---LoveSad รักเลวๆ ของคนอย่างนาย---

9.0

เขียนโดย WinnerShadow

วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.44 น.

  10 chapter
  11 วิจารณ์
  17.61K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 กันยายน พ.ศ. 2556 14.10 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) LoveSad --Chapter 8 ระบาย...--

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Chapter 8

 

 

 

            สุดท้าย...

            แผนที่จะสะกดรอยตามมิยะที่ริวเนะเป็นห่วงเป็นใยนักหนาก็ต้องหยุดลง เนื่องจากริวเนะคลาดสายตากับมิยะที่เดินเข้าไปในตรอกทางที่แคบ เลยกลายเป็นหน้าที่ผมที่ต้องมานั่งปลอบใจเพื่อนผู้หวังดีที่ต้องมาสิ้นหวังไปในทันทีหลังจากที่ออกมาจากบ้านของริวเนะได้เพียงครึ่งชั่วโมง

            “ไม่ต้องคิดมากหรอกน้า~ ถ้ามีรอบหน้าค่อยสะกดรอยตามไปใหม่ก็ได้นี่..” ผมปลอบ

            “คิดว่ามันจะง่ายขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ? นานๆ ทีนะที่หมอนั้นจะไปทำงานพิเศษ”

            “ทำไมงั้นละ? งานพิเศษเนี่ย ส่วนใหญ่มันทำเวลาเดิมนะ” ผมพูด

            “ก็หมอนั้นบอกว่าเวลาทำงานมันไม่แน่นอน ฉันก็เลยเครียดอยู่นี่ไงว่าจะตามไปยังไงน่ะ”

            “อ่อ...” ผมเข้าใจ งานที่ไม่มีความแน่นอนอย่างงี้ เงินมันจะดีเหรอ? ตามที่ริวเนะบอกก่อนจะออกมาที่นี้คือ เห็นถุงเอกสารหนา ขนาดเท่าจำนวนเงิน จะเยอะเกินไปมั้ยนั้น

            “อ้าว.. คุณเมลท์” เสียงหวานเต็มไปด้วยเสน่ห์ดังขึ้นจากด้านหลังริวเนะที่ยืนก้มหน้าผิดหวังอยู่ นั้นคือเสียงของคนที่เคยช่วยผมไว้ตอนที่ได้แผลจากการกระทำที่เลวร้ายของพวกเคลียร์

            “เคน? มาได้ไงเนี่ย..?”

            “ผมมาเดินเล่นน่ะครับ แล้วกะจะไปหาพี่เขาสักหน่อย”

            เคลียร์น่ะเหรอ...?

            “แล้วไม่มีเรียนเหรอเคน? ดูจากท่าทางของนายแล้ว ไม่น่าจะใช้คนชอบโดดเรียนนะ”

            “เห็นแบบนี้ แต่สมัยผมอยู่ต่างประเทศน่ะ ผมก็โดดเรียนมาหลายครั้งนะครับ แถมยังใช้หลายวิธีด้วย”

            หลาย..วิธีงั้นเหรอ..?

            ไม่ทันที่ผมจะถามต่อก็ต้องแปลกใจ เมื่อคนที่ยืนข้างๆ ผมตั้งแต่ออกมาแล้วมีท่าทีสิ้นหวังเมื่อกี้ ดันหายไปจากข้างๆ ผมแล้ว ผมจึงหันไปมองรอบๆ เพื่อหาตัวริวเนะที่หายตัวไปอย่างรวดเร็วในระหว่างที่ผมกำลังสนทนากับคนอื่น ไอ้เพื่อนคนนี้นิ...

            “หาอะไรเหรอครับ?” เคนถามเมื่อเห็นท่าทีที่แปลกไปของผม

            “อ่อ.. หาเพื่อนน่ะสิ เมื่อกี้ยังยืนคอตกอยู่เลย”

            “ถ้าพูดถึงรุ่นพี่คิดะล่ะก็.. เขายืนแอบอยู่ในตรอกซอยน่ะครับ” คำตอบของเคนทำให้ผมต้องรีบหันไปที่ตรอกซอยระหว่างตัวอาคาร ใช่.. อย่างที่เคนพูดไม่มีผิด ริวเนะยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆ แต่ท่าทางมันตรงข้ามกับความสิ้นหวัง มันกลายเป็นท่าทีของคนที่ออกอาการตื่นเต้น ไม่ก็กำลังหลบหน้าคนที่ชอบยังไงอย่างงั้น

            “ริวเนะ! นี่นายทำอะไรน่ะ?” ผมตะโกนถามผู้เป็นเพื่อน

            “ก็ฉันไม่อยากเจอหน้าไอ้โรคจิตนั้นนิ!!” คำตอบที่ได้รับนั้นทำให้ผมงงนิดหน่อย แต่ก็เดินไปลากเพื่อนออกมา ไม่คิดเลยว่ามันจะพยายามดึงตัวเองกลับเหมือนกับว่าไม่จะไปตามที่ผมต้องการ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมถูกปฏิเสธจากเพื่อนคนนี้เลยก็ว่าได้...

            “อะไรของนายเนี่ย!? ฉันมีคนจะแนะนำให้รู้จัก”

            “ฉันไม่อยากรู้จักหรอก! แถมมันยังปล่อยคำสาปบ้าๆ ใส่ฉันอีก!”

            “คะ..คำสาป..?” ในระหว่างที่ผมกำลังพึมพำอยู่นั้นเอง ร่างที่สูงกว่านิดหน่อยก็เดินเข้ามาใกล้จนริวเนะร้องเสียงหลงเหมือนรังเกียจเคนที่เดินเข้ามาใกล้

            “แหม่ๆ โหดร้ายจังนะครับรุ่นพี่ ผมไม่เคยปล่อยคำสาปใส่พี่สักหน่อย แต่ปล่อยความรักเพียงหนึ่งเดียวให้คุณก็เท่านั้นเองน้า~”

            “ขนลุกเฟ้ย! ออกไปไกลๆ เลย!!”

            “ไม่เอาน่า..ลูกแมวน้อย อย่างน้อยๆก็ช่วยเชื่องกับผมก็ยังดีนะครับ”

            “อย่ามากวนประสาทให้กระตุกขาขึ้นเหวี่ยงสิฟ่ะ!! ไปไกลๆ เลย” ขาของริวเนะเหมือนกึ่งยกกึ่งวาง ท่าทางเหมือนจะถีบเคนด้วยท่าทางโมโหและรังเกียจปะปนกันไป

            “นี่พูดกันเหมือนรู้จักกันเลยนะ มีความสัมพันกันยังไงเหรอ?” ทันทีที่ผมถามด้วยเสียงเรียบๆ ก็เหมือนจะไปกระตุกต่อมของทั้งคู่เข้าด้วยแรงเสียดทานที่ต่างกัน เพราะคำตอบดูจะต่างกันสุดขั้ว

            “แน่นอนว่าเป็นแฟนครับ รุ่นพี่คิดะเป็นคนที่น่ารักเกินบรรยายจริงๆ / เป็นแค่หัวหน้าแก๊งที่จะยกพวกมากระทืบไอ้โรคจิตนี่ให้ลุกไม่ได้สักสองอาทิตย์เท่านั้นเอง!!” คำตอบช่างต่างกันสุดขั้วจริงๆ นั้นแหละ ไอ้ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อก็..

            “แฟนเหรอ!? บ้านแกสิ! นี่อยากลุกไม่ได้ไปหนึ่งปีเลยใช่มั้ย!!?”

            “ทำไมละครับ เราก็จูบกันมาแล้ว ผมละอยากจะพารุ่นพี่เข้าโรงแรมแถวนี้แล้วปล้ำซะจริงๆ”

            “นี่แก!! อยากไปเฝ้าพระเจ้าใช่มั้ย!!?”

            “แถวนี้มีโรงแรมน่าเข้าอยู่นะครับ ไม่ไปจริงๆ เหรอ?”

            “โว้ย!!! พอที!!” ทันทีที่ริวเนะพูดจบ ร่างของผมก็ถูกริวเนะลากไปด้วยแรงที่ไม่เหมือนทุกที ประมาณว่าวิ่งไปพร้อมๆ กับการหนีแบบหัวซุกหัวซุน ผมเหลือบไปมองเคนที่ยืนหัวเราะคิกคัก ก่อนจะหันกลับไปมองข้างหน้าดูหน้าเพื่อนตัวเอง

            หูแดงเลยละ...?

 

            “แฮ่ก..แฮ่ก...” เสียงหอบดังออกมาจากปากของริวเนะที่วิ่งมายังสวนสาธารณะที่หนึ่ง ซึ่งเมื่อก่อนผมเคยมากับเคลียร์ พอมองสวนสาธารณะที่ตอนนี้มีแต่อากาศร่มรื่นเย็นสบาย ก็นึกถึงเรื่องราวที่หัวเราะด้วยกันกับเคลียร์ ผมมักจะมานั่งชิงชาคนเดียว ส่วนเคลียร์ก็มายืนพิงชิงชาและพูดคุยถึงเรื่องที่โรงเรียนบ่อยๆ ความรู้สึกมีดีๆ แล่นเข้ามาแทนที่ความเจ็บปวดทั้งหมด ถ้ากลับไปที่บ้านแล้วได้พบความสุขเหมือนเมื่อก่อนก็คงจะดีไม่น้อย...

            มือยกขึ้นจบปริเวณรอยที่โดนกัดอย่างเสียใจ แต่ก็รู้สึกโล่งใจเมื่อมีรอยนี้มาแทนที่เหมือนความใจดีของเคลียร์จากการให้โอกาสเขา

            “เป็นอะไรน่ะเมลท์...?” ริวเนะถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง ดูเหมือนจะกลับเป็นคนเดิมแล้ว

            “ฉันไม่เป็นไร แต่นายนั้นแหละ เมื่อกี้เป็นอะไรเหรอ?” ผมถามกลับไป ริวเนะหน้าแดงขึ้นมาจนถึงใบหู นั้นหมายความว่าคงไปเจอเรื่องดีๆ อย่างการพบรักแรกเข้าให้ หากแต่ตัวเองกลับไม่รู้ตัว

            ซึนจริงๆ นั้นแหละ...

            “มะ..ไม่มีอะไร! แค่บังเอิญเกิดเรื่องแย่ๆ นิดหน่อย”

            “แย่ขนาดไหนละนั้น ถึงได้วิ่งหนีซะขนาดนี้”

            “ไม่ได้หนีนะเฟ้ย!!”

ท่าทางจริงจังแบบพวกซึนๆ บังเกิดขึ้นมาในตัวของเพื่อนคนนี้อย่างเต็มที่

            “ไม่หนีก็ไม่หนี แล้วทำไมนายถึงพูดกับเคนอย่างกลัวๆ แบบนั้นละ”

            “ไม่ได้กลัวเฟ้ย!!!”

            หนักกว่าเดิม หน้าแดงเป็นมะเขือเทศแล้วนั้น...

            ผมกะจะถามต่อ แต่พอคิดดีๆ ผมก็เลยรอให้ริวเนะใจเย็นลงก่อน เพราะถ้าให้พูดออกมาตอนนี้ มีหวังเกิดอาการยันเดเระขึ้นมากับ มันจะมีปัญหา ผมทำได้เพียงพาริวเนะไปนั่งที่ชิงช้า เราสองคนนั่งไปได้สักพักก็เกิดคำถามขึ้น

            “เคลียร์ทำอะไรนายอีกรึเปล่า?” คำถามที่เกิดจากน้ำเสียงจริงจังจากริวเนะพูดขึ้น

            “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า” ผมตอบด้วยเสียงกลั้วหัวเราะพลางหันไปยิ้ม

            “เคลียร์ทำอะไรอีกมั้ย?” คำถามคล้ายเหมือนเดิมพูดออกมาอีกครั้ง

            “เขาไม่ได้ทำอะไรฉันหรอก” ผมตอบด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิม

            “มันทำอะไรนายอีกมั้ย?” อีกครั้ง

            “ขะ..เขาไม่ได้..ทำอะไรนี่...” เสียงของผมเริ่มพูดติดๆ ขัดๆ

            “นี่มันทำอะไรนายเหรอไง? ฉันแค่ถามให้แน่ใจเองนะ ทำไมนายต้องพูดเสียงเหมือนจะร้องไห้ด้วย” คำพูดของริวเนะทำให้ผมสะดุ้งนิดหน่อย เสียงของผมเนี่ยนะ เหมือนจะร้องไห้งั้นเหรอ...? นายเข้าใจผิดรึเปล่าริวเนะ

            “ไม่ใช่แค่เสียงนะ..” ริวเนะหันมามองหน้าผมด้วยสีหน้าจริงจัง “แม้แต่รอยยิ้มของนายก็ด้วย”

            “เอ๊ะ?”

            “ถึงจะยิ้ม แต่ก็เหมือนจะร้องไห้ นายมีอะไรอยากพูดอยากระบายก็ปล่อยออกมาสิว่ะ” ริวเนะพูด แต่จริงๆ มันไม่เป็นไรแล้วละ.. เพราะเคลียร์เขาจะปล่อยฉันให้เป็นอิสระ จนกว่ารอยกัดที่รุนแรงนี้จะหายไปยังไงละ เขาให้โอกาสฉันนะริวเนะ...

            “เคลียร์บอกว่าจะปล่อยให้ฉันเป็นอิสระสักพัก เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ” ผมหันไปพูดด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิม ริวเนะถอนหายใจแล้วยิ้มให้ผม คงจะเชื่อสินะ

            “ถึงหมอนั้นจะให้โอกาสนาย แต่นายก็อย่าประมาทเกินไปนะ เพราะบางทีฉันอาจจะช่วยนายไม่ทันก็ได้” ริวเนะพูดด้วยรอยยิ้มเป็นเชิงให้กำลังใจ ผมอดไม่ได้จริงๆ ถ้าจะไม่กอดเพื่อนที่คนนี้ คนที่มักจะให้กำลังใจผมอยู่เสมอ

            “ขอบคุณนะริวเนะ แต่ช่วยบอกฉันได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างนายกับเคนน่ะ”

            “เฮ้อ... บอกแล้วก็อย่าหัวเราะละ” ริวเนะพูดเหมือนจะไม่อยากพูดเท่าไร

            หลังจากนั้นเพื่อนคนนี้ก็เล่าด้วยท่าทีรังเกียจสิ่งที่ตัวเองพูด เห็นบอกว่าเสียจูบแรกให้เคนไปโดยไม่ทันตั้งตัว แถมยังต่อหน้าลูกน้องในแก๊งเกือบจะทุกคน ตอนนี้เลยขู่ปิดปากไอ้พวกนั้นว่าถ้าใครไม่ลืมจะเอาให้ลุกไม่ได้สองอาทิตย์ แน่นอนว่าต้องสงสารเพื่อนคนนี้ที่มีสไตล์ผู้หญิงเป็นของตัวเองแท้ๆ แต่ก็ต้องเสียไปสินะ...

            จริงๆ จากที่ริวเนะเล่ามา ผมก็เชื่อนะ เพราะท่าทางมันฟ้องว่ามันโดนจริงๆ

            แต่รู้สึกแปลกตั้งแต่ที่บอกว่าโดนจูบเข้าให้แล้วละ เพราะถ้าเป็นริวเนะเพื่อนผมจริงๆ ป่านนี้คงจะยกพวกไปรุมเคนถึงบ้านไม่ก็วางกับดักแล้วละมั้ง? ไม่ก็คงเล่นจนลุกไม่ได้ตั้งแต่ที่โดนแตะเนื้อต้องตัวเลยด้วยซ้ำ หากแต่ริวเนะไม่ทำเลยสักอย่าง นั้นหมายความว่า...

            .

            .

            ความรักของหนุ่มซึนหรือนี่...?

 

 

------------------------------------------------------------

 

            ตอนนี้คงจะไม่ค่อยหน้าสนใจเท่าไร แต่ตอนหน้าคงจะมีให้ลุ้นซะแล้วละครับ

            เพราะมันจะเริ่มเข้าสู่เนื้อเรื่องอย่างเข้มข้นจริงๆ แล้วละ

            ต้องขอโทษที่หายไปเกือบจะครบอาทิตย์นะครับ พอดีปวดหัวนิดหน่อย แถมผมก็รู้สึกไม่ค่อยดีพอเห็นตัวหนังสือเยอะๆ ด้วย ไว้เจอกันตอนหน้านะครับ สักสองสามวันนะ เพราะผมไปเที่ยวต่างจังหวัด

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา