THE SUN เพราะว่ารัก กูถึงต้องร้าย!!! (Yaoi'Boys love )
เขียนโดย Musun
วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.55 น.
แก้ไขเมื่อ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 14.25 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) THE SUN : 6
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
THE SUN : 6
"ตื่นๆโว้ยยยยยยยยย!!! ไอ้ซันตื่นสิโว้ยยยย!!! ตื่นๆๆๆๆ!"
"โว้ยยย!! แหกปากทำไมแต่เช้าห้ะไอ้เตี้ย!!"
"ไม่ต้องมาขึ้นเสียงใส่กู กูจะไปเรียนแล้วไปส่งกูที่บ้านได้แล้ว กูจะไปเอาเสื้อผ้า!!"
" ปลุกกูเพราะเรื่องแค่นี้นะน่ะ"
"เออ!!!"
" เสื้อผ้ากับอุปกรณ์การเรียนอยู่ในกระเป๋านั้นไปรื้อหาเองไป คนจะหลับจะนอน"
ร่างสูงบ่นพูดอย่าหัวเสียก่อนจะนอนลงเหมือนเดิม ส่วนซอลก็เดินไปยังกระเป๋าใบที่ซันชี้ไปเมื่อครู่ก่อนจะลงมือรื้อๆค้นๆ แล้วก็ต้องอึ้งเพราะในกระเป๋าใบนี้เต็มใบด้วยข้าวของต่างๆของซอล ร่างโปร่งนึกสงสัยว่าทำไมของของตนถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ แต่ก็ต้องละความสนใจไปเมื่อได้ชุดนักเรียนตามที่ต้องการ ร่างโปร่งเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวไปเรียน
วันนี้ซอลตื่นเช้ากว่าทุกวันเพราะคิดว่าตนต้องกลับไปที่บ้านเพื่อไปเอาชุดนักเรียนกับอุปกรณ์การเรียนแต่ไม่รู้จะไปยังไงเลยทำใจกล้าตะโกนปลุกซันเพื่อให้พาตนกลับบ้าน เลยได้ฉะกันรอบเช้าไปหนึ่งยกก่อนที่ร่างสูงจะล้มตัวนอนต่อ ซอลคิดว่าพอเตรียมตัวเสร็จทุกอย่างแล้วค่อยจะไปปลุกซันให้ไปส่งตนเพราะตนไม่มีเงินและไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ส่วนไหนของกรุงเทพ ร่างโปร่งใช้เวลาไม่นานในการเตรียมตัวและตอนนี้ซอลก็อยู่ในชุดนักเรียนเสื้อขาวกางเกงดำเรียบร้อยแล้ว
"พึ่งจะหกโมงครึ่งเองหาไรกินก่อนดีกว่ากู" พอหันไปมองนาฬิกาแล้วเห็นว่ายังไม่สายซอลจึงตัดสินใจว่าจะหาอะไรกินรองท้องก่อน เพราะเมื่อคืนมัวแต่ทะเลาะกันซันจนไม่ได้กินข้าวเย็น ซอลเดินเข้าไปรื้อๆค้นๆในครัวจนเจอไข่สองฟองร่างโปร่งเลยลงมือเจียวไข่ทานเป็นอาหารเช้า กะว่าทานเสร็จค่อยจะไปปลุกซัน
"ทำไรวะ" เสียงของคนที่คิดว่ากำลังหลับอยู่ในห้องนอนทำให้ซอลชะงักมือที่กำลังตักไข่เจียวสีเหลืองน่าทานใส่จานก่อนจะหันไปมองทางด้านประตูครัวก็แทบหลุดขำกับสภาพของซัน ที่สวมเพียงเสื้อกล้ามย้วยๆกับบล็อกเซอร์ยุ้ยๆแถมหัวยังฟูชี้โด่ไม่เป็นทรงอีกต่างหาก
"ซักผ้าอยู่มั้ง" ซอลตอบกวนๆก่อนจะนั้งลงกินข้าวที่โต๊ะทานข้าวในครัว
"กวนตีนกูเดี๋ยวไม่ได้ไปเรียนหรอกมึง" ซันพูดก่อนจะเดินมานั่งบนเก้าอี้ข้างๆซอล แล้วใช้ช้อนตักข้าวในจานของซอลกินหน้าตาเฉย
" เอะอะขู่เอะอะขู่ มึงเป็นงูจงอางหรือไงขู่เก่งจริง แล้วจะมาแย่งกูทำไมเนี่ย!!" ซอลพูดบ่นก่อนจะแย่งช้อนในมือซันกลับมากินข้าวต่อ
"ก็กูหิว และนี้ห้องกู" ร่างสูงพูดหน้าตายก่อนจะแย่งช้อนในมือช้อนมาตักข้าวเข้าปากอีก จึงกลายเป็นว่าตอนนี้ซันกับซอลกำลังนั่งตบตีแย่งข้าวกันกินอยู่ในครัวอย่างเอาเป็นเอาตาย ตราบจนของกินหมดนั้นแหละทั้งคู่ถึงได้เลิก
"อิ่มวะ " ซันพูดก่อนจะเดินผิวปากสบายใจเข้าไปล้างหน้าแปลงฟันเพราะต้องไปส่งซอลที่โรงเรียน
"ไม่อิ่มก็ควายแล้วสัส แม่งแย่งกูกินจนหมดเลยไอ้เหี้ย" ซอลได้แต่บ่นกระปอดกระแปดไปตามเรื่องตามราวก่อนจะเดินไปใส่ถุงเท้าและเตรียมตัวออกไปเรียน
.
.
.
.
"เลิกกี่โมง" เสียงเข้มถามขึ้นหลังจากจอดรถที่หน้าโรงเรียนของร่างโปร่งที่นั่งอยู่ข้างกันซอลชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูลงไปหันมาตอบร่างสูง
"บ่าย3ครึ่งแต่กูซ้อมบาสถึงหกโมงเย็น" ซอลตอบไปตามตรง
"ตัวยังกับลูกกรอกเสือกเล่นบาสนะมึงไม่เจี้ยมสังขาร" ซันว่าพร้อมกับมองซันด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ
" ลูกกรอกบ้านมึงสิ กูเล่นของกูมานานแล้วสัส" ซอลว่ากลับด้วยสีหน้าที่เริ่มบึ้งนิดๆแล้วหันออกไปนอกรถ
"เออๆพูดแค่นี้เองมาทำหน้าบึ้งใส่นะมึง หันมานี้เร็วกูจะไปแล้ว" ร่างสูงพูดพร้อมกับมือหนาเอื้อมมารั้งใบหน้าของซอลให้หันมามองตน
"อะ อื้ออออ" เสียงที่กำลังจะพูดหายเข้าไปในลำคอ เมื่อร่างสูงโน้มหน้าลงมาประกบปากกับร่างบางอย่างแผ่วเบาก่อนที่ลิ้นหน้าจะสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากนุ่มแล้วเกี่ยวพันกันลิ้นเล็ก ซอลครางแผ่วในลำคอพร้อมกับดูดดุนลิ้นหนาตอบเช่นเดียวกัน ลิ้นหนาของซันกวาดสำรวจไปทั่วโพรงปากนุ่มเก็บกวาดความหวานหอมจนเจ้าของปากอ่อนปวกเปียกแทบไม่มีแรงพยุงตัวจนต้องใช้แขนเรียวโอบกอดรอบคอแกร่งเอาไว้
"พะ พอแล้ว "ซอลร้องห้ามเมื่อรู้สึกว่ามือหนากำลังมาป้วนเปี้ยนแถวหน้าอกตนและถ้าปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ได้ไปเรียนแน่ๆ
"เฮ้อ ไปเรียนไปเดี๋ยวเย็นนี้มารับ" ร่างสูงพูดบอกพร้อมกับพยายามเก็บกลั้นไว้เพราะร่างโปร่งตรงหน้าต้องไปเรียน ซอลพยักหน้ารับก่อนจะรีบเปิดประตูลงจากรถ ซันได้แต่ถอนหายใจหักๆแล้วเหยียบคันเร่งออกไปอย่างรวดเร็ว
.
.
.
.
"เห้ยๆพวกมึงรีบกลับบ้านไปขนของขึ้นดอยเร็วเข้า" เสียงแรก
"ทำไมวะครับ" เสียงที่สอง
"มึงดูๆไอ้คุณชายซอลมาเรียนก่อนแปดโมง น้ำจะท่วมกรุงเทพอีกรอบแน่ๆ ไปๆแยกย้ายกับบ้านเก็บของเร็ว " แล้วกลุ่มเด็กผู้ชายกลุ่มใหญ่ก็ทำท่าว่าจะลุกกลับบ้านไปเก็บของจริงๆ
" ฟวยยยยยยยยยยย!!! "
"กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก!!!"
ซอลได้แต่ทำหน้าเหวี่ยงๆมองเพื่อนตัวเองเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มันเนื้องมาจากว่า ซอลที่ไม่เคยมาโรงเรียนทันเคารพธงชาตินั้นบัดนี้มาถึงโรงเรียนในเวลา7โมงครึ่งจึงทำให้เพื่อนๆของร่างโปร่งแปลกใจเป็นอย่างมากจนต้องเอ่ยปากแซว แล้วก็ต้องขำก๊ากเพราะปฏิกิริยาของซอล
"มึงก็ไปแซวมันไอ้ดีฟ ดูสิเขินหน้าแดงเลย ฮ่าๆๆ" เสียงเพื่อนอีกคนแซวขึ้นเมื่อเห็นว่าซอลหน้าแดงเพราะโดนเพื่อนแซว
"หุบปากแล้วแดกข้าวไปเลยนะไอ้เครฟ ไม่งั้นมึงได้แดกตีนกูแน่" ซอลหันไปแวดใส่เพื่อนตัวเองที่พากันหัวเราะจนแทบลงไปกลิ้งกับพื้น
"แหมๆโหดจริงพอคุณ ได้ลูกเมื่อไหร่บอกกูด้วยนะจะเอาไปเฝ้าบ้าน ฮ่าๆ"เครฟพูดล้อเพื่อนตัวเองที่นั่งทำหน้าบูดบึ้งอยู่อย่างขำๆ
"มึงจะขอลูกกูทำไมละเครฟในเมื่อในปากมึงมีเยอะแยะ"ซอลพูดแขวะเพื่อนตัวเองกลับไปบ้าง
"กร๊ากกกกกกกกกกกกก"
"ปากมึงนี้นะซอล มากินข้าวได้แล้วเลิกเล่น" เสียงนิ่งๆของคนที่นั่งดูเหตุการณ์แต่แรกดังขึ้นทำให้บรรยากาศเฮฮาเมื่อครู่เริ่มจางไป
"เสียงมึงนี่หลอนใช้ได้เลยนะชัตเตอร์"ดีฟพูดแซวเจ้าของเสียงแต่เจ้าตัวกับทำเพียงแค่ปรายตามองอย่างไม่ใส่ใจ
"แล้วข้าวปั้นยังไม่มาเหรอวะ" ซอลหันไปถามเพื่อนตัวเองเมื่อตัวเองมาถึงโรงเรียนได้สักพักแล้วแต่ยังไม่เห็นเพื่อนอีกคน
"ยะ "
"มะ มาแล้วๆ! แฮ่กๆๆ" ดีฟที่กำลังจะอ้าปากตอบจำต้องเงียบลงเพราะเจ้าของร่างบางหน้าสวยหวานเหนือชายที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหากลุ่มเพื่อน
"สะ สวัสดีตอนเช้าครับทุกคน"ใบหน้าหวานเงยขึ้นพูดกับเพื่อนๆพร้อมกับยิ้มกว้าง
"โหยยยย วันนี้ไอ้ปั้นมาสายกว่าไอ้คุณชายซอล อะเมซิ่งไทยแลนด์อีกแล้ว" เครฟพูดแซวขำๆ
ซอลมองหน้าเพื่อนของตัวเองแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้ากับความร่างเริงเกินเหตุของเพื่อนที่พูดแซวชาวบ้านเขาไปเรื่อย อยู่โรงเรียซอลมีกลุ่มเพื่อนสนิทอยู่สี่คนรวมตัวซอลก็เป็นห้าและแต่ละคนบุคลิคไม่ได้เหมือนหรือคล้ายกันสักนิด ดีฟกับเครฟจะมีนิดสัยคล้ายๆกันคือปากหมาหน้าม่อและชอบป้อหญิง ชัตเตอร์เป็นผู้ชายหน้านิ่งที่ชอบใช้ความนิ่งสยบทุกสิ่ง ข้าวปั้นหนุ่มน้อยหน้าหวานขนาดผู้หญิงยังอายแถมนิสัยยังสุภาพกว่าทุกคนในกลุ่ม ซอลและเพื่อนๆรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆเล่นด้วยกันมาจนโตมาก็เรียนที่เดียวกันมาตลอกและคาดว่าพอเข้ามหา'ลัยก็คงจะไปที่เดียวกันอีกด้วยความที่รู้จักกันมานานทำให้ทุกคนในกลุ่มรู้ตับไตไส้พุงกันทุกอย่าง ดังนั้นซอลและเพื่อนๆจึงเลือกที่จะไม่มีความลับต่อกัน
"พอๆไปๆแดกข้าวจะได้ไปเข้าแถว พล่ามอยู่นั้นแหละ" ซอลพูดตัดบทพร้อมกับผลักหัวเครฟไม่แรงนักแล้วเดินไปนั่งลงข้างๆชัตเตอร์ที่นั่งรออยู่แล้วเพื่อนๆคนอื่นจัซเริ่มนั่งลงที่ตัวเองแล้วลงมือทานข้าวเช้าที่ซื้อเตรียมไว้ก่อนแล้ว ด้วยความที่ซอลทานข้าวมาจากคอนโดซันบ้างแล้วทำให้ไม่รู้สึกหิวมากนัก พอทานไปได้นิดหน่อยก็อิ่มร่างโปร่งหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเล่นเกมส์ระหว่างรอเพื่อนคนอื่นๆ ตอนนี้โทรศัพท์ซอลนั้นชาร์จแบตเต็ทแล้วไม่รู้ใครทำให้และจากที่นั่งรถมาที่โรงเรียนกันซันทำให้ซอลรู้ว่าคอนโดซันนั้นอยู่ห่างจากโรงเรียนแค่นั่งรถสิบนาทีก็ถึงแล้ว
"ได้ข่าวว่าเมื่อวันเสาร์มึงเปรี้ยวเหรอซอล" ดีฟที่ทานข้าวอิ่มแล้วเงยหน้าขึ้นพูดทำให้ซอลงง
"เปรี้ยวอะไรของมึง" ซอลถามกลับ
"ก็กูได้ข่าวมาว่ามึงไปแข่งแล้วพอแข่งเสร็จก็ถูกใครไม่รู้ลากออกไปจากสนาม แล้วก็ไม่ทีใครติดต่อมึงได้อีกเลย บอกพวกกูมาเลยนะว่ามึงหายไปไหนมาแล้วใครลากมึงออกไป " ดีฟร่ายยาว ส่วนซอลจากที่ทีแรกว่าจะเงียบๆไว้ก็ได้แต่ถอนหายใจเบาๆกับตัวเองและไม่ได้คิดจะปิดอะไรเพื่อนแต่ซอลยังไม่พร้อมจะบอกแต่มาถึงตรงนี้แล้วคงต้องพร้อมแล้วละ
"เสือกเก่งนะมึง" ซอลว่ากลับอย่างเอือมๆ
"อย่ามาเปลี่ยนเรื่องไอ้ซอลบอกมาเลยสัส พวกกูเพื่อนมึงมั้ย?"เครฟพูดเสริมขึ้นทำให้ซอลรู้ว่าถ้าตัวเองไม่ยอมพูดวันนี้ทั้งวันคงอยู่งม่สงบ
"เออๆไม่ต้องมองแบบนั้น กูบอกแล้วเนี่ย กูแข่งแพ้เลยต้องไปเป็นเบ๊มันเดือนหนึ่ง แล้วที่ติดต่อกูไม่ได้เพราะโทรศัพท์กูแบตหมกและกูไม่ได้หายไปไหนกูแค่ไปทำหน้าที่เบ๊ของกูแค่นั้นเอง"ซอลพูดบอก
"แล้วมึงแพ้กลุ่มไหน" ชัตเตอร์ที่นั่งเงียบมาตลอดถามขึ้น
"กลุ่มพวกพี่กราฟ" ซอลตอบหน้าตาย
"ห้ะ!!!!" สี่เสียงร้องประสานกันอย่างตกใจกับสิ่งที่ซอลพูดเมื่อสักครู่
"อะไรของพวกมึงเนี่ย ไปๆไปเข้าแถวเว้ย"ซอลพูดตัดบทแล้วเดินหนีออกมาทันที
ซอลรู้ดีว่าทำไมเพื่อในกลุ่มถึงได้ทำท่าทีตกใจขนาดนั้นเมื่อรู้ว่าเขาแพ้ใคร เพราะใครๆก็รูว่ากลุ่มของมาฆีย์เพื่อนของซอลไม่ถูกกับกลุ่มยองพี่กราฟเพราะเรื่องบางอย่างที่ซอลเองก็ยังไม่รู้แต่ก็ไม่ได้อยากรู้อะไรหรอกเพราะแบบนี้มันดีอยู่แล้ว เวลามาโรงเรียนซอลจะอยู่กับเพื่อนอีกกลุ่มเพราะพวกมาฆีย์เรียนคนละที่กับซอลและเพื่อนๆของซอลทุกคนต่างก็รู้ว่าซอลมีงานอดิเรกอะไรและไม่ทีใครคิดจะห้ามเพราะรู้นิสัยดื้อรั้นไม่ฟังใครของซอลดี
ตลอดช่วงเช้าซอลนั่งเรียนแบบหลับๆตื่นๆเล่นกับเพื่อนบ้างเรียนบ้างแอบหลับบ้างมันเป็นสิ่งที่นักเรียนมัธยมทุกคนเคยเป็น พอเข้าเรียนช่วงบ่ายห้องของซอลมีสอบย่อยวิชาชีววิทยาและก็ว่างยาวถึงเลิกเรียน
"ข้อสอบยากโคตรพ่อโคตรแม่เลยวะ แม่ง!" พอเดินออกจากห้องสอบเครฟเพื่อนของซอลก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าเหนื่อยๆ
"ถ้ารู้ว่าโตมากูจะเจอข้อสอบแบบนี้นะกูไม่โตยังดีซะกว่า!" ดีฟพูดขึ้นอีกคน ทำให้ซอลได้แต่ส่ายหน้าเอือมๆกับเพื่อนตัวเอง
"พูดไปละมึง เดี๋ยวแม่มึงมาได้ยินเข้าแล้วจะพูดไม่ออก มึงจะไปโรงยิมเลยมั้ยซอล " ชัตเตอร์ที่ยืนทำหน้าเหนื่อยๆพูดบอกเพื่อนตัวเอง ก่อนจะหันไปถามซอลที่ยืนอยู่ข้างๆ
"กูหิว" ซอลตอบหน้าตาย
"แดกยังกับปอบเมื่อไหร่มึงจะโตวะซอล" ดีฟหันมาแขวะซอล
"โห่ ดีฟใครบอกว่าซอลไม่โตกันครับนี้ซอลโตแล้วนะครับ แต่มันโตได้แค่นี้ ฮ่าๆๆ" พอจบคำพูดของข้าวปั้นหนุ่มน้อยหน้าหวานใบหน้าเรียวของซอลก็เป็นอันต้องบูดบึ้งขึ้นมาทันใด
"เดี๋ยวนี้กล้าล้อซอลเหรอปั้นเดี๋ยวนี้เข้าข้างคนอื่นมากกว่าซอลเหรอ " ซอลหันไปทำหน้าที่แกล้งทำเป็นงอนใส่หนุ่มหน้าหวาน จนข้าวปั้นเริ่มกลัวว่าเพื่อนจะโกรธตัวเองจริงๆ
"ปั้นขอโทษ ปั้นแค่ไม่อยากให้ซอลเคลียดอ่ะ" ข้าวปั้นเดินมาเกาะแขนซอลด้วยท่าทีอ้อนๆแต่ซอลยังแกล้งตีหน้านิ่งจนข้าวปั้นเริ่มเบะปาก
"นี่โกรธปั้นจริงๆเหรอซอล ปั้นขอโทษนะ โกรธปั้นเลย" เมื่อเห็นว่าเพื่อนยังนิ่งร่างเล็กก็เริ่มร้อนรนแต่ถ้าข้าวปั้นเอะใจหันไปมองเพื่อนคนอื่นสักนิดก็จะเห็นว่าเพื่อนๆกำลังกลั้นขำจนหน้าแดง
“...............”ซอลยังคงแกล้งทำเป็นนิ่งเพื่อต้องการจะแกล้งเพื่อนทั้งๆที่ตัวเองกำลังกลั้นขำจนตัวสั่นไปหมด จนต้องหันหน้าหนีไปทางอื่นเพราะกลัวว่าคนตัวเล็กจะจับได้ แต่นั้นกับทำให้ข้าวปั้นเข้าใจผิดว่าเพื่อนโกรธตนเองจริงๆ ด้วยความที่เป็นคนแคร์เพื่อนมากทำให้ข้าวปั้นเริ่มใจเสียและน้ำตาก็พาลจะไหลเอาง่ายๆ
“ปั้นขอโทษนะ อ้ะ! นี่ซอลแกล้งปั้นเหรอเนี่ย!” ข้าวปั้นที่กำลังพยายามง้อซอลอยู่ชะโงกหน้าไปมองซอลเพราะหวังจะอ้อนให้หายงอนแต่กับเห็ว่าเพื่อนตัวเองกำลังกลั้นขำจนหน้าแดงตัวสั่นไปหมดนั้นทำให้ข้าวปั้นรู้ว่าตัวเองโดนเพื่อนแกล้งอีกแล้ว
“ฮ่าๆๆๆๆ!!”พอถูกจับได้ทั้งสี่คนจึงปล่อยก็กออกมาอย่างสุดจะกลั้น ส่วนข้าวปั้นนั้นหน้าง้อง้ำไปเรียบร้อยแล้ว ตวัดสายตามองเพื่อนๆอย่างงอนๆจนเพื่อนๆรีบกลั้นขำอีกรอบและหันมาง้อเพื่อนตัวเล็ก
“ฮ่าๆ โอ๋ๆอย่างอนซอลนะคนดี๋คนดีของซอล ฮ่าๆๆๆ” ซอลทั้งพูดทั้งขำไปจนข้าวปั้นหน้างอไปกันใหญ่
“ห่าซอล มึงจะขำทำไมมึงเห็นมั้ยว่าน้องข้าวปั้นของกูงอนแล้วนั้น โอ๋ๆคนดีของเครฟอย่างอนนะหนูน้อยเดี๋ยวเครฟพาไปเลี้ยงไอติมนะคร้าบบบบ” เครฟหันไปด่าซอลที่ยืนขำอยู่กับชัตเตอร์แล้วเอาหน้าไปถูๆกับแขนเรียวเล็กของข้าวปั้นไปด้วย
“เชอะ!ไม่ต้องเลยนะ ปั้นงอนจริงๆด้วย ทุกคนชอบแกล้งปั้น”ข้าวปั้นพูดอย่างงอนๆแล้วกอดอกทำปากยื่นหันหน้าหนีไปอีกทางให้รู้ว่างอนจริงๆ
“เห้ย เตอร์มึงมาง้อมันหน่อยดิ เมียมึงงอนแล้วเนี่ย” ดีฟพูดขึ้นแล้วแอบขำเบาๆ
“ใช่ๆๆเตอร์มึงไปง้อเลยเมียน้อยมึงแกล้งเมียงหลวงจนงอนแล้วนั้น” เครฟพูดสมทบพร้อมมองมาทางซอล จนซอลต้องหลุดขำออกมาอีกรอบ
“หึ เมียอันเป็นที่รักทั้งสองครับ เลิกงอนกันแล้วหันมาสามัคคีกันได้แล้วนะครับเดี๋ยวคืนนี้เตอร์จะจัดให้ยาวๆแล้วจะได้สามัคคีกันกว่านี้นะ” ชัตเตอร์พูดพร้อมเดินมากอดคอซอลกับข้าวปั้นแล้วแกล้งทำทีเป็นว่าก้มลงไปหอมแก้มทั้งสองคนคนละที จนดีฟกับเครฟหัวเราะดังลั่นจนคนหันมามอง
“ฮ่าๆๆ ไอ้เตอร์มึงแน่มาก ฮ่าๆๆ” ดีฟพูดไปแล้วขำไป
“เตอร์เมียมึงสวยหาให้กูคนดิ ฮ่าๆๆ” เครฟพูดขึ้นต่ออย่างขำๆ
“ของแบบนี้มันอยู่ที่ลีลาบนพื้นที่ราบเว้ย แต่มึงจะหาทำไมวะมีได้ดีฟคนเดียวก็น่าจะพอแล้วนะเปรี้ยวซะขนาดนั้น ฮ่าๆๆ” จบคำพูดของชัตเตอร์ทั้งห้าคนก็ได้หัวเราะกันอีกรอบ
ซอลและเพื่อนๆต่างรู้ดีว่าที่พูดกันนี่เพียงแค่หยอกกันเล่นๆจึงไม่มีใครเก็บไปใส่ใจและมันมักจะเป็นแบบนี้เสมอเวลาพวกเขาทั้งห้าได้อยู่ด้วยกัน เวลาอยู่กับเพื่อนๆกลุ่มนี้ซอลจะยิ้มและหัวเราะได้มากกว่าตอนอื่นๆและมันเป็นช่วงเวลาที่ซอลสบายใจที่สุดแล้ว
เมื่อคุยกันหยอกล้อกันจนพอใจแล้วซอลกับเพื่อนๆจึงตัดสินใจว่าจะไปหาอะไรกินก่อนเข้าไปซ้อมบาสที่โรงยิมเพราะตอนนี้พึ่งจะบ่ายสามนิดๆดังนั้นทั้งห้าคนจึงมุ่งหน้าไปยังโรงอาหารของโรงเรียนกันก่อน เมื่อกินข้าวเสร็จก็ตรงไปยังโรงยิมทันทีเพราะใกล้จะถึงเวลาซ้อมแล้วโดยที่ซอลลืมไปเลยว่าต้องโทรไปบอกซัน พอเปลี่ยนชุดเสร็จซอลก็ออกมาวอมกับเพื่อนๆที่สนามโดยวางทุกอย่างไว้ข้างสนามเลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ดังครั้งแล้วครั้งเล่าและคนปลายสายเริ่มจะจะโมโหนิดๆที่เจ้าของโทรศัพท์ไม่ยอมรับสายตนเองสักที่ เมื่อเรียนเสร็จในช่วงห้าโมงเย็นซันก็รีบบึ่งรถมาที่โรงเรียนซอลทันที่ด้วยอารมณ์ที่กำลังขุ่นๆ
.
.
.
.
ปึง ปึง ปึง!
เสียงร้องเท้าและเสียงลูกบาสที่กระทบพื้นดังลั่นในโรงยิมขนาดใหญ่ที่ตอนนี้ในสนามมีนักกีฬาสองทีมกำลังแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เหลือเวลาอีกสองนาทีและแต้มในตอนนี้ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ที่ 64-64 และตอนนี้ลูกบาสก็ตกอยู่ในมือของซอลที่เลี้ยงลูกหลบทีมฝ่ายตรงข้ามอย่างคล่องแคล่ว แล้วส่งต่อไปยังชัตเตอร์ก่อนที่ตัวเองจะวิ่งนำไปรอที่ใต้แป้นบาสและเพื่อนๆในทีมเมื่อเห็นว่าซอลพาลูกบาสขึ้นไปถึงเขตโทษแล้วดังนั้นทุกคนจึงต้องบุกขึ้นไปยังแดนฝ่ายตรงข้ามเช่นเดียวกัน ตอนนี้เหลือเวลาแค่หนึ่งนาที และชัตเตอร์ยังพาลูกบาสไปไม่ถึงแป้นเพราะติดตัวการ์ดที่เข้ามากันลูก ชัตเตอร์ส่งลูกต่อให้ดีฟที่ไม่มีตัวประกบ แต่พอลูกบาสไปอยู่ในมือดีฟก็ต้องส่งต่อทันทีเมื่อเวลาใกล้จะหมดแล้วดีฟตัดสินใจส่งต่อให้ซอลซึ่งซอลคว้าเอาไว้ได้แล้วเทคตัวขึ้นยัดลูกลงห่วงไปอย่างสวยงาม
ปรี้ดดดดดดดดด!!
“ เหนื่อยยยยยยยย” พอสิ้นเสียงนกหวีดที่เป็นสัญญาณบอกว่าหมดเวลาการแข่งขันแล้วนักกีฬาในสนามก็ล้มตัวนอนแผ่กลางสนามทันที เพราะทุกคนซ้อมกันมาตั้งแต่สี่โมงเย็นและตอนนี้ก็หกโมงเย็นแล้วด้วย
“แม่ง!กูนอนนี่ได้มั้ยวะหมดแรงแล้ว” เครฟบ่นไปหอบไป
“เออ กูเอาด้วย แม่ง กลับบ้านสภาพนี้กูคงตายก่อนถึงบ้าน” ดีฟที่นอนหอบอยู่ข้างๆเครฟพูดขึ้น
“โว้ยยย ร้อน! “ชัตเตอร์พูดพร้อมกับถอดเสื้อบาสที่เต็มไปด้วยเหงือออกแล้วนอนลงตามเดิม
ซอลพอเห็นชัตเตอร์ทำแบบนั้นก็เลยถอดออกบ้างเพราะตอนเล่นบาสเหงื่ออกมาจนเสื้อเปียกไปหมด ซอลเองก็เหนื่อยมากเหมือนกันกับการซ้อมหนักๆแบบนี้แต่ที่ไม่ได้บ่นอะไรเพราะมันเหนื่อยจนไม่มีแรงจะพูดแล้วเลยเอาแต่นอนเงียบๆ ซอลนอนหลับตาฟังเพื่อนคุยกันไปเพลินๆแล้วรู้สึกว่ารอบๆตัวเริ่มเงียบจึงลืมตาขึ้นแล้วหันไปมองเพื่อนตัวเองที่ตอนนี้ลุกขึ้นนั่งจ้องตัวเองอย่าง งงๆ
“มีไรวะ มองกูทำไม” ซอลถามออกไปเมื่อเห็นเพื่อนเอาแต่จ้องแล้วไม่ยอมพูดบอกอะไรสักคำ
“ซอล ไปทำไรมาอ่ะ ทำไมตามตัวมีแต่รอยแดงๆ” ข้าวปั้นถามอย่างอยากรู้ ทำให้ซอลต้องก้มลงมองตามเนื้อตัวของตัวเองที่ไม่ได้ใส่เสื้อทำให้รู้ว่าร่องรอยที่ซันทำไว้มันยังไม่หาย
“อะ เออ คือ” ซอลมองหน้าเพื่อนอย่างหนักใจเพราะไม่รู้ว่าจะตอบเพื่อนไปยังไงดี แล้วเพื่อนๆพอเห็นซอลเอาแต่อึกอักจึงจ้องซอลเขม่นอย่างต้องการคำตอบ
“รอยอะไรอ่ะซอล เหมือนรอยจูบเลย” ข้าวปั้นพูดขึ้นอย่างซื่อๆแล้วยกมือขึ้นลูบบริเวณรอบแดงตามตัวซอลอย่างเบามือเพราะซอลเป็นคนขาวมากแค่มีรอยเล็กๆน้อยๆกสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนแล้ว
“คะ คือว่า เออ คือ กะ “
“พวกมึงทำอะไรกันห้ะ!!!!”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ