Because I love you ให้ฉัน(ขอ)ได้ไหม...หัวใจของเธอ

1

PAIN

              “อันยอง”

 

              “ อ้าวเฮ้ย! เฮีย วอล หวัดดีพี่...”

 

          หมอนี่ชื่อ เจได ลูกอากฤติที่เคยพูดถึงอะครับ รู้มาว่าน้องชายสุดหล่อคนนี้มีดีกรีเป็นเดือน

คณะนิเทศเชียวนะ *O*/*

 

                  “หวัดดีน้องชาย! เรียกซะแก่เลยเว้ย”   

 

                   “โอ้โห! นี่มันพระเอกซีรี่ย์เกาหลีหลุดมาชัดๆ”

 

                    “เสียใจเว้ย ฉันหล่อกว่านั้นเยอะ ” -_-!!

 

                    “ ฮันแนะ! ยอมครับยอม” >.<

 

                      “ นั่นมันดีแล้วไอ้น้อง!...ว่าแต่ทำไมวันนี้แกถึงอยู่บ้านได้วะฮะ น้องโดนัช กิ๊ฟซี่

มีมี่ บรรดากิ๊กทั้งหลายของแกล่ะ คลาสโนว่าขั้นเทพสิ้นลายซะแล้วเหรอว๊า~”

                          แต่ไหนแต่ไรมาผมไม่เคยเห็นหมอนี่ตูดอยู่เป็นสุขเลย ปกติจะโยกซ้าย

ย้ายขวาไปตามบรรดากิ๊กเล็กๆเด็กอนุบาลทั้งหลาย ไหงวันนี้มันอยู่บ้านได้แปลกแฮะ>..<’’

 

                        “ป่าว! เพิ่งโทรบอกเลิกก่อนหน้านี้สองวินาที..” ToT

 

                         “ ทำไมวะเบื่อแล้วสิ..”-_-}   

 

                        “ป๊าว! พอดีสาวๆพวกนั้นนัดดูละครเวทีพร้อมกัน ผมไม่รู้จะทำไงเลยโทรบอก

เลิกไปหมดเลย” -_-; สุดๆ

 

                          “โห! ใช้ผู้หญิงเปลืองจริ๊ง พ่อหล่อเลือกได้ ฉันก็อุตส่าห์ดีใจนึกว่านายสละ

เวลาสีสาวมารอต้อนรับฉันที่ไหนได้ฉันสำคัญตัวผิดเหรอเนี่ย~” >_<;

                          “อ้าว! หนุ่มๆมัวแต่พูดอะไรกันอยู่ เก็บข้าวของให้เสร็จแล้วไปทานดินเนอร์

ได้แล้ว คุณยองวอนมาเหนื่อยๆจะไม่พักผ่อนเลยหรือไง” TwT

 

          อากฤติเรียก ในขณะที่ผม กับเจไดกำลังพูดคุยกันอย่างเมามันตามประสาคนไม่ได้เจอกัน

นาน เจไดเป็นหนุ่มหล่อหน้าตี๋ (ฉายา เสือตี๋ผู้ปากร้ายเกินหญิง (เสือผู้หญิง) )

ผมรู้จักหมอนี่มาตั้งแต่เด็ก แทบจะเรียกได้ว่าเป็นคู่ขากันเลยทีเดียวเพราะไอ้นิสัยชอบแกล้งคนโน้น

คนนี้เหมือนกันทำให้เราเข้ากันได้ดี แต่มีเรื่องเดียวที่ผมคิดว่าไม่น่าจะเหมือนเท่าไรก็คือ..เรื่องเจ้าชู้

ขั้นเทพนี่แหละงานอดิเรกของเจ้าหมอนี่เห็นจะเป็นสะสมกิ๊กมั้ง ^^

 

          เจไดมีแฟนสองคนแรกT3T(ไม่ต้องตกใจหรอกครับสองคนแรกน่ะถูกแล้ว-_-‘

มันไม่เคยคบผู้หญิงทีละคน อย่างต่ำต้องสองคนขึ้นไป เล่นแพ็กคู่-_-) ตั้งแต่สมัยเข้าอนุบาลใหม่ๆ

เรื่องนี้ผมยอมเค้าเลยหละ //~

 

                              “ครับอา..”

          หลังจากดินเนอร์เสร็จสรรพ ผมตัดสินใจจับกีตาร์โปร่งลงมานั่งรับลม ข้างสระว่ายน้ำสุดหรู

มันคือส่วนหนึ่งของบ้านอากฤติ สระว่ายน้ำที่นี่ใหญ่ชะมัดเห็นทีจะพอๆกับคริสตัล ลากูน สระว่ายน้ำ

ที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็เป็นได้(เวอร์ -_-;) บรรยากาศรอบสระมีแสงไฟสลัวๆ กลิ่นดอกไม้หอมอ่อนๆ

พร้อมกับลมเย็นพัดผ่านเบาๆ ~o~

                   

                               “อ้า~..”

          ผมกางแขนสองข้างพร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอด .,>,<

 

                   “เฮ้อ~ สุขใดไม่เท่าสุขใจที่ได้อยู่บ้านสินะ... สวัสดี แทกุก(ประเทศไทย) แทกุก ซารางแฮ”

 

          เอาอีกแล้วสิบรรยากาศบ้าๆแบบนี้ มันชวนให้ผมคิดถึงใครบางคนมากมายเหลือเกิน

ผมไม่เข้าใจ -_-? ว่าหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ มันเต้นด้วยจังหวะอะไร เศร้า หม่นหมอง หดหู่

หรือกำลังมีความสุข>,<!

           ถ้าหัวใจยิ้มได้แล้วล่ะก็หัวใจดวงนี้คงเป็นหัวใจที่กำลังฝืนยิ้มอยู่สิ TT ต่อจากนี้จะเป็นยังไง

ต่อไปก็ไม่รู้ ผมมองไม่เห็นทางออกของเรื่องนี้จริงๆ..T..T ..หลังจากที่นอนเอามือก่ายหน้าผากมอง

ฟ้ามองดาวเนิ่นนาน บรรยากาศก็พาไปกับเพลงเดิม เพลงโปรด เพลงนี้จนได้ ~..~!

 

~ Utneunda tto eojecheoreom nan

(เหมือนเมื่อวานนี้ที่ฉันยิ้มได้อีกครั้ง)

Sumginda amu il eomneundeut

(ได้แต่เพียงเก็บซ่อนไว้ เหมือนไม่มีอะไร)

Heorageobsi geudae mam salpyeo on

(แม้เธอไม่ยินยอม ฉันก็จะเข้าไปข้างในนั้น)

Geudae mam gajiryeohan nae mogsingabwa

(เพียงเพื่อไขว่คว้าหัวใจของเธอมา ฉันขอแค่เพียงเศษเสี้ยว)

Ijen gatgo sipeo

(แต่ตอนนี้.. ว่าฉันต้องการเธอ)

Sarangeul jugeul mankeum hanjeok innayo

(เธอเคยบ้างไหม? กับการรักใครสักคนจนสุดหัวใจ)

Dan hanbeonman dan hanbeonman jebal dorabwayo

(แค่เพียงสักครั้ง แค่เพียงสักครั้งได้ไหม หันมามองที่ฉัน)

Sorichyeo bulleobwado dachireul anha

(ฉันที่เฝ้าร่ำร้องเรียกหาแต่เธอ หากแต่เสียงร่ำไห้คงไปไม่ถึงเธอใช่ไหม)

Neoreul saranghae neol saranghae

(ฉันรักเธอ ฉันรักเธอ)

Honjaseo doenoeineun mal

(ได้แต่พร่ำบอกกับตัวเองเท่านั้น)

Neol saranghae

(ว่าฉัน.. รักเธอ)

Harussik jal saraga bonda

(ทุกๆวัน ฉันต้องอยู่ต่อไปให้ได้)

Jogeumssik beotil su itdorok

(ฉันคงทนไม่ไหว หากต้องใช้เวลานานกว่านี้)

Geudae eobsineun naeildo eobseultenikka

(หากไม่มีเธอ พรุ่งนี้คงไม่มีอีกแล้ว)

Huimangdo eobseultenikka oneulcheoreom

(ฉันคงไม่เหลือความหวังใดๆ หากไม่มีเธอ เหมือนวันนี้)

Ijen gatgo sipeo

(ตอนนี้ ..ฉันต้องการเธอ)

Cheoeum bon sunganbuteo geudaeyeotgie

(ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันได้พบเธอในวันนั้น ทุกๆอย่างก็เปลี่ยนผันไปเป็นเธอ)

Nan tto han georeum tto han georeum

(ทุกย่างก้าวและต่อจากนี้ไป)

Naegen geudaeyeoyaman hanikka

(สำหรับฉัน มีเพียงเธอ) ~ **

 

             “ ~แปะๆๆ~”

เสียงปรบมือของใครบางคนดังมาจากด้านหลัง เจไดนั่นเอง เขาเดินมาพร้อมกับ บรั่นดี ในมือ

   

            “ว้าวว!คิม จุนซู มาเปิดมินิคอนเสิร์ต หรือไงกันนะ” -3-!

              “.....”

         “เปิดคอนเสิร์ต ทั้งทีบรรยากาศทำไมมันเหงาๆเศร้าๆเหมือนใจจะขาดยังไงไม่รู้ เสียงร้องเสียงดนตรีดูหดหู่ ไม่มีชีวิตชีวาเลยครับจุนซู.. มันต้องมีพลังกว่านี้สิครับ ^^”

             ><!

           “เอ๋!..หรือว่าจุนซู คนนี้กำลังคิดถึงใครอยู่น้า~..เนื้อเพลงเศร้าจัง”

เจไดพูดพลางยกบรั่นดีขึ้นดื่ม และยื่นมาให้ผม..

             “สักหน่อยไหม...”

               “...”

               “ผมรู้ว่าตอนนี้หัวใจของพี่มันกำลังร้องให้อยู่...ลืมเธอไม่ได้สินะ”

ประโยคนี้ทำเอาผมนิ่งและจุก เจได ทิ่มเข็มได้ตรงจุดจริงๆ ตอนนี้หัวใจผมกำลังร่ำร้อง มันร้าวมานาน ถ้าปล่อยไว้ไม่หาทางรักษาอยู่แบบนี้วันหนึ่งมันคงต้องแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนแก้วที่ร้าว ยังไงไม่นานมันคงต้องแตก

                “...”

                 “ลืมริรินนางฟ้าสุดสวย..ไม่ได้ใช่ไหม”

เจไดพูดพลาง เอามือมาตบไหล่ ทำให้ผมตื่นจากภวังค์

                “นายควรจะถามฉันว่ามีอะไรบ้างเกี่ยวกับรินที่ฉันจำไม่ได้มากกว่านะ” –

                  “....”

คราวนี้เจไดได้เป็นฝ่ายเงียบ -_-}

                     “แกจะว่าฉันน้ำเน่าก็ได้นะ .. ถ้าฉันจะบอกว่า.. รินเป็นเหมือนรอยสัก ที่พยายามลบเท่าไหร่ก็ยิ่งฝังลึก!....ยิ่งฉันพยายามลบเธอออกจากใจมากเท่าไหร่...มันก็ยิ่งทำให้เธอฝั่งลึกลงไปในใจฉันมากเท่านั้น” เจไดยื่นมือมาตบไหล่ผมเป็นครั้งที่สอง (บรรยากาศชักจะเหมือนหนังเกย์ เข้าไปทุกที-_-!!)

                    “พี่ชายถ้าเป็นผม.. ผมแย่งนานแล้วคงไม่ปล่อยและยอมแพ้แบบพี่แน่” T3T

                     “แล้วแกว่าฉันกลับมาเมืองไทยเพื่ออะไรวะ ...”

คราวนี้ผมเป็นฝ่ายยื่นมือไปตอบไหล่เจไดบ้าง

                        “...”

                         “หึหึ เจได ยังไม่มีใครแพ้หรอก!.. เพราะเกมมันยังไม่เริ่ม ...เกมนี้จะเริ่มได้ก็ต่อเมื่อฉันเป็นคนควบคุมเท่านั้น”

                         “....”                  

                           “แต่การแย่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างนั้นหรอกนะ! ฉันมันดันเป็นผู้ชายที่ชื่อวอลวะ..ไอ้วอลคนที่ริรินเกลียดมากที่สุด”

                         “....”

                        “ในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องง่าย ..ฉันคงต้องจบเกมนี้ลงด้วยแผนการร้าย”              

                     

                             “ ~แปะๆๆ~”

เสียงปรบมือดังขึ้นเป็นครั้งที่สอง “โห!..ในที่สุด! ‘เฮียวอล’คนเดิมก็กลับมา>_< ..ว่าแต่จะตั้งชื่อภารกิจนี้ว่าอะไรดีล่ะ ‘สงครามโหด! โฉดทะลุเวลา! ข้ามขอบฟ้า..มาล่ายัยหัวใจเหล็ก T_T ดีไหม?’” -_-‘,,

                              -_-*!!

                             “แย่งหัวใจ ทะลุหัวใจ”

                              “…”

                        “ปฏิวัติหัวใจแกร่งเกินนรก ใหญ่ระทึกโลก พลิกหัวใจฟัดสาวฮอตมหากาฬ” *..*!                

                           T_T!!~

                          “หรือว่าจะเป็น..”><

                              “หยุดเถอะ! ความคิดแกมันอุบาท! บัดซบ! สิ้นดี TT-TT” อืมม!

ไอ้ตี๋น้อยหน้าหล่อนี่ มันดูหนังมากเกินไปป่ะ! ตอนนี้มันหยุดที่พลิกหัวใจฟัดสาวฮอตมหากาฬ

ถ้าเกิดฉันทนนิ่งฟังต่อไปอีกมีหวังฉันได้ฟัดสวาทยมฑูตหญิงไปด้วยสิ (เลว! ทะลุนรก )

“ฉันว่ามันต้อง ‘แผนเลว เถื่อน ร้าย แย่งหัวใจยัยอินโนเซ้นท์♥’ ” TwT (อุบาทไม่ต่างกัน-_-!)

เหนือฟ้า ยังมีฟ้า อุบาทเหนือข้าไม่มีใคร T~T!!! (สังสัยอยากเจอมือตบสวาท ลืมชาติกำเนิด) ................................................................................................................................................................ Xiah Junsu (JYJ) Love Like Snowflakes (Innocent Man Ost.)