ดาวเสี่ยงเธียร(ปาฏิหาริย์รักในคืนฝนดาวตก)
เขียนโดย มะมาย
วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 11.02 น.
แก้ไขเมื่อ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 18.34 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) คนที่ฉันชกหน้าดันไม่ใช่คนธรรมดา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขอให้เขารับฉันเข้าทำงานด้วยเถอะ เพี้ยง
ฉันเดินออกมาพร้อมกับความหวังเล็กๆหลังจากที่ยื่นใบสมัครให้กับพนักงานของห้างห้างหนึ่ง สำหรับฉันมีเพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้ต้องดั้นด้นหางานงกๆก็คงหนีไม่พ้นคุณพ่อตัวดีที่โดนผีพนันเข้าสิงเรียกว่าได้เงินจากการขายบาร์บีคิวซึ่งทำเป็นอาชีพหลักเท่าไหร่ก็เอาไปเสี่ยงดวงซะจนหมด ความซวยทั้งหลายก็เลยมาบังเกิดกับลูกสาวยอดกตัญญูอย่างฉันน่ะสิ
ก็อย่างที่รู้กันอยู่ไม่มีใครร่ำรวยได้ด้วยวิธีนี้หรอก จะว่าไปพักนี้ก็มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาแวะทักทายให้ฉันได้ปวดหัวเรื่อย
เมื่อวันนั้นก็ทีนึงมีผู้ชายบ้าที่ไหนก็ไม่รู้ขับรถเร็วจนน้ำบนถนนกระเด็นเปื้อนรถที่เปิดเป็นร้านขายบาร์บีคิวของของพ่อฉันหมด รถที่ขับก็ดูหรูมีระดับแต่แค่สละเวลาจอดรถลงมาขอโทษกันสักนิดก็ไม่มี =O=^ นี่สินะนิสัยของพวกคนรวย ถ้าฉันได้เจอหน้าเขาอีกเมื่อไหร่รับรองเลยว่าเขาไม่มีทางรอดพ้นกำมือฉันไปได้แน่ และดูเหมือนว่าเบื้องบนจะเห็นดีด้วยเพราะถึงแม้ว่าฉันจะมองเห็นเพียงด้านข้างของเขาแต่เชื่อเถอะความรู้สึกของฉันมันฟันธงได้เลยว่าต้องใช่! ไม่รอช้าฉันตัดสินใจเดินฉับๆไปที่เขาทันที
“เรา...รู้จักกันด้วยเหรอ” ชายหนุ่มมองหน้าผู้มาขวางอย่างสงสัย
“ไม่”
“ถ้าอย่างนั้นมัวยืนเกะกะอยู่ทำไม หลีกทางด้วย”
“ฉันจะไม่ทำอย่างนั้นจนกว่านายจะขอโทษ”
“ขอโทษ? ฉันไปทำอะไรเธอตอนไหน”
“เมื่อวันก่อนนายขับรถเร็วจนน้ำกระเด็นเปื้อนรถบาร์บีคิวของพ่อฉันหมด ลืมจริงหรือตั้งใจจะหนีความผิดกันแน่”
เมื่อได้ฟังเรื่องราวจากปากหญิงสาวแล้วก็พอจะนึกออกอยู่บ้าง
“ช่วยไม่ได้ ถนนเป็นที่สำหรับให้ขับรถและทางม้าลายก็ไม่ใช่สถานที่ที่จะให้ใครก็ตามมาจับจองขายของ อีกอย่างแน่ใจนะว่าที่ทำอยู่มันถูกกฎหมาย ฉันไม่แจ้งตำรวจจับเธอก็นับว่าบุญเท่าไหร่แล้ว”
คำพูดของเขามันถูกทุกอย่าง ถึงกระนั้นฉันก็ยังคงยืนยันว่าจะต้องเดินหน้าลุยเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุด
“ฉันไม่มีเวลาพูดเรื่องไร้สาระมากนักหรอก ห้าพันแลกกับการยุติเรื่องทั้งหมด”
“เก็บเงินเน่าๆของนายไปเถอะ เพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ”
“ถ้าคิดจะใช้วิธีนี้เรียกเงินเพิ่ม จะบอกอะไรให้ว่าไม่ได้ผลหรอก”
ชายหนุ่มทำท่าจะเดินไปทว่าต้องหยุดเพราะมีอะไรบางอย่างดึงไหล่ไว้ก่อนที่เขาจะก้าวเท้าซะอีก
“อย่าเดินหนีแบบนี้นะ”
“สรุปว่ายังไงเธอก็จะคาดเค้นคำขอโทษจากปากฉันให้ได้เลยใช่ไหม อย่าหวังซะให้ยาก”
“จะไม่พูดคำว่าขอโทษใช่ไหม!!” เธอเตือนครั้งสุดท้าย
ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมตัวรับหมัดของฉันไปประทับไว้บนหน้าหนาๆของนายได้เลย
ระหว่างที่ทั้งคู่มีปากเสียงกันจนผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาหันมอง กระทั่งหมัดของเธอลอยไปอยู่บนหน้าของเขาต่างก็ไม่รู้เลยว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครคนหนึ่งอยู่
“โธ่เอ้ยโลกนี้มันช่างไม่ยุติธรรมกับผู้หญิงเอาซะเลย ทำไมพี่(ยาม)ถึงจับฉันออกมาอยู่ฝ่ายเดียวล่ะคะ หมอนั่นก็มีส่วยผิดด้วยเหมือนกัน”
“ก็ไอ้หมอนั่นที่น้องพูดถึงเขาคือ คุณเธียรทัด ลูกชายคนเดียวของคุณทัศไนยเจ้าของห้างนี้ไง”
“ว่าไงนะพี่!” เธอถามให้แน่ใจ
“น้องฟังไม่ผิดหรอก”
สิ่งที่ได้ยินทำเอาเข่าแทบทรุด พอกลับมาถึงบ้านฉันก็รีบเดินตรงดิ่งขึ้นห้องนอนทันที นอนพลิกตัวไปมาอยู่หลายรอบแต่ภาพของอีตาคุณเธียรอะไรนั่นยังคงติดตาอยู่สลัดทิ้งเท่าไหร่ก็ไม่หลุด อนาคตงานของฉันก็เลือนลางไปทุกทีฉันเล่นไปต่อยหน้าทายาทของเขาซะเลือดกบปากขืนเขารับฉันเข้าทำงานก็นับว่าเป็นเรื่องแปลกแล้ว ความวุ่นวายที่ถาโถมปะทะเข้ามาในหัวสมองของฉันทำเอาฉันนอนคิดทั้งคืนเลยทีเดียว
เป็นเช้าที่แสนจะหดหู่แม้จะผ่านมาหลายวันกับการที่ยังหางานทำไม่ได้^-^a ฉันกลืนข้าวไม่ลงคอสักเท่าไหร่ทั้งที่ปกติแล้วจะรีบยัดเข้าปากไม่ให้เหลือ
“ยัยดาว โทรศัพท์ลูก”
“ค่ะพ่อ” ฉันเดินอย่างคนหมดอะไรตายอยากเพื่อไปรับโทรศัพท์
“ประกายดาวรับสายค่ะ”
น้ำเสียงเธอดูเอื่อยๆแต่ทันทีที่รู้ว่าปลายสายต่อมาจากที่ไหนเธอก็ถึงกลับตาลุกวาวเลือดสูบฉีดไปทั้งตัว
“ผมเป็นตัวแทนจากบริษัทสหสมุทรผมขอเรียนให้ทราบว่าทางเราได้รับคุณประกายดาวเข้าสัมภาษณ์งานในวันพรุ่งนี้”
“จริงหรอคะ!!”
ยัยดาวเอ๊ยเธอนี่ดวงแข็งไม่เบาเลยนะ
ฉันกดวางสายไปแล้วตะโกนบอกพ่อที่กำลังเตรียมของออกไปเปิ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ