THE SUN เพราะว่ารัก กูถึงต้องร้าย!!! (Yaoi'Boys love )
เขียนโดย Musun
วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.55 น.
แก้ไขเมื่อ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 14.25 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) THE SUN : 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความTHE SUN :2
เฮ้!!!!!
เสียงเฮดังลั่นเมื่อรถยนต์สุดหรูสองคันวิ่งเข้าสู่เส้นชัยแทบจะพร้อมกัน หลังจากที่ผมกันมันขับวนครบสาม รอบคนที่อยู่ข้างสนามแทบจะดูไม่ออกว่าระหว่างผมกับมันใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายกุมชัยในครั้งนี้ แต่ผมรู้ผลตั้งแต่ตอนที่รถวิ่งเข้าเส้นชัยแล้วผลที่ออกมาน่ะเหรอ........
ผมแพ้มันแค่เสี้ยววินาที!!! บ้าฉิบนี้ผมพลาดเหรอเนี่ย !!!
ปึง!!!!
"หึ"
ผมก้าวลงจาก อัลฟ่า โรมิโอ ที่ใช้ในการแข่งรอบนี้หลังจากจากนั่งทำใจอยู่สักพัก ก็ต้องตวัดสายตาดุๆไปมองคู่แข่งของผมในวันนี้ที่ดูเหมือนว่ามันเองก็รู้ผลการแข่งแล้วเหมือนกัน มันมองผมด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นเคยแต่แววตาของมันบอกผมได้อย่างดีว่ามันกำลังเยาะเย้ยผม!!
"ซอล!!!" เสียงห้าเสียงร้องเรียกผมพร้อมกับร่างของผู้ชายห้าคนที่กำลังวิ่งตรงมาที่ผมด้วยสีหน้าเคร่งเคลียด พวกมึงจะเคลียดกันทำไมวะกูแข่งแพ้ไม่ใช่พวกมึงสักหน่อย - -
" วันนี้พวกมึงตะโกนชื่อกูหลายครั้งไปแล้วนะ " ผมพูดว่าพวกมันกวนๆด้วยสีหน้าที่เอือมระอาเต็มทน
"มึงรู้ใช่ไหมว่าผลออกมาเป็นยังไงน่ะห้ะ!!" ห่าฆีย์ถ้ามึงจะเสียงดังขนาดนี้นะ- - ผมมองหน้าคนที่ตะคอกถามผมด้วยสีหน้าและแววตานิ่งสนิทเช่นเดิม
"อืม กูแพ้ " ผมก็ตอบมันกลับไปเรียบๆด้วยท่าที่ที่ไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรทั้งๆที่ในใจตอนนี้มันเจ็บใจชิบหายเลย แต่ก็ต้องเก็บอารมณ์หน่อยเพราะถ้าผมโวยวายผมจะกลายเป็น 'ไอ้บ้าที่ไม่ยอมรับความจริง'
"มึงชิลไปนะบางครั้งน่ะซอล พวกกูซีเรียสนะ มึงแพ้ได้ไงมึงก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามึงแพ้มันน่ะ" เพ้นท์ที่ยืนขมวดคิ้วด้วยท่าทางเคลียดสุดๆพูดขึ้นซึ่งถ้าท่าทางแบบนี้ของมันหาดูได้ยากมาก
" ห่า มึงก็พูดเหมือนกูอยากแพ้นะ กูแพ้ก็แค่ไปเป็นเบ๊มันเดือนนึงง่ายๆแค่นี้แหละ" จบคำพูดของผมสายตาดุๆห้าคู่ก็ตวัดมามองผมอย่างพร้อมเพียง ห่า กูขนลุก _ _"
" ซอลพูดง่ายไปนะ ซอลก็รู้ว่าพวกมันไม่ถูกกับพวกเราแล้วซอลเป็น'คนของเรา' พวกมันต้องเล่นงานซอลหนักแน่ๆ ซอลก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดีนะครับ" พอยท์พูดอย่างจริงจังจนผมเองเริ่มจะเคลียดนิดๆ ขอย้ำว่านิดจริงๆ
" แล้วไง ผลออกมาแล้วอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด พวกมึงอ่ะไม่ต้องห่วงกูขนาดนี้ก็ได้กูโตแล้วโตพอที่จะดูแลตัวเอลได้แล้วและกูโตพอที่จะ 'มีเมีย' ได้แล้วด้วยเลิกทำเหมือนกูเป็นเด็กสักทีเถอะ" ผมพูดเน้นคำว่าเมียให้พวกมันรู้สถานะของพวกมันในตอนนี้ และเลิกห่วงผมสักที ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น
"หึ พูดได้ดีหนิไอ้เตี้ย" น้ำเสียงนิ่งๆที่ดังขึ้น ทำให้ผมต้องหันไปมองทางต้นเสียง สายตาผมปะทะเข้ากับร่างสูงที่พึ่งชนะผมไปสดๆร้อนๆยืนกอดอกมองมาทางผมนิ่งๆ
"ต้องให้กูย้ำอีกรอบไหมว่ากูชื่อ ซอล " แม่งเห็นหน้ามันแล้วอารมณ์เสียทันที คนห่าอะไรวะแม่งหล่อได้หล่อดี - -
"ไม่ต้องหรอกเพราะกูจำชื่อ'เบ๊' ของกูได้ขึ้นใจ หึ"
"สัส!! กูไม่ยอม! กูขอเปลี่ยนของเดิมพัน!!" มาฆีย์แทรกขึ้นมาเสียงดังลั่นเมื่อไอ้หล่อมันพูดจบ ห่าฆีย์ก็แม่งเสียงแปดหลอด มึงไม่เจ็บคอหรือไงวะ _ _""
"อะไรล่ะ ที่มึงบอกว่จะเปลี่ยนแทนเบ๊กูน่ะ" อีกสิ่งหนึ่งที่ผมเกลียดมากๆก็คือ การที่ถูกมองว่าเป็นสิ่งของและตอนนี้พวกเหี้ยนี้มันกำลังทำแบบนั้นอยู่ จากตอนแรกที่เฉยๆมาถึงตอนนี้บอกได้เลยว่าผมโกรธมาก
" กะ!"
" พวกมึงเห็นกูเป็นอะไรกันห้ะ!!นึกอยากจะทำอะไรก็ทำงั้นเหรอ กูคนไม่ใช่สิ่งของนะสัส!!!! มึงไอ้ฆีย์กูบอกมึงแล้วไงว่ากูไม่ใช่เด็กๆเลิกกางปีกปกป้องกูสักที!!! พวกมึงสี่ตัวด้วย สิ่งที่กูทำในวันนี้กูเลือกที่จะทำของกูเอง ผลมันออกมายังไงกูจะเป็นคนรับเองพวกมึงไม่ต้องมาเป็นเดือนเป็นร้อนแทนกู!!!" ผมตะโกนใส่หน้าพวกมันสุดเสียงอย่างเหลืออด หลายคนเริ่มมองมาทางพวกผมแล้ว และตั้งท่ารอเสือกเต็มที่ เหอะ! คนเราแม่งก็มีแค่นี้
.
.
.
เสียงที่เคยตะโกนใส่กันดังลั่นเมื่อกี้เงียบลง ทุกสายตาจับจ้องมาที่ผมด้วยสีหน้าเคร่งเคลียด ผมรู้ว่าพวกมันห่วงผม แต่บางครั้งมันก็มากเกินไปจนผมรับไว้ไม่ได้ ผมมีความคิดเป็นของตัวเองเมื่อผมทำอะไรลงไปแล้วผลมันจะเป็นยังไงผมจะรับมันไว้เองเพราะมันคือสิ่งที่ผมทำ
"พูดได้ดีหนิไอ้เตี้ย พวกมึงคงไม่มีอะไรจะค้านแล้วใช่ไหม? งั้นกูพาเบ๊ส่วนตัวของกูไปทำ'ความคุ้นเคย'ก่อนละนะ"
"หะ เห้ย!!"
"ซอล!!!!"
พลัก!!!
ด้วยความตกใจที่อยู่ไอ้หล่อมันก็กระชากแขนผมอย่างแรงเพื่อให้เดินตามมันไป และผมมันเป็นพวกไวต่อสัมผัส พอโดยกระชากแบบนี้มือข้างที่ว่างผมก็เหวี่ยงใส่หน้าไอ้หล่อมันโดยอัตโนมัติ โดนเต็มๆได้เลือดเลยครับ พวกมาฆีย์ที่ทำท่าจะเข้ามารั้งตัวผมคืนถึงกับชงักกึกเช่นกัน คือกูไม่ผิดนะมือมันไปเองอ่ะ
"หึ หมัดหนักใช่ได้เลยนะมึง ไปกันได้แล้ว ไอ้ไนท์ฝากเคลียร์ทางนี้ด้วย แล้วอย่าพึ่งบอกพี่กราฟเรื่องนี้นะ" ไอ้หล่อมันใช่ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างกวนๆก่อนจะตะโกนบอกเพื่อนมันและลากผมถูลู่ถูกังออกมายัดใส่ปอร์เช่สีขาวสุดหรูของมัน(มั้ง)ก่อนที่มันจะขึ้นมานั้งประจำที่คนขับแล้วออกรถทันที
"มึงจะพากูไปไหน" นี้คือประโยคแรกที่ผมเอ่ยออกมาทำรายบรรยากาศในรถที่เงียบสนิทตั้งแต่ออกมาจากสนามได้ราวๆสิบห้านาทีไอ้หล่อที่นั้งประจำที่นั้งคนขับมันยังไม่ปริปากพูดอะไรสักคำจนผมอึดอัด
"พาไปทำความคุ้นเคย" มันตอบเสียงเรียบหน้านิ่งสายตายังคงมองที่ท้องถนนในตอนนี้เวลาเกือบๆตีสามซึ่งถนนโล่งมาก ถ้ามันปล่อยผมลงข้างทางตอนนี้มีหวังผมได้เดินของลากแน่
"แล้วมันต้องทำยังไงวะไอ้ความคุ้นเคยเนี่ย มึงขยายความนิดนึงดิ" คือกูไม่ได้กวนโอ้ยนะ แต่กูซื่ออ่ะกูไม่เข้าใจประโยคบอกเล่าของมึง
"แล้วมึงคิดว่ากูจะทำอะไรละ" คราวนี้ไม่พูดเปล่ามันหันหน้ามามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ คือไม่อะไรหรอกนะแต่กูขนลุกพิกล
"สัส!!ขนลุก มองถนนดิ มองหน้ากูทำหอกอะไร เดี๋ยวก็ได้ไปทัวร์นรกพอดี"
"หึ หึ"
มันไม่พูดอะไรต่อแต่ส่งเสียงหัวเราะโรคจิตๆออกมาให้ผมได้ยินเหมือนมันกำลังสนุกที่ได้แกล้งผม ส่วนผมเองก็ไม่อยากเถียงกับมันมันให้เปลืองน้ำลายเลยหันหน้าเข้ากระจกซะเลย ว่าแต่ทำไมอากาศในรถมันร้อนแบบนี้วะ
.
.
.
แปะ แปะ แปะ
"ตื่น ไอ้เตี้ย! กูบอกให้ตื่นไงมึงได้ยินไหมวะเนี่ย" เสียงเรียกพร้อมกับอะไรบางอย่างที่ปะทะเข้ากับใบหน้าผมเบาๆทำให้ผมต้องพลิกตัวหลบและปัดป้องอย่างรำคาญ
"อือ ขออีกสิบนาทีนะม๊า"
" กูไม่ใช่ม๊ามึง กูนับหนึ่งถึงสามถ้ามึงไม่ตื่นกูจะให้มึงนอนเฝ้ารถ" อะไรนักหนาวะเนี่ย ผมบอกว่าสิบนาทีไงม๊าอ่ะ
"หนึ่ง " ทำไมม๊าเสียงโหดจัง ปรกติม๊าจะเสียงเล็กๆไม่ใช่เหรอ
" สอง " เสียงคุ้นๆเหมือนเสียงไอ้หล่อเลย เดี๋ยวนะเสียงไอ้หล่อเหรอ? ชัดเลย!
"สะ "
"ตื่นแล้วๆ"
อ้ะ! โครม!
"โอ้ยยยยยยยยยย!"
"สม"
ด้วยความที่พึ่งระลึกได้ว่าตัวเองไม่ได้นอนอยู่บ้านและอยู่กับใครในตอนนี้ทำให้ผม ลืมตาตื่นทันทีลืมตาขึ้นมาสิ่งแรกที่ผมเหตุเป็นหน้าไอหล่อที่อยู่หน้าจากผมแค่คืบทำให้ผมรีบเด้งตัวออกจากรถ แต่ไอ้หล่อมันเร็วกว่าเบี่ยงตัวหลบจากวิถีการชนของผมได้อย่างหวุดหวิด จนกลายเป็นว่าผมพวดพลาดออกมาสะดุดขาตัวเองล้มกระแทกพื้นอย่างแรง ส่วนไอ้หล่อมันก็ยืนยิ้มสะใจมองผมนิ่งๆ
"จะมองหน้ากูอีกนานไหม กูรู้ว่ากูหล่อไม่ต้องมามองลุกขึ้น กูง่วงแล้ว" ดูมันแม่ง เออดิมึงหล่อมึงก็พูดได้ดิสัส แต่ตอนนี้กูเจ็บไอ้ห่าไม่คิดจะช่วยกูเลยหรือไง
"กูเจ็บ" ผมพูดเสียงอ้อมแอ้ม แม่งกูอายชิบหายเลย
"หึ เรื่องของมึง โง่เองก็ลุกเองกูไปละ" พูดจบมันก็เดินลิ่วๆเข้าคอนโดไปเลย ผมพึ่งสังเกตนะว่าตอนนี้ที่ที่ผมอยู่มันคือลานจอดรถหน้าคอนโดหรูที่ไอ้หล่อมันพึ่งเดินเข้าไป แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น คือตอนนี้ผมรู้สึกว่าข้อเท้าแพลงเพราะมันเจ็บและเริ่มแดงแล้ว
"ไอ้!! แม่งใจดำชิบหายเลย" ผมได้แต่บ่นอุบๆอิบๆกับตัวเองแล้วค่อยๆพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล เจ็บชิบหายเลย เอาไงต่อวะทีนี้ ที่นี้มันอยู่ส่วนไหนของประเทศไทยวะเนี่ย
" พากูมาแล้วเสือกทิ้งๆขว้างๆกูอีก" พอไม่รู้จะไปทางไหนผมก็ได้แต่หันซ้ายหันขวาอยู่อย่างนั้น แม่งๆๆๆกูอยากกลับบ้าน
" แบตหมดอีก แม่งอย่างกับนิยายเลยสัส" หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าจะโทรให้ไอ้ฆีย์มารับแต่ หน้าจอมันดันมืดสนิท แปลความหมายได้ง่ายๆเลยว่า แบตมันหมด
"เอาไงดีวะกู ไอ้ซันแม่ง เอากูมาเสือกไม่ดูแลกูแถมทำกูเจ็บอีกสัส อย่าให้กูเจอนะมึง กะ"
"บ่นอะไรของมึงไอ้เตี้ย ขึ้นห้องได้แล้วกูง่วง หรือว่ามึงจะยืนอยู่ตรงนี้ก็ตามใจนะ"
"หะ เห้ย! ห่า ตกใจหมดโผล่มาเงียบๆกูนึกว่าผี" ไอ้หล่อที่ไม่รู้โผล่มาได้ไงทักผมขึ้น ห่า บทจะไปก็ไปง่ายๆบทจะมาก็เล่นซะกูตกใจเลยนะสัส
"ไม่ต้องมาด่ากูในใจ ไปได้แล้ว" มันมาถึงก็พูดๆแล้วก็หันหน้าเดินกลับไปยังประตูทางเข้าคอนโด เห็นดังนั้นผมเลยรีบตามมันไปแต่ก็เดินเร็วไม่ได้เพราะยังเจ็บขาอยู่ เอาวะ ยังไงวันนี้ก็ยอมๆมันไปก่อนเพราะถ้าจะให้หาทางกลับบ้านตอนนี้ก็คงไปไม่ไหวเพราะเจ็บขามากจริงๆตอนนี้จากที่มันแค่แดงก็เริ่มบวมแล้วด้วย เฮ้อ! ชีวิตไอ้ซอลทำไมมันบัดซบแบบนี้นะ
.
.
.
"ไปอาบน้ำได้แล้ว กูให้เวลายี่สิบนาที" หลังจากที่เข้ามาในห้องในคอนโดของไอ้หล่อมันเจ้าของห้องมันก็หายเข้าไปในห้องห้องหนึ่งซึ่งผมเดาว่าเป็นห้องนอนของมันปล่อยให้ผมเนรเทศตัวเองไปสิงสถิตที่โซฟาตัวใหญ่กลางห้อง สักพักมันก็เดินออกมาด้วยชุดที่บงบอกว่ามันเตรียมตัวนอนแล้วและไล่ผมเข้าไปอาบน้ำ คือถ้าปรกติผมจะไม่อะไรนะ แต่ตอนนี้กูเจ็บขาอ่ะ
"กูพูดมึงได้ยินไหมห้ะ! ไปอาบน้ำกูง่วงแล้ว" พอเห็นผมยังนิ่งไม่ขยับไปไหนมันก็หันมาพูดอีกด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าเดิม
"กูเจ็บขา" ผมบอกเสียงเรียบและยังคงปักหลักอยู่บนโซฟาตัวเดิม ก็ทำไมอ่ะกูเจ็บอ่ะ
"งั้นก็เชิญมึงเน่าต่อไปเถอะ กูนอนละฝันดี" พูดจบมันก็เดินหายเข้าไปในห้องนอนมันทันที
" อะ ไอ้ห่า! แม่งกวนตีนแล้วมึงจะให้กูนอนไหนวะเนี่ย!!!" ตอนนี้ผมเริ่มอารมณ์เสียนิดๆ เพราะตอนนี้ใกล้จะเช้าแล้วแต่ผมยังไม่ได้นอนแถมยังต้องมาเจ็บตัวอีก น้ำก็ยังไม่ได้อาบจะนอนตรงไหนก็ยังไม่รู้ แล้วห้องนี้ก็เปิดแอร์ยังกับจะเลี้ยงเพนกวิน ห่า แล้วหนึ่งเดือนต่อจากนี้กูจะเจออะไรบ้างวะเนี่ย
"มึงถูกใจตรงไหนก็เลือกตามสบายเลย ฝันดี"
ไอ้สัส!! มึงแกล้งกูใช่ไหมเนี่ย ได้เลยมึงจะลองใช่ไหม ซอลจัดให้!!!
.
.
.
. .
ตอนนี้เวลาตี4แล้วผมที่ควรจะหลับไปแล้วกับมานั่งมองใบหน้าของคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนโต๊ะทานข้าวของผมที่ยาวพอดีกับตัวมันเปะๆ ใช่ครับทุกคนฟังไม่ผิดมันคือโต๊ะทานข้าวจริงๆเพียงแต่ว่ามันมีผ้าห่มนวมที่ผมคาดว่ามันคงไปรื้อๆค้นๆเจอในห้องนอนเล็กมาปูรองบนโต๊ะ ที่ควรนะอยู่ในห้องครัวแต่ตอนนี้มันกับมาอยู่กลางห้องโถงใหญ่เสียอย่างนั้น ส่วนชุดโซฟาของผมที่มันควรจะว่างอยู่ตรงจุดที่ไอ้ตัวดีมันนอนอยู่กับไปกองระเนระนาดอยู่ชิดผนังอีกฝั่ง ไหนมันบอกว่ามันเจ็บขาไงวะ คนเจ็บขามันทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ คือมึงเกรียนใช่ไหมซอล
" คนเจ็บขาที่ไหนเขาทำได้ขนาดมึงบ้างนะ" ผมได้แต่ส่ายหน้าระอากับการกระทำของมัน จะด่าก็ไม่ได้ แม่งนอนหลับสนิทเชียวนะมึง สงสัยจะฝันดีซะด้วยนะนั้นดูสิปากเล็กๆสีแดงระเรื่อของมันเผยขึ้นน้อยๆ
" ผู้ชายที่ไหนเขาปากแดงตาโตตัวเล็กแบบมึงบ้างวะ" ผมนั่งยองๆลงตรงหน้ามันแล้วไล้มือไปบนใบหน้าสวยของคนที่หลับอยู่
ผมยอมรับนะว่าซอลมันดูดีมากถึงนิสัยมันจะห่ามๆตามประสาเด็กวัยรุ่นแต่ใบหน้ามันกับน่ารักยิ่งกว่าผู้หญิงซะอีก มือใหญ่หยุดอยู่ที่ริมฝีปากแดงของร่างเล็กนิ่งนาน และเหมือนมีแรงอะไรบางอย่างดึงดูดให้คนตัวสูงค่อยๆโน้มใบหน้าลงไปใกล้ แล้วจรดฝีปากลงกับริมฝีปากบางอย่างแผ่วเบา เนิ่นนานกว่าที่ร่างสูงจะถอนริมฝีปากออกโดยไม่มีการลุกล้ำอะไรเลย ร่างสูงที่เงยหน้าขึ้นมามองร่างโปร่งที่นอนอยู่นิ่งนาน ก่อนที่จะห่มผ้าให้คนที่หลับไม่รู้เรื่องและจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องนอน
" พรุ่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของบทเรียนที่พวกมึงต้องได้รับ......."
X
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ