Time Crime บทเพลงและกาลเวลา

10.0

เขียนโดย HirariYurari

วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 17.25 น.

  15 chapter
  6 วิจารณ์
  18.69K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 กันยายน พ.ศ. 2556 09.24 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) เรื่องราวลงรอย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

-04-

เรื่องราวลงรอย

 

ข่าวเรื่องของเพสได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งหมู่บ้าน มีผู้คนเดินทางมาแสดงความยินดีกันมากมาย ทว่าในขณะเดียวกันก็ยังมีคนที่มาแสดงความเป็นห่วงเรื่องของพวกเขาด้วย...

เพสถูกแม่ลากให้ออกมาพูดคุยขอบคุณพวกชาวบ้านด้วย...แม้ว่าตัวเขาเองจะไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดอย่างไรออกไป ทว่าเพียงแค่เขายิ้มให้พวกเขาและยืนฟังสิ่งที่พวกเขาอวยพรออกมา เพียงแค่นั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องคิดหรือทำอะไรให้มากความอีกแล้ว...

ทว่าช่วงเวลาเหล่านั้นมันกลับเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์สำหรับเขา...ทั้งๆ ที่ตัวเขานั้นรอคอยช่วงเวลาเช่นนี้มาตลอด...ทั้งๆ ที่รอคอยวันที่เขาจะได้มีร่างกายที่แข็งแรงเหมือนคนอื่นมาโดยตลอด ทว่าเมื่อสิ่งหนึ่งที่เขาเพิ่งได้รู้จักต้องถูกพรากจากไป...เขากลับไม่รู้สึกดีใจกับสิ่งที่ตัวเองเคยปรารถนามาโดยตลอดแม้แต่น้อย...

“ได้เวลาแล้วนะ พวกเราไปกันเถอะ”

“?” ในขณะที่นั่งเล่นชิงช้าอยู่ภายในสนามเด็กเล่นแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน เจโลก็ได้เดินมาเรียกเขา

สิ่งที่เธอต้องการจะสื่อนั้นเขารู้ดี...เขารู้ดีว่าเธอต้องการให้เขาไปที่ไหน...

“ฉันจะไปที่นั่นอีกครั้งได้งั้นเหรอ? ในเมื่อเธอไม่ต้องการให้ฉันไปนี่” เพสหรี่ตาลง เหลือบสายตาขึ้นมองเจโลอย่างไม่พอใจ ทว่าเจโลกลับไม่แสดงสีหน้าใดๆ แปลกประหลาดออกไปเลย เธอกลับเดินตรงเข้ามาลากเขาออกจากสนามเด็กเล่นนั้นไปในทันที

“เฮ้ย! เจโล!!”

“.....” เจโลไม่ตอบ...เธอลากเขาเดินออกไปตามทาง ได้ยินเสียงหัวเราะของเหล่าชาวบ้านบอกว่าพวกเขายังคงสนิทสนมกันเหมือนเดิม เพสยังคงโวยวายไม่มีทีท่าจะเลิกรา...และเมื่อเธอลากพาเขาเดินมาจนถึงบริเวณทางขึ้นหน้าผาแล้ว เธอก็ได้ใช้แรงทั้งหมดของตัวเอง โยนตัวเขาลงพื้นไป

“อุ๊บ!!” เพสส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บ มันไม่ใช่ความเจ็บแบบที่เคยเป็นมาก่อน เป็นเพียงความเจ็บเล็กน้อยที่ก้นของเขายามเมื่อก้นเขากระแทกลงบนพื้นแข็งๆ เท่านั้น

“ฉันยังไม่ได้บอกสักคำว่าไม่อยากให้นายขึ้นไป...ถ้าอย่างนั้นก็ขึ้นไปหาเธอสักทีเถอะ”

“โกหก!! โกหกชัดๆ!! ถ้าเธอไม่ต้องการแบบนั้นแล้วที่เธอโกหกแม่เมื่อวานนั่นมันเพื่ออะไร!!?”

“รีบๆ ไปกันดีกว่า เกิดนายอาการแย่ขึ้นมากะทันหันเดี๋ยวก็ได้ลำบากฉันอีกพอดี”

“นี่! ไม่คิดจะฟังฉันเลยหรือไงเจโล!!?” เพสโกรธจัด ตรงเข้าไปคว้าไหล่ของเจโลเอาไว้ แต่เจโลก็ปัดมันออกไป...ดวงตาของเธอที่จับจ้องมองมาทางเขานั้นเป็นดวงตาที่แสนเฉยชา เขาไม่เข้าใจเลยว่าเพราะอะไรเธอจึงได้มีสายตาเช่นนี้กับเขา...

“ไปกันได้หรือยัง?”

“....” ท้ายที่สุดเมื่อเขาได้ยินเสียงนั้น...เสียงที่อึมครึมชวนให้รู้สึกหนาวสั่นไปถึงไขสันหลังของตัวเองนั้น เขาก็ต้องตัดสินใจทำตามที่เธอบอกแต่โดยดี...

เจโลปีนนำขึ้นไปก่อน โดยมีเพสคอยปีนตามมาอยู่เบื้องหลัง ในระหว่างที่ปีนหน้าผาขึ้นไปนั้น เพสได้ใช้ช่วงเวลาเหล่านั้นครุ่นคิดถึงช่วงเวลาที่เขาได้กลับไปพบกับคุนทาเร่อีกครั้ง

ตัวเขาจะ...บอกเรื่องนี้กับคุนทาเร่ว่ายังไงดีนะ...?

พวกเขาไม่มีโอกาสได้พบกันอีกแล้วนอกจากช่วงเวลาที่ต้องมาฟังเพลงจากเธอ...ถ้าเช่นนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขามันก็ไม่ต่างอะไรจากการขึ้นไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเลยน่ะสิ...

ไม่เอา...เขาไม่ต้องการความสัมพันธ์แบบนั้น...เขาอยากจะอยู่พูดคุยกับเธอ...อยากจะเป็นเพื่อนกับเธอ...

ทว่า...ตัวเขากลับไม่สามารถขัดการกระทำของเจโลได้เลย...ไม่ว่าเขาจะพยายามมาที่นี่ในเวลาที่ไม่สมควรเท่าไร เจโลก็มักจะปรากฏตัวขึ้นมาลากเขากลับไปอยู่เรื่อย....

เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่สามารถปีนขึ้นไปพบเธอบนเชิงผานั้นได้...

“ถึงแล้ว...รีบๆ ซะละ เดี๋ยวคุณป้าจะคอยนาน...”

“นี่เธอยังจะพูดเรื่องนั้นอีกงั้นเหรอ!!?”

“.....” คำพูดที่เจโลเอ่ยออกมาทำให้หัวใจของเพสกระตุก เขาโกรธมากเสียจนเผลอหันกลับไปตวาดเธออย่างรุนแรงโดยไม่ทันได้คิด ทว่าเธอก็ยังไม่เปลี่ยนสีหน้าเช่นเคย

“อยากให้คุณป้า...เป็นห่วงจนต้องร้องไห้อีกงั้นเหรอ?”

“!!?”

เขาไม่สามารถขัดคำพูดของเจโลได้...ขัดไม่ได้เลย...เพียงแค่นึกกลับไปถึงเสียงร้องและน้ำตาของแม่ในวันนั้น...ร่างกายของเขาก็พลันรู้สึกแข็ง ขยับตัวไม่ได้ไปชั่วขณะ...

ตัวเธอ...ได้กุมจุดอ่อนของเขาเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว...

“..............ถ้าอย่างนั้นก็รีบเข้าไปกันเถอะ....ไม่จำเป็นต้องตามมาล่ะ”

“อืม....ถ้าอย่างนั้นก็ได้....แต่ให้เวลาแค่สิบห้านาที ถ้าไม่ออกมาในเวลานั้นฉันจะกลับไปบอกกับคุณป้าว่านายหายไปในป่า...”

“โถ่ว้อย!!” เพสส่งเสียงตะโกนลั่นด้วยความโกรธแค้น ทว่าไม่ว่าเขาจะรู้สึกโกรธเท่าไร เขาก็ไม่สามารถขัดขืนอะไรเธอได้...

เขารีบวิ่งตรงเข้าไปในป่าทันทีก่อนที่เธอจะเริ่มจับเวลา ตัวเขาไม่สนใจแล้วว่าตัวเธอในตอนนี้กำลังมีสีหน้าเช่นไร ขอเพียงแค่ให้เขาได้พุ่งเข้าไปหาคุนทาเร่ได้ไวที่สุดเท่านั้นก็เป็นพอ

ทำไม...ทำไมต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกกับเจโลด้วย เขาไม่น่าเอาเรื่องนี้ไปบอกเธอเลย....ทำไมเรื่องถึงต้องกลายเป็นแบบนี้ด้วย..?

เจโลไม่ใช่คนแบบนี้ไม่ใช่เหรอ? ตามปกติแม้เธอจะจริงจังไปเสียหน่อยแต่เธอก็ไม่เคยทำอะไรที่ไม่มีเหตุผลขนาดนี้...นี่มันเรื่องอะไรกัน?

ในระหว่างที่เขายังคงคิดคร่ำครวญอยู่ภายในหัวอย่างสับสนมึนงง เขาก็ได้วิ่งผ่านป่านั้นตรงออกไปยังจุดที่คุนทาเร่อยู่ได้

“คุนทาเร่!! ได้โปรด ตอนนี้ไม่มีเวลามากแล้ว ช่วยร้องเพลงให้ฉันฟังก่อนได้ไหม? ในระหว่างนั้นเดี๋ยวฉันจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟังเอง!!”

“เอ๋?.....อะ...อืม....” เมื่อโผล่หน้าออกไปเขาก็รีบตะโกนออกไปเช่นนั้น...คุนทาเร่ซึ่งดูเหมือนจะไม่รู้ถึงการมาของเขาตกใจเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ได้หันกลับมามองเขาด้วยความสงสัยและเมื่อรู้สึกตัวก็พยักหน้าตอบตกลงในที่สุด...

เขาเดินตรงเข้าไปนั่งบนแท่นหินด้านข้างเธอ หลังจากนั่งลงไม่นาน เธอก็ได้เปิดปากเปล่งเสียงร้องบทเพลงอันแสนไพเราะที่เขาเคยได้ยินครั้งล่าสุดเมื่อสามวันที่แล้วออกมา...

“คุนทาเร่...ดูเหมือนพวกเราจะไม่ได้พบกันตามปกติอีกแล้วล่ะ...เรื่องมันยุ่งยากไปหมด...ฉันเองก็ยังไม่รู้เลยว่าควรจะทำยังไงต่อไป...”

“.......” คุนทาเร่ไม่พูดอะไร เธอเพียงแค่จ้องมองเขาและส่งเสียงร้องเพลงของเธอต่อไปเพียงเท่านั้น...และแม้เธอจะรู้สึกประหลาดใจเรื่องที่เขาพูดเสียเท่าไร เธอก็ยังไม่หยุดเสียงร้องเหล่านั้นลงไป...

“เจโลน่ะ....ตอนที่พวกเรากลับบ้านไปเจโลน่ะไปโกหกแม่ว่าฉันแข็งแรงขึ้นเพราะพลังของผลไม้ในป่านี้ที่ฉันเผลอเด็ดกินเข้าไป....แล้วเธอก็โกหกไปอีกว่าฉันจะหาต้นไม้นั้นเจอได้หลังจากผ่านไปสามวันแล้วเท่านั้น ซึ่งก็คือเวลาที่เธอต้องรักษาฉัน....ถ้าเท่านั้นทำให้แม่ของฉันไม่เป็นห่วงได้ฉันเองก็ไม่กังวลอะไร แต่ว่าเธอ....ไปโกหกแม่บอกว่าถ้าฉันขึ้นมาที่นี่นอกจากเวลาที่ต้องกินผลไม้ ฉันจะต้องกลับไปเป็นคนอ่อนแอขี้โรคเหมือนเดิม....ฉันเถียงอะไรเธอไม่ได้เลย!! นี่! คุนทาเร่ ฉันควรจะทำยังไงดี? จะทำยังไงพวกเราถึงจะมาพบกันที่นี่อีกครั้งได้ดี!!”

“......” คุนทาเร่เบิกตาขึ้นเล็กน้อย เธอตกใจเรื่องที่เขาเล่าให้เธอฟังทั้งหมด แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังไม่หยุดเสียงร้องเพลงของเธอลงไป....เด็กสาวเพียงก้มหน้าลงเล็กน้อย คล้ายกำลังครุ่นคิดถึงสิ่งที่เขาบอกกับเธอ หลังจากนั้นเธอก็ได้เผยยิ้มออกมา...

“!!” ชั่วขณะนั้นเธอได้ขยับตัวตรงเข้ามากอดเขาเอาไว้ เพสตกใจมาก เขาเบิกตาโพล่งทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ....ในที่สุดเสียงเพลงบำบัดของเธอก็ได้สิ้นสุดลง...

“ฉันดีใจนะที่เธอเป็นห่วงฉัน อยากจะมาหาฉันแบบนี้...แต่ว่าถ้าเรื่องมันเป็นแบบนั้นก็ช่วยไม่ได้นะ...ยังไงซะจะทำให้พ่อแม่เป็นห่วงก็ไม่ได้นี่นา...”

“ตะ...แต่ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไม่มีโอกาสได้พบกันน่ะสิ!! ถ้าอย่างนั้นพวกเรา...ก็ไม่ต่างอะไรกับคุณหมอและคนไข้ธรรมดาที่ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันเลยไม่ใช่หรือไง...?”

“......” สิ่งที่เพสพูดออกมาทำให้คุนทาเร่เงียบ เธอนั่งนิ่ง ก้มหน้าลงไปไม่สามารถเอ่ยอะไรออกมาได้...ทว่าท้ายที่สุดเธอก็ได้เอ่ยออกมา

“ถ้าฉัน...ลงไปหานายเอง...จะดีหรือเปล่านะ..?”

“เอ๋?” เพสเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา แวบแรกที่เขาเข้าใจความหมายของเธอเขารู้สึกดีใจมาก เงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า...

“!?” ทว่าเมื่อเขาสังเกตเห็นใบหน้าของเธอเขาก็เข้าใจ...เธอเอ่ยเช่นนั้นออกมา ไม่ใช่ว่าเธอต้องการทำเช่นนั้นแต่อย่างใด...

บนใบหน้าของเธอมีแต่ความหวาดกลัว...ความกังวล ตัวสั่นด้วยความรู้สึกที่เขาเองก็ไม่เข้าใจ...ความรู้สึกของเธอนั้นเด่นชัด แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่เข้าใจ...สิ่งที่เขารู้มีอยู่เพียงแค่อย่างเดียวก็คือ...เธอกำลังหวาดกลัว...

“ไม่อยากลงไป....อย่างนั้นเหรอ...?”

“.........” คุนทาเร่ไม่ตอบ เธอก้มหน้าลงไปพยายามหลีกเลี่ยงจากสายตาของเขา ทว่าหลังจากนั้นเธอก็ได้เงยหน้าขึ้นมาเผยยิ้มให้เขา “ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ฉันแค่ไม่เคยเจอมนุษย์คนอื่นๆ ก็เลยรู้สึกตื่นเต้นมากไปหน่อยก็เท่านั้นแหละ...แฮะๆ...”

“.....” เพสขมวดคิ้วเล็กน้อย ทว่าชั่วขณะนั้นเขากลับรู้สึกว่าตัวเขาไม่สามารถปล่อยให้เรื่องราวกลายเป็นแบบนี้ได้...

เขาจะทำยังไง...เขาจะทำอย่างไรกับสถานการณ์เช่นนี้ดี...?

ถูกคนในหมู่บ้านกีดกันออกมาจากเชิงเขานอกเวลา....ถูกเจโลคอยตามประกบไม่ให้มาหาเธอบนเชิงเขานี้....ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ต้องการอยากให้เรื่องกลายเป็นแบบนี้แท้ๆ ทว่าทำไม...ทำไมถึงเป็นอย่างนี้...เขาควรจะทำอย่างไรต่อไปดี....?

“............ถ้าอย่างนั้น.....ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ......”

“?” คุนทาเร่เงยหน้าขึ้นมา เธอจ้องตาเขา เบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยด้วยสีหน้าสงสัย ในระหว่างนั้นเขาก็ได้ถอนหายใจออกมา หันกลับไปมองบริเวณที่หมู่บ้านของเขาตั้งอยู่ เหม่อมองอยู่เช่นนั้นสักพัก ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจ

“งั้นผมจะ....เป็นคนแอบขึ้นมาหาเธอตอนกลางคืนเอง”

“!!” คุนทาเร่เผยสีหน้าตื่นตกใจ เธอเบิกตากว้างจ้องมองเขาด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ และแล้วหลังจากที่รู้สึกตัวขึ้น เธอก็ได้เอ่ยพูดออกมา “จะ...ไม่มีปัญหาเหรอ?”

“หืม?” เพสหันกลับไปมองเธอ จ้องมองเธอด้วยสีหน้าสงสัยอยู่สักพัก หลังจากนั้นจึงยิ้มออกมา “ไม่มีปัญหาหรอกน่า ตอนกลางคืนน่ะเจโลไม่ค่อยมาตามติดฉันนี่นา อีกอย่างแม่ฉันกับคนในหมู่บ้านก็เข้านอนแต่หัวค่ำด้วย...เพราะฉะนั้นถ้าฉันแกล้งทำเป็นหลับแล้วแอบกระโดดออกมาทางหน้าต่างเท่านั้นก็ไม่มีใครรู้แล้วว่าฉันแอบหลบออกมา”

“แต่ว่ามัน...จะไม่เป็นอันตรายเหรอ? ขึ้นเขามาตอนดึกๆ แบบนี้...” คุนทาเร่เผยสีหน้ากังวลใจ เธอเองก็อาจจะเคยเห็นทางขึ้นเขามาแล้ว...แม้มันจะไม่ได้ลาดชันหรืออันตรายอะไรมากมาย ทว่าหากเป็นในช่วงเวลากลางคืน มันก็คงจะแตกต่างกันออกไป...

“ฮะๆๆๆๆ ไม่เป็นปัญหาหรอกน่า...จริงสินะ ถ้าเกิดเธอเป็นห่วงงั้นทำไมเธอไม่มารอฉันที่ทางขึ้นเขาล่ะ? ตรงจุดนั้นพวกชาวบ้านไม่ค่อยไปกัน หลังจากนั้นพวกเราค่อยปีนขึ้นเขาไปด้วยกัน ดีไหม?”

“เอ๋?” คุนทาเร่เผยสีหน้าประหลาดใจออกมา เธอจ้องมองใบหน้าของเพสด้วยสีหน้าประหลาดใจ ทว่าเธอกลับไม่สามารถคงสีหน้าเช่นนั้นอยู่ได้นาน...

ดวงตาของเธอค่อยๆ เบิกกว้าง...รอยยิ้มค่อยๆ เบิกบานขึ้นบนใบหน้า หลังจากนั้นเธอก็หลับตาลง พยักหน้าอย่างมุ่งมั่น แล้วส่งเสียงร้องออกมาด้วยความดีใจ

“อื้ม!!”

ณ ที่นั้นพวกเขาได้สัญญากัน...สัญญาว่าจะมาพบกันบนเชิงเขาแห่งนี้...นัดพบกันที่ทางขึ้นเขา จากนั้นจึงค่อยขึ้นเขามาด้วยกัน...เป็นสัญญาที่รู้กันอยู่เพียงแค่สองคน...

และจะไม่มีใคร...ได้ล่วงรู้ถึงความลับนี้อีกแม้เพียงคนเดียว...

************************************************

“....?” หลังจากผ่านไปเพียงสิบนาที เพสก็ได้ก้มหน้าก้มตา เดินออกมาจากป่าแห่งนั้น

“ไวดีนี่นา” เจโลเอ่ยทัก เขาเพียงพยักหน้าขึ้นลงเล็กน้อย โดยที่ใบหน้าของเขายังคงถูกปกปิดเอาไว้ด้วยผมหน้า “อืม....ก็เธอบอกว่าห้ามเกินเวลาเองไม่ใช่เหรอ?”

“มันก็นะ...เอาเถอะ แต่ในเมื่อฉันเองก็บอกคุณป้าไปว่าฉันเข้าไปในป่านั้นไม่ได้ ถ้ามีคนอื่นเข้ามาพิสูจน์ก็คงจะแย่เหมือนกัน...เพราะงั้นก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะที่ฉันจะเข้าไปไม่ได้...”

“เธอนี่ก็จริงจังกับเรื่องที่ตัวเองโกหกจังนะ”

“อ่า...ถ้าเกิดจริงจังได้มันก็ควรจะจริงจังไว้ก่อนจริงไหมล่ะ?” เจโลเอ่ย ในระหว่างนั้นเธอแอบรู้สึกสงสัยท่าทางของเขาเล็กน้อย แต่ก็ได้หันหน้ากลับไปแล้ว “บอกไว้ก่อนนะว่านายไม่มีทางได้ขึ้นมาที่นี่ในเวลาอื่นนอกจากเวลานี้แน่ๆ....เพราะงั้นเลิกคิดวางแผนอะไรไปได้เลย”

“อ่า...ฉันไม่คิดหรอกน่า” เขาเพียงเอ่ยตอบเธอกลับไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวเล็กน้อย เธอหันกลับมามองเขาเล็กน้อยแล้วถอนหายใจออกมา...

หลังจากนั้นเธอก็ได้เดินตรงไปยังทางลงเขา ก้าวเดินลงไปตามทางลาดชันนั้นอย่างระมัดระวัง

โดยไม่ทันได้ล่วงรู้เลยแม้แต่น้อย...ว่าภายใต้ใบหน้าที่ซ่อนอยู่ใต้ผมหน้าของเขานั้น...เป็นอย่างไร....

ที่เธอพูดน่ะคือตอนกลางวัน...แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืนล่ะก็...มันก็ไม่แน่ใช่ไหมล่ะ?

วันนี้ปล่อยผ่านไปก่อน...ในวันพรุ่งนี้ฉันจะทำตามที่สัญญากับคุนทาเร่เอาไว้...และเมื่อถึงตอนนั้น...เราก็จะกลับมามีความสุขได้เหมือนปกติ...

เขายิ้มออกมา...เผยยิ้มอย่างมีความสุขที่สุดภายใต้ผมหน้าที่ปรกลงมาบนใบหน้าของเขา...หลังจากนั้นเขาก็ได้ก้าวเดินตามเจโลไปเพื่อไม่ให้เธอสงสัยท่าทางของเขา

ตัวเธอจะไม่มีวัน...ได้ล่วงรู้ถึงความลับระหว่างเขากับคุนทาเร่อย่างแน่นอน...

**********************************************

หลังจากวันนั้นเจโลก็ยังคงคอยตามเฝ้าดูแลเขาอยู่ตลอด...เธอมักจะมองเขาด้วยสายตาแฝงเลศนัย ราวกับกำลังตรวจดูว่าเขามีความคิดที่จะขึ้นไปบนเขานั่นอีกหรือเปล่า ทว่าเขาก็ทำเพียงแค่หันไปมองเธอด้วยรอยยิ้ม และถามเธอกลับไปว่า “มีอะไรเหรอ?”

ด้วยท่าทางเหมือนไม่สนใจของเขา ทำให้เธอเริ่มรู้สึกวางใจ...แรกเริ่มเธอแสดงอาการไม่เชื่อออกมาเสียก่อน ทว่าหลังจากนั้นเธอก็เริ่มเชื่อ...ถึงสิ่งที่เขาแสดงละครออกมา...

ตัวเขาไม่มีความคิดที่อยากจะกลับไปหาคุนทาเร่อีกแล้ว...เขาทำให้เธอเชื่อเช่นนั้น...แม้เขาจะไม่รู้ว่าเธอเชื่อเช่นนั้นแล้วหรือยัง แต่ผลของความพยายามของเขาก็ได้ปรากฏขึ้นมาในรูปแบบของการกระทำของเธอ...เธอได้หันกลับมายิ้มอีกครั้ง...เลิกมองเขาด้วยสายตาจ้องจับผิด ยิ้มและชวนเขาออกไปเล่นกับเด็กร่วมหมู่บ้านคนอื่นๆ อย่างดีอกดีใจ ยามเมื่อเธอยิ้มให้เขาเช่นนั้นเขาจะเริ่มรู้สึกว่าเธอน่ารักขึ้น....ใช่แล้ว...นี่แหละคือเจโล เพื่อนสนิทสมัยเด็กของเขาที่เขารู้จัก...

เจโลที่ทึมทึบ เอาแต่จ้องจับผิดตัวเขาในวันนั้นไม่ใช่เจโลแต่อย่างใด...เธอเป็นเพียงแค่ใครบางคนที่เขาไม่รู้จักเท่านั้น ทว่าในวันนี้เจโลคนเดิมได้หวนกลับมาแล้ว...

ส่วนตัวเขา...ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นห่วงเรื่องกฎที่เจโลตั้งขึ้นมาให้เขาห้ามขึ้นไปบนเขา...เพราะเขาได้ใช้ความสามารถของตัวเอง หลบหลีกออกจากบ้านในยามค่ำคืนมาพบเจอคุนทาเร่ได้ในที่สุด....ช่วงเวลาที่เขาหลบหลีกออกมานั้น เขามักจะตรวจสอบดูให้แน่ชัดว่าแม่ของตัวเองและคนอื่นๆ ในหมู่บ้านนอนหลับกันหมดแล้ว...หลังจากนั้นเขาจึงค่อยเดินไปพบปะกับคุนทาเร่ที่ทางขึ้นเขาเหมือนเช่นเคย...

“ไง คุนทาเร่ วันนี้ก็มารอฉันก่อนเหมือนเคยนะ”

“อืม เพส...ก็ไม่มีอะไรทำนี่นา พอเห็นว่าไม่มีคนก็เลยลงจากเขามารอซะเลย...แฮะๆ...” คุนทาเร่ส่งเสียงหัวเราะออกมา เธอเงยหน้าขึ้นเผยยิ้มให้เขาอย่างน่ารัก ส่วนเขาเองก็ได้ยิ้มตอบเธอกลับไปเช่นเดียวกัน

คืนนี้เป็นคืนที่พวกเขาทั้งสองได้มาพบกันเป็นคืนที่ห้าแล้ว...ในระหว่างนั้นเพสก็จะพยายามทำให้คนอื่นตายใจเรื่องที่เขาไม่คิดจะกลับมาหาคุนทาเร่ไปด้วย จึงทำให้พวกเขาทั้งสอง สามารถมาพบกันได้โดยไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะโดนใครจับได้อีกต่อไป

“จะว่าไปมันก็แปลกดีนะ...ทำมาตั้งหลายอย่าง แต่สุดท้ายก็มาจบลงที่การนัดพบกันตอนกลางคืนเนี่ย...บอกตามตรงฉันเองก็ไม่คิดเลยเหมือนกันว่าจะมาจบลงแบบนี้”

“อ่า...นั่นสินะ ฉันเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าท้ายที่สุดจะกลายมาเป็นแบบนี้ได้ ฮะๆๆๆ” เพสส่งเสียงหัวเราะออกมา เขาและเธอในตอนนี้กำลังปีนขึ้นหน้าผาไปด้วยกัน พวกเขาส่งเสียงพูดคุยกันไปมาด้วยความสนุกสนาน แต่ท้ายที่สุด เมื่อไม่มีเรื่องใดๆ พูดกันอีกพวกเขาก็ได้เงียบเสียงลงไป

“นี่...เพส...ทำไมถึงยอมหนีออกจากบ้านมาหาฉันถึงที่นี่ล่ะ?”

“เอ๋?” เพสรู้สึกประหลาดใจกับคำถามของเธอ เขาก้มหน้าลงไปมองเธอครู่หนึ่ง แต่หลังจากนั้นเขาก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองได้ปีนขึ้นไปถึงด้านบนสุดแล้ว เขาจึงได้กระโดดนำเธอขึ้นด้านบนไป “เมื่อกี้เธอถามฉันว่าอะไรนะ?”

“ก็...ถามว่าทำไมถึงยอม...มาหาฉันตอนกลางคืนแบบนี้ไง?” คุนทาเร่เงยหน้าขึ้นมองเขา หลังจากกระโดดตามเขาขึ้นไปเธอก็เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงค่อยช้อนตาขึ้นมามองเขา “เป็นเพราะพวกเราเป็นเพื่อนกันเหรอ? หรือว่าเพราะรู้สึกผิดที่ต้องอยู่ห่างจากฉันทั้งๆ ที่ฉันช่วยนาย?”

“เอ๋?” คำถามนั้นทำให้เพสนิ่งอึ้งไป เขานิ่งค้างไปสักพัก ยังคงทำความเข้าใจคำถามอะไรของเธอไม่ได้...

แต่แล้วหลังจากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมา ตัดสินใจตอบไปตามที่ตัวเองคิด “ก็เพราะเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ? เพราะอย่างนั้นฉันถึงได้อยากขึ้นมาหาเธอที่นี่ไง”

“งั้นเหรอ...?” คุนทาเร่เงยหน้าขึ้น เบิกตากว้างมองเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ แต่หลังจากนั้นเธอก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา “ฮะๆๆๆๆ ประหลาดจังเลยนะ...ทั้งๆ ที่ฉันเองก็แทบไม่ค่อยมีเพื่อนแท้ๆ...”

“เอ๋? ไม่ค่อยมีเพื่อนงั้นเหรอ...?” เพสประหลาดใจ เขาเงยหน้ามองเธออย่างทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นเธอก็ได้หัวเราะออกมา “อืม ก็เพราะฉันเป็นคนที่แปลกประหลาดไปกว่าคนอื่นนี่นะ....เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก”

“ไม่ใช่เรื่องแปลก...งั้นเหรอ...?” เพสเงียบไป พึมพำถ้อยคำเช่นนั้นออกมาเบาๆ ทว่าหลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนสีหน้าไป

“คุนทาเร่น่ะไม่แปลกสักหน่อย คุนทาเร่น่ะใจดีออกจะตาย ใจดีอย่างที่ฉันเองไม่เคยได้พบได้เห็นมาก่อนเลยด้วย”

“เอ๋?” คุนทาเร่เบิกตากว้าง เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความประหลาดใจ ทว่าหลังจากที่เริ่มรู้สึกตัวว่าพูดอะไรออกไป เขาก็ตกใจ ก้มหน้าลงไป เผยยิ้มบางๆ แล้วเกาแก้มของตัวเองด้วยใบหน้าที่เจือสีแดงเล็กน้อย “ก็....ตลอดมาฉันมักจะอยู่กับพวกเจโลตลอดเลยนี่นา...เธอคนนั้นถึงตอนเจอเธอจะทำสีหน้าแบบนั้นก็เถอะ แต่ตามปกติเธอไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกนะ...ใจดีออกจะตาย...มักจะอยู่เป็นเพื่อนฉันอยู่ตลอดทั้งๆ ที่คนอื่นออกไปวิ่งเล่นกันหมดแล้ว...แถมยังมาคอยอยู่ดูแลตัวฉันที่มักจะนอนทำอะไรไม่ได้อยู่บนเตียงอีก...เธอเป็นคนเดียวเลยที่ยอมทำเพื่อฉันขนาดนั้น”

“.....” คุนทาเร่เบิกตากว้าง รับฟังสิ่งที่เพสพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ แต่หลังจากนั้นเธอก็เผยยิ้มออกมา “ดูเหมือน...ว่าจะชอบเธอคนนั้นมากเลยนะ...”

“อ่า....ก็ไม่ได้ชอบอะไรหรอก แต่แค่เธอคนนั้นเป็นคนที่คอยอยู่กับฉันด้วยกันมาตลอดก็เท่านั้นเอง...บอกตามตรงฉันเองก็รู้สึกดีใจนะที่เธอคนนั้นไม่เคยแยกจากฉันไป แต่บางทีฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรว่าเธอต้องการทำอะไรกันแน่...อย่างเรื่องที่เธอทำล่าสุดนั่นฉันเองก็ยังไม่เข้าใจเลย...”

“อ่า...นั่นสินะ...แต่ฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่ามันเป็นยังไงหรอกนะ...”

“......” ทั้งสองคนเงียบไป...พวกเขาเงียบเสียจนแทบได้ยินเสียงแมลงหริ่งร้อง...ยินเสียงสายลมพัดผ่านไป จนกระทั่งเมื่อเพสเริ่มรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมา เขาก็ได้หันไปมองและบอกคุนทาเร่ด้วยรอยยิ้ม “พวกเรา...ไปที่เดิมกันเถอะ”

“อะ....อืม...” คุนทาเร่พยักหน้า เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาจากนั้นก็เผยยิ้มออกมา “งั้นเอาเป็นว่าในเมื่อนายเล่าเรื่องเพื่อนของนายให้ฟังแล้ว งั้นคราวนี้ฉันจะขอเล่าเรื่องเพื่อนของฉันให้นายฟังบ้างนะ”

“หา? แต่เมื่อกี้เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าเธอไม่ค่อยมีเพื่อนน่ะ”

“คนที่ไม่มีเพื่อนน่ะไม่มีหรอก เพียงแต่ว่าฉันเข้ากับเพื่อนไม่ค่อยได้ก็เท่านั้นเอง...ก็อาจจะเรียกว่าไม่มีเพื่อนก็ได้ล่ะมั้ง....เอาเถอะน่า! ฉันบอกว่าอยากเล่าแล้ว เพราะฉะนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ นายเองก็ตั้งใจฟังเรื่องที่ฉันเล่าให้ดีด้วยนะ!!”

“อะ...อ่า...ฉันเองก็ไม่ว่าอะไรหรอก...” เพสพึมพำออกมา หันกลับไปมองคุนทาเร่ด้วยสีหน้าไม่เข้าใจเล็กน้อย ทว่าเมื่อเขาได้เห็นรอยยิ้มเธอ...ได้ยินเสียงหัวเราะของเธอ เขาก็ตัดสินใจที่จะเผยยิ้มออกมาและไม่พูดอะไรออกไป

เอาเถอะ...ในเมื่อเราเองก็บอกออกไปแล้วว่าเราอยากเป็นเพื่อนกับเธอ...เพราะฉะนั้นเรื่องของเพื่อนเป็นยังไงเราเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน...

คุนทาเร่ได้ดึงมือพาเพสเข้าป่าไป พวกเขาหัวเราะด้วยกันจนกระทั่งสายลมได้พัดเปลี่ยนทิศทาง...

พวกเขาไม่เคยคิดที่จะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของสายลมเลย...ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อยว่าสายลมเหล่านั้นกำลังหยุดลง และเสียงจักจั่นกำลังกรีดร้องดังระงมไปทั่วผืนป่า...

ท้ายที่สุด...เงาสายหนึ่งก็ได้กระเพื่อมไหวขึ้นมาจากบนทางเดิน จับตามองพวกเขาทั้งสองคนเดินเข้าป่าไปจนลับสายตา...

******************************************************

“แล้วก็นะ....จากนั้นเขาคนนั้นก็หกล้มลงไปล่ะ มันน่าขำมากเลยนะ ทั้งๆ ที่ฉันเองก็ไม่คิดอยากจะขำคนอื่นแท้ๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไม....พอเห็นแบบนั้นทีฉันกลับรู้สึกอยากขำออกมายังไงก็ไม่รู้”

“อ่า...ถ้าเป็นแบบนั้นฉันเองก็รู้สึกขำเหมือนกันนะ เจอแบบนั้นเข้าไปฉันเองก็ไม่ไหวเหมือนกัน แต่ว่า....ตอนนี้มันห้าทุ่มแล้วนี่นา...”

“?” ในระหว่างที่กำลังพูดคุยกันอยู่อย่างสนุกสนาน เพสก็ได้หยิบนาฬิกาของตนขึ้นมาดู และพบว่าเวลานั้นได้ล่วงเลยมาจนถึงจุดสิ้นสุดของค่ำคืนอันแสนสั้นแล้ว...

“วันนี้พอแค่นี้ก่อนเถอะ ถ้ากลับไปช้าเดี๋ยวคนอื่นจะรู้ตัวกันนะ”

“อ่า...ถึงจะอยากอยู่คุยต่อก็เถอะ...แต่มันคงจะช่วยไม่ได้นะ...” เพสถอนหายใจออกมา เขาเก็บนาฬิกาไขลานของตัวเองลงกระเป๋าไป จากนั้นจึงค่อยลุกขึ้นจากโขดหิน ปัดเอาฝุ่นออกจากก้นของตัวเองอย่างลวกๆ

“ถ้าอย่างนั้น ไว้วันพรุ่งนี้พวกเราค่อยมาเจอกันอีกนะ วันพรุ่งนี้ฉันขอฟังเรื่องที่มันดูสนุกสนานมากกว่านี้ล่ะ”

“นี่คิดจะล้วงความลับของลูกผู้หญิงเหรอ...?”

“เอ๋.....?” เมื่อได้ยินดังนั้นเพสก็ยิ้มค้าง นิ่งอึ้งจ้องมองเธอไปชั่วครู่หนึ่ง ทว่าหลังจากผ่านไปไม่นาน คุนทาเร่ที่เหลือบสายตาขึ้นด้วยรอยยิ้มมีเลศนัยก็เลิกท่าทางเช่นนั้น แล้วส่งเสียงหัวเราะออกมา “ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆ ล้อเล่นหรอกน่า!! สีหน้าของเพสตอนได้ยินฉันพูดแบบนั้นนี่ตลกจัง!!”

“อ่า....ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ....” เพสหัวเราะออกมาแห้งๆ...เขาไม่เข้าใจเลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น หรือตัวเองควรจะทำหน้าเช่นไร สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงแค่ยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองอย่างทำอะไรไม่ถูกเท่านั้น

“อื้ม!! วันพรุ่งนี้ฉันจะเล่าให้ฟังนะ ถึงเรื่องครอบครัวของฉัน ทุกคนใจดีมากเลยล่ะ!! แล้วก็เพราะทุกคนนี่แหละฉันถึงได้ออกเดินทางมา”

“งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอฟังเรื่องของเธอนะ” เพสเผยยิ้มออกมา เขารู้สึกตัวเมื่อเธอเอ่ยออกมาเช่นนั้น ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจเรื่องที่เธอพูดออกมาในตอนแรกแล้ว...สิ่งที่เขาสนใจมีอยู่เพียงแค่เรื่องที่เธอได้บอกกับเขาเมื่อครู่เท่านั้น

“ถ้าอย่างนั้นก็ไว้เจอกันวันพรุ่งนี้นะ วันพรุ่งนี้ฉันจะตามลงไปรับนายเหมือนเดิม”

“อ้า! แล้วฉันเองก็จะรีบออกมาให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย!!”

“อย่าให้คนอื่นจับได้ล่ะ ไม่งั้นนายจะไม่มีโอกาสได้ออกมานะ...”

“อ้า เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เพราะว่าฉันน่ะหลบเก่งซะอย่าง!!”

“โถ่...เพสนี่ล่ะก็...” คุนทาเร่หัวเราะ เพสเองก็ส่งเสียงหัวเราะ พวกเขาหัวเราะอยู่ด้วยกันเช่นนั้นเสียพักใหญ่ จนในที่สุด เพสก็จำเป็นต้องเดินจากเธอมา

“เรื่องของเพื่อน...งั้นเหรอ...? จะว่าไปคุนทาเร่ก็เจอมาเยอะเหมือนกันนี่นะ...” เพสพึมพำออกมาขณะเดินห่างออกมาจากเธอได้พอสมควร หลังจากนั้นเขาก็ได้ส่งเสียงถอนหายใจออกมา

ทั้งแกล้งจับไปขังในห้องมืด...แกล้งจับมัดห้อยขาอยู่บนต้นไม้ทั้งวันทั้งคืน...เรื่องแบบนั้น...ถ้าเป็นเขาเขาก็คงทนไม่ได้จนอาจจะต้องตายไปแล้วก็ได้...นั่นก็เพราะตัวเขาในตอนนั้นร่างกายอ่อนแอ...ถ้าโดนแกล้งถึงขนาดนั้น เขาเองก็คงจะรับไม่ไหวเหมือนกัน

“แต่ถ้าเกิด...ร่างกายของเราแข็งแรงแล้วโดนแกล้งแบบนั้นงั้นเหรอ...?”

นั่นสินะ...เขาเอง...ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเขาเองจะเป็นอย่างไรต่อไป...

ในคืนนั้นเขาได้แอบปีนลงจากเขาไป แอบย่องเข้าไปแถวบ้านโดยพยายามไม่ให้ใครเห็น และแอบปีนเข้าหน้าต่างห้องของเขาไป...ทั้งหมดนั่น เขาทำโดยพยายามสอดส่องดูว่าจะมีใครเดินผ่านมาใกล้ๆ หรือเปล่าไปด้วย...

ทว่าท้ายที่สุดก็ไม่มีใครมาเจอเขา เขาเองก็สามารถกลับมานอนที่เตียงของเขาได้เหมือนเดิมโดยไม่จำเป็นต้องเป็นกังวล

“ราตรีสวัสดิ์....ตัวฉันในวันนี้” เมื่อกลับขึ้นเตียง ตัวเขาก็พึมพำออกมาเช่นนั้นและหลับตาลง...กว่าเขาจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็คงเป็นเวลาเก้าโมงถึงสิบโมง ซึ่งต่อให้เขาตื่นสายก็คงไม่มีใครว่า เพราะตามปกติเขาเองก็มักจะนอนอยู่บนเตียงเช่นนี้ทุกวันอยู่แล้ว...จึงไม่มีใครรู้เลยว่าปกติแล้วตัวเขามักจะนอนและตื่นขึ้นมาในเวลาไหน...

จนกระทั่งเมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องมาต้องใบหน้าของตัวเขาในตอนนั้น...เขาก็ได้หลับไป...

*****************************************************

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา