เงารัก...อธิษฐาน[อ่านต่อจากตอนที่ 25 นะเออ]
9.8
เขียนโดย บุหงา
วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.04 น.
29 ตอน
6 วิจารณ์
35.18K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 มกราคม พ.ศ. 2557 12.50 น. โดย เจ้าของนิยาย
21) ตอนที่ 21-100%
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ~21~
ความเปลี่ยนแปลง
เช้าวันรุ่งขึ้นคุณพ่อก็หายไป หายไปเงียบ ๆเลย แต่ถ้าบอกท่านอาจไปทำงานก็ได้ แต่มีผู้บริหารที่ไหนลุกออกไปทำงานตอนตีห้ากันจริงไหม
ขอให้คุณพ่อทำให้สำเร็จแล้วกันคะ ดาวเอาใจช่วย ฉันบอกตัวเองในใจเงียบๆ ทุกคนคงสงสัยว่าทำไมบ้านเงียบใช่ไหม พี่มีนพักอยู่คลับสุขภาพ คุณปู่พาคุณย่าไปเที่ยว ตอนนี้เลยมีกันอยู่ในบ้านสองคน โดยที่มีฉันกับป้าแมว เท่านั้น
วันนี้ก็เหมือนเดิมทุกวันที่ฉันต้องมาทำงาน แต่ที่มันไม่เหมือนเดิมเลยคือซัน ที่พยายามเข้าหาฉันตลอด อะไรนิดอะไรหน่อยก็ขอคำปรึกษาทั้งที่ ตอนฉันอธิบายงานให้เขาฟังเขาไม่ได้สนใจเลย เอาแต่จ้องหน้าฉัน มันสุดจะทนจริงๆนะ เล่นเอาแต่จ้องหน้ากันแบบนี้ อยากจะถามว่ากินยาลืมเขย่าขวดเหรอ หรือเมื่อเช้านี้จะเดินชนเสาจนสมองได้รับความกระทบกระเทือนกันแน่
“นี่คุณเอาแต่จ้องหน้าฉันอยู่ได้ ตกลงจะฟังที่ฉันอธิบายไหม”
ฉันพูดขึ้นพร้อมจ้องหน้าซันอยากเอาเรื่อง
“ฟังครับบอส”
เขาพูดพร้อมยิ้มหวานส่งมาให้ฉัน และทำท่ากระตือรือร้นที่จะฟังในสิ่งที่ฉันพูด ฉันเลยวกเขาเรื่องงานต่อไป และหวังว่าเขาจะตั้งใจฟังฉันแล้วจริงๆ
“การออกแบบงานจัดแสดงสินค้าในเดือนหน้าคุณต้องวางคอนเซ็ป งานออกมาในรูปแบบ....”
กรี๊ดตาซันไม่ฟังฉันเลย เขาเอาแต่จ้องฉันอีกแล้ว เขาเป็นอะไรของเขากัน ซันไม่ใช่แบบนี้ แบบนี้ไม่ใช่ซัน ฉันส่ายหน้าด้วยความสับสน ใช่เขาแน่เหรอ แต่จะให้มองยังไง ผู้ชายคนที่ตาคม คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ริมฝีปากบางสวยราวกับริมฝีปากของผู้หญิงคนนี้ก็คือซันไม่ใช่เหรอ
“อ้าวพูดต่อสิครับบอส ผมฟังอยู่”
พูดจบเขาก็จ้องหน้าฉันเหมือนเดิม และสายตาที่เขาใช้มองฉัน มันทำให้ฉันอึดอัด ใครก็ได้ลากนายซันโยนทิ้งออกไปจากทางหน้าต่างตอนนี้เลย
ทุกทีสายตาของเขาที่ฉันสัมผัสได้มันมีแต่เศร้าสร้อย หม่นหมอง แล้วตอนนี้มันคืออะไร เขาล้อเล่นใช่ไหม ใช่ซันต้องกำลังฉันเล่น มันต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ
“ สัปดาห์หน้าวันเกิดผม เอาละผมไม่รบกวนบอสแล้วนะครับ ผมขอตัวไปทำงานก่อนอู้มานานแล้ว”
พูดจบซันก็ลุกออกไป แต่ที่บอกว่าอู้มานานแล้วนี่ หน็อยคอยดูนะ ฉันจะหักเงินเดือนเสียให้เข็ดเลย ฉันทำจริงๆนะ ฉันไม่ได้คิดขึ้นมาเล่นๆ
‘สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้าค่ะซัน’
“เจ้เบลครับ ซันไปตรวจงานที่คลับสุขภาพก่อนนะ เห็นบอกว่าสร้างเสร็จแล้วจะไปตรวจงานเป็นครั้งสุดท้าย ฝากบอกบอสด้วยเผื่อถามหา”
ผมพูดขึ้นพร้อมยิ้มหน้าระรื่น ก็ไม่ใช่อะไรหรอก ก็แค่คนกำลังมีความสุข ผมสังเกตได้แววตาของดาวที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงใช้มองผมตลอดเวลานั้น วันนี้มันกลับแปรเปลี่ยนไป
ผมก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมจู่ๆแววตาของเธอถึงเปลี่ยนไปได้ ผมก็ได้แต่หวังว่าดาวจะยกโทษให้ผม เวลาผมเจอหน้าเธอก็ทำได้เพียงขอโทษ ขอโทษ และก็ขอโทษ คำตอบที่ได้รับกลับมา ‘คำขอโทษที่ใช้บ่อยๆมันมักจะไม่ศักดิ์สิทธ์’ แต่ผมจริงใจนะทุกคำพูดที่กล่าวออกไป ผมจริงใจจริงๆ ไม่ได้แค่เพียงกล่าวออกไปเล่นๆเท่านั้น
มันก็สมควรอยู่หรอกที่ดาวจะไม่เชื่อใจผู้ชายโลเลอย่างผม และเหตุผลก็เป็นอันรู้กันว่าทำไม เอาละตอนนี้ผมมาถึงคลับสุขภาพแล้วละ ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่าผมมาตรวจงานครั้งสุดท้ายครับ
ผมมาแวะพักเหนื่อยที่แคนทีน เพราะสระว่ายน้ำก็อยู่ใกล้แคนทีนแค่นี้เอง อีกอย่างอู้งานสักหน่อยก็คงไม่มีใครว่าผมหรอกว่าไหม
“ขอกาแฟถ้วยหนึ่งครับ”
ผมบอกกับแม่ค้าขายน้ำในโซนบี ของโรงอาหาร อ้อที่นี้เขาแบ่งเป็นโซนครับ โซนเอจะเป็นร้านขายอาหารทั้งโซน โซนบีจะเป็นพวกน้ำดื่มอย่างที่บอกไปแล้ว ส่วนโซนซีจะเป็นพวกผลไม้ และสุดท้ายโซนดีเป็นของที่ระลึกทางคลับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตา ปักชื่อ หรือสัญลักษณ์ของคลับสุขภาพ พวงกุญแจ และมีอย่างอื่นอีกเยอะเลย มาที่นี้ตั้งหลายครั้งแล้วก็เพิ่งจะสังเกตครับว่ามีอะไรบ้าง ถือว่ามีนบริหารที่นี้ได้ดีทีเดียวครับ
“กาแฟได้แล้วค่ะ”
“ครับ”
ผมตอบรับ และยื่นเงินตามป้ายบอกจำนวนราคาที่กำหนด และถือถ้วยกาแฟกลับมานั่งที่ประจำของตัวเอง อ่าผมขอยึดเป็นที่ประจำของผมเลยแล้วกันถึงแม้จะไม่ค่อยได้มาบ่อยๆก็ตาม
นั่งดื่มกาแฟไปสักพักผมก็แทบสำลักกาแฟ คราวนี้ดินมันควงน้ำหวานออกมาทานอาหาร ผมจำได้นะครับว่า เมื่ออาทิตย์ที่แล้วดินมันควงน้ำพลอยไม่ใช่เหรอ
ยังไงครับ ผมก็ได้แต่สงสัย
“ดิน!”
เป็นเรื่องละ น้ำพลอยมาเห็นดินควงน้ำหวานจนได้ เธอเรียกชื่อดินด้วยน้ำเสียงสั่นๆ และน้ำตาก็เปื้อนแก้มใสๆของเธอเต็มไปหมดอย่างที่ผมคิดไว้ไม่ผิด ดินทำจริงๆด้วย ดูเหมือนว่ากำลังจะสำเร็จแล้วด้วยโดยใช้น้ำหวานเป็นเครื่องมือในการชำระแค้นในครั้งนี้ ผมรู้สึกผิดหวังกับดินจริงๆ
ดินต้องบ้าแน่ๆ มันเชื่อจริงๆ เหรอว่าผู้หญิงอย่างน้ำพลอยจะทำเรื่องแย่ๆแบบนนั้นได้ และผมก็ทราบมาจากพี่เบลนะว่าน้ำหวานเข้ามาทำงานที่นี้ ตอนแรกผมสับสนกับจุดประสงค์ที่เธอเข้ามาทำงานที่นี้จะว่าเป็นเพราะผมก็คงไม่ใช่เพราะผมไม่ได้ทำงานที่นี้
เป็นเพราะน้ำพลอย ใช่คงเป็นเพราะน้ำพลอย แล้วก็เกี่ยวเนื่องกับดินด้วย ผมคงห้ามดินไม่ทันแล้วละ ก็ได้แต่หวังว่าเพื่อนของผมมันจะไม่เจ็บปวดทีหลังเหมือนเท่าที่ผมเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ คิดถึงเรื่องของตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเบาๆ
“ไงจ๊ะน้องรัก ทำไมต้องร้องไห้ละเดี๋ยวไม่สวยนะ”
น้ำหวานกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มเหยียดๆ ทั้งๆที่ยังควงแขนกับดินอยู่
“ฉันไม่ใช่น้องเธอ ฉันมีพี่แค่คนเดียวคือพี่น้ำเพชรเท่านั้น ส่วนเธอไม่ใช่”
น้ำเสียงของน้ำพลอยบ่งบอกได้อย่างดีว่ากำลังเจ็บปวดมาก ผมก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมากับความใจแข็งของดิน ดูแล้วก็รู้ว่าดินแคร์น้ำพลอยมาก มันจะทำใจแข็งไปถึงไหนผมก็อยากรู้เหมือนกัน
“เหรอ แต่ช่างเถอะมันเรื่องของเธอ ดินคะเราไปหาอะไรทานก่อนที่จะถึงเวลาหวานเริ่มงานดีกว่าคะ ดินนี่ใจดีกับน้ำหวานจริงๆมาหาหวานถึงที่นี้เลย ปลื้มสุดๆไปเลยค่ะ คนที่นี้ก็ใจร้ายแกล้งหวานสารพัด”
ผมมองตามน้ำหวานกับดินไปที่โซนเอ ด้วยสายตาไม่พอใจ ดินมันใจแข็งจริงๆนั้นแหละขนาดน้ำพลอยทรุดตัวลงนั่งร้องไห้อย่างน่าสงสารมันก็ยังทำเฉยอยู่เลย งั้นก็ปล่อยมันไปเถอะ ปล่อยให้มันเจอกับคำว่า ‘ผิดไปแล้ว’ ของมันเถอะ
แล้วผมก็ลุกออกไปพอดีกับที่มีนเข้าไปพยุงตัวน้ำพลอยให้ลุกขึ้น
“มีนดินใจร้าย เขาทิ้งพลอยแค่อาทิตย์เดียวเขาก็ควงน้ำหวานมาเย้ยกันซะแล้ว”
แล้วคำพูดนี้ของน้ำพลอยทำให้มีนตวัดสายตาแค้นเคืองมาที่ผม แล้วผมเกี่ยวอะไรด้วยละ ผมส่ายหน้าด้วยความระอาใจ แล้วเดินไปตรวจดูสระที่กำลังจะสร้างเสร็จใหม่
หลังจากตรวจสระผมก็กลับที่พักเลย แต่พอมาถึงผมก็ต้องแปลกใจ ดินน่ะ มาหาผมทำไม? คงมีธุระสำคัญละมั้ง แล้วดูสิทำท่าลุกลี้ลุกหลนชอบกล เพราะเล่นเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องของผม
“ดินนายจะเต้นระบำหน้าห้องฉันรึไง”
“ซัน! ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”
พูดจบดินก็ทรุดตัวลงนั่งย่อง ๆ หน้าห้องผมอย่างหมดแรง คงไปเจออะไรที่กระเทือนใจมาละสิ ผมก็เคยเตือนไปแล้วนี่น่า มันก็เลยช่วยไม่ได้
“เรื่องน้ำพลอยเหรอ ?”
ผมถาม และฉุดดินให้ลุกขึ้นจากนั้นก็ใช้คีย์การ์ดเปิดห้องตัวเอง
“เข้ามาสิ นายจะยังไม่ไปไหนใช่ไหม ลองเล่าให้ฉันฟังสิ เรื่องมันเป็นมายังไง”
หลังจากฟังเรื่องราวของดินจบ ผมก็เข้าครัวไปหาน้ำดื่มสักพักก็เดินออกมา แล้วยื่นเบียร์กระป๋องให้ดิน แล้วทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาหน้าทีวีเหมือนเดิม
“นายแน่ใจเหรอว่าเป็นน้ำพลอยจริงๆ ไม่ใช่ว่าเข้าใจผิดหรอกเหรอ”
“ฉันไม่รู้แต่หลักฐานทุกอย่างก็ยืนยันอย่างงั้น”
ดินพูดจบก็ยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มด้วยท่าทางเหนื่อยๆ
“ไฟในใจนายน่ะมันมอดลงแล้วใช่ไหม แล้วเป็นอย่างที่ฉันว่ารึเปล่า ไฟมันเผานายด้วยใช่ไหมละ เอาละ ถึงจะเป็นน้ำพลอยจริงๆ นายก็อภัยให้เธอซะ แล้วไปขอโทษเธอ จากนั้นลองถามน้ำพลอยว่ามันเป็นแบบนั้นจริงไหม ทุกอย่างก็จบ ตอนนี้มันอยู่ที่นายแล้วนะ ดิน ฉันก็ช่วยนายได้แค่นี้ละ เพราะฉันเองก็ยังเอาตัวไม่รอดเลย”
พูดจบผมก็นั่งคอตกบ้าง คงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วละก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินกว่าจะแก้ไข สำหรับผมก็แล้วแต่ดาวจะบัญชา หากเธอไม่อยากเห็นหน้าผมอีกผมก็จะเดินจากไป แต่ถ้าหากเธอยังต้องการผม ผมก็ขอรับรองว่าจะดูแลดาวให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ผมกับดินต่างตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองเงียบๆ จากนั้นสักพักดินก็ลุกขึ้น และพูดกับผมด้วยเสียงเบาๆว่า
“ ฉันไปก่อนนะ พอดีคืนนี้มีแข่งน่ะ”
“อืมโชคดีละ”
ความเปลี่ยนแปลง
เช้าวันรุ่งขึ้นคุณพ่อก็หายไป หายไปเงียบ ๆเลย แต่ถ้าบอกท่านอาจไปทำงานก็ได้ แต่มีผู้บริหารที่ไหนลุกออกไปทำงานตอนตีห้ากันจริงไหม
ขอให้คุณพ่อทำให้สำเร็จแล้วกันคะ ดาวเอาใจช่วย ฉันบอกตัวเองในใจเงียบๆ ทุกคนคงสงสัยว่าทำไมบ้านเงียบใช่ไหม พี่มีนพักอยู่คลับสุขภาพ คุณปู่พาคุณย่าไปเที่ยว ตอนนี้เลยมีกันอยู่ในบ้านสองคน โดยที่มีฉันกับป้าแมว เท่านั้น
วันนี้ก็เหมือนเดิมทุกวันที่ฉันต้องมาทำงาน แต่ที่มันไม่เหมือนเดิมเลยคือซัน ที่พยายามเข้าหาฉันตลอด อะไรนิดอะไรหน่อยก็ขอคำปรึกษาทั้งที่ ตอนฉันอธิบายงานให้เขาฟังเขาไม่ได้สนใจเลย เอาแต่จ้องหน้าฉัน มันสุดจะทนจริงๆนะ เล่นเอาแต่จ้องหน้ากันแบบนี้ อยากจะถามว่ากินยาลืมเขย่าขวดเหรอ หรือเมื่อเช้านี้จะเดินชนเสาจนสมองได้รับความกระทบกระเทือนกันแน่
“นี่คุณเอาแต่จ้องหน้าฉันอยู่ได้ ตกลงจะฟังที่ฉันอธิบายไหม”
ฉันพูดขึ้นพร้อมจ้องหน้าซันอยากเอาเรื่อง
“ฟังครับบอส”
เขาพูดพร้อมยิ้มหวานส่งมาให้ฉัน และทำท่ากระตือรือร้นที่จะฟังในสิ่งที่ฉันพูด ฉันเลยวกเขาเรื่องงานต่อไป และหวังว่าเขาจะตั้งใจฟังฉันแล้วจริงๆ
“การออกแบบงานจัดแสดงสินค้าในเดือนหน้าคุณต้องวางคอนเซ็ป งานออกมาในรูปแบบ....”
กรี๊ดตาซันไม่ฟังฉันเลย เขาเอาแต่จ้องฉันอีกแล้ว เขาเป็นอะไรของเขากัน ซันไม่ใช่แบบนี้ แบบนี้ไม่ใช่ซัน ฉันส่ายหน้าด้วยความสับสน ใช่เขาแน่เหรอ แต่จะให้มองยังไง ผู้ชายคนที่ตาคม คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ริมฝีปากบางสวยราวกับริมฝีปากของผู้หญิงคนนี้ก็คือซันไม่ใช่เหรอ
“อ้าวพูดต่อสิครับบอส ผมฟังอยู่”
พูดจบเขาก็จ้องหน้าฉันเหมือนเดิม และสายตาที่เขาใช้มองฉัน มันทำให้ฉันอึดอัด ใครก็ได้ลากนายซันโยนทิ้งออกไปจากทางหน้าต่างตอนนี้เลย
ทุกทีสายตาของเขาที่ฉันสัมผัสได้มันมีแต่เศร้าสร้อย หม่นหมอง แล้วตอนนี้มันคืออะไร เขาล้อเล่นใช่ไหม ใช่ซันต้องกำลังฉันเล่น มันต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ
“ สัปดาห์หน้าวันเกิดผม เอาละผมไม่รบกวนบอสแล้วนะครับ ผมขอตัวไปทำงานก่อนอู้มานานแล้ว”
พูดจบซันก็ลุกออกไป แต่ที่บอกว่าอู้มานานแล้วนี่ หน็อยคอยดูนะ ฉันจะหักเงินเดือนเสียให้เข็ดเลย ฉันทำจริงๆนะ ฉันไม่ได้คิดขึ้นมาเล่นๆ
‘สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้าค่ะซัน’
“เจ้เบลครับ ซันไปตรวจงานที่คลับสุขภาพก่อนนะ เห็นบอกว่าสร้างเสร็จแล้วจะไปตรวจงานเป็นครั้งสุดท้าย ฝากบอกบอสด้วยเผื่อถามหา”
ผมพูดขึ้นพร้อมยิ้มหน้าระรื่น ก็ไม่ใช่อะไรหรอก ก็แค่คนกำลังมีความสุข ผมสังเกตได้แววตาของดาวที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงใช้มองผมตลอดเวลานั้น วันนี้มันกลับแปรเปลี่ยนไป
ผมก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมจู่ๆแววตาของเธอถึงเปลี่ยนไปได้ ผมก็ได้แต่หวังว่าดาวจะยกโทษให้ผม เวลาผมเจอหน้าเธอก็ทำได้เพียงขอโทษ ขอโทษ และก็ขอโทษ คำตอบที่ได้รับกลับมา ‘คำขอโทษที่ใช้บ่อยๆมันมักจะไม่ศักดิ์สิทธ์’ แต่ผมจริงใจนะทุกคำพูดที่กล่าวออกไป ผมจริงใจจริงๆ ไม่ได้แค่เพียงกล่าวออกไปเล่นๆเท่านั้น
มันก็สมควรอยู่หรอกที่ดาวจะไม่เชื่อใจผู้ชายโลเลอย่างผม และเหตุผลก็เป็นอันรู้กันว่าทำไม เอาละตอนนี้ผมมาถึงคลับสุขภาพแล้วละ ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่าผมมาตรวจงานครั้งสุดท้ายครับ
ผมมาแวะพักเหนื่อยที่แคนทีน เพราะสระว่ายน้ำก็อยู่ใกล้แคนทีนแค่นี้เอง อีกอย่างอู้งานสักหน่อยก็คงไม่มีใครว่าผมหรอกว่าไหม
“ขอกาแฟถ้วยหนึ่งครับ”
ผมบอกกับแม่ค้าขายน้ำในโซนบี ของโรงอาหาร อ้อที่นี้เขาแบ่งเป็นโซนครับ โซนเอจะเป็นร้านขายอาหารทั้งโซน โซนบีจะเป็นพวกน้ำดื่มอย่างที่บอกไปแล้ว ส่วนโซนซีจะเป็นพวกผลไม้ และสุดท้ายโซนดีเป็นของที่ระลึกทางคลับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตา ปักชื่อ หรือสัญลักษณ์ของคลับสุขภาพ พวงกุญแจ และมีอย่างอื่นอีกเยอะเลย มาที่นี้ตั้งหลายครั้งแล้วก็เพิ่งจะสังเกตครับว่ามีอะไรบ้าง ถือว่ามีนบริหารที่นี้ได้ดีทีเดียวครับ
“กาแฟได้แล้วค่ะ”
“ครับ”
ผมตอบรับ และยื่นเงินตามป้ายบอกจำนวนราคาที่กำหนด และถือถ้วยกาแฟกลับมานั่งที่ประจำของตัวเอง อ่าผมขอยึดเป็นที่ประจำของผมเลยแล้วกันถึงแม้จะไม่ค่อยได้มาบ่อยๆก็ตาม
นั่งดื่มกาแฟไปสักพักผมก็แทบสำลักกาแฟ คราวนี้ดินมันควงน้ำหวานออกมาทานอาหาร ผมจำได้นะครับว่า เมื่ออาทิตย์ที่แล้วดินมันควงน้ำพลอยไม่ใช่เหรอ
ยังไงครับ ผมก็ได้แต่สงสัย
“ดิน!”
เป็นเรื่องละ น้ำพลอยมาเห็นดินควงน้ำหวานจนได้ เธอเรียกชื่อดินด้วยน้ำเสียงสั่นๆ และน้ำตาก็เปื้อนแก้มใสๆของเธอเต็มไปหมดอย่างที่ผมคิดไว้ไม่ผิด ดินทำจริงๆด้วย ดูเหมือนว่ากำลังจะสำเร็จแล้วด้วยโดยใช้น้ำหวานเป็นเครื่องมือในการชำระแค้นในครั้งนี้ ผมรู้สึกผิดหวังกับดินจริงๆ
ดินต้องบ้าแน่ๆ มันเชื่อจริงๆ เหรอว่าผู้หญิงอย่างน้ำพลอยจะทำเรื่องแย่ๆแบบนนั้นได้ และผมก็ทราบมาจากพี่เบลนะว่าน้ำหวานเข้ามาทำงานที่นี้ ตอนแรกผมสับสนกับจุดประสงค์ที่เธอเข้ามาทำงานที่นี้จะว่าเป็นเพราะผมก็คงไม่ใช่เพราะผมไม่ได้ทำงานที่นี้
เป็นเพราะน้ำพลอย ใช่คงเป็นเพราะน้ำพลอย แล้วก็เกี่ยวเนื่องกับดินด้วย ผมคงห้ามดินไม่ทันแล้วละ ก็ได้แต่หวังว่าเพื่อนของผมมันจะไม่เจ็บปวดทีหลังเหมือนเท่าที่ผมเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ คิดถึงเรื่องของตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเบาๆ
“ไงจ๊ะน้องรัก ทำไมต้องร้องไห้ละเดี๋ยวไม่สวยนะ”
น้ำหวานกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มเหยียดๆ ทั้งๆที่ยังควงแขนกับดินอยู่
“ฉันไม่ใช่น้องเธอ ฉันมีพี่แค่คนเดียวคือพี่น้ำเพชรเท่านั้น ส่วนเธอไม่ใช่”
น้ำเสียงของน้ำพลอยบ่งบอกได้อย่างดีว่ากำลังเจ็บปวดมาก ผมก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมากับความใจแข็งของดิน ดูแล้วก็รู้ว่าดินแคร์น้ำพลอยมาก มันจะทำใจแข็งไปถึงไหนผมก็อยากรู้เหมือนกัน
“เหรอ แต่ช่างเถอะมันเรื่องของเธอ ดินคะเราไปหาอะไรทานก่อนที่จะถึงเวลาหวานเริ่มงานดีกว่าคะ ดินนี่ใจดีกับน้ำหวานจริงๆมาหาหวานถึงที่นี้เลย ปลื้มสุดๆไปเลยค่ะ คนที่นี้ก็ใจร้ายแกล้งหวานสารพัด”
ผมมองตามน้ำหวานกับดินไปที่โซนเอ ด้วยสายตาไม่พอใจ ดินมันใจแข็งจริงๆนั้นแหละขนาดน้ำพลอยทรุดตัวลงนั่งร้องไห้อย่างน่าสงสารมันก็ยังทำเฉยอยู่เลย งั้นก็ปล่อยมันไปเถอะ ปล่อยให้มันเจอกับคำว่า ‘ผิดไปแล้ว’ ของมันเถอะ
แล้วผมก็ลุกออกไปพอดีกับที่มีนเข้าไปพยุงตัวน้ำพลอยให้ลุกขึ้น
“มีนดินใจร้าย เขาทิ้งพลอยแค่อาทิตย์เดียวเขาก็ควงน้ำหวานมาเย้ยกันซะแล้ว”
แล้วคำพูดนี้ของน้ำพลอยทำให้มีนตวัดสายตาแค้นเคืองมาที่ผม แล้วผมเกี่ยวอะไรด้วยละ ผมส่ายหน้าด้วยความระอาใจ แล้วเดินไปตรวจดูสระที่กำลังจะสร้างเสร็จใหม่
หลังจากตรวจสระผมก็กลับที่พักเลย แต่พอมาถึงผมก็ต้องแปลกใจ ดินน่ะ มาหาผมทำไม? คงมีธุระสำคัญละมั้ง แล้วดูสิทำท่าลุกลี้ลุกหลนชอบกล เพราะเล่นเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องของผม
“ดินนายจะเต้นระบำหน้าห้องฉันรึไง”
“ซัน! ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”
พูดจบดินก็ทรุดตัวลงนั่งย่อง ๆ หน้าห้องผมอย่างหมดแรง คงไปเจออะไรที่กระเทือนใจมาละสิ ผมก็เคยเตือนไปแล้วนี่น่า มันก็เลยช่วยไม่ได้
“เรื่องน้ำพลอยเหรอ ?”
ผมถาม และฉุดดินให้ลุกขึ้นจากนั้นก็ใช้คีย์การ์ดเปิดห้องตัวเอง
“เข้ามาสิ นายจะยังไม่ไปไหนใช่ไหม ลองเล่าให้ฉันฟังสิ เรื่องมันเป็นมายังไง”
หลังจากฟังเรื่องราวของดินจบ ผมก็เข้าครัวไปหาน้ำดื่มสักพักก็เดินออกมา แล้วยื่นเบียร์กระป๋องให้ดิน แล้วทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาหน้าทีวีเหมือนเดิม
“นายแน่ใจเหรอว่าเป็นน้ำพลอยจริงๆ ไม่ใช่ว่าเข้าใจผิดหรอกเหรอ”
“ฉันไม่รู้แต่หลักฐานทุกอย่างก็ยืนยันอย่างงั้น”
ดินพูดจบก็ยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มด้วยท่าทางเหนื่อยๆ
“ไฟในใจนายน่ะมันมอดลงแล้วใช่ไหม แล้วเป็นอย่างที่ฉันว่ารึเปล่า ไฟมันเผานายด้วยใช่ไหมละ เอาละ ถึงจะเป็นน้ำพลอยจริงๆ นายก็อภัยให้เธอซะ แล้วไปขอโทษเธอ จากนั้นลองถามน้ำพลอยว่ามันเป็นแบบนั้นจริงไหม ทุกอย่างก็จบ ตอนนี้มันอยู่ที่นายแล้วนะ ดิน ฉันก็ช่วยนายได้แค่นี้ละ เพราะฉันเองก็ยังเอาตัวไม่รอดเลย”
พูดจบผมก็นั่งคอตกบ้าง คงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วละก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินกว่าจะแก้ไข สำหรับผมก็แล้วแต่ดาวจะบัญชา หากเธอไม่อยากเห็นหน้าผมอีกผมก็จะเดินจากไป แต่ถ้าหากเธอยังต้องการผม ผมก็ขอรับรองว่าจะดูแลดาวให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ผมกับดินต่างตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองเงียบๆ จากนั้นสักพักดินก็ลุกขึ้น และพูดกับผมด้วยเสียงเบาๆว่า
“ ฉันไปก่อนนะ พอดีคืนนี้มีแข่งน่ะ”
“อืมโชคดีละ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ