23 คดีกับเหล่าผีและนายนักสืบ
8.6
เขียนโดย กุหลาบราตรี
วันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 17.21 น.
23 คดี
11 วิจารณ์
30.81K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2557 18.30 น. โดย เจ้าของนิยาย
22) การเดินทาง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ "เธอจะมองไม่เห็นพวกเราอีกขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ" หญิงสาวคนหนึ่งพูดกับฉันซึ่งก็ไม่เคยจะเข้าใจเลยว่าต้องการสื่อถึงอะไรจนกระทั่ง
"อะไรนะเธอมองไม่เห็นอะไรเลยเหรอทั้งที่มีคนตายอยู่ตรงหน้าเมื่อสองวันก่อนเนี่ยนะฉันว่าเธอมองไม่เห็นวิญญาณแล้วมากกว่า" นัตเตอร์พูดกับฉันพลางหัวเราะออกมา
"นี่นาย" ฉันเรียกแต่ว่าเขาไม่หันกลับมาก็เลยต้องวิ่งตามไป
วันนี้เป็นวันที่ฉันกับนัตเตอร์ต้องเดินทางไปหาแม่และลุงที่อเมริกาซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งสองก็เข้าออกหลายประเทศเพื่อติดต่องานแต่เพราะฉันยังเด็ก (ซะเมื่อไหร่) จึงไปตอนที่พวกเขาคุยงานกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอที่เธอไม่เห็นวิญญาณพอเธอเห็นทีไรก็ต้องกลัวพวกนั้นทุกทีเลย" เขาพูดตามที่เคยได้เห็นมา
"เปล่าฉันแค่รู้สึกแปลก" ฉันตอบเขาเสียงเบา
ตอนนี้เราอยู่บนเครื่องบินและคงต้องเดินทางอีกหลายชั่วโมง...
เช้าวันต่อมา...ฉันบิดขี้เกียจแล้วตื่นมาเมื่อถึงอเมริกาแล้วที่ที่ฉันต้องไปคือรัฐเวอจิเนียซึ่งฉันและนัตเตอร์ไม่ค่อยรู้เรื่องแบบนี้มากนักโชคดีที่มีคนคอยนำทางตลอดเวลา (ก็คือคนที่แม่และปู่ของฉันส่งมานั่นแหละ)
"ไม่รู้ว่าทำไมปู่ไม่ให้คนพวกนี้พาเราไปหาพวกเขาสักทีนะ" ฉันพูดด้วยความแปลกใจเพราะเริ่มเดินจนเมื่อยแล้ว
"ก็เรากำลังจะกลับไปหาพวกเขานี่ไงฉันคิดว่าที่เธอบ่นแบบนี้คงเป็นเพราะเบื่อหรือไม่ก็เดินจนเมื่อยขาแน่ๆ" เขาพูดถูกทุกอย่างนี่ฉันคงแสดงออกมาขนาดนั้นเลยสินะ
ฉันนั่งเงียบมาตลอดทางจนกว่ารถจะขับมาถึงบ้านพักของแม่และปู่ซึ่งเป็นบ้านพักขนาดกลางที่ร่มรื่นมากๆ ดูเหมือนว่าจะมีสุนัขประจำบ้านได้เพราะเมื่อรถคันนี้ขับเข้ามาในตัวบ้านมันก็วิ่งเห่าตามมาเป็นแถว (มีแค่สองตัว)
"ที่นี่มีหมาด้วยเหรอ" ฉันพูดลอยๆ
"สงสัยเป็นเสือมั้ง" เขาที่บังเอิญได้ยินก็พูดกวนประสาทฉันเฉยเลย
"จะมีสักวันมั้ยที่นายไม่กวนประสาทฉันแล้วทำไมปู่ต้องให้นายตามมาด้วยก็ไม่รู้" ฉันจงใจพูดประชดเต็มๆ แต่อีกฝ่ายคงไม่รู้ตัวหรอก
ฉันเดินเข้าไปหาแม่และปู่ฉันเงยหน้ามองผู้ชายและผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยความแปลกใจปู่ที่รู้ว่าฉันเป็นอะไรจึงบอกว่านั่นคือพ่อแม่ของนัตเตอร์ โอ้มายก๊อต! ไม่น่าเชื่อ...
ช่วงบ่ายของวันนี้ฉันไม่กล้าคุยกับนัตเตอร์เลยเพราะว่าพ่อแม่ของเขาเป็นผู้ร่วมหุ้นรายใหญ่แถมยังเล่าว่าพวกเขามีลูกชายที่ชอบเล่นเป็นนักสืบจึงปล่อยเลยตามเลยคิดไม่ถึงว่าเขาจะมีพ่อแม่รวยขนาดนี้ตอนแรกคิดว่าเป็นผู้ชายธรรมดาที่รับจ้างสืบคดีให้คนรวยซะอีก
"ไม่เข้าไปในบ้านเหรอ" นัตเตอร์พูดขึ้นในขณที่ฉันนั่งเหม่อ
"ปละ เปล่าไม่ได้เป็นอะไร" โอ๊ยตายฉันตอบไม่ตรงคำถาม
"ฉันถามเธออย่างนั้นตอนไหนแล้วนี่เป็นอะไรเห็นนั่งเงียบตั้งนาน" เขาพูดแบบสบายใจมากผิดกับฉันอย่างสิ้นเชิง
"ฉันสบายดีแล้วนายออกมาที่นี่ทำไม" ฉันถามไปเรื่อยเปื่อย
"เธอกลัวอะไรฉันหรือเปล่าตั้งแต่รู้ว่าพ่อแม่ฉันเป็นใครเธอก็เงียบตลอด" เขาถามจากการที่สังเกตมานาน
ฉันนั่งนิ่งสักพัก...
"เอ่อ..." ฉันพยายามจะพูดออกไปแต่ก็ไม่กล้า
"นี่...ถ้าเธอไม่พูดแล้วฉันจะไหรู้มั้ยล่ะว่าเธอเป็นอะไร" เขาพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงสุดๆ อยากจะบ้าตายฉันคิดมากเพราะนายเป็นลูกชายผู้ถือหุ้นรายใหญ่นั่นแหละได้ข่าวว่าพวกเขาไม่ยอมร่วมหุ้นกับใครง่ายๆ ซะด้วย
"นายไม่ต้องรู้หรอก"
"หรือว่าเครียดที่เมื่อก่อนทำไม่ดีกับฉันไว้เยอะก็เลยรู้สึกผิด" เขาพูดราวกับรู้ทันแต่ฉันไม่ได้รู้สึกผิดย่ะแค่กลัวเฉยๆ
"ก็ประมาณนั้น"
เมื่อฉันตอบคำถามไปเขาก็เงียบสักพักแล้วก็หัวเราะออกมาเสียงดังจนฉันมองหน้าเขาด้วยความแปลกใจอยากจะตะโกนถามเหลือเกินว่า เห็นฉันทุกข์มันสนุกมากหรือไงยะ
"เธอนี่คิดอะไรเป็นเด็กไปได้" เขาพูดพลางขยี้หัวฉันเบาๆ แล้วฉันจะหวีผมมาเพื่ออะไรเนี่ยฟูหมดแล้วนะ
"จะไปไหนก็ไปเลยไป" ฉันไล่ทันทีเมื่อตัวเองสบายใจ (เห็นแก่ตัวมาก)
"ไปไม่ได้เพราะเธอต้องช่วยฉันสืบคดีก่อน" เขาพูดพลางส่งยิ้มให้แต่ฉันรู้สึกว่าเขาต้องคิดอะไรแบบ (ชั่วๆๆ) ไว้แน่เลย
"ช่วยอะไรอีกล่ะ" ฉันถามด้วยความเหนื่อยใจแต่ใจจริงก็อยากช่วยเขานั่นแหละแต่รักษาภาพลักษณ์นิดนึง
"เอาไว้พรุ่งนี้ฉันจะบอก"
"มีลับคมในจังนะ" ฉันพูดก่อนจะเดินกลับเข้ามาในบ้าน
หลังจากที่นัตเตอร์ได้กลับบ้านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่มันก็ไม่ต่างอะไรกันหรอกเพราะบ้านพักของเขาก็ติดกับบ้านฉันเลย
"แม่คะทำไมไม่บอกหนูเรื่องนัตเตอร์ล่ะ" ฉันถามด้วยความไม่พอใจทันที
"โธ่...ก็ปู่เขาอยากเซอร์ไพส์นี่จ๊ะแล้วเป็นไงเซอร์ไพส์มั้ย" แม่ของฉันถามด้วยความร่าเริงสุดๆ
"มากค่ะ ขอตัวเข้านอนก่อนะคะคุณแม่คุณปู่" ฉันพูดก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องนอนที่มีเตียงนุ่มๆ รออยู่
ฉันเฝ้านอนคิดถึงเรื่องความฝันที่มีมาก็น่าแปลกหรือว่าฉันจะไม่เห็นผีแล้วซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกันนะแล้วคดีที่นัตเตอร์ให้ฉันช่วยจะเกี่ยวกับอะไรกันแน่ฉันนอนคิดไปคิดมาจนเผลอหลับไปเอง
เช้าวันต่อมา
"นายมีอะไรจะให้ฉันช่วยเหรอ" ฉันถามทันทีเมื่อเห็นหน้าเขา
"ตอนนี้ฉันต้องไปทำงานกับแม่น่ะตอนเย็นจะกลับมาบอกก็แล้วกัน" เขาพูดเสียงเรียบก่อนจะเดินขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว
"อะไรนะเธอมองไม่เห็นอะไรเลยเหรอทั้งที่มีคนตายอยู่ตรงหน้าเมื่อสองวันก่อนเนี่ยนะฉันว่าเธอมองไม่เห็นวิญญาณแล้วมากกว่า" นัตเตอร์พูดกับฉันพลางหัวเราะออกมา
"นี่นาย" ฉันเรียกแต่ว่าเขาไม่หันกลับมาก็เลยต้องวิ่งตามไป
วันนี้เป็นวันที่ฉันกับนัตเตอร์ต้องเดินทางไปหาแม่และลุงที่อเมริกาซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งสองก็เข้าออกหลายประเทศเพื่อติดต่องานแต่เพราะฉันยังเด็ก (ซะเมื่อไหร่) จึงไปตอนที่พวกเขาคุยงานกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอที่เธอไม่เห็นวิญญาณพอเธอเห็นทีไรก็ต้องกลัวพวกนั้นทุกทีเลย" เขาพูดตามที่เคยได้เห็นมา
"เปล่าฉันแค่รู้สึกแปลก" ฉันตอบเขาเสียงเบา
ตอนนี้เราอยู่บนเครื่องบินและคงต้องเดินทางอีกหลายชั่วโมง...
เช้าวันต่อมา...ฉันบิดขี้เกียจแล้วตื่นมาเมื่อถึงอเมริกาแล้วที่ที่ฉันต้องไปคือรัฐเวอจิเนียซึ่งฉันและนัตเตอร์ไม่ค่อยรู้เรื่องแบบนี้มากนักโชคดีที่มีคนคอยนำทางตลอดเวลา (ก็คือคนที่แม่และปู่ของฉันส่งมานั่นแหละ)
"ไม่รู้ว่าทำไมปู่ไม่ให้คนพวกนี้พาเราไปหาพวกเขาสักทีนะ" ฉันพูดด้วยความแปลกใจเพราะเริ่มเดินจนเมื่อยแล้ว
"ก็เรากำลังจะกลับไปหาพวกเขานี่ไงฉันคิดว่าที่เธอบ่นแบบนี้คงเป็นเพราะเบื่อหรือไม่ก็เดินจนเมื่อยขาแน่ๆ" เขาพูดถูกทุกอย่างนี่ฉันคงแสดงออกมาขนาดนั้นเลยสินะ
ฉันนั่งเงียบมาตลอดทางจนกว่ารถจะขับมาถึงบ้านพักของแม่และปู่ซึ่งเป็นบ้านพักขนาดกลางที่ร่มรื่นมากๆ ดูเหมือนว่าจะมีสุนัขประจำบ้านได้เพราะเมื่อรถคันนี้ขับเข้ามาในตัวบ้านมันก็วิ่งเห่าตามมาเป็นแถว (มีแค่สองตัว)
"ที่นี่มีหมาด้วยเหรอ" ฉันพูดลอยๆ
"สงสัยเป็นเสือมั้ง" เขาที่บังเอิญได้ยินก็พูดกวนประสาทฉันเฉยเลย
"จะมีสักวันมั้ยที่นายไม่กวนประสาทฉันแล้วทำไมปู่ต้องให้นายตามมาด้วยก็ไม่รู้" ฉันจงใจพูดประชดเต็มๆ แต่อีกฝ่ายคงไม่รู้ตัวหรอก
ฉันเดินเข้าไปหาแม่และปู่ฉันเงยหน้ามองผู้ชายและผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยความแปลกใจปู่ที่รู้ว่าฉันเป็นอะไรจึงบอกว่านั่นคือพ่อแม่ของนัตเตอร์ โอ้มายก๊อต! ไม่น่าเชื่อ...
ช่วงบ่ายของวันนี้ฉันไม่กล้าคุยกับนัตเตอร์เลยเพราะว่าพ่อแม่ของเขาเป็นผู้ร่วมหุ้นรายใหญ่แถมยังเล่าว่าพวกเขามีลูกชายที่ชอบเล่นเป็นนักสืบจึงปล่อยเลยตามเลยคิดไม่ถึงว่าเขาจะมีพ่อแม่รวยขนาดนี้ตอนแรกคิดว่าเป็นผู้ชายธรรมดาที่รับจ้างสืบคดีให้คนรวยซะอีก
"ไม่เข้าไปในบ้านเหรอ" นัตเตอร์พูดขึ้นในขณที่ฉันนั่งเหม่อ
"ปละ เปล่าไม่ได้เป็นอะไร" โอ๊ยตายฉันตอบไม่ตรงคำถาม
"ฉันถามเธออย่างนั้นตอนไหนแล้วนี่เป็นอะไรเห็นนั่งเงียบตั้งนาน" เขาพูดแบบสบายใจมากผิดกับฉันอย่างสิ้นเชิง
"ฉันสบายดีแล้วนายออกมาที่นี่ทำไม" ฉันถามไปเรื่อยเปื่อย
"เธอกลัวอะไรฉันหรือเปล่าตั้งแต่รู้ว่าพ่อแม่ฉันเป็นใครเธอก็เงียบตลอด" เขาถามจากการที่สังเกตมานาน
ฉันนั่งนิ่งสักพัก...
"เอ่อ..." ฉันพยายามจะพูดออกไปแต่ก็ไม่กล้า
"นี่...ถ้าเธอไม่พูดแล้วฉันจะไหรู้มั้ยล่ะว่าเธอเป็นอะไร" เขาพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงสุดๆ อยากจะบ้าตายฉันคิดมากเพราะนายเป็นลูกชายผู้ถือหุ้นรายใหญ่นั่นแหละได้ข่าวว่าพวกเขาไม่ยอมร่วมหุ้นกับใครง่ายๆ ซะด้วย
"นายไม่ต้องรู้หรอก"
"หรือว่าเครียดที่เมื่อก่อนทำไม่ดีกับฉันไว้เยอะก็เลยรู้สึกผิด" เขาพูดราวกับรู้ทันแต่ฉันไม่ได้รู้สึกผิดย่ะแค่กลัวเฉยๆ
"ก็ประมาณนั้น"
เมื่อฉันตอบคำถามไปเขาก็เงียบสักพักแล้วก็หัวเราะออกมาเสียงดังจนฉันมองหน้าเขาด้วยความแปลกใจอยากจะตะโกนถามเหลือเกินว่า เห็นฉันทุกข์มันสนุกมากหรือไงยะ
"เธอนี่คิดอะไรเป็นเด็กไปได้" เขาพูดพลางขยี้หัวฉันเบาๆ แล้วฉันจะหวีผมมาเพื่ออะไรเนี่ยฟูหมดแล้วนะ
"จะไปไหนก็ไปเลยไป" ฉันไล่ทันทีเมื่อตัวเองสบายใจ (เห็นแก่ตัวมาก)
"ไปไม่ได้เพราะเธอต้องช่วยฉันสืบคดีก่อน" เขาพูดพลางส่งยิ้มให้แต่ฉันรู้สึกว่าเขาต้องคิดอะไรแบบ (ชั่วๆๆ) ไว้แน่เลย
"ช่วยอะไรอีกล่ะ" ฉันถามด้วยความเหนื่อยใจแต่ใจจริงก็อยากช่วยเขานั่นแหละแต่รักษาภาพลักษณ์นิดนึง
"เอาไว้พรุ่งนี้ฉันจะบอก"
"มีลับคมในจังนะ" ฉันพูดก่อนจะเดินกลับเข้ามาในบ้าน
หลังจากที่นัตเตอร์ได้กลับบ้านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่มันก็ไม่ต่างอะไรกันหรอกเพราะบ้านพักของเขาก็ติดกับบ้านฉันเลย
"แม่คะทำไมไม่บอกหนูเรื่องนัตเตอร์ล่ะ" ฉันถามด้วยความไม่พอใจทันที
"โธ่...ก็ปู่เขาอยากเซอร์ไพส์นี่จ๊ะแล้วเป็นไงเซอร์ไพส์มั้ย" แม่ของฉันถามด้วยความร่าเริงสุดๆ
"มากค่ะ ขอตัวเข้านอนก่อนะคะคุณแม่คุณปู่" ฉันพูดก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องนอนที่มีเตียงนุ่มๆ รออยู่
ฉันเฝ้านอนคิดถึงเรื่องความฝันที่มีมาก็น่าแปลกหรือว่าฉันจะไม่เห็นผีแล้วซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกันนะแล้วคดีที่นัตเตอร์ให้ฉันช่วยจะเกี่ยวกับอะไรกันแน่ฉันนอนคิดไปคิดมาจนเผลอหลับไปเอง
เช้าวันต่อมา
"นายมีอะไรจะให้ฉันช่วยเหรอ" ฉันถามทันทีเมื่อเห็นหน้าเขา
"ตอนนี้ฉันต้องไปทำงานกับแม่น่ะตอนเย็นจะกลับมาบอกก็แล้วกัน" เขาพูดเสียงเรียบก่อนจะเดินขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ