23 คดีกับเหล่าผีและนายนักสืบ
8.6
เขียนโดย กุหลาบราตรี
วันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 17.21 น.
23 คดี
11 วิจารณ์
30.82K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2557 18.30 น. โดย เจ้าของนิยาย
20) กระเป๋าปริศนา (ตอนแรก)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เช้าที่แสนสดใสเพราะวันนี้แม่ของฉันติดต่อกลับมาบอกว่าอาทิตย์หน้าจะให้ฉันไปอยู่ที่ต่างประเทศกับพวกเขาแล้วแต่ต้องไปพร้อมกับนัตเตอร์ (ซึ่งเป็นอะไรที่โชคร้ายมาก)
"นี่นัตเตอร์ช่วงนี้คุโระหายไปไหนไม่เห็นช่วยนายเหมือนเมื่อก่อนเลย" ฉันถามด้วยความสงสัยจริงๆ ย้ำว่าจริงๆ
"กลับไปหาพ่อแม่ที่ต่างประเทศ" เขาตอบสั้นๆ และนั่นทำให้ฉันตกใจมากเพราะคิดไม่ถึงว่าจะมีพ่อแม่อยู่ที่ต่างประเทศด้วย (ไม่ได้ดูถูกนะแค่คิดถึง ย้ำว่า แค่คิดไม่ถึงจริงๆ)
"ฉันกลับก่อนดีกว่าถึงบ้านเธอแล้วนี่" เขาพูดพร้อมเดินจากไป
"ทำไมล่ะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า"
"ไม่มีอะไรหรอก" เขาตอบอย่างรีบร้อน
"นี่ถ้านายไม่ยอมบอกว่านายมีเรื่องอะไรฉันจะบอกกับคุณปู่และคุณแม่ว่านายดูแลฉันไม่ดี" ฉันพยายามหาทางให้เขาพูดความจริงและเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้
"คือว่าฉันต้องไปสืบหากระเป๋าที่มีคนมาจ้างให้หาน่ะ" สุดท้ายเขาก็ยอมบอก โฮะๆๆ
"แค่กระเป๋าเนี่ยนะถึงกับจ้างนักสืบสงสัยจะสำคัญมากๆ เลยนะเนี่ย" ฉันพูดด้วยความแปลกใจแต่พวกคนรวยก็ชอบทำอะไรแปลกๆ อยู่แล้วยกตัวอย่างเช่นแม่ของฉัน
"ก็เพราะมันแปลกน่ะสิฉันถึงยอมรับงานนี้" เขาพูดเสียงเรียบและดูเหมือนว่ากำลังหัวเสียด้วยแหละไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นต้นเหตุ
ด้วยเหตุนี้ฉันจึงขอตามนัตเตอร์มาด้วยเพราะอยู่บ้านก็ได้อยู่คนเดียวอยู่ดี (พอดีว่าช่วงนี้เบื่อบ้าน) จากที่เขาเล่ามาก็รู้ว่าเป็นกระเป๋าที่แฟนคนที่สองให้เธอมานั่นก็คือกิ๊กนั่นเองอีกอย่างกระเป๋าใบนี้ก็ราคาแพงมากๆ ด้วย
"คงสำคัญมากๆ เลยเนอะถึงกับจ้างนักสืบ" ฉันพูดลอยๆ จงใจให้ใครบางคนได้ยิน
"เขาบอกว่าครั้งสุดท้ายที่เห็นกระเป๋าใบนั้นก็ที่สถานีรถไฟ" เขาพูดเสียงเรียบ
"ถ้ามีคนเอาไปจริงๆ ทำไมไม่แจ้งตำรวจหรือไม่ก็ลงตามหน้าหนังสือพิมพ์เพื่อประกาศหาไปเลยล่ะ" ฉันพูดด้วยความแปลกใจ
"ก็เพราะเขาไม่อยากให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่"
"แล้วเขามีเหตุผลอะไรกันล่ะ" ฉันยังคงพูดด้วยความสงสัยเหมือนเดิม
ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงสถานีรถไฟ....
ทันทีที่มาถึงก็รีบถามถึงกระเป๋าที่ได้รูปมาจากเศรษฐีคนนั้นทันทีแต่ไม่ว่าจะถามใครก็ไม่มีใครเคยเห็นกระเป๋าใบนั้นเลยสักนิด
"ฉันว่าคงไม่มี..." ฉันยังพูดไม่จบก็มีคนพูดแทรกขึ้นมาว่า
"ผมเคยเห็นกระเป๋าใบนี้นะครับ" เป็นลุงวัยกลางคนพูดขึ้นมาหลังจากที่เห็นรูปกระเป๋าใบนั้น
"คุณลุงเคยเห็นเหรอคะแล้วเคยเห็นที่ไหนคะพาพวกเราไปได้หรือเปล่า" ฉันถามด้วยความดีใจมากมายหามาตั้งนานทำไมเพิ่งเจอลุงเนี่ย
ผมเคยเห็นคนข้างบ้านถือกระเป๋าใบนี้ครับ พอเข้าไปถามก็บอกว่าเก็บได้จากสถานีนี้แต่เขาบอกว่ากระเป๋าที่เก็บได้มันหนักมากๆ"
ด้วยเหตุนี้เราจึงออกเดินทางตามหาผู้ชายคนนั้น (พูดอย่างกะเป็นหนังผจญภัยเลยเนอะ)
"นี่นัตเตอร์ช่วงนี้คุโระหายไปไหนไม่เห็นช่วยนายเหมือนเมื่อก่อนเลย" ฉันถามด้วยความสงสัยจริงๆ ย้ำว่าจริงๆ
"กลับไปหาพ่อแม่ที่ต่างประเทศ" เขาตอบสั้นๆ และนั่นทำให้ฉันตกใจมากเพราะคิดไม่ถึงว่าจะมีพ่อแม่อยู่ที่ต่างประเทศด้วย (ไม่ได้ดูถูกนะแค่คิดถึง ย้ำว่า แค่คิดไม่ถึงจริงๆ)
"ฉันกลับก่อนดีกว่าถึงบ้านเธอแล้วนี่" เขาพูดพร้อมเดินจากไป
"ทำไมล่ะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า"
"ไม่มีอะไรหรอก" เขาตอบอย่างรีบร้อน
"นี่ถ้านายไม่ยอมบอกว่านายมีเรื่องอะไรฉันจะบอกกับคุณปู่และคุณแม่ว่านายดูแลฉันไม่ดี" ฉันพยายามหาทางให้เขาพูดความจริงและเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้
"คือว่าฉันต้องไปสืบหากระเป๋าที่มีคนมาจ้างให้หาน่ะ" สุดท้ายเขาก็ยอมบอก โฮะๆๆ
"แค่กระเป๋าเนี่ยนะถึงกับจ้างนักสืบสงสัยจะสำคัญมากๆ เลยนะเนี่ย" ฉันพูดด้วยความแปลกใจแต่พวกคนรวยก็ชอบทำอะไรแปลกๆ อยู่แล้วยกตัวอย่างเช่นแม่ของฉัน
"ก็เพราะมันแปลกน่ะสิฉันถึงยอมรับงานนี้" เขาพูดเสียงเรียบและดูเหมือนว่ากำลังหัวเสียด้วยแหละไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นต้นเหตุ
ด้วยเหตุนี้ฉันจึงขอตามนัตเตอร์มาด้วยเพราะอยู่บ้านก็ได้อยู่คนเดียวอยู่ดี (พอดีว่าช่วงนี้เบื่อบ้าน) จากที่เขาเล่ามาก็รู้ว่าเป็นกระเป๋าที่แฟนคนที่สองให้เธอมานั่นก็คือกิ๊กนั่นเองอีกอย่างกระเป๋าใบนี้ก็ราคาแพงมากๆ ด้วย
"คงสำคัญมากๆ เลยเนอะถึงกับจ้างนักสืบ" ฉันพูดลอยๆ จงใจให้ใครบางคนได้ยิน
"เขาบอกว่าครั้งสุดท้ายที่เห็นกระเป๋าใบนั้นก็ที่สถานีรถไฟ" เขาพูดเสียงเรียบ
"ถ้ามีคนเอาไปจริงๆ ทำไมไม่แจ้งตำรวจหรือไม่ก็ลงตามหน้าหนังสือพิมพ์เพื่อประกาศหาไปเลยล่ะ" ฉันพูดด้วยความแปลกใจ
"ก็เพราะเขาไม่อยากให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่"
"แล้วเขามีเหตุผลอะไรกันล่ะ" ฉันยังคงพูดด้วยความสงสัยเหมือนเดิม
ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงสถานีรถไฟ....
ทันทีที่มาถึงก็รีบถามถึงกระเป๋าที่ได้รูปมาจากเศรษฐีคนนั้นทันทีแต่ไม่ว่าจะถามใครก็ไม่มีใครเคยเห็นกระเป๋าใบนั้นเลยสักนิด
"ฉันว่าคงไม่มี..." ฉันยังพูดไม่จบก็มีคนพูดแทรกขึ้นมาว่า
"ผมเคยเห็นกระเป๋าใบนี้นะครับ" เป็นลุงวัยกลางคนพูดขึ้นมาหลังจากที่เห็นรูปกระเป๋าใบนั้น
"คุณลุงเคยเห็นเหรอคะแล้วเคยเห็นที่ไหนคะพาพวกเราไปได้หรือเปล่า" ฉันถามด้วยความดีใจมากมายหามาตั้งนานทำไมเพิ่งเจอลุงเนี่ย
ผมเคยเห็นคนข้างบ้านถือกระเป๋าใบนี้ครับ พอเข้าไปถามก็บอกว่าเก็บได้จากสถานีนี้แต่เขาบอกว่ากระเป๋าที่เก็บได้มันหนักมากๆ"
ด้วยเหตุนี้เราจึงออกเดินทางตามหาผู้ชายคนนั้น (พูดอย่างกะเป็นหนังผจญภัยเลยเนอะ)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ