Sense อาถรรพ์ลูกแก้วมรณะ

9.7

เขียนโดย Alice

วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.11 น.

  8 Part
  1 วิจารณ์
  11.48K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 กันยายน พ.ศ. 2556 11.25 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) คำลาสุดท้าย ^^

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                      “จียอนฉันขอโทษนะตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันยอมรับว่าฉันไม่สามารถลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เลย...รู้สึกผิดมาโดยตลอด...ฮือๆ...ฉันหน่ะ...มันก็แค่คนเลวๆคนนึงทำลายได้แม้กระทั่งชีวิตแล้วก็อนาคตของเพื่อน...ทำให้เพื่อนต้องเจ็บปวดทรมานใจมากมายขนาดนี้  ฉันมันขี้ขลาดเองแหละจียอนฉันขอโทษที่ช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย...ฮือๆ...ถ้าวันนั้นฉันกล้าขัดคำสั่งของมินซุนเธอคงจะไม่ต้องเป็นแบบนี้...ฮือๆ”  ยุนจีนพูดพลางคุกเข่าขอโทษจียอน

 

                        “พวกเราเองก็มีส่วนผิดพวกเราขอโทษนะจียอน  ยกโทษให้พวกเราด้วยนะ”  เพื่อนๆทุกคนคุกเข่าต่อหน้าจียอน

 

                        “นี่พวกเธอ...”  จียอนถึงกับน้ำตาซึมเมื่อเห็นเพื่อนๆทุกคนคุกเข่าเพื่อขอโทษ

 

                        “ให้อภัยคนขี้ขลาดอย่างพวกเราด้วยเถอะนะ”  ทุกคนพูดพร้อมกัน

 

                        “...อ...อืมได้สิ...ก็เรามันเพื่อนกันนี่นาเพื่อนกันจะโกรธกันลงได้ยังไงล่ะ”  จียอนยิ้มบางให้กับทุกคน

 

                        “จียอน...”  ลียองเรียก

 

                        “ลียองฟังฉันนะ...ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง  ความรักที่นายมีต่อฉัน...ฉันจะจดจำมันตลอดไป...สร้อยเส้นนั้นฉันกะว่าจะให้นายดูแลมันไว้...เวลานายท้อแท้  หรือแม้แต่เวลาที่นายมีความสุขขอให้นายรู้ไว้อย่างนึงว่าฉันจะอยู่เคียงข้างนายตลอดไป...เพราะฉันจะอยู่ในนี้ในใจของนายตลอดไป”  จียอนพูดลียองได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก

 

                        “จียอนฉันจะทำฝันของเธอให้เป็นจริงอีกไม่นานหรอกนะ  ถ้าเธอยังอยู่ในใจของฉันเราจะไปเที่ยวเกาะด้วยกันไปทำฝันของเราให้เป็นจริงยังไงล่ะ”

 

                        “อืม...จ๊ะ”  ตอนนี้ทุกคนต่างก็มีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข  ในใจของฉันในตอนนี้รู้สึกหวั่นๆใจเล็กน้อยว่าช่วงเวลานับจากนี้จียอนกำลังจะจากฉันไป

 

                        “เฮวอนอย่าทำหน้าแบบนั้นสิ”  จียอนเอามือมาปาดน้ำตาบนแก้มของฉันออก

 

                        “จียอนเธอกำลังจะไปใช่ไหม”  ฉันถาม

 

                        “อืม...อีกไม่นานหรอก”

 

                        “แล้วเราจะได้เจอกันอีกไหม  จียอนฉันไม่อยากให้ถึงเวลานั้นเลยวันนี้ฉันรู้สึกดีมากเลยที่เจอเธออีกครั้งจียอน  อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้รู้ว่าเธอยังคงอยู่ข้างๆฉัน”

 

                        “ฉันเองก็รู้สึกดีใจนะที่ได้มารู้จักกับเธอ  เธอเป็นฮีโร่ของฉันนะเฮวอน...เธอทำดีที่สุดแล้วล่ะอย่ารู้สึกผิดเลยนะฉันรู้ว่าเธอพยายามมากแค่ไหน  ต่อจากนี้เราคงจะไม่ได้เจอกันอีกเธอเองก็มีแทฮุนอยู่เคียงข้างแล้ว...ฉันเชื่อว่าเธอจะไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว  แทฮุนคราวนี้นายต้องรับปากฉันให้ได้นะว่าจะดูแลเฮวอนอย่างดีที่สุด”  จียอนหันไปพูดกับแทฮุนบ้าง

 

                        “ได้สิฉันรับปาก”  แทฮุนพูด

 

                        “เราจะไม่ได้อยู่เคียงข้างกันตลอดไปอีกแล้วใช่ไหมจียอน”  ฉันพูดขึ้นบ้าง

 

                        “ไม่หรอกเฮวอนฉันยังอยู่กับเธอตลอดไป  เพียงแค่ต่อจากนี้ฉันจะเป็นส่วนหนึ่งของอากาศและยังคงอยู่รอบๆตัวเธอตลอดไป”  จียอนพูดพลางกอดฉันไว้ก่อนที่ร่างของจียอนจะค่อยๆสลายไปกับอากาศ

 

                        “ลาก่อนจียอนเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับฉัน เราจะมีกันตลอดไป”  ฉันพูดก่อนที่สายลมที่หมุนอยู่รอบๆจะค่อยๆพัดผ่านไป  ท้องฟ้าที่เคยมืดกลับมาสว่างอีกครั้งทุกคนต่างก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจที่ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่มีอาถรรพ์ลูกแก้วอีกต่อไป

 

                        2 เดือนผ่านไปวันปิดภาคเรียนก็มาถึงนี่คงจะเป็นวันที่ทุกคนจะต้องเดินทางไปตามฝันของตัวเอง ชีวิตในรั้ว ม.ปลายจะต้องสิ้นสุดลงสักที

 

                        “ดีใจจังในที่สุดเราทั้งสามคนก็เรียนจบม.ปลายสักที”  ฉันพูดขึ้นหลังจากเสร็จสิ้นพิธีการมอบประกาศนียบัตรจบการศึกษา

 

                        “ใช่...แล้วอีกอย่างเราสามคนยังโชคดีที่สอบติดมหาลัยเดียวกันอีกอ่ะ”  ลียองพูดขึ้น

 

                        “สอบติดแล้วไง  ฉันไม่ได้เรียนคณะเดียวกันกับเฮวอนเซ็งสุดๆเลย”  แทฮุนพูดขึ้นบ้าง

 

                        “ให้มันน้อยๆหน่อยเหอะ  ฉันแอบอิจฉานายมากๆเลยรู้ป่ะที่นายสอบติดแพทย์...หรือว่านายอยากเรียนเภสัช...อ๋อรู้แล้วทำไมถึงอยากเรียนกับฉัน  ที่แท้นายก็อยากจะจีบเพื่อนที่คณะฉันใช่ไหมล่ะรู้ทันหรอกน่า...ชิ”  ฉันพูด

 

                        “เอาอีกแล้วนะสองคนนี้ทะเลาะกันอีกแล้ว”

 

                        “หุบปากเงียบไปเลยลียอง  ก็ใช่ซี๊นายกับเฮวอนได้เรียนคณะเดียวกันนี่จะไปเข้าใจหัวอกคนห่างแฟนได้ยังไงล่ะ  อยู่คนเดียวเพื่อนก็ไม่มีเจอแต่คนที่ไม่รู้จัก”  แทฮุนตัดพ้อจนฉันกับลียองอดหัวเราะไม่ได้

 

                        “น่าสงสารเนอะ  เอางี้ไหนๆก็จบม.ปลายแล้วเราไปฉลองกันที่ทะเลกันดีไหมจะได้ไปช่วยกันสร้างปราสาททรายหลังใหญ่ๆให้จียอนไง  แล้วอีกอย่างเราก็จะได้ไปพักผ่อนด้วยไง”  ฉันเสนอ

 

                        “อืมก็ดีนะความฝันของจียอนจะได้เป็นจริงซักที  ที่นั่นหน่ะทะเลสวยมากๆเลยล่ะแต่จียอนไม่มีโอกาสได้ไปเราเลยสัญญากันว่าเราจะไปที่นั่นด้วยกันวันจบ ม.ปลาย”  ลียองพูด

 

                        “งั้นจะรออะไรล่ะก็ไปกันเลยสิ”  แทฮุนพูด

 

                        “เอ่อ...เดี๋ยวสิเราต้องไปหาคนๆนึงก่อน”  ลียองพูดก่อนเราทั้งสามคนจะขึ้นแท็กซี่มาที่โรงพยาบาลจิต

 

                        “เฮ้ย...นี่มันโรงพยาบาลจิตนี่นานายพาฉันมาที่นี่ทำไม”  แทฮุนถาม

 

                        “ตามมาเถอะน่าอย่าถามมาก”  ลียองเดินนำเข้าไปในห้องๆหนึ่ง

 

                        “นั่นมัน...เฮมินนี่  ลียองนี่มันอะไรกันหน่ะไหนครูบอกพวกเราว่าเฮมินไม่สบายก็เลยย้ายออกไปเรียนต่อที่เมืองนอกไง  แล้วทำไมเฮมินมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ”  ฉันถาม

 

                        “เฮมินเค้าป่วยทางจิตหน่ะ  ก็เลยต้องมาอยู่ที่นี่ฉันเองก็เพิ่งรู้ว่าเฮมินอยู่ตัวคนเดียวไม่มีญาติที่ไหน”  ลียองพูด

 

                        “แล้วพ่อแม่ของเฮมินล่ะ  ไหนเฮมินบอกกับฉันว่าพ่อแม่ของเธอไปทำงานที่อังกฤษไม่ใช่หรอก็เลยไม่ค่อยได้มาเยี่ยมเธอที่โซลซักเท่าไหร่นานๆจะมาที”  แทฮุนพูด

 

                        “เฮมินไม่มีพ่อแม่หรอก  พ่อแม่เธอเสียชีวิตตอนเธออายุสี่ขวบจากเหตุเครื่องบินตกตอนที่เค้าบินกลับไปที่อังกฤษหลังจากมาเยี่ยมเฮมินที่โซล  ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฮมินพยายามหนีความจริงมาโดยตลอดจนในที่สุดเธอก็เริ่มป่วยทางจิต”  ลียองเล่า

 

                        “น่าสงสารเฮมินจังเลยเนอะ...แทฮุนนายเข้าไปคุยกับเฮมินสินฉันว่าเค้าคงอยากจะเจอกับนายนะ”ฉันพูด

 

                        “อืม”  แทฮุนเดินเข้าไปหาเฮมินซึ่งกำลังส่องกระจกอย่างเอาจริงเอาจัง

 

                        “หวัดดี”  เฮมินพูดขึ้น

 

                        “อือ...หวัดดีเฮมินทำอะไรอยู่หรอ”  แทฮุนถามขึ้น

 

                        “กำลังจะแต่งหน้าสวยๆไว้รอพ่อกับแม่ท่านกำลังจะกลับมาจากอังกฤษมาหาฉัน”  เฮมินพูด

 

                        “ดีใจด้วยนะ”

 

                        “ดีใจทำไม  ทำไมต้องดีใจหรอ...เอ่อ...ขอโทษนะเรารู้จักกันหรอ...อ๋อ...คงเป็นคุณหมอคนใหม่สินะนั่นก็พยาบาลใหม่  อืม...แต่คนนั้นคุณหมอคนเก่า”  เฮมินชี้ไปที่ลียองคนสุดท้ายคุณหมอคนเก่า!!! แสดงว่าลียองก็มาที่นี่บ่อยหน่ะสิ

 

                        “เฮมินหน่ะลืมเรื่องราวที่ปวดร้าวของตัวเองไปหมดแล้วล่ะ  เฮมินอยู่ในโลกส่วนตัวที่เธอได้สร้างมันขึ้นมาเอง”

 

                        “ลียองนายมาที่นี่บ่อยหรอ”  ฉันถามขึ้น

 

                        “คุณหมอมาที่นี่ทุกๆเย็นค่ะคุณพยาบาล”  เฮมินพูดแทนลียอง

 

                        “อืม...เฮมินฉันคงจะไม่ได้มาที่นี่อีกหลายวันนะ  ฉันก็เลยจะมาบอกเธอไว้ก่อน”  ลียองพูด

 

                        “คุณหมอจะไปไหนหรอคะ”

 

                        “ฉันจะไปพักผ่อนกับเพื่อนๆหน่ะ  คงต้องไปแล้วล่ะเฮมินดูแลตัวเองดีๆนะทานยาทุกวันล่ะ”  ลียองพูดก่อนจะเดินนำมาที่รถแท็กซี่ซึ่งลียองบอกให้จอดรออยู่ใต้ต้นไม้

 

                        “ลียองนายมาที่นี่ทุกๆเย็นงั้นหรอ”  ฉันถามเพื่อทำลายความเงียบขณะที่นั่งรถกลับไปเก็บของที่บ้านเพื่อที่จะไปค้างที่เกาะชุนจู

 

                        “แรกๆก็ไม่กล้ามาหรอกแต่...จียอนเค้าบอกว่ามีคนน่าสงสารที่รอคอยฉันอยู่”

 

                        “คนๆนั้นก็คือเฮมินสินะ”  แทฮุนพูด

 

                        “อืม...ตั้งแต่นั้นการที่ต้องมาดูแลเฮมินก็กลายเป็นกิจวัตรประจำวันของฉันไปซะแล้วล่ะ  จียอนบอกว่าเฮมินเป็นคนที่น่าสงสาร  ก่อนที่จียอนจะไปเธอบอกกับฉันว่าให้ดูแลเฮมินตลอดไปแล้วยังบอกอีกนะว่าไม่นานเฮมินต้องหายเป็นปกติขอเพียงฉันไม่ทิ้งเฮมินไป  เพราะนอกจากฉันแล้วเฮมินก็ไม่มีใครอีกเลยความทรงจำที่เจ็บปวดสำหรับเฮมินหน่ะจียอนเอาไปหมดแล้วล่ะ...ต่อจากนี้ก็คงจะมีเพียงเฮมินคนใหม่ที่มีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ”  ลียองพูด

 

                        “ฉันพอจะเข้าใจแล้วล่ะว่าจียอนต้องการอะไร”  ฉันพูด

 

                        “อะไรล่ะเฮวอนที่จียอนเค้าต้องการ”  แทฮุนทำหน้างงๆ

 

                        “นายไม่น่าสอบติดแพทย์เลยนะแทฮุน  แค่นี้ก็ดูไม่ออกจียอนแค่ต้องการให้ลียองมีความสุขกับชีวิตที่มีอยู่โดยไม่ต้องเฝ้านึกถึงเรื่องราวเก่าๆระหว่างลียองกับจียอนไงล่ะเข้าใจยัง  ถึงแม้มันจะทำให้ลืมจียอนไม่ได้แต่มันก็ทำให้ลียองได้เรียนรู้ว่ารอยยิ้มของนายเองมันมีค่าสำหรับใครบางคนนั่นก็คือเฮมินไงล่ะ”  ฉันพูดก่อนจะลงรถเพื่อจะไปจัดเตรียมเสื้อผ้าไปเกาะชุนจู

 

 

                        ในที่สุดเรื่องราวก็ดำเนินมาจนถึงตอนสุดท้ายแล้วนะคะ  อ่านแล้วก็คงจะพอรู้นะคะว่าชีวิตของเรามันมีค่ามากมายแค่ไหน  อย่าเอาชีวิตมาทิ้งเพราะความรักเลยนะคะ  เพราะอย่างน้อยก็ยังมีบางคนที่มองเห็นคุณค่าความรักของเรา

 

>> จบเรื่องแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับการติดตาม <<

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา