Time Crime บทเพลงและกาลเวลา

10.0

เขียนโดย HirariYurari

วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 17.25 น.

  15 chapter
  6 วิจารณ์
  18.70K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 กันยายน พ.ศ. 2556 09.24 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) หากเธอจะเป็นคนเลวมากกว่านี้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

-13-

หากเธอจะเป็นคนเลวมากกว่านี้

 

เจโลบอกยอมรับที่เขาบอกว่าเขานั้นรักเธอ พร้อมกันนั้นเธอก็ได้สั่งให้เขาอยู่ห่างจากคุนทาเร่ไว้ แม้มันจะเป็นคำสั่งที่ทำให้เขารู้สึกปวดใจเสียเท่าไร ทว่าเขาก็พยายามคิดว่าถึงอย่างไรตัวเขาเองก็คิดที่จะถอยห่างจากเธออยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคำสั่งของเธอจึงเป็นเสมือนการผลักดันครั้งสุดท้ายที่จะทำให้เขาตัดใจจากคุนทาเร่ได้

“กลับมาแล้วล่ะเพส เป็นยังไงบ้าง อาการดีขึ้นบ้างหรือเปล่า?”

ก่อนที่คุนทาเร่จะกลับมานั้น แน่นอนว่าเจโลได้จากเขาไปแล้ว เธอย้ำซ้ำเตือนเขาบอกว่าต้องห้ามพูดกับเธอคนนั้น และแน่นอนว่าเขาเองก็ต้องการที่จะทำตามที่เธอบอกอยู่แล้ว

ทว่าไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร...เขากลับเกิดความรู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาเมื่อเขาต้องทำเช่นนั้นกับเธอจริงๆ

“.......”

“นี่ ทำไมไม่พูดล่ะ ตอบหน่อยสิ” คุนทาเร่เดินถือถาดเข้าต้มตรงมาทางเขา แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังเบือนหน้าหนี ไม่คิดจะหันกลับไปมองเธอ

“อ่า...หรือว่าจะไข้ขึ้นงั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นฉันจะช่วยเช็ดตัวให้นะ”

หมับ!

“!!” คุนทาเร่สะดุ้งตกใจ เพสเอื้อมมือไปคว้าแขนของคุนทาเร่เอาไว้อย่างรุนแรง

“ไม่ต้อง” เขาตอบกลับน้ำเสียงแผ่วเบาแทบเลือนหาย “ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอก”

“ทำไมล่ะ?” คุนทาเร่เอ่ยถาม คิ้วขมวดมุ่นด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ

“เพราะว่า...” เขาตั้งใจจะเอ่ยตอบ ทว่าเขากลับไม่รู้ว่าตัวเขาจะบอกเธอไปว่าอะไร

เพราะว่า...เพราะว่าอะไร? เพราะตัวเขาต้องการถอยห่างจากเธออยู่แล้วงั้นเหรอ...หรือว่าเพราะมีคนสั่งมา...หรือว่าทั้งสองอย่าง?

เขารู้ว่ามันเป็นทั้งสองอย่าง เขารู้ว่ามันไม่มีอะไรผิดแปลกไป ทว่าเขาก็ยังรู้ว่ามันมีอะไรผิดแปลกไป...

อะไรกันที่ผิดแปลกไป...อะไรกันที่กวนใจเราอยู่ในตอนนี้?

“.....”

จะบอกว่าเรานั้น...ไม่ได้ต้องการอยากจะอยู่ห่างจากเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้วงั้นเหรอ?

เรื่องบ้าๆ แบบนั้นไม่มีทางเป็นไปได้หรอก

“ถึงยังไงก็เถอะ ได้โปรดอย่าเข้ามาใกล้ฉันเลย ฉันไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องพูดคุยกับเธอ”

“อะไรกัน ท่าทางแบบนั้นน่ะ ไม่บอกก็ไม่รู้สิว่าเป็นอะไรน่ะ” ทว่าคุนทาเร่กลับยังคงพยายามเข้ามาเซ้าซี้เขา เธอบอกว่าเธอจะไม่ยอมจากไปถ้าหากเขาไม่ยอมบอกเหตุผลเธอ

บอกเหตุผลงั้นเหรอ...มันสำคัญตรงไหนงั้นเหรอ?

เธอไม่ได้รู้เรื่องของผมนี่ เธอไม่มีทางเชื่อเรื่องที่ผมย้อนเวลากลับมานี่ เธอไม่เคยเห็นตอนที่เจโลคาดคั้นผมนี่

คนที่ไม่รู้อะไรเลยก็ทำได้เพียงแค่พ่นคำพูดปาวๆๆๆๆ ว่า ‘มีอะไรให้ช่วยบ้างเหรอ? ฉันสามารถช่วยได้นะ’ หรือ ‘อย่าเอาแต่เงียบแบบนั้นสิ ถ้าเกิดมีอะไรก็บอกๆ มาให้จบเรื่อง’ ได้เท่านั้น

ใช่แล้ว...คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ทำได้เพียงแค่เท่านั้น ทำได้แค่พ่นคำพูดไร้สาระแสดงถึงความอวดดีอวดรู้ไปวันๆ แบบคุนทาเร่นั้นเป็นรูปแบบที่อยากเข้าไปช่วยเหลือคนอื่นจนตัวสั่นสินะ...อยากทำความดีให้คนอื่นได้เห็นความชอบตัวเองบ้าง ตัวเองจะได้ถูกยกย่องให้กลายเป็นพระแม่ผู้ใจดี

บอกตรงๆ ผมล่ะขยะแขยงคนประเภทอย่างเธอชะมัดเลย...

“...ผมก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมายุ่ง...”

“ตะ...แต่ว่า...” คุนทาเร่หน้าเจื่อนไปมากเมื่อได้ยินน้ำเสียงกดดันของเขา ทว่าอารมณ์ที่พุ่งพล่านจนถึงขีดสุดของเขากลับไม่สามารถอัดกลั้นเอาไว้ได้อีกต่อไปแล้ว

“ถ้าแค่คิดว่าอยากจะทำดีกับฉันเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดูดีขึ้นล่ะก็ ฉันไม่ต้องการ ถ้าเพียงแค่นั้นล่ะก็กลับไปซะเถอะ”

“!!”

“.....”

นี่ผม...พูดอะไรออกไป?

ผมตั้งใจพูดแบบนี้ออกไปงั้นเหรอ...?

อ่า...แต่มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรอีกต่อไปแล้วล่ะ...

“ทำไม...ถึงพูดแบบนี้เหรอ?” คุนทาเร่ยังคงยืนนิ่ง สีหน้าของเธอเหมือนรับไม่ได้ แต่ก็ยังคงพยายามถามคำถามเพื่อทำความเข้าใจคำพูดของผม

อ่า...ออกไปสักทีเถอะ...ทั้งๆ ที่ผมเองก็เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาแล้วแท้ๆ...

ให้ผมรู้สึกผิดต่อไปแบบนี้ เพื่อจะได้ไม่ต้องทำร้ายเธอไปมากกว่านี้ไม่ได้งั้นเหรอ?

“เธอมันน่ารำคาญ ทำไมถึงต้องมาขออาศัยอยู่ในบ้านผมด้วยล่ะ? ผมไม่ได้ต้องการเธอ ชอบมาพูดโวยวายอยู่ข้างๆ ตลอดน่ารำคาญ หายๆ หน้าไปที่ไหนก็ได้จะดีมาก”

“นั่นมัน...” คุนทาเร่เบิกตากว้าง เธอสะอึกกลั้นใจ รู้สึกเหมือนเห็นน้ำตาเริ่มไหลเข้ามาคลอเบ้าของเธอ

ออกไปได้แล้ว...ออกไปสักที...

ผมรู้...รู้ว่าเธอนั้นมีจิตใจที่เข้มแข็ง...เธอนั้นมีความคิดที่จะอยากจะทำความเข้าใจคนอื่นตลอดเวลา ผมรู้เรื่องนั้นตั้งแต่แรกแล้วจากการที่ผมได้อยู่กับเธอมาตั้งแต่ช่วงเวลาที่ผ่านๆ มานั้น...

เธอมักคิดเสมอว่าแต่ละคนมีเหตุผลในการกระทำของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจะไม่มีวันพูดทำร้ายคนอื่นโดยไร้ซึ่งเหตุผล เธอคิดเช่นนั้นพร้อมบอกกับตัวเองว่าเธอจะต้องเฝ้าหาเหตุผลนั้นให้ได้ เพื่อที่ทุกคนจะได้อยู่บนโลกอย่างมีความสุขและเข้าใจกัน

แต่มันจะไปมีเหตุผลอะไรถ้าคนที่ไม่มีความสุขต้องกลายเป็นตัวเธอเอง...? มันจะไปมีเหตุผลอะไรถ้าเธอต้องมาคอยกลายเป็นกระสอบทรายรองรับอารมณ์โกรธของคนอื่นเอง?

รู้ตัวสักทีสิว่าความคิดของเธอน่ะมันบ้า! ไม่มีทางที่ทุกคนจะอยู่ด้วยกันได้โดยไร้ซึ่งความบาดหมางกันหรอก!

ทำไมจะต้องทำอะไรเพื่อคนอื่นขนาดนั้นด้วย? ทำไมจะต้องยืนนิ่งพยายามคิดหาเหตุผลที่ผมโกรธด้วย?

ในเมื่อเหตุผลนั้นเป็นสิ่งที่เธอไม่มีวันเข้าใจ...ไม่มีทางแก้ไขได้หากเธอยังคงดื้อรั้นอยู่แบบนี้...

รู้ไหม? ที่เธอต้องมาคอยทนรับความเจ็บปวดอยู่แบบนี้ ไม่ใช่แค่เธอคนเดียวนะที่รู้สึกเจ็บ คนที่รู้ว่าตัวเธอเป็นคนยังไงก็รู้สึกเจ็บ...เพราะด่าแล้วเธอก็เอาแต่เก็บความเจ็บนั้นเอาไว้และยิ้มออกมาเหมือนไม่มีอะไรให้ต้องเจ็บปวด! เหมือนเป็นตุ๊กตาที่ไร้หัวใจ เอาแต่ยิ้มเพื่อมอบความสุขให้คนอื่น!

เธออยากจะเป็นเพียงแค่ตุ๊กตาอย่างนั้นเหรอ!? อยากจะรับความทุกข์นั้นเอาไว้เพื่อให้คนอื่นมีความสุขงั้นเหรอ!?

ไอ้การที่ต้องทนมองเธอเอาแต่ทนฟังฉันด่าโดยไม่แสดงสีหน้าทุกข์ร้อนหรือแสดงความเห็นแก่ตัวอะไรออกมาเลยแบบนั้นน่ะ มันดูน่าสงสารจนในอกของฉันรู้สึกเจ็บแปลบมากกว่าที่เธอจะตะโกนด่าฉันกลับมาเสียอีก!!

“รีบๆ ไสหัวไปสักทีเถอะ แค่ผมได้เห็นใบหน้าของเธอผมก็รู้สึกรังเกียจขี้หน้ามากพออยู่แล้ว! รีบๆ ไสหัวกลับไปสักที!!”

“.........” คุนทาเร่ยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ยืนนิ่งกลั้นใจน้ำตาไหลอาบแก้มทว่าใบหน้ากลับไร้ซึ่งเค้าอารมณ์ใดๆ ราวกับว่าเธอกำลังพยายามฝืนกลั้นไม่ให้ความรู้สึกของเธอหลั่งไหลออกมา...ไม่ให้มันหลั่งไหลออกมาตามหยาดน้ำตานั้น

“ทำไมถึงไม่ไปล่ะ? ทั้งๆ ที่ฉันด่าออกไปแบบนั้นแล้วแท้ๆ...ทำไมถึงไม่ตอบโต้ล่ะ!?” แม้แต่ผมเองก็เกือบที่จะร้องไห้ออกมาแล้วนะ... ไม่สิ ผมร้องออกมาแล้ว แม้จะไม่รู้ตัว แต่หยาดน้ำตาสายหนึ่งที่ไม่ใช่ของเธอก็ได้กระเด็นไปตามอารมณ์ของผม ซึมลึกสู่ภายในผืนผ้าห่ม

แต่เธอก็ยังคงไม่ขยับ เธอยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่พูดอะไรออกมาเลย

“.......โถ่ว้อย!!”

“.........” คุนทาเร่ยังคงเงียบอยู่เช่นนั้น เธอเงียบจ้องมองผมพลางค่อยๆ เผยยิ้มออกมา...ยิ้มที่แลดูเศร้าสร้อย...ยิ้มเหมือนเข้าใจเรื่องทุกอย่างทั้งที่ไม่รู้

“......”

เนื้อตัวของเธอสั่นเทาอย่างไม่มีเหตุผล...บางทีมันอาจจะเป็นเพราะการเก็บอารมณ์ความรู้สึกของเธอมากเกินไป ถ้าเกิดทรมานแค่ปล่อยออกมาก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมจะต้องเฝ้าแต่เก็บเอาไว้แบบนั้นด้วยล่ะ?

รู้ไหม? เธอน่ะเป็นคนที่บ้าที่สุดจนฉันไม่อยากจะทำร้ายเธอเลย...

บ้าสุดๆ...บ้าจนแม้แต่ความตั้งใจของฉันก็ยังพลอยถูกความบ้าของเธอพัดปลิวหายไปด้วย...

“ฮึก....ฮือ.....” ท้ายที่สุดตัวเขาก็ได้ร้องไห้ออกมา คุนทาเร่เพียงยิ้มอย่างขมขื่น ในระยะแรกเธอยังคงกลัว ไม่กล้าขยับเข้ามาใกล้เขา ทว่าท้ายที่สุดเธอก็กล้าที่จะยื่นมือออกไป แม้จะทำอยู่เพียงแค่แตะสัมผัสมือของเขาเพื่อปลอบประโลมเท่านั้น...

เขาร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดหัวใจ ไม่ใช่ความเจ็บปวดจากการที่ไม่สามารถทำตามสิ่งที่เจโลบอกเอาไว้ได้ แต่เป็นความเจ็บปวดที่เกิดจากการต้องทำร้ายคนที่เขารักเพื่อคนที่เขา ‘ไม่เคยรัก’

ถ้าอย่างนั้นแล้ว เขาควรจะทำอย่างไรเพื่อปกป้องเธอผู้เป็นที่รักของเขาในตอนนี้ดี?

*****************************************************

“ทำไม...ถึงโกรธฉันเหรอ?” น้ำเสียงของคุนทาเร่แผ่วเบา ฟังดูคล้ายสัตว์น้อยๆ ตัวหนึ่งที่ยังคงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงพยายามจ้องมองเพื่อทำความเข้าใจคนอื่น

“......ไม่ได้โกรธเธอหรอก....ฉันโกรธตัวเองมากกว่า...”

“ฉันจะไม่บอกเธอว่า ‘มีอะไรก็บอกได้นะ’ แต่....ฉันก็ยังไม่อยากให้เธอไม่สบายใจ...ถ้าอย่างนั้นแล้ว...ถ้าอย่างนั้นแล้วฉันควรจะทำยังไง...” สีหน้าของเธอดูสับสนลุกลน เธอคงจะคิดว่ามันเป็นความผิดของเธอ ทว่ามันไม่ใช่เลย...

มันเป็นความผิดของผม ของผมคนเดียวเท่านั้นที่ไม่สามารถปกป้องเธอได้...ทั้งที่ไม่สามารถปกป้องเธอได้แต่กลับเอาความโกรธของตัวเองมาลงกับตัวเธอ...เพราะผมมันบ้าไปเองยังไงล่ะ...

“ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก ไม่ใช่ความผิดของเธอ”

“ตะ...แต่ว่า...” คุนทาเร่ช้อนตาขึ้น ดูเหมือนว่าจะต้องการอยากทำอะไรบางอย่างเพื่อไถ่โทษเขาจริงๆ ทั้งๆ ที่มันไม่จำเป็นเลยแท้ๆ...

“.....ถ้าอย่างนั้นเอาข้าวต้มนี้ไปเปลี่ยนให้ฉันหน่อยนะ ฉันเองก็อยากกินข้าวต้มแล้ว”

“อะ...อื้ม! งั้นฉันจะเอาไปเปลี่ยนให้เดี๋ยวนี้เลยนะ!” คุนทาเร่พยักหน้ารับอย่างไม่ปฏิเสธใดๆ เธอรีบยกถาดข้าวต้มออกไปอย่างตั้งอกตั้งใจ ราวกับว่าเรื่องที่เขาขอร้องนั้นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เธอสามารถทำได้ และเป็นสิ่งที่จะสามารถทำให้เธอพ้นจากความรู้สึกผิดบาปในใจของตัวเองได้

ยังคงเดาง่ายอยู่เหมือนเดิมเลยนะ...ทั้งที่แค่บอกให้ไปทำอะไรนิดหน่อยเองแท้ๆ

แต่ถึงอย่างนั้น ปัญหาก็ยังคงมีเพิ่มมาอีกหนึ่งอย่าง...

“เจโล...”

ใช่แล้ว...เรื่องของเธอคนนั้น...เรื่องของเจโลที่ไม่มีวันยอมให้เรื่องดำเนินไปอย่างนี้แน่นอน

เขาจะต้องปกป้องเธอ...จะต้องปกป้องเธอจากเจโลให้ได้

เพราะฉะนั้นหนเดียวที่จะทำให้พวกเราได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งก็คือ...

*************************************************

เมื่อตกค่ำ ยามที่ทุกคนในหมู่บ้านได้เข้านอนกันไปหมดแล้ว เพสก็ได้ไปเคาะประตูเรียกคุนทาเร่จากในห้อง

“มีอะไรเหรอ?” คุนทาเร่เดินออกมาพร้อมสีหน้างัวเงีย ดูเหมือนเธอเองก็กำลังคิดพยายามที่จะปรับตารางนอนของตัวเองให้ตรงกับคนอื่นเช่นเดียวกัน ทั้งๆ ที่ตามปกติแล้วเธอแทบไม่จำเป็นต้องนอนเลยแท้ๆ

“เรารีบหนีไปจากที่นี่กันเถอะ ไม่อย่างนั้นจะต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่”

“เอ๋?” คุนทาเร่เอียงคอสงสัย เธอไม่เข้าใจเรื่องที่เขาต้องการสื่อเลย ทว่าเขาก็ได้ดึงมือของเธอวิ่งออกจากบ้านของพวกเขาไปเสียแล้ว

ทางออกไปนอกหมู่บ้านนั้นจำเป็นที่จะต้องผ่านตัวเมืองไป ทว่าเพสกลับรู้ทางลับที่จะสามารถออกไปจากเมืองนี้ได้โดยไม่ต้องผ่านกลางตัวเมือง...เขารู้เพราะว่าตอนที่เขายังคงซุกซนอยู่ เขามักจะพยายามหาหนทางออกไปจากหมู่บ้านให้ได้ แต่ก็ถูกจับได้เสียตลอด...จนกระทั่งเมื่อเขาค้นพบเส้นทางนี้จึงแทบไม่มีใครจับเขาได้เลย...

“นี่เพส เป็นอะไรไปเหรอ? อยู่ดีๆ ก็ออกมาจากบ้านอย่างกะทันหันแบบนี้เนี่ย ฉันยังไม่ได้เก็บของของฉันเลยนะ” คุนทาเร่เงยหน้าขึ้นบอกกับเพสอย่างลำบากใจทั้งยังโดนเขาดึงมือเดินตามมาอยู่เบื้องหน้า ทว่าเขาก็ยังไม่สนใจ

“ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องนั้น อีกอย่างเรื่องข้าวของนั้นไม่จำเป็นหรอก”

“เอ๋?” คุนทาเร่เอียงคอสงสัยสีหน้าประหลาดใจ ท้ายที่สุดเพสก็ได้หันกลับมามองเธอหยุดก้าวเดินอย่างกะทันหัน

มือของทั้งสองคนค่อยๆ ปล่อยออกจากกัน บริเวณที่พวกเขากำลังยืนอยู่นั้นคือบริเวณป่านอกหมู่บ้าน ถ้าหากเดินต่อออกไปอีกเล็กน้อยพวกเขาก็น่าจะมองเห็นเส้นทางในการออกไปจากหมู่บ้านนี้ได้

“เธอจะถูกฆ่านะ! ถ้าเกิดไม่ทำแบบนี้เธอจะต้องถูกเจโลฆ่าแน่!”

“ทำไม....” คุนทาเร่ดูยังคงสับสนใจเรื่องที่เขาบอก เธอไม่เข้าใจเลยว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร

“....ให้เล่าทั้งหมดมันก็คงจะเป็นไปไม่ได้...เอาเป็นว่าพวกเรารีบไปกันดีกว่า ถ้าเกิดมีใครตามมาแล้วจับได้มันจะเป็นเรื่องใหญ่”

“ตะ...แต่ว่าเธอ...ไม่สบายอยู่ไม่ใช่เหรอ....!?” ก่อนที่คุนทาเร่จะทันได้พูดอะไรออกไป เพสก็ได้หันกลับมามองเธออีกครั้งอย่างกะทันหัน

มันเป็นอะไรที่กะทันหันมาก...เป็นช่วงเวลาที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน ไม่เพียงแค่นั้น ทว่าสิ่งที่เธอเห็นกลับยิ่งตอกย้ำให้เธอรู้ว่าเธอนั้นคิดผิด

“อ่า...” เด็กสาวพึมพำออกมา ไม่ว่าเธอจะกำลังรู้สึกอย่างไรก็ตาม ทว่าเมื่อได้เห็นดวงตาคู่นั้น เธอก็ได้เงียบเสียงลงไปทันที

ดวงตาของคนที่มองสถานการณ์อย่างมุ่งมั่น...

“ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็เถอะ...แต่ฉันก็เชื่อว่าเธอจะสามารถก้าวผ่านมันไปได้นะ”

“อ่า ฉันจะก้าวผ่านมันไปแน่” เพสเอ่ยตอบเธอ จับมือเธอแล้วพาเธอเดินลึกเข้าป่าไปอีกครั้ง

มือของเธอนั้นเย็น...ทั้งเย็น ทั้งอบอุ่น ทั้งอ่อนนุ่ม อีกทั้งยังรู้สึกเหมือนได้กลิ่นหอมๆ บางๆ ลอยโชยมาจากเส้นผมของเธอด้วย...

อ่า...ช่างเป็นความรู้สึกที่แสนจะอ่อนโยนเสียกระไร กลิ่นที่เหมือนดั่งกลิ่นดอกไม้นั้น...

มันก็คือกลิ่นเฉพาะตัวของเธอเอง...

แซก

“!?”

ทว่าในตอนนั้นเอง เขากลับได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังออกมาจากพุ่มไม้ที่ด้านหลัง เสียงแซกๆ คล้ายเสียงแหวกฝ่าพุ่มไม้ ทว่าในขณะเดียวกัน มันกลับเป็นเสียงที่ให้ความรู้สึกกดดันอย่างน่าประหลาด...

.....มาแล้วงั้นเหรอ?

เพสรู้สึกตื่นตกใจ ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้บอกเธอเรื่องเขาจะหนีออกมาแท้ๆ ไม่ได้บอกอะไรเธอเลยด้วยซ้ำ แถมยังไม่ได้ผ่านหน้าบ้านของเธออีก เพราะอะไรเธอถึงได้รู้เรื่องของพวกเขาและตามพวกเขามาได้?

“.....รีบไปกันเถอะ คุนทาเร่”

“อะ...อื้ม!” คุนทาเร่พยักหน้าสีหน้าตื่นกลัว พวกเขาจับมือกันแน่นแล้ววิ่งไป วิ่งต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงทางออกจากป่า

ทำไมถึงยังไม่ถึงทางออกจากป่าอีกนะ?

ด้านนอกป่านั้นเป็นบริเวณทุ่งราบ ถ้าออกไปจนถึงบริเวณนั้นได้ต่อให้ไม่มีใครเดินผ่านมาแต่เธอก็ยังคงทำอะไรได้ไม่สะดวกอยู่ดี...เขาจะต้องออกไปจากป่าแห่งนี้ให้ได้...จะต้องปกป้องคุนทาเร่ไม่ให้ถูกเธอคนนั้นฆ่าให้จงได้!

“เพ-------ส ทั้งๆ บอกกับฉันว่าจะรักฉันเพียงคนเดียวแท้ๆ แล้วยัยผู้หญิงคนนั้นมันเป็นใคร?”

“ระ...รีบเร็วเข้า!!”

“อะ...อื้ม!!” เสียงนั้นดังเข้ามาใกล้แล้ว...ทั้งๆ ที่พวกเขากำลังวิ่งเต็มฝีก้าวอยู่แบบนี้แท้ๆ ทำไมเธอถึงได้ตามพวกเขามาไวขนาดนี้ได้?

เป็นเพราะว่าผม...ไร้พละกำลังและความสามารถเกินไปอย่างนั้นเหรอ?

“.....วะ....หวา!!?”

“....วะ...ว้าย!!”

พื้นดินยกสูงขึ้น พวกเขาทั้งสองถูกพื้นดินนั้นกีดกันออกจากกัน

ไม่สิ...ไม่ใช่ว่าพื้นดินกำลงยกสูงขึ้น อะไรบางอย่างกำลังผุดขึ้นมาจากใต้พื้นดินต่างหาก!

“!!” เขายังคงหลบตาอยู่เช่นนั้นไม่ยอมลืมตาขึ้นมาเสียที จนกระทั่งเริ่มรู้สึกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาแล้ว เขาจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อสักครู่

“อ๊ะ...” เสียงร้องเบาๆ ขาดห้วงดังลอดออกมาจากในปากของเขา ทัศนะวิสัยแปรเปลี่ยนไปอย่างคาดไม่ถึง ทว่าเขาก็พอจะรู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน

เขากำลังอยู่...ภายในกรงที่เพิ่งผุดขึ้นมาจากบนพื้น...

“เพส!!”

“!!” คุนทาเร่ยืนอยู่ด้านนอก เธอหันมามองเขาด้วยสีหน้าตกใจ พยายามที่จะเข้ามาทำลายกรงนั้นออกไปเพื่อให้เขาได้ออกมา

“เปล่าประโยชน์น่า กับดักนั่นน่ะ ฉันสร้างเองกับมือเลยนะ”

“!!” เสียงหวานๆ ฟังดูหนาวผิวกายดังขึ้นมาจากบริเวณด้านหน้าของพวกเขา

เกิดเสียงซวบซาบดังขึ้นมาคล้ายเสียงย่ำแหวกฝ่ากองใบไม้แห้ง เสียงหัวเราะแสนเย็นยะเยียบดังกังวานไปทั่วทั้งป่าทั้งๆ ที่เป็นป่าโปร่ง

เงาร่างของคนคนหนึ่งกำลังค่อยๆ เคลื่อนตัวตรงมาทางพวกเขา

“คุนทาเร่ หนีไป!! ฉันอยู่ที่นี่ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉะนั้นหนีไป!!”

“ฉะ...ฉันจะหนีไปได้ยังไงกัน!? เพสกำลังเป็นอันตรายอยู่นะ!”

“เอาเถอะน่า! หนีไปเร็วเข้า!!”

“ไม่เอา!!”

“รักกันจริงๆ เลยนะพวกเธอทั้งสองคน...ฟังดูน่าหมั่นไส้ชะมัด...”

ฉึก!!”

“!!”

เกิดเสียงหยาบๆ ดังสะท้อนไปทั่วทั้งป่า มันเป็นเสียงที่ฟังดูเหมือนเสียงของแหลมทิ่มแทงเข้าไปภายในผิวเนื้อ เสียงของมีด

“.....อะ.....อึก!”

“!!” คุนทาเร่ค่อยๆ ล้มลงไป สีแดงค่อยๆ แผ่กระจายออกมาตามตัวของเธอ...สีแดงจากท่อนแขนของเธอ เจโลยืนอยู่เบื้องหน้าเธอ ในมือของเธอกำใบมีดเปล่งประกายแสงสว่างสีแดงฉานออกมาท่ามกลางความมืดและแสงจันทร์

“ทั้งๆ ที่บอกว่าจะรักเพียงฉันคนเดียวแท้ๆ...ทำไมล่ะ!?” เจโลเริ่มกรีดร้องอย่างโกรธเกรี้ยว เธอย่ำเท้าเหยียบข้ามตัวของคุนทาเร่ไป และยื่นมือไปคว้าคอเสื้อของเพสในกรงขังเอาไว้

“อึก!!” เพสสะอึกกลั้นใจร้อง ใบมีดสีแดงฉานของเธอถูกเงื้อไปวางลงบริเวณเบื้องหน้าคอของเขา ดวงตาของเธอเปล่งประกายแสงสว่างสีประหลาด เป็นความรู้สึกที่ว่าหากเขาขัดขืนเธอมากกว่านี้ เธอเองก็คงคิดที่จะตัดคอเขาอย่างไม่อาลัยอาวรณ์แน่ๆ

“นี่...รู้อะไรไหม? ฉันน่ะรักนายนะ...รักที่สุดเลย...”

“.......” เพสรับฟังคำพูดที่บอกว่า ‘รัก’ ของเธอด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว เขาพยายามขยับคอให้ถอยห่างจากมีดเล่มนั้นให้มากที่สุดเพราะกลัวว่ามันจะทิ่มแทงเข้าไป ทว่าเขากลับไม่สามารถทำได้ มีดเล่มนั้นค่อยๆ สร้างรอยแผลบนคอของเขาอย่างช้าๆ

“ทั้งๆ ที่ฉันรักนายขนาดนี้แท้ๆ...แต่นายกลับพุ่งไปหาผู้หญิงคนอื่น มันหมายความว่ายังไง?” คำถามของเธอพุ่งตรงมาทางเขา พร้อมๆ กับดวงตาที่กลอกขึ้นราวกับจะหลุดออกมาจากเบ้า เขาตอบอะไรเธอไม่ได้ รอยแผลที่คอของเขาทำให้เขารู้สึกเจ็บ

“ถ้าฉันไม่แสดงความรู้สึกของฉันออกมาอย่างตรงไปตรงมานายก็คงจะไม่รู้ใช่ไหม? แต่ทั้งๆ ที่ฉันแสดงความรู้สึกของฉันออกมาอย่างตรงไปตรงมาแล้วนายก็ยังเอาแต่พุ่งเข้าไปหาผู้หญิงคนอื่น ถ้าอย่างนั้นแล้วนายจะให้ฉันทำยังไง?”

“.....อึก!” เพสกลั้นหายใจส่งเสียงร้องอีกครั้ง มีดของเธอทิ่มลึกลงไปภายในคอของเขา เจ็บเสียจนแทบอยากจะส่งเสียงร้องออกมาดังๆ แต่เขากลับทำไม่ได้

“แล้วฉันก็เพิ่งนึกคำตอบนั้นได้ไม่นานนี้เอง...คำตอบก็ง่ายๆ ใช่ไหมล่ะ? แค่ทำลายทุกอย่างแล้วบังคับให้นายมาเป็นของฉันก็พอ แค่นั้นฉันก็สามารถเอานายมาเป็นของฉันได้แล้วใช่ไหมล่ะ?”

“....อะ....อือ....”

เพสส่งเสียงครางร้องออกมา ตอนนี้เขาไม่มีความคิดที่จะเอ่ยตอบเธอแล้ว ทำได้เพียงแค่ส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวดทรมานเท่านั้น

“นั่นสินะ...นั่นสินะ...เป็นแบบนั้นสินะ...ถ้าอย่างนั้นตกลงเอาตามนี้ก็แล้วกัน....” เจโลพึมพำ ส่งเสียงร้องและเผยยิ้มออกมาอย่างดีอกดีใจ รอยยิ้มของเธอแลดูคล้ายกับรอยยิ้มของหมาป่าบ้าเลือด เขาเกิดความรู้สึกขึ้นมาแบบนั้นจริงๆ

“.......” ท้ายที่สุดเธอก็ได้ละมีดไปจากคอของเขา เขาเริ่มรู้สึกเบาใจขึ้นมาเล็กน้อย ยกมือขึ้นลูบคอของตัวเอง หยาดเลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลเปื้อนเต็มมือของเขาจนแทบจะทำให้หัวสมองว่างเปล่า

“……!!”

อยู่ดีๆ เขาก็โดนเด็กสาวดึงหน้าเข้าไปจุ่มพิต เป็นการจุ่มพิตผ่านซี่กรงที่สัมผัสได้ถึงความแข็งกระด้างของกรงไม้ไผ่บริเวณผิวแก้มทั้งสองข้าง

ความเป็นตัวเขากำลังถูกล่วงล้ำ...ทุกสิ่งทุกอย่างของเขากำลังจะถูกเธอขโมยไป...อ่า...ท้ายที่สุดเราก็ไม่สามารถหนีจากเธอได้สินะ...

“ยะ...หยุดนะ!!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากด้านหลังของเจโล เพสรู้สึกตกใจ เจโลเองก็ละริมฝีปากจากเขา หันกลับไปมองเบื้องหลังของเธอด้วยสีหน้าขัดใจ

คุนทาเร่...กรีดร้องเพื่อเขางั้นเหรอ?

เพสตกใจมาก เขาไม่คิดว่าเธอจะยอมส่งเสียงกรีดร้องเพื่อเขา ทั้งๆ ที่เธอนั้นเพิ่งจะเคยรู้จักกับเขาเป็นเวลาเพียงแค่หนึ่งวันแท้ๆ

เพราะอะไร...เธอจึงได้ยอมเผยสีหน้าเช่นนั้น...ยอมทำอะไรเช่นนี้เพื่อเขากัน?

“หุบปากไปเถอะน่า ยัยหมูโสโครก” เจโลเหลือบตามองกลับไปยังคุนทาเร่ ดวงตาเปล่งประกายความรู้สึกบางอย่างที่แสนจะน่าสะพรึงกลัว

ใช่แล้ว...มันคือความรู้สึกของการฆ่าฟัน...เป็นจิตอาฆาตสังหารที่บริสุทธิ์ที่สุด

“คิดอะไรดีๆ ออกแล้วล่ะ...”

“....!?”

“.....อ๊ะ....”

คุนทาเร่ส่งเสียงร้องออกมา ทว่าเจโลนั้นกลับส่งเสียงหัวเราะอย่างมาดร้าย

เจโลใช้มือข้างหนึ่งจับแขนซ้ายของเพสเอาไว้ติดกับตัวกรง จากนั้นก็ได้ใช้มีดเปื้อนเลือดของเธอล้วงเข้าไปภายในปากของเขา

เพสตกใจมาก เขาคิดจะเอื้อมมืออีกข้างของเธอไปดึงมีดนั้นออกมา ทว่าเมื่อเขาขยับเลื่อนมือของเขา เธอกลับยิ่งเลื่อนมีดเข้าไปด้านในมากขึ้นจนแทบจะบาดลิ้นของเขา เขาสัมผัสได้ถึงรสของเหล็กจากเลือดบนใบมีด น้ำตาค่อยๆ หลั่งไหลออกมาตามใบหน้าด้วยความกลัว แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้

“ใช้มือข้างนั้นจับลูกกรงซะ แล้วก็ห้ามคิดอะไรแผลงๆ ไม่อย่างนั้นฉันแทงจริงๆ ด้วย”

“.......” เพสหลับตาแน่น เขารู้สึกได้ถึงน้ำลายที่เริ่มตีบตันขึ้นมาถึงภายในคอ การอ้าปากกว้างคอยระวังไม่ให้มีดเล่มนั้นเข้ามาทำอันตรายอะไรเขาทำให้น้ำลายของเขาเริ่มก่อตัวขึ้นมา ราวกับมันกำลังจะหลั่งไหลออกมาจากภายในปากของเขา...

“......” เขาค่อยๆ ยื่นมือข้างนั้นไปจับลูกกรง เจโลเผยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังไม่เลื่อนใบมีดนั้นออกไปเลยแม้แต่น้อย

“ฉันแทงจริงๆ นะ...ถ้าเธอคิดว่าฉันเพียงแค่ต้องการขู่เธอล่ะก็ เชิญตามสบาย”

“.....เธอคิดจะทำอะไร...?” คุนทาเร่เอ่ยถามสีหน้าเคร่งเครียด เจโลระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนานรื่นเริง ใบมีดเลื่อนออกไปจากปากของเพสเล็กน้อย เขาเองก็เริ่มรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง ทว่าในขณะเดียวกันเขากลับเกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมา...กลัวว่าอารมณ์ของเธออาจจะทำให้มีดเล่มนั้นพุ่งเข้าไปตัดลิ้นของเขาหรืออะไรภายในช่องปากได้

“แค่เธอทำตามที่ฉันบอก แค่นั้นเขาก็จะปลอดภัยแล้ว”

“ทั้งๆ ที่เธอเองก็บอกว่ารักเขาแท้ๆ ทำไมถึงได้มีความคิดที่จะทำร้ายเขาแบบนี้กันได้ล่ะ? ทั้งๆ ที่บอกว่ารักเขาแท้ๆ!”

“!!” เจโลระเบิดอารมณ์ขึ้นมาโดยทันทีจากคำพูดของคุนทาเร่ ชั่วขณะนั้นเพสตกใจแทบจะเลื่อนหน้าหลบคมมีดของเธอไม่ทัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย

“คนอย่างเธอมันจะมาเข้าใจความรู้สึกของฉันได้ยังไง!? ยัยหมูตอนไร้ยางอายที่คิดแต่จะแย่งแฟนชาวบ้านเขาน่ะ!! แค่กัดฟันแล้วทำไปอย่างที่ฉันสั่งซะ! ไม่ต้องมาพูดมาก!!”

“.......ได้.....ถ้าอย่างนั้นเธอจะให้ฉันทำอะไร?” คุนทาเร่ขมวดคิ้ว เอ่ยถามสีหน้าสงสัย แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงเฝ้าดูท่าทีของเจโลอยู่อย่างไม่ไว้วางใจ

เจโลส่งเสียงหัวเราะออกมา...ส่งเสียงหัวเราะอย่างแสนจะโรคจิต จากนั้นจึงได้เอ่ยตอบ

“.............ฆ่าตัวตายต่อหน้าเพสซะ............”

“!!”

“!!”

คุนทาเร่เบิกตาโพล่ง เพสเองก็ถึงกับสะดุ้งตัวโยน ใบมีดในปากเฉือนลิ้นของเขาไปเล็กน้อย รสของเหล็กผสมกลมกลืนกันอยู่ภายในปากของเขา แต่ตอนนี้เขากลับไม่คิดจะสนใจเรื่องนั้นแล้ว

ฆ่าตัวตายงั้นเหรอ...นี่เธอกำลังพูดเรื่องอะไรกัน?

**************************************************************

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา