ปริศนาพฤษา13 โรงเรียนหลอน
เขียนโดย ละอองฟอง
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.33 น.
แก้ไขเมื่อ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556 20.10 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความครืนน! ซ่าา! แป่ะ แป่ะ แป่ะ
ครืนน! เปรี้ยง!!
ฝนยังตกลงมาไม่ขาดสายตอนนี้พวกฉันทั้งห้ากำลังยืนอยู่หน้าประตูรั้วโรงเรียนตอนนี้ยามไม่อยู่เพราะอย่าว่าแต่นักเรียนเลยที่กลัว แม่ครัว แม่บ้าน ภารโรง ก็กลัว หยากฝนกระเด็นใส่ที่ถึงแม้ว่าจะยืนกางร่มอยู่แต่ก็โดนหยาดน้ำฝนมาบ้าง
"เอาละเราจะปีนรั้วเข้าไปอาจต้องทิ้งร่มไว้เพราะเดี๋ยวมันจะลำบากเวลาปีน"
ยัยวิ้งพูดขึ้นก่อนจะทิ้งร่มลงพื้นแล้วถอดแว่นเก็บไว้ในกระเป๋าเป้แวนสีเขียวแล้วลงมือปีนรั้วทันที ยัยนี่มักจะเป็นผู้นำในเรื่องไร้สาระนี่เสอม นำได้ดีเลยทีเดียวฉันว่าความคิดครั้งนี้น่าจะมาจากหัวสมองมันน่ะ
"ลุยกันเลย"
เชอร์ลินพูดพร้อมกับปีนกำแพงรั้วไปอีกคนตอนนี้ยัยวิ้งอยู่ในโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว ตามด้วยขนมปังและชาหอม เหลือฉันคนเดียวที่ยังคงยืนบื้อกางร่มอยู่ ฝนที่เทกระหน่ำลงมาทำให้ร่างของเพื่อนตัวแสบทั้งสี่ตัวเปียกไม่เป็นชิ้นดี ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง เอาว่ะ!
ฉันทิ้งร่มในมือ และทันทีที่ทิ้งร่มลงฉันสัมผัสได้ถึงน้ำฝนที่ตกลงมาถูกตัวฉันมันช่างเย็นเยียบจับหัวใจเม็ดฝนอีกหลายเม็ดตกลงมาถูกตัวฉันสร้างความรู้สึกหนาวไปถึงกระดูก...นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกหนาว หนาวจับขั้วหัวใจ
"แกจะยืนข้างอีกนานมั้ย! เดี๋ยวก็ตกลงมาหรอกเร็วๆเข้าสิ!"
เสียงของเชอร์ลินเรียกฉันให้ตื่นจากภวังค์น้ำฝน แค่น้ำฝนก็พาสติฉันหลุดไปขนาดนี้ เหอะ! ไร้สาระสิ้นดี
ฉันปีนรั้วโรงเรียนเข้ามาในโรงเรียนเป็นคนสุดท้าย แล้วพวกเราทั้งห้าก็มุ่งหน้าไปยังตึกพฤษา ตอนนี้เราไม่มีพาหนะกันฝนอะไรทั้งสิ้นเดินฝ่าสายฝนที่เทกระหน่ำลงมา และแล้วพวกเราก็เดินมาหยุดตรงหน้าตึกพฤษา ป้ายสีแดงเขียนติดไว้ว่า 'ตึกพฤษา13' เหตุที่่ต้องเขียน13เพราะตึกนี้มี13ชั้นทุกตึกก็จะเขียนแบบนี้เหมือนกัน ชื่อตึกตามด้วยจำนวนชั้น
"ลุยเข้าไปเลย"
ยัยวิ้งพูดก่อนจะเดินนำไป
"นี่มาพิสูจน์รักแท้หรือว่ารบกันว่ะ 'ลุย' ตั้งแต่อยู่ที่บ้านฟาง"
ชาหอมพูดด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายฉันว่ามันก็คงจะคิดเหมือนฉัน พวกเราทั้งสี่เดินตามยัยวิ้งไป อ้อ!อีกอย่างของข้อเสีอตึกพฤษาคือตึกนี้ไม่มีลิฟต์ เพราะเป็นตึกเก่าสร้างตั้งแต่สมัยโรงเรียนเซนต์โบลิก ก่อตั้งขึ้น ทางคณบดีก็อยากที่จะทำลายตึกนี้แล้วสร้างตึกใหม่แต่ทว่า ผอ.โรงเรียนเราไม่ยอมเพราะมันเป็นตึกแรกที่สร้างสมัยยังไม่มีนักเรียนเข้ามาเรียนที่นี่
"แฮกๆ! ขั้นที่9แล้ว"
เสียงยัยเชอร์ลินหอบมือจับราวบันไดนั่งหอบไม่มีชิ้นดี
"อีกแค่...สิบสามลบเก้าเท่ากับ..."
ยัยชาหอมเอานิ้วมาคิดเลข ยัยนี่ก็เหมือนกันหลุดบ่อยๆเรียกว่าไม่แคร์ว่าใครจะคิดยังไงจะดีกว่า
"โว้! แค่นี้ก็ต้องนับนิ้วอีกแค่4ขั้น"
ขนมปังพูดขึ้นก่อนจะยืดตัวสูบลมหายใจเข้าลึกๆ
"ไปกันเถอะนี่มันจะเที่ยงคืนแล้วเดี๋ยวไม่ทันเวลา"
วิ้งพูดแล้วขึ้นบันไดไปมันไม่เหนื่อยบ้างรึไง ฉันเนี่ยจะกลายเป็นหมาหอบแดดอยู่แล้ว
"ไปกันเถอะพวกเรา"
ขนมปังพูดก่อนจะเดินตามวิ้งไปตามด้วยพวกฉันที่เหลือ...
และไม่นานเราก็ขึ้นมาถึงชึ้น13 ทันทีที่ขึ้นมาฉันก็รับรู้ได้ถึงไอความหนาวเหน็บที่ทวีเพิ่มมากขึ้น ฝนยังคงตกไม่หยุด ฟ้าผ่าทำให้เราเห็นแสงวูบวาบทุกครั้งที่ฟ้าผ่า ชั้นนี้เป็นชั้นที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากห้องเรียนที่เรียงรายไยแมงมุมเกาะตามฝาพนังต่างๆ บนพื้นที่พวกเราเหยียบก็เต็มไปด้วยเศษใบไม้เศษขยะต่างๆ ฝุ่นก็เกาะหนาเตอะ บ่งบอกถึงว่าชั้นนี้คาดความดูแลมานานนับปี...
พวกเราทั้งห้ามุ่งหน้าไปยังห้องนาฎศิลป์ตอนนี้ยัยวิ้งหยิบไฟฉายขึ้นมาเพราะชั้นนี้มืดมากยอมรับว่าชั้นข้างล่างตั้งแต่ชั้น8ลงไปยังมีแสงไฟที่ภารโรงเปิดทิ้งไว้ตึกนี้ใช้การแค่ชั้น8เท่านั้น ...
"ถึงแล้วห้องนาฎศิลป์เก่า..."
พวกเราเดินมาถึงนาฎศิลป์เก่า ห้องยังถูกปิดเอาไว้ด้วยกระเงาสีดำสะท้อนให้เห็นเงาของพวกเราทั้งห้ามียัยวิ้งอยู่ตรงกลางยืนถือไฟฉายส่องไปที่ประตูกระจก
แวบนั้น แวบเดียวเท่านั้น.....
แวบเดียวที่ฉันเห็นว่าข้างหลังมีใครยืนอยู่ด้วยแต่แค่แวบเดียวฉันหันกลับไปมองข้างหลังอย่างหวาดกลัวแต่ก็ไม่มีอะไร
"เป็นอะไร?"
ชาหอมพูดทักขึ้นที่เห็นฉันอยู่ดีๆก็หันหลังไปดื้อๆ
"ป่าวหรอก...แค่ตาฝาดน่ะ"
ฉันขอภาวนาแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวที่ฉันได้เห็น และขอให้ตาฉันฝาดไปจริงๆ ...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ