Help me please' ช่วยด้วย ฉันรักนายเข้าแล้ว ><
7.7
เขียนโดย party
วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.29 น.
4 ตอน
0 วิจารณ์
8,471 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 30 กันยายน พ.ศ. 2556 17.50 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) part2 ตัวช่วย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ฉันตื่นมาพร้อมกับอากาศยามเช้าที่สดชื่น!
ดีจัง วันนี้เป็นวันหยุด ได้พักผ่อนเต็มที่
"ยัยวี๊ด แกตื่นยัง"
ยัยนี่มาปลุกฉันได้ทุกวี่ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการจริงๆ เลยอย่างนี่ต้องฟ้องกระทรวงอะไรซักอย่างแล้ว ฉันเดินไปเปิดประตูห้องนอน
ลืมบอกไปว่าฉันพักอยู่ที่คอนโดฯ ใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง คุณพ่อของฉันท่านซื้อให้เพื่อที่ฉันจะได้มาอยู่ที่นี่ เพราะมันอยู่ใกล้กับโรงเรียนมากกว่าบ้านฉัน
ซึ่งจะแบ่งเป็นสองห้องนอน สองห้องน้ำ และยังมีห้องรับแขกและห้องครัวอย่างละหนึ่ง ฉันอยู่กับโลลี่ป๊อปสองคน เรานอนคนละห้องกัน มันกว้างพอที่จะทำให้ฉันขี้เกียจทำความสะอาด จึงจ้างแม่บ้านมาทำแทน
"มีอะไรถึงได้มาปลุกฉันแต่เช้าเนี่ย"
"เช้าบ้านแกหล่ะซินี่มันเก้าโมงแล้ว"
"แล้วมันเช้ามั้ยหล่ะ?"
"ไม่เถียง"
โลลี่ป๊อปพูดอย่างเสียอารมย์ คิดผิดแล้วแหละที่มาเถียงกับฉัน
"ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว ฉันให้เวลาแกครึ่งชั่วโมง"
"ชั่วโมงครึ่ง"
"นี่แกจะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้เปิดร้านเกมส์นะที่แกจะมาต่อเวลา"
"ชั่วโมงนึงแล้วกัน"
"ก็ได้ๆ รีบๆหล่ะอย่าไปแอบหลับอยู่อีก"
"ย่ะ"
ฉันปิดประตูแล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูเพื่อที่จะไปอาบน้ำ ตามคำสั่งของยัยเพื่อนจอมขี้บ่น จู้จี้ จุกจิก
ได้อาบน้ำแล้วสดชื่นจัง ฉันเดินไปแต่งตัว วันนี้เป็นวันหยุดฉันเลยไม่แต่งตัวหวือหวามากนักเพราะอยู่แต่บ้านไม่ได้ไปไหน ใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นก็พอแล้ว
พอแต่งตัวเสร็จฉันก็เดินเข้าไปในครัว
"มาแล้ว มีอะไรให้ฉันช่วยมั้ย?"
"เหลือแต่ทอดไข่ดาวอย่างเดียว"
"เดี๋ยวฉันทำให้"
โลลี่ป๊อปมองฉันอย่างไม่เชื่อฝีมือ
"เหอะน่า! ฉันไม่ทำให้ระเบิดเหมือนรอบที่แล้วหรอก"
รอบที่แล้วฉันหิวเลยแอบลุกขึ้นตอนกลางคืนมาทอดไข่กิน ซึ่งมันเป็นเมนูที่ฉันเชี่ยวชาญที่สุด แต่ดันทำเตาระเบิดโชคดีที่ไม่ได้เป็นอะไร
"แน่นะ"
"อืม พยายามอย่างสุดฝีมือเลย"
เมื่อฉันพูดจบโลลี่ป๊อปก็ยกเบคอนกับแฮมไปไว้ที่โต๊ะอาหาร ปกติโลลี่ป๊อปจะเป็นคนทำอาหาร ส่วนฉันนะเหรอ รอกินอย่างเดียว
ฉันหยิบกระทะมาวางไปบนเตา
ไม่นานฉันก็ทอดไข่ดาวฝีมือตัวเองเสร็จ
"มาแล้วไข่ดาวฝีมือของฉัน"
ฉันวางจานลงบนโต๊ะ
"อะไรของแกเนี่ย แกแน่ใจน่ะว่าแกทอดมาแล้ว"
"ก็แกชอบไข่ดาวไม่สุกไม่ใช่เหรอ"
"ก็ใช่ แต่ไม่ใช่เละอย่างนี้... เอามานี่เดี๋ยวฉันจัดการเอง"
"แกจะกินเหรอ?"
"จะบ้าเหรอ เอาไปทอดใหม่"
พูดจบโลลี่ป๊อปก็หยิบจานไข่ดาวที่ฉันทอด แล้วเดินเข้าไปในครัว
กรี๊ดดดด!!
โลลี่ป๊อป! ฉันรีบวิ่งเข้าไปในครัวพบควันลอยโขมงอยู่เต็มห้องครัว แค่ก แค่ก!
ฉันรีบวิ่งไปปิดเตาเพราะนึกขึ้นได้ว่าฉันทอดไข่ไว้อีกฟองนึง ลืมได้ไงเนี่ย
"ยัยสวีตตี้"
"จ๋าาาา !!"
ฉันลากเสียงให้ยาว
"แกทำอะไรไว้"
"เค้าทอดไข่ไว้อีกฟองนึง แล้วเค้าลืมอ่ะตัวเอง" ฉันทำเสียงและหน้าตาที่คิดว่าตัวเองดูน่าสงสารที่สุด *W*
"ไม่ต้องมาเปลี่ยนสรรพนามเลยนะแก"
"ขอโทษษ!"
"......"
"ฉันขอไถ่โทษ โดยการทอดไข่อีกฟองให้แกล่ะกัน"
"ไม่ต้องเลย ไม่ต้อง เก็บกวาดให้เรียบร้อย"
พูดจบโลลี่ป๊อปก็เดินออกไปจากห้องครัวทิ้งให้ฉันต้องทำความสะอาดคนเดียว แล้วจะเริ่มทำตรงไหนดีละเนี่ย เละซะขนาดนี้
กวาดๆ! เก็บๆ! เช็ดๆ! ล้างๆ! ถูๆ!
เฮ้อออ!! เสร็จซะที เวลาไม่ถึงสิบนาทีฉันทำความสะอาดห้องครัวจนเนี๊ยบ! (_ _'')
ฉันเดินออกมาจากห้องครัวแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาแสนนุ่ม
"ไงหล่ะยัยคุณหนู ไม่เคยทำอะไร ทีนี้รู้สึกแล้วยังว่างานบ้านมันเหนื่อยแค่ไหน"
โลลี่ป๊อปเดินมาถาม น้ำเสียงชีฟังดูสะใจมาก
"ย่ะ"
ฉันตอบไปแบบห้วนๆ
โลลี่ป๊อปเดินมา ถือจานอะไรซักอย่างมาด้วย
"อ่ะ"
โลลี่ป๊อปยื่นจานที่มีแฮมกับไส้กรอกมาให้ฉัน ฉันรับมาแล้วกินจนเรียบ
ตี๊ด! (เสียงเปิด TV)
'สวัสดครับพบกับพวกเราสามคน โป๊ะ ทึง ทัง กับรายการชิงเงินชิงทองห้าห้าห้า....'
ตี๊ด! (เสียงปิด TV)
"เป็นอะไรของแกเดี๋ยวเปิดเดี๋ยวปิด"
"เซ็ง!"
"ไปเที่ยวกันมั้ย?"
"อืม ก็ดีเหมือนกัน"
"เดี๋ยวฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วกัน"
ยัยโลลี่ป๊อปเดินหายเข้าไปในห้องของตัวเอง ไม่นานก็ออกมาพร้อมกับ ชุดเซ็กสีชมพูอ่อน แขนตุ๊กตา ช่างต่างกับฉันที่ใส่แค่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น รองเท้าผ้าใบ แล้วก็กระเป๋าเป้สีฟ้าลายโดเรม่อนกินราเมง แค่นี้ก็เที่ยวได้ทั่วทั้งจักรวาลแล้ว
"นี่แกจะไปเดินแฟชั่นโชว์ที่ไหนเนี่ย"
"ป่าวซะหน่อย"
ยอมรับว่าชีแต่งตัวเวอร์มากแต่ก็เข้ากับยัยนั่นแล้วแหละ หวานๆ น่ารักๆ เรียบร้อย ดูเป็นกุลสตรีดีออก
สยามพาราเซตามอน ~
ตอนนี้ฉันกับโลลี่ป๊อปได้มายืนอยู่ที่หน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง
ฉันเดินมาที่หน้าโรงหนัง
"แกจะดูเรื่องอะไร"
โลลี่ป๊อปหันมาถามฉัน
"ผีก๊อกก๋อย!"
"ไม่อาวว! ฉันไม่ดูหนังผี"
โลลี่ป๊อปส่ายหน้า
"จะดูเรื่องนี้...."
โลลี่ป๊อปชี้ไปที่การ์ตูนตัวสีเหลืองๆ
"นี่แกจะบ้าเหรอ? มาที่นี่เพื่อมาดูไอ้ตัวหัวมันเหลืองๆ เนี่ยนะ"
เฮ้ยย! o_O?
ยัยโลลี่ป๊อปหายไปไหนแล้ว ไวยิ่งกว่าเด็กอนุบาลซะอีก
"จ๊ะเอ๋ !! "
"ยัยโลลี่ นี่แกเล่นอะไรของแกนี่"
"ฉันไปซื้อตั๋วหนังมา"
โลลี่ป๊อปยื่นตั๋วหนังเรื่องไอ้หัวมันให้ฉันดู
"ฉันไม่ดู"
"แต่ฉันไม่ซื้อมาแล้วนะ *w*"
ฉันยืนพิจารณาอยู่พักนึง แล้วหยิบมันมา
"เออๆ ดูก็ดู -_-''"
"^O^"
"หนังเริ่มเที่ยงไปไหนก่อนดี?"
โลลี่ป๊อปหันมาถามฉันอย่างเซ็ง ๆ
"ไปกินไอติมกัน"
"อืม ก็ดีเหมือนกัน"
Ice Savannah (ไอซ์ ซวันน่า)
"นั่งตรงโน้น"
โลลี่ป๊อปชี้ไปโต๊ะ C ซึ่งอยู่ติดกับกระจก
"รับอะไรดีคะ"
"ช็อกโกแลตกับวานิลาคะ"
"รอสักครู่นะคะ ^^"
แล้วยัยพนักงานก็เดินไป
"โลลี่ป๊อป มากับใคร?"
เสียงผู้ชายคนนึงดังมาจากด้านหลังของฉัน
ฉันหันไปดูพบว่าเป็น เชลซี เขาใส่เสื้อเชิร์ต พับแขนถึงข้อศอกกับกางเกงยีนส์แล้วก็รองเท้าผ้าใบ ผมสีช็อกโกแลตถูกเซตมาเป็นอย่างดี ต่างกับตอนที่เขาใส่ยูนิฟอร์มโดยสิ้นเชิง
"อ๋อ มากับสวีตตี้หน่ะ แล้วนายอะมากับใคร^^"
ถามได้ว่ามากับใคร ฉันนั่งหัวโด่อยู่ไม่เห็นหรือไง =_='
"ฉันมากับคัพเค้ก โน่นไงเดินมาพอดีเลย"
เขาชี้ไปที่ผู้หญิงคนนึงซึ่งกำลังเดินมาทางนี้ เธอชื่อ'คัพเค้ก'ตากลมโต ผมสีน้ำตาลดัดเป็นลอน หน้าขาวสวยได้รูปเข้ากับจมูกและปากเรียวเล็ก ของเธอ แต่งหน้าค่อนข้างจัด
ดูเซ็กซี่มาก ดูไปดูมาก็หน้าคุ้นๆ เหมือนกันแฮ่ะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนซักแห่งบนโลกใบนี้ =w=
"คัพเค้ก นี่โลลี่ป๊อปกับสวีตตี้เป็นเพื่อนห้องเดียวกับผม"
"ยินดีที่ได้รู้จักคะ (^^)"
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันคะ ฉันชื่อโลลี่ป๊อป แล้วก็นี่สวีตตี้เพื่อนฉันคะ"
เธอยิ้มอย่างเป็นมิตร
"แฟนนายเหรอ น่ารักจัง?"
โลลี่ป๊อปถามเชลซี (เบาๆ) แต่ฉันได้ยิน
"อืม"
"ถ้าไม่รังเกียจเชิญนั่งด้วยกันซิ"
โลลี่ป๊อปชวนเชลซีกับคัพเค้กนั่ง
"อืม ก็ดีเหมือนกัน"
แล้วเค้าสองคนก็นั่งลง ฉันนั่งตรงข้ามกับโลลี่ป๊อป เชลซีนั่งข้างโลลี่ป๊อป ส่วนคัพเค้กนั่งข้างฉัน
วี๊หว่อ! วี๊หว่อ! วี๊หว่อ!
เสียงโทรศัพท์ยัยโลลี่ป๊อป บอกให้เปลี่ยนหลายครั้งแล้ว คนอื่นเค้าหันมาดูหมดเลยเห็นมั้ย? =_=^
"ฮัลโหลคะ พี่บี"
"น้องโลอยู่ไหนหน่ะ รีบมาประชุมด่วนเลย"
เรียกคนอื่นซะหมดความเป็นคนเลย
"เห้ย OoO ลืมไปเลยวันนี้มีประชุม คะๆจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย"
ลืมบอกไปว่าโลลี่ป๊อปเป็นประธานนักเรียน
"มีอะไรเหรอโลลี่?"
"ฉันต้องรีบไปประชุม ขอโทษด้วยนะ อะนี่ตั๋วหนัง"
โลลี่ป๊อปส่งตั๋วหนังให้ฉัน...
"อ้อ เชลซีฉันฝากสวีตตี้ด้วยนะ"
"อ่ะ อืม แล้วเธอจะไปไหน"
โลลี่ป๊อปไม่ตอบแล้วลุกขึ้นเดินออกไป แล้วฉันจะนั่งเป็นกอขอคอทำไมหล่ะ ฉันลุกเดินตามโลลี่ป๊อปไป
"เธอจะไปไหน"
"ไปดูหนัง"
"รอบกี่โมง"
"เที่ยง!"
"เรื่อง...."
"ไอ้หัวมัน"
"หือ o_O? มีด้วยเหรอ"
เขาทำหน้างง
"เรื่องนี่มั้ย"
เขาหยิบใบอะซักอย่างออกมาจากกระเป๋าซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นตั๋วหนัง
"อืม ใช่"
"งั้นไปดูด้วยกันมั้ยจ๊ะ?"
คัพเค้กหันมาถามฉัน
"ไม่ดีกว่า เธอไปดูกับหมอนี่สองคนแล้วกัน"
ฉันไม่อยากเป็นก้าง
"แล้วเธอจะดูกับใครหล่ะ?"
"เดี๋ยวฉันหาแถวๆนี้แหละ"
"นี่เธอจะบ้ารึไง ไม่ใช่สิ่งของนะ"
"แล้วไง"
ฉันกำลังจะเดินออกมาแต่...
ควับ!
เชลซีคว้ามือฉันไว้
"ปล่อยฉันนะ แฟนนายนั่งอยู่ไม่เห็นรึไง"
"เห็น แต่เธอต้องไปกับฉัน"
"ฉันไม่ไป"
"เธอต้องไป ถ้าเธอไม่ไปฉันจะทิ้งสมุดเล่มนั้นทิ้ง"
ใช่ ลืมไปเลยว่าเชลซียังไม่ได้คืนสมุดนั่นให้ฉัน
"ฉันไม่อยากไปเป็นก้าง เชิญนายไปดูกับแฟนนายเหอะ"
"ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ ไปดูกันหลายๆคนสนุกดีออก ^^"
นี่ถ้าไม่ถามก็ไม่รู้นะว่าคัพเค้กเป็นแฟนหมอนี่ ดูจากท่าทางแล้วไม่น่าเลย หน้าตาก็ดี นิสัยก็ดี ไม่น่ามาเป็นแฟนกับคนอย่างหมอนี่เลย =_=*
"งั้นก็ได้"
หลังจากกินไอศกรีมเสร็จเค้าสองคนและฉันอีกหนึ่งตัว (-_-') เดินมาที่โรงหนัง
ติ๊งๆ ติ๊งๆ ติ๊งๆ!!
เสียงโทรศัพท์ใคร?
ของคัพเค้กนั่นเอง เธอรับโทรศัพท์และก็เดินออกไปคุยห่างๆ พอสมควร
"ใครโทรมาเหรอเค้ก?"
"เพื่อนหน่ะ บอกว่ามีธุระด่วน เค้กคงดูหนังกับเชลไม่ได้แล้วต้องขอโทษด้วยนะ *w*"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ^^ ไว้โอกาสหน้าก็ได้ ให้ผมไปส่งมั้ย?"
เชลซีจับบ่าคัพเค้ก
"ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวเค้กกลับแท็กซี่เองก็ได้"
"แต่แท็กซี่มันอันตรายนะ งั้น..เดี๋ยวผมโทรให้คนขับรถที่บ้านมารับเค้กแล้วกันนะ"
"ไม่ต้องลำบากหรอกคะ"
เมื่อไหร่ฉันจะมีบทพูดเนี่ย เซ็งแล้วนะ =_=!
"อย่าดื้อซิ"
"เอ่อ...ถ้าอย่างนั้นก็ได้คะ ^๏^"
พูดจบเชลซีก็หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋า แล้วก็โทรหาใครคนนึง
"เค้กไปก่อนนะคะ แล้วเจอกันคะ ^^"
"ครับ ^^"
แหมส่งสายตาหวานฉ่ำให้กันด้วย
เค้กอย่างนั้นเชลอย่างนี้ แหวะ (-_-)!!
"ไปก่อนนะสวีตตี้"
เธอหันมาบ๊ายบ่ายให้ฉัน แล้วก็เดินไป
ทีนี้ก็เหลือฉันกับเชลซีสองคนหน่ะซิ นี่ฉันต้องดูหนังกับหมอนี่สองคนเหรอเนี่ย ฉันไม่เคยดูหนังกับผู้ชายสองต่อสอง ไม่อาว ฉันจะเสียตัวให้เขามั้ยเนี่ย ในโรงหนังยิ่งมืดๆด้วย อี๋ยย คิดแล้วขนลุก
"นี่เธอ คิดอะไรอยู่มาเร็วหนังจะเริ่มแล้ว"
เขาคว้ามือฉันแล้วลากมาที่โรงหนัง
"ปล่อยนะ ฉันเดินเองได้"
เขาไม่ฟังที่ฉันพูด สุดท้ายฉันก็ต้องตามเขามาตามแรงลาก ฉันมานั่งที่แถว 2F ส่วนเชลซีก็นั่งลงข้างฉัน
ในโรงหนังติดแอร์ทั้งโรงงานรึไงเนี่ย ทำไมมันถึงได้หนาวขนาดนี้ รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ขั้วโลกเหนือเลยแฮ่ะ!
"หนาวเหรอ?"
"ร้อนมั้ง"
"สมน้ำหน้า"
เอ้า! ไอ้บ้านี่ ):
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!"
ฉันปล่อยเสียงหัวเราะออกมาโดยไม่แคร์ใคร
"นี่เธอเบาๆหน่อยซิ ผู้หญิงอะไรหัวเราะไม่มีมารยาท"
"ผู้หญิงอย่างฉันนี่แหละ"
สิบนาทีผ่านไป
ฮือๆๆ ๆ ๆ T///T
"ใครมานั่งร้องไห้อยู่ว่ะ"
เชลซีนั่งหันซ้ายหันขวา (- - )( - -) (- - )( - -) หาเสียงลึกลับอยู่
"เธอเองเหรอยัยจอแบน ตกใจหมดเลยนึกว่าผี"
ผีอะไรจะสวยขนาดนี้ย่ะ
"ร้องไห้ทำไมเนี่ย?"
"stop your mouse! กำลังได้ฟิวส์"
ฉันสั่งให้เชลซีอยุดพูด ทำลายฟิวส์ของฉันหมดเลย -_-''
"เออๆ ตามสบาย คิดว่าเป็นบ้านเธอแล้วกันนะ -_-"
ทำไมตอนเริ่มมันไม่สนุกเลยแถมยังน่าเบื่ออีกต่างหาก แต่ก็ช่างเหอะ อย่างน้อยมันก็จบลงอย่างสวยงามแอนด์ซาบซึ้ง TUT
ทำไมฉันรู้สึกอุ่นๆที่มือ เหมือนมีใครมาจับมือเลย ฉันก้มไปดูมือตัวเอง
"นี่นาย ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้นะ"
เขามาจับตั้งแต่ตอนไหนแล้วเนี่ย มือของหมอนี่ก็นุ่มดีเหมือนกันนะเนี่ย เหมือนกับไม่เคยหยิบจับอะไรมาเลย
"จับอยู่ตั้งนานแล้วไม่รู้เรื่องเหรอไง นี่ถ้าปล้ำเธอก็คงไม่รู้เรื่องซินะ"
"กรี๊ดดด!! ทะลึ่ง ลามก อุบาทว์ ทุเรศ...
¥±|%=¦๏£¥€$#286"
ฉันด่าหมอนั่นแหลกเลย
"นี่เธอ หยุดเดี๋ยวนี้นะ ไม่อายคนรึไง"
"ไม่หยุด ไม่อาย หน้าด้าน ±€#94+@......"
ฉันด่าเขาโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
"ถ้าเธอไม่อยุด ฉันจะจูบเธอ..."
"........."
นี่คือคำขู่ใช่มั้ย? แต่มันก็ได้ผล ทำให้ฉันปิดปากเงียบสนิทไม่พูดอะไรต่อ
"จะกลับบ้านเลยมั้ย?"
"......."
ฉันหันไปมองรอบๆ แล้วสายตาของฉันก็สะดุดเข้ากับสิ่งหนึ่งนั่นก็คือ ตู้คีบตุ๊กตา ซึ่งมันมีโดเรม่อนตัวใหญ่เบ่อเร่อ ตั้งโด่อยู่ในตู้กระจก ฉันชอบโดดเรียนมาเล่นไอ้เจ้านี่บ่อยๆ หวังว่าซักวันนึงฉันจะต้องเอาโดเรม่อนตัวนั้นออกมาจากตู้ให้ได้
"ฉันอยากคีบตุ๊กตา"
ฉันชี้ไปที่ตู้คีบ
"ไอ้ตู้นั่นหนะเหรอ ๏•๏?"
"อืม ฉันอยากได้โดเรม่อนตัวนั้นอะ"
"ไอตัวอ้วนๆ กลมๆ ตันๆ นั่นนะ?"
"นี่นาย อย่ามาว่าโดเรม่อนนะ ):"
" (=_=*) " <<< หน้าเชลซี
ตอนนี้ฉันได้มายืนอยู่หน้าตู้น้องม่อน >•<
ฉันจัดการหยอดเหรียญแล้วก็คีบ
ครั้งที่ 1...
ครั้งที่ 2...
ครั้งที่ 3...
ครั้งที่ 4 5 6 7 8 9 10.....
(-_-''') เหนื่อยแล้วนะ แต่ฉันก็ไม่ละความพยายาม
"(=_=*)" <<< เชลซียังคงทำหน้าเหมือนเดิม
ครั้งที่ 101 102 103 104 105.......
(-_-''') เหงื่อท่วมตัว
ไม่ไหวแล้ว ฉันจะเป็นลม ทำไมมันชั่งคีบยากคีบเย็นขนาดนี่นะ
"นายรออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวฉันไปซื้อน้ำแป๊ป"
"อืม"
"เอาน้ำอะไรมั้ย"
"น้ำเปล่า"
ฉันบอกให้เชลซีรออยู่ที่ตู้คีบตุ๊กตาแล้วฉันก็เดินมาซื้อน้ำ
"ชานมไข่มุกแก้วนึงแล้วก็น้ำเปล่าขวดนึงคะ"
"ซักครู่นะคะ ^^"
ห้านาทีผ่านไป ~
"ห้าสิบบาทคะ"
ฉันยื่นเงินให้พนักงานแล้วเดินมาที่ตู้คีบมหาประลัยนั่น
แล้วก็ต้อง O[]O ตะลึงเพราะตอนนี้โดเรม่อนตัวที่อยู่ในตู้คีบ มันได้ปรากฎกายให้ฉันเห็นอยู่ตรงหน้า
"เป็นอะไรของเธอฮ่ะยัยจอแบน"
ฉันหลุดจากภวังค์ความตกใจแอนด์ตะลึง
"นะนาย ไปเอาโดเรม่อนตัวนั้นมาจากไหน"
"ก็คีบมาจากตู้นั่นหน่ะซิถามได้"
"นายทำได้ไงอะ สุดยอดไปเลย"
ฉันไม่อยากจะประจารตัวเองหรอกนะ ฉันแอบโดดเรียนมาที่นี่บ่อยๆ เพราะฉันอยากได้โดเรม่อนตัวนั้นใจจะขาด (เวอร์)
แต่ฉันก็ไม่เคยคีบมันได้ซักที แล้วหมอนี่เป็นใครกันทำไมเค้าถึงได้เก่งขนาดนี้
"นี่นายก็เคยแอบโดดเรียนมาคีบโดเรม่อนตัวนี้เหมือนฉันใช่มั้ย?"
"ใครจะไปปัญญาอ่อนเหมือนเธอหล่ะ ที่ยอมโดดเรียนเพื่อไอ้อ้วนนี่"
-_-!
"โดเรม่อนยะ"
"เออนั่นแหละ อยากได้มั้ย? ^^*"
"มากกก"
"ไม่ให้"
แล้วจะถามฉันเพื่อ?
=_=;
"ฉันไม่ให้เธอ...."
"TxT"
ใจร้าย จะเอาไปให้คัพเค้กหล่ะซิ ชิ๊!
"แต่ฉันจะฝากเธอไว้ก่อน ไว้ฉันอยากได้เมื่อไหร่ฉันจะมาเอาคืน"
'ฝาก'ถ้าไม่ฝากมันจะดีมาก แล้วฝากฉันไว้ทำไม ไม่เข้าใจ ถ้าให้ก็จบเรื่อง
เขาส่งโดเรม่อนให้ฉัน ฉันรู้สึกดีมากเมื่อได้จับมัน จะเอาไปนอนกอดทุกคืนเลย อ๊ะ! ไม่ซิต้องเก็บไว้ให้อย่างดี
"แล้วไหนน้ำฉันหล่ะ"
เออ ลืม
"อะ นี่น้ำนาย"
ฉันส่งขวดน้ำให้เขาส่วนฉันก็กินชานมไข่มุกแสนอร่อย
"นั่นลูกอะไรหน่ะ"
เขาหันมาถามฉัน ทำหน้าเหมือนขยะแขยงอะไรซักอย่าง
"นายไม่รู้จักไข่มุกเหรอ"
"ไข่มุกสีขาวไม่ใช่สีดำ"
"คนละไข่มุกกันย่ะ สีขาวไข่มุขที่เป็นเครื่องประดับ ส่วนนี่ไข่มุกที่เป็นของกินทำมาจากแป้ง ลองชิมดูมั้ย อร่อยนะ"
"ไม่ เดี๋ยวตาย"
ฉันอยากจะบ้านี่ตกลงเขาไม่รู้จักไข่มุกจริงๆ เหรอนี่
"งั้นเดี๋ยวฉันกินให้นายดูก่อนเลยอะ"
ฉันดูดไข่มุกขึ้นมากินให้เชลซีดู
"อะ ลองกินดูซิ"
ฉันส่งแก้วชานมไข่มุกให้เขา เขารับไปอย่างกล้าๆ กลัว ๆ ราวกับว่ามันคือกิ้งกือ ไส้เดือนซะอย่างนั้น
ซูดดดดด!!
"อร่อยจริงๆด้วย งั้นฉันกินหมดล่ะนะ ^O^"
ซูดดดด!!
ม่ายย น้าาา ชานมไข่มุกของโปรดช้านน หายวับไปกับตาเลย ฉันไม่น่าสอนให้หมอนี่กินไข่มุกเลย TOT
"นายกินของฉันหมดเลย"
"ขอโทษนะพอดีมันอร่อย เคี้ยวแล้วนุ่มลิ้นดี ฉันชอบ ^^"
"....."
"เธอจะไปไหนต่อมั้ย"
"ไม่หล่ะ กลับเลยดีกว่า รบกวนนายมามากแล้ว" เพิ่งสำนึก
"อืม ไม่เป็นไรหรอก ถือว่าเป็นค่าชานมไข่มุกล่ะกัน ^^"
ก็ดี !
ก่อนกลับเขาไม่ลืมที่จะแวะซื้อชานมไข่มุก สงสัยจะชอบจริงๆ
เขาเดินนำฉันมาที่รถของเขา ซึ่งเขาบอกว่าจะไปส่งที่บ้านโดยให้เหตุผลว่า
'ตอบแทนค่าชานมไข่มุก'
"บ้านเธออยู่ไหน"
"ฉันพักอยู่คอนโดฯ!"
"อ้าว ทำไมไม่อยู่บ้าน"
"บ้านฉันอยู่ห่างจากโรงเรียนมาก ฉันขี้เกียจตื่นแต่เช้ามาโรงเรียน คุณพ่อท่านเลยซื้อคอนโดฯ แถวโรงเรียนให้"
ฉันบอกทางกับเขาแล้วเขาก็มาส่งฉันหน้าคอนโดฯ
"เดี๋ยวฉันไปส่ง"
"ไม่ต้องแค่นี้ก็พอ"
"ไม่ได้ ฉันรับปากกับโลลี่ป๊อปไว้แล้ว"
"ถ้านายไม่พูด ฉันไม่พูดยัยโลลี่ก็ไม่รู้"
"แต่ฉันอยากไปส่งเธอ ฉันจะได้แน่ใจว่าเธอปลอดภัย"
"นายเป็นห่วงฉันเหรอ?"
"อืม ฉันเป็นห่วงคนที่จะมาฉุดเธอ"
"ไม่มีใครฉุดฉันหรอกน่าาา"
"เรื่องนั้นฉันรู้ ถือว่าฉันตอบแทนค่าชานมไข่มุกแล้วกันนะ ^^"
ชานมไข่มุกมันมีบุญคุณมากมายขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย =_=;
แล้ว 'เรื่องนั้นฉันรู้' ของหมอนั่นมันหมายความว่าไง? งงนะ
สุดท้ายเขาก็เดินตามฉันขึ้นมาจนได้
ห้อง 4095
"ส่งฉันแค่นี้แหละ กลับไปได้แล้ว"
"คนเค้าอุตส่าห์มาส่ง ยังไล่กลับแถมขอบคุณซักคำยังไม่มี"
หมอนี่เรื่องไม่น้อยเลยจริงๆ
"ขอบใจ"
ฉันพูดไปแบบส่งๆ
"ขอแบบเพราะๆ หวานๆ"
"ฉันทำไม่เป็น ไม่ใช่กุลสตรี"
พูดจบฉันก็หยิบคีย์การ์ดเพื่อที่จะเข้าห้อง
คีย์การ์ด! คีย์การ์ด! ใช่คีย์การ์ดอยู่ที่ยัย โลลี่ป๊อปลืมสนิทเลย แล้วทีนี้ฉันจะทำยังไงล่ะเนี่ย ต้องรอจนกว่ายัยนั่นจะมาเหรอ ไม่อาว
"เป็นอะไรของเธอ ทำไมไม่เข้าไปหล่ะ"
"คือ...คีย์การ์ดอยู่ที่โลลี่ป๊อป ฉันเลยเข้าไปไม่ได้"
"แล้วเธอไม่มีสำรองรึไง"
"(เคย)มี แต่ฉันทำหายแล้ว"
"เธอนี่จริงๆ เลย หาเรื่องเดือดร้อนอยู่ตลอด แล้วจะทำยังไงหล่ะทีนี้"
"ไม่รู้!"
ง่ายๆ สั้นๆ ได้ใจความ
"เอางี้แล้วกัน เธอไปอยู่บ้านฉันก่อน"
"......"
"แต่ถ้าเธอไม่ไปก็ไม่เป็นไรนะ แต่ฉันขอเตือนไว้ว่าอยู่คนเดียวมันน่ากลัว มีทั้งโจรทั้ง....."
"หยุ๊ดดด สต๊อป ไม่ต้องพูดต่อแล้ว โอเคไปก็ไป ไม่มีทางเลือแล้วนี่นา"
สุดท้ายฉันก็ต้องยอมไปบ้านเขา จนกว่าโลลี่ป๊อปจะกลับมา โลลี่นะโลลี่ทิ้งกันเลย =_=;
ณ คฤหาสพิสุทธิ์ธารา เป็นคฤหาสที่ได้รับตำแหน่งสวยงามเป็นอันดับสามของโลก
ซึ่งเจ้าของก็คือ ท่านจักรพรรดิ พิสุทธิ์ธารา เจ้าของธุรกิจรายใหญ่ของไทย ที่ฉันรู้จักก็เพราะท่านเป็นเพื่อนสนิทของพ่อฉัน ซึ่งทั้งสองได้ทำธุรกิจร่วมกันอยู่บ่อยๆ
"นี่บ้านนายเหรอ"
"อืม ใช่"
"อย่าบอกนะ ว่านายเป็นลูกชายของคุณอาจักร"
"อืม เธอรู้จักคุณพ่อฉันด้วยเหรอ?"
สิบปีที่แล้ว
โรงเรียนอนุบาลเป็ดน้อย ~
"ยัยเบ๊อเฉิ่ม ยัยเบ๊อเฉิ่ม ยัยเบ๊อเฉิ่ม ฮ่าฮ่า!"
เสียงเพื่อนๆ ทั้งห้องต่างพากันล้อเลียนฉัน ว่าเป็นยัยเบ๊อเฉิ่ม ตอนเด็กๆฉันไม่มีเพื่อนผู้หญิง มีแต่เพื่อนผู้ชาย ฉันก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกันว่าเขาชื่ออะไร แต่จำได้ขึ้นใจว่าเขาช่วยเหลือฉันจากการโดนพวกเพื่อนๆ รังแก
"ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ!!"
"น้องสวีตตี้อย่าร้องไห้ซิ"
เสียงเด็กชายคนนึงกำลังนั่งปลอบหญิงสาวที่กำลังร้องไห้ จากการที่โดนเพื่อนๆรังแก
"เราสัญญาว่าเราจะไม่ให้ใครมารังแกน้องสวีตตี้อีก เราจะดูแลน้องสวีตตี้เองนะ"
"สัญญานะ"
"อื้อ สัญญา ^-^"
ตอนนั้นฉันมีความสุขที่สุดเลย ที่มีคนคอยปกป้อง หลังจากนั้นสองเดือนฉันก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลยเพราะฉันต้องย้ายมาเรียนที่เมืองไทย เพราะคุณพ่อของฉันท่านทำธุรกิจอยู่ที่นี่ ครอบครัวของเราเลยต้องย้ายมาอยู่ที่เมืองไทยกันหมด
"นี่ฉันถามไม่ได้ยินเหรอไง คิดอะไรอยู่?"
"อ๋อ ปะเปล่า เมื่อกี้นายถามฉันว่าอะไรนะ?"
ฉันถามเขาอีกครั้ง
"เธอไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลยเหรอ"
"......."
ถ้าฟังฉันคงไม่ถามซ้ำหรอกนะ
เชลซีเดินนำฉันเข้ามาในคฤหาส นี่กะจะสร้างให้คนอยู่กันทั้งประเทศเลยเหรอไงเนี่ย?
"คุณชายมาแล้วเหรอคะ"
แม่บ้านเดินเข้ามาถามเชลซี
"ครับ"
"เอ่อ....แล้วคุณหนูคนนี้เป็นใครเหรอคะ"
หมายถึงฉันใช่มั้ย? ฉันเป็นนางฟ้าคะ ><
"เพื่อน..."
สั้นๆ ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก
"ให้ป้าจัดห้องให้มั้ยคะ"
จัดห้อง! หมายความว่าไง?
"ไม่ต้องก็ได้ จัดอาหารเย็นไว้แล้วกัน"
"คะ"
แล้วยัยป้าก็เดินไปทำตามคำสั่งของเชลซี
"หิวแล้วยัง"
มากกก ไส้จะขาดอยู่แล้ว
"ไม่เท่าไหร่หรอก"
"เย็นนี้เธอทานข้าวที่นี่แล้วกัน ฉันให้แม่-บ้านจัดอาหารไว้ให้"
ก็ดี !
ฉันเดินมานั่งรอที่โซฟาในห้องรับแขก ตามที่เชลซีสั่ง ส่วนเขาก็เดินขึ้นไปบนห้องเห็นบอกว่าจะไปทำอะไรซักอย่าง
นี่บ้านนักธุรกิจหรือบ้านมาเฟียเนี่ย มีบอดี้-การ์ดตั้งแต่ทางเข้าบ้านยันหน้าห้องน้ำ ดูแต่ละคนอยู่เหมือนกระทิงป่าหลุดออกมา =_=;
"คุณหนูคะ คุณชายให้มาตามไปทานข้าวคะ"
"แล้วอีตานั่นหละ ?"
".....?"
"คือ...หนูหมายถึงเชลซีหนะคะ"
"อ๋อ รออยู่ที่โต๊ะอาหารแล้วคะ"
ฉันลุกขึ้นแล้วเดินตามยัยป้ามาที่โต๊ะอาหาร ซึ่งมีอีตาเชลซีนั่งรออยู่บนโต๊ะพร้อมด้วยเหล่ากระทิงป่าที่ยืนล้อมรอบอยู่
"นั่งซิ ฉันไม่รู้ว่าเธอชอบอะไรบ้าง เลยให้แม่ครัวทำอาหารไว้หลายอย่าง หวังว่าเธอคงจะกินได้นะ ^^"
ได้มากๆ เลยแหละ มีทั้ง พาสต้าอบชีส
เบคอนรมควัน สเต๊กเนื้อแกะ มาซาโร่ ยำไข่ปลาคาเวียร์ ลาซา พาสต้าผัดทูน่า
สปาเก็ตตี้ และอื่นๆ อีกเยอะเยะมากมายเต็มไปหมด ของที่ฉันค่อนข้างชอบทั้งนั้น
ทีนี้แหละแม่จะซัดให้เรียบเลยคอยดู !
"ไม่เกรงใจล่ะนะ"
ฉันจัดการตักโน่นตักนี่มาใส่ในจากแล้วก็ กิน กิน กิน! จนในที่สุดก็.....
OxO <<< หน้าเชลซี
"ผู้หญิงอะไรตัวเล็กนิดเดียวกินเยอะชมัด"
"ผู้หญิงสวยๆ อย่างฉันนี่แหละ ^^"
(_ _*)
"อ้อ เมื่อกี้โลลี่ป๊อปโทรฯ มาหาฉันบอกว่า คืนนี้ไม่ได้กลับคอนโดฯ เห็นบอกว่าจะนอนโรงเรียน"
"ไม่ได้กลับ ):"
"อืม"
"แล้วฉันจะไปนอนที่ไหนหล่ะคืนนี้"
"ใต้สะพานลอย ^^"
"ไม่ตลกย่ะ"
"งั้นนอนบ้านฉัน"
"บ้านนายเนี่ยนะ ไม่อาว ถ้านายเกิดปล้ำฉันขึ้นมาฉันจะทำยังไง ฉันเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะ แล้วอีกอย่างฉันยังเรียนหนังสืออยู่ด้วย"
"ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ถึงฉันจะมั่ว แต่ฉันก็เลือกนะ อย่างเธอไม่ใช่สเป็กฉันหรอก"
ก็ดี !
"เชิญคะ ป้าจัดห้องไว้เรียบร้อยแล้ว"
สุดท้ายฉันก็ต้องยอมเดินตามยัยป้าไปห้องนอน
"ขาดเหลืออะไรก็บอกนะคะ ป้าจะได้จัดให้ ส่วนเสื้อผ้าหยิบในตู้ได้เลยคะ"
"ขอบคุณคะ ^^"
ยัยป้าเดินออกไป
ห้องนอนของใครกัน ทำไมมีแต่เสื้อผ้าผู้หญิง ของใช้ผู้หญิง ของใช้ทุกอย่างถูกประดับด้วยลายคิดตี้หวานแหว๋ว ไม่เว้นแม่แต่โถส้วม =_=* (สาวกคิดตี้)
อาบน้ำเสร็จฉันก็เดินมาหยิบเสื้อผ้าเพื่อที่จะแต่งตัว โห ๏_๏ ทำไมมีแต่เสื้อผ้าผู้หญิงเต็มไปหมดเนี่ย
ฉันตัดสินใจหยิบชุดนอนสีชมพูลายคิดตี้มาใส่ ถึงจะไม่ค่อยปลื้มเจ้าคิดตี้นี่สักเท่าไหร่แต่ก็ต้องใส่ดีกว่าแก้ผ้านอน หวิวๆ =-=
พรึ่บ! (ไฟดับ!)
กรี๊ดด ดด !!>< (เสียงกรี๊ด 9.5 ริกเตอร์)
"สวีต สวีตตี้! เธออยู่ไหน"
เสียงของเชลซีตะโกนเรียกฉันอย่างกับอยู่คน
ละประเทศยังไงอย่างนั้น
ซึ่งเขากำลังยื่นแขนควานหาอะไรเพื่อที่จะยึดเหนี่ยวได้ ฉันก็คว้าแขนของเขาไว้
"สวีตตี้เธอใช่มั้ย"
"ก็ใช่หนะซิ อยู่กันสองคนคิดว่าใครหละ?"
"ผี!"
กรี๊ดดด!! ฉันกรี๊ดเป็นรอบที่พันล้าน
นี่ถ้าแลกเป็นเงินได้คงเป็นอภิมหาเศรษฐีไปแล้วแหละ
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า !!!"
"ตลกเหรอ"
"มากกก ^^"
พรึ่บ!
"อ๊ากก OO "
เชลซีช้อนตัวฉันขึ้นไปแนบอกเขาไว้ มันช่างแข็งแกร่งและอบอุ่นมาก น่ากอดจัง ><
ไม่ๆ เธอคิดอะไรหนะสวีตตี้หมอนี่มีแฟนแล้วนะ แล้วอีกอย่างเธอก็เกลียดหมอนี่ไม่ใช่ เหรอ?
ใช่! (บ้าไปแล้วถามเองตอบเอง -_-;)
"ปล่อยฉันได้แล้ว"
"ฉันปล่อยเธอแน่แต่ต้องออกไปจากห้องนี้ก่อน"
"ทำไม?"
"ถ้าเธอเกิดเดินชนอะไรแล้วเสียหายจะทำยังไง"
"........"
เชลซีพาฉันออกมาข้างนอก แล้วเขาก็ปล่อยฉันให้เป็นอิสระ
"ทำไมข้างนอกไฟไม่ดับอ่าา นี่นายแกล้งฉัน เหรอ?"
"ไม่ได้แกล้ง คือ...ฉันลืมไปว่าห้องนั้นไม่ได้ใช้นานแล้วหลอดไฟมันคงจะเสีย"
"แล้วทำไมนายไม่บอกช้านน หาา"
"ลืม"
จบ คำเดียวเก๊ท ไม่ต้องถามอะไรมาก ):
"เอางี้แล้วกัน เธอไปนอนห้องเดียวกับฉันก็ได้ ฉันอนุญาติ ^^"
"ไม่ นายก็ได้เปรียบซิ"
"ได้เปรียบตรงไหน?"
"ก็ถ้านายปล้ำฉัน นายก็ได้เปรียบ"
"ใครบอก ฉันนี่แหละเสียเปรียบ ฉันเป็นผู้ชายนะ หล่อมากด้วย ^^ แล้วต้องมาเสียอะไรต่อมิอะไรให้ผู้หญิงอย่างเธอ"
โอ๊ยย สาบานได้ว่าฉันไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนเป็นแบบหมอนี่เลย หนักใจแทนผู้ปก-ครอง =_=:
"กล้าคิดเนอะ?"
"ก็ทีเธอยังกล้าคิดว่าเธอสวยเลย ทำไมฉันจะไม่กล้าคิดว่าฉันหล่อ จริงมั้ย?"
"เออ ไม่เถียง"
และสุดท้ายท้ายสุด ฉันก็ต้องเดินตามเชลซีมาที่ห้องนอนของเขา (อย่าคิดลึกเซ่!!)
โห ๏๏
นี่สนามฟุตบอลหรือห้องนอนกันเนี่ย ทำไมมันถึงได้ใหญ่โตขนาดนี้
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้ชื่อเชลซี เพราะห้องนอนของเขาถูกตกแต่งด้วยลายเชลซีเกือบทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่บ็อกเซอร์ที่เขาใส่อยู่ ถ้าจะขนาดนี้ก็ไม่ไหวนะ =•=
"เธอนอนข้างล่างแล้วกันนะ"
"นายแมนมากเชลซี"
"แน่นอนอยู่แล้ว ^^"
ยังไม่สำนึกอีก = =;
"ประชดเว้ยย"
"อ้าวเหรอ"
"เออ ):"
"ถ้าเธออยากนอนบนเตียงก็ได้ ที่ว่างเพียบ"
เชลซีเอามือตบเตียงนุ่มๆ แล้วทำหน้ากวนส้นตีนใส่ฉัน น่าหมั่นไส้จริงๆ เลย
"นายนั่นแหละมานอนข้างล่าง"
"นี่มันห้องนอนฉัน"
"แต่ฉันเป็นผู้หญิงนะ"
"ฉันก็เป็นผู้ชาย"
=_=;
"ไม่รู้แหละนายต้องมานอนข้างล่าง เดี๋ยวนี้"
"ฉันไม่เถียงกับเธอแล้ว เธอจะนอนตรงไหนก็ตามใจ ฉันจะนอนตรงนี้ good nigh"
พูดจบเชลซีก็ทิ้งตัวลงนอน ปล่อยให้ฉันนั่งเป็นยัยบ้าอยู่คนเดียว
"เชลซี เซลชี อีตาเกย์"
ไม่ตื่น! หลับง่ายปลุกยากจริงๆเลย
ถ้านอนบนเตียงกับหมอนี่ ฉันต้องหาวิธีป้องกันตัว
นี่ใครกันหน่ะถ่ายรูปคู่กับเชลซี ฉันหยิบรูปที่มีสาวน้อยหน้าตาน่ารักที่ถ่ายรูปคู่กับ เชลซีมาดู ใครกัน? หรือว่าจะเป็นกิ๊กของหมอนั่น จะเป็นอะไรก็ช่างเหอะไม่ได้เกี่ยวกับฉันซะหน่อย
ฉันจัดการหยิบเสื้อแจ็กเก็ตมาใส่ ตามด้วยกางเกงยีนส์ ถุงเท้า ถุงมือ และสุดท้ายหมวกกันน็อก
อยู่เหมือน Iron man ภาคพิเศษเลยแฮ่ะ อึดอัดยิ่งกว่าใส่โอนามิเข้าไปเป็นสิบชั้นซะอีก แต่เพื่อเวอร์จิ้นฉันต้องอดทน ฉันทิ้งตัวลงนอนข้างๆ เชลซี ZZzzZZzzZZ
"อ๊ากก OoO! ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะยัยเพี้ยน"
เสียงหมาที่ไหนหอนแต่เช้าวะ ฉันไม่สนใจจัดการเอาผ้าห่มคลุมหัวแล้วนอนต่อ
"ยัยจอแบน ตื่นได้แล้วเว้ยย"
เสียงคุ้นๆ เชลซี! ฉันลืมตาขึ้นมาดูพบเชลซียืนทำหน้าตกใจอะไรซักอย่าง
"อะไรของนายเนี่ย"
"ไม่ต้องถาม ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลย"
"ไม่ ฉันจะนอนต่อ กรุณาอย่ารบกวน อ้อ! แล้วก็ เก๊ทเอาท์"
"เก๊ทเอาท์อะไร นี่มันห้องนอนฉัน"
"อ้าวเหรอ"
"เออซิวะ แล้วนี่แต่งตัวบ้าอะไรของเธอเนี่ย"
ฉันก้มลงไปดูสารรูปตัวเอง
"ก็ชุดป้องกันตัวของฉันหน่ะซิ ^^"
พูดอย่างภาคภูมิใจ
"ป้องกันบ้าอะไรฮ่ะ ลุกขึ้นไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยนะยัยเพี้ยน"
"ไม่ ฉันจะนอนต่อ"
"ถ้าเธอไม่ลุกขึ้นฉันจะ......"
"จะทำไม!"
"ก็จะทดลองชุดของเธอไง ดีมั้ย ^^*"
พูดจบเขาก็ขยับเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ
"ไม่ดีมั้ง ไม่นอนต่อแล้วก็ได้"
"ดีมาก รีบอาบน้ำแต่งตัวด้วย ส่วนนี่เสื้อผ้า"
เชลซีส่งชุดเดรสสีชมพู ลายคิดตี้ (อีกแล้ว) สั้นเหนือหัวเข่าสักสี่เซนฯ มาให้ฉัน
"ของนายเหรอ?"
"จะบ้าเหรอ"
"แล้วของใคร ฉันไม่ใส่หรอก"
"ตามใจ เธอจะแก้ผ้าก็ได้ฉันไม่ว่า"
เชลซีโยนชุดบ้านั่นให้ฉัน ส่วนเขาก็เดินออกไปจากห้องนอนแล้วผิวปากอย่างสบายใจ
อึ๋ย! ซักวันเหอะฉันจะต้องเอาคืนนายให้ได้
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จฉันก็เดินลงมายังชั้นล่าง
ลาลั๊นลา หลั่นล๊า !!!
อ๊าก กึก โครม เพล้ง พลั่วะ !!(เสียงอย่างนี้อย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดเลย -_-; )
"โอ๊ย!!"
ระหว่างที่เดินลงบันไดฉันก็สะดุดขาตัวเองล้ม ทำให้ไปกระแทกเอาแจกันที่วางอยู่ข้างๆ แตก -_-;
ฉันร้องดังลั่นจนเหล่าบอร์ดี้การ์ดที่ยืนอยู่หันมาดู
( 00) ( 00) ( 00)
"คุณหนูเป็นอะไรมากมั้ยครับ!"
การ์ดคนนึงถามด้วยความตกใจ ก็เจ็บหน่ะซิถามได้
"สวีตตี้เธอเป็นอะไร"
เชลซีวิ่งมาด้วยใบหน้าที่ตื่นตกใจ แล้วประคองฉันให้ยืนขึ้นจากนั้นเขาก็พาไปนั่งบนโซฟาที่ห้องรับแขก
"เดี๋ยวป้าไปเอายามาให้นะคะ"
ยัยป้าเดินไปเอายาเพื่อมาทำแผลฉัน
"ซุ่มซ่ามจริงๆเลย ทีหลังเดินก็ระวังหน่อยแล้วกัน ของฉันเสียหายหมด"
นี่ตกลงเขาไม่ได้ห่วงฉันเลยเหรอเนี่ย ดันไปห่วงแจกันใบนั้น ):
พูดพลางเขาก็ทำแผลให้ฉัน
"เพราะนายนั่นแหละทำให้ฉันต้องสะดุดล้ม"
"ฉันเนี่ยนะ"
"อืม ถ้านายไม่ให้ฉันใส่กระโปรงบ้านี่ฉันก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก"
"ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าเธอซุ่มซ่าม"
ไม่พ้นที่จะว่าฉัน
"ฉันไม่ได้ซุ่มซ่ามยะ"
"ซุ่มซ่าม"
"ไม่"
"ซุ่มซ่าม"
"ข้าวต้มกับยามาแล้วคะ"
ยัยป้าแม่บ้านเดินถือข้าวต้มกับยามาให้ทำให้ศึกครั้งนี้ต้องสงบลงชั่วคราว ย้ำ ชั่วคราวเท่านั้น เพราะฉันเชื่อว่าอนาคตข้างหน้าฉันต้องหาเรื่องเทลาะกับเขาอีก
"อืม ขอบใจ"
"คุณหนูคะป้าซักเสื้อผ้าเมื่อวานให้แล้ว นี่คะ"
ยัยป้าส่งชุดที่ฉันใส่เมื่อวานมาให้
"ขอบคุณคะ"
"ป้าขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ"
^^
"เดี๋ยวฉันมา"
"เธอจะไปไหน"
"เปลี่ยนชุด"
"หายเจ็บแล้วเหรอ?"
"ยัง...."
"ไม่ต้องเปลี่ยน!"
"ทำไมฉันจะเปลี่ยนไม่ได้"
หมอนี่ชอบออกคำสั่งจริงๆเลย
"ก็ชุดที่เธอใส่มันก็น่ารักอยู่แล้ว จะเปลี่ยนทำไม?"
"ชุดน่ารักไม่ใช่ฉัน"
"ฉันหมายถึงเธอใส่ชุดนี้แล้วน่ารัก ยัยบื้อ!"
นี่เขาชมฉันว่า...น่ารักเหรอเนี่ย >O<
นี่ถ้าเป็นคนอื่นฉันคงกระโดดหอมแก้มไปแล้วแต่กับหมอนี่....ไม่มีทาง
"ไม่เปลี่ยนก็ได้..."
"ดี งั้นกินข้าวแล้วก็กินยา ฉันจะได้พาเธอไปส่งซะที วุ่นวายเหลือเกินแล้ว"
นี่ฉันเป็นตัวปัญหาใช่มั้ย? แต่ฉันก็เห็นด้วยกับเขานะ รู้สึกมานานแล้วว่าตัวเองวุ่นวายกับเขาเหลือเกิน ทั้งที่เราก็เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานซักเท่าไหร่
ฉันหยิบข้าวต้มมาแล้วตักใส่ปาก
"โอ๊ย! ร้อนๆ"
ฉันตักใส่ปากโดยไม่ได้เป่า ปากพองเลย
"เธอนี่ยิ่งกว่าเด็กอนุบาลซะอีก มานี่เดี๋ยวฉันป้อนให้"
เชลซีชิงช้อนข้าวต้มไปจากมือฉัน
"ไม่ต้องฉันกินเองได้ไม่ได้แขนหักซะหน่อย"
เชลซีไม่ฟังที่ฉันพูด เขาตักข้าวต้มแล้วเป่าจากนั้นก็ยัดใส่ปากฉัน
ไม่นานข้าวต้มก็เข้าไปอยู่ในท้องฉันจนหมด อร่อยจังมีหวังถ้าฉันได้อยู่ที่นี่อีก ฉันคงตัวอ้วนกลมเป็นหมูสามชั้นแน่
"อ่ะ กินยาซะ"
ยาเหรอ ฉันเกลียดการกินยาที่สุดในโลกเลย ตอนเด็กๆ แม่บังคับให้ฉันกินยาเพราะฉันเป็นคนบอบบางก็เลยไม่สบาย เป็นนุ่นเป็นนี่อยู่เรื่อย
"ไม่กิน"
"กินไปเหอะน่าไม่ตายหรอก"
ดูท่าทางเชลซีชักจะรำคาญฉันแล้วแหละ ฉันก็รำคาญตัวเองเหมือนกัน
ถ้าฉันแก้นิสัยซุ่มซ่ามของตัวเองได้อะไรก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนสวยอย่างฉัน ^๏^
"ถ้าฉันตายหล่ะ"
"เดี๋ยวฉันทำศพให้เอง ^^"
"งั้นฉันไม่กินแล้ว"
"ถ้าเธอกินยา เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปกินช็อคโกแล็ตก่อนกลับบ้าน"
เหมือนรู้เลยแฮ่ะ ว่าฉันชอบกินช็อคโกแลตเลยเอามาเป็นข้ออ้าง และนั่นก็เป็นผลสำเร็จ ฉันตัดสินใจและไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนก่อนจะเอายาเข้าปากแล้วกลืนตามด้วยน้ำหมดแก้ว
อ่าส์ !!!!
รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กอนุบาลจริงๆด้วย ที่ต้องมีคนคอยบังคับให้กินข้าว กินยา ทำนุ่นทำนี่ตามคำสั้ง =_=;
"ลุกไหวมั้ย"
เชลซีถามฉันขณะที่ตัวเขาประคองฉันให้พยายามยืนขึ้น
"ฉันเจ็บข้อเท้า"
พรึ่บ!
เขาช้อนตัวฉันขึ้นไปแนบอกเขาไว้อีกครั้ง มันยังแข็งแกร่ง อบอุ่นและน่ากอดเหมือนเดิม
^^
"กินช้างไปรึไงฮ่ะ ตัวเล็กนิดเดียวแต่หนักเป็นบ้า -_-;"
".....????"
เชลซีอุ้มฉันมาจนถึงรถของเขาแล้ววางฉันให้นั่งลงข้างคนขับ จากนั้นเขาก็ขับรถพาฉันมาที่ร้านช็อคโกแลต
หลังจากกินช็อคโกแลตกันเสร็จ เชลซีก็พาฉันมาส่งที่คอนโดฯ เขาประคองฉันพามาจนถึงหน้าห้อง
"ดีขึ้นแล้วยัง"
"อืม ก็พอเดินได้แล้วแหละ"
"ขอบใจนายมากนะ"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่ห้องแล้วกัน"
ห้อง 4095
ก๊อกๆ ก๊อกๆ !!!
"ใครคะ"
หญิงสาวที่อยู่ในห้องตะโกนถามออกมา
"นางฟ้ายะ"
แอดด !!
โลลี่ป๊อปเดินออกมาเปิดประตู
"ยัยวี๊ด เชลซี"
"ก็ใช่หนะซิ"
"เชลซีเข้ามานั่งก่อน"
โลลี่ป๊อปชวนเชลซีเข้ามานั่ง
"แล้วฉันหละ?"
"ต้องเชิญด้วยเหรอ แกอะ"
):
"ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นเลย เข้ามา"
เชลซีประคองฉันให้มานั่งบนเซฟา
"แกเป็นอะไรหนะยัยวี๊ด"
ไม่รอถามพรุ่งนี้เลยหละ
"ถ้าฉันทายไม่ผิดแกคงจะซุ่มซ่ามอีกซินะ"
"......"
รู้นิสัยฉันดีจังนะ
"แล้วนี่ยัยวี๊ดได้ไปทำอะไรในบ้านนายเสียหายบ้างมั้ย?"
โลลี่ป๊อปหันไปถามเชลซี
"ไม่มีอะไรมากหรอก แค่แจกันใบละห้าล้านแตกอย่างเดียว"
เชลซีพูดแบบชิลๆ แต่ฉันหนะซิไม่ชิลแจกันอะไรใบละตั้งห้าล้าน บ้าไปแล้ว =_=;
"เดี๋ยวฉันซื้อคืนให้"
ฉันบอกับเชลซี
"ไม่ต้องหรอก"
"อ้าวทำไมอะ?"
โลลี่ป๊อปเอียงคอไปถามเชลซี
"มีใบเดียวในโลก สั่งทำพิเศษจากเยอรมัน"
ก็ดี!
ทึง ทึง โป๊ะ ทึง ทึง!(เสียงโทรศัพท์เชลซี)
"ฮัลโหลครับ"
เสียงหวานเชียว ต้องเป็นผู้หญิงโทรมาแน่ๆ
(เชลอยู่ไหนคะ)
"ผมอยู่คอนโดฯเพื่อน กำลังจะกลับแล้ว เค้กมีอะไรเหรอ?"
นั่นไงไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาแต่เป็นแฟนซะด้วย
(เค้กจะชวนเชลไปงานวันเกิดเพื่อนหนะคะ)
"ได้ซิ งั้นเย็นนี้เจอกันนะครับ"
เชลซีวางสายไปหน้าตาเบิกบานมากๆ
ฉันขอตัวก่อนแล้วกัน ดูแลเพื่อนเธอดีๆ"
นี่เชลซีเป็นห่วงฉันด้วยเหรอ ><
"ฉันกลัวจะไปทำของเสียหายอีก"
=_=;
"อืม ฉันจะพยายามดูแลให้ดีกว่านี้แล้วกัน"
ทำเหมือนฉันเป็นเด็กที่ยังไม่โตอย่างนั้นแหละ
"แกกินอะไรมาแล้วยัง"
"เรียบร้อยแล้ว"
"งั้นไปนอนพักเหอะ สภาพแบบนี้เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปโรงเรียนไม่ไหว"
โลลี่ป๊อปลุกขึ้นมาพยุงฉัน
พอมาถึงห้องนอนฉันก็ชาร์ตแบตโทรศัพท์แล้วก็นอนอ่านนิตยสารซุบซิบคนดัง แก้เซ็ง นี่ก็เพิ่งจะบ่ายสองกว่าๆเอง
'เปิดตัวหนุ่มหล่อสุดไฮโซ ลูกชายเจ้าของธุรกิจหมื่นล้าน' OoO
นี่มันเชลซีนี่ ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่มั้ย?
ตอนนี้ในนิตยสารซุบซิบคนดัง มีรูปภาพ เชลซีโด่อยู่
ครืด! ครืด! ครืด! เสียงโทรศัพท์สั่นสะท้านโลกของฉัน
ฉันรับโทรศัพท์ขณะที่กำลังชาร์ตอยู่ข้างเตียง เบอร์ฯใครกัน ไม่คุ้นเลย
"ฮัลโหลคะ"
(สวีตตี้ นี่ฉัน เซนอน ฉันต้องการพบเธอด่วนมาหาฉันได้มั้ย?)
"เซนอน นายรู้เบอร์ฯ ฉันได้ไง?"
(ไม่ต้องถาม เอาเป็นว่าเธอมาหาฉันที่ร้าน
P. coffee แล้วกัน มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย)
"เรื่องอะไร?"
(บอกว่าไม้ต้องถามยังไงเล่า มาคนเดียวด้วย?)
"นายจะหลอกฉันไปข่มขืนรึเปล่า?"
(นี่ถ้าฉันจะปล้ำเธอ ฉันคงนัดเธอไปที่โรงแรมซิ จะนัดไปร้านกาแฟทำไม? รีบมาด้วย ไม่ต้องถามมาก)
ก็จริงของเค้า
"เออๆ ขอโทษคะ"
ฉันวางสายจากเซนอน
"ยัยวี๊ดแกจะไปไหน?"
โลลี่ป๊อปที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่หันมาถามฉันที่กำลังจะออกไปข้างนอก
ถ้าบอกว่าไปหาเซนอนยัยนี่ต้องขอตามไปด้วยแหงๆ ทำไงดี.......
"เอ่อ...คือฉันไปหาหมอ ตรวจภายใน หมอเค้านัดทุกสิบสองชั่วโมงหนะ แหะๆ"
เพิ่งคิดได้สดๆร้อนๆ (เลวเหมือนกันนะเรา เนี่ย ^^)
"หมอบ้าอะไรนัดทุกสิบสิงชั่วโมง"
ฉันก็ไม่เคยรู้จักเหมือนกันแหละ หมอบ้าอะไรนัดทุกสิบสองชั่วโมง
"เหอะน่า ฉันไปหาหมอนะ แล้วก็สัญญาว่าจะไม่ก่อเรื่องให้แกต้องเดือดร้อนอีก"
"งั้น...ให้ฉันไปเป็นเพื่อนมั้ย?"
น้ำใจงามจริงๆ แม่คู๊ณณ! =_=;
"ไม่เป็นไรรบกวนแกเปล่าๆ"
"รบกวนอะไร ไปหาหมอ"
ยังอีก
"ไม่ต้องไป คือฉันต้องแวะหลายที่ แกอยู่ที่นี่แหละ"
"เออๆ ก็ได้"
ฉันเดินออกมารอหน้าคอนโดฯ เพื่อที่จะมารอแท็กซี่ คอนโดฯที่ฉันอยู่ อยู่ใจกลางเมืองเลยหาแท็กซี่ได้ไม่ยากนัก
"ไปไหนครับ"
แท็กซี่ถาม
"ร้าน P. coffee คะ"
ไม่นานแท็กซี่ก็มาจอดหน้าร้าน....
~ P. coffee ~
ฉันเดินเข้ามาในร้านพบเซนอนนั่งรออยู่ที่โต๊ะมุมในสุด
"รอนานมั้ย?"
"ไม่เท่าไหร่หรอก"
"นายมีธุระอะไรกับฉัน"
"ฉันมีข้อเสนอ!!!!"
"???? ข้อเสนออะไร"
"ฉันอยากให้เธอช่วยทำไห้เชลซีกับคัพเค้กเลิกกัน?"
OoO !!!
"เลิกกัน???"
"อืม ใช่"
"ทำไมหละ ฉันว่าเค้าก็รักกันดีออก หรือว่านายอิจฉาเชลซีที่มีแฟนอย่างคัพเค้ก"
"นี่เธอ ฟังฉันก่อนซิ"
"......"
ฉันเงียบแล้วฟังเซนอน
"ที่ฉันอยากให้เลิกกัน ก็เพราะฉันสงสารไอ้ เชล ฉันรู้มาว่าคัพเค้กแอบคบกับไอ้ลิเวอร์"
OoO!! และนั่นมันยิ่งทำให้ฉันอึ้งมากๆ ฉันไม่อยากเชื่อว่าคนอย่างคัพเค้กจะทำอย่างนั้น
"ฉันไม่เชื่อ!!!"
"งั้นเธอดูนี่"
เซนอนหยิบรูปภาพประมาณสี่ห้ารูปที่วางอยู่ข้างๆเขาให้ฉันดูและภาพที่ปรากฎอยู่ตรงหน้า มันยิ่งทำให้ฉันตะลึง อึ้ง ทึ่ง ขึ้นเป็นร้อยเท่าพันเท่า ฉันแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลย
มันคือรูปหญิงสาวกับชายหนุ่มกำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม บริเวณขอบสนามฟุตบอลของโรงเรียน ซึ่งเป็นที่ลับตาคนพอสมควร ซึ่งฉันก็พอรู้มาบ้างว่าพี่ลิเวอร์ชอบสุมหัวอยู่ที่นี่พร้อมกับลูกน้องอีกหลายคน
"พะพี่ลิเวอร์กับคัพเค้ก....."
"ใช่ คัพเค้กคบกับไอ้ลิเวอร์ก่อนที่จะมาคบกับไอ้เชล แล้วตอนนี้สองคนนั่นก็ยังไม่เลิกกัน"
"เค้าทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร?"
"ต้องการแก้แค้น"
"เรื่อง....."
"ทุกเรื่อง ไอ้เชลกับไอ้ลิเวอร์ไม่ถูกกัน ไอ้ลิเวอร์มันแพ้ไอ้เชลในหลายๆเรื่อง มันต้องการที่จะแก้แค้น เลยใช้คัพเค้กเป็นเครื่องมือทำให้ไอ้เชลหลงรักแล้วก็ทิ้ง เพราะมันรู้จุดอ่อนของไอ้เชล"
ถึงว่าทำไมตอนเจอยัยคัพเค้กเป็นครั้งแรกถึงได้คุ้นหน้าจัง
"จุดอ่อนของเชลซี...???"
"ใช่ จุดอ่อนของไอ้เชลคือ'ผู้หญิง'ถ้ามันรักใครแล้วมันจะรักจริงไม่มีวันเปลี่ยนแปลงแต่..."
เซนอนเว้นคำพูด
"ถ้ามันรักใครแล้วมันจะรักไม่มีวันเปลี่ยนแปลง นอกซะจาก..."
เขาเว้นคำพูด รีบพูดมาเซ่ อยากรู้นะเฟ้ย
"ทำให้มันเกลียด มันจะไม่มีวันญาติดีด้วย"
หมอนี่น่ากลัวเหมือนกันแฮ่ะ
"แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วยหล่ะ"
"ฉันคิดว่าเธอน่าจะช่วยมันได้"
มั้นใจในตัวฉันขนาดนั้นเลยเหรอ!!
"ถ้าฉันช่วยฉันจะได้อะไรบ้าง"
"เธอเอาเชลซีไปเลยฉันยกให้ ^^"
เซนอนพูดอย่างกวนๆ ทำอย่างกับเป็นเจ้าของเชลซีซะอย่างนั้น
"จะบ้าเหรอ งั้นฉันไม่ช่วยแล้ว ):"
"ล้อเล่นน่าาาา!!!!!"
):
"เธอก็จะได้แก้แค้นไอ้ลิเวอร์ด้วยไงเล่า"
"......????"
"ก็เธอเคยชอบไอ้ลิเวอร์ไม่ใช่เหรอ ถ้าเธอทำให้เชลซีเลิกกับยัยคัพเค้ก แผนไอ้ลิเวอร์ก็จะพัง"
นายเลวมาเลยเซนอนคิดได้ไงเนี่ย แบบนี้ซินะที่เค้าเรียกว่าแผนซ้อนแผน สมกับที่เป็นเซนอนจริง ฉลาด เลว =_=;
"เอ่อ....ฉันขอคิดดูก่อนแล้วกัน"
"เธอไม่ต้องใช้สมองอันน้อยนิดของเธอคิดแล้วหรอก...เสียเวลา"
นี่เขาด่าฉันใช่มั้ย?
"งั้น...ฉันรับข้อเสนอของนายก็ได้"
"^^ ดีมาก"
ดูท่าทางเซนอนจะดีใจมากๆ
"แล้วฉันจะต้องทำยังไงบ้าง?"
"^^++"
ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไง.....
ดีจัง วันนี้เป็นวันหยุด ได้พักผ่อนเต็มที่
"ยัยวี๊ด แกตื่นยัง"
ยัยนี่มาปลุกฉันได้ทุกวี่ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการจริงๆ เลยอย่างนี่ต้องฟ้องกระทรวงอะไรซักอย่างแล้ว ฉันเดินไปเปิดประตูห้องนอน
ลืมบอกไปว่าฉันพักอยู่ที่คอนโดฯ ใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง คุณพ่อของฉันท่านซื้อให้เพื่อที่ฉันจะได้มาอยู่ที่นี่ เพราะมันอยู่ใกล้กับโรงเรียนมากกว่าบ้านฉัน
ซึ่งจะแบ่งเป็นสองห้องนอน สองห้องน้ำ และยังมีห้องรับแขกและห้องครัวอย่างละหนึ่ง ฉันอยู่กับโลลี่ป๊อปสองคน เรานอนคนละห้องกัน มันกว้างพอที่จะทำให้ฉันขี้เกียจทำความสะอาด จึงจ้างแม่บ้านมาทำแทน
"มีอะไรถึงได้มาปลุกฉันแต่เช้าเนี่ย"
"เช้าบ้านแกหล่ะซินี่มันเก้าโมงแล้ว"
"แล้วมันเช้ามั้ยหล่ะ?"
"ไม่เถียง"
โลลี่ป๊อปพูดอย่างเสียอารมย์ คิดผิดแล้วแหละที่มาเถียงกับฉัน
"ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว ฉันให้เวลาแกครึ่งชั่วโมง"
"ชั่วโมงครึ่ง"
"นี่แกจะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้เปิดร้านเกมส์นะที่แกจะมาต่อเวลา"
"ชั่วโมงนึงแล้วกัน"
"ก็ได้ๆ รีบๆหล่ะอย่าไปแอบหลับอยู่อีก"
"ย่ะ"
ฉันปิดประตูแล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูเพื่อที่จะไปอาบน้ำ ตามคำสั่งของยัยเพื่อนจอมขี้บ่น จู้จี้ จุกจิก
ได้อาบน้ำแล้วสดชื่นจัง ฉันเดินไปแต่งตัว วันนี้เป็นวันหยุดฉันเลยไม่แต่งตัวหวือหวามากนักเพราะอยู่แต่บ้านไม่ได้ไปไหน ใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นก็พอแล้ว
พอแต่งตัวเสร็จฉันก็เดินเข้าไปในครัว
"มาแล้ว มีอะไรให้ฉันช่วยมั้ย?"
"เหลือแต่ทอดไข่ดาวอย่างเดียว"
"เดี๋ยวฉันทำให้"
โลลี่ป๊อปมองฉันอย่างไม่เชื่อฝีมือ
"เหอะน่า! ฉันไม่ทำให้ระเบิดเหมือนรอบที่แล้วหรอก"
รอบที่แล้วฉันหิวเลยแอบลุกขึ้นตอนกลางคืนมาทอดไข่กิน ซึ่งมันเป็นเมนูที่ฉันเชี่ยวชาญที่สุด แต่ดันทำเตาระเบิดโชคดีที่ไม่ได้เป็นอะไร
"แน่นะ"
"อืม พยายามอย่างสุดฝีมือเลย"
เมื่อฉันพูดจบโลลี่ป๊อปก็ยกเบคอนกับแฮมไปไว้ที่โต๊ะอาหาร ปกติโลลี่ป๊อปจะเป็นคนทำอาหาร ส่วนฉันนะเหรอ รอกินอย่างเดียว
ฉันหยิบกระทะมาวางไปบนเตา
ไม่นานฉันก็ทอดไข่ดาวฝีมือตัวเองเสร็จ
"มาแล้วไข่ดาวฝีมือของฉัน"
ฉันวางจานลงบนโต๊ะ
"อะไรของแกเนี่ย แกแน่ใจน่ะว่าแกทอดมาแล้ว"
"ก็แกชอบไข่ดาวไม่สุกไม่ใช่เหรอ"
"ก็ใช่ แต่ไม่ใช่เละอย่างนี้... เอามานี่เดี๋ยวฉันจัดการเอง"
"แกจะกินเหรอ?"
"จะบ้าเหรอ เอาไปทอดใหม่"
พูดจบโลลี่ป๊อปก็หยิบจานไข่ดาวที่ฉันทอด แล้วเดินเข้าไปในครัว
กรี๊ดดดด!!
โลลี่ป๊อป! ฉันรีบวิ่งเข้าไปในครัวพบควันลอยโขมงอยู่เต็มห้องครัว แค่ก แค่ก!
ฉันรีบวิ่งไปปิดเตาเพราะนึกขึ้นได้ว่าฉันทอดไข่ไว้อีกฟองนึง ลืมได้ไงเนี่ย
"ยัยสวีตตี้"
"จ๋าาาา !!"
ฉันลากเสียงให้ยาว
"แกทำอะไรไว้"
"เค้าทอดไข่ไว้อีกฟองนึง แล้วเค้าลืมอ่ะตัวเอง" ฉันทำเสียงและหน้าตาที่คิดว่าตัวเองดูน่าสงสารที่สุด *W*
"ไม่ต้องมาเปลี่ยนสรรพนามเลยนะแก"
"ขอโทษษ!"
"......"
"ฉันขอไถ่โทษ โดยการทอดไข่อีกฟองให้แกล่ะกัน"
"ไม่ต้องเลย ไม่ต้อง เก็บกวาดให้เรียบร้อย"
พูดจบโลลี่ป๊อปก็เดินออกไปจากห้องครัวทิ้งให้ฉันต้องทำความสะอาดคนเดียว แล้วจะเริ่มทำตรงไหนดีละเนี่ย เละซะขนาดนี้
กวาดๆ! เก็บๆ! เช็ดๆ! ล้างๆ! ถูๆ!
เฮ้อออ!! เสร็จซะที เวลาไม่ถึงสิบนาทีฉันทำความสะอาดห้องครัวจนเนี๊ยบ! (_ _'')
ฉันเดินออกมาจากห้องครัวแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาแสนนุ่ม
"ไงหล่ะยัยคุณหนู ไม่เคยทำอะไร ทีนี้รู้สึกแล้วยังว่างานบ้านมันเหนื่อยแค่ไหน"
โลลี่ป๊อปเดินมาถาม น้ำเสียงชีฟังดูสะใจมาก
"ย่ะ"
ฉันตอบไปแบบห้วนๆ
โลลี่ป๊อปเดินมา ถือจานอะไรซักอย่างมาด้วย
"อ่ะ"
โลลี่ป๊อปยื่นจานที่มีแฮมกับไส้กรอกมาให้ฉัน ฉันรับมาแล้วกินจนเรียบ
ตี๊ด! (เสียงเปิด TV)
'สวัสดครับพบกับพวกเราสามคน โป๊ะ ทึง ทัง กับรายการชิงเงินชิงทองห้าห้าห้า....'
ตี๊ด! (เสียงปิด TV)
"เป็นอะไรของแกเดี๋ยวเปิดเดี๋ยวปิด"
"เซ็ง!"
"ไปเที่ยวกันมั้ย?"
"อืม ก็ดีเหมือนกัน"
"เดี๋ยวฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วกัน"
ยัยโลลี่ป๊อปเดินหายเข้าไปในห้องของตัวเอง ไม่นานก็ออกมาพร้อมกับ ชุดเซ็กสีชมพูอ่อน แขนตุ๊กตา ช่างต่างกับฉันที่ใส่แค่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น รองเท้าผ้าใบ แล้วก็กระเป๋าเป้สีฟ้าลายโดเรม่อนกินราเมง แค่นี้ก็เที่ยวได้ทั่วทั้งจักรวาลแล้ว
"นี่แกจะไปเดินแฟชั่นโชว์ที่ไหนเนี่ย"
"ป่าวซะหน่อย"
ยอมรับว่าชีแต่งตัวเวอร์มากแต่ก็เข้ากับยัยนั่นแล้วแหละ หวานๆ น่ารักๆ เรียบร้อย ดูเป็นกุลสตรีดีออก
สยามพาราเซตามอน ~
ตอนนี้ฉันกับโลลี่ป๊อปได้มายืนอยู่ที่หน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง
ฉันเดินมาที่หน้าโรงหนัง
"แกจะดูเรื่องอะไร"
โลลี่ป๊อปหันมาถามฉัน
"ผีก๊อกก๋อย!"
"ไม่อาวว! ฉันไม่ดูหนังผี"
โลลี่ป๊อปส่ายหน้า
"จะดูเรื่องนี้...."
โลลี่ป๊อปชี้ไปที่การ์ตูนตัวสีเหลืองๆ
"นี่แกจะบ้าเหรอ? มาที่นี่เพื่อมาดูไอ้ตัวหัวมันเหลืองๆ เนี่ยนะ"
เฮ้ยย! o_O?
ยัยโลลี่ป๊อปหายไปไหนแล้ว ไวยิ่งกว่าเด็กอนุบาลซะอีก
"จ๊ะเอ๋ !! "
"ยัยโลลี่ นี่แกเล่นอะไรของแกนี่"
"ฉันไปซื้อตั๋วหนังมา"
โลลี่ป๊อปยื่นตั๋วหนังเรื่องไอ้หัวมันให้ฉันดู
"ฉันไม่ดู"
"แต่ฉันไม่ซื้อมาแล้วนะ *w*"
ฉันยืนพิจารณาอยู่พักนึง แล้วหยิบมันมา
"เออๆ ดูก็ดู -_-''"
"^O^"
"หนังเริ่มเที่ยงไปไหนก่อนดี?"
โลลี่ป๊อปหันมาถามฉันอย่างเซ็ง ๆ
"ไปกินไอติมกัน"
"อืม ก็ดีเหมือนกัน"
Ice Savannah (ไอซ์ ซวันน่า)
"นั่งตรงโน้น"
โลลี่ป๊อปชี้ไปโต๊ะ C ซึ่งอยู่ติดกับกระจก
"รับอะไรดีคะ"
"ช็อกโกแลตกับวานิลาคะ"
"รอสักครู่นะคะ ^^"
แล้วยัยพนักงานก็เดินไป
"โลลี่ป๊อป มากับใคร?"
เสียงผู้ชายคนนึงดังมาจากด้านหลังของฉัน
ฉันหันไปดูพบว่าเป็น เชลซี เขาใส่เสื้อเชิร์ต พับแขนถึงข้อศอกกับกางเกงยีนส์แล้วก็รองเท้าผ้าใบ ผมสีช็อกโกแลตถูกเซตมาเป็นอย่างดี ต่างกับตอนที่เขาใส่ยูนิฟอร์มโดยสิ้นเชิง
"อ๋อ มากับสวีตตี้หน่ะ แล้วนายอะมากับใคร^^"
ถามได้ว่ามากับใคร ฉันนั่งหัวโด่อยู่ไม่เห็นหรือไง =_='
"ฉันมากับคัพเค้ก โน่นไงเดินมาพอดีเลย"
เขาชี้ไปที่ผู้หญิงคนนึงซึ่งกำลังเดินมาทางนี้ เธอชื่อ'คัพเค้ก'ตากลมโต ผมสีน้ำตาลดัดเป็นลอน หน้าขาวสวยได้รูปเข้ากับจมูกและปากเรียวเล็ก ของเธอ แต่งหน้าค่อนข้างจัด
ดูเซ็กซี่มาก ดูไปดูมาก็หน้าคุ้นๆ เหมือนกันแฮ่ะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนซักแห่งบนโลกใบนี้ =w=
"คัพเค้ก นี่โลลี่ป๊อปกับสวีตตี้เป็นเพื่อนห้องเดียวกับผม"
"ยินดีที่ได้รู้จักคะ (^^)"
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันคะ ฉันชื่อโลลี่ป๊อป แล้วก็นี่สวีตตี้เพื่อนฉันคะ"
เธอยิ้มอย่างเป็นมิตร
"แฟนนายเหรอ น่ารักจัง?"
โลลี่ป๊อปถามเชลซี (เบาๆ) แต่ฉันได้ยิน
"อืม"
"ถ้าไม่รังเกียจเชิญนั่งด้วยกันซิ"
โลลี่ป๊อปชวนเชลซีกับคัพเค้กนั่ง
"อืม ก็ดีเหมือนกัน"
แล้วเค้าสองคนก็นั่งลง ฉันนั่งตรงข้ามกับโลลี่ป๊อป เชลซีนั่งข้างโลลี่ป๊อป ส่วนคัพเค้กนั่งข้างฉัน
วี๊หว่อ! วี๊หว่อ! วี๊หว่อ!
เสียงโทรศัพท์ยัยโลลี่ป๊อป บอกให้เปลี่ยนหลายครั้งแล้ว คนอื่นเค้าหันมาดูหมดเลยเห็นมั้ย? =_=^
"ฮัลโหลคะ พี่บี"
"น้องโลอยู่ไหนหน่ะ รีบมาประชุมด่วนเลย"
เรียกคนอื่นซะหมดความเป็นคนเลย
"เห้ย OoO ลืมไปเลยวันนี้มีประชุม คะๆจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย"
ลืมบอกไปว่าโลลี่ป๊อปเป็นประธานนักเรียน
"มีอะไรเหรอโลลี่?"
"ฉันต้องรีบไปประชุม ขอโทษด้วยนะ อะนี่ตั๋วหนัง"
โลลี่ป๊อปส่งตั๋วหนังให้ฉัน...
"อ้อ เชลซีฉันฝากสวีตตี้ด้วยนะ"
"อ่ะ อืม แล้วเธอจะไปไหน"
โลลี่ป๊อปไม่ตอบแล้วลุกขึ้นเดินออกไป แล้วฉันจะนั่งเป็นกอขอคอทำไมหล่ะ ฉันลุกเดินตามโลลี่ป๊อปไป
"เธอจะไปไหน"
"ไปดูหนัง"
"รอบกี่โมง"
"เที่ยง!"
"เรื่อง...."
"ไอ้หัวมัน"
"หือ o_O? มีด้วยเหรอ"
เขาทำหน้างง
"เรื่องนี่มั้ย"
เขาหยิบใบอะซักอย่างออกมาจากกระเป๋าซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นตั๋วหนัง
"อืม ใช่"
"งั้นไปดูด้วยกันมั้ยจ๊ะ?"
คัพเค้กหันมาถามฉัน
"ไม่ดีกว่า เธอไปดูกับหมอนี่สองคนแล้วกัน"
ฉันไม่อยากเป็นก้าง
"แล้วเธอจะดูกับใครหล่ะ?"
"เดี๋ยวฉันหาแถวๆนี้แหละ"
"นี่เธอจะบ้ารึไง ไม่ใช่สิ่งของนะ"
"แล้วไง"
ฉันกำลังจะเดินออกมาแต่...
ควับ!
เชลซีคว้ามือฉันไว้
"ปล่อยฉันนะ แฟนนายนั่งอยู่ไม่เห็นรึไง"
"เห็น แต่เธอต้องไปกับฉัน"
"ฉันไม่ไป"
"เธอต้องไป ถ้าเธอไม่ไปฉันจะทิ้งสมุดเล่มนั้นทิ้ง"
ใช่ ลืมไปเลยว่าเชลซียังไม่ได้คืนสมุดนั่นให้ฉัน
"ฉันไม่อยากไปเป็นก้าง เชิญนายไปดูกับแฟนนายเหอะ"
"ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ ไปดูกันหลายๆคนสนุกดีออก ^^"
นี่ถ้าไม่ถามก็ไม่รู้นะว่าคัพเค้กเป็นแฟนหมอนี่ ดูจากท่าทางแล้วไม่น่าเลย หน้าตาก็ดี นิสัยก็ดี ไม่น่ามาเป็นแฟนกับคนอย่างหมอนี่เลย =_=*
"งั้นก็ได้"
หลังจากกินไอศกรีมเสร็จเค้าสองคนและฉันอีกหนึ่งตัว (-_-') เดินมาที่โรงหนัง
ติ๊งๆ ติ๊งๆ ติ๊งๆ!!
เสียงโทรศัพท์ใคร?
ของคัพเค้กนั่นเอง เธอรับโทรศัพท์และก็เดินออกไปคุยห่างๆ พอสมควร
"ใครโทรมาเหรอเค้ก?"
"เพื่อนหน่ะ บอกว่ามีธุระด่วน เค้กคงดูหนังกับเชลไม่ได้แล้วต้องขอโทษด้วยนะ *w*"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ^^ ไว้โอกาสหน้าก็ได้ ให้ผมไปส่งมั้ย?"
เชลซีจับบ่าคัพเค้ก
"ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวเค้กกลับแท็กซี่เองก็ได้"
"แต่แท็กซี่มันอันตรายนะ งั้น..เดี๋ยวผมโทรให้คนขับรถที่บ้านมารับเค้กแล้วกันนะ"
"ไม่ต้องลำบากหรอกคะ"
เมื่อไหร่ฉันจะมีบทพูดเนี่ย เซ็งแล้วนะ =_=!
"อย่าดื้อซิ"
"เอ่อ...ถ้าอย่างนั้นก็ได้คะ ^๏^"
พูดจบเชลซีก็หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋า แล้วก็โทรหาใครคนนึง
"เค้กไปก่อนนะคะ แล้วเจอกันคะ ^^"
"ครับ ^^"
แหมส่งสายตาหวานฉ่ำให้กันด้วย
เค้กอย่างนั้นเชลอย่างนี้ แหวะ (-_-)!!
"ไปก่อนนะสวีตตี้"
เธอหันมาบ๊ายบ่ายให้ฉัน แล้วก็เดินไป
ทีนี้ก็เหลือฉันกับเชลซีสองคนหน่ะซิ นี่ฉันต้องดูหนังกับหมอนี่สองคนเหรอเนี่ย ฉันไม่เคยดูหนังกับผู้ชายสองต่อสอง ไม่อาว ฉันจะเสียตัวให้เขามั้ยเนี่ย ในโรงหนังยิ่งมืดๆด้วย อี๋ยย คิดแล้วขนลุก
"นี่เธอ คิดอะไรอยู่มาเร็วหนังจะเริ่มแล้ว"
เขาคว้ามือฉันแล้วลากมาที่โรงหนัง
"ปล่อยนะ ฉันเดินเองได้"
เขาไม่ฟังที่ฉันพูด สุดท้ายฉันก็ต้องตามเขามาตามแรงลาก ฉันมานั่งที่แถว 2F ส่วนเชลซีก็นั่งลงข้างฉัน
ในโรงหนังติดแอร์ทั้งโรงงานรึไงเนี่ย ทำไมมันถึงได้หนาวขนาดนี้ รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ขั้วโลกเหนือเลยแฮ่ะ!
"หนาวเหรอ?"
"ร้อนมั้ง"
"สมน้ำหน้า"
เอ้า! ไอ้บ้านี่ ):
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!"
ฉันปล่อยเสียงหัวเราะออกมาโดยไม่แคร์ใคร
"นี่เธอเบาๆหน่อยซิ ผู้หญิงอะไรหัวเราะไม่มีมารยาท"
"ผู้หญิงอย่างฉันนี่แหละ"
สิบนาทีผ่านไป
ฮือๆๆ ๆ ๆ T///T
"ใครมานั่งร้องไห้อยู่ว่ะ"
เชลซีนั่งหันซ้ายหันขวา (- - )( - -) (- - )( - -) หาเสียงลึกลับอยู่
"เธอเองเหรอยัยจอแบน ตกใจหมดเลยนึกว่าผี"
ผีอะไรจะสวยขนาดนี้ย่ะ
"ร้องไห้ทำไมเนี่ย?"
"stop your mouse! กำลังได้ฟิวส์"
ฉันสั่งให้เชลซีอยุดพูด ทำลายฟิวส์ของฉันหมดเลย -_-''
"เออๆ ตามสบาย คิดว่าเป็นบ้านเธอแล้วกันนะ -_-"
ทำไมตอนเริ่มมันไม่สนุกเลยแถมยังน่าเบื่ออีกต่างหาก แต่ก็ช่างเหอะ อย่างน้อยมันก็จบลงอย่างสวยงามแอนด์ซาบซึ้ง TUT
ทำไมฉันรู้สึกอุ่นๆที่มือ เหมือนมีใครมาจับมือเลย ฉันก้มไปดูมือตัวเอง
"นี่นาย ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้นะ"
เขามาจับตั้งแต่ตอนไหนแล้วเนี่ย มือของหมอนี่ก็นุ่มดีเหมือนกันนะเนี่ย เหมือนกับไม่เคยหยิบจับอะไรมาเลย
"จับอยู่ตั้งนานแล้วไม่รู้เรื่องเหรอไง นี่ถ้าปล้ำเธอก็คงไม่รู้เรื่องซินะ"
"กรี๊ดดด!! ทะลึ่ง ลามก อุบาทว์ ทุเรศ...
¥±|%=¦๏£¥€$#286"
ฉันด่าหมอนั่นแหลกเลย
"นี่เธอ หยุดเดี๋ยวนี้นะ ไม่อายคนรึไง"
"ไม่หยุด ไม่อาย หน้าด้าน ±€#94+@......"
ฉันด่าเขาโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
"ถ้าเธอไม่อยุด ฉันจะจูบเธอ..."
"........."
นี่คือคำขู่ใช่มั้ย? แต่มันก็ได้ผล ทำให้ฉันปิดปากเงียบสนิทไม่พูดอะไรต่อ
"จะกลับบ้านเลยมั้ย?"
"......."
ฉันหันไปมองรอบๆ แล้วสายตาของฉันก็สะดุดเข้ากับสิ่งหนึ่งนั่นก็คือ ตู้คีบตุ๊กตา ซึ่งมันมีโดเรม่อนตัวใหญ่เบ่อเร่อ ตั้งโด่อยู่ในตู้กระจก ฉันชอบโดดเรียนมาเล่นไอ้เจ้านี่บ่อยๆ หวังว่าซักวันนึงฉันจะต้องเอาโดเรม่อนตัวนั้นออกมาจากตู้ให้ได้
"ฉันอยากคีบตุ๊กตา"
ฉันชี้ไปที่ตู้คีบ
"ไอ้ตู้นั่นหนะเหรอ ๏•๏?"
"อืม ฉันอยากได้โดเรม่อนตัวนั้นอะ"
"ไอตัวอ้วนๆ กลมๆ ตันๆ นั่นนะ?"
"นี่นาย อย่ามาว่าโดเรม่อนนะ ):"
" (=_=*) " <<< หน้าเชลซี
ตอนนี้ฉันได้มายืนอยู่หน้าตู้น้องม่อน >•<
ฉันจัดการหยอดเหรียญแล้วก็คีบ
ครั้งที่ 1...
ครั้งที่ 2...
ครั้งที่ 3...
ครั้งที่ 4 5 6 7 8 9 10.....
(-_-''') เหนื่อยแล้วนะ แต่ฉันก็ไม่ละความพยายาม
"(=_=*)" <<< เชลซียังคงทำหน้าเหมือนเดิม
ครั้งที่ 101 102 103 104 105.......
(-_-''') เหงื่อท่วมตัว
ไม่ไหวแล้ว ฉันจะเป็นลม ทำไมมันชั่งคีบยากคีบเย็นขนาดนี่นะ
"นายรออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวฉันไปซื้อน้ำแป๊ป"
"อืม"
"เอาน้ำอะไรมั้ย"
"น้ำเปล่า"
ฉันบอกให้เชลซีรออยู่ที่ตู้คีบตุ๊กตาแล้วฉันก็เดินมาซื้อน้ำ
"ชานมไข่มุกแก้วนึงแล้วก็น้ำเปล่าขวดนึงคะ"
"ซักครู่นะคะ ^^"
ห้านาทีผ่านไป ~
"ห้าสิบบาทคะ"
ฉันยื่นเงินให้พนักงานแล้วเดินมาที่ตู้คีบมหาประลัยนั่น
แล้วก็ต้อง O[]O ตะลึงเพราะตอนนี้โดเรม่อนตัวที่อยู่ในตู้คีบ มันได้ปรากฎกายให้ฉันเห็นอยู่ตรงหน้า
"เป็นอะไรของเธอฮ่ะยัยจอแบน"
ฉันหลุดจากภวังค์ความตกใจแอนด์ตะลึง
"นะนาย ไปเอาโดเรม่อนตัวนั้นมาจากไหน"
"ก็คีบมาจากตู้นั่นหน่ะซิถามได้"
"นายทำได้ไงอะ สุดยอดไปเลย"
ฉันไม่อยากจะประจารตัวเองหรอกนะ ฉันแอบโดดเรียนมาที่นี่บ่อยๆ เพราะฉันอยากได้โดเรม่อนตัวนั้นใจจะขาด (เวอร์)
แต่ฉันก็ไม่เคยคีบมันได้ซักที แล้วหมอนี่เป็นใครกันทำไมเค้าถึงได้เก่งขนาดนี้
"นี่นายก็เคยแอบโดดเรียนมาคีบโดเรม่อนตัวนี้เหมือนฉันใช่มั้ย?"
"ใครจะไปปัญญาอ่อนเหมือนเธอหล่ะ ที่ยอมโดดเรียนเพื่อไอ้อ้วนนี่"
-_-!
"โดเรม่อนยะ"
"เออนั่นแหละ อยากได้มั้ย? ^^*"
"มากกก"
"ไม่ให้"
แล้วจะถามฉันเพื่อ?
=_=;
"ฉันไม่ให้เธอ...."
"TxT"
ใจร้าย จะเอาไปให้คัพเค้กหล่ะซิ ชิ๊!
"แต่ฉันจะฝากเธอไว้ก่อน ไว้ฉันอยากได้เมื่อไหร่ฉันจะมาเอาคืน"
'ฝาก'ถ้าไม่ฝากมันจะดีมาก แล้วฝากฉันไว้ทำไม ไม่เข้าใจ ถ้าให้ก็จบเรื่อง
เขาส่งโดเรม่อนให้ฉัน ฉันรู้สึกดีมากเมื่อได้จับมัน จะเอาไปนอนกอดทุกคืนเลย อ๊ะ! ไม่ซิต้องเก็บไว้ให้อย่างดี
"แล้วไหนน้ำฉันหล่ะ"
เออ ลืม
"อะ นี่น้ำนาย"
ฉันส่งขวดน้ำให้เขาส่วนฉันก็กินชานมไข่มุกแสนอร่อย
"นั่นลูกอะไรหน่ะ"
เขาหันมาถามฉัน ทำหน้าเหมือนขยะแขยงอะไรซักอย่าง
"นายไม่รู้จักไข่มุกเหรอ"
"ไข่มุกสีขาวไม่ใช่สีดำ"
"คนละไข่มุกกันย่ะ สีขาวไข่มุขที่เป็นเครื่องประดับ ส่วนนี่ไข่มุกที่เป็นของกินทำมาจากแป้ง ลองชิมดูมั้ย อร่อยนะ"
"ไม่ เดี๋ยวตาย"
ฉันอยากจะบ้านี่ตกลงเขาไม่รู้จักไข่มุกจริงๆ เหรอนี่
"งั้นเดี๋ยวฉันกินให้นายดูก่อนเลยอะ"
ฉันดูดไข่มุกขึ้นมากินให้เชลซีดู
"อะ ลองกินดูซิ"
ฉันส่งแก้วชานมไข่มุกให้เขา เขารับไปอย่างกล้าๆ กลัว ๆ ราวกับว่ามันคือกิ้งกือ ไส้เดือนซะอย่างนั้น
ซูดดดดด!!
"อร่อยจริงๆด้วย งั้นฉันกินหมดล่ะนะ ^O^"
ซูดดดด!!
ม่ายย น้าาา ชานมไข่มุกของโปรดช้านน หายวับไปกับตาเลย ฉันไม่น่าสอนให้หมอนี่กินไข่มุกเลย TOT
"นายกินของฉันหมดเลย"
"ขอโทษนะพอดีมันอร่อย เคี้ยวแล้วนุ่มลิ้นดี ฉันชอบ ^^"
"....."
"เธอจะไปไหนต่อมั้ย"
"ไม่หล่ะ กลับเลยดีกว่า รบกวนนายมามากแล้ว" เพิ่งสำนึก
"อืม ไม่เป็นไรหรอก ถือว่าเป็นค่าชานมไข่มุกล่ะกัน ^^"
ก็ดี !
ก่อนกลับเขาไม่ลืมที่จะแวะซื้อชานมไข่มุก สงสัยจะชอบจริงๆ
เขาเดินนำฉันมาที่รถของเขา ซึ่งเขาบอกว่าจะไปส่งที่บ้านโดยให้เหตุผลว่า
'ตอบแทนค่าชานมไข่มุก'
"บ้านเธออยู่ไหน"
"ฉันพักอยู่คอนโดฯ!"
"อ้าว ทำไมไม่อยู่บ้าน"
"บ้านฉันอยู่ห่างจากโรงเรียนมาก ฉันขี้เกียจตื่นแต่เช้ามาโรงเรียน คุณพ่อท่านเลยซื้อคอนโดฯ แถวโรงเรียนให้"
ฉันบอกทางกับเขาแล้วเขาก็มาส่งฉันหน้าคอนโดฯ
"เดี๋ยวฉันไปส่ง"
"ไม่ต้องแค่นี้ก็พอ"
"ไม่ได้ ฉันรับปากกับโลลี่ป๊อปไว้แล้ว"
"ถ้านายไม่พูด ฉันไม่พูดยัยโลลี่ก็ไม่รู้"
"แต่ฉันอยากไปส่งเธอ ฉันจะได้แน่ใจว่าเธอปลอดภัย"
"นายเป็นห่วงฉันเหรอ?"
"อืม ฉันเป็นห่วงคนที่จะมาฉุดเธอ"
"ไม่มีใครฉุดฉันหรอกน่าาา"
"เรื่องนั้นฉันรู้ ถือว่าฉันตอบแทนค่าชานมไข่มุกแล้วกันนะ ^^"
ชานมไข่มุกมันมีบุญคุณมากมายขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย =_=;
แล้ว 'เรื่องนั้นฉันรู้' ของหมอนั่นมันหมายความว่าไง? งงนะ
สุดท้ายเขาก็เดินตามฉันขึ้นมาจนได้
ห้อง 4095
"ส่งฉันแค่นี้แหละ กลับไปได้แล้ว"
"คนเค้าอุตส่าห์มาส่ง ยังไล่กลับแถมขอบคุณซักคำยังไม่มี"
หมอนี่เรื่องไม่น้อยเลยจริงๆ
"ขอบใจ"
ฉันพูดไปแบบส่งๆ
"ขอแบบเพราะๆ หวานๆ"
"ฉันทำไม่เป็น ไม่ใช่กุลสตรี"
พูดจบฉันก็หยิบคีย์การ์ดเพื่อที่จะเข้าห้อง
คีย์การ์ด! คีย์การ์ด! ใช่คีย์การ์ดอยู่ที่ยัย โลลี่ป๊อปลืมสนิทเลย แล้วทีนี้ฉันจะทำยังไงล่ะเนี่ย ต้องรอจนกว่ายัยนั่นจะมาเหรอ ไม่อาว
"เป็นอะไรของเธอ ทำไมไม่เข้าไปหล่ะ"
"คือ...คีย์การ์ดอยู่ที่โลลี่ป๊อป ฉันเลยเข้าไปไม่ได้"
"แล้วเธอไม่มีสำรองรึไง"
"(เคย)มี แต่ฉันทำหายแล้ว"
"เธอนี่จริงๆ เลย หาเรื่องเดือดร้อนอยู่ตลอด แล้วจะทำยังไงหล่ะทีนี้"
"ไม่รู้!"
ง่ายๆ สั้นๆ ได้ใจความ
"เอางี้แล้วกัน เธอไปอยู่บ้านฉันก่อน"
"......"
"แต่ถ้าเธอไม่ไปก็ไม่เป็นไรนะ แต่ฉันขอเตือนไว้ว่าอยู่คนเดียวมันน่ากลัว มีทั้งโจรทั้ง....."
"หยุ๊ดดด สต๊อป ไม่ต้องพูดต่อแล้ว โอเคไปก็ไป ไม่มีทางเลือแล้วนี่นา"
สุดท้ายฉันก็ต้องยอมไปบ้านเขา จนกว่าโลลี่ป๊อปจะกลับมา โลลี่นะโลลี่ทิ้งกันเลย =_=;
ณ คฤหาสพิสุทธิ์ธารา เป็นคฤหาสที่ได้รับตำแหน่งสวยงามเป็นอันดับสามของโลก
ซึ่งเจ้าของก็คือ ท่านจักรพรรดิ พิสุทธิ์ธารา เจ้าของธุรกิจรายใหญ่ของไทย ที่ฉันรู้จักก็เพราะท่านเป็นเพื่อนสนิทของพ่อฉัน ซึ่งทั้งสองได้ทำธุรกิจร่วมกันอยู่บ่อยๆ
"นี่บ้านนายเหรอ"
"อืม ใช่"
"อย่าบอกนะ ว่านายเป็นลูกชายของคุณอาจักร"
"อืม เธอรู้จักคุณพ่อฉันด้วยเหรอ?"
สิบปีที่แล้ว
โรงเรียนอนุบาลเป็ดน้อย ~
"ยัยเบ๊อเฉิ่ม ยัยเบ๊อเฉิ่ม ยัยเบ๊อเฉิ่ม ฮ่าฮ่า!"
เสียงเพื่อนๆ ทั้งห้องต่างพากันล้อเลียนฉัน ว่าเป็นยัยเบ๊อเฉิ่ม ตอนเด็กๆฉันไม่มีเพื่อนผู้หญิง มีแต่เพื่อนผู้ชาย ฉันก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกันว่าเขาชื่ออะไร แต่จำได้ขึ้นใจว่าเขาช่วยเหลือฉันจากการโดนพวกเพื่อนๆ รังแก
"ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ!!"
"น้องสวีตตี้อย่าร้องไห้ซิ"
เสียงเด็กชายคนนึงกำลังนั่งปลอบหญิงสาวที่กำลังร้องไห้ จากการที่โดนเพื่อนๆรังแก
"เราสัญญาว่าเราจะไม่ให้ใครมารังแกน้องสวีตตี้อีก เราจะดูแลน้องสวีตตี้เองนะ"
"สัญญานะ"
"อื้อ สัญญา ^-^"
ตอนนั้นฉันมีความสุขที่สุดเลย ที่มีคนคอยปกป้อง หลังจากนั้นสองเดือนฉันก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลยเพราะฉันต้องย้ายมาเรียนที่เมืองไทย เพราะคุณพ่อของฉันท่านทำธุรกิจอยู่ที่นี่ ครอบครัวของเราเลยต้องย้ายมาอยู่ที่เมืองไทยกันหมด
"นี่ฉันถามไม่ได้ยินเหรอไง คิดอะไรอยู่?"
"อ๋อ ปะเปล่า เมื่อกี้นายถามฉันว่าอะไรนะ?"
ฉันถามเขาอีกครั้ง
"เธอไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลยเหรอ"
"......."
ถ้าฟังฉันคงไม่ถามซ้ำหรอกนะ
เชลซีเดินนำฉันเข้ามาในคฤหาส นี่กะจะสร้างให้คนอยู่กันทั้งประเทศเลยเหรอไงเนี่ย?
"คุณชายมาแล้วเหรอคะ"
แม่บ้านเดินเข้ามาถามเชลซี
"ครับ"
"เอ่อ....แล้วคุณหนูคนนี้เป็นใครเหรอคะ"
หมายถึงฉันใช่มั้ย? ฉันเป็นนางฟ้าคะ ><
"เพื่อน..."
สั้นๆ ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก
"ให้ป้าจัดห้องให้มั้ยคะ"
จัดห้อง! หมายความว่าไง?
"ไม่ต้องก็ได้ จัดอาหารเย็นไว้แล้วกัน"
"คะ"
แล้วยัยป้าก็เดินไปทำตามคำสั่งของเชลซี
"หิวแล้วยัง"
มากกก ไส้จะขาดอยู่แล้ว
"ไม่เท่าไหร่หรอก"
"เย็นนี้เธอทานข้าวที่นี่แล้วกัน ฉันให้แม่-บ้านจัดอาหารไว้ให้"
ก็ดี !
ฉันเดินมานั่งรอที่โซฟาในห้องรับแขก ตามที่เชลซีสั่ง ส่วนเขาก็เดินขึ้นไปบนห้องเห็นบอกว่าจะไปทำอะไรซักอย่าง
นี่บ้านนักธุรกิจหรือบ้านมาเฟียเนี่ย มีบอดี้-การ์ดตั้งแต่ทางเข้าบ้านยันหน้าห้องน้ำ ดูแต่ละคนอยู่เหมือนกระทิงป่าหลุดออกมา =_=;
"คุณหนูคะ คุณชายให้มาตามไปทานข้าวคะ"
"แล้วอีตานั่นหละ ?"
".....?"
"คือ...หนูหมายถึงเชลซีหนะคะ"
"อ๋อ รออยู่ที่โต๊ะอาหารแล้วคะ"
ฉันลุกขึ้นแล้วเดินตามยัยป้ามาที่โต๊ะอาหาร ซึ่งมีอีตาเชลซีนั่งรออยู่บนโต๊ะพร้อมด้วยเหล่ากระทิงป่าที่ยืนล้อมรอบอยู่
"นั่งซิ ฉันไม่รู้ว่าเธอชอบอะไรบ้าง เลยให้แม่ครัวทำอาหารไว้หลายอย่าง หวังว่าเธอคงจะกินได้นะ ^^"
ได้มากๆ เลยแหละ มีทั้ง พาสต้าอบชีส
เบคอนรมควัน สเต๊กเนื้อแกะ มาซาโร่ ยำไข่ปลาคาเวียร์ ลาซา พาสต้าผัดทูน่า
สปาเก็ตตี้ และอื่นๆ อีกเยอะเยะมากมายเต็มไปหมด ของที่ฉันค่อนข้างชอบทั้งนั้น
ทีนี้แหละแม่จะซัดให้เรียบเลยคอยดู !
"ไม่เกรงใจล่ะนะ"
ฉันจัดการตักโน่นตักนี่มาใส่ในจากแล้วก็ กิน กิน กิน! จนในที่สุดก็.....
OxO <<< หน้าเชลซี
"ผู้หญิงอะไรตัวเล็กนิดเดียวกินเยอะชมัด"
"ผู้หญิงสวยๆ อย่างฉันนี่แหละ ^^"
(_ _*)
"อ้อ เมื่อกี้โลลี่ป๊อปโทรฯ มาหาฉันบอกว่า คืนนี้ไม่ได้กลับคอนโดฯ เห็นบอกว่าจะนอนโรงเรียน"
"ไม่ได้กลับ ):"
"อืม"
"แล้วฉันจะไปนอนที่ไหนหล่ะคืนนี้"
"ใต้สะพานลอย ^^"
"ไม่ตลกย่ะ"
"งั้นนอนบ้านฉัน"
"บ้านนายเนี่ยนะ ไม่อาว ถ้านายเกิดปล้ำฉันขึ้นมาฉันจะทำยังไง ฉันเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะ แล้วอีกอย่างฉันยังเรียนหนังสืออยู่ด้วย"
"ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ถึงฉันจะมั่ว แต่ฉันก็เลือกนะ อย่างเธอไม่ใช่สเป็กฉันหรอก"
ก็ดี !
"เชิญคะ ป้าจัดห้องไว้เรียบร้อยแล้ว"
สุดท้ายฉันก็ต้องยอมเดินตามยัยป้าไปห้องนอน
"ขาดเหลืออะไรก็บอกนะคะ ป้าจะได้จัดให้ ส่วนเสื้อผ้าหยิบในตู้ได้เลยคะ"
"ขอบคุณคะ ^^"
ยัยป้าเดินออกไป
ห้องนอนของใครกัน ทำไมมีแต่เสื้อผ้าผู้หญิง ของใช้ผู้หญิง ของใช้ทุกอย่างถูกประดับด้วยลายคิดตี้หวานแหว๋ว ไม่เว้นแม่แต่โถส้วม =_=* (สาวกคิดตี้)
อาบน้ำเสร็จฉันก็เดินมาหยิบเสื้อผ้าเพื่อที่จะแต่งตัว โห ๏_๏ ทำไมมีแต่เสื้อผ้าผู้หญิงเต็มไปหมดเนี่ย
ฉันตัดสินใจหยิบชุดนอนสีชมพูลายคิดตี้มาใส่ ถึงจะไม่ค่อยปลื้มเจ้าคิดตี้นี่สักเท่าไหร่แต่ก็ต้องใส่ดีกว่าแก้ผ้านอน หวิวๆ =-=
พรึ่บ! (ไฟดับ!)
กรี๊ดด ดด !!>< (เสียงกรี๊ด 9.5 ริกเตอร์)
"สวีต สวีตตี้! เธออยู่ไหน"
เสียงของเชลซีตะโกนเรียกฉันอย่างกับอยู่คน
ละประเทศยังไงอย่างนั้น
ซึ่งเขากำลังยื่นแขนควานหาอะไรเพื่อที่จะยึดเหนี่ยวได้ ฉันก็คว้าแขนของเขาไว้
"สวีตตี้เธอใช่มั้ย"
"ก็ใช่หนะซิ อยู่กันสองคนคิดว่าใครหละ?"
"ผี!"
กรี๊ดดด!! ฉันกรี๊ดเป็นรอบที่พันล้าน
นี่ถ้าแลกเป็นเงินได้คงเป็นอภิมหาเศรษฐีไปแล้วแหละ
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า !!!"
"ตลกเหรอ"
"มากกก ^^"
พรึ่บ!
"อ๊ากก OO "
เชลซีช้อนตัวฉันขึ้นไปแนบอกเขาไว้ มันช่างแข็งแกร่งและอบอุ่นมาก น่ากอดจัง ><
ไม่ๆ เธอคิดอะไรหนะสวีตตี้หมอนี่มีแฟนแล้วนะ แล้วอีกอย่างเธอก็เกลียดหมอนี่ไม่ใช่ เหรอ?
ใช่! (บ้าไปแล้วถามเองตอบเอง -_-;)
"ปล่อยฉันได้แล้ว"
"ฉันปล่อยเธอแน่แต่ต้องออกไปจากห้องนี้ก่อน"
"ทำไม?"
"ถ้าเธอเกิดเดินชนอะไรแล้วเสียหายจะทำยังไง"
"........"
เชลซีพาฉันออกมาข้างนอก แล้วเขาก็ปล่อยฉันให้เป็นอิสระ
"ทำไมข้างนอกไฟไม่ดับอ่าา นี่นายแกล้งฉัน เหรอ?"
"ไม่ได้แกล้ง คือ...ฉันลืมไปว่าห้องนั้นไม่ได้ใช้นานแล้วหลอดไฟมันคงจะเสีย"
"แล้วทำไมนายไม่บอกช้านน หาา"
"ลืม"
จบ คำเดียวเก๊ท ไม่ต้องถามอะไรมาก ):
"เอางี้แล้วกัน เธอไปนอนห้องเดียวกับฉันก็ได้ ฉันอนุญาติ ^^"
"ไม่ นายก็ได้เปรียบซิ"
"ได้เปรียบตรงไหน?"
"ก็ถ้านายปล้ำฉัน นายก็ได้เปรียบ"
"ใครบอก ฉันนี่แหละเสียเปรียบ ฉันเป็นผู้ชายนะ หล่อมากด้วย ^^ แล้วต้องมาเสียอะไรต่อมิอะไรให้ผู้หญิงอย่างเธอ"
โอ๊ยย สาบานได้ว่าฉันไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนเป็นแบบหมอนี่เลย หนักใจแทนผู้ปก-ครอง =_=:
"กล้าคิดเนอะ?"
"ก็ทีเธอยังกล้าคิดว่าเธอสวยเลย ทำไมฉันจะไม่กล้าคิดว่าฉันหล่อ จริงมั้ย?"
"เออ ไม่เถียง"
และสุดท้ายท้ายสุด ฉันก็ต้องเดินตามเชลซีมาที่ห้องนอนของเขา (อย่าคิดลึกเซ่!!)
โห ๏๏
นี่สนามฟุตบอลหรือห้องนอนกันเนี่ย ทำไมมันถึงได้ใหญ่โตขนาดนี้
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้ชื่อเชลซี เพราะห้องนอนของเขาถูกตกแต่งด้วยลายเชลซีเกือบทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่บ็อกเซอร์ที่เขาใส่อยู่ ถ้าจะขนาดนี้ก็ไม่ไหวนะ =•=
"เธอนอนข้างล่างแล้วกันนะ"
"นายแมนมากเชลซี"
"แน่นอนอยู่แล้ว ^^"
ยังไม่สำนึกอีก = =;
"ประชดเว้ยย"
"อ้าวเหรอ"
"เออ ):"
"ถ้าเธออยากนอนบนเตียงก็ได้ ที่ว่างเพียบ"
เชลซีเอามือตบเตียงนุ่มๆ แล้วทำหน้ากวนส้นตีนใส่ฉัน น่าหมั่นไส้จริงๆ เลย
"นายนั่นแหละมานอนข้างล่าง"
"นี่มันห้องนอนฉัน"
"แต่ฉันเป็นผู้หญิงนะ"
"ฉันก็เป็นผู้ชาย"
=_=;
"ไม่รู้แหละนายต้องมานอนข้างล่าง เดี๋ยวนี้"
"ฉันไม่เถียงกับเธอแล้ว เธอจะนอนตรงไหนก็ตามใจ ฉันจะนอนตรงนี้ good nigh"
พูดจบเชลซีก็ทิ้งตัวลงนอน ปล่อยให้ฉันนั่งเป็นยัยบ้าอยู่คนเดียว
"เชลซี เซลชี อีตาเกย์"
ไม่ตื่น! หลับง่ายปลุกยากจริงๆเลย
ถ้านอนบนเตียงกับหมอนี่ ฉันต้องหาวิธีป้องกันตัว
นี่ใครกันหน่ะถ่ายรูปคู่กับเชลซี ฉันหยิบรูปที่มีสาวน้อยหน้าตาน่ารักที่ถ่ายรูปคู่กับ เชลซีมาดู ใครกัน? หรือว่าจะเป็นกิ๊กของหมอนั่น จะเป็นอะไรก็ช่างเหอะไม่ได้เกี่ยวกับฉันซะหน่อย
ฉันจัดการหยิบเสื้อแจ็กเก็ตมาใส่ ตามด้วยกางเกงยีนส์ ถุงเท้า ถุงมือ และสุดท้ายหมวกกันน็อก
อยู่เหมือน Iron man ภาคพิเศษเลยแฮ่ะ อึดอัดยิ่งกว่าใส่โอนามิเข้าไปเป็นสิบชั้นซะอีก แต่เพื่อเวอร์จิ้นฉันต้องอดทน ฉันทิ้งตัวลงนอนข้างๆ เชลซี ZZzzZZzzZZ
"อ๊ากก OoO! ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะยัยเพี้ยน"
เสียงหมาที่ไหนหอนแต่เช้าวะ ฉันไม่สนใจจัดการเอาผ้าห่มคลุมหัวแล้วนอนต่อ
"ยัยจอแบน ตื่นได้แล้วเว้ยย"
เสียงคุ้นๆ เชลซี! ฉันลืมตาขึ้นมาดูพบเชลซียืนทำหน้าตกใจอะไรซักอย่าง
"อะไรของนายเนี่ย"
"ไม่ต้องถาม ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลย"
"ไม่ ฉันจะนอนต่อ กรุณาอย่ารบกวน อ้อ! แล้วก็ เก๊ทเอาท์"
"เก๊ทเอาท์อะไร นี่มันห้องนอนฉัน"
"อ้าวเหรอ"
"เออซิวะ แล้วนี่แต่งตัวบ้าอะไรของเธอเนี่ย"
ฉันก้มลงไปดูสารรูปตัวเอง
"ก็ชุดป้องกันตัวของฉันหน่ะซิ ^^"
พูดอย่างภาคภูมิใจ
"ป้องกันบ้าอะไรฮ่ะ ลุกขึ้นไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยนะยัยเพี้ยน"
"ไม่ ฉันจะนอนต่อ"
"ถ้าเธอไม่ลุกขึ้นฉันจะ......"
"จะทำไม!"
"ก็จะทดลองชุดของเธอไง ดีมั้ย ^^*"
พูดจบเขาก็ขยับเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ
"ไม่ดีมั้ง ไม่นอนต่อแล้วก็ได้"
"ดีมาก รีบอาบน้ำแต่งตัวด้วย ส่วนนี่เสื้อผ้า"
เชลซีส่งชุดเดรสสีชมพู ลายคิดตี้ (อีกแล้ว) สั้นเหนือหัวเข่าสักสี่เซนฯ มาให้ฉัน
"ของนายเหรอ?"
"จะบ้าเหรอ"
"แล้วของใคร ฉันไม่ใส่หรอก"
"ตามใจ เธอจะแก้ผ้าก็ได้ฉันไม่ว่า"
เชลซีโยนชุดบ้านั่นให้ฉัน ส่วนเขาก็เดินออกไปจากห้องนอนแล้วผิวปากอย่างสบายใจ
อึ๋ย! ซักวันเหอะฉันจะต้องเอาคืนนายให้ได้
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จฉันก็เดินลงมายังชั้นล่าง
ลาลั๊นลา หลั่นล๊า !!!
อ๊าก กึก โครม เพล้ง พลั่วะ !!(เสียงอย่างนี้อย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดเลย -_-; )
"โอ๊ย!!"
ระหว่างที่เดินลงบันไดฉันก็สะดุดขาตัวเองล้ม ทำให้ไปกระแทกเอาแจกันที่วางอยู่ข้างๆ แตก -_-;
ฉันร้องดังลั่นจนเหล่าบอร์ดี้การ์ดที่ยืนอยู่หันมาดู
( 00) ( 00) ( 00)
"คุณหนูเป็นอะไรมากมั้ยครับ!"
การ์ดคนนึงถามด้วยความตกใจ ก็เจ็บหน่ะซิถามได้
"สวีตตี้เธอเป็นอะไร"
เชลซีวิ่งมาด้วยใบหน้าที่ตื่นตกใจ แล้วประคองฉันให้ยืนขึ้นจากนั้นเขาก็พาไปนั่งบนโซฟาที่ห้องรับแขก
"เดี๋ยวป้าไปเอายามาให้นะคะ"
ยัยป้าเดินไปเอายาเพื่อมาทำแผลฉัน
"ซุ่มซ่ามจริงๆเลย ทีหลังเดินก็ระวังหน่อยแล้วกัน ของฉันเสียหายหมด"
นี่ตกลงเขาไม่ได้ห่วงฉันเลยเหรอเนี่ย ดันไปห่วงแจกันใบนั้น ):
พูดพลางเขาก็ทำแผลให้ฉัน
"เพราะนายนั่นแหละทำให้ฉันต้องสะดุดล้ม"
"ฉันเนี่ยนะ"
"อืม ถ้านายไม่ให้ฉันใส่กระโปรงบ้านี่ฉันก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก"
"ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าเธอซุ่มซ่าม"
ไม่พ้นที่จะว่าฉัน
"ฉันไม่ได้ซุ่มซ่ามยะ"
"ซุ่มซ่าม"
"ไม่"
"ซุ่มซ่าม"
"ข้าวต้มกับยามาแล้วคะ"
ยัยป้าแม่บ้านเดินถือข้าวต้มกับยามาให้ทำให้ศึกครั้งนี้ต้องสงบลงชั่วคราว ย้ำ ชั่วคราวเท่านั้น เพราะฉันเชื่อว่าอนาคตข้างหน้าฉันต้องหาเรื่องเทลาะกับเขาอีก
"อืม ขอบใจ"
"คุณหนูคะป้าซักเสื้อผ้าเมื่อวานให้แล้ว นี่คะ"
ยัยป้าส่งชุดที่ฉันใส่เมื่อวานมาให้
"ขอบคุณคะ"
"ป้าขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ"
^^
"เดี๋ยวฉันมา"
"เธอจะไปไหน"
"เปลี่ยนชุด"
"หายเจ็บแล้วเหรอ?"
"ยัง...."
"ไม่ต้องเปลี่ยน!"
"ทำไมฉันจะเปลี่ยนไม่ได้"
หมอนี่ชอบออกคำสั่งจริงๆเลย
"ก็ชุดที่เธอใส่มันก็น่ารักอยู่แล้ว จะเปลี่ยนทำไม?"
"ชุดน่ารักไม่ใช่ฉัน"
"ฉันหมายถึงเธอใส่ชุดนี้แล้วน่ารัก ยัยบื้อ!"
นี่เขาชมฉันว่า...น่ารักเหรอเนี่ย >O<
นี่ถ้าเป็นคนอื่นฉันคงกระโดดหอมแก้มไปแล้วแต่กับหมอนี่....ไม่มีทาง
"ไม่เปลี่ยนก็ได้..."
"ดี งั้นกินข้าวแล้วก็กินยา ฉันจะได้พาเธอไปส่งซะที วุ่นวายเหลือเกินแล้ว"
นี่ฉันเป็นตัวปัญหาใช่มั้ย? แต่ฉันก็เห็นด้วยกับเขานะ รู้สึกมานานแล้วว่าตัวเองวุ่นวายกับเขาเหลือเกิน ทั้งที่เราก็เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานซักเท่าไหร่
ฉันหยิบข้าวต้มมาแล้วตักใส่ปาก
"โอ๊ย! ร้อนๆ"
ฉันตักใส่ปากโดยไม่ได้เป่า ปากพองเลย
"เธอนี่ยิ่งกว่าเด็กอนุบาลซะอีก มานี่เดี๋ยวฉันป้อนให้"
เชลซีชิงช้อนข้าวต้มไปจากมือฉัน
"ไม่ต้องฉันกินเองได้ไม่ได้แขนหักซะหน่อย"
เชลซีไม่ฟังที่ฉันพูด เขาตักข้าวต้มแล้วเป่าจากนั้นก็ยัดใส่ปากฉัน
ไม่นานข้าวต้มก็เข้าไปอยู่ในท้องฉันจนหมด อร่อยจังมีหวังถ้าฉันได้อยู่ที่นี่อีก ฉันคงตัวอ้วนกลมเป็นหมูสามชั้นแน่
"อ่ะ กินยาซะ"
ยาเหรอ ฉันเกลียดการกินยาที่สุดในโลกเลย ตอนเด็กๆ แม่บังคับให้ฉันกินยาเพราะฉันเป็นคนบอบบางก็เลยไม่สบาย เป็นนุ่นเป็นนี่อยู่เรื่อย
"ไม่กิน"
"กินไปเหอะน่าไม่ตายหรอก"
ดูท่าทางเชลซีชักจะรำคาญฉันแล้วแหละ ฉันก็รำคาญตัวเองเหมือนกัน
ถ้าฉันแก้นิสัยซุ่มซ่ามของตัวเองได้อะไรก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนสวยอย่างฉัน ^๏^
"ถ้าฉันตายหล่ะ"
"เดี๋ยวฉันทำศพให้เอง ^^"
"งั้นฉันไม่กินแล้ว"
"ถ้าเธอกินยา เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปกินช็อคโกแล็ตก่อนกลับบ้าน"
เหมือนรู้เลยแฮ่ะ ว่าฉันชอบกินช็อคโกแลตเลยเอามาเป็นข้ออ้าง และนั่นก็เป็นผลสำเร็จ ฉันตัดสินใจและไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนก่อนจะเอายาเข้าปากแล้วกลืนตามด้วยน้ำหมดแก้ว
อ่าส์ !!!!
รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กอนุบาลจริงๆด้วย ที่ต้องมีคนคอยบังคับให้กินข้าว กินยา ทำนุ่นทำนี่ตามคำสั้ง =_=;
"ลุกไหวมั้ย"
เชลซีถามฉันขณะที่ตัวเขาประคองฉันให้พยายามยืนขึ้น
"ฉันเจ็บข้อเท้า"
พรึ่บ!
เขาช้อนตัวฉันขึ้นไปแนบอกเขาไว้อีกครั้ง มันยังแข็งแกร่ง อบอุ่นและน่ากอดเหมือนเดิม
^^
"กินช้างไปรึไงฮ่ะ ตัวเล็กนิดเดียวแต่หนักเป็นบ้า -_-;"
".....????"
เชลซีอุ้มฉันมาจนถึงรถของเขาแล้ววางฉันให้นั่งลงข้างคนขับ จากนั้นเขาก็ขับรถพาฉันมาที่ร้านช็อคโกแลต
หลังจากกินช็อคโกแลตกันเสร็จ เชลซีก็พาฉันมาส่งที่คอนโดฯ เขาประคองฉันพามาจนถึงหน้าห้อง
"ดีขึ้นแล้วยัง"
"อืม ก็พอเดินได้แล้วแหละ"
"ขอบใจนายมากนะ"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่ห้องแล้วกัน"
ห้อง 4095
ก๊อกๆ ก๊อกๆ !!!
"ใครคะ"
หญิงสาวที่อยู่ในห้องตะโกนถามออกมา
"นางฟ้ายะ"
แอดด !!
โลลี่ป๊อปเดินออกมาเปิดประตู
"ยัยวี๊ด เชลซี"
"ก็ใช่หนะซิ"
"เชลซีเข้ามานั่งก่อน"
โลลี่ป๊อปชวนเชลซีเข้ามานั่ง
"แล้วฉันหละ?"
"ต้องเชิญด้วยเหรอ แกอะ"
):
"ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นเลย เข้ามา"
เชลซีประคองฉันให้มานั่งบนเซฟา
"แกเป็นอะไรหนะยัยวี๊ด"
ไม่รอถามพรุ่งนี้เลยหละ
"ถ้าฉันทายไม่ผิดแกคงจะซุ่มซ่ามอีกซินะ"
"......"
รู้นิสัยฉันดีจังนะ
"แล้วนี่ยัยวี๊ดได้ไปทำอะไรในบ้านนายเสียหายบ้างมั้ย?"
โลลี่ป๊อปหันไปถามเชลซี
"ไม่มีอะไรมากหรอก แค่แจกันใบละห้าล้านแตกอย่างเดียว"
เชลซีพูดแบบชิลๆ แต่ฉันหนะซิไม่ชิลแจกันอะไรใบละตั้งห้าล้าน บ้าไปแล้ว =_=;
"เดี๋ยวฉันซื้อคืนให้"
ฉันบอกับเชลซี
"ไม่ต้องหรอก"
"อ้าวทำไมอะ?"
โลลี่ป๊อปเอียงคอไปถามเชลซี
"มีใบเดียวในโลก สั่งทำพิเศษจากเยอรมัน"
ก็ดี!
ทึง ทึง โป๊ะ ทึง ทึง!(เสียงโทรศัพท์เชลซี)
"ฮัลโหลครับ"
เสียงหวานเชียว ต้องเป็นผู้หญิงโทรมาแน่ๆ
(เชลอยู่ไหนคะ)
"ผมอยู่คอนโดฯเพื่อน กำลังจะกลับแล้ว เค้กมีอะไรเหรอ?"
นั่นไงไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาแต่เป็นแฟนซะด้วย
(เค้กจะชวนเชลไปงานวันเกิดเพื่อนหนะคะ)
"ได้ซิ งั้นเย็นนี้เจอกันนะครับ"
เชลซีวางสายไปหน้าตาเบิกบานมากๆ
ฉันขอตัวก่อนแล้วกัน ดูแลเพื่อนเธอดีๆ"
นี่เชลซีเป็นห่วงฉันด้วยเหรอ ><
"ฉันกลัวจะไปทำของเสียหายอีก"
=_=;
"อืม ฉันจะพยายามดูแลให้ดีกว่านี้แล้วกัน"
ทำเหมือนฉันเป็นเด็กที่ยังไม่โตอย่างนั้นแหละ
"แกกินอะไรมาแล้วยัง"
"เรียบร้อยแล้ว"
"งั้นไปนอนพักเหอะ สภาพแบบนี้เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปโรงเรียนไม่ไหว"
โลลี่ป๊อปลุกขึ้นมาพยุงฉัน
พอมาถึงห้องนอนฉันก็ชาร์ตแบตโทรศัพท์แล้วก็นอนอ่านนิตยสารซุบซิบคนดัง แก้เซ็ง นี่ก็เพิ่งจะบ่ายสองกว่าๆเอง
'เปิดตัวหนุ่มหล่อสุดไฮโซ ลูกชายเจ้าของธุรกิจหมื่นล้าน' OoO
นี่มันเชลซีนี่ ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่มั้ย?
ตอนนี้ในนิตยสารซุบซิบคนดัง มีรูปภาพ เชลซีโด่อยู่
ครืด! ครืด! ครืด! เสียงโทรศัพท์สั่นสะท้านโลกของฉัน
ฉันรับโทรศัพท์ขณะที่กำลังชาร์ตอยู่ข้างเตียง เบอร์ฯใครกัน ไม่คุ้นเลย
"ฮัลโหลคะ"
(สวีตตี้ นี่ฉัน เซนอน ฉันต้องการพบเธอด่วนมาหาฉันได้มั้ย?)
"เซนอน นายรู้เบอร์ฯ ฉันได้ไง?"
(ไม่ต้องถาม เอาเป็นว่าเธอมาหาฉันที่ร้าน
P. coffee แล้วกัน มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย)
"เรื่องอะไร?"
(บอกว่าไม้ต้องถามยังไงเล่า มาคนเดียวด้วย?)
"นายจะหลอกฉันไปข่มขืนรึเปล่า?"
(นี่ถ้าฉันจะปล้ำเธอ ฉันคงนัดเธอไปที่โรงแรมซิ จะนัดไปร้านกาแฟทำไม? รีบมาด้วย ไม่ต้องถามมาก)
ก็จริงของเค้า
"เออๆ ขอโทษคะ"
ฉันวางสายจากเซนอน
"ยัยวี๊ดแกจะไปไหน?"
โลลี่ป๊อปที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่หันมาถามฉันที่กำลังจะออกไปข้างนอก
ถ้าบอกว่าไปหาเซนอนยัยนี่ต้องขอตามไปด้วยแหงๆ ทำไงดี.......
"เอ่อ...คือฉันไปหาหมอ ตรวจภายใน หมอเค้านัดทุกสิบสองชั่วโมงหนะ แหะๆ"
เพิ่งคิดได้สดๆร้อนๆ (เลวเหมือนกันนะเรา เนี่ย ^^)
"หมอบ้าอะไรนัดทุกสิบสิงชั่วโมง"
ฉันก็ไม่เคยรู้จักเหมือนกันแหละ หมอบ้าอะไรนัดทุกสิบสองชั่วโมง
"เหอะน่า ฉันไปหาหมอนะ แล้วก็สัญญาว่าจะไม่ก่อเรื่องให้แกต้องเดือดร้อนอีก"
"งั้น...ให้ฉันไปเป็นเพื่อนมั้ย?"
น้ำใจงามจริงๆ แม่คู๊ณณ! =_=;
"ไม่เป็นไรรบกวนแกเปล่าๆ"
"รบกวนอะไร ไปหาหมอ"
ยังอีก
"ไม่ต้องไป คือฉันต้องแวะหลายที่ แกอยู่ที่นี่แหละ"
"เออๆ ก็ได้"
ฉันเดินออกมารอหน้าคอนโดฯ เพื่อที่จะมารอแท็กซี่ คอนโดฯที่ฉันอยู่ อยู่ใจกลางเมืองเลยหาแท็กซี่ได้ไม่ยากนัก
"ไปไหนครับ"
แท็กซี่ถาม
"ร้าน P. coffee คะ"
ไม่นานแท็กซี่ก็มาจอดหน้าร้าน....
~ P. coffee ~
ฉันเดินเข้ามาในร้านพบเซนอนนั่งรออยู่ที่โต๊ะมุมในสุด
"รอนานมั้ย?"
"ไม่เท่าไหร่หรอก"
"นายมีธุระอะไรกับฉัน"
"ฉันมีข้อเสนอ!!!!"
"???? ข้อเสนออะไร"
"ฉันอยากให้เธอช่วยทำไห้เชลซีกับคัพเค้กเลิกกัน?"
OoO !!!
"เลิกกัน???"
"อืม ใช่"
"ทำไมหละ ฉันว่าเค้าก็รักกันดีออก หรือว่านายอิจฉาเชลซีที่มีแฟนอย่างคัพเค้ก"
"นี่เธอ ฟังฉันก่อนซิ"
"......"
ฉันเงียบแล้วฟังเซนอน
"ที่ฉันอยากให้เลิกกัน ก็เพราะฉันสงสารไอ้ เชล ฉันรู้มาว่าคัพเค้กแอบคบกับไอ้ลิเวอร์"
OoO!! และนั่นมันยิ่งทำให้ฉันอึ้งมากๆ ฉันไม่อยากเชื่อว่าคนอย่างคัพเค้กจะทำอย่างนั้น
"ฉันไม่เชื่อ!!!"
"งั้นเธอดูนี่"
เซนอนหยิบรูปภาพประมาณสี่ห้ารูปที่วางอยู่ข้างๆเขาให้ฉันดูและภาพที่ปรากฎอยู่ตรงหน้า มันยิ่งทำให้ฉันตะลึง อึ้ง ทึ่ง ขึ้นเป็นร้อยเท่าพันเท่า ฉันแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลย
มันคือรูปหญิงสาวกับชายหนุ่มกำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม บริเวณขอบสนามฟุตบอลของโรงเรียน ซึ่งเป็นที่ลับตาคนพอสมควร ซึ่งฉันก็พอรู้มาบ้างว่าพี่ลิเวอร์ชอบสุมหัวอยู่ที่นี่พร้อมกับลูกน้องอีกหลายคน
"พะพี่ลิเวอร์กับคัพเค้ก....."
"ใช่ คัพเค้กคบกับไอ้ลิเวอร์ก่อนที่จะมาคบกับไอ้เชล แล้วตอนนี้สองคนนั่นก็ยังไม่เลิกกัน"
"เค้าทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร?"
"ต้องการแก้แค้น"
"เรื่อง....."
"ทุกเรื่อง ไอ้เชลกับไอ้ลิเวอร์ไม่ถูกกัน ไอ้ลิเวอร์มันแพ้ไอ้เชลในหลายๆเรื่อง มันต้องการที่จะแก้แค้น เลยใช้คัพเค้กเป็นเครื่องมือทำให้ไอ้เชลหลงรักแล้วก็ทิ้ง เพราะมันรู้จุดอ่อนของไอ้เชล"
ถึงว่าทำไมตอนเจอยัยคัพเค้กเป็นครั้งแรกถึงได้คุ้นหน้าจัง
"จุดอ่อนของเชลซี...???"
"ใช่ จุดอ่อนของไอ้เชลคือ'ผู้หญิง'ถ้ามันรักใครแล้วมันจะรักจริงไม่มีวันเปลี่ยนแปลงแต่..."
เซนอนเว้นคำพูด
"ถ้ามันรักใครแล้วมันจะรักไม่มีวันเปลี่ยนแปลง นอกซะจาก..."
เขาเว้นคำพูด รีบพูดมาเซ่ อยากรู้นะเฟ้ย
"ทำให้มันเกลียด มันจะไม่มีวันญาติดีด้วย"
หมอนี่น่ากลัวเหมือนกันแฮ่ะ
"แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วยหล่ะ"
"ฉันคิดว่าเธอน่าจะช่วยมันได้"
มั้นใจในตัวฉันขนาดนั้นเลยเหรอ!!
"ถ้าฉันช่วยฉันจะได้อะไรบ้าง"
"เธอเอาเชลซีไปเลยฉันยกให้ ^^"
เซนอนพูดอย่างกวนๆ ทำอย่างกับเป็นเจ้าของเชลซีซะอย่างนั้น
"จะบ้าเหรอ งั้นฉันไม่ช่วยแล้ว ):"
"ล้อเล่นน่าาาา!!!!!"
):
"เธอก็จะได้แก้แค้นไอ้ลิเวอร์ด้วยไงเล่า"
"......????"
"ก็เธอเคยชอบไอ้ลิเวอร์ไม่ใช่เหรอ ถ้าเธอทำให้เชลซีเลิกกับยัยคัพเค้ก แผนไอ้ลิเวอร์ก็จะพัง"
นายเลวมาเลยเซนอนคิดได้ไงเนี่ย แบบนี้ซินะที่เค้าเรียกว่าแผนซ้อนแผน สมกับที่เป็นเซนอนจริง ฉลาด เลว =_=;
"เอ่อ....ฉันขอคิดดูก่อนแล้วกัน"
"เธอไม่ต้องใช้สมองอันน้อยนิดของเธอคิดแล้วหรอก...เสียเวลา"
นี่เขาด่าฉันใช่มั้ย?
"งั้น...ฉันรับข้อเสนอของนายก็ได้"
"^^ ดีมาก"
ดูท่าทางเซนอนจะดีใจมากๆ
"แล้วฉันจะต้องทำยังไงบ้าง?"
"^^++"
ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไง.....
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ