Always or Everyday
เขียนโดย บุษบาหน้าปลวก
วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.57 น.
แก้ไขเมื่อ 15 กันยายน พ.ศ. 2556 01.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ปัญหาในใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฉันเดินกลับไปที่ห้องทำงาน พร้อมกับความกังวนนิด ๆ คิดมาตลอดระยะทางจากห้องยาจนถึงห้องทำงานของตัวเอง (วันนี้เราจะโดนอะไรน่ะ)
ฉันเก็บเอกสารและโน๊ตบุ๊กพร้อมกับบ่นไปงึมงำ ๆ เป็นภาพที่ผู้ช่วยของฉันเห็นเป็นประจำ และคำถามที่ยอดฮิตได้ยินเกือบทุกวันก็น่าจะเป็น
ผู้ช่วยแพทย์แผนไทย : วันนี้คุณหยางให้ไปทำอะไร ดูน้องบัดด์ จะปลาบปลื้มกว่าทุกวัน
สีหน้าของฉันคงบ่งบอกอะไรที่แตกต่างไปจากคำถาม เพราะดูแล้วคำถามนี้จะได้ยินบ่อยและมีรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของผู้ช่วยทั้งสองเสมอๆ
บัดดี้ : รายงานการประชุม กับแผนการสั่งซื้อเวชภัณฑ์ค่ะพี่ บัดด์ก็รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ทำๆไปตามคำสั่งเฉยๆ ไม่ได้มีความรู้ด้านนี้อยู่แล้วนิค่ะ ไปก่อนน่ะเดี๋ยวจะโดนด่าซ้ำอีกข้อหา
ผู้ช่วยแพทย์แผนไทย : จ้า สบายมาก
บัดดี้ : ก็แง๋ละ ... (ก็งานที่ห้องแผนไทย ไม่มีอะไรที่ยุ่งยากเลย บางทีก็แทบไม่มีเลยด้วยซ้ำ)
ด้านหน้าห้องยาวันนี้ดูคึกคัก เต็มไปด้วยเหล่าเจ้าหน้าที่ ที่กำลังจัดยาและจ่ายยาอย่างขมักเขม้น แต่ด้านในเภสัชกร สองคนกำลังทำอะไรกัน ดูไม่ค่อยคึกคักเอาเสียเลย
คุณหยาง : มาแล้วหรอ เธอนั่งตรงไหนได้ละ ข้างซิงค์น้ำ หรือที่พื้นดีละ
(อะไรของหัวหน้าละนิ ! )เพียงโผล่หน้าเข้าไปเท่านั้น คำพูดที่ดูเหมือนจะประชดประชันก็พุ่งไปที่หน้าได้อย่างไม่รีรอเหมือนจับจ้องจะทำแบบนั้นกับฉันตลอดเวลาที่ได้เจอกัน
บัดดี้ : น้ำน่ะหัวหน้า น้ำกับโน๊ตบุ๊กมันทำงานด้วยกันได้ไหมละ
คุณหยาง : หางเสียงนี่ไม่จำเป็นต้องมีใช่ไหม สำหรับคนอย่างเธอ
(ได้ค่ะได้ เริ่มใหม่น่ะ)
บัดดี้ : น้ำน่ะค่ะหัวหน้า น้ำกับโน๊ตบุ๊กมันจะทำงานด้วยกันได้ยังไงค่ะ .. แล้วก็การพูดจาเพราะๆ มันทำให้ประโยคมันน่าฟังขึ้นจริงหรอค่ะ บัดด์ว่ามันก็ไม่ต่างกันนิค่ะ
คุณหยาง : ฉันเป็นใคร เธอเป็นใคร
(อีกครั้งกับประโยคเบา ๆ ตอกย้ำความต่ำต้อยของฉัน เฮ้อ ! )
บัดดี้ : คุณหยางเป็นหัวหน้า บัดด์เป็นลูกน้อง
คุณหยาง : เอาเอกสารคุณพัฒออก แล้วนั่งข้างๆคุณพัฒนั่นแหละ แล้วก็เปิดงานของเธอขึ้นมา ทำซะ
ฉันทำตามที่หัวหน้าสั่ง แบบนี้ เพราะดูท่าแล้วหัวหน้าเองก็ไม่ได้จะด่าให้เจ็บปวดอะไร และบทสนทนาระหว่างเราสองคน มักเป็นเรื่องที่ทำให้คนในห้องยายิ้ม หัวเราะเสมอ ซึ่งฉันเองไม่เห็นว่ามันจะขำตรงไหนเลย บางครั้งบทสนทนาระหว่างเราก็แทบไม่มีคำพูดด้านดีกับฉันบ้างเลย แต่ฉันก็ไม่ได้โกรธอะไร อาจเป็นเพราะคำพูดเหล่านั้นเป็นคำพูดที่ไม่ได้ใส่ความรู้สึกเกลียดชังลงไป บางครั้งโดนด่าแต่ก็ยังรู้สึกดี
บัดดี้ : หัวหน้าข้อมูลบริษัทยาจะให้บัดด์เอามาจากไหนละ ในที่ประชุมไม่ได้พูดถึงเลยละ
คุณหยาง : ข้อมูลจะเอามาจากไหน สมองเธอใช้แค่บันทึกการอ่านการฟังรึไง ไม่รู้จักการค้นหาเลยใช่ไหม แฟ้มเอกสารในห้องนี้เยอะขนาดนี้ กะว่าจะไม่ใช้สายตากวาดมองก่อนเลยรึไง
(โห ! จัดมาเต็ม ว่าฉันมีสมองน้อย)
บัดดี้ : ก็บัดด์ไม่รู้ หัวหน้าจะบอกหน่อยไม่ได้เลยรึไงละ
คุณหยาง : แล้วแกจะไม่ใช้เลยใช่ไหมสมองกับสติปัญญา ไม่ใช้ หรือว่าไม่มีละ
บัดดี้ : มีอยู่นิด ๆ ค่ะ แต่บัดด์ลองคิดดูแล้วว่า ถ้าถามประโยคตรงๆไปเลย หัวหน้าก็น่าจะตอบได้แบบไม่ต้องเสียเวลาไปค้นหาในแฟ้ม เพราะมันมีเยอะแยะขนาดนี้ สู้ให้บัดด์ถามเลยไม่ดีกว่าหรอ
คุณหยาง : แฟ้มอยู่แถวๆ ชั้นนั้น เขียนข้างแฟ้มว่าข้อมูลบริษัทยา แล้วเธอก็เปิดหาดูในแฟ้มซะ อีกอย่างเวลาเธอทั้งวันจะเอามาหาสิ่งที่เป็นประโยชน์ใส่ซีรีบัมบ้าง มันคงจะดีไม่ใช่รึไง
(จ้า ! มันก็ดีอยู่หรอกจ้า แต่มันจะดีกว่าถ้าหัวหน้าไม่จี้แต่จะเอางาน)
แก๊น : พี่บัดด์ เย็นนี้ไปไหนดี
เสียงแก๊นที่พึ่งเดินเข้ามา โดยไม่สนใจสถานการณ์ในห้อง
บัดดี้: ไปไหนละ ตังก็เหลือน้อย จะไปไหนได้นอกจากอยู่แฟลช นอน
แก๊น : แก๊นก็เหลือสามร้อย อีกสองวันตังจะออก ทำไมเหมือนมันนานมากเลยเนาะ
คุณหยาง : นี่เธอสองคน เหลือตังสามร้อยเนี้ยน่ะ
แก๊น : ดีน่ะค่ะบอสที่ยังเหลือ บางเดือนนี่ติดลบ แก๊นว่าเป็นเรื่องปกติ เหลือสิแปลก
บัดดี้ : ใช่ เหลือสิแปลก (ใครจะมีตังเยอะอย่างหัวหน้าละ เงินเดือนเรามันต่างกันน่ะ ฐานะครอบครัวก็ดี ยังจะเอาตัวเองมาเทียบกับพนักงานเงินน้อยอย่างเราอีก)
แก๊น : งั้นเย็นนี้โรบินสันเนาะ
คุณหยาง : นี่พวกเธอมีเงินสามร้อย แต่จะไปโรบินสันเนี้ยน่ะ
แก๊น : บอสค่ะ หน้า รพ.เรานี่ค่ะ ตรงร้านมินิมาร์ทค่ะ เรียกให้มันหรูเฉยๆ
บัดดี้ : ฮ่าฮ่า ! พวกเราก็เจียมตัวอยู่น่ะค่ะหัวหน้า ไปแบบไม่มีเงินใครจะอยากไปไหนละค่ะ
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เลิกงานโดยที่นั่งทำงานอยู่ห้องทำงานกับหัวหน้า เราคุยกันไป บ่นกันไป หรือไม่ก็มีแต่คุณหยางที่บ่นฉันฝ่ายเดียว แต่สุดท้ายก็จบด้วยรอยยิ้ม
อีกเกือบเดือนที่ฉันก็จะเข้ากรุงเทพเพื่อไปสอบขึ้นทะเบียนใบประกอบโรคศิลปะวิชาชีพแพทย์แผนไทยประยุกต์ หลังจากอ่านหนังสืออย่างหนัก เพื่อที่จะสอบรอบนี้ รอบนี้เป็นรอบที่สี่แล้ว ถ้าสอบไม่ได้อีกฉันคงอายคนในรพ.แน่ๆ ทำงานมาสามปีแล้วแต่ยังสอบใบเบิกทางของตัวเองไม่ได้เลย คิดแล้วรู้สึกแย่
เกือบเดือนแล่งที่ไม่มีวันไหนที่ได้นอนถึงห้าชั่วโมง บางวันไม่ไหวต้องตื่นมาอ่านตอนเช้า ฉันทุ่มเทกับการสอบครั้งนี้มาก เพื่อที่จะได้มันมาเพิ่มเงินเดือนให้่ตัวเอง และเพื่อครอบครัว ขอให้ฉันทำได้ในสิ่งที่ตั้งใจด้วยเถอะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ