เงารัก...อธิษฐาน[อ่านต่อจากตอนที่ 25 นะเออ]
เขียนโดย บุหงา
วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.04 น.
แก้ไขเมื่อ 21 มกราคม พ.ศ. 2557 12.50 น. โดย เจ้าของนิยาย
17) ตอนที่ 17-100%
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ~17~
มันคือเรื่องจริง...
ก๊อก! ก๊อก!
อะสงสัยคนที่บ้านจะมาแล้วละ มาเร็วจัง แต่หากพอฉันเปิดประตูห้องกลับไม่ใช่คนที่บ้าน แต่เป็นซันน่ะ
“สวัสดีครับ”
ซันทักขึ้นหลังจากที่เรายืนนิ่งค้าง สบตากันอยู่นานแล้ว
“สวัสดีค่ะ”
“ดาว”
“คะ?”
“ดาวจริงๆด้วย นี่ซันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ดาว...”
“เอ่อ..คือ”
ฉันก็ได้แต่อึกอักพูดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะบอกเขายังไงดี สุดท้ายก็ได้แต่นิ่งเงียบแล้วก้มหน้ามองดูปลายเท้าของตัวเองเท่านั้น
“ซันขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเคยเกิดขึ้น และทำให้ดาวเสียใจ ดาวจะไม่ยกโทษให้ซันก็ได้นะ แต่ขออย่างเดียวอย่าเมินกันได้ไหม มันเจ็บ!”
ซันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน แต่เมินเหรอ? เขาต่างหากที่เมินฉัน ฉันต่างหากที่ควรบอกว่าเจ็บ เขาคงไม่เจ็บเหมือนฉันหรอก ถึงเจ็บมันก็ไม่มากไปกว่าฉัน เพราะทั้งใจของฉันมีแต่เขาคนเดียว
เพียงแค่การกระทำที่เล็กน้อยของเขามันก็ทำให้ฉันเจ็บไปทั้งใจ ทั้งที่คนอื่นเขาจะพูด จะกล่าว จะทำกับฉันอย่างไร
ฉันกลับไม่รู้สึกอะไรเลย แต่แค่เขา... แค่เขาคนเดียว....
“คุณหนูดาวครับ”
เสียงที่ดังขึ้นทำให้ฉันหลุดออกจากภวังค์ เงยหน้าขึ้นมองข้ามไหล่ซันไป อ้อลุงโชตินั่นเอง
“สวัสดีค่ะลุงโชติ แล้วคุณพ่อละค่ะ”
“ติดประชุมด่วนครับ”
‘เฮ้อนึกว่าจะแย่ซะแล้ว คุณพ่อมาเห็นซันเข้าแย่แน่ๆเลย’ ฉันคิดขึ้นอย่างโล่งอก
“เข้ามาข้างในสิคะ ดาวจัดของไว้หมดแล้วค่ะ”
ฉันพูดกับลุงโชติเสร็จก็หันไปพูดกับซันต่อ
“ขอตัวนะค่ะ”
“ดาวจะไปไหน ทำไหมต้องจัดของ”
ซันถามขึ้นพร้อมทำสีหน้าร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด
“ดาวจะกลับไปอยู่บ้านน่ะ”
ฉันพูดพร้อมยิ้มให้เขาไป และกำลังจะหันหลังเดินกลับเข้าห้องตัวเอง เพราะลุงโชติเดินเข้าไปในห้องแล้ว ฉันจะบอกเขาว่าควรจะขนอะไรออกไปบ้างแต่....
“ไม่ไปไม่ได้เหรอ”
ฉันชะงัก และหันกลับไปมองซัน พบกับแววตาที่เต็มไปด้วยความอ้อนวอนของเขา
“ไม่ได้หรอก ดาวขัดคำสั่งของพ่อไม่ได้”
ถ้าหากฉันคล้ายพี่มีนแค่เพียงเศษเสียวของพี่ก็ยังดี คงกล้าที่จะยืนกรานจะอยู่ที่นี้ต่อไป แต่ฉันก็คือฉัน ที่เต็มไปด้วยความอ่อนแอ และขี้ขลาด
“งั้นซันช่วยนะ”
ซันอาสาอย่างมีน้ำใจ แต่ของแค่นิดเดียวเอง
“ไม่เป็นไรหรอก”
ฉันกล่าวพร้อมส่ายหน้าไปด้วย
“ลุงโชติขนแค่รอบเดียวก็เสร็จแล้วละ”
ฉันพูดพร้อมกับเดินเข้าห้องมาทันที ขอบคุณนะซัน ขอบคุณ ทำให้รู้ว่าซันไม่ได้เกลียดดาวใช่ไหม ไม่เกลียดแล้ว
ใช่ไหม? ฉันก็ได้แต่ถามเขาเพียงในใจ ไม่กล้าถามออกไปกลัวคำตอบ กลัว..ที่ไม่ได้เป็นอย่างที่ตัวเองได้คิดเอาไว้ เฮ้อเบื่อ
จริงๆกับนิสัยที่ขี้ขลาดของตัวเอง ตัวฉันเองยังรู้สึกเบื่อขนาดนี้เลย แล้วคนอื่นๆที่อยู่รอบข้างฉันละ คุณปู่ คุณพ่อ คุณแม่ พี่
มีน พวกเขาจะเบื่อมากแค่ไหนกันนะ เบื่อแค่ไหนกัน หรือฉันจะคิดมากไปเอง
ผลจากที่ประชุมออกมาแล้วซันได้รับเลือกเป็นฟรีเซนเตอร์ถ่ายโฆษณา แล้วนางแบบที่เล่นคู่กับซันเป็นหน้าที่ของฝ่ายโฆษณาว่าจะเลือกใคร ทุกทีก็จะเลือกคนของบริษัทเอง ก็พี่เบลแหละ แต่พี่เบลส่ายหน้าปฏิเสธอย่างเดียว แล้วบอกว่าคนดูคงเบื่อหน้าพี่แล้วละค่ะน้องดาว เลือกนางแบบสวยๆสักคนมาถ่ายจะดีกว่านะค่ะ
ฉันก็ไม่ขัดพี่เบลหรอก เพราะทุกคนต่างก็เห็นด้วยกับความคิดนี้ของพี่เบล ทั้งนั้น คุณปู่ก็เห็นด้วย แต่ก็มีคนเสนอชื่อฉันเหมือนกันแต่ก็รู้ๆกันอยู่ว่าร่างกายของฉันมันไม่พร้อม เพราะใบบทโฆษณาต้องวิ่งด้วยละ ฉันจึงปฏิเสธไปทั้งที่ใจบอกว่าจะได้อยู่ใกล้ซันมากขึ้นกว่านี้
ฉันก็ได้แต่มานั่งเศร้ากับร่างกายที่บกพร่องของตัวเอง ถ้าหากเมื่อเจ็ดปีที่แล้วฉันไม่ตัดสินใจช่วยนะโม เด็กชายคนนั้น ฉันคงไม่เป็นแบบนี้ แต่ต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้ฉันก็ยังอยากช่วยนะโมอยู่ดี จะให้ฉันยืนนิ่งๆมองนะโมตายต่อหน้าต่อตาได้ยังไง ขนาดเจ้าดุกดิกสุนัขตัวน้อยที่ถูกทิ้งไว้ฉันยังเก็บมาเลี้ยงเลย แต่ซันรับเลี้ยงต่อจากฉันไปแล้ว เพราะแม่ฝันของฉันแพ้ขนสัตว์เลยเลี้ยงไม่ได้
นึกถึงเจ้าดุกดิกป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ตอนกลับบ้านไปหาแม่ฝันก็ไม่เห็นเลย จะถามซันก็ไม่กล้า เฮ้อยัยขี้ขลาด! ตอนนี้ฉันควรต้องไปบอกซันเรื่องฟรีเซนเตอร์โฆษณาแล้วด้วย
ผมจ้องมองถนนสองฝากฝั่งทางในร้านอาหารข้างๆบริษัทคนเดียวอย่างเหม่อลอย จู่ๆก็มีคนมาทักผมขึ้นโดยที่ผมไม่รู้จักเธอเลยแม้แต่น้อย
“สวัสดีค่ะคุณซัน”
“สวัสดีครับ”
ผมตอบไปแบบเนือยๆ และไม่สนใจอะไรเธออีก ผมรู้แล้วละว่าเธอเป็นใคร ดวงหน้าแบบนี้ผมจำได้ดี
“นี่ใจคอคุณจะไม่ชวนฉันนั่งเลยเหรอค่ะ”
เธอพูดพร้อมเอียงคอถาม
“อยากนั่งผมก็ไม่ว่าอะไร เชิญนั่งสิ ผมจะลุกแล้ว”
ผมกล่าวพร้อมกับลุกขึ้น
“เฮ้อนี่คุณยังโกรธฉันไม่หายเหรอค่ะ ไหนๆเราก็ได้ร่วมงานกันแล้วนะคะ”
คำพูดของเธอทำให้ผมสงสัย แต่ก็เลือกที่เงียบ และเดินจากมา
“ซัน! ดาวกำลังตามหาพอดีค่ะ”
“ดาว!”
ผมมาเจอดาวที่ประตูทางออก ทำให้ผมตกใจมาก รีบจูงมือดาวออกไปจากร้านอาหารทันที
“มีอะไรเหรอค่ะ ดาวมีเรื่องจะพูดกับซันนะ เข้าไปคุยข้างในเถอะ”
ไม่ได้ผมจะให้ดาวเจอน้ำหวานไม่ได้ ไม่งั้นดาวแย่แน่ ถ้าหากน้ำหวานรู้ว่าดาวยังไม่ตาย ผมลนลานพาดาวออกไป เพราะน้ำหวานเดินตามผมกับดาวมานั่นแล้ว
“ดาววิ่งได้ไหม”
ผมถามเธออย่างร้อนรน แต่ดาวก็ส่ายหน้าปฏิเสธ ผมไม่รู้จะทำอย่างไร ขาดาวเพิ่งจะหายเองนี่นา ผมจึงตัดสินใจ
พาเธอไปหลบอยู่ซอกตึก ถึงมันจะอึดอัดไปหน่อยก็เถอะ แต่ก็สามารถทำให้น้ำหวานเดินผ่านไป โดยไม่สนใจอะไรแล้วผม
ก็เห็นดาวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ จากนั้นก็หันมากอดผมไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย
“ไม่มีอะไรแล้วดาว ไม่มีอะไรไม่ต้องกลัวนะ”
ผมปลอบดาว แต่ดาวก็ยังคงกอดผมไว้แน่น และพึมพำอะไรไม่รู้ออกมา
“ไม่ยอม...ฉันไม่ยอม ไม่ยอมหรอก ยังไงก็ไม่ยอม”
“ดาว”
ผมเจ็บปวดยามมองคราบน้ำตาที่เปื้อนแก้มของดาว ถึงแม้ไม่รู้ว่าดาวกำลังกลัวอะไรกันแน่ มีอะไรที่มากกว่าที่ผมเคยรู้มาอีกเหรอทำไมดาวต้องกลัวน้ำหวานขนาดนี้ด้วย ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทำไมน้ำหวานถึงทำร้ายผู้หญิงตัวเล็กๆแล้วก็อ่อนแอแบบนี้ได้แต่ผมเองก็เคยทำร้ายเธอไม่ใช่เหรอ ผมมันก็ไม่ต่างอะไร
“ไปเถอะดาว”
ผมพูดขึ้นแต่ดาวกลับเอาหน้าซุกลงบนอกผม ทำให้น้ำตาของดาวเปื้อนอกเสื้อผมเต็มไปหมด แต่ผมไม่สนใจ สนใจแต่ว่าทำยังไงดาวถึงเลิกร้องไห้สักที
“ดาวไม่ยอมอะไรเหรอ บอกซันมาสิ แล้วซันจะทำตามที่ดาวบอกทุกอย่างเลย”
ผมพูด และยกมือขึ้นกอดตอบเธอหลวมๆ
“ไปกันเถอะซัน...ดาวไม่เป็นไรแล้วละ”
สักพัก จู่ๆดาวก็เลิกร้องไห้ สายตาดูเข้มแข็งขึ้น และเธอก็ชวนผมเดินออกไป ผมขมวดคิ้วมุ่นงุนงง แต่ก็ทำตามที่ดาวบอกอย่างว่าง่าย
“อืมเราไปกันเถอะ แต่อย่าร้องไห้อีกนะดาว”
ผมบอก ดาวก็พยักหน้าตกลงอย่างว่าง่ายเช่นกัน
ทุกอย่างเหมือนจะบีบบังคับให้ผมจมมุมไปเรื่อย เรื่อย มันแย่น่ะว่าไหม เพราะผมไม่รู้จะรับมือกับเรื่องนี้ยังไง แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้หรอกนะ ต่อให้มีเรื่องอะไรมาบีบบังคับผมมากแค่ไหน
มันน่าโมโหที่ผม ทำได้เพียงยืนมองดูอยู่ห่างๆ แล้วปล่อยให้ดาวกับน้ำหวานเผชิญหน้ากัน ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว เพราะเราต่างเซ็นสัญญากันเรียบร้อยแล้ว
สายตาของน้ำหวานที่กำลังจ้องมองดาวอยู่ทำให้ผมกลัว ดาวเองก็คงรู้สึกไม่ต่างจากผมเท่าไร แต่งานถ่ายแบบโฆษณาก็คงต้องดำเนินต่อไปโดยที่ยกเลิกไม่ได้
ผมคงต้องหาตัวช่วยแล้วละ แล้วตัวช่วยที่ว่าก็กำลังเดินทางมา เนปจูนกับมีนน่ะครับ
“เฮ้ซันนายมีอะไรเหรอ?”
เนปจูนมาถึงแล้วครับ อ้อมีนด้วย
“ดูนั่นสิ”
ผมพูดพร้อมชี้นิ้วให้เนปจูนมองตามทิศทางที่นิ้วผมชี้ไป
“แย่แน่ ยัยบ้านั่นมาได้ยังไง ซันนายยอมให้ยัยบ้านั้นมาเจอดาวได้ยังไง”
เนปจูนพูดขึ้นด้วยท่าทางหัวเสียมาก หลังจากมองตามทิศทางที่นิ้วผมชี้ไป
“มีอะไรเหรอ ยัยบ้าอะไร!”
มีนเองก็พูดขึ้นด้วยความตกใจ และส่งสายตาไม่ชอบใจมาให้ผม
“น้ำหวานน่ะ เมื่อเจ็ดปีที่แล้วรถทัวร์คันที่ดาวกับมีนโดยสารไม่ได้เกิดอุบัติเหตุเองหรอกมีน แต่ฝีมือยัยบ้านั้นแหละ”
“อะไรนะ!!”
ผมกับมีนตะโกนขึ้นพร้อมกันด้วยความตกใจ
“หน็อย ยัยบ้านี่เหรอที่ทำให้ฉันกับดาวเกือบตาย ฉันจะไปตบมัน!”
“มีนอย่า อย่าเข้าใกล้น้ำหวาน”
เนปจูนพูดห้ามมีนพร้อมส่ายหน้าไปมา อย่างเป็นกังวล ส่วนผมก็ได้แต่ยืนนิ่งค้างทำอะไรไม่ถูก อุบัติเหตุครั้งนั้นฝีมือน้ำหวานเองเหรอ เธอทำไปได้ยังไง เพียงแค่ต้องการฆ่าคนๆหนึ่งให้ได้ ถึงแม้ว่าต้องแลกมาด้วยชีวิตอีกหลายชีวิตยังไงก็ได้เหรอ
“งั้นฉันจะจับมันเข้าคุก”
“อย่าพยายามเลยมีน มันไม่มีหลักฐานน่ะ ผมเคยพยายามแล้ว พยายามจนต้องหนีตายไปอยู่อเมริกาไง ทั้งที่กำลังจะได้รับเลือกเป็นนักกีฬาทีมชาติของประเทศ”
เนปจูนพูดขึ้น และทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง
“ผู้หญิงคนนี้อันตรายมาก อย่าเข้าใกล้เธอเด็ดขาด”
เสียงห้ามเตือนของเนปจูน ทำให้ผมขยับตัวเดินเข้าไปหาดาวอย่างรวดเร็ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ