Revamp ศึกนางฟ้าสยบทวยเทพ

8.2

เขียนโดย CyCloEclipse

วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 16.32 น.

  24 ตอน
  4 วิจารณ์
  30.81K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 กันยายน พ.ศ. 2556 13.00 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) โบยบินเถิด...นางฟ้าผู้โสมม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     "บุตรสาวแห่งเทพตกสวรรค์ผู้ก่อเกิดความดื้อรั้น...วาเรีย นี่แหละคือความเป็นจริงของฉัน!!!"






     ท่ามกลางออร่าสีม่วงอ่อนที่แผ่ออกมาจากทั่วทั้งร่างของเรอานั้นได้กระตุ้นความรู้สึกอยากฆ่าอย่างแปลกประหลาดแก่บุตรสาวแห่งเทวทูตเป็นอย่างมาก ในจังหวะที่ออร่าที่แผ่ออกมาจากร่างของเรอาทวีคูณความรุนแรงขึ้นจนถึงขีดสุด บริเวณแผ่นหลังของเธอก็ปรากฏปีกสีดำคู่หนึ่งงอกทะลุเสื้อคลุมของเธอออกมาจนครอบคลุมไปทั่วพื้นดินที่เรอายืนอยู่


     จากแรงสะบัดแรกเริ่มของแผ่นปีกทั้งสองนั้นได้ทำให้ขนนกสีดำหลุดออกมาตามแรงสะบัดนั้นลอยล่องไปทั่วท้องฟ้าราวกับหยาดหิมะที่ถูกย้อมไปด้วยความเกลียดชังที่ยากเกินจะประเมินค่าได้ แต่หากจะมีจุดที่เรอาต่างออกไปจากนางฟ้าตกสวรรค์สองนางที่อยู่ตรงหน้าก็จะมีเพียง... ขนนกสีดำที่สะท้อนประกายแสงจันทร์เป็นเงามืดสนิทที่เย็นเยียบแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนดุจรัตติกาลเท่านั้น




     "เรอา... ไม่จริงน่า! เธอคือ...เทพตกสวรรค์อย่างนั้นเหรอ! แบบนั้นฉันยอมรับไม่ได้หรอกนะ!!"



     ด้านเมโรเน่ที่มีความรู้สึกใจหายอย่างสุดชีวิตที่ได้รู้ความจริงว่าแท้จริงแล้วเพื่อนสาวคนแรกและคนเดียวที่สนิทที่สุดของเธอ เพื่อนเพียงคนเดียวที่ยอมยื่นมือเข้ามาช่วยเธอเวลาเจอกับปัญหาที่ไร้ทางแก้นั้นคือ... หนึ่งในศัตรูคู่อาฆาตของเหล่าเทพแห่งสรวงสวรรค์ที่ต่อสู้กันมาตั้งแต่บรรพกาล


ซึ่งความรู้สึกที่เมโรเน่มีในตอนนี้นั้น... เรอาก็เคยรู้สึกมาก่อนเมื่อได้ทราบว่าเมโรเน่คือบุตรสาวแห่งทูตสวรรค์




     "ทำไมกันล่ะ...เรอา ทำไมเธอถึงไม่ยอมบอกฉันตั้งแต่ตอนนั้น..!? ทำไมถึงเก็บเงียบเอาไว้จนเพิ่งจะมาบอกเอาตอนนี้ด้วย!!"


     เมโรเน่มีท่าทีที่เปลี่ยนไปทันทีที่ขนนกสีดำของเรอาสัมผัสถูกฝ่ามือที่แบออกเพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เธอเห็นนั้นเป็นจริงหรือไม่ และเมื่อเมโรเน่พยายามทำใจยอมรับความเป็นจริงที่แสนโหดร้ายนี้เพื่อปฏิเสธชะตากรรมที่พวกเธอทั้งสองคนต้องแบกรับเมื่อความจริงเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว ทั้งอย่างนั้นเมโรเน่ก็ยอมรับมันไม่ได้อยู่ดี...



     "ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอดี... ที่จริงฉันก็น่าจะบอกเธอมาตั้งแต่แรกนะว่าแท้จริงแล้วฉันคือใคร แต่พอเห็นเธอตอนที่สยายปีกแห่งเทพออกมาจากความภาคภูมิเมื่อตอนนั้นแล้ว...ฉันก็คิดว่าจะเก็บมันเอาไว้แล้วค่อยบอกกับเธอเมื่อสิ่งที่ฉันปรารถนามาตลอดเป็นจริงแล้วดีกว่า"


     "ความปรารถนาของเธอ..งั้นเหรอ!? ไหนเธอลองบอกฉันหน่อยสิว่ามันเป็นยังไงกันแน่!! ไม่งั้นฉันจะฆ่าเธอซะตอนนี้เลย!!!"



     ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำใสๆเอ่อล้นของเมโรเน่ได้กล้ำกลืนความเจ็บปวดที่ยากเกินกว่าสาวน้อยคนหนึ่งจะรับเอาไว้ได้ก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นแววตาเมื่อครั้งที่เธอตั้งใจจะจัดการอสุรการกระหายเลือดเมื่อครึ่งวันก่อน ในมือของเธอทั้งสองข้างมีลูกพลังแสงที่สะสมพลังขั้นสูงสุดเอาไว้ที่ปล่อยออกไปยังอดีตเพื่อนสนิทของเธออย่างไม่ลังเล ต่อหน้าสายตาที่แฝงความรู้สึกสะใจของเหล่านางฟ้าตกสวรรค์ทั้งสองเมื่อได้เห็นเพื่อนต้องมาเข่นฆ่ากันเอง



     "ความปรารถนาของฉันเหรอ... มันก็แน่นอนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ..!"



                                                 พิ้ง..!!!



     พลังศักดิ์สิทธิ์ที่เมโรเน่มีในตอนนี้นั้นเรียกได้ว่าเทียบเคียงกับที่เรอามีอยู่ในร่าง เพราะเช่นนั้นเองเธอจึงสามารถปัดป้องลูกพลังที่เพื่อนสาวของเธอปล่อยออกมาได้อย่างสบายๆ แต่เรอาก็ไม่ได้คิดที่จะตอบโต้เมโรเน่เลยแม้แต่นิดเดียว...




     "ฉันน่ะใฝ่ฝันมาตลอดนะ...ว่าฉันอยากจะพาเพื่อนสาวที่วันๆเอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในบ้านออกมาท่องเที่ยวไปด้วยกัน มามีความสุขไปด้วยกันก็เท่านั้น!!!"



     ราวกับเสียงเพรียกเข้าไปในใจของนางฟ้าไม่มีผิด ทันทีที่เรอาประกาศให้เพื่อนสาวที่กลายมาเป็นศัตรูคู่อาฆาตของเธอได้รู้ถึงความปรารถนาจากใจจริงของเธอที่ไม่มีเรื่องของความขัดแย้งภายในสายเลือดเข้ามาเกี่ยว เมโรเน่ก็ลดมือลงจากท่าต่อสู้เข้าสู่สภาวะหยุดนิ่งในทันที ราวกับว่าเธอเข้าใจความรู้สึกที่เรอามีอยู่ทั้งหมดโดยที่เธอไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมไปมากกว่านี้



     "แล้วทำไมเธอถึงเพิ่งมาบอกฉันล่ะ...ยัยบ้าเอ๊ย!"







     "แหมๆ... นึกว่าจะได้เห็นมหกรรมนองเลือดระหว่างนางฟ้ากับนางฟ้าตกสวรรค์ซะแล้วสิ พวกเราอุตส่าห์ได้มาเห็นของดีแบบนี้ก็เสียของเปล่าเลยสิ!"


     แต่ถึงแม้ว่าปัญหาภายในระหว่างเพื่อนสาวที่มีสายเลือดมนุษย์อยู่เพียงครึ่งจะถูกหยุดลงไปชั่วคราวแล้ว ปัญหาภายนอกที่คุกรุ่นมาตั้งแต่ก่อนที่เมโรเน่จะได้ทราบความจริงเรื่องเพื่อนของเธอก็ยังไม่จางหายไป เหล่านางฟ้าตกสวรรค์ทั้งสองต่างพูดจาถากถางความเป็นเพื่อนที่จอมปลอมของทั้งสองราวกับเป็นของเล่นจนเมโรเน่เริ่มจะทนไม่ไหว ผิดกับเรอาที่รับไม่ได้กับถ้อยคำที่ต่ำช้าเกินกว่าที่จะออกมาจากปากของผู้ที่เคยเป็นเทวทูตอยู่บนสวรรค์เริ่มตะโกนเถียงด้วยเสียงที่ดังจนได้ยินไปทั่วทั้งฟ้า




     "มหกรรมนองเลือดอะไรของพวกแกวะ!!! พวกแกคิดว่าความสัมพันธ์ที่ทำให้พวกเรามาเป็นเพื่อนกันได้มันเป็นสิ่งจอมปลอมหรือไง!! ถ้าอย่างนั้นฉันจะแสดงให้พวกแกเห็นเองว่าสิ่งที่ทำให้เราสองคนสนิทกันได้แม้จะเป็นศัตรูกันทางสายเลือดมันเป็นยังไง!!!"


     เรอาตะโกนออกไปอย่างสุดเสียงก่อนจะเร่งพลังศักดิ์สิทธิ์ทั่วร่างขั้นสูงพร้อมกับพุ่งทะยานออกไปประมือกับเหล่านางฟ้าตกสวรรค์ทั้งสองอย่างรุนแรงจนทั่วทั้งท้องฟ้าที่บริสุทธิ์ถูกแต่งเติมไปด้วยสีแดงจากเลือดที่กระเซ็นออกมาจากแรงหมัดที่ปะทะเข้าที่ใบหน้าของทั้งสองฝ่าย และสีดำจากขนนกที่หลุดออกมาจากแรงต้านอากาศที่เด็ดเอาขนจากปีกของนางฟ้าทั้งสามร่วงลงมา หากแต่สีดำที่ทาไปบนท้องฟ้านั้นค่อนข้างจะไปทางสีที่โสโครกราวกับเศษโคลนมากกว่า





     "หึ..! บินหลบเก่งจริงนะ! ถ้าอย่างนั้นเจอพลังของฉันหน่อยเป็นไง!!"


     เมื่อสู้ไปได้สักพัก เทสล่าที่หมดความอดทนจากหมัดที่ชกไม่ค่อยจะโดนตัวคู่ต่อสู้จึงหันมาเอาดีด้านลำแสงความมืดที่มีความเร็วเทียบเคียงกับความเร็วเสียงในการโจมตีเรอาที่หันไปสนใจเชิงหมัดที่ดีกว่าของเมร่าแทน ซึ่งจากความเร็วที่ลำแสงความมืดพุ่งออกมาแล้ว...มันจะตรงเข้าปะทะร่างของเรอาภายในเวลาไม่ถึงชั่วพริบตา




                               ตูม!!!!!!!!!!



     และแล้วลำแสงความมืดที่อัดแน่นไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่แปรเปลี่ยนไปเป็นอำนาจแห่งกิเลสจากตัวผู้ใช้ก็ปะทะเข้ากับเป้าหมายเต็มๆ... หรือเปล่า!? ในจังหวะก่อนที่ลำแสงความมืดจะพุ่งเข้าใส่ร่างของเรอานั้น ได้มีประกายแสงสีเหลืองพุ่งเข้ามาสกัดการโจมตีนั้นเอาไว้จนระเบิดออกก่อนที่จะเข้าถึงเป้าหมายที่เล็งเอาไว้ในตอนแรก


     ส่วนที่ว่าเป็นฝีมือใครนั้นคงไม่ต้องพูดถึง...



     "ชิ! เข้ามาขวางจริงนะ... ยัยนางฟ้าเลือดโคลน!!" เทสล่าสบถออกมาอย่างไม่พอใจ ซึ่งเมโรเน่ก็รับไว้อย่างภาคภูมิ


     "ฉันจะถือว่านั่นเป็นคำชมที่ฉันเข้ามาสกัดการโจมตีของเธอเอาไว้พอดีก็แล้วกันนะ... คุณนางฟ้าโสมมดุจอีกา"



     เมโรเน่รวบรวมพลังแห่งแสงเอาไว้ที่ฝ่ามือทั้งสองข้างไล่ล่าโจมตีนางฟ้าตกสวรรค์ผู้มีฝีมือในการโจมตีระยะไกลอย่างไม่ลดละจนทั่วทั้งท้องฟ้าเหนือพื้นบริเวณนั้นถูกละเลงไปด้วยสีเหลืองและสีม่วงจากการโจมตีแลกกันของสองนางฟ้าจนแสงจากดวงจันทร์กลายเป็นหมดความสง่างามในชั่วพริบตา





     ซึ่งในขณะนั้นเรอาที่กำลังไล่ต้อนนางฟ้าอีกคนหนึ่งก็กำลังได้เปรียบอย่างมหาศาลเนื่องจากพละกำลังที่เหนือกว่าจากการฝึกฝนร่างกายให้แข็งแกร่งตั้งแต่เด็กเพื่อไล่ตามมารดาของตัวเองให้ทัน แม้ว่าต่อให้พยายามสักแค่ไหนก็ไม่มีทางไล่ตามผู้นำเหล่านางฟ้าตกสวรรค์ระดับล่างได้ทันในร่างมนุษย์ก็ตามที...


     "เป็นอะไรไปเหรอ...คุณนางฟ้าตกสวรรค์ที่บอกว่าจะจัดการพวกเรา!? หรือจะบอกว่าเธอหมดแรงแค่นั้นแล้วน่ะ!"


     กลับมายังมุมมองของคู่ต่อสู้ที่ประชันหมัดกับเรอาจนถึงเมื่อสักครู่ เมร่านั้นดูเหมือนจะอ่อนแรงลงจากการเข้าคลุกวงในกับเรอาที่เป็นเชิงมวยมาเป็นระยะเวลานานจนกล้ามเนื้อเริ่มจะอ่อนล้าลง และเพราะในร่างนางฟ้าตกสวรรค์นั้นเรอาจะมีพละกำลังและความอึดที่สูงกว่าเดิมหลายเท่า เช่นนั้นจึงไม่แปลกเลยที่เธอจะแทบไม่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ตัวต่อตัวกับนางฟ้าตกสวรรค์ระดับล่างเลย




     "หนอยแก..! อย่าคิดนะว่าแค่ชนะฉันในการต่อสู้ประชิดตัวแล้วถือว่าชนะแล้วน่ะ! ลองเจอพลังศักดิ์สิทธิ์ของฉันหน่อยเป็นไง!!"


     ในขณะที่เมร่ายังไม่หมดมุขนั้น เธอก็ได้รวบรวมพลังความมืดจากทั่วร่างมากระจุกตัวอยู่ที่ฝ่ามือข้างเดียวจนมีความหนาแน่นมากยิ่งกว่าดาบศักดิ์สิทธิ์ของเรอาพร้อมจะปล่อยออกไปโจมตีคู่ต่อสู้ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตร ซึ่งในระหว่างนั้นเอง...เรอาก็รวบรวมพลังศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ที่ฝ่ามือเช่นเดียวกัน



     "อ๋อ...ที่แท้การรวบรวมพลังศักดิ์สิทธิ์มันก็ทำกันแบบนี้เองเหรอ! ไอ้ฉันก็นึกว่าที่เมโรเน่ทำนั่นมันมีทักษะยากอะไรซะอีก ที่แท้ก็ทำแบบเดียวกับที่ใช้กับอาวุธศักดิ์สิทธิ์นี่เอง"



     ในมือขวาของเรอามีคลื่นพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งความมืดที่รวบรวมมาจากทั่วทั้งร่างเช่นเดียวกับเมร่า หากแต่เมื่อเอามาเทียบกันแล้ว...ลูกพลังของเรอานั้นแม้จะมีรูปร่างที่เป็นละอองแสงที่ไม่ก่อรูปจากความที่เธอยังไม่ชินกับการรวบรวมพลังศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ที่อื่นนอกจากอาวุธประจำกายที่ไม่มีจุดให้เพ่งสมาธิลงไป ถึงอย่างนั้นมันก็มีพลังแฝงที่สูงกว่าของนางฟ้าตกสวรรค์ที่คุ้นเคยกับเรื่องนั้นมาก่อนเสียอีก!!




     "ลาก่อนนะ...คุณนางฟ้าผู้โสมม!"

     เรอาปั้นหน้ายิ้มให้กับคู่ต่อสู้ของเธอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเหวี่ยงแขนส่งคลื่นละอองแสงตรงไปยังเป้าหมายที่ปล่อยลูกพลังความมืดออกมาปะทะกันอย่างสุดแรง แต่เมื่อลูกพลังความมืดที่เมร่าปล่อยออกมาปะทะเข้ากับละอองแสงแห่งความมืดของเรอาแล้ว มันก็สลายไปในทันที!!




     "ยัยบ้า..!! เรอา!!!!!!!!!!"


     และในที่สุดการต่อสู้กับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พวกปีศาจครั้งแรกของเรอาก็จบลงด้วยชัยชนะที่มีเหนือกว่าอย่างเหนือความคาดหมายของเธอ ร่างของนางฟ้าตกสวรรค์ที่ต้องละอองแสงแห่งรัตติกาลของเรอาเข้าไปก็เริ่มสลายไปทีละส่วนจนหายไปเป็นละอองดวงดาวที่สวยงามในยามค่ำคืน ซึ่งสาวน้อยที่กุมชัยชนะเอาไว้ในมือก็ยังไม่หมดปัญหาที่ต้องจัดการ...







     "ทีนี้เธอจะเอาอะไรมาเอาชนะฉันอย่างนั้นเหรอ... ในเมื่อการโจมตีระยะไกลที่เธอมั่นใจนักหนาก็ทำอะไรฉันไม่ได้ ทีนี้ชัยชนะก็เป็นของฉันแล้วล่ะนะ!"


     เสียงหัวเราะในลำคอประสานเข้ากับเสียงพูดเรียบๆของสาวน้อยอย่างลงตัว เมโรเน่ที่หมดมุขจะเอามาเล่นงานคู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้าเริ่มลดมือลงจากท่าปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์ให้ออกไปจากร่างอย่างไร้ความหมายเหมือนกับยอมยกชัยชนะให้กับนางฟ้าตกสวรรค์ตรงหน้าอย่างหมดทางเลือก ทำให้เทสล่ารู้สึกภูมิใจกับชัยชนะที่ได้มาอย่างสะดวกนี้



     "จะบอกอะไรให้อย่างนะ... เหล่าเทพแห่งสรวงสวรรค์น่ะไม่มีทางเอาชนะเทพตกสวรรค์อย่างพวกเราได้หรอกน่า!!"


     เทสล่าสร้างลูกพลังความมืดเอาไว้ในมือขวาเตรียมที่จะสังหารเมโรเน่ให้พ้นไปจากสายตาของเธอโดยเร็วที่สุด แต่แล้วเธอก็ได้รู้ตัวสักทีว่าเธอควรจะทำแบบนั้นตั้งแต่แรก...



     "ดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพตกสวรรค์'วาเรีย' โล่ศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพตกสวรรค์'อาสทารอธ' จงสถิตย์ในมือข้า..."



     ในระหว่างที่เทสล่ากำลังสะสมพลังความมืดเล่นงานเมโรเน่อยู่นั้น จู่ๆทั่วทั้งร่างของเทวทูตตรงหน้าก็มีประกายแสงพวยพุ่งออกมาอาบทุกส่วนของร่างกายเอาไว้ราวกับจะปกป้องเจ้าของร่างเอาไว้ แต่แล้วเมื่อพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เอ่อล้นออกมาจากร่างของเมโรเน่ได้รวมตัวกันที่มือทั้งสองข้างนั้นก็ปรากฏอาวุธศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองที่เรอาทิ้งเอาไว้ที่พื้นดินด้านล่างอยู่ในมือของเธอเรียบร้อย


          แต่เพียงแค่นั้นก็ไม่ได้เพียงพอที่จะทำให้นางฟ้าตกสวรรค์ประทับใจได้หรอก...




     "จงลืมตาขึ้น...พลังแห่งดาบศักดิ์สิทธิ์ผู้ดูดกลืนความเกลียดชังในมือขวาของข้า พลังแห่งโล่ศักดิ์สิทธิ์ที่ดูดกลืนความหยิ่งทะนงในมือซ้ายของข้า... แล้วสำแดงพลังอำนาจแห่งอดีตเทพผู้ยิ่งใหญ่ออกมาแก่ผู้หลงผิดตรงหน้าข้า ณ บัดนี้เถิด"



     พลังศักดิ์สิทธิ์ของเมโรเน่ในขณะนี้นั้นเหนือล้ำไปกว่าของเทสล่าและเรอาไปไกลแล้ว และสัมผัสที่ทั้งสองรู้สึกได้นั้นก็คือ... อำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงอานุภาพร้ายแรงจนเทียบชั้นได้กับอัครเทพผู้ปกป้องพระผู้เป็นเจ้า 'เซราฟิม' ที่มีพลังแข็งแกร่งพอที่จะสังหารเหล่าปีศาจและเทพตกสวรรค์ระดับล่างๆในการปลดปล่อยพลังส่วนเกินออกมาเพียงครั้งเดียว




     "จงละทิ้งบาปที่ท่านมีอยู่เถิด..!! พลังแห่งทวยเทพจะเป็นผู้ชี้ทางสว่างให้กับท่านเอง!!"


     สิ้นเสียงภาวนาแด่เหล่าเทพแห่งสรวงสวรรค์ของเมโรเน่แล้ว อาวุธศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองในมือของเมโรเน่ก็ระเบิดคลื่นทำลายใส่ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจนสลายไปเป็นอากาศธาตุในชั่วพริบตาเดียว ซึ่งด้วยพลังทำลายที่เทียบชั้นเทพระดับสูงแห่งสรวงสวรรค์แล้ว เทสล่าที่เป็นนางฟ้าตกสวรรค์ระดับล่างนั้นไม่มีทางที่จะต้านทานเอาไว้ได้อย่างแน่นอน





และทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น...เรอาก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่เลือกจะเชื่อมั่นในพลังของเมโรเน่ เพราะไม่เช่นนั้นเธอเองก็คงจะถูกคลื่นพลังทำลายมหาศาลเมื่อครู่นี้สลายร่างให้กลายเป็นเถ้าธุลีล่องลอยไปสุดสายตาอย่างแน่นอน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา