Phantom School
เขียนโดย Wondergirl
วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18.10 น.
แก้ไขเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
20) ตอนพิเศษส่งท้าย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความในช่วงเวลาบ่ายวันหนึ่งในฤดูฝนอันแสนจะเย็นฉ่ำ... และเป็นฤดูที่ไข้จับที่สุดใน1ปี แต่ถึงกระนั้นราชการและผู้นำประเทศก็ยังคงทำงานกันอย่างไม่ลดละ... หรือที่จริงแล้วอาจอยากหยุดแทบแย่แต่คงเป็นเพราะหน้าที่และราชินีมากกว่าหละมั้งนะ...
อาณาจักรเนอร์วาคืออาณาจักรใหม่ที่เพิ่งจะเจริญรุ่งเรืองขึ้นใหม่อีกครั้งเมื่อราวๆ10ปีที่ผ่านมาหลังจากที่มันถูกทิ้งร้างและถูกครอบงำโดยอำนาจมืด ราชินีของอาณาจักรนี้เป็นลูกหลานของราชาองค์ก่อนที่ปกครองอาณาจักรให้สงบสุข นางเป็นสตรีที่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์หน้าใหม่เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นสตรีหนึ่งเดียวที่กล้าเดินเข้าไปในที่ที่เต็มไปด้วยพลังมืดแล้วบอกว่า 'ข้าจะฟื้นฟูอาณาจักรของพ่อข้า'
และด้วยความที่ราชาเป็นคนที่ไม่กล้าจะขัดใจภริยาแม้แต่นิดน้อย อาราจักรนี้จึงถูกสถาปนาขึ้นใหม่และกลายเป็นเมืองแห่งการซื้อขาย ร่ำเรียนวิชา เวทย์มนต์และอื่นๆอีกมากมาย การค้าขายวัตถุดิบต่างๆ การศึกษา
ณ หอสมุดใหญ่ของโรงเรียนคีวาเนียร์
"ฮอโล่ ทำไมเธอชอบอ่านข่าวเกี่ยวกับยัยฆาตรกรนี่จังหละ" เด็กสาวคนหนึ่งเอ่ยถามในขณะที่เดินมานั่งข้างๆเด็กสาวอีกคนที่กำลังอ่านหนังสือยู่ เธอมีผมสีทองเหลืออร่ามซอบสั้นประบ่าและนัยน์ตาสีเหลืองทองคมกริบเชกเช่นเดียวกัน
ฮอโล่ลดหนังสือลงเผยให้เห็นใบหน้าหวานสวย เธอมีผมสีเงินเป็นลอนยาวประบ่า ดวงตากลมโต นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลและริมฝีปากกุหลาบสีชมพูระเรื่อทำให้เธอดูน่ารักราวกับตุ๊กตาเจ้าหญิง... เพราะปกติแล้วเธอไม่ค่อยจะแสดงสีหน้าสักเท่าไหร่ก้เลยยิ่งดูเหมือนตุ๊กจาเข้าไปใหญ่
"ฉันถูกสั่งให้ทำรายงานเกี่ยวกับบุคคลผู้เป็นตำนาน" เธอตอบแล้ววางหนังสือเล่มที่ถือยู่ลงบนกองภูเขาหนังสือข้างตัวที่วางซ้อนๆขึ้นไปเรื่อยๆ "ฉันจับไลก้าไปขังไว้ในเรือนกระจก เธอคงไม่อยากรู้เหตุผลเท่าไหร่หรอกนะวาเลน ฉันมั่นใจ" เธอพูดต่ออย่างรู้หน้าที่ว่าคุณเพื่อนของเธอต้องอยากรู้แน่ว่าเพราะอะไร
"แล้วทำไมถึงทำเรื่องเกี่ยวกับผู้พิพากษาจากเงามืดทั้งๆที่คนอื่นๆดีๆก็มีถมไป" วาเลนถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
"เพราะว่าเธอสงสัยว่าแม่ของเธออาจจะเป็นบุคคลปริศนาที่ว่าก็เป็นได้" เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีผ้าพันแผลอยู่รอบหัวเดินมาหาเด็กสาวทั้งสอง เขามีผมสีดำตรงรวบเป็บทรงหางม้าไว้ด้านหลัง ดวงตาคมกริบ นัยน์ตาสีฟ้าครามดั่งท้องฟ้ายามกลางวัน
"อย่างที่เขาว่า" ฮอโล่ตอบ
"ทำไมอะ" วาเลนถามทันทีด้วยความมึนงง เธอไม่เข้าใจว่าแม่ของฮอโล่กับผู้พิพากษาจากเงามืดมีอะไรเหมือนกันนอกจากสีผม
"ฉันค้นคว้าหาเรื่องนี้เล่นๆหนะ แม่ของฉันเคยเล่าว่าเคยไปเรียนที่เมืองๆหนึ่ง และข่าวที่ว่าหาตรกรโหดคนนี้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากโดนยิงก็เป้นเวลาเยื้องๆกันพอดี และฉันก็พบหนังสือพิมพ์เก่าๆฉบับหนึ่งเกี่ยวกับการกลับมาของฆาตรกรที่ว่าซึ่งเป้นช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่แม่ข้าสร้างอาณาจักรนี้ใหม่" ฮอโล่อธิบายแบบลวกๆแล้วเอนตัวพิงเก้าอี้กำมหยี่สีแดงที่ตนนั่งอยู่ "พอไปถามแม่ แม่ก็เปลี่ยนเรื่อง ถามพ่อพ่อก็เกิดจะมีธุระทางราชการขึ้นมาทุกที"
"งั้นวันหยุดนี้เราไปเล่นเกมส์นักสืบในบ้านเจ้ากันเถอะ!" ไลก้าเสนออย่างร่าเริง และถ้าทุกคนในโรงเรียนเห้นย่อมคิดกันไปเองว่าท่านประธานสุดฮอตมีแผนการอะไรแน่ๆ แต่สำหรับสองสาวที่ดังไม่แพ้กันคู่นี้แล้ว พวกเธอรุ้ได้ทันทีว่าท่านประธานคนนี้แค่จะไปเล่นเท่านั้นเอง
แล้ววันหยุดก็มาถึง ฮอโล่จัดการเรื่องยานพาหนะเรียบร้อยก็พาเพื่อนทั้งสองขึ้นหลังมังกรสีเทาตัวหนึ่งที่กำลังนั่งรอเจ้านายอย่างว่าง่ายอยู่ข้างน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ในโรงเรียน
"ไปเอามาจากไหนเนี่ย!" วาเลนทำตาวาวใส่เจ้ามังกรที่กำลังนอนหมอบให้เด็กสาวผมเงินลูบหัวอย่างว่าง่ายราวกับลูกหมาตัวน้อย
"มังกรของข้าเอง ไปกันเถอะ เกรย์เขารอนานมากแล้ว" ฮอโล่ตอบแล้วลูบเกล็ดใต้ตาสีมรกตของมังกรตัวนั้น เธอพยักหน้าแล้วยื่นไปยังหลังมังกรเป็นการบอกว่าให้ขึ้นไปนั่งบนหลัง และเธอตั้งใจชี้ไปบนหลังอย่างชัดเจนว่าให้นั่ง 'บนหลัง' เท่านั้น
ไลก้ากระโดดขึ้นไปนั่งบนหลังมังกรทันทีด้วยความตื่นตาตื่นใจเพราะเขาไม่ค่อยมีโอกาสได้นั่งมังกรนักนอกเสียจากต้องไปทำภารกิจกันที่ต่างเมือง ส่วนวาเลนนั้นไม่ค่อยจะตื่นเต้นสักเท่าไหร่เพราะพ่อของเธอเป็นพวกบ้าวัตถุเวทย์ โดยเฉพาะอะไรก็ตามจาก 'มังกร' ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอต้องศึกษามังกรให้ดีเนื่องจากว่ากลัวพ่อจะไปเอาของมีพิษเข้าบ้านแล้วโดนแม่ฆ่าตาย
"เกรย์ไปกันเถอะ"ฮอโล่สั่งมังกรของตนเบาๆแล้วกระโดดขึ้นไปนั่งบนหัวของมังกรอย่างนุ่มนวล
เจ้ามังกรกระพือปีกเบาๆแล้วทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเบื้องบนที่มีเมฆครึ้มเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าฝนใกล้จะตก มันบินอย่างรวดเร็วด้วยท่วงท่าผาดโผนสุดหวาดเสียวน่ากลัวจนทำเอาผู้โดยสารทั้ง2ที่อยู่บนหลังมังกรถึงกับต้องงัดกลยุทธ์ทางด้านการทรงตัวออกมาใช้กันอย่างหมดเปลือก แต่ไม่ใช่อย่างนั้นกับเจ้านายของมันที่นั่งกินลมชมวิวอย่างสบายใจเหมือนกับนั่งอยู่ในสวนกว้างที่เงียบสงบ
ผ่านไป10นาทีทัวร์หฤโหดก็จบลง เจ้ามังกรร่อนลงในสวนกว้างในพระราชวังด้วยอารมณ์เบิกบานใจเนื่องจากได้บินหลังจากไม่ได้บินมาแสนนาน ซึ่งนั่นก็ทำให้ผุ้โดยสารทั้ง2รู้สึกมึนงง ไม่ใช่เพราะเวียนหัวแต่เป็นเพราะสถานที่ต่างหาก ถ้าพวกเขาจำไม่ผิดหละก็นะเด็กสาวผมเงินเคยบอกว่าแม่เธอไม่ใช่ขุนนาง ซึ่งก็น่าแปลกเพราะคนรับใช้ในพระราชวังรายได้ไม่มากพอที่จะส่งลูกสาวเรียนที่โรงเรียนคิวาเนียร์ได้
"เดี๋ยวนะ แม่ของเขาเป็นใครกันแน่?" วาเลนถาม
"เป็นราชินี ข้าไม่ได้บอกหรือ?" ฮอโล่ตอบพรางถามกับหลังจากที่เห็นเพื่อนทั้งสองทำหน้าเอ๋อรับประทาน "พ่อแม่พวกเจ้าก็เป็นคนมีตำแหน่งกัน อีกอย่างที่โรงเรียนก็มีเจ้าชายเจ้าหญิงเยอะแยะไป" เธอบอกเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดา
"เฮ่! ใครให้เอามังกรมาจอดในสัวะ... เอ๋?" ชายคนหนึ่งในชุดอัศวินเดินเข้ามาในสวนด้วยท่าทางขึงขัง เขามีผมสีแดงเข้มชี้โด่ชี้เด่และนัยน์ตาสีน้ำตาล "ลูกมาทำอะไรที่นี่เนี่ยไหนบอกว่าจะไปเที่ยวบ้านเพื่อนสาว?" เขาถามอย่างมึนงง
"สวัสดีค่ะ คุณหัวหน้าองครักษ์แจ๊ค"วาเลนโบกมือให้ชายในเครื่องแบบคนนั้นด้วยรอยยิ้มกว้าง เธอรู้ว่าอีกไม่กี่วินาทีจะเกิดเรื่องสนุกๆขึ้น
"สวัสดี วาเลน อย่าบอกนะว่าหนูเป็นเพื่อนสาวลูกชายลุง?" แจ๊คเอ่ยถามเด็กสาวผมทองด้วยอาการมึนงง
"ไม่ใช่ค่ะคุณลุง" วาเลนโบกมือปฏิเสธเบาๆก่อนจะบอกว่า "หนูเป็นเพื่อนสาวของลุกชายตนโตของลุงต่างหากหละค่ะ" เธอตอบด้วยรอยยิ้มที่กว้างขึ้นเรื่อยๆในขณะที่ไลก้าก็หน้าซีดลงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็หน้าขาวซัจนกระดาษยอมแพ้
"ไล...ก้า!!!!!!!!!!" ฮอโล่พุ่งเข้าคว้าคอเสื้อของเด็กหนุ่มแล้วเขย่าไปมาอย่างโกระเคือง "ใครเป็นเพื่อนสาวนายกันหา! เจ้าบ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เจ้าบ้า! อยากตายก่อนหมดอายุขัยหรือไง อย่าคิดนะว่าพ่อกับแม่เจ้ากลายเป็นเผ่าพันธุ์อมตะแล้วเจ้าจะตายไม่ได้!!" เด็กสาวมองหน้าเด็กหนุ่มที่ตอนนี้ตาเหลือกหน้าซีดเหมือนวิญญาณออกจากร่าง
"ฮอโล่พาเพื่อนมาเล่นที่บ้านหรือ?" เสียงของหญิงสาวนางหนึ่งดังขึ้นที่ข้างหูของเด้กสาวผมเงินจึงทำให้เธอหยุดชะงัก
"แม่ไม่ว่าอะไรหรอกนะ แต่ประตูหน้าก็มีหนิลูกรัก" หญิงสาวนางหนึ่งเดินออกมาจากเงาด้านหลังของเด็กสาว เธอมีเส้นผมสีดำลอนยาวถึงกลางหลังรวมเอาไว้หลวมๆ นัยน์ตาสีดำสนิทดั่งรัติกาลนั้นราบเรียบเฉยๆเมยยากที่จะอ่านได้ว่าคิดอะไรอยู่ เธอใส่ชุดราตรียาวปิดข้อเท้าสีฟ้า
"ท่านพ่อจะโวยวาย" ฮอโล่เบ้ปากอย่างเซ็งๆแล้วปล่อยมือจากคอเสื้อเพื่อนผู้เคราะห์ร้ายเปลี่ยนมาจับมือของผู้เป็นแม่เทน
"แม่เข้าใจ... งั้นเราไปเล่นข้างในกันก่อนเถอะ เดี๋ยวแม่ไปประ... เอ้ย ไปสนทนากับจีเคแล้วจะมาเล่นด้วย" ราชินีพูดกับลูกสาวและเพื่อนลูกสาวเสร็จก็หายตัวเข้าไปในเงามืดอย่างไร้ร่องรอยอีกครั้งราวกับใช้เวทย์มนต์ ซึ่งที่จริงแล้วพ่อของเจ้าหญิงน้อยเคยบอกว่าแม่เธอสามารถที่จะอยุ่หรือหายไปได้ตามต้องการโดยไม่ใช้เวทย์มนต์
ลูกมั่นใจว่าแม่จะพูดว่าประมือค่ะ ท่านแม่...
ณ ทางเดินแห่งหนึ่งในปราสาท
"แล้วเอาไงต่อ" เด็กหนุ่มผมดำเอ่ยถามอย่างร่าเริงเนื่องจากว่าเขาเองก็ไม่ได้มาเที่ยวเล่นในวังมานานแล้ว ดังนั้นการได้มาเดินเล่นในวังย่อมเป็นสิ่งที่เขาคิดไว้แต่แรก ส่วนเรื่องที่จะช่วยสืบเรื่องแม่ของฮอโล่เป็นเรื่องรองลงมา
"ไปห้องนอนท่านแม่" ฮอโล่ตอบพรางเดินนำหน้า
"แล้วอยู่มาตั้งนาน เจ้าไม่เคยเข้า?" ไลก้าถามอย่างอึ้งๆ
"ปกติแม่จะอยู่แต่ในห้อง เข้าไปแล้วอีกเป็นชั่วโมงหรือเป็นวันกว่าจะออกมา ถ้าออกมาทีก้จะล็อกห้อง ส่วนใหญ่จะไปทำงานหรือไม่ก็ไปเที่ยวขี่มังกรเล่นกับพ่อ"ฮอโล่ตอบพรางหันไปยังประตูบานหยึ่งอย่างระมัดระวัง เธอรู้ดีถึงความร้ายกาจของแม่ตัวเอง แต่ก็ไม่ทั้งหมดเพราะเธอไม่สามารถอ่านความคิดของผู้เป็นแม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
"ฉันนึกว่าราชินีจะเอาแต่แต่งตัวทุกคนเสียอีก" วาเลนเปรยออกมาลอยๆ
"ไม่ใช่แม่ข้าแน่ๆเพราะว่าเครื่องสำอางของท่านแม่นั้นถูกเก้บใส่กล่องเอาไว้อย่างดี ไม่มีร่องรอยการใช้เลย ท่านแม่บอกว่าท่านดูเด็กเพราะแต่งหน้าแต่ว่าครั้งหนึ่งฉันเคยไปแอบดูทางหน้าต่างตอนกลางคืน ฉันไม่คิดหรอกนะว่าท่านจะแต่งหน้าตอนนอนด้วย" ฮอโล่อธิบายพรางขมวดคิ้ว เรื่องราวบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นในหัวของเธอ
เด็กสาวเปิดประตูเข้าไปอย่างง่ายดาย
ด้านในห้องนั้นถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายและไม่มืดสลัวไม่ได้มีของมีค่าอะไรเลยจนทำให้เพื่อนทั้งสองเริ่มสงสัยว่าอาจจะมาผิดห้องก็เป็นได้
ด้านซ้ายสุดของห้องมีตู้ได้สีดำวางติดกัน3ตู้ซึ่งก็เรียกว่าเยอะมากสำหรับคนคนเดียวและมีทางเดินเข้าไปอีกหน่อยเป็นประตูห้องน้ำ ส่วนด้านขวานั้นมีลักษณะเป็นส่วนโค้งมีเตียงรูปร่างแปลกเป็นทรงครึ่งวงกลม โต๊ะทำงานสีดำที่เต็มไปด้วยเอกสาร เก้าอี้ไม้เก่าๆและโต๊ะกระจกที่แทบจะไม่มีอะไรวางอยู่เลย ส่วนตรงหลังห้องมีประตูกระจกที่เอาไว้เปิดไปที่ระเบียงกับเก้าอี้โยกที่ทำจากไม้
ธรรมดาสุดๆ นี่คือข้อสรุปที่ทุกคนในอาณาจักรถ้าได้มาเห็นแล้วต้องคิดเช่นเดียวกันโดยไม่ต้องสะกดจิต
"ฉันจะไปดูตู้นะ นายไปตรวจดูผนัง วาเลนเธอไปดูเตียงแล้วกัน"ฮอโลออกคำสั่งทันทีพรางเดินไปเปิดตู้ทั้ง3ออกมาดู
ตู้ทั้ง3นั้นเรียกได้ว่ามีเพียงตู้เดียวเท่านั้นที่มีชุดราตรีหรือชุดอะไรหรู ส่วนอีก2ตู้ที่เหลือนั้นไม่มีขอบอะไรเลย ซึ่งนั้นก็ทำให้เธอต้องเข้าไปตรวจถึงด้านในของตู้
มีประตูกลอยู่ตรงนี้ด้วย เธอเปิดประตูที่ซ่อนอยู่ในตู้แล้วดึงตัวขึ้นไปดูสิ่งที่อยู่ด้านบน ถ้าเธอจำไม่ผิดด้านบนจะเป็นห้องประชุมที่เอาไว้ให้ขุนนางกินเงินหลวงเข้าไปนั่งบ่นนินทาราชินีและราชา แต่สิ่งที่เธอเห็นกลับไม่ใช่เลย ด้านบนเป็นห้องเล็กมืดๆที่มีชุดสีดำชุดหนึ่งแขวนอยู่บนราวและชั้นราวอาวุธซัด ขวดยาพิษหรืออะไรก็ตามที่ไม่ควรอยู่ในห้องนอนของใครก็ตาม เมื่อเธอทิ้งตัวลงมาจากช่องด้านบนก็พบว่าในตู้ข้างๆมีหน้ากากขนนกแฟนซีสีขาวอันหนึ่งลอยอยู่โดดๆ
"ดูสิว่าข้าเจออะไร? ดาบสั้นกับปืนอีก2กระบอกอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงาน แม่เธอจะโหดไปไหม?"ไลก้าพูดพรางดึงให้ฮอโล่มาดูดาบสั้นที่ถูกเก็บในฟักดาบเรียบร้อยไร้ฝุ่นเกาะและปืนรูปโบราณสีเงินที่อัดเน่นไปด้วยพลังเวทย์ ซึ่งทั้ง2อย่างนั้นถูกล็อกเอาไว้ด้วยโซ่ไม่สามารถหยิบออกมาได้
"แล้วดูว่าข้าเจออะไร ดาบยาวแบบตะวันตกกับพรองเหล็ก แม่เธอเป็นพวกบ้าอาวุธหรือไง?" วาเลนพูดพรางดึงฮอโล่ไปดูของที่อยู่ในลิ้นชักลับข้างเตียง ซึ่งอาวุธที่ว่ามาก็ถูกล็อกไว้เช่นกัน
"ฉันเจอของเด็ดกว่านั้นอยู่ด้านบนตู้" ฮอโล่บอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบพรางเหลือบมองตุ้ที่บัดนี้ปิดเรียบร้อยเหมือนไม่เคยถูกเปิดออกมาแม้แต่ครั้งเดียว
"แต่ฉันว่าเรารีบออกจากห้องแล้วไปเินเล่นดีกว่า เท่านี้ก็พิสูจน์ได้แล้ว ไม่น่าเชื่อว่ามือสังหารที่ว่านั่นจะประมาทได้ขนาดนี้ ถึงกับไม่ล็อกห้อง ไม่ลงมนต์" ไลก้าช่วยอย่างเซ็งๆ ถึงแม้เขาอยากจะอยู่ต่อแต่ก็กลัวว่าถ้าอยู่ต่อจะโดนเจอตัว
"หรือไม่ราชินีก็คงจะระแวงเรื่องกายลอบฆ่า" วาเลนสรุปความเห็นอื่นเพราะเธอมั่นใจอยู่เรื่องหนึ่งว่าห้องนี้มีอาวุธมากพอๆกับคลังอาวุธฉุกเฉิน
"อืม เราไปกันดีกว่า ก่อนที่ท่านแม่จะมาเจอ"
และแล้วเด็กแสบทั้ง3คนหัว3สีก้เดินออกจากห้องไปทันทีโดยที่ไม่ลืมจะปิดประตูให้เรียบร้อย
หลังจากที่เด็กน้อยทั้งสามออกไปจากห้องเรียบร้อยแล้ว ร่างที่แอบซ่อนอยุ่ในเงามืดที่มุมห้องก็ค่อยๆเคลื่อนตัวออกมา ดวงตาสีดำคบกริบดั่งเหยี่ยวที่กำลังมองหาเหยื่อกวาดมองไปรอบๆห้อง เรียวปากน่าลุ่มหลงขยับเป็นรอยยิ้มพึงพอใจ
"เป็นไปดังคาด ซีโร่เอ้ย รอตอบคำถามลูกดีๆหละ ฮิฮิฮิ"
ตกเย็นฮอโล่แยกกับเพื่อนๆแล้วไปยังห้องรับประทานอาหารสำหรับราชวงศ์เพื่อที่จะนั่งคุยกับท่านพ่อและท่านแม่อย่างส่วนตัวที่สุด ถึงแม้ห้องนี้ควรจะเป็นห้องที่หรูหราแต่ก้ไม่เลยมันแสนจะธรรมดาเหมือนห้องนอนท่านแม่นั่นแหละ เป็นห้องเล็กๆ มีโต๊ะอาหารรูปห้าเหลี่ยมด้านเท่าที่มีลวดลายเป็นรู้ดาวห้าแฉก ที่แต่ละด้านของโต๊ะจะมีเก้าอี้บุกำมหยี่หนึ่งตัว
ที่นั่งทั้ง5ที่นั้นแสดงให้เห็นถึงบุคคลในครอบครัว5คน แต่ทว่า1ในนั้นเป็นวิญญาณ สมาชิกทั้ง5นั้นประกอบด้วย อดีตราชาราชินี ราชา ราชิินีและรัชทายาท แต่ที่จริงแล้วปกติคนที่มารับประทานอาหารนั้นจริงๆมีเพียงองค์ราชาและรัชทายาทเท่านั้น
"ท่านพ่อ ลูกมีอะไรอย่างจะถามท่านสักหน่อย" ฮอโล่กล่าวพรางจิ้มสเต็กเนื้อเล่นโดยไม่คิดจะกิน
"อะไรหรือลูกรัก" ชายหนุ่มผมสีเงินและนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลเอ่ยถามผู้เป็นลูกกลับอย่างสงสัยเพราะนานแล้วที่ลูกสาวเขาไม่ได้ถามอะไรเขา
"ท่านแม่เป็นมือสังหารใช่ไหม?" ฮอโล่ถามตรงๆทันทีที่ได้รับอนุญาตให้ถาม "ลูกเห็นแล้ว"
"เอ่อ... ลูกไปถามท่านแม่ดีกว่านะ พ่อไม่รู่!!!!" ราชาทำเสียงสูงใส่ลูกทันที ซึ่งมันเป้นสัญญาณบอกชัดถึงพิรุธ
"แม่ไม่อยู่ พ่อบอกหน่อยไม่ได้หรือไร" ฮอโล่บุ้ยปากอย่างเซ็งๆแล้วใช้ส้อมจิ้มผักใบเขียวในจานของผู้เป็นพ่อมาเคี้ยวเล่น "ลูกอยากรู้ ลูกสาบานว่าลูกจะไม่ทำตามก็ได้"
แสดงว่าถ้าพ่อไม่ห้ามเจ้าก็จะไปเอาอย่างแม่ใช่ไหมเนี่ย! คิลล์เจ้าอบรมลูกยังไงทำไมถึงได้เหมือนกันนัก! ราชาหลับตาลงแล้วถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆแล้วพยักหน้ารับอย่างยอมแพ้ เขาลืมตาขึ้นอีกครั้งเพื่อดูสีหน้าลูกสาวแล้วก็ต้องถึงกับอยากร้องไห้เพราะอาหารในจานเขาอันตธานหายไปแล้ว ส่วนคุณลูกสุดที่รักก็ไม่รู้ว่าไปไหนเสียแล้ว
"แกล้งข้าสนุกนักหรือไงกันหืม? คิลล์ แกล้งได้ไม่เว้นวันหยุดเชียวนะ" ราชาเอ่ยปากเบาๆอย่างอ่อนล้า "แล้วคิดอะไรถึงอยากให้ลูกรู้เรื่องนั้น ทั้งๆที่เมื่อก่อนลงมนต์ปิดบังอย่างกับอะไรดี" เขาถามด้วยความรู้สึกมึนงง
"ข้าไม่อยากปิดหูปิดตาลูกไปตลอดนี่ ยังไงซะบอกไปก็ดีแล้ว ซีโร่ เจ้าก็บอกให้ข้าบอกลูกไม่ใช่หรือ" ราชินีเดินออกมาจากเงามืดแล้วกอดคอราชาโยกไปโยกมาอย่างมีความสุข ที่จริงข้าก้อยากจะแกล้งเจ้าตัวนั่นแหละ หึหึหึ คิลล์ยิ้มจนตาหยี ตอนนี้เธอใส่เสื้อไหมสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีดำซึ่งนั่นก็ทำให้เธอดูเด้กขึ้น10ปี... หรือควรบอกว่าตอนนี้เธอหน้าเหมือนเด็กสาวอายุ18-19ดีหละ
"ก็ใช่ แต่ตอนนี้ข้าคงไม่มีเวลาให้เขามากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว" ซีโร่ตอบพรางนวดขมับเบาๆ เขาไม่มีเวลามานั่งสอนลูกอีกแล้วเพราะตอนนี้เขาต้องทำงาน ดูแลทุกชีวิตในอาณาจักร
"งั้นก็แบ่งงานของเจ้าให้ข้าบ้างก็ได้หนิ ข้าเคยอ่านหนังสือเป็นพันๆเล่นในชุ่วง20ปีที่ผ่านมา และข้าสามารถบอกได้เลยว่าต่อให้ภูตหิมะไม่มีวันแก่แต่ถ้าเจ้าเครียดมากๆ หน้าได้ย่นเป็นตาเฒ่าก่อนวัยอันควรแน่" คิลล์พูดหยอกล้อเขาพรางหยิกแก้มขาวๆของเขาเล่นเบาๆเหมือนกำลังแกล้งเด็กเล็กๆ
"เจ้าต้องโมโหตายแน่ๆถ้าเจ้าทำงานที่ข้าทำอยู่" ซีโร่บอก
"ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าข้าไม่ใช่นกน้อยในกรงที่เจ้าเลี้ยงไว้ดูเล่นแต่เป็นคู่ครอบคู่ทุกข์คู่สุข เจ้าเหนื่อยใจข้าเห็นก็พาลเหนื่อยใจด้วยแล้ว" คิลล์วางคางลงบนบ่าของเขาแล้วให้อีกฝ่ายใช้มือสางผมของเธอเล่นเหมือนเวลาปกติที่อยู่กันตามประสาครอบครัว "นี่เป็นเมืองของเรา ไม่ใช่เ้จ้าคนเดียวสักหน่อย"
"นั่นสินะ เพราะเราจะมีกันและกันตราบเท่าที่ข้าและเจ้าจะรักกันด้วยใจที่มี"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ