See you again.

4.0

เขียนโดย diamon

วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 05.51 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  5,278 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน พ.ศ. 2556 06.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ปฎิเสธ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ซ่า………… ซ่า………………..
เสียงคลื่นทะเลดังมาเป็นระรอก เด็กสาวหิ้วกระเป๋าเป้ใบโตซึ่งดูขัดกับชุดกระโปรงยาวสีขาวของเธอเป็นอย่างมาก น้อยคนนักที่จะได้ยินเสียงพูดของเธอ กิจกรรมทุกอย่างดำเนินไปอย่างสนุกสนาน สำหรับทุกคนที่ไปเข้าร่วม แต่หลังจากเพทายเอากระเป๋าไปโยนอยากลวกๆไว้ที่เตียงในห้องพัก เธอก็เดินเลาะชายป่าข้างห้องพักมานั่งที่ริมทะเล ใต้ต้นมะพร้าวต้นหนึ่ง ร่างบางในชุดกระโปรงยาวถึงข้อเท้าสีขาวแขนกุดดูน่ารักสมวัย นั่งเอนหลังพิงกับต้นมะพร้าวหลับตาพริ้มและปล่อยให้เส้นผมยาวสลวยสีน้ำตาลอ่อนปลิวไปกับสายสมแห่งท้องทะเล เสียงของคลื่นทะเลทำให้จิตใจของเธอล่องลอยไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด อย่าได้หวังว่าจะให้กิจกรรมที่เธอมองว่ามันไร้สาระสิ้นดีมาทำให้เธอต้องสละความสุขเล็กๆที่หาได้ยากยิ่งในชีวิตเช่นนี้ไปเลย
                “เหมือนปีที่แล้วเลยนะ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านข้างของเธอ ทำให้หญิงสาวที่ใจลอยอยู่ถึงกับสะดุ้ง ลืมตาและมองหาต้นเสียง ชายหนุ่มเรือนผมสีบลอนอ่อน ดวงตาสีน้ำข้าว ผิวขาวซีด สวมเสื้อสีขาวทับกับกางเกงสีดำที่สวมสบายแต่ดูมีสไตล์
 
                “ทำไมเธอถึงชอบมานั่งตรงนี้ล่ะสาวน้อย ปีที่แล้วตอนที่คณะของเธอมาพักที่รีสอร์ทของฉัน ก็เห็นเธอหลบมานั่งตรงนี้คนเดียว”
เป็นนิสัยส่วนตัวของเพทาย เธอไม่ค่อยพุดกับคนแปลกหน้า โดยเฉพาะในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เธอจึงเลือกที่จะเงียบ และจ้องเข้าไปในแววตาสดใสของเขาด้วยแววตานิ่งเฉย
                “ไม่ตอบ ช่วยไม่ได้นะ หน้าตาฉันคงไม่เป็นมิตรเท่าไรสำหรับเธอ”
ชายหนุ่มยักไหล่กวนๆก่อนจะนั่งลงข้างๆเธอ ใช้กิ่งไม้ที่อยู่ใกล้เขี่ยทรายให้เป็นรูปเป็นร่างก่อนจะบ่นอะไรไปเรื่อยเปื่อย แม้จะรู้สึกรำคานใจที่ความสงบสุขถูกทำลายลงแต่ไม่มีเหตุผลที่เธอจะลุกหนีไปจากตรงนี้ เพราะจุดนี่เป็นจุดที่ลับสายตาจากคนในคณะเธอที่สุด และเธอจะรู้สึกแย่มากหากวันนี้เธอต้องไปนั่งไร้ตัวตนอยู่ในกลุ่มคนพวกนั้น น่าขันที่เธอยอมนั่งฟังชายหนุ่มแปลกหน้าที่ท่าทางจะอายุมากกว่าเธอนิดหน่อยบ่นพล่ามไม่หยุดในช่วงเวลาที่เธอต้องการความสงบในชีวิตมากที่สุดเช่นนี้
                “ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะ ไกลตาขนาดนี้ เธอหาจุดนี้เจอได้ยังไง”
ชายหนุ่มหันมาถามเธอ เพทายถอนใจเบาๆ เธอเกลียดการพูดคุยกับคนแปลกหน้า เพราะมันไม่ปลอดภัย เธอเกลียดการยิ้มให้คนที่ไม่รู้จัก เพราะมันคือการโกหกที่ไม่มีเสียง การเสแสร้งว่าตนเป็นมิตร เป็นสิ่งที่น่าเบื่อที่สุดและอย่าหวังว่าคนอย่างเพทายจะทำ
                “ไม่ตอบอีกแล้ว ถ้าให้ฉันเดานะ เธอคงไม่มีเพื่อนเลยสินะ”
สิ้นเสียงของเขาเพทายก็ลุกขึ้นกระทืบเท้าด้วยความรู้สึกฉุนขาดทันที
                ‘หมอนี้เป็นใคร กล้าดียังไงมาดูถูกฉันแบบนี้”
เธอคิดในใจขณะที่ส่งสายตาอาคาตไปให้เขาด้วยความโมโหสุดขีดก่อนจะหันหลังจ้ำอ้าวออกจากจุดๆนั้นทันที
                “ไอ้คนเฮ็งซวยเอ้ย ฉันอยู่ของฉันดีๆก็มาว่าฉัน น่าโมโหชะมัด”
เพทายบ่นอุบกับตัวเองโดยที่ไม่รู้เลยว่าคนที่เธอบ่นถึงนั้นได้เดินตามหลังมาด้วย
                “ขอโทษนะที่ทำให้เธอฉุนขาดขานาดนี้ ฮ่าๆๆ เสียงเธอเพราะกว่าที่ฉันคิดนะเนี่ย  แต่ที่ฉันพูดเมื่อกี้นี้น่ะ ฉันไม่ได้ดูถูกเธอนะ เพียงแค่พูดไปตามที่เห็นน่ะ นี่เดินช้าๆหน่อยสิ นี่ เธอ…”
ชายหนุ่มตะโกนเรียก เมื่อเพทายเริ่มเดินเร็วขึ้นเพื่อหนีเขา แต่สาวน้อยที่อุณภูมิในร่างกายสูง และประสบการณ์การเข้าสังคมต่ำเตี้ยติดดินเช่นเพทายคนนี้ได้ตัดสินว่าเขานั้นห่างไกลจากคำว่าเป็นมิตรไปแล้ว และเธอก็ไม่ใยดีกับคนที่พยายามจะผูกมิตรกับเธอเช่นนี้เลย
                “นี่ฟังนะนายเจ้าของรีสอร์ทงี่เง่า! ฉันไม่ต้องการจะเป็นเพื่อนกับคนปากเสียอย่างนาย ถ้าถามถึงเหตุผล หนึ่ง!นายมาทำลายความสงบในช่วงเวลาที่ฉันต้องการความสงบมากที่สุด
สอง!นายหาว่าฉันไม่มีเพื่อน และฉันขอบอกไว้เลยว่านั่นไม่เกี่ยวกับนาย เพราะคนอย่างเพทายก่อนที่จะมอบมิตรภาพให้ใครสักคนนั้น ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่าเขาสมควรได้รับ และสาม!ข้อที่สำคัญที่สุด ฉันเกลียดการคุยกับคนแปลกหน้าด้วยถ้าทางเป็นมิตรสุดขีดอย่างกับรู้จักกันมาแล้วสิบชาติ เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองงี่เง่า ถ้ารู้แล้วก็เลิกตามฉันและกลับไปยังที่ของนายซะ เพราะเพทายคนนี้กำลังอยากจะฆ่านายเต็มแก่แล้ว เลิกตามฉัน เข้าใจนะ!”
ชายหนุ่มนิ่งไปพักหนึ่งในขณะที่เพทายหันหลังและกำลังจะเดินจากไป
                “เธอนี่เข้าใจยากจัง ช่างเถอะ แต่รู้ไว้นะเพทาย เธอปฏิเสธมิตรภาพไม่ได้หรอก และที่เธอปฏิเสธมันไม่ได้ก็เพราะเธอเองนั่นแหละที่โหยหามัน”
เขาพูดด้วยสีหน้าระรื่น ขณะเดียวกันหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ากลับรู้สึกเหมือนกับถูกมีดปักกลางหัวใจ เธอหยุดนิ่งไปราวกับต้องมนต์สะกด นัยน์ตาว่างเปล่าราวกับคนไร้วิญญาณ ชายหนุ่มเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเอและจ้องลึกลงไปในแววตาที่เจ็บปวดนั้น
                “อ้อ!ฉันลืมบอกไป เธอน่ะปฏิเสธฉันไม่ได้หรอก ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำได้เพราะฉันหล่อมาก ฮ่าๆๆๆ ฉันชื่อออสก้านะ ยินดีที่ได้รู้จักยัยแม่มด”
เขาทิ้งท้ายด้วยคำเหน็บแนมเล็กน้อย ก่อนจะวิ่งหนีไป ทิ้งให้เพทายที่เพิ่งตื่นจากภวังค์ ยืนกระทืบเท้าโวยวายด้วยความโมโหอยู่คนเดียว
………………………………………………….
                หลังจากความสุขเดียวในชีวิตการเข้าค่ายของเพทายถูกทำลายลงด้วยฝีมีของชายหนุ่มแปลกหน้าที่ชื่อออสก้า เพทายเก็บตัวอยู่ในห้องคลุมโปลงแสร้งทำเป็นไม่สบาย เพื่อไม่ให้คนอื่นบังคับให้เธอไปเข้าร่วมกิจกรรม พอทุกคนออกไปหมดแล้ว เธอก็ถือสมุดโน้ตเล่มโปรดเดินไปพร้อมกับจดนู้นจดนี่ไปเรื่อยๆ
                “ถ้าเดาไม่ผิดจากจุดที่เจอหมอนั่นเมื่อวาน เราจะเห็นป่าเล็กๆอยู่ ถ้าเดินเลาะชายหาดผ่านป่านั้นไปเราก็น่าจะเจอกับพื้นที่โล่งบ้าง …เยี่ยม!นั่นคงไกลจากผู้คนมากพอ”
เธอบอกพูดกับตัวเอง ก่อนจะมองตรงไปยังชายป่าที่อยู่ริมทะเล
                “ผิดแล้วล่ะสาวน้อย จากตรงนั้น ถ้าเธอเดินเลาะป่าไป มันก็แค่ทะเลน่ะ ชายหาดมันจะหายไป และเธอรู้มั้ย ที่นั่นมีผีด้วยนะ”
เสียงคุ้นหูจากด้านหลังของเธอ ทำให้เพทายเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ออสก้าเบ้หน้าอย่างอารมณ์เสียกับการกระทำของเธอ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาเลิกที่จะสนใจในตัวเธอ
                “ตอนฉันเด็กๆน่ะ ฉันเจอมัน เป็นแสงสีทองสว่างวาบมาจากชายป่า ลอยหายเข้าไปในป่า บรื๋ออออออ!น่ากลัวสุดๆเลย”
ออสก้าทำน้ำเสียงหวาดกลัวราวกับเหตุการณ์นั่นได้เกิดขึ้นอีกครั้ง เพทายหับไปเบ้ปากด้วยความหมันไส้
                “บรื๋ออออ! นายนะ น่ารำคานที่สุดเลย อย่าเอาเรื่อหลอกเด็กมาหลอกฉันเพื่อเรียกร้องความสนใจ เพราะมันไม่ได้ผล ไหนบอกว่าเป็นเจ้าของรีสอร์ทไง ไม่ไปดูแลกิจการพันล้านล่ะคะคุณผู้ชายขา!”
เพทายทำน้ำเสียงล้อเลียนก่อนจะทำหน้าทะเล้นใส่ ออสก้าถึงกับหลุดขำกับท่าทีของเธอ
                “เธอนี่ติงต๊องชะมัด ไปเถอะ อย่าอยู่ใกล้ป่า มันอันตราย นี่ก็เย็นแล้ว เกิดมีโจรโผล่ออกมาจะทำยังไง ยัยมนุษย์ไร้เพื่อน”
                “นี่นาย!”
                “ก็หัดเปิดใจบ้างสิ จะได้มีเพื่อน”
                “พอๆๆๆ ไม่เถียงกับนายแล้ว หลบ!ฉันจะหลับรีสอร์ท”
เพทายเดินเลี่ยงเขาออกมา และชายหนุ่มแสนดื้อก็เดินตามมาติดๆ หญิงสาวอารมณ์ร้อนหันไปแหวใส่ทันที
                “นี่นายเป็นบ้าอะไรเนี่ย! จะตามมาทำไม”
ชายหนุ่มทำหน้าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา และตอยเอด้วยสีหน้าร่าเริงว่า
                “ทางเดียวกันไปด้วยกันไง!”
สิ้นเสียง หญิงสาวได้แต่เดินนำและส่ายหน้า พลางปากก็บ่นอุบตลอดทาง โดยมีเจ้าของรีสอร์ทสุดหล่อเดินตามหลังมาติดๆด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ต่างกับเธออย่างสิ้นเชิง
……………………………..

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา