Chronicle of Dune

8.3

เขียนโดย kann

วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18.28 น.

  2 ตอน
  4 วิจารณ์
  5,170 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556 18.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 2

               

                ดูนรีบวิ่งออกมาข้างนอกที่ตอนนี้เต็มไปด้วยผู้คนซึ่งคงคิดเหมือนกันว่า เกิดอะไรขึ้น มีเสียงร้องโหวกเหวกโวยวายผู้คนหันซ้ายหันขวาพยายามจะมองหาว่าเกิดอะไรขึ้นตอนนี้โซอี้วิ่งออก มาอยู่ข้างๆดูนแล้วสีหน้าเธอหวาดกลัวเหมือนกับคนอื่นๆ

 

              เปรี้ยง!

 

                ดูนและโซอี้ต้องยกมือกุมหูทันทีที่ได้ยินเสียงนี้มันดังลั่นจนทำให้เด็กและคนแก่บางคนถึงกับสลบลงไปหูของดูนนั้นมีเลือดไหลออกมาหัวนั้นมึนไปหมดจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเกิดอะไรขึ้น  ดูนรีบหันไปหาโซอี้ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนสนิทของเขานั้นไม่ได้หมดสติไปเธอพยักหน้าเหมือนกับบอก ว่าไม่เป็นไรให้เขา

 

                กรี้ด! เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งกรีดร้องออกมา “กำแพงมัน” เสียงของเธอนั้นสั่นไปด้วยความตื่นตระหนก ดูนและโซอี้รีบหันไปทางที่ผู้หญิงคนนั้นชี้ ดูนแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง โซอี้นั้นยืนแข็งทื่อ ดูนนั้นรู้สึกเลยว่ามือทั้งสองที่เกาะอยู่บนแขนขวาของเขานั้นกำลังสั่นไปด้วยความกลัว

                 

                กำแพงมีรูโหว่ขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลางของรูนั่นน่าจะเกินสิบเมตร รอยเหมือนถูกระเบิดออกมาจากด้านหลังของกำแพงนั่น นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้เห็นว่าอะไรอยู่ข้างหลังสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกนี้

 

                กลิ่นเหม็นน่าสะอิดสะเอียนนั้นโชยออกมาจากรูนั่น ประชาชนชั้นล่างคุ้นเคยกับกลิ่นนี้เป็นอย่างดีกลิ่นของเสียมากมายที่คนในเมืองนี้ทิ้งออกไปแต่มันมีอีกกลิ่นที่รุนแรงผสมปนมาด้วย พวกเขาทุกคนนั้นลึกๆในใจรู้อยู่แล้วว่ามันคือกลิ่นอะไร กลิ่นคาวเลือดและเนื้อเหม็นเน่าของผู้คนที่ถูกโยนออกไปข้างนอก

 

                “ดูน” เสียงของโซอี้ปลุกดูนให้ตื่นจากห้วงความคิด เธอชี้ไปที่นายช่างใหญ่ซึ่งกวักมือเรียกเขาให้เขาไปข้างในตึก ช่างซ่อม ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ดูเหมือนว่านายช่างใหญ่จะคุมสติของตัวเองได้มากว่าคนอื่นตอนนี้นั้นเกิดความโกลาหลมากกว่าตอนน้ำท่วมเสียอีกผู้คนนั้นแต่ตื่นขวัญเสีย ดูนพยายามข่มอารมณ์สงสัย คำถามมากมายที่อยากจะถามหัวหน้าของเขาเพราะดูจากสีหน้าของคนตรงหน้าก็รู้แล้วว่าอยากให้พวกเขาสองคนเดินตามมาเงียบๆ

 

                ดูนเข้ามาข้างในและเดินตรงไปยังห้องของนายช่างใหญ่กับโซอี้เพื่อนของเขานั้นตัวยังสั่นไม่หาย แต่คงไปว่าอะไรเธอไม่ได้เพราะเหตุการณ์ตรงหน้านั้นมันเกินกว่าใครจะรับได้ ห้องของนายช่างใหญ่มีแต่เครื่องมือช่างซ่อมห้อยอยู่เต็มไปหมดแทบจะไม่มีที่ว่างให้เดินหรือนั่งทั้งสองนั้นไม่ได้ติว่าอะไร พวกเขานั้นอยู่กับมันจนชินเสียแล้ว

 

                ดูนลากเก้าอี้ที่พอจะใช้งานได้สองตัวมาให้โซอี้และเขานั่งลงตรงหน้าของนายช่างใหญ่สีหน้าของเขานั้นดูเคร่งเครียดอย่างที่ดูนไม่เคยเห็นมาก่อน นายช่างใหญ่สะบัดมือทีหนึ่งหน้าจอสีเหลืองก็ปรากฏมายังเบื้องหน้าของดูนและโซอี้ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจทุกครั้งที่ได้เห็น สมองกล ของนายช่างใหญ่ปรากฏตัวขึ้น นายช่างใหญ่เป็นหนึ่งในไม่กี่คนในชั้นล่างนี้ที่มี สมองจักรกล ไว้ในครอบครอง เห็นกี่ทีก็อดตื่นตาไม่ได้จริงๆ

 

                “ดูนี่สิ” นายช่างใหญ่เอ่ยออกมาเบาและจอสีเหลืองนั้นก็ปรากฏตราสัฐลักษ์ดอกกุหลาบสีแดงสดขึ้นมาดูนและโซอี้รู้ว่านั่นเป็นสัญลักษ์ที่อยู่บนหน้าแฟ้มรายงานการซ่อมเครื่องจักรของพวกเขาเท่านั้นเอง”มันคือตราสัญลักษ์ผู้ปกครองเมืองนี้ตระกูล โรส เป็นหนึ่งในสิบสองขุนนาง” นายช่างใหญ่พูดขึ้น ดูนแลโซอี้พยักหน้าพวกเขาได้ยินมาเหมือนกันว่าพวกคนใหญ่คนโตเท่านั้นมีสิทธิที่จะใช้นามสกุลตามหลังชื่อของตัวเอง “แล้วทำไมเรอะจะมาบอกพวกเราทำไมกันครับ” ดูนเอ่ยปากถามอย่างสงสัย จอสี่เหลี่ยมสี่เหลืองกระพริบทีหนึ่งแล้วปรากฏหน้าจอที่พวกเขาพอจะเข้าใจ มันขึ้นหราว่า คำสั่งด่วนพิเศษ เด่นชัดใจความข้างในนั้นทำให้พวกเขาสองคนใจหาย

 

                ส่งคนขึ้นไปซ่อมรูโหว่ทันที

 

                ทันทีที่ตั้งสติได้ เจด สั่งให้อลันเปิดหน้าจอติดต่อสื่อสารขึ้นมาข้อมูลมากมายเกลื่อนกลาดเต็มไปหมดใจความส่วนมากมีแต่ความตื่นตระหนก คาดเดา หรือความเชื่อมากมายหาสาระไม่ได้เธอพยายามหาว่าใครมั่งที่เคยเจอเจ้าคนประหลาดที่นองแน่นิ่งเบื้องหน้าเธอมั่งแต่ดูเหมือนจะมีแค่แม่กับเธอเท่านั้นที่เคยเห็นอะไรแบบนี้

 

                เจดเดินไปที่ศพของสัตว์ประหลาดตรงหน้า นี่เป็นร่างกายของมนุษย์แน่นอนแต่ทำไมเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้ร่างกายของมันเปลี่ยนไปจนผิดธรรมชาติแบบนี้ “สแกนมันซะแล้วไปเอารถมา” เจดพูด บนหน้าจอของอลันกระพริบเหมือนรับทราบแล้วมันก็เริ่มสแกนศพเบื้องหน้าทันที จอสีฟ้าอีกจอปรากฏเบื้องหน้าของเธอบนจอเต็มไปด้วยรถหรูหลายร้อยคันให้เธอเลือก เจดจิ้มส่งๆไปคันหนึ่งเธอไม่ค่อยสนใจอยู่แล้วเรื่องเครื่องยนต์บ้าบออะไรนี่

               

                หญิงสาวกัดริมฝีปากหงุดหงิด สมองกล ของเธอนั้นเป็นโรคประหลาดเธอคิดจะเอามันไปเช็คหลายทีแล้วมันมีนิสัยแปลกๆอยู่ตรงมันชอบทำให้เธอเด่นสะดุดตากว่าใครเพื่อน รถสีขาวสะอาดเด่นสะดุดตาในดีไซน์รถสปอตร์ล้ำยุคสีของมันนวลวาวตัดกับท้องฟ้าและบรรยกาศที่ดำมืดจอดอยู่ตรงรูโหว่ของหน้าต่างห้องแม่เธอ“รุ่นล่าสุดจากเมืองหลวงครับสีขาวที่อนุยาติให้ใช้แค่ตระกูลพริมโรสของเราเท่านั้นครับ” อลันพูดอย่างภูมิใจ

 

                เธอถอนหายใจแล้วเดินขึ้นไปบนรถ “ไปไหนดีครับ” อลันถาม หน้าจอแผนที่ของทรานส์ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเธอ ร้านอาหารแนะนำศูนย์แฟชั่นมากมาย “ไอศครีมก่อนแล้วจากนั้นเราจะไปสำรวจกำแพงกัน” ทันทีนั้นหน้าจอแผนที่ทั้งหมดพับลงเหลือแค่คำว่า ALAN เท่านั้น “ไอศครีมนั้นผมพอจะเข้าใจแต่ว่าจะไปทำไมครับรูบนกำแพงนั่น” สมองกลถามเธอ “ไอ้เจ้าตัวประหลาดบนห้องแม่นั่นไม่มีทางจะเกิดจากทางฝั่งนี้แน่นอน” เธอรินหยิบไวน์ที่อลันจัดให้ขึ้นมาจิบพลางหยิบหนังสือแฟชั่นขึ้นมาอ่านอย่างสบายอารมณ์

                โซอี้ไม่รู้ว่าวันนี้เธอต้องอึ้งมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ววันนี้ นี่มันเกินกว่าที่หญิงสาวจะรับได้แล้ว “แต่เรายังไม่รู้เลยไม่ใช่เหรอคะ” โซอี้เอ่ยปากถาม ดูนพยักหน้าเห็นด้วย นายช่างใหญ่พ่นลมหายใจออกมา “ก็เพราะเหตุนั้นไงเราถึงต้องไปซ่อมมัน” เขากล่าวออกมา ดูนและโซอี้ร้องอ้อใครมันอยากจะไปเสี่ยงให้คนชั้นบนนั้นไปเสี่ยงชีวิตกับสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน โซอี้ได้ยินมาว่าชั้นบนนั้นแทบจะไม่ต้องการช่างซ่อมพวกเขาก็แค่เปลี่ยนใหม่ก็สิ้นเรื่อง

 

                “เอาเป็นว่าข้าจะทีมสามของเจ้าไปละกันนะดูนโอเคไหม” นายช่างใหญ่ โซอี้หันไปมองหน้าดูนเธอถาวนาให้เขาคิดว่าชีวิตที่เรื่อยเปื่อยของเขานั้นมีค่าเกินกว่าที่จะไปเสี่ยง แต่เธอก็ต้องออกอาการเซ็งเล็กๆเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนสนิทเธอ “นี่หมายความว่าจะได้ขึ้นไปชั้นบนใช่ไหม” ตาของเพื่อนเธอเป็นประกาย ไม่รู้ทำไมแต่ถ้าเป็นเรื่องของชั้นบนดูนนั้นจะกระตือรือร้นเป็นพิเศษ

 

                “คงงั้นแหล่ะอาจจะเป็นชั้นบนสุดเลยก็ได้มั้งดูจากความสูงของรูนั่น” นายช่างใหญ่เอ่ย โซอี้แทบจะเป็นลมเมื่อได้ยินนายช่างใหญ่พูด “ดูนให้ทีมหนึ่งไปเถอะน่ากลัวจะตายคนบนชั้นบนนั่น” เธอพูดพยายามให้ดูนเปลี่ยนใจ เขาหันมามองเธอ “บ้าหรือไงถ้าให้พวกนั้นไปก็เสียชื่อมือหนึ่งแห่งวงการหมดแถมนี่ชั้นบนนะโซไม่เคยสงสัยว่าอะไรอยู่ชั้นบนบ้างน่ะ พวกคนบนนั้นใช้ชีวิตยังไงมั่ง” โซอี้ส่ายหน้า ดูนนั้นอึ้งไปซักพัก นายช่างใหญ่หัวเราะออกมาแล้วส่งคีย์การ์ดใบหนึ่งให้ดูน “ไปเตรียมตัวซะแล้วใช้ลิฟต์ที่ชั้นบนของตึกขึ้นไปข้างบนนั่น”

 

                ดูนและโซอี้เดินออกไปข้างนอกห้องของหัวหน้าพวกเขาดูนตะโกนเรียกริคแล้วบอกให้ทุกคนไปรวมตัวกัน ทันทีที่ดูนบอกแผนให้ทุกคนฟังบางคนร้องเสียงหลงบางคนทำหน้าดีใจริคทรุดตัวลงไปกับพื้นเมื่อโซอี้นั้นส่ายหน้าราวกับบอกเขาว่า เธอพยายามแล้ว “เอาล่ะไปเตรียมตัวให้พร้อมเร็วเข้างานนี้หัวหน้าสัญญาเลยว่าค่าจ้างสมน้ำสมเนื้อแน่นอน” ดูนบอกแล้วก็เดินไปหยิบชุดช่างซ่อมสีเหลืองขึ้นมาใส่ “อย่าลืมนะ กฏสามข้อ ห้ามมอง ห้ามคุย...ห้าม” ก่อนที่โซอี้จะได้พูดจบเธอก็อ้าปากเหวอ “อันที่สามน่าจะยกเว้นนะใช่มั้ยดูน” เธอหันไปมองดูนแบบไม่แน่ใจเด็กหนุ่มส่ายหน้าขำ โซอี้ถอนหายใจแล้วเดินเข้าไปหาคำตอบในห้องของนายช่างใหญ่

 

                เจด ลงมาจากรถสีขาวผู้คนมากมายหันมามองเธอแต่หญิงสาวไม่สนใจซักเท่าไหร่เธอชินแล้วกับการเป็นเป้าสายตาผู้คนเพราะอลันไม่เคยหยุดทำแบบนี้ “อลันนี่มันอะไรกัน” หญิงสาวมองร้านไอศครีมตรงหน้าเธอด้วยสายตาผิดหวังเธอเคยเข้าไปกินร้านนี้ทีหนึ่งสิ่งเดียวที่ทำให้ร้านนี้โด่งดังคือ ความหรูหรา แต่รสชาติไม่ค่อยจะเท่าไหร่แถมยังแพงมากอีกต่างหาก “ทำไมไม่ไปร้านธรรมดา ร้านที่ใส่ใจในรสชาติมากกว่าหน้าตาเนี่ย” เธอไม่เดินเข้าไปในร้านไอศครีมนั่นแต่เดินไปยังตู้สะดวกซื้อ สั่งไอศครีมจากตู้มากินแล้วเดินกลับขึ้นไปบนรถ “เอาล่ะตรงไปเลย รูกำแพงนั่น” เธอเอ่ย “ผมไม่เข้าใจจริงๆนี่เป็นไอศครีมขึ้นชื่อที่สุดแล้วนะครับทำไมถึงมากดตู้กินแบบนี้” อลันถาม เจดยิ้มแล้วตอบว่า “เจ้าหุ่นกระป๋องไม่เคยกินไม่ต้องมาพูดเลย” เธอเอาเท้าเขี่ยจอสีฟ้าเล่นแต่มันหลบเธอทุกครั้ง

 

                จอสีฟ้ามากมายพลันปรากฏขึ้นรายงานสดมากมายเกี่ยวกับรูโหว่นั่นนักวิจารณ์หลายคนออกมากล่าวอ้างไม่มีใครสามารถสรุปได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเธอดูมันคร่าวๆแต่ที่น่าสนใจคือรายงานสดของข่าวช่องหนึ่ง

                “นี่ฉันโอลิเวียจากทรานส์ทีวีค่ะ ตอนนี้ดิ่ฉันได้มาอยู่ตรงรูโหว่บนกำแพงค่ะ ไม่มีใครทราบว่าสิ่งใดเป็นสาเหตุที่ทำให้กำแพงเป็นรูแบบนั้นแต่สิ่งที่ยืนยันได้แล้วแน่ว่า กำแพงระเบิดออกมาจากด้านนอกค่ะ ตอนนี้ทางการได้มีการส่ง ช่างซ่อมเข้าไปแล้วค่ะ” เจดไม่ได้เห็นช่างซ่อมตัวเป็นๆนานมากแล้ว ชุดสีเหลืองห้าถึงหกคนกำลังเดินเข้าไปสำรวจรูบนกำแพงนั่น กล้องซูมเข้าไปที่รูนั่นมันทั้งดูลึกลับและน่ากลัวสิ่งที่อยู่หลังกำแพงนั่นพร่ามัวเหมือนหมอกควันไม่มีสามารถมองเห็นข้างในได้ชัดพวกชุดเหลืองกำลังหยิบเครื่องอะไรบางอย่างขึ้นมา เจดชี้ไปที่เครื่องนั่นจอเล็กสีฟ้าอีกจอก็โผล่ขึ้นมันซูมเข้าไปยังเครื่องมือบางอย่างที่ดูเก่าซ่อมซ่อเป็นอย่างมาก เจดไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรแต่ที่เธอมั่นใจเลยคือ

 

                พวกช่างซ่อมนั้นใส่ชุดเก่าซอมซ่อ ชุดสีเหลืองนั้นซีดสนิทอุปกรณ์ที่พวกเขาใช้นั้นดูเก่ามาก “คุณหนูครับผมไม่สามารถตรวจสอบคนพวกนั้นได้เลยผิดปกติมากๆเพราะไม่เคยมี สมองกล ตัวไหนกล้าปฏิเสธผมที่เป็นคนของตระกูลขุนนางครับหรือว่า..” อลันที่พูดไม่หยุดจู่ๆก็หยุดพูด เจดเดาได้ทันที “พวกนั้นใช่ไหม” เธอถามอลันไม่ตอบแค่นั้นก็ถือว่าใช่แล้วสำหรับเธอ เจดไม่ชอบเลยที่ยังมีการแบ่งชนชั้นแบบนี้เธอเคยอ่านเจอในหนังสือสมัยก่อนเล่าว่าผู้คนสมัยนั้นใช้ชีวิตอย่างมีอิสระเท่าเทียมไม่มีการแบ่งชนชั้นแต่นั่นคงเป็นโลกที่สวยหรูเกินกว่าความเป็นจริง

 

                ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนฉลาดชนชั้นล่างถูกจำกัดทุกอย่าง การศึกษา เทคโนโลยี ทุกๆอย่างที่จะทำให้พวกเขาพัฒนาหรือเจริญขึ้นเพราะเหตุผลว่า สมัยก่อนโลกนี้ยังคงต้องการชนชั้นแรงงานทรัพยากรนั้นยังมีอยู่อย่างจำกัดเมื่อผู้คนไม่ถูกจำกัดความคิดและสิทธิเสรีภาพผู้คนมีความรู้มากขึ้นทำให้ชนชั้นแรงงานหาได้ยากเข้าทุกวันทุกคนต้องการขึ้นเป็นผู้นำแต่กลับไม่มีผู้ตามเมื่อเกิดความไม่สมดุลจึงทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวาย จนทำให้ผู้นำสมัยก่อนได้นำระบบชนชั้นล่างมาใช้เพื่อนแก้ปัญหา

 

                แต่ตอนนี้ผู้คนไม่มีปัญหาเรื่องพลังงานหรืออะไรแล้วแต่ว่าคนชั้นทาสนั้นมีมากกว่าผู้คนชั้นบนถึงสามหรือสี่เท่าถ้าเปลี่ยนระบบกลับเกรงว่าพวกเขาจะทำการยึดครองหรือแยกออกไปเองนั่นเป็นสิ่งที่ผู้นำทุกคนไม่ต้องการให้เป็นถึงยังคงระบบเดิมเอาไว้จนปัจจุบันนี้

 

                กรี้ด เสียงนั้นดังแทรกเข้ามาในทีวี เจดตื่นจากภวังค์หันไปดูหน้าจอ คนในชุดสีเหลืองที่เข้าไปใกล้ที่สุดอยู่ดีก็ถูกกระชากเข้าไปในรูนั่นโดยมือข้างหนึ่งที่ยื่นออกมา คนที่เหลือต่างอยู่ในอาการตระหนกมีคนนึงทรุดลงไปกับพื้นแล้วทันใดนั้นเองสิ่งที่เจดครุ่นคิดมาตลอดก็เกินขึ้นจริง

 

                ตัวประหลาดมากเกินจะนับนั้นพุ่งปีนป่ายออกมาจากรูนั่น

                

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา