”รูมเมท”เออ! กูรักมึงก็ได้(Yaoi)
8.7
เขียนโดย แครอทแคระ
วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 22.37 น.
2 chapter
5 วิจารณ์
15.44K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 4 กันยายน พ.ศ. 2556 12.09 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 2
“ซู้ดดดดดดดดด”
“หึหึ”
“ฮึ่มมม”
“เฮ้ออออ”
“พี่ณิช ช่วงนี้เรียนหนักไปรึป่าว? ให้น้าหมอเช็คสมงสมองบ้างไรบ้างก็ดีนะคะ ณุชเห็นคุณพี่ดื่มน้ำมะเขือเทศแก้วที่ห้า ถอนหายใจเจ็ดครั้ง มีอะไรหนักใจระบายให้ณุชฟังก็ได้นะ“
ผมมักจะเป็นแบบนี้เสมอครับ จะกินน้ำหลายลิตรชนิดที่อูฐบางตัวยังอายเสียชาติเกิด ไม่รู้สิ รู้สึกสมองปรี้ดปร้าดดี เวลามีเรื่องต้องคิดหรือกำลังเพ่งรวบรวมสมาธิทำอะไรๆ อย่างเช่นคิดวิธีเขี่ยไอ๊คิมออกจากชีวิตผมอยู่ตอนนี้ไงละครับ ตอนแรกผมก็ไม่ได้อะไรกับมันหรอกนะแต่ก็มีปัจจัยหลายๆที่ทำให้คิด !
“ไม่ไหวๆ รู้รึป่าวคะเขาว่ากันว่าถอนหายใจหนึ่งครั้งเท่ากับอายุสั้นหนึ่งปีนะคะ ณุชเป็นห้วงเป็นห่วงคุณพี่ กลัวไม่มีคนหารมรดกด้วย คริคริ”จีบปากจีบคอยักคิ้วลิ่วตา น่าจับกดลงชักโครกให้รู้แล้วรู้รอด เพิ่งรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา แกคิดอย่างนี้กับฉัน!!
“เขาที่ว่านี่คือแกตู่เองล่ะสิ”ทฤษฎีอะไรของมันวะ เฮ้ออ พูดแล้วก็ถอนหายใจแถมอีกรอบ
ยัยณุชลุกจากโซฟาริมหน้าต่าง มานั่งเก้าอี้ตรงข้ามผม จ้องหน้ากูทำไมนักหนาวะ??ต่อให้จ้องจนตาถลนกองตรงหน้าทองคำก็ไม่ผุดจากรูขุมขนกูหรอก!
“ ไหนจะทำหน้าตาชั่วร้ายตลอดเว ท่าทางโรคจิตๆพิกลๆ นั่นอีก เอ๊ะ! รึว่ากลัวพี่คิมมีบ้านเล็กบ้านน้อยคะ แหม พี่เขยเพิ่งกลับไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเองนะ คิดมากเป็นเมียหลวงห่วงผัวไปได้ พี่ณิชต้องเชื่อใจพี่คิมสิคะ อย่าให้ความหวาดระแวงเป็นบ่อเกิดความร้าวฉาน ”
มันพูดพร้อมเอื้อมมือตบบ่าให้กำลังใจผมสอง สามครั้ง ทำอย่างกับผมเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายรอคอยความตายอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ชอบจริงๆยัดเยียดให้กูเป็นเมียไอ๊เชี่ยนั่นเนี่ย โอ้ยย อยากจะด่าเจ็ดวันไม่ซ้ำ “แกใช้ตะตุ่มคิดรึไงวะ กลัวบ้าอะไร ที่พ่นๆออกมาแกคิดเองเออเองไม่พอยังยัดเยียดมาให้ฉันอีก ฉันบอกแกจนปากจะฉีกอยู่ละ ว่าฉันไม่ได้ชอบไอ๊เชี่ยคิมมมม ฉันไม่ได้ชอบผู้ชายยย ขีดเส้นใต้เลยนะ กู ไม่ ใช่ เกย์ จบนะ โว้ยยยย!!! จะไปไหนก็ไปไป๊ก่อนที่แกจะไม่มีลมหายใจ!!”
เร็วเท่าความคิดผมด่ารวดเดียวจบไม่ปล่อยจังหวะช่องไฟให้มันแทรก มันยักใหล่กวนอวัยวะเบื้องล่าง ดูท่ามันจะไม่สำนึกกลับทำสีหน้ากรุ้มกริ่ม แต่กูล่ะเหนื่อยย หายใจไม่ทัน
“เจ้าค่ะ ไม่คิดก็ไม่คิด ณุชไปก็ได้ พี่ณิชเองก็อย่ามัวแต่ซึนให้มากนะคะ เดี๋ยวจะ จุด จุด จุด Oops! คริคริ ไปเติมคำในช่องว่างเองนะคะ”นางเดินออกจากห้อง ไม่ลืมทิ้งประโยคน่าปวดหัวชวนจับกระโดดตบติดฝาบ้าน เสมอต้นเสมอปลายไหมละครับน้องสาวผม บอกได้คำเดียว เพลียยย
บรรยากาศภายในห้องกลับมาสงบอีกครั้ง เสียงนกเจี้ยวจ้าวเคล้าเสียงเสียดสีของใบไม้เขียวชอุ่ม ลมพัดเอื่อยๆหอบกลิ่นดินชื้นฤดูฝนสดชื่นและผ่อนคลาย ผมชอบบรรยากาศแบบนี้นะครับรู้สึกสงบดี ถ้าได้ชาฝรั่งกับคุกกี้แอลมอนด์สักชุดละแกเอ๋ยย ฟินนาเล่
อืมม จะทำยังไงให้ไอ๊เชี่ยนั่นออกจากชีวิตกูวะ จงเลือกข้อที่เหมาะสมที่สุดต่อไปนี้
1. แกล้งเดินลั้ลลาๆชนมันตกบันไดแล้วบอกว่ากูเมา ไม่ได้ตั้งใจดีไหม?
2. ชำแหละเฟอร์รารี่ลูกรักของมัน ชั่งกิโลขายดี?
3. ทำตัวงี่เง่าๆน่ารำคาญจนมันทนไม่ได้ขนข้าวขนของหนีออกจากห้องดีวะ?
4. จับมันทำเมียอย่างที่ยัยณุชมันว่า!!มันทนเสียเอกราชให้ผมไม่ได้เดี๋ยวก็ขนเสื้อผ้าหนีเองแหละ วะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
5. ถูกทุกข้อ
ข้อแรกตัดไป ไม่เอาๆๆขืนมันพิการหรือตายผมทำมันคืนแม่มันไม่ได้ด้วยสิ อนาคตผมบรรลัยแน่
ข้อสองไม่ดีๆ ข้ามๆๆ ถ้าทำจริงผมคงถูกชำแหละตามไล่เลี่ยกับลูกรักของมันแน่ๆ วีรกรรมมันเยอะเป็นหางว่าวขนาดนั้นผมคงไม่กล้าแหยมกับมัน
ข้อสาม อืมน่าคิดแหะ
ส่วนข้อสี่ เอิ่ม กูคิดได้ไงวะเปลืองตัวชิบ กูคงปล้ำมันได้หรอกตัวอย่างกับควายธนูกลับชาติมาเกิด
โว้ยยยย!! เอาเป็นว่าใครคิดออกกรุณาบอกผมหลังไมค์ด้วยนะครับ ถือว่าช่วยหมาช่วยแมวก็ได้ ผมไม่มีอะไรตอบแทนนะครับ มีแต่ความจริงใจที่มีต่อผู้อ่านน ฮิ้วววว
ผมเหลือบไปดูนาฬิกาติดผนัง ตายห่าเกือบสามทุ่มแล้ว ยังไม่ได้แตะหนังสือสักตัววันจันทร์ต้องพรีเซนงานอีก ถ้าไม่ผ่านไอ๊แบงค์ ไอ๊บอลลูนจับผมฆ่าหมกป่าเป็นศพไร้ญาติแน่ ฮึ่ยย เพราะมึงคนเดียวไอ๊คิม ขนาดตัวมึงไม่อยู่ยังตามมาหลอกหลอนผลาญเวลาอันมีค่ามูลค่าร้อยล้านของกู อย่าให้กูเจอหน้ามึงนะ ซัดหน้าแม่ง!!
,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,, ก๊อกๆๆๆๆ
“คุณณิชคะ ตื่นรึยังคะ”
ก๊อกๆๆๆๆ
“งืมมม”ใครเคาะประตูตั้งแต่เช้าวะ หนวกหูเว้ยยย หยุดสักทีเหอะ คนจะหลับจะนอน กูเพิ่งนอนสามชั่วโมงเองนะ ผมเอาหัวซุกผ้านวมผืนหนา สบายยจัง
“คุณณิชคะ คุณคิมมารอพบด้านล่างค่ะ”
“ค้าบบบ บอกให้มันรออยู่นั่นแหละครับ ณิชขออาบน้ำก่อนแล้วจะลงไป”ผมลุกงัวเงียๆตัดความรำคาญก่อนลุกหยิบนาฬิกาข้างหัวเตียงขึ้นดู ให้ตายเหอะ เจ็ดโมงสิบห้าเนี่ยนะ มึงจะรีบส่งลูกส่งเมียมึงไปโรงเรียนรึไงวะ โวะ!
ผมถอดเสื้อผ้าทั้งหมดไม่เหลือแม้กระทั่งกางเกงนุย สภาพล่อนจ้อนไม่อายใครแบบนี้ละคับ เดินโทงเทงๆไปหยิบผ้าเช็ดตัวก่อนจะเข้าห้องน้ำชำระล้างร่างกายให้สดชื่น อ้าว สบู่เหลวหมด ผมออกจากห้องน้ำทั้งแบบนั้นแหละ ตรงดิ่งไปยังช่องเก็บของหน้าประตู ก้มตัวลงเปิดลิ้นชักช่องสุดท้ายหยิบสบู่เหลวกลิ่นดอกบัวกลิ่นที่ผมมักใช้ อูยย ปวดหลังชิบ วันหลังต้องย้ายไว้บนๆแล้วแหละ ก้มทีกระดูกแทบหัก
“แกร็ก”
“อ้าว ประตูไม่ได้ล็อกนี่หว่า ปล่อยให้กูเคาะจนมือกูซ้……… เฮ้ยยยย!!”
“เฮ้ยยยยยยยยย ไอ้เชี่ยยยยยยยย “ ผมรีบหาผ้าหรืออะไรแถวนั้นสักอย่างไม่รู้เหมือนกันมันรวดเร็วมาก มาปกปิดส่วนที่สมควรปกปิดล่อแหลมเอาไว้ มันฉุกลหุกมาก
“มึงเห็นไหม ๆๆๆ ไม่เห็นใช่ไหม? “พูดจนลิ้นแทบจะพันกันละ ขอให้มันไม่เห็นเถอะ ตอนนี้กูอยากเป็นขอมมุดดินทะลุแก่นโลกให้รู้แล้วรู้รอด บอกตรงๆว่าโคตรอาย ถึงจะเห็นผมแบบนี้ก็เหอะ แต่ยางอายผมยังฉาบหนังหน้าหลายชั้นอยู่นะครับ
“เอ่อ ไม่เห็นๆๆ ……..มั้ง? รีบใส่เสื้อผ้าซะ วู้วว คิดไรมากวะ มึงผู้ชายกูก็ผู้ชาย ไม่เห็นมีอะไรต้องเสีย ต่อให้มึงอ่อยออดอ้อนกูจนตายกูก็ไม่หน้ามืดตามัวจับมึงทำเมีย อีกอย่างของมึงเล็กนิดเดียวกูไม่ทันมองหรอก สบายใจได้” ไอ๊เชี่ยยย ถ้ามึงจับกูปล้ำขึ้นมานะอย่าหวังว่าน้องชายชาเขียวมึงจะมีชีวิตอยู่ กูจะตัดไปจำนำ!! ตอนแรกเหมือนจะปลอบให้กูสบายใจนะ แต่ก็อย่างว่า ไอ๊เชี่ยคิมมันก็คือไอ๊เชี่ยคิมวันยันค่ำ ความเลวเสมอต้นเสมอปลาย มึงกล้ามากนะดูถูกดูแคลนน้องชายน่าภูมิใจของกู!!
แล้วมันจะหน้าแดงเซหน้าชมนกชมไม้ตรวจหาแมลงสาบในห้องกูรึไงวะ เกาหัวแกรกๆทำตัวเป็นสาวน้อยผู้อ่อนต่อโลกมันช่างสวนทางกับสภาพหนังหน้ามันสิ้นดี ไหนมึงบอกไม่เห็นไง!
“มึงกล้าดียังไง มาดูถูกน้องชายกู!! ไหนบอกว่าไม่เห็น มึง…มึงโกหกกูใช่มั้ย!! มึงเข้ามาได้ไง มารยาทน่ะมีมั้ยย? ประตูมีหัดเคาะซะมั่ง รู้รึเปล่าว่าห้องนอนคือ ห้อง ส่วน ตัว!!มึงเข้าใจใช่มั้ย!! อ้ากกกก”ผมพยายามรวบรวมสติน้อยนิดไปไว้บนดาวดวงไหนสักดวงบนเอกภพ
“เออ กูไม่เห็นอะไรทั้งนั้นแหละ น้องณุชบอกให้กูมาปลุกมึงบนห้อง แล้วอีกอย่างกูเคาะประตูจนมือจะซ้นอยู่ละมึงยังไม่เสนอหน้ามาเปิด กูเลยเข้ามาแล้วก็… เอ่อ…. กูออกไปรอข้างนอกดีกว่า เร็วๆหน่อยละกัน เดี๋ยวสายๆรถติด ร้อน”มันพูดไว้แค่นั้นก่อนจะเปิดประตู เดี๋ยวนะ ยัยณุชชชงันหรอ เดี๋ยวมีเคลียร์ๆเอาไว้ทีหลังก่อน แต่ตอนนี้ใครจะให้มันจบแค่นี้ฟระ ไวเท่าความคิดผมกระชากแขนร่างสูง เต็มแรงไม่มีลิมิตชีวิตเกินร้อย
“เดี๋ยว เฮ้ยยยยย”
โครมมมมมม!!!!!
“อุ๊ปปป O O…..”เหตุการณ์แบบนี้ คุ้นๆไหมครับ? มันเกิดขึ้นในชีวิตผมจริงเหมือนละครน้ำเน่าหลังข่าว แต่มันผิดตรงที่ว่า นางเอกเป็นผู้ชายยย!!! กูไม่ปลื้มมม อ้ากกกกกกกก
แกรก
“เสียงเอะอะโวยวายอะไรคะ ดังเจ็ดบ้านแปดบ้าน แล้……อุยตาย ว้ายย กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
อย่านะ อย่าเพิ่งเข้าใจผมผิดนะ ฮือออออ
TBC
。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。
สวัสดีค้าบบบบทั่นผู้อ่าน ตอนนี้ก็ตอนที่สองแล้ว ก่อนอื่นต้องขอประทานอภัยเป็นอย่างสูงที่ลงช้าไปหน่อย ฮ่าๆ เป็นยังไงบ้างครับ อ่านๆไปก็สงสารปนสมน้ำหน้าณิชไป ฮ่าๆๆ อ่านจบแล้วเม้นติชม เป็นกำลังใจไรท์ด้วยนะค้าบบบ เจอกันตอนหน้านะครัล
“ซู้ดดดดดดดดด”
“หึหึ”
“ฮึ่มมม”
“เฮ้ออออ”
“พี่ณิช ช่วงนี้เรียนหนักไปรึป่าว? ให้น้าหมอเช็คสมงสมองบ้างไรบ้างก็ดีนะคะ ณุชเห็นคุณพี่ดื่มน้ำมะเขือเทศแก้วที่ห้า ถอนหายใจเจ็ดครั้ง มีอะไรหนักใจระบายให้ณุชฟังก็ได้นะ“
ผมมักจะเป็นแบบนี้เสมอครับ จะกินน้ำหลายลิตรชนิดที่อูฐบางตัวยังอายเสียชาติเกิด ไม่รู้สิ รู้สึกสมองปรี้ดปร้าดดี เวลามีเรื่องต้องคิดหรือกำลังเพ่งรวบรวมสมาธิทำอะไรๆ อย่างเช่นคิดวิธีเขี่ยไอ๊คิมออกจากชีวิตผมอยู่ตอนนี้ไงละครับ ตอนแรกผมก็ไม่ได้อะไรกับมันหรอกนะแต่ก็มีปัจจัยหลายๆที่ทำให้คิด !
“ไม่ไหวๆ รู้รึป่าวคะเขาว่ากันว่าถอนหายใจหนึ่งครั้งเท่ากับอายุสั้นหนึ่งปีนะคะ ณุชเป็นห้วงเป็นห่วงคุณพี่ กลัวไม่มีคนหารมรดกด้วย คริคริ”จีบปากจีบคอยักคิ้วลิ่วตา น่าจับกดลงชักโครกให้รู้แล้วรู้รอด เพิ่งรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา แกคิดอย่างนี้กับฉัน!!
“เขาที่ว่านี่คือแกตู่เองล่ะสิ”ทฤษฎีอะไรของมันวะ เฮ้ออ พูดแล้วก็ถอนหายใจแถมอีกรอบ
ยัยณุชลุกจากโซฟาริมหน้าต่าง มานั่งเก้าอี้ตรงข้ามผม จ้องหน้ากูทำไมนักหนาวะ??ต่อให้จ้องจนตาถลนกองตรงหน้าทองคำก็ไม่ผุดจากรูขุมขนกูหรอก!
“ ไหนจะทำหน้าตาชั่วร้ายตลอดเว ท่าทางโรคจิตๆพิกลๆ นั่นอีก เอ๊ะ! รึว่ากลัวพี่คิมมีบ้านเล็กบ้านน้อยคะ แหม พี่เขยเพิ่งกลับไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเองนะ คิดมากเป็นเมียหลวงห่วงผัวไปได้ พี่ณิชต้องเชื่อใจพี่คิมสิคะ อย่าให้ความหวาดระแวงเป็นบ่อเกิดความร้าวฉาน ”
มันพูดพร้อมเอื้อมมือตบบ่าให้กำลังใจผมสอง สามครั้ง ทำอย่างกับผมเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายรอคอยความตายอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ชอบจริงๆยัดเยียดให้กูเป็นเมียไอ๊เชี่ยนั่นเนี่ย โอ้ยย อยากจะด่าเจ็ดวันไม่ซ้ำ “แกใช้ตะตุ่มคิดรึไงวะ กลัวบ้าอะไร ที่พ่นๆออกมาแกคิดเองเออเองไม่พอยังยัดเยียดมาให้ฉันอีก ฉันบอกแกจนปากจะฉีกอยู่ละ ว่าฉันไม่ได้ชอบไอ๊เชี่ยคิมมมม ฉันไม่ได้ชอบผู้ชายยย ขีดเส้นใต้เลยนะ กู ไม่ ใช่ เกย์ จบนะ โว้ยยยย!!! จะไปไหนก็ไปไป๊ก่อนที่แกจะไม่มีลมหายใจ!!”
เร็วเท่าความคิดผมด่ารวดเดียวจบไม่ปล่อยจังหวะช่องไฟให้มันแทรก มันยักใหล่กวนอวัยวะเบื้องล่าง ดูท่ามันจะไม่สำนึกกลับทำสีหน้ากรุ้มกริ่ม แต่กูล่ะเหนื่อยย หายใจไม่ทัน
“เจ้าค่ะ ไม่คิดก็ไม่คิด ณุชไปก็ได้ พี่ณิชเองก็อย่ามัวแต่ซึนให้มากนะคะ เดี๋ยวจะ จุด จุด จุด Oops! คริคริ ไปเติมคำในช่องว่างเองนะคะ”นางเดินออกจากห้อง ไม่ลืมทิ้งประโยคน่าปวดหัวชวนจับกระโดดตบติดฝาบ้าน เสมอต้นเสมอปลายไหมละครับน้องสาวผม บอกได้คำเดียว เพลียยย
บรรยากาศภายในห้องกลับมาสงบอีกครั้ง เสียงนกเจี้ยวจ้าวเคล้าเสียงเสียดสีของใบไม้เขียวชอุ่ม ลมพัดเอื่อยๆหอบกลิ่นดินชื้นฤดูฝนสดชื่นและผ่อนคลาย ผมชอบบรรยากาศแบบนี้นะครับรู้สึกสงบดี ถ้าได้ชาฝรั่งกับคุกกี้แอลมอนด์สักชุดละแกเอ๋ยย ฟินนาเล่
อืมม จะทำยังไงให้ไอ๊เชี่ยนั่นออกจากชีวิตกูวะ จงเลือกข้อที่เหมาะสมที่สุดต่อไปนี้
1. แกล้งเดินลั้ลลาๆชนมันตกบันไดแล้วบอกว่ากูเมา ไม่ได้ตั้งใจดีไหม?
2. ชำแหละเฟอร์รารี่ลูกรักของมัน ชั่งกิโลขายดี?
3. ทำตัวงี่เง่าๆน่ารำคาญจนมันทนไม่ได้ขนข้าวขนของหนีออกจากห้องดีวะ?
4. จับมันทำเมียอย่างที่ยัยณุชมันว่า!!มันทนเสียเอกราชให้ผมไม่ได้เดี๋ยวก็ขนเสื้อผ้าหนีเองแหละ วะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
5. ถูกทุกข้อ
ข้อแรกตัดไป ไม่เอาๆๆขืนมันพิการหรือตายผมทำมันคืนแม่มันไม่ได้ด้วยสิ อนาคตผมบรรลัยแน่
ข้อสองไม่ดีๆ ข้ามๆๆ ถ้าทำจริงผมคงถูกชำแหละตามไล่เลี่ยกับลูกรักของมันแน่ๆ วีรกรรมมันเยอะเป็นหางว่าวขนาดนั้นผมคงไม่กล้าแหยมกับมัน
ข้อสาม อืมน่าคิดแหะ
ส่วนข้อสี่ เอิ่ม กูคิดได้ไงวะเปลืองตัวชิบ กูคงปล้ำมันได้หรอกตัวอย่างกับควายธนูกลับชาติมาเกิด
โว้ยยยย!! เอาเป็นว่าใครคิดออกกรุณาบอกผมหลังไมค์ด้วยนะครับ ถือว่าช่วยหมาช่วยแมวก็ได้ ผมไม่มีอะไรตอบแทนนะครับ มีแต่ความจริงใจที่มีต่อผู้อ่านน ฮิ้วววว
ผมเหลือบไปดูนาฬิกาติดผนัง ตายห่าเกือบสามทุ่มแล้ว ยังไม่ได้แตะหนังสือสักตัววันจันทร์ต้องพรีเซนงานอีก ถ้าไม่ผ่านไอ๊แบงค์ ไอ๊บอลลูนจับผมฆ่าหมกป่าเป็นศพไร้ญาติแน่ ฮึ่ยย เพราะมึงคนเดียวไอ๊คิม ขนาดตัวมึงไม่อยู่ยังตามมาหลอกหลอนผลาญเวลาอันมีค่ามูลค่าร้อยล้านของกู อย่าให้กูเจอหน้ามึงนะ ซัดหน้าแม่ง!!
,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,, ก๊อกๆๆๆๆ
“คุณณิชคะ ตื่นรึยังคะ”
ก๊อกๆๆๆๆ
“งืมมม”ใครเคาะประตูตั้งแต่เช้าวะ หนวกหูเว้ยยย หยุดสักทีเหอะ คนจะหลับจะนอน กูเพิ่งนอนสามชั่วโมงเองนะ ผมเอาหัวซุกผ้านวมผืนหนา สบายยจัง
“คุณณิชคะ คุณคิมมารอพบด้านล่างค่ะ”
“ค้าบบบ บอกให้มันรออยู่นั่นแหละครับ ณิชขออาบน้ำก่อนแล้วจะลงไป”ผมลุกงัวเงียๆตัดความรำคาญก่อนลุกหยิบนาฬิกาข้างหัวเตียงขึ้นดู ให้ตายเหอะ เจ็ดโมงสิบห้าเนี่ยนะ มึงจะรีบส่งลูกส่งเมียมึงไปโรงเรียนรึไงวะ โวะ!
ผมถอดเสื้อผ้าทั้งหมดไม่เหลือแม้กระทั่งกางเกงนุย สภาพล่อนจ้อนไม่อายใครแบบนี้ละคับ เดินโทงเทงๆไปหยิบผ้าเช็ดตัวก่อนจะเข้าห้องน้ำชำระล้างร่างกายให้สดชื่น อ้าว สบู่เหลวหมด ผมออกจากห้องน้ำทั้งแบบนั้นแหละ ตรงดิ่งไปยังช่องเก็บของหน้าประตู ก้มตัวลงเปิดลิ้นชักช่องสุดท้ายหยิบสบู่เหลวกลิ่นดอกบัวกลิ่นที่ผมมักใช้ อูยย ปวดหลังชิบ วันหลังต้องย้ายไว้บนๆแล้วแหละ ก้มทีกระดูกแทบหัก
“แกร็ก”
“อ้าว ประตูไม่ได้ล็อกนี่หว่า ปล่อยให้กูเคาะจนมือกูซ้……… เฮ้ยยยย!!”
“เฮ้ยยยยยยยยย ไอ้เชี่ยยยยยยยย “ ผมรีบหาผ้าหรืออะไรแถวนั้นสักอย่างไม่รู้เหมือนกันมันรวดเร็วมาก มาปกปิดส่วนที่สมควรปกปิดล่อแหลมเอาไว้ มันฉุกลหุกมาก
“มึงเห็นไหม ๆๆๆ ไม่เห็นใช่ไหม? “พูดจนลิ้นแทบจะพันกันละ ขอให้มันไม่เห็นเถอะ ตอนนี้กูอยากเป็นขอมมุดดินทะลุแก่นโลกให้รู้แล้วรู้รอด บอกตรงๆว่าโคตรอาย ถึงจะเห็นผมแบบนี้ก็เหอะ แต่ยางอายผมยังฉาบหนังหน้าหลายชั้นอยู่นะครับ
“เอ่อ ไม่เห็นๆๆ ……..มั้ง? รีบใส่เสื้อผ้าซะ วู้วว คิดไรมากวะ มึงผู้ชายกูก็ผู้ชาย ไม่เห็นมีอะไรต้องเสีย ต่อให้มึงอ่อยออดอ้อนกูจนตายกูก็ไม่หน้ามืดตามัวจับมึงทำเมีย อีกอย่างของมึงเล็กนิดเดียวกูไม่ทันมองหรอก สบายใจได้” ไอ๊เชี่ยยย ถ้ามึงจับกูปล้ำขึ้นมานะอย่าหวังว่าน้องชายชาเขียวมึงจะมีชีวิตอยู่ กูจะตัดไปจำนำ!! ตอนแรกเหมือนจะปลอบให้กูสบายใจนะ แต่ก็อย่างว่า ไอ๊เชี่ยคิมมันก็คือไอ๊เชี่ยคิมวันยันค่ำ ความเลวเสมอต้นเสมอปลาย มึงกล้ามากนะดูถูกดูแคลนน้องชายน่าภูมิใจของกู!!
แล้วมันจะหน้าแดงเซหน้าชมนกชมไม้ตรวจหาแมลงสาบในห้องกูรึไงวะ เกาหัวแกรกๆทำตัวเป็นสาวน้อยผู้อ่อนต่อโลกมันช่างสวนทางกับสภาพหนังหน้ามันสิ้นดี ไหนมึงบอกไม่เห็นไง!
“มึงกล้าดียังไง มาดูถูกน้องชายกู!! ไหนบอกว่าไม่เห็น มึง…มึงโกหกกูใช่มั้ย!! มึงเข้ามาได้ไง มารยาทน่ะมีมั้ยย? ประตูมีหัดเคาะซะมั่ง รู้รึเปล่าว่าห้องนอนคือ ห้อง ส่วน ตัว!!มึงเข้าใจใช่มั้ย!! อ้ากกกก”ผมพยายามรวบรวมสติน้อยนิดไปไว้บนดาวดวงไหนสักดวงบนเอกภพ
“เออ กูไม่เห็นอะไรทั้งนั้นแหละ น้องณุชบอกให้กูมาปลุกมึงบนห้อง แล้วอีกอย่างกูเคาะประตูจนมือจะซ้นอยู่ละมึงยังไม่เสนอหน้ามาเปิด กูเลยเข้ามาแล้วก็… เอ่อ…. กูออกไปรอข้างนอกดีกว่า เร็วๆหน่อยละกัน เดี๋ยวสายๆรถติด ร้อน”มันพูดไว้แค่นั้นก่อนจะเปิดประตู เดี๋ยวนะ ยัยณุชชชงันหรอ เดี๋ยวมีเคลียร์ๆเอาไว้ทีหลังก่อน แต่ตอนนี้ใครจะให้มันจบแค่นี้ฟระ ไวเท่าความคิดผมกระชากแขนร่างสูง เต็มแรงไม่มีลิมิตชีวิตเกินร้อย
“เดี๋ยว เฮ้ยยยยย”
โครมมมมมม!!!!!
“อุ๊ปปป O O…..”เหตุการณ์แบบนี้ คุ้นๆไหมครับ? มันเกิดขึ้นในชีวิตผมจริงเหมือนละครน้ำเน่าหลังข่าว แต่มันผิดตรงที่ว่า นางเอกเป็นผู้ชายยย!!! กูไม่ปลื้มมม อ้ากกกกกกกก
แกรก
“เสียงเอะอะโวยวายอะไรคะ ดังเจ็ดบ้านแปดบ้าน แล้……อุยตาย ว้ายย กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
อย่านะ อย่าเพิ่งเข้าใจผมผิดนะ ฮือออออ
TBC
。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。
สวัสดีค้าบบบบทั่นผู้อ่าน ตอนนี้ก็ตอนที่สองแล้ว ก่อนอื่นต้องขอประทานอภัยเป็นอย่างสูงที่ลงช้าไปหน่อย ฮ่าๆ เป็นยังไงบ้างครับ อ่านๆไปก็สงสารปนสมน้ำหน้าณิชไป ฮ่าๆๆ อ่านจบแล้วเม้นติชม เป็นกำลังใจไรท์ด้วยนะค้าบบบ เจอกันตอนหน้านะครัล
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ