Class Room ห้องเรียนอลวนกับรักอลเวง

8.6

เขียนโดย ProudZA

วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.13 น.

  10 บท
  23 วิจารณ์
  15.37K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556 21.39 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) บทที่1โรงเรียนใหม่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่1
โรงเรียนใหม่   

  8ปีผ่านไป

     ภายในห้องห้องหนึ่งที่เงียบสงัด มีการตกแต่งอย่างเรียบง่าย เตียงขนาดใหญ่อยู่ริมหน้าต่าง ภายในเตียงนั้นมีร่างของหญิงสาว ที่นอนขดตัวอยู่ในผ้านวมอย่างสบายใจ ใบหน้าที่ไกลจากเครื่องสำอาง ผิวขาวเนียนละเอียด ดวงตากลมโตสองชั้น แพนขนตายาวอย่างไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางแม้แต่นิด  หญิงสาวที่นอนหลับไหลอยู่นั้นจัดได้ว่าเป็นหญิงงามที่หล่นลงมาจากสวรรค์ก็ไม่ปาน                     
     
             "โอฮาน่า! โอฮาน่าได้ยินแม่มั้ยลูก!"

     เสียงเคาะประตูที่ดังมาติดๆ ทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียงอย่างสบายต้องลุกขึ้นมาด้วยใบหน้า เหยเก เธอลุกจากเตียงและเดินไปเปิดประตให้ผู้เป็นมารดา แม้ปากจะหาวไปทุกครั้งที่พูดกับมารดาก็ตาม

            "ค่าแม่ มีอะไรเหรอคะ?"
            "นี่ลูกลืมไปแล้วรึไง ว่าวันนี้เป็นวันที่หนูต้องไปโรงเรียนนะ"
 
     ผู้เป็นมารดาส่ายหน้าให้กับความขี้ลืมของลูกสาวอย่างจนใจ จนเจ้าตัวอดนึกสงสัยไม่ได้ว่า ลูกของเธอคนนี้ไปถอดแบบมาจากใครกันแน่

            "เห๋....วันนี้แล้วเหรอคะ โอฮาน่ายังไม่อยากไปเลยอ่า"

      หญิงสาวพูดกับผู้เป็นมารดาด้วยใบหน้าออดอ้อน จนคนเป็นแม่ต้องส่ายหน้าอีกครั้งด้วยความระอาใจปน ขำนิดๆกับกริยาท่าทางของหญิงสาว

           "ไม่ได้ๆ วันนี้เป็นที่หนูต้องไปโรงเรียนใหม่ไม่ใช่รึไง"
           "โธ่แม่คะ แม่ก็รู้ว่าหนูไม่อยากไปหาเพื่อนใหม่นี่นา อีกอย่างหนูจะเข้ากับคนอื่นได้รึเปล่าก็ไม่รู้"
           "เอาน่าลูก ยังไงวันนี้ก็เป็นวันเปิดเทอมหนึ่งไม่ใช่เทอมสอง ยังไงก็ต้องมีคนเข้าใหม่เหมือนลูกอยู่บ้างไม่มากก็น้อย อีกอย่างโรงเรียนนี้มีแค่ระดับชั้นเดียวคือม.6 เพราะฉะนั้นทุกคนที่เข้ามาเรียนก็ไม่มีใครรู้จักใคร ลูกไม่ต้องกลัวหรอกนะจ๊ะ"

     หญิงสาวในอ้อมกอดมารดาใจชื้นขึ้นมาบ้างกับคำปลอบโยน ของผู้เป็นมารดา   ถึงแม้ในใจเธอจะนึกสงสัยโรงเรยนประหลาดแห่งนี้ก็ตามที แต่เธอก็ทำได้แค่เก็บไว้ในใจ เพราะไม่อยากแสดงความกังวลให้ผู้เป็นมารดาเห็นมากนัก ด้วยเกรงว่าแม่ของตนจะเป็นห่วง
      หลังจากใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่ถึง20นาทีบวกกับเวลากินข้าวอีก10นาที ญิงสาวก็เดินมากอดผู้เป็นมารดา

            " หนูจะพยายามนะคะ งั้นหนูไปก่อนนะคะแม่ สวัสดีค่ะ"

     ผู้เป็นมารดามองหญิงสวที่เดินจากไป หากลูกสาวสังเกตุสักนิด จะเห็นร่องรอยแห่งความยินดีของผู้เป็นมารดา ลูกแม่ ลูกโตแล้วจริงๆ ความหวังของอาณาจักรของเรา ขึ้นอยู่ที่ลูกแล้ว แม่ขอฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ลูก และ.....โรงเรียนแห่งนี้ด้วย 

            "เฮ้อ  โอฮาน่าสู้ตาย!"

     หญิงสาวตะโกนออกมาเบาๆเพื่อเรียกกำลังของตน เธอเดินตามทางเดินไปเรื่อยๆก็เห็นตัวโรงเรียนมาแต่ไกล รอบข้างก็มีคนใส่ชุดนักเรียนคล้ายๆเธออยู่ไม่น้อย แต่ละคนต่างเดินจับกลุ่มคุยกันอย่างสนุกสนานตลอดการเดิน ชุดนักเรียนที่เธอใส่เป็นชุดที่ติดจะแตกต่างจากโรงเรียนทั่วไปอยู่มาก กระโปรงสีม่วงที่เธอใส่อยู่มันสั้นมากจนเลยเข่าของเธอมาเกือบคืบ แต่ดีที่ว่าทางโรงเรียนออกกฏให้นักเรียนหญิงทุกคนใส่กางเกงขาสั้นไว้ข้างในต้องเป็นสีดำเท่านั้นอีกต่างหาก ซึ่งเธอก็สงสัยว่าทำไมไม่ให้ใส่กระโปรงยาวไปเลย จะได้ไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยาก

แต่สิ่งที่เธอชอบและเกิดอาการแปลกใจที่สุดคือเสื้อเชิ้ดนั่นเอง เป็นเสื้อแขนกุดสีดำมีแถวน้ำเงินเป็นรูปไม้กางเขนประดับอยู่ข้างๆด้วย โบขนาดใหญ่สีม่วงประดับอยู่ มันถือเป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับเธอมากเพราะตั้งแต่จำความได้ชุดนักรียนของเธอนั้นกระโปรงต้องยาวโบต้องไม่ใหญ่มาก แถมต้องถักเปีย แต่โรงเรียนนี้กลับปล่อยอย่างอิสระ ไม่จำกัดทรงผมนักเรียนอีกต่างหาก

     เมื่อเดินมาสักพักก็ถึงประตูโรงเรียนที่เป็นสีทองอร่ามขนาดใหญ่ มีสิงโตสองตัวเป็นรูปปั้นขนาบทั้งสองข้าง อาคารเรียนมีการตกแต่งสไตล์ค่อนข้างจะประหลาด รูปร่างอาคารมีลักษณะเป็นทรง6เหลี่ยมหนึ่งหลัง รอบอาคารจะเป็นสนามขนาดใหญ่สองสนาม อาคารเรียนส่วนให่ญนอกจากทรง6เหลี่ยมแล้วก็ถือเป็นอาคารรูปร่างธรรมดา แต่ก็ออกจะมีสไตล์การอกแบบและตกแต่งแบบยุโรปผสมอยู่ สีของอาคารดูเหมือนจะเน้นสี น้ำตาลทอง และมีวงกลมเป็นลวดลายแปลกๆอยู่รอบโรงเรียน

สนามสองสนามขนาดใหญ่นั้นมีอุปกรณ์อุนวยความสะดวกอย่างเช่น พักลม จอมอร์นิเตอร์ขนาดใหญ่ และอีกจิปาถะมากมายภายในสนาม และยังมีอีกสนามที่เธอเพึ่งจะเห็นตอนเดินเข้ามา คือสนามที่ใช้เข้าแถว ภายในสนามนั้นมีโคลงแก้วขนาดใหญ่ซึ่งเขาบอกว่ามันเป็นแก้วที่กันรังสีUV โดยเฉพาะ นอกจากนี้้ข้างในสนามยังติดแอร์อย่างดีที่ป้องกันผิวเสียเนื่องจากมันผสมน้ำแร่ธรรมชาติอยู่(อะไรจะOVERปานนั้น =w=) 

              "ให้ตายเหอะ นี่ตกลงมันเป็นโรงเรียนหรือสิ่งอำนวยความสะดวกของนักเรียนกันแน่"

      หญิงสาวบ่นอย่าง งงๆ แต่ความตกใจของเธอก็ยังคงไม่หมด เมื่อเธอเดินไปดูรายชื่อนักเรียนทั้งหมดที่เข้ามาเรียนนั้นแม่แค่ 15 คน!! ห้องเรียนมีแค่ห้องเดียว แต่หญิงสาวก็ยังคงมีความตกใจอยู่ในที เพราะห้องเรียนห้องนี้มันกว้างกว่าห้องเรียนธรรมดาถึง3เท่า(แม้ว่าห้องของเธอนั้นจะใหญ่น้อยกว่านี้นิดหน่อยก็ตามที)โต๊ะเรียนเป็นโต๊ะธรรมดา แต่ติดที่ว่ามันมีคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุดประดับอยู่ทุกโต๊ะ กระดานเรียนก็สุดแสนจะไฮเทค กระดานที่ใช้สอนนั้นเป็นแบระบบสัมผัส สามารถเขียนและลบเองได้อัตโนมัดอีกด้วย

  นักเรียนทุกคนขอให้มาเข้าแถวหน้าเสาธงด้วยค่ะๆ

       เสียงประกาศของคุณครูตามมาติดๆ นักเรียนทุกคนต่างพากันทยอยออกมาเข้าแถวในสนาม ถ้าให้เธอประเมินนักเรียนของที่นี่ 90%คือลูกคุณหนูชัดๆ! และแน่นอนว่าหน้าตาของนักเรียนที่นี่ไม่ใช่ธรรมดา แต่ละคนหล่อสวยไม่มีที่ติ จนเธอที่คิดว่าตัวเองหน้าตาดีแล้วยังตกใจเลย(ไม่ค่อยหลงตัวเองเลยเนอะ555) เมื่อนักเรียนทุกคนมาเข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งก้าวขึ้นมา ใบหน้าของเธอดูอ่อนโยน ถึงจะมีรอยเหี่ยวย่นตามวัยแล้วก็ตามที

             "สวัสดีนักเรียนที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มาพบพวกเธอในวันนี้ อย่างที่พวกเธอทราบว่า โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่รับเฉพาะเด็กมัยมศึกษาปีที่6เท่านั้น พวกเธอทุกคนอาจสงสัยว่าทำไม แต่ความสงสัยนั้น ครูคิดว่าภายในวันนี้พวกเธอต้องได้คำตอบอย่างแน่นอน ครูหวังว่าพวกเธอทุกคนจะเคารพในกฏเกณฑ์ของที่นี่กัน ถ้าพวกเธอเข้าไปในห้องเรียนในคาบแรกจะมีคุณครูเข้ามาบอกพวกเธอเอง"

      อาจารย์คนนั้นยิ้มให้นักเรียนอย่างเป็นมิตร และมองไปรอบๆด้วยความภาคภูมิใจหลังจากนั้นเธอก็กล่าวอะไไรอีกนิดหน่อย จนถึงเวลาเข้าห้องเรียน

             "เอาละ ตอนนี้ก็เป็นเวลาอันสมควรแล้วครูขอเชิญนักเรียนทกคนเข้าห้องได้ค่ะ"

      นักเรียนทั้งหมดต่างพากันทยอยเข้ามาในห้อง แต่ละคนต่างนั่งประจำที่ของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าที่นั่งที่ โอฮาน่านั่งคือริมหน้าต่างแถวหน้าสุด
  
             "จะรอดไหมหนอเรา"

       หญิงสาวรำพึงกับตัวเองอย่างเหนื่อยอ่อน แต่จู่ๆข้างๆเธอก็ีมีหญิงสาวท่าทางน่ารักน่าทะนุถนอมเข้ามานั่งใกล้ๆ หญิงสาวคนนั้นหันมามอง และยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร

             "สวัสดีจร้า เราชื่อพราวนะ ยินดีที่ได้รู้จัก"

       เมื่อโอฮาน่าเห็นว่าเธอดูเป็นคนดี จึงยิ้มตอบกลับไปและเริ่มแนะนำตัว แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ทั้งสองคนก็สนิทกันอย่างรวดเร็ว หญิงสาวทั้งสองคนคุยกันอย่างถูกคอ แต่ก็ถูกขัดจังหวะขึ้น เมื่ออาจารย์เดินเข้ามาในห้อง และพวกเธอก็ต้องประหลาดใจปนขำนิดๆ ที่อาจารย์ที่เดินเข้ามาสูงไม่ถึง155cm.ด้วยซ้ำ อาจารย์ที่เดินเข้ามา หันมามองหน้านักเรียนทุกคนพร้อมกับโค้งคำนับอย่างสุภาพ

             "สวัสดีนักเรียนทุกคน ก่อนจะแนะนำตัว ครูคงต้อง ขอบอกกฏของโรงเรียนแห่งนี้ก่อน และจนกว่าครูจะพูดจบห้ามมีใครขัดเด็จขาด เข้าใจไหม"
             "เข้าใจค่ะ/ครับ"
             "ดีมาก กฏข้อ1ห้ามใช้กำลังภายในโรงเรียน 2ห้ามหนีนอกโรงเรียน ถึงพวกเธออยากจะหนีก็หนีไม่พ้นอยู่ดีละนะ 3ห้ามทำ้ร้ายประชาชนในเมือง...."
             "ประชาชนในเมืองหมายความว่า..."
             "ฉันบอกแล้วใช่ไหม ว่าห้ามขัด" 

       อาจารย์เตือนนักเรียนชายคนหนึ่งด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่แผงด้วยรอยอำมหิต ทำให้นักเรียนทุกคนต่างสงบปากสงบคำกันอย่างพร้อมเพรียง

              "เอาละต่อนะ ข้อ4เวลาเรียนห้ามทำร้ายกันจนถึงขั้นเลือดตกยางออก 5ห้ามนำคาทาหรืออาวุธทุกชนิดเข้ามาภายในโรงเรียน 6ห้ามเรียนศาสตร์มืดทุกชนิด 7ตึกทรง6เหลี่ยมของโรงเรียนห้ามนักเรียนเข้าจนกว่าจะถึงเวลาอันสมควร"
              "เวลาอันสมควรคืออะไรเหรอคะ"

        เด็กนักเรียนหญิงใจกล้าคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้น แต่คราวนี้ผู้เป็นอาจารย์ไม่ได้ถือโทษแต่อย่างใด กลับยิ้มและตอบว่า

              "เมื่อถึงเวลาพวกเธอจะรู้เอง แต่ก่อนอื่นครูขอให้นักเรยนทุกคนหลับตาและหาที่เกาะไว้แน่นๆละ"

         นักเรียนทุกคนต่างมีสีหน้าสงสัยแต่ความสงสัยพลันหายไปทันที เมื่อจู่ๆก็เกิดแผ่นดินไหวฉับพลัน จนนักเรียนทุกคนต่างพากันหาที่หลบภัยอย่าวุ่นวาย แต่แล้ว ดูเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างค่อยๆดับไปอย่างช้าๆ........

              "โอฮาน่า ตื่นสิ โอฮาน่า"
              "หืม.....พราวเหรอ"

          ฉันลุกขึ้นมาอย่างมึนๆ แต่แล้วสายตาก็พลันไปเห็น ทุกคนในห้องต่างมองออกไปที่นอกหน้าต่างเป็นตาเดียว เมื่อฉันลองมองออกไป ก็ต้องตกตะลึง เพราะภายนอกหน้าต่าง ล้วนเต็มไปด้วยสัตว์มีปีกมากมายทั้งมังกร ม้าบิน และสัตว์ในเทพนิยายมากมาย บ้านเมืองที่มีแต่ตึกและรถยนต์แล่นไปแล่นมา บัดนี้กลับกลายเป็นกำแพงขนาดใหญ่ที่ทำหน้าที่เป็นรั้ว แต่ก็ยังพอจะมองออกไปข้างนอกกำแพงได้บ้าง แต่สิ่งที่เห็นกลับเป็นตลาดและบ้านเมืองชั้นเดียวที่มีรูปทรงเหมือนบ้านในอดีต ผู้คนต่างถือคทาขนาดใหญ่เดินไปเดินมา ในขณะที่นักเรียนกำลังตกใจ คุณครูก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มขำๆว่า

            "เอาละนักเรียนทุกคน ขอต้อนรับเข้าสู่ 'เดเรสเฟล' เมืองแห่งจอมเวท......"
           
           

       # แนะนำให้อ่านบทนำก่อนนะคะ

   

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา