงกหัวออกมาจากประตูห้องน้ำ   ผมนั่งนิ่งทำเมินเสียงที่ได้ยิน   หึๆ-..-

                “ถึงแม้กลิ่นหนุ่มบริสุทธิ์จะหอม  แต่ดองเค็มแบบนั้นมันจะไม่น่ากินนะ”

                หนุ่มบริสุทธิ์-*-!!   ผมลุกขึ้นทำหน้านิ่งมองคนตัวสูงพลางคลายยิ้มเย็นๆให้มันก่อนจะก้าวเท้าเดินไปอีกทาง

 

                หมับ!

 

                “เกินสองเมตรตายนะ  ทำบ้าอะไรของนาย-_-”

                ซีนอนเปลี่ยนจากสีหน้ายิ้มแย้ม(แง้มบาทา)มาเป็นจริงจัง   ไอ้พวกดารานี่มันกิ่งก่าดีๆนี่เอง  ปรับสภาพไวชะมัดเลย-*-

                “เรื่องของ...  เหวอOoO!!”

                ร่างผมถูกอุ้มพาดบ่า   ซีนอนก้าวเท้าจ้ำเข้าห้องน้ำก่อนจะโยนผมลงไปในสระน้ำกว้าง

 

                ตู้ม!

 

                เฮือก!  น้ำอีกแล้ว   แค่นี้ตัวผมก็โคลงไปผมแล้ว   มาลงน้ำอีกจะบ้าตาย-*-

                “ขึ้นมาถอดเสื้อผ้าซะด้วยละ”

                “ไม่ถอด  อาบชุดนี้แหละ-*-”  ผมบอก

                “จะให้ถอดให้มั้ย  จะเซอร์วิสอย่างอื่นให้ด้วย^^”

                “ไอ้..-o-”

                “ไม่ดีกว่าๆ  แกล้งหนุ่มจิ้นมากๆเดี๋ยวบาป^^”

                หนุ่มจิ้นอีกแล้ว-*-   กูจิ้นแล้วไงกูผิดหรอห๊ะ!!   ผมจำใจขึ้นจากน้ำ   ผมคว้าผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำเล็กๆริมสระไป  

 

                โบ๊ะ!

 

                ผมทิ้งเสื้อผ้าตัวเองลงกับพื้น   ไม่อยากจะบรรยายเลยว่าเกลือ...มันขึ้นแหละ   เสื้อผมนี่ขาวขึ้นมาทันทีเลย   แต่กางเกงนี่สีซีดจนจำซากเก่าไม่ได้แล้ว   ช่างเหอะร็อกดี-*-

 

                แกร๊ก!

 

                “บอกกี่รอบแล้วว่าสองเมตรน่ะ…-o-”

                -*-  ไม่ได้ไม่ล็อกประตูนะ   แต่มันไม่มีกลอนให้ล็อคต่างหาก    ซีนอนอ้าปากเล็กน้อยมองสภาพร่างกายผมที่ปราศจากสิ่งกำบัง    

...กูชักจะสุดทนแล้วนะ  ฮึ่มมมม!!!....

                “ออกปายยยยย!!!!”

               

 

 

                ผมแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่มีอยู่ในห้อง   พยายามเลือกตัวที่ดูปกติสุดแล้วละ   เสื้อยืดกับกางเกงสามส่วน

                “ทำไมไม่แต่งชุดนี้ละ^^”

                ไอ้พระเอกหยิบชุดเซเลอร์มูนกระโปรงสั้นจู๋ขึ้นมาโชว์ให้ผมดู-*-   ตู้เสื้อผ้ามันมีแต่ของแปลกๆ   โดยเฉพาะไอ้ชุดวิตถารพวกนี้   เข้าใจว่ามันเป็นตู้ที่มีเสื้อผู้ชายกับผู้หญิงรวมกัน   แต่ไอ้ชุดหนังนางแมวกับแส้นี่มันคืออะไร-o-!!

               

                ปัง!

 

                ผมปิดตู้ดังลั่นแล้วหันไปสำรวจตู้อื่น....แต่ดูเหมือนจะเจออะไรที่หนักกว่านั้น-_-;   มันเป็นชุด..เรียกว่าเป็นด้ายสีแดงๆมาสานกับเป็นชุดดีกว่า   ไม่สิ  มันปิดอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ-*-

                “เจอของเด็ดแล้วหรอ”

               

                ปัง!

 

                ผมปิดประตูตู้อีกรอบแล้วหันไปทำหน้ายักษ์ใส่ไอ้หน้าหล่อที่ยืนอยู่ข้างหลัง   มีแต่ของอันตรายๆนะห้องนี้-*-

                “ไม่มีอะไร-*-”  ผมตอบ

                “เป็นไร  อยากเข้าห้องน้ำหรอ-o-”

                “อะไร-*-”

                “ทำหน้าเหมือน...”

                “ไม่ใช่!  อย่าทำให้อารมณ์เสียได้มั้ย-*-”

                “ครับๆ^^”

                อยากนอนชะมัด   แต่ผมไม่ชอบหลับต่อหน้าคนแปลกหน้าน่ะสิ    ผมนั่งมองกำไลที่ข้อมือไปพลางๆ   ทำไมมันขึ้นสีแดงละ-_-

                “กำไล....มันขึ้นสีแดงอ่ะ-_-”ผมบอก

                “ห๊ะOoO!!”

                ซีนอนทำตาโตแล้วก้มมองที่ข้อมือตัวเอง  

                “อยู่ไกลกันไปมั้ง  มานี่เลย”

                พูดจบมันก็ดึงผมไปนั่งบนตักมัน-*-   อันนี้กูก็ว่าใกล้ไปนะ     ผมยันตัวลุกออกจากตักมันแต่มันก็เอาขามาเกี่ยวเอวผมไว้เป็นหนวดปลาหมึกเลย

                ~ฮัลโหลๆ  ได้ยินกันมั้ยเอ่ย  คิก~

                เสียงหัวเราะเหมือนมีพยาธิอุดตันลำไส้เลยแหะ-*-  

                ~วันนี้เราจะให้ทุกท่านได้พักผ่อนกันก่อนจะเล่นเกมต่อวันพรุ่งนี้  ดีใจกันมั้ยเอ่ย~

                จะดีใจกว่านี้ถ้าเอาเรือมารับกูออกจากเกาะ-*-

                ~ตอนนี้เราเปิดโหมดใหม่ที่ไอดีทุกท่านแล้วนะ   แต่พอดีลืมบอกค่ะ  แต่ไม่เป็นไรเหลืออีกตั้งห้านาทีกว่าจะระเบิด  คิกๆ~

                “ดีไม่บอกตอนกูไปเกิดใหม่-*-”  ผมบ่น

                “นั่นสิ  ใจกระตุกวาบๆแล้วนะเนี่ย-_-”  ซีนอนเสริม

                ~สโลแกนของเกมเราก็คือ  ร่วมกันตายหมู่ทิ้งกูมึงตายค่ะ  แหมมม  ฟังแล้วซึ้งจังเลยนะคะ~

                “มันจะพร่ามถ่วงเวลาลวกก๋วยเตี๋ยวใช่มั้ย-*-”  ผมบ่นอีกรอบ

                “อา  หิวแล้วนะเนี่ย  ไปดูของในตู้เย็นดีกว่า-_-”

                ดูเหมือนซีนอนจะเริ่มปลงขึ้นมานิดนึงเลยละความสนใจจากเสียงประกาศโดยการพาผมไปที่ตู้เย็นแทน    โห้-o-   นี่มันยก7-11มาไว้ในตู้เย็นหรอวะ   ข้าวกล่องเต็มตู้เลย

                “เอาข้าวกะเพราหมูนะ”  ผมบอก

                “เอามาเวฟให้หมดเลยดีกว่า”  ซีนอนบอก

                ผมพยักหน้าเออออไปกับมัน  จะทำอะไรก็ทำเหอะ   ก่อนระเบิดตายขอกินข้าวหน่อยแล้วกัน-_-

                ~อะแฮ่ม!  อย่าเมินเสียงเค้าแบบนี้สิ  นิสัยไม่ดี~

                ผมไม่สนจริงๆอ่ะแหละ   ตอนนี้ผมกำลังเป่ายิ้งฉุบแย่งเตาไมโครเวฟกันอยู่   ไอ้พระเอกออกกรรไกรผมออกกระดาษ

                “น่าสงสารจังนะ  แต่ฉันเวฟไก่เทอริยากิก่อนแล้วกันจะได้กินเล่นกัน”

                “ตามใจ  ง่วง-o-”

                ~เลิกเมินกันซะทีสิคะ!!!~

                ผมกับไอ้พระเอกมองไปที่ลำโพงตรงเพดาน   เหมือนลำโพงมันจะแตกนะเสียงมันฟังดูเป็ดๆยังไงไม่รู้

                “ห้องนี้มีกล้องสินะ-*-”  ผมเปรย

                ~ไม่มีนะคะ  ฮ่าๆ~

                ตอบได้ชัดแจ๋วแบบนี้คงส่องอยู่จากที่ไหนซักแห่ง   ทำอะไรคงต้องระวังตัวหน่อยแล้วละ

                ~จะอธิบายวิธียืดความตายให้นะคะ   เกมนี้เราจัดขึ้นมาเพื่อให้ทุกท่านได้รับรู้ว่าสันดานลึกๆของคนรักของคุณเป็นยังไง~

                ประเด็นคือ...ไอ้หมอนี่มันไม่ใช่แฟนกูไง   สันดานมันจะยังไงช่างหัวมันเหอะ-*-

                ~ทุกคู่ต้องร่วมกันผ่านด่านไปจนถึงทางออกแล้วเราจะปลดไอดีให้   แต่กว่าจะไปถึงประตูสุดท้ายได้เวลาในไอดีอาจจะหมดก่อน   ดังนั้นเรามีวิธีเติมเวลาให้ดังนี้นะคะ~

                มันเหมือนเติมแคชในเกมเลยนะ-*-

                ~หอมแก้มครั้งนึงได้เวลาเพิ่ม 10นาที   จูบกันได้ 1 ชั่วโมง  และก็.....  แหมมม  ใครเขียนสคิปเนี่ย..... จ้ำจี้มะเขือเปาะแปะ 1 ครั้งเพิ่มเวลาเป็น10ชั่วโมง~

                จ้ำจี้-o-!!!!!!

                “บ้าไปแล้วใครจะไปทำเรื่องบ้าๆแบบนั้น>O<!!”  ผมแหกปากลั่น

                “ไม่แน่หรอก..  เพราะทุกคู่บนเรือเป็นสามีภรรยาไม่ก็แฟนกัน”

                ซีนอนเอ่ยเสียงเรียบ   จมูกโด่งโน้มกดลงบนแก้มผมแล้วมันก็ยกไอดีขึ้นมาดู   มันเกือบจะเป็นสีเหลืองแล้วละ

                “แต่ว่าเราไม่ใช่...-*-”  ผมบอก

                “ก็เพราะว่านายกับฉันเป็นเศษเหลือไง  เลยถูกจับมาคู่กัน”

                ไม่น่าย่างเท้าขึ้นไปบนเรือนั่นเลย-*-

                “เอาไงดี   ตอนดึกเราต้องนอน  หวังว่าคงไม่ต้องเอาปากประกบกันทั้งคืนหรอกนะ^^”

                รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ฉาบอยู่บนใบหน้าหล่อราวกับเทพบุตรทำเอาผมต้องถอยตัวหนี   จะให้ทำรวบรัดแบบนั้นมันก็ไม่ได้หรอกนะ   คู่อื่นเขาหญิงชายมันก็พอไปกันได้   แต่คู่ผมมันชายชายนะ  .....ใครคิดเกมวะ!!!

                “ว่าไง  หรือจะนอนรอความตายกันละคืนนี้^^”

                ร่างสูงขยับตัวคลานตามผมมาก่อนจะขึ้นมาอยู่เหนือตัวผมอย่างง่ายดาย   ไม่ง่ายได้ยังไงมันเอาขามันทับขาผม   ผมจะหนียังไงละ   เจ็บด้วยกดเอ็นกู-*-

                “หอมแก้มก็พอแล้ว!”

                ผมบอกพลางเบี่ยงหน้าหลบใบหน้าคมคายที่ก้มลงมาหาผมเรื่อยๆ  ให้จูบแบบวันนี้ที่มันจูบผม   ปากผมคงเปื่อยแน่  วันนึงมี24ชั่วโมง   จูบกัน24รอบแบคทีเรียคงเจริญข้ามสายพันธุ์ละคราวนี้-*-

                “แค่หอมแก้มเองหรอ..”  ซีนอนถาม

                “ก็ใช่น่ะสิ   แค่นี้...กะ..ก็มากละ-///-”

                “จูบก็ยังดีนะ  ได้ตั้งชั่วโมงนึง”

                “ไม่เอา>O<!”

                “ถ้าให้มัวแต่หอมแก้ม  แก้มนายช้ำแน่”

                “สลับกันก็ได้นี่-////-”

                “จูบดีกว่า   จูบครั้งเดียวเราจะได้ไม่ต้องกังวัลเรื่องไอดีไปชั่วโมงนึง”

                “แบบนั้น...”

                ถ้าเข้านอนตอนสามทุ่มตื่นตอนแปดโมง   มันก็เปื่อยอยู่ดีละวะ   แต่ต้องมานั่งหอมแก้มกันไปมามันก็เสียเวลาทำอย่างอื่น-.-

                “...จูบก็ได้  แค่ตอนก่อนนอนนะ-///-”

                “แล้วถ้าถูกเรียกตัวไปเล่นเกมวิ่งมาราธอนอีก  เราก็ต้องหันมาหอมแก้มกันทุกๆ10นาทีหรอO.o”

                นั่นสิ   ต้องจูบเก็บเวลาเผื่อไว้ก่อนสินะ   เครียดหว่ะ-*-

                “จูบเลยก็ได้..-////-”

                ผมบอกพลางหลับตาลง   เวลามองหน้ามันแล้วพูดเรื่องนี้ผมรู้สึกตัวชาๆหน้ามันร้อนวาบๆ   เหมือนคนจะเป็นลมให้ได้เลย-o-   ลมหายใจอุ่นเคลื่อนเข้ามาใกล้แก้มผม   มืออุ่นประคองใบหน้าผมไว้ให้เชิดหน้ารับสัมผัสหน่วงหนักจากริมฝีปากหนา    ผมขืนตัวดันร่างสูงที่พยายามรั้งตัวผมให้ขึ้นไปนั่งบนตัก   แต่ลิ้นที่รุกเร้าผมอย่างหนักเริ่มทำให้ร่างกายผมไม่มีแรง   มือใหญ่ฉวยโอกาสบีบคลึงสะโพกใต้ชายเสื้อผมเบาๆ   ผมบิดตัวสะดุ้งกับสัมผัสที่มือใหญ่จับต้อง

                “หยุด..”  ผมอ้าปากท้วง

                “แค่จูบ  ไม่ทำอะไรหรอกน่า”

                ถึงจะพูดว่าแค่จูบแต่มือมึงจับโน่นบีบนี่ของกูเป็นว่าเล่นเลยนะ-*-   ผมปล่อยให้ไอ้โรคจิตลูบผิวผมเล่น   มันก็ยังดีกว่าต้องมาทำ....แบบนั้นแล้วกัน   รสจูบของผู้ชายชำชองตรงหน้าทำเอาหูตาผมเริ่มพร่าเลือน   ใบหน้าผมร้อน...ร้อนจน  ทำให้สติผมดับ....

 

 

 

 

                ผมกับซีนอนอยูในถ้ำขนาดใหญ่ที่ไหนสักแห่ง   ยัยพิธีกรอะไรนั่นประกาศปลุกพวกผมตั้งแต่ไก่โห่    ซีนอนขยี้ตาเหมือนคนเพิ่งจะตื่น   แต่เมื่อวานผมหลับสนิทมากเลย    รู้ว่าว่าหลับไปหลายชั่วโมงมากจนร่างกายฟื้นฟูสภาพได้   วันนี้เลยเริ่มดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อย

 

                ฟอด!

 

                คนตัวสูงก้มลงมาหอมแก้มผมเบาๆ   นาฬิกามันถอยหลังไปเยอะเลย   พอตื่นขึ้นมาก็เป็นสีแดงแล้ว    ตอนนี้อยู่แถบสีเหลืองอยู่

                ~ยินดีต้อนรับสู่ลานแข่งขันนะจ๊ะ   เมื่อคืนสุดๆไปเลยใช่มั้ยละ  คิกๆ~

                ต้องการจะสื่ออะไร-o-

                ~เมื่อพวกคุณทะลุไปถึงประตู   คุณก็จะได้ออกจากเกาะนี้   กติกาง่ายๆของเกมนี้ก็คือให้เก็บเหรียญ  เพื่อเอาไปแลกของพรีเมี่ยมที่ทางเราเตรียมไว้ให้  ใครเก็บได้ไม่ถึง20เหรียญไม่มีสิทธิออกนะคะ   อ่อ  ระวังอย่าไปเก็บเห็ดกินนะคะ   เดี๋ยวจะตัวโต~

                ....มาริโอ้หรอ -_-….  ห้ามกระทืบดอกไม้ด้วยมั้ย  เดี๋ยวพ่นไฟได้

                ~ห้ามกระทืบดอกไม้นะคะเดี๋ยวจะพ่นไฟได้~

                ก็อปเกมมาริโอ้มาสินะ  ห้ามกระทืบเต่าด้วยสิเดี๋ยวแม่ งพุ่งชน-_-*

                ~อย่าเผลอไปเหยียบเต่าเข้านะคะ  เดี๋ยวมันจะเด้งใส่~

                ....ก็อบเขามาทั้งดุ้นเลยป่าววะเนี่ย-o-!!

                ~พอไปถึงประตูแล้วอย่าลืมดึงธงลงเพื่อเปิดประตูด้วยนะจ๊ะ~

                เชดดดดด  เอาเขาของมายันดึงธงลงเลยหรอฟะ!!  เกมเชี่ยไรเนี่ย>O<!!

ผมเริ่มส่ายตามองหาท่อลงไปเก็บเหรียญ   หวังว่าผมคงไม่ต้องเดินไปกระโดดไปเพื่อโหม่งอากาศหาป๊อกเพิ่มพลังชีวิตหรอกนะ-*-

                “น่าสนุกดีนะ^^”

                “เกมปัญญาอ่อน-*-”

                ผมมองจอพลาสม่าที่ขึ้นเรทรางวัลไว้ให้   100เหรียญได้บ้าน  50เหรียญได้รถ   30 เหรียญได้ตั๋วเครื่องบิน    มันได้จริงหรอ   ขนาดผมส่งรหัสฝาอิชิตันไปเป็นสิบๆรอบยังไม่ได้ซักที   

                “ไปเก็บเหรียญกันเถอะ”

                ซีนอนดึงข้อมือผมให้วิ่งตามไป   ผมก้าวเท้าตามร่างสูงที่วิ่งนำลิ่ว

 

                ควับ!

 

                “เหวอ!!”

                ระหว่างวิ่งๆอยู่เถาวัลย์จากต้นไม้ใหญ่ก็ดึงร่างผมขึ้นไปขึงอยู่บนต้นไม้    เถาไม้ใหญ่เริ่มชอนไชพันแข้งพันขาผม   ปลายแต่เมือกลื่นๆของมันทำให้ผมรู้สึกขยะแขยง   ต้นไม้เชี่ยไรละเนี่ย><

                “ขึ้นไปทำอะไรบนนั้นน่ะ-o-”

                “มันลากกูขึ้นมาอ่ะ  ช่วยกูลงไปที>_O”

                ผมบิดตัวหนีปลายเถาวัลย์ที่เริ่มชอนไชผิดที่ผิดทาง   ผมดิ้นพราดๆหวังให้หลุดออกแต่ไอ้เถาวัลย์ลื่นๆนี่ก็ยิ่งตะกายเข้าไปใต้เสื้อผมเข้าไปอีก    และผมคงจะไม่เริ่มวีน  สติแตกถ้าไอ้ต้นไม่นี้ไม่มุดลงไปในกางเกงผม!!

                “ไอ้สัสเอ้ย!!  ไอ้ต้นไม้เวร!  มึงจะยืนดูกูอีกนานมั้ย  เอากูลงปายยยย>O<!!!!”

                “ลองหยุดดิ้นดิเดี๋ยวมันก็ปล่อย(มั้ง)”

                ผมแทบจะกัดลิ้นตัวเองตาย   ให้กูหยุดดิ้นหรอ   แม่ งลุกล้ำอาณานิคมกูขนาดนี้ให้กูหยุดดิ้น   แล้วถ้ากูหยุดแล้วมันไม่หยุดกูไม่กลายเป็นเมียต้นไม้เลยหรอวะ>O<!!!

                “ดึงมันออกไปดิ>O<!!”  ผมบอก

                “แปป  เจอสวิตซ์ใต้ฐานมันละ”

                “ปิดเลยปิดดดด>O<!!”

                ไม่รู้ว่ามันคืออะไร  สวิตซ์อะไรแต่ปิดมันซะเหอะ!!

                “หึๆ  ไหนลองขอร้องฉันดีๆหน่อยสิ^^”

                ซีนอนเงยหน้าขึ้นมองพลางแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม   จะมาเล่นโหมดSMอะไรตอนนี้วะ   ผมอ้าปากจะด่าแต่ก็ต้องเม้มปากเก็บเสียงไว้   เถาวัลย์ลื่นๆมันเลื่อยตามตัวผมไปทั่ว   ร่างกายผมมันเริ่มร้อนผ่าวเหมือนคนเป็นไข้   แขนขาก็เริ่มไม่มีแรง

                “แฮ่กๆ...ปิด...ถะ..เถอะ-////-”

                ผมพยายามหนีบขาเข้าหากันเพื่อปิดหนทางไม่ให้ไอ้ต้นไม้โรคจิตเข้าไปในเขตต้องห้ามของผม

                “อื้ม!”

                ผมเม้มปากแน่น   ไอ้ต้นไม้นี่มันบริการดีซะเหลือเกิน-////-

               

                ติ๊ด!

 

                ซีนอนก้มลงปิดสวิตซ์   ไอ้ตัวเลื้อยๆเริ่มถอยกลับไปอยู่หลังต้นไม้   มันปล่อยผมลงยืนบนพื้น   แต่ขาผมไม่มีแรงจะยืนแล้วเลยเซเกือบล้ม   ถ้าซีนอนไม่ประคองผมไว้ซะก่อน

                “ลี..ลาอยู่ได้-///-”  ผมปรือตาบอกพลางหายใจหอบถี่ 

                “ใครใช้ให้ไปให้ท่าต้นไม้ละ-*-” 

                “ให้บ้าอะไรละ...อา ”

                อากาศละ...หายใจไม่ทันหว่ะ   อยากได้ออกซิเจน-o-///

                “เอามืออุดปากแล้วเดินตามมาเงียบๆ”

                ซีนอนสั่งจบก็หันหลังให้ผม   ผมไม่ทันเห็นใบหน้าของมันเลย   ไม่รู้ว่ามันกำลังยิ้มเยาะอยู่หรือป่าว   ผมเดินตามหลังซีนอนเงียบๆไปตามทางเดิน   ตัวผมยังไม่หายร้อนเลย     ดีนะที่อารมณ์ยังไม่มา   ไม่งั้นละก็....ต้องเข้าห้องน้ำ-////-

                “ซีนอน..อ่ะ”  ผมเรียก

                “เรียกดีๆไม่ต้องครางได้มั้ย-////-”

                “ไม่ได้ครางเว้ย!!  แฮ่กๆ...มะ..มันหายใจ  ไม่ออก-////-”

                “จะ10นาทีแล้ว”

                “อืม”

 

                ฟอด!

 

                ถึงจะรู้ว่า10นาทีต้องทำแบบนี้ทุกครั้งก็เถอะ   แต่ผมก็อดใจเต้นไม่ได้   โดนผู้ชายหอมแก้มมันขนลุก-o-;

                “เวลามันไม่ขึ้นอ่ะ”  ซีนอนบอก

                “ห๊ะ-o-”

 

                ฟอด!

 

                ซีนอนหอมแก้มผมอีกที   อ๊ากกกก  แก้มผมจะบุบหมดแล้ว    ผมมองกำไลที่ข้อมือ   เลขมันไม่กระดิกขึ้นเลยซักนิด   มันลดลงอย่างเดียวเลย   มันเอ๋อ

เหรอไปแล้วหรอวะ-_-;         

                “ลองหอมแก้มฉันบ้างสิ  เผื่อมันจะขึ้น”

                ซีนอนบอกพลางเอียงแก้มให้ผม   ผมนั่งค้างเป็นหุ่นอยู่สามวิ   หะ...หอมแก้ม   แค่หอมแก้มน่า-_-   ผมมองซ้ายแลขวา   พอเห็นว่าปลอดคนผมก็ค่อยๆยื่นจมูกไปจิ้มแก้มมัน

                “ไม่ขึ้นแหะ-*-”  ซีนอนขมวดคิ้ว

                “แกะๆแล้วโยนแม่ งทิ้งไปเลยไป-*-” ผมบอก

                “ถ้าแกะออกมาแล้วมันระเบิดขึ้นมาทำไงละ-_-”

                “แล้วจะให้ทำไงก็มันไม่เพิ่มให้นี่-*-”

                “งั้นลอง...”

                เสียงทุ้มหุบหายเข้าไปในลำคอ   ริมฝีปากเรียวบุกรุกยึดครองริมฝีปากผมอีกครั้ง   ซีนอนดูดกลืนริมฝีปากบนผมแล้วปรือตามองสีหน้าผม  

                “ขึ้นมาสิบนาที..-///-”  ผมบอก

                “สงสัยจะหมดโปรโมชั่นแล้วละ-.-”

                “อย่าบอกนะว่าต้อง...จูบ..-o-”

                จูบกันไปยันเอาธงลงเลยหรอ   นี่มันเกมบ้าอะไร   จะให้คนติดโรคมือเท้าเปื่อยกันใช่มั้ย   ปากผมมันเปื่อยแล้วนะจูบแค่แปปเดียวเนี่ย

                “ไปต่อยัง”  ซีนอนถาม

                “อืม”

                ผมบอกแล้วก้มเก็บเหรียญขึ้นมาก่อนจะเดินตามซีนอนไป   เราเดินเก็บเหรียญที่หล่นอยู่ตามทางไปเรื่อยๆ   ผมเหลือบมองเสาธงที่อยู่ห่างออกไปอีกไม่มาก   แต่ตอนนี้ผมยังเก็บเหรียญได้ไม่ครบน่ะสิ

 

                ~เมี๊ยวๆ~

               

                ผมหยุดมองแมวกวักที่ชูป้ายว่า “มาเล่นเกมชิงเหรียญกับเค้าจิ”   ผมดึงชายเสื้อไอ้พระเอกก่อนจะชี้ไปที่แมวกวักตัวอ้วนพุงพุ้ย   ซีนอนพยักหน้ารับรู้แล้วพาผมเดินไปหาแมวกวักตัวนั้น

                ~หนี่ห่าว  มาเล่นเกมชิงเหรียญจากเค้ามั้ย   เค้ามี 30 เหรียญน้า~

                “เล่น”  ไอ้พระเอกตอบ

                ~เค้าไม่อยากเล่นกับตะเอง  เค้าอยากเล่นกับแฟนตะเอง~

                แฟน-_-?   ผมน่ะหรอ

                “เกมไรอ่ะ”  ผมถาม

                ~เกม...เป้ายิงฉุบแก้ผ้า~

                -*-   หื่นสิ้นดี!!   ตั้งแต่เข้ามาในเกมนี้ผมก็รู้สึกถึงความโรคจิตที่ลอย

ออกมาอย่างคละคลุ้ง

                “เป่ากี่รอบ”  ผมถาม

                ~เป่าจนกว่าตะเองจะชนะเค้า~

                เริ่มสะพรึงขึ้นมาเล็กน้อย   แต่ผมงงว่ามันจะออกท่าทางยังไง   ในเมื่อมันเป็นตุ๊กตาแมวกวัก   ผมเห็นมันกวักมืออย่างเดียวอ่ะ-*-

                ~เป่ายิ้งงง  ฉุบ!~

               

                เอ๋....-o-

 

                ผมออกกรรไกรส่วนมันเอาขาหน้าของมันลงมา  

                ~เค้าชนะ  ถอดเลยน้า~

                มันออกค้อนหรอ-*-   ผมถอดเสื้อยืดออกแล้วเอาพาดบ่าไว้

                “ถอดแล้วต่อเลย-*-”

                ~เป่ายิ้งงง  ฉุบ!~

                ผมออกกระดาษ  มันออกขาหน้าเหมือนเดิม   ออกได้แบบเดียวอย่างนี้  ชนะใสๆครับ^^

                ~เค้าชนะ  ถอดเลยน้า~

                “ชนะได้ไงวะ  ออกค้อนไม่ใช่หรอ>O<!!”  ผมโวย

                ~ไม่ใช่ซะหน่อย  เค้าออกกรรไกรนะ~

                โกงกันชัดๆ-*-  

                “เหรียญอยู่ไหน” ผมถามเสียงเย็น

                ~อยู่ในตัวเค้าไงละ~

                ผมแสยะยิ้มเล็กน้อยก่อนจะยกเท้าถีบไอ้แมวนั่นลงจากแท่น

                ~ขี้โกงนี่~

                “ป่าวซะหน่อย^^”

                ผมจับมันฟาดกับผนังถ้ำแรงๆจนตัวมันแตกเป็นเสี่ยงๆ   เหรียญสีเงินเด้กกระเด็นกระดอนออกมาจากตัวมัน   ซีนอนกับผมช่วยกันเก็บเหรียญใส่เสื้อแล้วเดินไปที่เสาธง

                “โหดจังนะ^^;”

                “ก็เป็นงี้แหละ-*-”

                ผมบอก   เรามาหยุดอยู่ตรงประตู้เหล็กรูปวงกลม   ที่หน้าประตูมีจอเล็กๆพอเราเดินผ่านมันก็ส่งเสียง

                ~หยอดเหรียญในช่องเลยจ้า~

                ซีนอนหยิบเหรียญใส่ช่องเล็กๆที่หน้าประตู   ส่วนผมก็เดินไปเอาธงลงเหมือนในเกมมาริโอ้

                ~กดรหัสไอดีด้วยจ้า~

                ซีนอนกดตามคำบอก

                ~ซีนอนออกไปได้  เชิญค่ะ~

                ซีนอน!  แล้วผมละ   ผมวิ่งไปที่ประตูซีนอนหันมามองผม   เท้าของเขากำลังจะก้าวออกไปจากประตู    ผมก้าวเท้าจะเดินออกประตูไปเหมือนซีนอนแต่ประตูกลับปิดใส่หน้าผม

 

                ปึง!  ปึง!

 

                “เปิดสิวะ!!”

                ผมตะโกนพลางทุบประตูรัวๆ   ทำไมไม่เปิดล่ะ...   ผมเตะประตูระบายอารมณ์โมโห   พอเห็นประตูเปิดก็รีบไปเลยสินะ   ผมประโยชน์แล้วนี่...ผมน่ะ   ผมมองกำไลตัวเองที่หลุดออกเป็นสองเสี่ยง   ไม่ระเบิดแต่ก็ออกไปไม่ได้!!

                “ทำไมกูออกไปไม่ได้!!”  ผมตะโกน

                ~เพราะคุณยังบริสุทธิ์อยู่ไงคะ  เกมนี้เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ของคุณกับคู่รัก  แต่คุณกลับหลีกเลี่ยงการถ่ายทอดความรักทางกายแบบนั้น   เราให้คุณผ่านไปไม่ได้หรอกค่ะ~

                “โรคจิต!!”

                ~จากที่แสกนร่างกายดูแล้ว  คุณอยู่สายเคะ   และคุณยังบริสุทธิ์~

                “เคะ-_-?”

                ~ตามพจนานุกรมสาววายจิ้นกระจายแห่งประเทศไทยระบุไว้ว่า  เคะ  มีรากศัพท์มาจาก Uke ในภาษาญี่ปุ่น  มีหน้าที่เป็นฝ่ายรับค่ะ~

                “...กูอ่ะนะ  ฝ่ายรับ-o-”

                ~ด้วยความหมั่นไส้ส่วนตัวที่คุณปฏิเสธอ้อมกอดอันร้อนแรงของคุณซีนอน   เดี๊ยนขอสั่งให้คุณไปพรากบริสุทธิ์ตัวเองตามแบบฉบับของเคะซะ   เอาไม้มาจิ้มก็ได้นะคะ   ถ้าคุณอยากออกไปละก็...~

                ทำไม..  บริสุทธิ์แล้วมันไม่ดีตรงไหน   ทีผู้หญิงยังรักษาความบริสุทธิ์ไว้ให้ผู้ชายเลย   แล้วทำไมผู้ชายจะรักษาความบริสุทธิ์เอาไว้บ้างไม่ได้ละ

                “ฉันยอมอยู่ที่นี่    ดีกว่าต้องทำให้ตัวเองแปดเปื้อน!!  ฉันจะรักษาความบริสุทธิ์เอาไว้ให้เจ้าสาวของฉัน!!!”

               

                ปึง!

 

                “ยินดีด้วยนะคะ  คุณเป็นผู้ชนะในรายกาย The virgin season 1ค่ะ^O^”

                ผมยืนตะลึง  งงกับเหตุการณ์โดยรอบ   จู่ๆก็มีพิธีกรสาวหน้าสาวโผล่เอาไมค์มาจ่อสัมภาษณ์ผม   เสียงจุดพรุแสดงความยินดีดังลั่น   เส้นสายรุ้งสีสวยค่อยๆหล่นลงบนหัวผม   ผมมองไปยังร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่หลังกล้อง   เขาก้าวขามายืนข้างๆพลางตบไหล่แสดงความดีใจกับผม

                “คุณซีนอนรู้สึกยังไงบ้างค่ะที่เสน่ห์ของคุณใช้ไม่ได้ผลกับคุณวิวเลย   ทั้งที่คุณถูกโหวตให้เป็นขวัญใจเก้งกวางแท้>.<”  พิธีกรถาม

                “ฮ่าๆ  สงสัยผมจะไร้เสน่ห์ซะแล้วละครับ   เขาไม่มีปฏิกิริยาอะไรกับจูบผมเลย ^^”

                ทั้งหมดก็แค่เกมโง่ๆ  ที่จัดขึ้นมาเพื่อหลอกคนโง่ๆอย่างผมเท่านั้น   ผมตีหน้านิ่งสนิทไม่กล้าสบตากล้องที่ซูมมาที่ใบหน้าของผม   มันก็แค่เกม....  แค้นนักโดนหลอกซะได้!!  

                “คุณวิวรู้สึก..”

                “โทษนะครับผมอยากกลับบ้าน”

                ผมพูดตัดบทแล้วเดินออกไปจากหน้ากล้อง   ผมไม่อยากให้ใครเห็นผมในสภาพนี้   ผมสูดหายใจลึกสกัดกั้นอารมณ์อ่อนไหวในตัวเอง   การแสดงละครของเขามันยอดเยี่ยมมาก   ทำเอาผมเชื่อสนิทใจเลยยอมเลยตามเลย    ทั้งถูกจูบ  ถูกจับต้อง  ถูกถ่ายโชว์ออกรายการ   น่าอายที่สุด!!   ผมไม่น่าหลวมตัวไปเชื่อมันเลย..

 

 

 

                1 เดือนต่อมา

 

                “นั่งเขียนแต่คอลัมน์  ไม่ไปหาข่าวบ้างวะ-o-”  ไอ้ซัลบ่น

                “ไม่มีกล้องกำลังทำงานเก็บเงินซื้อใหม่อยู่-*-”

                ผมบอก   คนตัวเล็กหดหัวกลับหลุมเดิมไปแทบจะทันทีที่เห็นสายตาน่ากลัวของผม   กล้องไม่เท่าไหร่ไม่กี่หมื่น  แต่เลนส์นี่สิเกือบแสนเลยนะเว้ยยย!!   กว่าจะซื้อใหม่ได้ยกเซตผมคงต้องนั่งเขียนคอลัมน์จนเห็ดขึ้นหลังแน่ๆ

                “วิว  จดหมายมึงอ่ะ”

                ซอสบอกพลางโยนซองสีน้ำตาลให้ผมแล้วเดินถือกาแฟไปแด กที่โต๊ะมัน   ผมบิดขี้เกรียจเล็กน้อยก่อนหยิบซองมาเปิดดูของข้างใน

                “...นี่มัน-*-”

                ผมไล่พลิกดูทุกรูปอย่างแปลกใจ(แปลกยังไงผมก็ทำหน้านี้-*-)   กล้องของผมพร้อมเลนส์โคตรแพงถูกวางไว้บนกล่องบรรจุอาหารที่ผมจำได้ว่าผมเป็นคนเอามันยัดลงไปแล้วปิดด้วยฟิล์มห่ออาหารอีกรอบ

                ...ยังอยู่ดีสินะ-.-…

                ผมหยิบซองจดหมายมาดูชื่อที่อยู่ผู้ส่ง   แต่มันไม่มี-*-     แล้วผมจะไปเอายังไง  ผมอยากได้กล้องคืนอ่ะ

 

                กริ๊ง~      

 

                ผมหยิบมือถือขึ้นมาดูข้อความที่ส่งเข้ามา   เบอร์ใครไม่รู้แต่ผมก็เปิดดูอ่ะนะ 

 

                ....ถ้าอยากได้กล้องคืนมาหาฉันที่XX  ห้องXXX เดี๋ยวนี้

                                                            ซีนอน.....

 

                ยังตามมาหลอกมาหลอนกันได้อีกนะ-*-   หลังจากจบรายการนักข่าวหน้าโง่ไปผมก็ปฏิเสธบก.ไม่ไปทำข่าวมันอีกเลย  แล้วก็ไม่ไปอีเวนต์ที่มันไปด้วย    ไม่อยากเจอหน้ามัน-*-!!  

                ….แต่ต้องไปเอากล้อง...-_-**

 

 

 

 

                แกร๊ก!

 

                ประตูสีครีมถูกเปิดออก   ร่างสูงโปร่งยืนพิงขอบประตูพร้อมผายมือให้ผมเดินเข้าไปในห้อง   ผมสะบัดหน้าเมินไปยังกล้องสีดำที่วางอยู่บนโต๊ะน้ำชาใสๆ   ผมเอื้อมมือไปหยิบมันแต่กลับถูกคนที่เรียกผมมาดึงข้อมือไว้ซะก่อน

                “ปล่อย..”  ผมบอกเสียงเรียบ

                “ไม่ปล่อย”

                มือใหญ่ถือวิสาสะโอบเอวผมไปแนบชิดกับลำตัว   ผมเงยหน้ามองคนตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์   เกมมันจบไปนานแล้ว    เลิกทำแบบนี้ซะที!!

                “ฉันบอกแล้วไงว่าถ้ารอดออกมา  นายจะสัมภาษณ์อะไรฉันจะตอบให้หมด”

                “ไม่อยากรู้   ปล่อย...”

                ผมทั้งดันทั้งถีบคนตรงหน้า   ผมไม่อยากให้เขาแตะตัวผม  

                “เรื่องที่ฉันเป็นมาเฟีย...ก็ไม่อยากรู้หรอ”

                ผมหยุดดิ้นลงชั่วครู่   งานนี้5หมื่น   ถ้าขายข่าวนี่ละก็  

                “นี่เป็นสร้อยประจำตัวผู้สืบทอดพรรคคนต่อไป    นายคงเคยเห็นแล้วสินะ”  

                ซีนอนชูจี้เงินให้ผมดู  มันเป็นลายพยัคฆ์ที่เหยียบอยู่บนหลังมังกรเหมือนกับรูปสัญลักษณ์ที่บก.เคยเอาให้ผมดู   มันเป็นลายเดียวกัน   ซีนอนเป็นมาเฟียจริงๆ!!

                “ฉันบอกความลับของฉันแล้ว  ต่อไปนายต้องบอกความลับของนายให้ฉันรู้บ้าง”

                “ไม่มีความลับ..อะไรทั้งนั้น”  ผมบอก

                “งั้นหรอ..  งั้นฉันจะบอกให้ได้รู้ไว้แล้วกัน”

                “......”

                “....ความลับของเราสองคน...”

                มือใหญ่จับผมพาดบ่าแล้วเดินตรงเข้าไปในห้องนอน   มันเหวี่ยงผมลงบนเตียงกว้างแล้วตามขึ้นมาคร่อมทันที   ซีนอนตรึงแขนผมไว้เหนือหัวก่อนจะขยับยิ้มเลยน้อย

                “กลิ่น..กลิ่นอะไร”

                ผมกระพริบตาถี่ๆมองหาต้นตอของกลิ่นหอมบางอย่างที่ทำให้สมองผมตื้อไปหมด     เลือดในร่างกายผมมันสูบฉีดขึ้นมามากจนร่างผมร้อนไปหมด   ผมผ่อนลมหายใจถี่ออกทางปาก   ลมในท้องผมมันปั่นป่วนไปหมดแล้ว...

                “กำยานไง.....ฉันอุส่าห์หิ้วมาจากฮ่องกงเลยนะ”

                กำยาน...  ผมมองไปยังโถสี่ขาสลักลายแบบจีนที่มีควันอ่อนๆพ่นออกมา

                “จำไวว่านี่คือ...ความลับของเราสองคน..”

                นิ้วเรียวยาวแตะลงเบาๆบนริมฝีปากผม   ร่างสูงขยับตัวปลดกระดุมเสื้อผม   ลิ้นสากๆลากลงจากข้างลำคอผม   ผ่านช่วงอกแล้วไล่ไปเรื่อยๆจนหยุดอยู่ที่จุดอ่อนไหวของผม     มือใหญ่บีบยอดอกผมไปมา   เขาบีบเค้นจนผมรู้สึกเจ็บ   ใบหน้าหล่อก้มลงใช้ปากขยับขยายจุดบอบบางของผม   ผมนอนเกร็งขาพาดไหล่กว้างไว้    ยานั่นมันทำให้ผมไม่อาจต่อต้านร่างสูงที่พยายามปลุกเร้าผมได้    ผมกำลังมีอารมณ์ร่วมไปกับเข้าแล้ว....  บ้าจริง!!

                “อือ...”

                ร่างสูงจับผมให้ขึ้นนั่งคร่อมตัวเขาที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่    ลิ้นอุ่นตวัดเลียริมฝีปากผมเบาๆ   ผมอ้าปากเล็กน้อยเพื่อเปิดทางให้คนตรงหน้าฉกลิ้นเข้ามาตักตวงรสชาติในปากผม    ผมรุกริมฝีปากตอบกลับ   จากที่เราจูบกันอยู่เอื่อยเฉื่อยมันก็เริ่มเร็วขึ้นตามอุณหภูมิร่างกายที่เพิ่มสูงขึ้น    นิ้วเรียวกรีดกรายจากสะโพกลงไปยังซอกเนื้อนุ่มด้านหลัง   ผมสะดุดตัวเปล่งเสียงร้องแปลกๆ

                “อ๊ะ!...ตรงนั้นมัน…”

                คนตัวสูงขยับยิ้มมุมปากก่อนจะกรีดนิ้วขึ้นลงแกล้งให้ผมร้องออกมา   ผมโอบแขนรัดคอคนตรงหน้าแล้วกอดแน่นๆ   ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าที่เขาทำให้ทำให้ปลายเท้าผมชาและร่างกายเริ่มบิดเร้า   ริมฝีปากร้อนครอบลงดูดกลืนยอดอกผมที่อยู่ใกล้ใบหน้าหล่อ   ผมฝังเล็บลงใต้เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนเพื่อระบายความรู้สึกปั่นป่วน    ผมปรือตาเยิ้มมองคนตรงหน้าเล็กน้อย   ทำไมมึงเก่งเรื่องแบบนี้จังวะ..

                “จะเริ่มแล้วนะ”

                สิ้นเสียงซีนอนก็เริ่มแทรกปลายนิ้วเข้ามาในตัวผม   ผมเม้มปากระงับความรู้สึกแปลกๆที่แทรกเข้ามา  ปลายนิ้วเรียวตวัดไปมาภายใต้ช่องทางคับแคบ

                “ไหวมั้ย”

                ผมพยักหน้าเล็กน้อย   ก้มหน้าอย่างรับชะตากรรมมาถึงขั้นนี้แล้วนี่นา   ปลายนิ้วถูกถอนออกไปแต่อย่างอื่นที่ดูน่ากลัวกว่านั้นถูกใส่เข้ามาแทน

                “โอ้ย!  เจ็บ…”

                ซีนอนจูบซับหน้าผากผมเบาๆ   ก่อนค่อยๆขยับร่างเบียดแนบชิดกับร่างผม   ร่างเชื่อมสนิทผลัดกันถ่ายเทความอบอุ่นให้กันและกัน     ผมกอดคนตัวสูงแล้วร่ำไห้ออกมาเพราะความเจ็บปวด   แต่ความเจ็บปวดนี้มันก็ทำให้ผมได้รู้อะไรอีกอย่าง   ความลับอีกอย่างที่คนตรงหน้าได้ให้ผมไว้

                “ฉันรักนาย....วิว”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา