FYC! ค่ายนี้มีแต่...
8.8
เขียนโดย แคมป์
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 23.53 น.
14 ตอน
17 วิจารณ์
21.54K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 21.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) จุ๊บ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความFYC 13
อีกแค่สี่วัน...เฮ้อ
ฉันถอนใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะปิดโปรแกรมปฏิทินจนหน้าจอกลับมาโชว์รูปหน้าตัวเองเหมือนเดิม ตอนนี้ห้องทั้งห้องเงียบสงัด แม้แต่เสียงของเครื่องปรับอากาศฉันยังไม่ได้ยิน มันคงเป็นยี่ห้อแพงน่ะ ถึงได้มีแต่ความเย็น...ไร้เสียงใดๆ ทั้งนั้น
ที่ฉันว่าเงียบเนี่ย ก็เพราะว่าวันนี้นายเจซัคไม่อยู่ เขาออกไปจากห้องตั้งแต่เช้า แล้ว โดยทิ้งเพียงโน้ตแผ่นสีเหลืองที่ติดไว้อยู่บนหน้าผากฉันแค่นั้น ในโน้ตนั้นบอกว่าเขาจะกลับมาให้ทันมื้อเที่ยง ซึ่งแน่นอนว่าฉันจะต้องเป็นคนทำ = =;;
ฉันเดินเปื่อยๆ ทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอนไปที่ตู้เย็นในครัว เปิดชั้นล่างดูว่ามีของสดอะไรมั้ย ฉันมองหาพวกเนื้อ พวกผัก ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เก็บของแห้งเพื่อดูว่าวันนี้จะกินข้าวหรือว่าจะกินอย่างอื่นดี...และนั่น คำตอบเพียงหนึ่งเดียวของฉันก็คือ กินข้าวเหอะ = =;;
ฉันตวงข้าวใส่หม้อขนาดเล็ก แล้วนำมันไปหุง ก่อนจะหมุนตัวกลับมามองพวกของสดบนโต๊ะอีกครั้งว่าจะทำอะไรเป็นมื้อเที่ยงดี...อืม...นายนั่นไม่ค่อยชอบกินผักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็เห็นกินแต่เนื้อๆๆ ไข่ๆๆ หรือไม่ก็นม ผลไม้ก็กินน้อย เห็นเขาบอกว่าไม่ชอบ มันเปรี้ยวบ้าง หวานไปบ้างล่ะ สรุปก็คืออะไรที่เป็นพวกพืชผักผลไม้นี่อย่าทำให้เขาเลย เสียของ = =;;
หรือว่าจะทำ...ทักกางจองให้เขากินดีนะ!?
ว้าวๆๆๆ เอาเล้ยๆๆ >O< นานๆ ทีฉันจะลงมือทำเองเลยนะเนี่ย อิอิ นายนี่มีบุญซะจริง ได้กินทักกางจองฝีมือฉันด้วย โหะๆ >O< เอ่อ...คือ...ไม่ใช่ไรหรอก คือฉันอยากกินเองน่ะ อีกอย่าง...ไหนๆ เขาก็ไม่ชอบผักด้วย ส่วนเนื้อนั้นบอกรับได้หมด ฉันก็เลยขอทำทักกางจองล่ะนะ = =;; แต่...ฮืออออ...ฉันจะทำอร่อยสู้แม่ได้รึเปล่านะเนี่ย T3T
แต่...ก็ช่างมันเถอะ!
ฉันเปลี่ยนมาเป็นยิ้มร่า เพราะอย่างน้อยก็ตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำทักกางจอง ฉันเดินไปล้างมือที่อ่างน้ำ ล้างให้สะอาดก่อนลงมือทำอาหาร...
...ฉันมองข้อมือตัวเองที่อยู่ภายใต้สายน้ำแรงฟู่ มองข้อมืออันขาวใสของตัวเองก็ให้นึกถึง...เพื่อนคนอื่นๆ
ตอนนี้ฉันเองก็ยังนึกสงสัยอยู่ไม่หายว่า ทำไมฉันคนเดียว...ฉันเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ถูกล่ามโซ่ตรวน ซึ่งในขณะที่คนอื่นๆ นั้นต่างก็ถูกพันธนาการด้วยโซ่กันทั้งนั้น ส่วนเรื่องอิสระ...ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทุกคนจะได้รับสิทธิพิเศษเหมือนฉันรึเปล่า? คือไม่ใช่ไรหรอก...อย่างน้อยก็น่าจะได้กินอิ่มนอนหลับสบาย ไม่ถูกพวกผู้ชายพวกนั้น...ข่มเหง??
ฉันถอนใจพลางส่ายหน้าไปมา ไม่อยากจะนึกต่อเลยว่าป่านนี้พวกยัยยองแอและเจบีจะเป็นยังไงบ้างนะ? เจบีน่ะ...คู่ของมันก็คือคนที่นายเจซัครู้จัก มันก็น่าจะสบายกว่าคนอื่นหน่อยๆ บ้างแหละ อย่างน้อยผู้ชายร่างสูงโปร่งท่าทางน่าจะใจดีคนนั้นก็คงไม่ทำร้ายจิตใจหรือร่างกายยัยเจบีหรอกนะ
แล้วยัยยองแอล่ะ...เฮ้อ! ยิ่งคิดก็ยิ่งเซ็ง นี่ฉันอยากจะบอกว่าฉันไม่สามารถติดต่อยัยพวกนั้นได้เลยนะ ทั้งที่เงินในโทรศัพท์ของฉันก็มีเหลือเฟือ แบตฯ ก็ชาร์ตเตรียมไว้ทุกวัน สัญญาณ? ไม่อ่ะ! มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสัญญาณเลย เพราะทุกครั้งที่ฉันแอบโทร. ไปหาพวกมัน เสียงสัญญาณก็ดังตู้ดรัวทุกที มีอยู่สองอย่างคือถ้าสายไม่ว่าง ก็ต้องปิดเครื่อง...ซึ่งอย่างแรกนี่คงเป็นไปไม่ได้อ่ะ เพราะพวกมันจะคุยอะไรกับใครนักหนาทั้งวันทั้งคืน เป็นไปไม่ได้หรอก
ฉันล้างมือเสร็จก็เดินกลับมาที่โต๊ะอีกครั้ง มองพวกของสดตรงหน้า ใช้สายตาและสมองคอยประมวลผลว่าจะทำอะไรก่อนดี แล้วนั่น...ฉันถึงได้เริ่มหั่นเนื้อไก่เตรียมไว้ก่อนเลย
ผ่านไปราวๆ สักหนึ่งชั่วโมงได้...อาหารทุกอย่างก็เพิ่งจะได้ปรากฏอยู่บนโต๊ะกินข้าวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ฉันมองข้าวสวยสองถ้วยใหญ่ที่วางไว้ประจำตำแหน่งของพวกเราสองคน มองเลยไปยังจานใส่ทักกางจอง ที่มีสีส้มสดออกแดงซอสด้วยความภาคภูมิใจ ^.^ และมองเลยไปยังจานใส่ผลไม้ที่มีทั้งแอปเปิ้ลแดงและเขียววางสลับสีกันอย่างงามหยดในจานสีดำนั้น ฮ้า~ ถ้าทำสวยๆ หน่อยเขาก็คงจะอยากกินขึ้นมาบ้างแหละน่า อิอิ ^^
แกร็ก...
อ๊ะ สงสัยจะมาแล้ว?
ฉันชะเง้อหน้าออกไปมองเขาที่กำลังถอดรองเท้าอยู่หน้าห้อง ร่างสูงนั้นยังคงดูปกติ สีหน้าก็ยังดูปกติ เพียงแต่ไม่ได้ยิ้มไม่ได้เครียดอย่างที่ฉันเอาแต่นึกไว้ก่อนที่จะได้เห็นเขา ฉันรีบเดินซอยเท้าทำหน้าแป้นแล้นเข้าไปหาเขาอย่างโคตรเสนอหน้า เออะ = =;;
“คุณ”
ฉันเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่สดใส สีหน้านั้นก็ยิ้มกว้างซะจนหุบไม่อยู่เมื่อนึกถึงทักกางจองที่กำลังร้อนๆ และส่งกลิ่นหอมมาถึงตรงนี้ และฉันก็หวังว่าเขาจะชอบทักกางจองในฉบับของฉันนะ ฮ่าๆๆ
“เป็นอะไรของเธอเนี่ย หะ? ยิ้มอยู่ได้” เขาถามเสียงกลั้วหัวเราะขณะเดินไปนั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น...อะ...อ่าว แล้วเขาไม่กินข้าวก่อนเหรอ? ไหนบอกว่าจะกลับมาให้ทันมื้อเที่ยงไง ซึ่งนั่นมันก็หมายความว่าเขาจะกลับมากินข้าวที่นี่ไม่ใช่เหรอ???
ฉันเดินตามเขาไปติดๆ ยื้อยุดแขนเขาให้ลุกขึ้นมา
“นี่คุณ...ลุกขึ้นไปกินข้าวก่อนเถอะ ฉันอุตส่าห์ทำทักกางจองไว้ให้คุณด้วยนะ เร็ว...” ฉันพยายามที่จะยกแขนอันหนักอึ้งนั้นขึ้นมา แต่เขาก็ยังทำนั่งนิ่ง มีเพียงแค่ใบหน้าเท่านั้นที่เงยหน้าขึ้นมามองด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า เขาถอนใจนิดๆ
“เธอไปกินเถอะ ฉันยังไม่หิวน่ะ”
“อ้าว!”
เฮ้ย! ได้ไงกัน นี่ฉันอุตส่าห์ลงมือทำทักกางจองด้วยตัวเองเลยนะเฟ้ย ของโปรดของฉันเลยนะเนี่ย และอีกอย่าง...มัน...มันก็อร่อยด้วยอ่ะ! ไม่บ่อยนะที่ฉันจะทำมันได้อร่อยขนาดนี้อ่ะ ฮืออออ T^T แล้วนี่นายจะมาไล่ฉันให้ไปกินคนเดียวอีก มันไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ TOT
“คุณ...แต่ฉันอยากให้คุณไปกินอ่ะ วันนี้ฉันอุตส่าห์ลงมือทำทักกางจองเลยนะ T^T”
ฉันยังไม่เลิกที่จะดึงแขนเขาไว้อย่างนั้น นายเจซัคไม่ได้ว่าอะไร เขาทิ้งหลังพิงโซฟาอย่างกับคนเหนื่อยล้าเอามากๆ แล้วหลับตาลง
“แต่ฉันยังไม่อยากกินหนิ เธอไปกินก่อนเถอะ ฉันอยากนอนพักสักครึ่งชั่วโมง”
ฉันเบะหน้าด้วยความน้อยใจ พอเห็นเขานั่งหลับตา นิ่งไปนาน...ก็รู้ว่าเขาคงหลับไปแล้วจริงๆ นั่นฉันถึงได้ยอมปล่อยแขนของเขา ก่อนจะเดินคอตกกลับเข้าห้องนอนไป...เออ ไม่กินก็ไม่ต้องกิน แล้วงี้ฉันจะไปกินลงได้ยังไงคนเดียว
………………………………………………………………….
“อินฮยอง นี่ ตื่นเร็วๆ สิ เดี๋ยวทักกางจองของเธอก็เย็นชืดหมดหรอก ตื่นนนน”
ฉันไม่รู้ว่านี่เวลามันผ่านไปนานแค่ไหนแล้วกับการที่ฉันเผลอหลับไปตั้งแต่ที่เดินหงอยๆ เข้ามาทิ้งหน้าลงกับเตียง ตอนนี้ถ้าฉันไม่ฝันไป ไม่คิดไปเอง...ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าได้ยินเสียงใครสักคนเรียกอยู่ใกล้ๆ แรงเขย่าเบาๆ ที่ไหล่ และไหนจะกลิ่นหอมของ...
ฟุดๆ ฟิดๆ =..=
อา...กลิ่นเหมือนทักกางจองเลย *o*
หะ? ทักกางจองงั้นเหรอ? =_=
พรึ่บ!!!! O_O!!!
ฉันกระเด้งตัวดีดลุกขึ้นทันทีโดยไม่ทันระวังใครอีกคนที่นั่งอยู่ขอบเตียง ส่งผลให้หัวฉันไปกระแทกคางเขาเข้าอย่างแรง โอ๊ยยยย....เจ็บๆๆๆ คนบ้าอะไรวะเนี่ยคางแข็งชะมัด!T-T
ฉันลูบหัวตัวเองป้อยๆ ปากก็ร้องซี้ดด้วยเพราะมันเจ็บจริงๆ แต่อีกคนนี่สิ...พอฉันนึกขึ้นได้ว่าเขาก็คงเจ็บเหมือนกัน...พลันร่างทั้งร่างก็รู้สึกเสียววาบไปทั้งตัว ฉันค่อยๆ เหลือบตามองคนตรงหน้าที่ยังนั่งนิ่ง ไม่ได้ลุกไปไหน พอมองขึ้นไปเรื่อยๆ ถึงได้เห็นเขานั่งกุมปากตัวเองอยู่ พร้อมด้วยสายตาอาฆาตเบาๆ
เออะ...ตาย...ตายแน่ๆ ยัยอินฮยองเอ๊ย T^T
“ไป-กิน-ข้าว!”
เสียงรอดไรฟันที่ดังอู้อี้ๆ อยู่หลังมือนั้นทำให้ฉันตัดสินใจยิ้มแป้นข่มความกลัวไว้ก่อน ก่อนที่ฉัน...จะรีบถลาลงจากเตียงแล้ววิ่งแจ้นหนีหายเข้าไปในห้องน้ำทันที!
ฉันที่วิ่งเข้ามาหลบภัยอยู่หลังประตูห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว ก็ได้แต่ยืนหอบหายใจถี่รัวด้วยความตื่นเต้น หนึ่งเลยล่ะ...ฉันกลัวเขามากเวลาเขาโกรธ ไม่ว่าจะโกรธจริงรึปลอมนั่นล่ะ แต่เพราะเขาตัวใหญ่ไง เวลาจะทำอะไรมันก็เลยดูน่ากลัวไปหมดสำหรับฉัน = =;; และสอง...ฉันรู้สึกผิดที่ตัวเองดันไปทำเขาเจ็บแบบนั้น เฮ้อ...ไม่น่าเล้ย ไม่น่ารีบร้อนเพราะได้กลิ่นทักกางจองเลย T^T
ฮึ? ทักกางจอง...
“อินฮยอง นี่ ตื่นเร็วๆ สิ เดี๋ยวทักกางจองของเธอก็เย็นชืดหมดหรอก ตื่นนนน”
เอ๊ะ? นี่หรือว่าเขา...เขาจะอุ่นทักกางจองให้? งั้นเหรอ O_o?
ฉันยิ้มกว้างกับตัวเอง รู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทั้งที่ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าจะเขินทำไม บ้าและ! บ้าไปแล้วฉันนนนน กรี๊ดๆๆๆๆ >///<
“นี่ ไม่ใช่ว่าไปหลับต่อในห้องน้ำล่ะยัยขี้เซา?”
ฉันชะงักกึก หยุดความเขินไว้แค่นั้นทันทีที่เสียงทุ้มตะโกนดังเข้ามาถึงในนี้ ฉันกระตุกยิ้มที่มุมปาก ยิ้มแสยะที่กลั่นออกมาจากความหมั้นไส้!
ฉันหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับประตูห้องน้ำแล้วตะโกนสุดเสียง
“นี่คุณ! ฉันตื่นแล้วจริงๆ นะ! และฉันก็ไม่ได้ขี้เซาอย่างที่คุณว่าซะหน่อย!!”
ว่าเสร็จก็ลองเงี่ยหูฟังว่าเขาจะโต้กลับมาอีกมั้ย หากสิ่งที่ฉันพยายามจะฟังก็ไม่มีให้ได้ยิน เงียบ...เงียบไปแล้ว สงสัยเขาจะออกไปจากห้องนอนแล้วมั้ง เออ ก็ดี ฉันจะได้ล้างหน้าล้างตาสักที
ฉันเปลี่ยนใจหมุนตัวกลับมาที่อ่างล้างหน้าสุดหรู แตะก๊อกเปิดน้ำแรงฟู่ แล้ววักน้ำขึ้นมาล้างหน้าลวกๆ
“หรอ แล้วไอ้ที่ฉันต้องเสียเวลามานั่งปลุกเธอตั้งสิบห้านาที่นี่...เขาไม่เรียกว่าคนขี้เซาใช่มะ?”
เสียงนั้นดังอยู่แค่หน้าประตูนี่เอง ฉันชะงัก ตวัดสายตาขึ้นไปมองเงาประตูในกระจกก่อนที่จะหมุนตัวกลับไปเปิดประตูผั่วะ
“นี่คุณ...!!! O///O”
ฉันผงะไปทันทีเมื่อพอเปิดประตูเข้ามาแล้วก็เผยให้เห็นเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ยืนเท้าศอกอยู่กับขอบประตูนั่น เขาส่งสายตาพราวระยับมาให้ พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก
เออะ ให้ตายสิ หัวใจเต้นแรงชะมัดเลยง่ะ!
“ทำไม...ฉันทำไม?” เขาถามพลางทำสีหน้ากวนประสาท ยังคงยืนรอคำตอบที่ฉันเองก็ลืมไปแล้วว่าจะด่าเขาว่าอะไร เอ่อ...นี่...นายคิดจะใช้ความสูงใหญ่ของตัวเองเข้าข่มร่างเล็กๆ ของฉันใช่มั้ยเนี่ย T-T
ฉันค่อยๆ เหลือบตาขึ้นมองเขาก่อนจะยิ้มแหยๆ หลังจากที่สายตาก็ได้ลองประเมินดูแล้วว่าขนาดตัวของคนตรงหน้านี้ถ้าคิดจะทำอะไรแล้วก็คงทำได้ซำบายๆ เลยอ่ะ = =;; เพราะงั้น...ยิ้มตัดบทดีกว่า
“ฮี่~ ^o^”
นายนั่นกระตุกคิ้วเข้าหากัน สีหน้าแปลกๆ นั้นมีให้เห็นไม่นานนัก เมื่ออยู่ดีๆ เขาก็...
จุ๊บ!
อุ๊!? O.O!!!
“!!!...เอิ่บ...”
ฉันเบิกตาโพลงมองใบหน้าแดงระเรื่อของคนตรงหน้าแล้วก็ได้แต่ยืนอึ้งกับสิ่งที่เพิ่งจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว! ฉันมองนายเจซัคที่เบือนหน้าหนีไปนิดๆ พลางยกมือขึ้นมาขยี้จมูกนิดหน่อย (ขยี้ทำไม?) นั่นล่ะ ก่อนที่เขาจะหันหน้ากลับมา มันเป็นใบหน้าที่ดูแปลกๆ พิกล...คือ...
หน้านิ่ง...
เย็นชา...
ตายด้าน...
แต่หูแดง...?
“เอิ่บ...ไปกินข้าวได้แล้วยัยเตี้ย - -”
เขาพูดเสียงเรียบ หน้าตาย ก่อนที่จะรีบหมุนตัวเดินหนีออกไปจากตรงนี้ทันที โดยปล่อยให้ฉันที่ยืนตัวแข็งอยู่ตรงนี้ได้แต่มองตามด้วยความไม่เข้าใจ ฮะ...เฮ้ย! คือแบบว่า...เมื่อกี้นี้เขา...เขาจุ๊บฉันใช่มะ???
ฉันสะดุ้งสุดตัวเผลอยกมือขึ้นมาคลำที่ปากตัวเองก็ให้รู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นไปอีก เฮือก! O///O จริงๆ ด้วยแหละ!
ฉันกระพริบตาปริบๆ รีบถลาออกมายืนอยู่หน้าห้องน้ำก็ไม่เห็นร่างสูงแล้ว นี่อย่าบอกนะว่า...เขา...เขาก็เขินเหมือนกันอ่ะ???
ฮ่าๆ ฮ่าๆ
กรี๊ดดดดดด!!!>///< ผู้ชายบ้าอะไรเนี่ย น่ารักง่า!!!~ ๐>O<๐
อีกแค่สี่วัน...เฮ้อ
ฉันถอนใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะปิดโปรแกรมปฏิทินจนหน้าจอกลับมาโชว์รูปหน้าตัวเองเหมือนเดิม ตอนนี้ห้องทั้งห้องเงียบสงัด แม้แต่เสียงของเครื่องปรับอากาศฉันยังไม่ได้ยิน มันคงเป็นยี่ห้อแพงน่ะ ถึงได้มีแต่ความเย็น...ไร้เสียงใดๆ ทั้งนั้น
ที่ฉันว่าเงียบเนี่ย ก็เพราะว่าวันนี้นายเจซัคไม่อยู่ เขาออกไปจากห้องตั้งแต่เช้า แล้ว โดยทิ้งเพียงโน้ตแผ่นสีเหลืองที่ติดไว้อยู่บนหน้าผากฉันแค่นั้น ในโน้ตนั้นบอกว่าเขาจะกลับมาให้ทันมื้อเที่ยง ซึ่งแน่นอนว่าฉันจะต้องเป็นคนทำ = =;;
ฉันเดินเปื่อยๆ ทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอนไปที่ตู้เย็นในครัว เปิดชั้นล่างดูว่ามีของสดอะไรมั้ย ฉันมองหาพวกเนื้อ พวกผัก ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เก็บของแห้งเพื่อดูว่าวันนี้จะกินข้าวหรือว่าจะกินอย่างอื่นดี...และนั่น คำตอบเพียงหนึ่งเดียวของฉันก็คือ กินข้าวเหอะ = =;;
ฉันตวงข้าวใส่หม้อขนาดเล็ก แล้วนำมันไปหุง ก่อนจะหมุนตัวกลับมามองพวกของสดบนโต๊ะอีกครั้งว่าจะทำอะไรเป็นมื้อเที่ยงดี...อืม...นายนั่นไม่ค่อยชอบกินผักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็เห็นกินแต่เนื้อๆๆ ไข่ๆๆ หรือไม่ก็นม ผลไม้ก็กินน้อย เห็นเขาบอกว่าไม่ชอบ มันเปรี้ยวบ้าง หวานไปบ้างล่ะ สรุปก็คืออะไรที่เป็นพวกพืชผักผลไม้นี่อย่าทำให้เขาเลย เสียของ = =;;
หรือว่าจะทำ...ทักกางจองให้เขากินดีนะ!?
ว้าวๆๆๆ เอาเล้ยๆๆ >O< นานๆ ทีฉันจะลงมือทำเองเลยนะเนี่ย อิอิ นายนี่มีบุญซะจริง ได้กินทักกางจองฝีมือฉันด้วย โหะๆ >O< เอ่อ...คือ...ไม่ใช่ไรหรอก คือฉันอยากกินเองน่ะ อีกอย่าง...ไหนๆ เขาก็ไม่ชอบผักด้วย ส่วนเนื้อนั้นบอกรับได้หมด ฉันก็เลยขอทำทักกางจองล่ะนะ = =;; แต่...ฮืออออ...ฉันจะทำอร่อยสู้แม่ได้รึเปล่านะเนี่ย T3T
แต่...ก็ช่างมันเถอะ!
ฉันเปลี่ยนมาเป็นยิ้มร่า เพราะอย่างน้อยก็ตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำทักกางจอง ฉันเดินไปล้างมือที่อ่างน้ำ ล้างให้สะอาดก่อนลงมือทำอาหาร...
...ฉันมองข้อมือตัวเองที่อยู่ภายใต้สายน้ำแรงฟู่ มองข้อมืออันขาวใสของตัวเองก็ให้นึกถึง...เพื่อนคนอื่นๆ
ตอนนี้ฉันเองก็ยังนึกสงสัยอยู่ไม่หายว่า ทำไมฉันคนเดียว...ฉันเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ถูกล่ามโซ่ตรวน ซึ่งในขณะที่คนอื่นๆ นั้นต่างก็ถูกพันธนาการด้วยโซ่กันทั้งนั้น ส่วนเรื่องอิสระ...ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทุกคนจะได้รับสิทธิพิเศษเหมือนฉันรึเปล่า? คือไม่ใช่ไรหรอก...อย่างน้อยก็น่าจะได้กินอิ่มนอนหลับสบาย ไม่ถูกพวกผู้ชายพวกนั้น...ข่มเหง??
ฉันถอนใจพลางส่ายหน้าไปมา ไม่อยากจะนึกต่อเลยว่าป่านนี้พวกยัยยองแอและเจบีจะเป็นยังไงบ้างนะ? เจบีน่ะ...คู่ของมันก็คือคนที่นายเจซัครู้จัก มันก็น่าจะสบายกว่าคนอื่นหน่อยๆ บ้างแหละ อย่างน้อยผู้ชายร่างสูงโปร่งท่าทางน่าจะใจดีคนนั้นก็คงไม่ทำร้ายจิตใจหรือร่างกายยัยเจบีหรอกนะ
แล้วยัยยองแอล่ะ...เฮ้อ! ยิ่งคิดก็ยิ่งเซ็ง นี่ฉันอยากจะบอกว่าฉันไม่สามารถติดต่อยัยพวกนั้นได้เลยนะ ทั้งที่เงินในโทรศัพท์ของฉันก็มีเหลือเฟือ แบตฯ ก็ชาร์ตเตรียมไว้ทุกวัน สัญญาณ? ไม่อ่ะ! มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสัญญาณเลย เพราะทุกครั้งที่ฉันแอบโทร. ไปหาพวกมัน เสียงสัญญาณก็ดังตู้ดรัวทุกที มีอยู่สองอย่างคือถ้าสายไม่ว่าง ก็ต้องปิดเครื่อง...ซึ่งอย่างแรกนี่คงเป็นไปไม่ได้อ่ะ เพราะพวกมันจะคุยอะไรกับใครนักหนาทั้งวันทั้งคืน เป็นไปไม่ได้หรอก
ฉันล้างมือเสร็จก็เดินกลับมาที่โต๊ะอีกครั้ง มองพวกของสดตรงหน้า ใช้สายตาและสมองคอยประมวลผลว่าจะทำอะไรก่อนดี แล้วนั่น...ฉันถึงได้เริ่มหั่นเนื้อไก่เตรียมไว้ก่อนเลย
ผ่านไปราวๆ สักหนึ่งชั่วโมงได้...อาหารทุกอย่างก็เพิ่งจะได้ปรากฏอยู่บนโต๊ะกินข้าวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ฉันมองข้าวสวยสองถ้วยใหญ่ที่วางไว้ประจำตำแหน่งของพวกเราสองคน มองเลยไปยังจานใส่ทักกางจอง ที่มีสีส้มสดออกแดงซอสด้วยความภาคภูมิใจ ^.^ และมองเลยไปยังจานใส่ผลไม้ที่มีทั้งแอปเปิ้ลแดงและเขียววางสลับสีกันอย่างงามหยดในจานสีดำนั้น ฮ้า~ ถ้าทำสวยๆ หน่อยเขาก็คงจะอยากกินขึ้นมาบ้างแหละน่า อิอิ ^^
แกร็ก...
อ๊ะ สงสัยจะมาแล้ว?
ฉันชะเง้อหน้าออกไปมองเขาที่กำลังถอดรองเท้าอยู่หน้าห้อง ร่างสูงนั้นยังคงดูปกติ สีหน้าก็ยังดูปกติ เพียงแต่ไม่ได้ยิ้มไม่ได้เครียดอย่างที่ฉันเอาแต่นึกไว้ก่อนที่จะได้เห็นเขา ฉันรีบเดินซอยเท้าทำหน้าแป้นแล้นเข้าไปหาเขาอย่างโคตรเสนอหน้า เออะ = =;;
“คุณ”
ฉันเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่สดใส สีหน้านั้นก็ยิ้มกว้างซะจนหุบไม่อยู่เมื่อนึกถึงทักกางจองที่กำลังร้อนๆ และส่งกลิ่นหอมมาถึงตรงนี้ และฉันก็หวังว่าเขาจะชอบทักกางจองในฉบับของฉันนะ ฮ่าๆๆ
“เป็นอะไรของเธอเนี่ย หะ? ยิ้มอยู่ได้” เขาถามเสียงกลั้วหัวเราะขณะเดินไปนั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น...อะ...อ่าว แล้วเขาไม่กินข้าวก่อนเหรอ? ไหนบอกว่าจะกลับมาให้ทันมื้อเที่ยงไง ซึ่งนั่นมันก็หมายความว่าเขาจะกลับมากินข้าวที่นี่ไม่ใช่เหรอ???
ฉันเดินตามเขาไปติดๆ ยื้อยุดแขนเขาให้ลุกขึ้นมา
“นี่คุณ...ลุกขึ้นไปกินข้าวก่อนเถอะ ฉันอุตส่าห์ทำทักกางจองไว้ให้คุณด้วยนะ เร็ว...” ฉันพยายามที่จะยกแขนอันหนักอึ้งนั้นขึ้นมา แต่เขาก็ยังทำนั่งนิ่ง มีเพียงแค่ใบหน้าเท่านั้นที่เงยหน้าขึ้นมามองด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า เขาถอนใจนิดๆ
“เธอไปกินเถอะ ฉันยังไม่หิวน่ะ”
“อ้าว!”
เฮ้ย! ได้ไงกัน นี่ฉันอุตส่าห์ลงมือทำทักกางจองด้วยตัวเองเลยนะเฟ้ย ของโปรดของฉันเลยนะเนี่ย และอีกอย่าง...มัน...มันก็อร่อยด้วยอ่ะ! ไม่บ่อยนะที่ฉันจะทำมันได้อร่อยขนาดนี้อ่ะ ฮืออออ T^T แล้วนี่นายจะมาไล่ฉันให้ไปกินคนเดียวอีก มันไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ TOT
“คุณ...แต่ฉันอยากให้คุณไปกินอ่ะ วันนี้ฉันอุตส่าห์ลงมือทำทักกางจองเลยนะ T^T”
ฉันยังไม่เลิกที่จะดึงแขนเขาไว้อย่างนั้น นายเจซัคไม่ได้ว่าอะไร เขาทิ้งหลังพิงโซฟาอย่างกับคนเหนื่อยล้าเอามากๆ แล้วหลับตาลง
“แต่ฉันยังไม่อยากกินหนิ เธอไปกินก่อนเถอะ ฉันอยากนอนพักสักครึ่งชั่วโมง”
ฉันเบะหน้าด้วยความน้อยใจ พอเห็นเขานั่งหลับตา นิ่งไปนาน...ก็รู้ว่าเขาคงหลับไปแล้วจริงๆ นั่นฉันถึงได้ยอมปล่อยแขนของเขา ก่อนจะเดินคอตกกลับเข้าห้องนอนไป...เออ ไม่กินก็ไม่ต้องกิน แล้วงี้ฉันจะไปกินลงได้ยังไงคนเดียว
………………………………………………………………….
“อินฮยอง นี่ ตื่นเร็วๆ สิ เดี๋ยวทักกางจองของเธอก็เย็นชืดหมดหรอก ตื่นนนน”
ฉันไม่รู้ว่านี่เวลามันผ่านไปนานแค่ไหนแล้วกับการที่ฉันเผลอหลับไปตั้งแต่ที่เดินหงอยๆ เข้ามาทิ้งหน้าลงกับเตียง ตอนนี้ถ้าฉันไม่ฝันไป ไม่คิดไปเอง...ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าได้ยินเสียงใครสักคนเรียกอยู่ใกล้ๆ แรงเขย่าเบาๆ ที่ไหล่ และไหนจะกลิ่นหอมของ...
ฟุดๆ ฟิดๆ =..=
อา...กลิ่นเหมือนทักกางจองเลย *o*
หะ? ทักกางจองงั้นเหรอ? =_=
พรึ่บ!!!! O_O!!!
ฉันกระเด้งตัวดีดลุกขึ้นทันทีโดยไม่ทันระวังใครอีกคนที่นั่งอยู่ขอบเตียง ส่งผลให้หัวฉันไปกระแทกคางเขาเข้าอย่างแรง โอ๊ยยยย....เจ็บๆๆๆ คนบ้าอะไรวะเนี่ยคางแข็งชะมัด!T-T
ฉันลูบหัวตัวเองป้อยๆ ปากก็ร้องซี้ดด้วยเพราะมันเจ็บจริงๆ แต่อีกคนนี่สิ...พอฉันนึกขึ้นได้ว่าเขาก็คงเจ็บเหมือนกัน...พลันร่างทั้งร่างก็รู้สึกเสียววาบไปทั้งตัว ฉันค่อยๆ เหลือบตามองคนตรงหน้าที่ยังนั่งนิ่ง ไม่ได้ลุกไปไหน พอมองขึ้นไปเรื่อยๆ ถึงได้เห็นเขานั่งกุมปากตัวเองอยู่ พร้อมด้วยสายตาอาฆาตเบาๆ
เออะ...ตาย...ตายแน่ๆ ยัยอินฮยองเอ๊ย T^T
“ไป-กิน-ข้าว!”
เสียงรอดไรฟันที่ดังอู้อี้ๆ อยู่หลังมือนั้นทำให้ฉันตัดสินใจยิ้มแป้นข่มความกลัวไว้ก่อน ก่อนที่ฉัน...จะรีบถลาลงจากเตียงแล้ววิ่งแจ้นหนีหายเข้าไปในห้องน้ำทันที!
ฉันที่วิ่งเข้ามาหลบภัยอยู่หลังประตูห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว ก็ได้แต่ยืนหอบหายใจถี่รัวด้วยความตื่นเต้น หนึ่งเลยล่ะ...ฉันกลัวเขามากเวลาเขาโกรธ ไม่ว่าจะโกรธจริงรึปลอมนั่นล่ะ แต่เพราะเขาตัวใหญ่ไง เวลาจะทำอะไรมันก็เลยดูน่ากลัวไปหมดสำหรับฉัน = =;; และสอง...ฉันรู้สึกผิดที่ตัวเองดันไปทำเขาเจ็บแบบนั้น เฮ้อ...ไม่น่าเล้ย ไม่น่ารีบร้อนเพราะได้กลิ่นทักกางจองเลย T^T
ฮึ? ทักกางจอง...
“อินฮยอง นี่ ตื่นเร็วๆ สิ เดี๋ยวทักกางจองของเธอก็เย็นชืดหมดหรอก ตื่นนนน”
เอ๊ะ? นี่หรือว่าเขา...เขาจะอุ่นทักกางจองให้? งั้นเหรอ O_o?
ฉันยิ้มกว้างกับตัวเอง รู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทั้งที่ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าจะเขินทำไม บ้าและ! บ้าไปแล้วฉันนนนน กรี๊ดๆๆๆๆ >///<
“นี่ ไม่ใช่ว่าไปหลับต่อในห้องน้ำล่ะยัยขี้เซา?”
ฉันชะงักกึก หยุดความเขินไว้แค่นั้นทันทีที่เสียงทุ้มตะโกนดังเข้ามาถึงในนี้ ฉันกระตุกยิ้มที่มุมปาก ยิ้มแสยะที่กลั่นออกมาจากความหมั้นไส้!
ฉันหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับประตูห้องน้ำแล้วตะโกนสุดเสียง
“นี่คุณ! ฉันตื่นแล้วจริงๆ นะ! และฉันก็ไม่ได้ขี้เซาอย่างที่คุณว่าซะหน่อย!!”
ว่าเสร็จก็ลองเงี่ยหูฟังว่าเขาจะโต้กลับมาอีกมั้ย หากสิ่งที่ฉันพยายามจะฟังก็ไม่มีให้ได้ยิน เงียบ...เงียบไปแล้ว สงสัยเขาจะออกไปจากห้องนอนแล้วมั้ง เออ ก็ดี ฉันจะได้ล้างหน้าล้างตาสักที
ฉันเปลี่ยนใจหมุนตัวกลับมาที่อ่างล้างหน้าสุดหรู แตะก๊อกเปิดน้ำแรงฟู่ แล้ววักน้ำขึ้นมาล้างหน้าลวกๆ
“หรอ แล้วไอ้ที่ฉันต้องเสียเวลามานั่งปลุกเธอตั้งสิบห้านาที่นี่...เขาไม่เรียกว่าคนขี้เซาใช่มะ?”
เสียงนั้นดังอยู่แค่หน้าประตูนี่เอง ฉันชะงัก ตวัดสายตาขึ้นไปมองเงาประตูในกระจกก่อนที่จะหมุนตัวกลับไปเปิดประตูผั่วะ
“นี่คุณ...!!! O///O”
ฉันผงะไปทันทีเมื่อพอเปิดประตูเข้ามาแล้วก็เผยให้เห็นเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ยืนเท้าศอกอยู่กับขอบประตูนั่น เขาส่งสายตาพราวระยับมาให้ พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก
เออะ ให้ตายสิ หัวใจเต้นแรงชะมัดเลยง่ะ!
“ทำไม...ฉันทำไม?” เขาถามพลางทำสีหน้ากวนประสาท ยังคงยืนรอคำตอบที่ฉันเองก็ลืมไปแล้วว่าจะด่าเขาว่าอะไร เอ่อ...นี่...นายคิดจะใช้ความสูงใหญ่ของตัวเองเข้าข่มร่างเล็กๆ ของฉันใช่มั้ยเนี่ย T-T
ฉันค่อยๆ เหลือบตาขึ้นมองเขาก่อนจะยิ้มแหยๆ หลังจากที่สายตาก็ได้ลองประเมินดูแล้วว่าขนาดตัวของคนตรงหน้านี้ถ้าคิดจะทำอะไรแล้วก็คงทำได้ซำบายๆ เลยอ่ะ = =;; เพราะงั้น...ยิ้มตัดบทดีกว่า
“ฮี่~ ^o^”
นายนั่นกระตุกคิ้วเข้าหากัน สีหน้าแปลกๆ นั้นมีให้เห็นไม่นานนัก เมื่ออยู่ดีๆ เขาก็...
จุ๊บ!
อุ๊!? O.O!!!
“!!!...เอิ่บ...”
ฉันเบิกตาโพลงมองใบหน้าแดงระเรื่อของคนตรงหน้าแล้วก็ได้แต่ยืนอึ้งกับสิ่งที่เพิ่งจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว! ฉันมองนายเจซัคที่เบือนหน้าหนีไปนิดๆ พลางยกมือขึ้นมาขยี้จมูกนิดหน่อย (ขยี้ทำไม?) นั่นล่ะ ก่อนที่เขาจะหันหน้ากลับมา มันเป็นใบหน้าที่ดูแปลกๆ พิกล...คือ...
หน้านิ่ง...
เย็นชา...
ตายด้าน...
แต่หูแดง...?
“เอิ่บ...ไปกินข้าวได้แล้วยัยเตี้ย - -”
เขาพูดเสียงเรียบ หน้าตาย ก่อนที่จะรีบหมุนตัวเดินหนีออกไปจากตรงนี้ทันที โดยปล่อยให้ฉันที่ยืนตัวแข็งอยู่ตรงนี้ได้แต่มองตามด้วยความไม่เข้าใจ ฮะ...เฮ้ย! คือแบบว่า...เมื่อกี้นี้เขา...เขาจุ๊บฉันใช่มะ???
ฉันสะดุ้งสุดตัวเผลอยกมือขึ้นมาคลำที่ปากตัวเองก็ให้รู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นไปอีก เฮือก! O///O จริงๆ ด้วยแหละ!
ฉันกระพริบตาปริบๆ รีบถลาออกมายืนอยู่หน้าห้องน้ำก็ไม่เห็นร่างสูงแล้ว นี่อย่าบอกนะว่า...เขา...เขาก็เขินเหมือนกันอ่ะ???
ฮ่าๆ ฮ่าๆ
กรี๊ดดดดดด!!!>///< ผู้ชายบ้าอะไรเนี่ย น่ารักง่า!!!~ ๐>O<๐
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ