Phantom School
8.8
เขียนโดย Wondergirl
วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18.10 น.
20 บท
2 วิจารณ์
23.72K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
19) ละครโศกนาฏกรรม(แค้น... ระงับแค้น)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เด็กสาวผมดำเป็นลอนกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ เธอเหลือบมองดาบยักษ์ที่เสียบทะลุท้องด้วยสายตาที่เริ่มจะหมดความอดทนเต็มที แต่ด้วยเวทย์ที่ถูกร่ายไว้ทำให้เธอไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากพยายามระงับความเจ็บปวด
"เป็นเด็กดีแล้วส่งแกนวิญญาณสมบูรณ์มาให้ข้าดีกว่านะหลานรัก" แอทาสพูดพรางทำสายตาอ่อนโยนระคนเวทนาอันไร้ซึ่งความจริงใจ สิ่งเดียวที่เขาอยากมอบให้เด็กสาวมีเพียงความแค้นและความตายเท่านั้น "หรือจะให้ข้าค่อยๆทรมานเจ้าแล้วเอามาก็ได้นะ ไม่ว่ากัน" เขายื่นข้อเสนอให้อย่างใจกว้าง แต่ถึงกระนั้นข้อเสนอของเขาก็ยังคงมีแต่เขาเท่านั้นที่ได้ประโยชน์
"อยากได้ก็เอาไปสิ" คิลล์ตอบด้วยน้ำเสียงแหบพร่าอย่างเย็นชาไร้ซึ่งความหวาดหวั่นต่อความตาย เธอไม่คิดว่าความตายเป็นสิ่งน่ากลัวอีกต่อไปเมื่อมันคือสิ่งที่เธอปรารถนาให้มาถึงในสักวันหนึ่งเหมือนดั่งสิ่งมีชีวิตทั่วไป
ถ้าข้าตายไป... บางทีอาจจะดีเสียกว่า จะได้ไม่ต้องทำให้ใครเสียใจอีก
"ให้มันว่าง่ายอย่างนี้สิหลานรัก แล้วต่อไปข้าจะยึดครองโลกแห่งสิ่งมีชีวิตและพาเพื่อนเจ้าไปอยุ่ด้วยกันบน... ไม่สวรรค์ก็นรกที่ไหนสักแห่งนี่แหละ อย่างห่วงเลย" แอทาสพูดอย่างอ่อนโยนก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
"ไม่นะ..." และแล้วหน้ากากอันแสนเย็นชาก็ถึงกับเกิดรอยร้าว คิลล์แสดงความตื่นตระหนกออกมาทางใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด นัยนืตาสีดำสนิทเผยชัดถึงความหวาดผวา กลัวที่จะสูญเสียอะไร... กลัวที่ว่าจะต้องหายไปโดยสูญเปล่า กลัวที่จะไม่สามารถช่วยอะไรได้อีกต่อไป...
เพร้ง! เสียงของบางอย่างแตกดังขึ้นพร้อมกับรอยร้าวกลางอาอากศขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังไม้กางเขน เศษของบางอย่างตกลงบนพื้นจนเผยให้เห็นหมอกที่หมุนวนอยู่ด้านในนั้น
มือขาวซีดข้างหนึ่งยื่นออกมาเกาะที่ขอบกลางอากาศ แล้วหัวที่เต็มไปด้วยผมสีเงินก็ค่อยๆออกมาจากในนั้น เด็กหนุ่มผมเงินพุ่งออกมาจากรอยแยกกลางอากาศนั้นก่อนที่มันจะหายไป เขาออกมายืนขวางระหว่างเด็กสาวกับชายวัยกลางคนคนนั้น นัยน์ตาสีฟ้าครามดั่งสีของน้ำในมหาสุทรกว้างใหญ่แสดงถึงความเย็นชาและแข็งกร้าวกว่าที่เคยมีมาครั้งไหนๆ
"ซีโร่..." คิลล์เรียกขึ้นของเขาด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า น้ำตาที่ไม่ได้ไหลมาเนิ่นนานเอ่อคลออยู่ที่ขอบตาล่างอย่างไร้สาเหตุ "หนี..." เธอเปล่งเสียงพูดออกมาอีกคำ
"ไม่หนีแล้วยัยโง่... หมดเวลาเป็นเจ้าชายอ่อนแอให้ผู้หญิงปกป้องแล้ว" เขาพูดกับเด็กสาวทั้งๆที่หันหลังให้ ไอเย็นแผ่ซ่ายออกมาจากร่างของเขา บนข้อมือมีอัญมณีสีฟ้าเม็ดยักษ์ปรากฏขึ้นพร้อมกับดาบครัสตัลในมือของเขา เขาหันหน้ามาหาเธอเล็กน้อยทำให้เห็นว่ามีรอยร้าวสีดำปรากฏขึ้นพาดผ่านหางตาซ้ายของเด้กหนุ่ม
"ถึงเวลาชดใช้แล้วกระมั้ง?"
โซ่ที่พันธนาการร่างของเด็กสาวเอาไว้ถูกปลดออก ร่างของเธอค่อยๆร่วงลงสู่พื้นอย่างนุ่มนวลราวกับมีอะไรมารองรับได้ ดาบยักษ์ถูกกระชากออกโดยเวทย์มนต์ที่ใช้เรียกอาวุธของแอทาส ถึงกระนั้นปากแผลของเะอก็ไม่มีเลือดไหลออกมาอีกซ้ำยังค่อยๆสมานตัวเองอีกด้วย
ใช้เวทย์ได้แล้ว เธอบอกตัวเองอย่างดีใจ สีหน้าตื่นตระหนกค่อยๆเลือนหายไปและถูกแทนที่ด้วยสีหน้าท่าทางไร้อารมณืเช่นยามปกติ
"ใครโง่กันแน่? ใครขอให้ช่วย?" คิลล์ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"แล้วใครบอกว่าให้ทำตามที่ใจต้องการ?"
"..." ก็ข้าเองนี่หว่า... คิลล์กอดอกแล้วถลึงตาใส่ซีโร่อย่างดุดดัน "มันอันตรายนะเจ้าโง่! แล้วพวกที่หลบอยู่ตามมุมตามซอกเมื่อไหร่จะออกมา ต้องให้ข้าไปลากใช่ไหม?" เธอตวาดอย่างอารมณืเสียแล้วเริ่มแผ่รังสีอำมหิต(?)แข่งกับซีโร่
"เจ้านั่นแหละโง่ ทำอะไรไม่ถึงข้าบ้าง!" ซีโร่ตวาดกลับอย่างอารมณืเสียไปแพ้กันแล้วถลึงตาใส่เด้กสาวอย่างๆไม่ย่อท้อ(?)
คิลล์ชักตากลับแล้วหันไปสบถใส่กำแพงขึ้นตะไคร้อันแสนโชคร้ายอย่างหยาบช้าเคียดแค้นราวกับกำแพงเป็นคนตัดหัวเธอก็มิปาน แต่เธอสบถไปไม่ถึง1นาทีก้ต้องหยุดปากเมื่อรู้สึกได้ถึงเวทย์ด้านลบที่กระจายอยู่รอบๆตัวและกลิ่นเหม็นเน่า "ไอ้นรกรับประทานเศียรเอ้ย" พูดจบเธอก็วาดนิ้วชี้ไปข้างข้าง
พลังเวทย์สีขาวขุ่นแผ่กว้างออกไปเป้นวงรอบตัวเธอราวกับคลผิวน้ำกระเพื่อมำเวลาโยนก้อนหินลงไป ร่างสีดำทะมึนอันเน่าเฟะเหล่านั้นถูกชีกกระชากอย่างเหี้ยมโหดและกลืนหายไปในพลังเวทย์สีขาวที่ค่อยๆกลับสู่ตัวผู้เป็นนาย
"ท่านอา พ่อฝากมาบอกว่าเลิกแล้วต่อกันเถอะุนะ"คิลล์หันไปบอกแอทาสด้วยความอ่อนโยนที่ล้วนแล้วเสแสร้งแสลงทำที่สุดเท่าที่เคยมีมา "แต่แม่ข้าบอกว่าให้ข้าเจี๋ยนท่านเสียเลยเพราะว่าคงไม่มีใครมาแก้แค้นให้ท่านหรอก ตีซะว่าช่วยให้แม่ข้ามีพลังเพิ่มขึ้น5ส่วนแล้วกันนะ" เธอยิ้มหวานหยดใช้ผู้เป็นอาที่ตอนนี้หน้าเครียดคล้ำดำเขียวไปหมดแล้ว
"หึ!" แอทาสส่งเสียงในลำคอแล้วฟันใส่ร่างของเด็กหนุ่มที่ยืนขวางหน้าอยู่ "คิดว่าทำได้ก้เอาสิเข้าพวกเดนเหลือขอ!"
ดื้อด้านงี่เง่า บัดซบ คิลล์สบถในใจแล้วผลักซีโร่ออกหมายจะประทับรอยรองเท้าไว้บนใบหน้าอันหล่อเหลา(น้อยกว่าพ่อ)น่าถีบ(ก็ยังน้อยกว่าพ่อ)นั้นอย่างเต็มรักเต็มบาท แล้วเธอก็ต้องสบถอีกครั้งเมื่อพลาดเป้า เร็วซะจริง นี่จะเร็วเท่าพิกัดความเลวทรามเลยหรือไง? เธอตีลังกาออกห่างแล้วหันไปมองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
"คิลล์ระวังด้านหลัง!"
ซีโร่ร้องเตือนพรางชี้นิ้วไปที่ด้านหลังของเด็กสาว เธอจึงเหลียวหลังไปมอง แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่าและกำแพงผู้น่าสงสาร "ไม่เห็นจะ..."
ฉึก! ดาบใหญ่แทงทะลุอกของเธอ เลือดสดๆสาดกระเซ็นออกมาราวก๊อกแตกและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เด็กสาวเบิกตากว้างพรางเหลือบตามองด้านหลัง สิ่งที่ปรากฏคือผมสีเงินที่ค่อยๆเปลี่ยนไปจนกลายเป็นสีทองและนัยน์ตาสีแดงฉานอันร้ายกาจ
"ก็บอกแล้วว่าอยู่ด้านหลัง" แอทาสใช้เสียงของซีโร่พูดกับเธอพรางถอนหายใจอย่างเซ็ง
"คิลล์!" ซีโร่ซึ่งเพิ่งหลุดจกเขตอาคมกักขังออกมาได้รีบพุ่งเข้ามาหาร่างของเด็กสาวที่ค่อยๆทรุดลงกับพื้น "ไอ้สารเลว!" เขาด่าอีกฝ่ายด้วยอารมณืโกรธแค้ม ดาบคริสตัลในมือวาดออกไปเป็นคลื่นพลังรูปจันทร์เสี้ยว
ร่างชายบหนุ่มของแอทาสเกิดการวูบไหวก่อนจะกลายเป็นสตรีรูปงามผมสีเงินร่างบางอ้อนแอ้น ซึ่งนั่นทำให้เด็กหนุ่มตกใจเหลือเกิน
"ซีโร่ ลูกไม่รักแม่แล้วหรือจ้ะ" เขา(หรือเธอ)คนนั้นใช้น้ำเสียงกังวานดั่งกระดิ่งเงินถามเด็กหนุ่มด้วยความน้อยอกน้อยใจ มือขาวเรียวยื่นออกไปสร้างเกราะน้ำแข็งที่สะท้อนประกายสีดำกันเอาไว่้เบื้องหน้า "ลูกจะฆ่าแม่ลงอีกหรือ?"
"ไม่ใช่แม่!" ซีโร่ตวาดออกไปอย่างสับสนมึนงง ร่างที่แอทาสแปลงขึ้นมีผลกระทบต่อเขามากจริงๆ มากเสียจนเขาเผลอผ่อนพลังที่ใส่ลงไปในดาบจนเหลือเท่าตอนที่เขาอยู่ในร่างมนุษย์ "แม่ตายไปแล้ว!"
"ใช่แล้ว..." หญิงสาวนางนั้นยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวของชายหนุ่มว่า "ก็ข้าเป็นคนฆ่านางกับมือนี่ หึหึหึฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฺ่" พูดจบนางก็วาดมือเรียวออกไป ลิ่มน้ำแข็งสีดำพุ่งเข้าใส่ร่างของเด็กหนุ่มที่แข็งค้างกับเรื่องที่ได้ยินกับหู "และข้าสามารถกลายเป้นคนที่ข้าฆ่าไปล้วได้อย่างสมบูรณ์.." เขาหยุดแล้วส่งยิ้มหวานให้ก่อนที่เส้นผมสีเงินยาวตรงถึงกลางหลังจะกลายเป็นผมลอนสั้นประบ่าสีดำสนิท "จริงๆนะ" เขาพูดต่อด้วยเสียงของคิลล์
"ไม่จริงใช่ไหม?" ซีโร่เอ่ยถามอย่างตกตะลึง ทั้งสีของพลังเวทย์ ทั้งรูปร่างหน้าตา เสียง... เขาตกใจจนลืมก้าวหลบลิ่มน้ำแข็งพวกนั้น
"ไม่อยากจะบอกแต่เป็นความจริงทุกอย่าง" คิลล์ตะกายลุกขึ้นมาจากพื้นแล้วพุ่งเข้าไปผลักเด็หนุ่มออก เธอยื่นฝ่ามือข้างหนึ่งออกไปด้านหน้า ปรากฏโล่เพลิงสีฟ้าขึ้นสะกัดกั้นลิ่มน้ำแข็งเอาไว้ "พ่อข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่า? หรือว่าบอกไม่หมด?" เธอถามพรางหยิกแก้มขาวๆของซีโร่เล่นอย่างสนุกมือ "ไม่ต้องตกใจถ้าหมอนั่นแปลงกายเป็นคนอื่นที่ยังมีชีวิตอยุ่เพราะเหมือนแต่รูปร่างเท่านั้นแหละ หมอนั่นมีวิญญาณมืดพิสุทธิ์เพียงครึ่งเดียวอีกครึ่งเป็นความว่างเปล่า"
"เจ้ารู้ได้อย่างไร!?" แอทาสยังคงใช้เสียงของคิลล์ถามเธออยุ่เช่นนั้น
"เพราะแกมันอ่อนเกินกว่าจะรู้ว่าการเลียนแบบข้ามันมีข้อจำกัดขนาดไหนไงหละ" คิลล์ตอบอย่างหงุดหงิดแล้วสลายโล่เพลิงทิ้ง เธอพุ่งเข้าไปหาตัวเธออีกคนหนึ่งด้วยมือ2ข้างที่ว่างเปล่า
แอทาสกางกรงเล็บสีเงินแล้วทำเป็นรูปกรวยหมายจะทะลวงวิญญาณของเด็กสาวให้แหลกไม่เหลือชิ้นดี "อยากตายก็ไม่บอก"
"อ้อ จริงสิ?" คิลล์ถามด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาทก่อนจะยื่นมือซ้ายออกไปทาบลงบนหน้าข้องอีกฝ่าย ส่วนตัวเองก็ใช้หน้าของเจ้าของเลียนแบบนั่นเป็นแทนกระโดดแล้วตีลังกาอย่างงดงาม
เล็บมือสั้นกุดของเธอยาวออกมาและกลายเป็นสีเงิน เธอกระซวกแทงเข้าที่หน้าอกของอีกฝ่ายแล้วควักหัวใจออกมา
ก้อนเนื้อสีแดงสดเต้นกระตุกเบาๆอยู่บนฝ่ามือของเธอ เด็กสาวยิ้มเหี้ยมก่อนจะบีบมันจนแหลกคามือ ฝ่ามือสีขาวซีดของเธอถูกอาบย้อมด้วยเลือดจนกลายเป้นสีแดงฉาน
"ข้าเชื่อได้ไหมว่าเจ้าคือตัวจริง?" ซีโร่ถามพรางเขี่ยร่างของเด็กสาวแน่นนิ่งบนพื้น
"แน่นอนไอ้สิ่งมีชีวิตขี้อายที่รักของข้า" คิลล์ยิ้มอ่อนโยนให้เขาแล้วเดินเข้าไปสวมกอดอย่างอ่อนโยน มือข้างหนึ่งโอบท้ายทอยของซีโร่เอาไว้ ส่วนอีกมือก็รัดเอวของเขาเอไว้ให้แนบชิดร่างบางของตน
ร่างของพวกเขาทั้งสองแนบชิดกันจนแผ่นอกของเ้ด็กหนุ่มถูกกอดรัดชิดเนินอกอวบของเด็กสาว เธอโน้นคอเด็กหนุ่มลงแล้วจุมพิตที่ริมฝีปากอันเย้ายัวของเขา ซึ่งนั้นควรจะทำให้เขารู้สึกเขินอายอย่างยิ่งแต่ก็ไม่... เขากลับหลับตาลงด้วยสีหน้าเรียบเฉย ริมฝีปากเม้มแน่นเป้นเส้นตรง
"ขอโทษนะ..." คิลล์ถอนจูบออกแล้วเอ่ยเบาๆ กรงเล็บสีเงินเงื้อขึ้นหมายจะกระชากคอหอยของเด็กหนุ่ม
"ไม่ยกโทษให้!" ซีโร่ส่งยิ้มหวานให้ในขณะที่เด็กสาวกลับเบิกตากว้างอย่างเจ็บปวด เขาปล่อยร่างของเธอให้ร่วงลงกับพื้นด้วยท่าทางขยะแขยงและเย็นชา เขามองซากเดนตายบนพื้นที่ชักหระตุกไม่หยุดและมีรูโบ๋อยู่กลางอกนั้น "กล้ามากเอาแม่ข้ามาล้อเล่นไม่พอยังจะเอาผู้หญิงของข้ามาล้อเล่นด้วย อย่าได้ไปเกิดเลย!"
"เก่งจริงที่ดูออกว่าข้ากับเจ้านั่นโดนสลับตัวกัน"แล้วข้าก็โดนผนึกเอาไว้อยากแน่นหนาตรงนี้ให้ตายสิ ร่างของคิลล์ค่อยๆปรากฏชัดขึ้นที่ตำแหน่งพื้นที่เดิมทีควรมีศพของแอทาส(ที่ถูกฆ่าครั้งแรก)กองอยู่ "จูบกันซะหวานแหววจริงๆ ข้าหละสงสัยจังว่าถ้าเจ้ายังเป็นเจ้าเด็กละอ่อนอยู่มันจะเลยเถิดไปถึงไหน สงสัยจะโดนไอ้แก่นั้นพรากความบริสุทธิ์ไปแหง" เธอพูดประชดประชันอย่างแง่งอน
"ก็เจ้าไม่มีทางเดินมากอดรัดฟัดข้าหรือจูบข้าแน่ๆหละ... อุ๊บ!"
เด็กสาวดึงใบหน้าหล่อคมคายของเด็กหนุ่มมาแนบชิดแล้วจุมพิตเขาอย่างอ่อนโยน
ซีโร่ค่อยๆปรือตาลงอย่างลืมตัวแล้วโอบกอดร่างบางเอาไว้อย่างลืมตัวเช่นเคย... หรือว่าตั่งใจกันแ่น่นะ?
"ทีนี้ใครฉวยโอกาสกันแน่หละคราวนี้?" คิลล์ถอนจูบแสนหวานแล้วผลักแผ่นอกของคนตัวสูงออกให้ห่างจากตัว เด็กสาวกอดอกแล้วมองเด็กหนุ่มหัวหงอกอย่างเคืองนิดๆ บังอาจมากมาหาว่าข้าไม่อ่อนโยนอ่อนหวาน เดี๋ยวก็ให้ใช้ชีวิตอย่างไม่มีทายาทเสียเลย!
"ไหนใคร? ข้าปล๊าวววว" ซีโร่หันซ้ายหันขวาทำท่าเหมือนคนไม่รู้ไม่ชี้แล้วปัดมือไปมาอย่างปฏิเสธสุดชีวิต
"เปล่าหรือ?" คิลล์เดินเข้าไปใกล้ๆทีละก้าว... ทีละก้าว "กลับโลกเดิมกันเถอะ เจ้าบ้า"
"เดี๋ยว" ซีโร่คว้าข้อมือของเด็กสาวไว้
"อะไรอีก"
"อย่าหนีไปจากข้าอีกนะ..."
"ข้าสัญญา... " คิลล์หันไปยิ้มให้เขาแล้วโน้มหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูเขาว่า "ด้วยชีวิตตราบเท่าที่ข้าและเจ้าจะรักกันด้วยใจที่มี"
เด็กหนุ่มหน้าแดงสุกทันที เขาพยักหน้ารับช้าๆอย่างประหม่าเขินอายก่อนจะยอมเดินตามเด้กสาวเข้าไปในประตูมิติอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่ยอมใให้เธอเดินตามหลังแน่เพราะเดี๋ยวถ้าเกิดเจ้าตัวอยุ่ที่นี่ขึ้นมาเขาคงจะโกรธจนแช่แข็งอาณาจักรของตัวเองแน่ (คงจะอย่างนั้นถ้าเขามีเวลาให้ทำ)
***จบจ้า***
"เป็นเด็กดีแล้วส่งแกนวิญญาณสมบูรณ์มาให้ข้าดีกว่านะหลานรัก" แอทาสพูดพรางทำสายตาอ่อนโยนระคนเวทนาอันไร้ซึ่งความจริงใจ สิ่งเดียวที่เขาอยากมอบให้เด็กสาวมีเพียงความแค้นและความตายเท่านั้น "หรือจะให้ข้าค่อยๆทรมานเจ้าแล้วเอามาก็ได้นะ ไม่ว่ากัน" เขายื่นข้อเสนอให้อย่างใจกว้าง แต่ถึงกระนั้นข้อเสนอของเขาก็ยังคงมีแต่เขาเท่านั้นที่ได้ประโยชน์
"อยากได้ก็เอาไปสิ" คิลล์ตอบด้วยน้ำเสียงแหบพร่าอย่างเย็นชาไร้ซึ่งความหวาดหวั่นต่อความตาย เธอไม่คิดว่าความตายเป็นสิ่งน่ากลัวอีกต่อไปเมื่อมันคือสิ่งที่เธอปรารถนาให้มาถึงในสักวันหนึ่งเหมือนดั่งสิ่งมีชีวิตทั่วไป
ถ้าข้าตายไป... บางทีอาจจะดีเสียกว่า จะได้ไม่ต้องทำให้ใครเสียใจอีก
"ให้มันว่าง่ายอย่างนี้สิหลานรัก แล้วต่อไปข้าจะยึดครองโลกแห่งสิ่งมีชีวิตและพาเพื่อนเจ้าไปอยุ่ด้วยกันบน... ไม่สวรรค์ก็นรกที่ไหนสักแห่งนี่แหละ อย่างห่วงเลย" แอทาสพูดอย่างอ่อนโยนก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
"ไม่นะ..." และแล้วหน้ากากอันแสนเย็นชาก็ถึงกับเกิดรอยร้าว คิลล์แสดงความตื่นตระหนกออกมาทางใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด นัยนืตาสีดำสนิทเผยชัดถึงความหวาดผวา กลัวที่จะสูญเสียอะไร... กลัวที่ว่าจะต้องหายไปโดยสูญเปล่า กลัวที่จะไม่สามารถช่วยอะไรได้อีกต่อไป...
เพร้ง! เสียงของบางอย่างแตกดังขึ้นพร้อมกับรอยร้าวกลางอาอากศขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังไม้กางเขน เศษของบางอย่างตกลงบนพื้นจนเผยให้เห็นหมอกที่หมุนวนอยู่ด้านในนั้น
มือขาวซีดข้างหนึ่งยื่นออกมาเกาะที่ขอบกลางอากาศ แล้วหัวที่เต็มไปด้วยผมสีเงินก็ค่อยๆออกมาจากในนั้น เด็กหนุ่มผมเงินพุ่งออกมาจากรอยแยกกลางอากาศนั้นก่อนที่มันจะหายไป เขาออกมายืนขวางระหว่างเด็กสาวกับชายวัยกลางคนคนนั้น นัยน์ตาสีฟ้าครามดั่งสีของน้ำในมหาสุทรกว้างใหญ่แสดงถึงความเย็นชาและแข็งกร้าวกว่าที่เคยมีมาครั้งไหนๆ
"ซีโร่..." คิลล์เรียกขึ้นของเขาด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า น้ำตาที่ไม่ได้ไหลมาเนิ่นนานเอ่อคลออยู่ที่ขอบตาล่างอย่างไร้สาเหตุ "หนี..." เธอเปล่งเสียงพูดออกมาอีกคำ
"ไม่หนีแล้วยัยโง่... หมดเวลาเป็นเจ้าชายอ่อนแอให้ผู้หญิงปกป้องแล้ว" เขาพูดกับเด็กสาวทั้งๆที่หันหลังให้ ไอเย็นแผ่ซ่ายออกมาจากร่างของเขา บนข้อมือมีอัญมณีสีฟ้าเม็ดยักษ์ปรากฏขึ้นพร้อมกับดาบครัสตัลในมือของเขา เขาหันหน้ามาหาเธอเล็กน้อยทำให้เห็นว่ามีรอยร้าวสีดำปรากฏขึ้นพาดผ่านหางตาซ้ายของเด้กหนุ่ม
"ถึงเวลาชดใช้แล้วกระมั้ง?"
โซ่ที่พันธนาการร่างของเด็กสาวเอาไว้ถูกปลดออก ร่างของเธอค่อยๆร่วงลงสู่พื้นอย่างนุ่มนวลราวกับมีอะไรมารองรับได้ ดาบยักษ์ถูกกระชากออกโดยเวทย์มนต์ที่ใช้เรียกอาวุธของแอทาส ถึงกระนั้นปากแผลของเะอก็ไม่มีเลือดไหลออกมาอีกซ้ำยังค่อยๆสมานตัวเองอีกด้วย
ใช้เวทย์ได้แล้ว เธอบอกตัวเองอย่างดีใจ สีหน้าตื่นตระหนกค่อยๆเลือนหายไปและถูกแทนที่ด้วยสีหน้าท่าทางไร้อารมณืเช่นยามปกติ
"ใครโง่กันแน่? ใครขอให้ช่วย?" คิลล์ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"แล้วใครบอกว่าให้ทำตามที่ใจต้องการ?"
"..." ก็ข้าเองนี่หว่า... คิลล์กอดอกแล้วถลึงตาใส่ซีโร่อย่างดุดดัน "มันอันตรายนะเจ้าโง่! แล้วพวกที่หลบอยู่ตามมุมตามซอกเมื่อไหร่จะออกมา ต้องให้ข้าไปลากใช่ไหม?" เธอตวาดอย่างอารมณืเสียแล้วเริ่มแผ่รังสีอำมหิต(?)แข่งกับซีโร่
"เจ้านั่นแหละโง่ ทำอะไรไม่ถึงข้าบ้าง!" ซีโร่ตวาดกลับอย่างอารมณืเสียไปแพ้กันแล้วถลึงตาใส่เด้กสาวอย่างๆไม่ย่อท้อ(?)
คิลล์ชักตากลับแล้วหันไปสบถใส่กำแพงขึ้นตะไคร้อันแสนโชคร้ายอย่างหยาบช้าเคียดแค้นราวกับกำแพงเป็นคนตัดหัวเธอก็มิปาน แต่เธอสบถไปไม่ถึง1นาทีก้ต้องหยุดปากเมื่อรู้สึกได้ถึงเวทย์ด้านลบที่กระจายอยู่รอบๆตัวและกลิ่นเหม็นเน่า "ไอ้นรกรับประทานเศียรเอ้ย" พูดจบเธอก็วาดนิ้วชี้ไปข้างข้าง
พลังเวทย์สีขาวขุ่นแผ่กว้างออกไปเป้นวงรอบตัวเธอราวกับคลผิวน้ำกระเพื่อมำเวลาโยนก้อนหินลงไป ร่างสีดำทะมึนอันเน่าเฟะเหล่านั้นถูกชีกกระชากอย่างเหี้ยมโหดและกลืนหายไปในพลังเวทย์สีขาวที่ค่อยๆกลับสู่ตัวผู้เป็นนาย
"ท่านอา พ่อฝากมาบอกว่าเลิกแล้วต่อกันเถอะุนะ"คิลล์หันไปบอกแอทาสด้วยความอ่อนโยนที่ล้วนแล้วเสแสร้งแสลงทำที่สุดเท่าที่เคยมีมา "แต่แม่ข้าบอกว่าให้ข้าเจี๋ยนท่านเสียเลยเพราะว่าคงไม่มีใครมาแก้แค้นให้ท่านหรอก ตีซะว่าช่วยให้แม่ข้ามีพลังเพิ่มขึ้น5ส่วนแล้วกันนะ" เธอยิ้มหวานหยดใช้ผู้เป็นอาที่ตอนนี้หน้าเครียดคล้ำดำเขียวไปหมดแล้ว
"หึ!" แอทาสส่งเสียงในลำคอแล้วฟันใส่ร่างของเด็กหนุ่มที่ยืนขวางหน้าอยู่ "คิดว่าทำได้ก้เอาสิเข้าพวกเดนเหลือขอ!"
ดื้อด้านงี่เง่า บัดซบ คิลล์สบถในใจแล้วผลักซีโร่ออกหมายจะประทับรอยรองเท้าไว้บนใบหน้าอันหล่อเหลา(น้อยกว่าพ่อ)น่าถีบ(ก็ยังน้อยกว่าพ่อ)นั้นอย่างเต็มรักเต็มบาท แล้วเธอก็ต้องสบถอีกครั้งเมื่อพลาดเป้า เร็วซะจริง นี่จะเร็วเท่าพิกัดความเลวทรามเลยหรือไง? เธอตีลังกาออกห่างแล้วหันไปมองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
"คิลล์ระวังด้านหลัง!"
ซีโร่ร้องเตือนพรางชี้นิ้วไปที่ด้านหลังของเด็กสาว เธอจึงเหลียวหลังไปมอง แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่าและกำแพงผู้น่าสงสาร "ไม่เห็นจะ..."
ฉึก! ดาบใหญ่แทงทะลุอกของเธอ เลือดสดๆสาดกระเซ็นออกมาราวก๊อกแตกและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เด็กสาวเบิกตากว้างพรางเหลือบตามองด้านหลัง สิ่งที่ปรากฏคือผมสีเงินที่ค่อยๆเปลี่ยนไปจนกลายเป็นสีทองและนัยน์ตาสีแดงฉานอันร้ายกาจ
"ก็บอกแล้วว่าอยู่ด้านหลัง" แอทาสใช้เสียงของซีโร่พูดกับเธอพรางถอนหายใจอย่างเซ็ง
"คิลล์!" ซีโร่ซึ่งเพิ่งหลุดจกเขตอาคมกักขังออกมาได้รีบพุ่งเข้ามาหาร่างของเด็กสาวที่ค่อยๆทรุดลงกับพื้น "ไอ้สารเลว!" เขาด่าอีกฝ่ายด้วยอารมณืโกรธแค้ม ดาบคริสตัลในมือวาดออกไปเป็นคลื่นพลังรูปจันทร์เสี้ยว
ร่างชายบหนุ่มของแอทาสเกิดการวูบไหวก่อนจะกลายเป็นสตรีรูปงามผมสีเงินร่างบางอ้อนแอ้น ซึ่งนั่นทำให้เด็กหนุ่มตกใจเหลือเกิน
"ซีโร่ ลูกไม่รักแม่แล้วหรือจ้ะ" เขา(หรือเธอ)คนนั้นใช้น้ำเสียงกังวานดั่งกระดิ่งเงินถามเด็กหนุ่มด้วยความน้อยอกน้อยใจ มือขาวเรียวยื่นออกไปสร้างเกราะน้ำแข็งที่สะท้อนประกายสีดำกันเอาไว่้เบื้องหน้า "ลูกจะฆ่าแม่ลงอีกหรือ?"
"ไม่ใช่แม่!" ซีโร่ตวาดออกไปอย่างสับสนมึนงง ร่างที่แอทาสแปลงขึ้นมีผลกระทบต่อเขามากจริงๆ มากเสียจนเขาเผลอผ่อนพลังที่ใส่ลงไปในดาบจนเหลือเท่าตอนที่เขาอยู่ในร่างมนุษย์ "แม่ตายไปแล้ว!"
"ใช่แล้ว..." หญิงสาวนางนั้นยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวของชายหนุ่มว่า "ก็ข้าเป็นคนฆ่านางกับมือนี่ หึหึหึฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฺ่" พูดจบนางก็วาดมือเรียวออกไป ลิ่มน้ำแข็งสีดำพุ่งเข้าใส่ร่างของเด็กหนุ่มที่แข็งค้างกับเรื่องที่ได้ยินกับหู "และข้าสามารถกลายเป้นคนที่ข้าฆ่าไปล้วได้อย่างสมบูรณ์.." เขาหยุดแล้วส่งยิ้มหวานให้ก่อนที่เส้นผมสีเงินยาวตรงถึงกลางหลังจะกลายเป็นผมลอนสั้นประบ่าสีดำสนิท "จริงๆนะ" เขาพูดต่อด้วยเสียงของคิลล์
"ไม่จริงใช่ไหม?" ซีโร่เอ่ยถามอย่างตกตะลึง ทั้งสีของพลังเวทย์ ทั้งรูปร่างหน้าตา เสียง... เขาตกใจจนลืมก้าวหลบลิ่มน้ำแข็งพวกนั้น
"ไม่อยากจะบอกแต่เป็นความจริงทุกอย่าง" คิลล์ตะกายลุกขึ้นมาจากพื้นแล้วพุ่งเข้าไปผลักเด็หนุ่มออก เธอยื่นฝ่ามือข้างหนึ่งออกไปด้านหน้า ปรากฏโล่เพลิงสีฟ้าขึ้นสะกัดกั้นลิ่มน้ำแข็งเอาไว้ "พ่อข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่า? หรือว่าบอกไม่หมด?" เธอถามพรางหยิกแก้มขาวๆของซีโร่เล่นอย่างสนุกมือ "ไม่ต้องตกใจถ้าหมอนั่นแปลงกายเป็นคนอื่นที่ยังมีชีวิตอยุ่เพราะเหมือนแต่รูปร่างเท่านั้นแหละ หมอนั่นมีวิญญาณมืดพิสุทธิ์เพียงครึ่งเดียวอีกครึ่งเป็นความว่างเปล่า"
"เจ้ารู้ได้อย่างไร!?" แอทาสยังคงใช้เสียงของคิลล์ถามเธออยุ่เช่นนั้น
"เพราะแกมันอ่อนเกินกว่าจะรู้ว่าการเลียนแบบข้ามันมีข้อจำกัดขนาดไหนไงหละ" คิลล์ตอบอย่างหงุดหงิดแล้วสลายโล่เพลิงทิ้ง เธอพุ่งเข้าไปหาตัวเธออีกคนหนึ่งด้วยมือ2ข้างที่ว่างเปล่า
แอทาสกางกรงเล็บสีเงินแล้วทำเป็นรูปกรวยหมายจะทะลวงวิญญาณของเด็กสาวให้แหลกไม่เหลือชิ้นดี "อยากตายก็ไม่บอก"
"อ้อ จริงสิ?" คิลล์ถามด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาทก่อนจะยื่นมือซ้ายออกไปทาบลงบนหน้าข้องอีกฝ่าย ส่วนตัวเองก็ใช้หน้าของเจ้าของเลียนแบบนั่นเป็นแทนกระโดดแล้วตีลังกาอย่างงดงาม
เล็บมือสั้นกุดของเธอยาวออกมาและกลายเป็นสีเงิน เธอกระซวกแทงเข้าที่หน้าอกของอีกฝ่ายแล้วควักหัวใจออกมา
ก้อนเนื้อสีแดงสดเต้นกระตุกเบาๆอยู่บนฝ่ามือของเธอ เด็กสาวยิ้มเหี้ยมก่อนจะบีบมันจนแหลกคามือ ฝ่ามือสีขาวซีดของเธอถูกอาบย้อมด้วยเลือดจนกลายเป้นสีแดงฉาน
"ข้าเชื่อได้ไหมว่าเจ้าคือตัวจริง?" ซีโร่ถามพรางเขี่ยร่างของเด็กสาวแน่นนิ่งบนพื้น
"แน่นอนไอ้สิ่งมีชีวิตขี้อายที่รักของข้า" คิลล์ยิ้มอ่อนโยนให้เขาแล้วเดินเข้าไปสวมกอดอย่างอ่อนโยน มือข้างหนึ่งโอบท้ายทอยของซีโร่เอาไว้ ส่วนอีกมือก็รัดเอวของเขาเอไว้ให้แนบชิดร่างบางของตน
ร่างของพวกเขาทั้งสองแนบชิดกันจนแผ่นอกของเ้ด็กหนุ่มถูกกอดรัดชิดเนินอกอวบของเด็กสาว เธอโน้นคอเด็กหนุ่มลงแล้วจุมพิตที่ริมฝีปากอันเย้ายัวของเขา ซึ่งนั้นควรจะทำให้เขารู้สึกเขินอายอย่างยิ่งแต่ก็ไม่... เขากลับหลับตาลงด้วยสีหน้าเรียบเฉย ริมฝีปากเม้มแน่นเป้นเส้นตรง
"ขอโทษนะ..." คิลล์ถอนจูบออกแล้วเอ่ยเบาๆ กรงเล็บสีเงินเงื้อขึ้นหมายจะกระชากคอหอยของเด็กหนุ่ม
"ไม่ยกโทษให้!" ซีโร่ส่งยิ้มหวานให้ในขณะที่เด็กสาวกลับเบิกตากว้างอย่างเจ็บปวด เขาปล่อยร่างของเธอให้ร่วงลงกับพื้นด้วยท่าทางขยะแขยงและเย็นชา เขามองซากเดนตายบนพื้นที่ชักหระตุกไม่หยุดและมีรูโบ๋อยู่กลางอกนั้น "กล้ามากเอาแม่ข้ามาล้อเล่นไม่พอยังจะเอาผู้หญิงของข้ามาล้อเล่นด้วย อย่าได้ไปเกิดเลย!"
"เก่งจริงที่ดูออกว่าข้ากับเจ้านั่นโดนสลับตัวกัน"แล้วข้าก็โดนผนึกเอาไว้อยากแน่นหนาตรงนี้ให้ตายสิ ร่างของคิลล์ค่อยๆปรากฏชัดขึ้นที่ตำแหน่งพื้นที่เดิมทีควรมีศพของแอทาส(ที่ถูกฆ่าครั้งแรก)กองอยู่ "จูบกันซะหวานแหววจริงๆ ข้าหละสงสัยจังว่าถ้าเจ้ายังเป็นเจ้าเด็กละอ่อนอยู่มันจะเลยเถิดไปถึงไหน สงสัยจะโดนไอ้แก่นั้นพรากความบริสุทธิ์ไปแหง" เธอพูดประชดประชันอย่างแง่งอน
"ก็เจ้าไม่มีทางเดินมากอดรัดฟัดข้าหรือจูบข้าแน่ๆหละ... อุ๊บ!"
เด็กสาวดึงใบหน้าหล่อคมคายของเด็กหนุ่มมาแนบชิดแล้วจุมพิตเขาอย่างอ่อนโยน
ซีโร่ค่อยๆปรือตาลงอย่างลืมตัวแล้วโอบกอดร่างบางเอาไว้อย่างลืมตัวเช่นเคย... หรือว่าตั่งใจกันแ่น่นะ?
"ทีนี้ใครฉวยโอกาสกันแน่หละคราวนี้?" คิลล์ถอนจูบแสนหวานแล้วผลักแผ่นอกของคนตัวสูงออกให้ห่างจากตัว เด็กสาวกอดอกแล้วมองเด็กหนุ่มหัวหงอกอย่างเคืองนิดๆ บังอาจมากมาหาว่าข้าไม่อ่อนโยนอ่อนหวาน เดี๋ยวก็ให้ใช้ชีวิตอย่างไม่มีทายาทเสียเลย!
"ไหนใคร? ข้าปล๊าวววว" ซีโร่หันซ้ายหันขวาทำท่าเหมือนคนไม่รู้ไม่ชี้แล้วปัดมือไปมาอย่างปฏิเสธสุดชีวิต
"เปล่าหรือ?" คิลล์เดินเข้าไปใกล้ๆทีละก้าว... ทีละก้าว "กลับโลกเดิมกันเถอะ เจ้าบ้า"
"เดี๋ยว" ซีโร่คว้าข้อมือของเด็กสาวไว้
"อะไรอีก"
"อย่าหนีไปจากข้าอีกนะ..."
"ข้าสัญญา... " คิลล์หันไปยิ้มให้เขาแล้วโน้มหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูเขาว่า "ด้วยชีวิตตราบเท่าที่ข้าและเจ้าจะรักกันด้วยใจที่มี"
เด็กหนุ่มหน้าแดงสุกทันที เขาพยักหน้ารับช้าๆอย่างประหม่าเขินอายก่อนจะยอมเดินตามเด้กสาวเข้าไปในประตูมิติอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่ยอมใให้เธอเดินตามหลังแน่เพราะเดี๋ยวถ้าเกิดเจ้าตัวอยุ่ที่นี่ขึ้นมาเขาคงจะโกรธจนแช่แข็งอาณาจักรของตัวเองแน่ (คงจะอย่างนั้นถ้าเขามีเวลาให้ทำ)
***จบจ้า***
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ